Twin แฝดเลือดผสม
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
38) ภาค2 เรื่องราวของเมืองสมุทร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรื่องราวของเมืองสมุทร
“เด็กพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตอนนี้พักอยู่เรือนรับรองแล้วขอรับ”
“อืม ให้เขาพักผ่อนกันไปก่อน เรารอได้ ระหว่างนี้ดูแลพวกเขาให้ดีๆ นะ”
“ขอรับท่านเจ้าเมือง” ทันที่ที่เอ่ยคำสั่งกับคนสนิทเสร็จ เจ้าเมืองหนุ่มก็ออกจากห้องไปทันที ดูเหมือนว่าทุอย่างกำลังไปได้ดี และเขาจะไม่ยอมผิดพลาดเด็ดขาด
.......................................................
วันรุ่งขึ้น....
“เดวี่ นายตื่นแล้วหรอ?” ชายน์เอ่ยทักอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่อยู่บนเตียงมีการขยับตัวตอบสนองก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ฉันหลับไปไม่นานใช่มั๊ย?”
“วันเดียว คงเพราะนายได้รับการรักษาจากคิมละมั้ง เลยฟื้นตัวได้เร็ว” ชายน์ตอบขณะที่หยิบเหยือกน้ำมารินใส่แก้วแล้วส่งให้เพื่อนพร้อมกับค่อยๆ ประคองเดวี่ให้ลุกนั่งอย่างช้าๆ
“ฉันดีขึ้นเยอะแล้ว ขอบใจนะ” เดวี่เอ่ยพร้อมมองหาคนอื่นๆ
“เพื่อนๆ พึ่งออกไปในตลาดหน่ะ ฉันให้ไปสืบข่าวของนีโอ ส่วนคิมไปสั่งอาหารให้นาย เดี๋ยวคงมาแหละ” ทันทีที่เอ่ยจบคิมก็โผล่หน้าเข้ามาพอดี
“อ้าว พี่เดวี่ ตื่นแล้วหรอครับ เป็นไงบ้างพี่?” คิมเอ่ยถามอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่คนเก่งไม่มีอาการน่าเป็นห่วงแล้ว
“ดีขึ้นมาก ขอบใจนายนะ คิม” เดวี่ตอบเรียบๆ แต่ทว่าจริงจังมาก
“พี่ตื่นแล้วก็ดี เมื่อครู่นี้ผมเจอคุณจาร์น่า เขาถามถึงอาการของพี่ด้วยนะ เห็นบอกว่าวันนี้ท่านเจ้าเมืองจะแวะมาเยี่ยมพี่”
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว เราเป็นฝ่ายไปหาท่านเจ้าเมืองเองจะดีกว่า” เดวี่เสนอ
“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ยังไงรอเพื่อนๆ เราก่อนก็แล้วกันนะ อีกสักพักคงกลับมากันแล้วล่ะ” ชายน์สรุป
ณ ห้องโถงอาคารรับรอง....
หลังจากที่เด็กๆ กลับมาจากการสืบเสาะข้อมูลและพูดคุยกับเดวี่แล้วก็พากันเข้าพบเจ้าเมืองสมุทรทันที สถานที่แห่งนี้คืออาคารรับรองแห่งเมืองสมุทร เป็นอาคารด้านหน้าของตัวคฤหาสน์ ตกแต่งภายในด้วยหินอ่อนสวยงามตระการตา สถานที่แห่งนี้เป็นสมบัติของเจ้าเมืองโดยตรงแต่ก็ใช้ในงานส่วนรวมของเมืองด้วยเช่นกัน
“ต้องขออภัยท่านเจ้าเมืองที่พวกเรามาช้า” ชายน์เอ่ยพร้อมก้มทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ไม่เป็นไร เราต่างหากที่ต้องขอโทษ คนของเราต้อนรับไม่ดีจนวุ่นวายไปหมด”
“เรื่องเล็กน้อยครับ พวกเราเคยเจอมาหนักกว่านี้แล้วครับ” ชายน์ยังคงเอ่ยต่ออย่างอารมร์ดี
“เธอคงเป็น ชายน์ สินะ” เจ้าเมืองหนุ่มถาม
“อ้อ เสียมารยาทแล้ว ครับ ผมชายน์ ชาโดวส์ อินเดอร์นาส ครับ” ชายน์ที่พึ่งนึกขึ้นได้รีบเอ่ยแนะนำตัว
“ผม เบล ฟีลเนเลี่ยน ครับ”
“ผม เชโด้ ลอฟดาน่าและคนนี้น้องชายผม เดวี่ ลอฟดาน่า ครับ” เชโด้แนะนำตัวพร้อมเอ่ยแนะนำเดวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งบัดนี้แลว่าเชโด้จะเรียกเดวี่ว่าน้องชายต่อหน้าคนอื่นๆ ได้บ่อยขึ้นแล้ว
“ฮันนี่ สายเลือดแม่มดค่ะ” ฮันนี่แนะนำตัวและสร้างความแปลกใจให้เจ้าเมืองหนุ่มไม่น้อย
“เซฟานี่ ค่ะ” เซฟานี่เลือกที่จะไม่แนะนำตัวชื่อและสถานะที่แท้จริง
“และผม คิม วูดแมน รุ่นน้องพวกพี่ๆ ครับ” คิมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“555 จริงๆ เราได้ยินชื่อเสียงพวกเธอมาบ้างแล้ว นับว่าเป็นเด็กที่เก่งและมีพรสวรรค์กันจริงๆ” เจ้าเมืองหนุ่มเอ่ยชม
“ต้องขอเข้าเรื่องเลยนะครับ จริงๆ เรามาที่นี้ก็เพราะเรามาทำภารกิจแห่งแกรนน่า ทางสภาแกรนน่ามอบหมายให้โฮเนอร์และพวกเราก็เป็นตัวแทนในการทำภารกิจนี้” ชายน์รีบเข้าประเด็น
“อ่าว ไม่ใช่ว่าภารกิจเพื่อพิสูจน์ตัวเองด้วยหรอกหรือ? ผู้พิทักษ์ตัวน้อย” เจ้าเมืองหนุ่มเอ่ยดักจนชายน์ชะงักไป
“ก็ส่วนนึงด้วยครับ แฮ่ๆๆ”
“เอาละๆๆ มานั่งก่อน เราคงต้องคุยกันยาวเพราะเราเองก็มีเรื่องอยากจะขอร้องให้ช่วยด้วยเหมือนกัน สิ่งที่พวกเธอต้องการก็คืออัญมณีเวทย์ของผู้พิทักษ์คนก่อนใช่มั๊ย หลังจากมันแตกสลายไปพร้อมกับเขาแล้ว 1 ในนั้นมันอยู่ที่เมืองแห่งนี้แหละ เรารู้ว่าวันหนึ่งจะต้องมีคนมาตามหามัน แต่ทว่าอัญมณีนั้นมาเยือนเมืองของเราพร้อมกับความโหดร้าย ”
“ท่านก็รู้เรื่องนี้?” เซฟานี่เอ่ย
“อืม แต่เดิมเมืองนี้ตั้งอยู่บนเกาะ แต่พออัญมณีนั่นตกเข้ามายังเมืองของเราเพียงไม่นานเกาะทั้งเกาะก็จมลงสู่ก้นทะเล พวกเราสายเลือดเทพสมุทรไม่สามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ ตอนนั้นเราจึงใช้เวทย์ของเราและจอมเวทย์ในเมืองทั้งหมดมาช่วยกันสร้างบาเรียแก้วขนาดใหญ่เพื่อคลอบเกาะแห่งนี้ไว้ พวกเราชาวเทพสมุทรจึงมีชีวิตอยู่ต่อได้ อัญมณีชิ้นนั้นที่ตกเข้ามาในเมืองเราทำหน้าที่ให้กำเนิดแสงแทนดวงตะวัน เพราะว่าเมืองนี้มันอยู่ลึกเกินไปจนแสงไม่สามารถส่องลงมาได้ ต่อมาไม่กี่ปีอัญมณีนั้นอ่อนกำลังลงจนแทบไร้แสงทำให้เราอยู่ในความมืดมิดที่ไม่มีแสงตะวันไปเรื่อยๆ พวกเราไม่สามารถปรับตัวและใช้ชีวิตตามปกติได้ มีเพียงลูกชายของเราที่เป็นผู้ที่มีเวทย์แห่งแสงเขาสามารถช่วยคนทั้งเมืองนี้ได้ เหตุนี้ลูกชายเราเลยต้องเสียสละเวทย์ของเขาเพื่อผลึกเข้ากับอัญมณีนั่นทำให้มันสว่างขึ้นอีกครั้ง”
“ขอโทษนะครับ แล้วลูกชายของท่าน....” เบลเอ่ยออกมาแต่ไม่กล้าถามต่อเพราะเขาเองก็ไม่รู้ความเป็นไปของลูกชายเจ้าเมือง และหากเรื่องนี้เป็นการสูญเสียเกรงว่าคำถามนี้คงจะจี้ใจเจ้าเมืองไม่น้อย
“เขายังมีชีวิตปกติดี ก็นีโอ คนที่พาพวกเธอเข้าเมืองนี้ไง” สิ้นคำกล่าวของเจ้าเมืองหนุ่มเด็กๆ ต่างก็ตะลึงไปตามๆ กัน”
“หลังจากที่เขาเสียสละเวทย์ของตัวเองเขาก็อ่อนแอลงมาก เรารู้ว่ามีคนในเมืองนี้ต้องการให้เขาตายเพื่อให้เราไร้ทายาท เพราะเมื่อถึงวันนั้นมันก็ง่ายที่เขาจะกบฏยึดเมืองไปจากเรา เหตุนี้เราจึงส่งนีโอออกไปยังกรีนโซนเพราะนีโอมีความพิเศษบางอย่างจากแม่ของเขาที่ทำให้เขาสามารถออกไปยังเมืองนี้ได้ ซึ่งเมืองนี้มีน้อยคนนักที่จะเข้าออกได้แม้แต่เราที่เป็นถึงเจ้าเมืองก็ยังไม่สามารถออกไปจากเมืองนี้ได้เช่นกัน” เจ้าเมืองหนุ่มยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆ
“แล้วตอนนี้นีโออยู่ที่ไหนครับ ทำไมเขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพวกเราเลย” ชายน์ถามเพราะเริ่มเป็นห่วงเพื่อน
“เขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย การกลับมาแต่ละครั้งของนีโอนับว่าเสี่ยงมาก จำได้ว่าตั้งแต่เราส่งเขาออกไปเขากลับมาครั้งล่าสุดก็ถูกลอบทำร้ายจนสาหัสเราจึงห้ามเขากลับเข้ามาอีก อีกทั้งเมื่อเขากลับมาอัญมณีนั่นจะกลืนกินเวทย์ของนีโอไปเรื่อยๆ จนครั้งนี้เขาก็เสี่ยงกลับมาซึ่งเราเข้าใจนะว่าภารกิจของพวกเธอนั้นสำคัญ แต่ชีวิตของนีโอก็สำคัญไม่แพ้กัน”
“สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับคุณหนูนีโอในเวลานี้เห็นทีจะเป็นกลุ่มคนกบฏมากกว่าอัญมณีนะครับ ตอนนี้ข่าวการกลับมาของคุณหนูน่าจะไปถึงพวกนั้นแล้วด้วยขอรับ” จาร์น่าคนสนิทของเจ้าเมืองเอ่ยด้วยความกังวล
“จริงๆ เรื่องการปกครองพวกเราไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ในฐานะของเรา.... เอ่อ เพื่อนๆของนีโอ เราคิดว่าเราน่าจะพอช่วยได้นะคะ” เซฟานี่เอ่ยจริงจังเพราะเมืองสมุทรนั้นก็จัดอยู่ในเขตการปกครองของกรีนโซนเช่นกัน เพียงแต่ว่าเมืองนี้มีการปกครองเป็นของตัวเองเท่านั้น
“ใช่แล้วครับ ผมว่าผมพอจะมีวิธีอยู่นะครับ” ชายน์เอ่ยพร้อมเสนอความคิดและดูท่าว่าเจ้าเมืองก็สนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
........................................................................
“นีโอกลับมาแล้วรึ?”
“ครับท่าน มากับเจ้าเด็กพวกนั้นแต่โดนแม่ทัพจาร์น่าแยกตัวไปก่อน คาดว่าน่าจะอยู่ที่ใดสักแห่งในเมืองนี้ครับ”
“นีโอออกมาในที่สาธารณะไม่ได้เพราะอัญมณีจะดูดกินพลังเวทย์ พวกนั้นคงซ่อนเขาไว้เป็นอย่างดี รีบไปสืบและชิงตัวเขามา นีโอจะทำให้เราได้ทุกอย่างง่ายขึ้น”
“แต่เด็กพวกนั้น...” หัวหน้าทหารเวทย์เอ่ยอย่างเกรงๆ
“มีแค่เจ้าเด็กปีศาจนั่นคนเดียวที่เป็นปัญหา คนอื่นๆ ข้าคิดว่ากองทัพเวทย์ของท่านน่าจะรับมือไหวนะ” เนย์ยาเอ่ย
“กองทัพเวทย์ทั้งหมดพร้อมจะช่วยท่านอยู่แล้ว แต่ท่านต้องมั่นใจนะว่านอกจากจาร์น่าแล้วแม่ทัพคนอื่นๆ เขาอยู่ข้างท่านจริง” หัวหน้าทหารเวทย์เอ่ย
“เราเตรียมการนี้มาสิบกว่าปีแล้วนะ” คำตอบของเนย์ยาทำให้หัวหน้าทหารเวทย์มั่นใจได้มากขึ้น เพราะการกบฏครั้งนี้หากทำสำเร็จพวกเขาจะได้เป็นผู้ปกครองเมืองนี้เอง ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้เชื่อว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าเมืองคนปัจจุบัน แต่หากเขาทำไม่สำเร็จหรือมีสิ่งใดผิดพลาดนั่นหมายถึงชีวิตเลยก็ว่าได้
“งั้นข้าขอเสนอว่าระหว่างที่เรารอจับตัวนีโอ ข้าจะส่งคนเข้าสอดแนมเรื่องของเด็กกลุ่มนั้นไปพลางๆ ก่อนว่ามานี่เขามีจุดประสงค์อะไร”
“ไม่ต้องหรอก คนของเรากำลังทำหน้าที่อยู่แล้ว เดี๋ยวจะขัดกันเองซะเปล่าๆ เจ้าไปเตรียมกองกำลังเจ้าเถอะ”
“เรียนท่านหัวหน้าแม่ทัพ” ขณะที่เนย์ยาและหัวหน้าทหารเวทย์กำลังคุยกันก็ปรากฏว่าแม่ทัพทหารกองกำลังป้องกันได้เข้ามารายงานข่าวพอดี
“แม่ทัพกองกำลังป้องกันมีอะไรรึ” เนย์ยาเอ่ยถาม
“คนของเราพบที่อยู่ของนีโอและจับกุมตัวมาได้แล้วครับ” แม่ทัพกองกำลังป้องกันเอ่ยรายงาน
“รวดเร็วทันใจเราเสียจริงๆ ตอนนี้นีโออยู่ไหน? พาเราไปหน่อยสิ” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเรียกให้หัวหน้าทหารเวทย์และแม่ทัพตามตนไปด้วย
ณ คุกเวทย์เมืองสมุทร
“สวัสดีนีโอ ไม่เจอกันนานเลยนะ หึหึ” เนย์ยาเอ่ยทักเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ภายในห้องขัง
“เป็นท่านนั่นเอง ที่ผ่านมาท่านพ่อก็ดูแลท่านมาดีโดยตลอด”
“คนอ่อนแอไม่สมควรเป็นผู้นำ เราไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ใต้ทะเลนี้”
“แล้วท่านจะทำอย่างไร? ท่านทำได้รึ? อย่าลืมสิที่ท่านพ่อเสียพลังเวทย์ไปก็เพราะช่วยคนทั้งเมืองนะ” นีโอเอ่ยแจงเหตุผลเพราะหากไม่ใช่ว่าพ่อของเขาเสียสละเวทย์ของตนมาสร้างบาเรียเขาก็คงไม่สูญเสียพลังเวทย์ไปขนาดนี้
“ที่ผ่านมาพ่อเธอทำหน้าที่ปกป้องทุกคนได้ดีแล้ว แต่การพาทุกคนขึ้นสู่เกาะนั้นเราเชื่อมั่นในตัวของเรามากกว่าจะรอเชื่อคำทำนายบ้าๆนั้น” เนย์ยาเอ่ยตัดบท
“ท่านทำแบบนี้ก็ไม่สำเร็จหรอก”
“แล้วใครที่จะทำสำเร็จล่ะ? เธอ เพื่อนของเธอหรือรอให้ผู้พิทักษ์มาช่วยอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ บางทีเพื่อนเราอาจจะทำได้ เราขอเตือนท่านนะว่ากลับใจซะเถอะ” นีโอยังคงเตือนด้วยความหวังดี
“ไอ้เด็กปีศาจนั่นมันคือปีศาจ ไม่ใช่เทพใช่ผู้พิทักษ์อะไรทั้งนั้นแหละ หึ เรามาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า ตอนนี้คนของเรากำลังไปเชิญพ่อของเธอมาที่นี่ ชีวิตของลูกชายคนเดียวกับตำแหน่งจ้าเมือง เธอว่าพ่อของเธอจะเลือกอะไร 555”
‘ท่านกำลังหลงผิดแล้ว ท่านหัวหน้าแม่ทัพ’
..............................................
“อะไรนะ หัวหน้าแม่ทัพเนย์ยาคือผู้นำการกบฏรึ?” เจ้าเมืองเอ่ยอย่างตกใจเมื่อทหารคนสนิทมารายงาน
“นอกจากนี้ยังพบว่า กองทัพทหารเวทย์ทั้งหมดก็ร่วมด้วย อีกทั้งยังมีแม่ทัพทหารกองกำลังป้องกัน แม่ทัพกองกำลังอาสา หัวหน้าอารามเทพและเหล่าผู้มีอำนาจในเมืองคอยสนับสนุนเขาอยู่ด้วย โดยรวมตอนนี้กองกำลังทหารของเรา 7 ใน 10 ตกอยู่ในการควบคุมของหัวหน้าแม่ทัพแล้วขอรับ” จาร์น่ารายงาน
“ไม่คิดว่าวิธีนี้จะทำให้พวกเขาเผยตัวออกมาได้เยอะขนาดนี้ ตอนนี้เราคงต้องไปที่คุกเวทย์แล้วล่ะ นีโออยู่ที่นั่น อย่างไรชีวิตของเขาก็สำคัญที่สุด” เจ้าเมืองเอ่ยอย่างอดวิตกกังวลไม่ได้
“ให้ข้าไปด้วยนะขอรับท่านไคล์”
“ไม่ต้องหรอก ท่านคุมกองกำลังของท่านให้ทำหน้าที่ตามปกติ ปิดประตูเมืองห้ามเข้าออกโดยเด็ดขาด ชาวบ้านให้อยู่ภายในบ้านห้ามออกนอกบ้าน 1 วัน อีกส่วนให้คุ้มกันคฤหาสน์นี้ไว้ให้ดี ก็พอ ทางนั้นเราจะไปพร้อมกับเด็กๆ เอง” เจ้าเมืองหนุ่มเอ่ยสั่งการก่อนจะหยิบของบางอย่างแล้วรีบออกไป
คุกเวทย์เมืองสมุทร
หลังจากที่เจ้าเมืองและชายน์ได้วางแผนกันเรียบร้อยแล้วก็ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ นีโอยอมเผยที่อยู่และปล่อยให้โดนจับกุมตัวเพื่อให้กลุ่มคนกบฏได้เผยตัวและวัตถุประสงค์ออกมา แต่ที่น่าตกใจคือผู้ที่ทำนั้นคือคนที่เจ้าเมืองไม่คาดคิดมาก่อนอีกทั้งกลุ่มคนกบฏยังมีเครือข่ายและกองกำลังที่เกินกว่าที่คิดไว้อีกด้วย ตอนนี้นีโอที่ยอมเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาในฐานะพ่อจะไม่ยอมให้ลูกต้องสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว
“ขอต้อนรับท่านไคล์ เจ้าเมืองสมุทรที่เคารพ” เนย์ยาเอ่ยพร้อมก้มทำความเคารพทันทีที่เห็นว่าไคล์กำลังเดินเข้ามาพร้อมด้วยเด็กหนุ่มสาวอีก 7 คน
“ท่านทำแบบนี้ทำไม ที่ผ่านมาเราให้ท่านตามต้องการมาโดยตลอดยังไม่พออีกหรือท่านหัวหน้าแม่ทัพ” เจ้าเมืองหนุ่มเอ่ย
“ข้าไม่อาจเถียงว่าท่านให้มาแล้วมากมาย แต่ทว่ามันยังไม่พอ สิ่งที่ข้าต้องการมากที่สุดคือการปกครองเมืองนี้แทนท่าน ท่านคนที่อ่อนแอไม่สามารถพาเรากลับขึ้นเกาะได้แล้ว”
“แต่ท่านก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน แม้ว่าบาเรียนี้เราและจอมเวทย์ในเมืองจะร่วมกันสร้างมันขึ้นมาแต่หากเราคลายเวทย์คุ้มกันลง บาเรียนี้จะมีปัญหาและเราทุกคนจะตายกันอยู่ใต้ทะเลนี้” ไคล์เอ่ยขู่
“ท่านไม่ทำแบบนั้นแน่ เพราะหากท่านจะทำ ข้าแค่ระเบิดผนังกำแพงด้านหลังออก นีโอก็จะเจอกับอัญมณีที่ลอยอยู่เหนือใจกลางเมือง ท่านว่านีโอจะเป็นอย่างไร” เนย์ยาเอ่ยพร้อมยิ้มอำมหิต
“นีโอคงทรมานมาก ร่างของเขาคงโดนอัญมณีสูบพลังเวทย์ไปเรื่อยๆ หรือท่านจะเอาชีวิตนีโอมาแลกกับตำแหน่งเจ้าเมืองก็ได้นะ ที่นี่เป็นคุกเวทย์ข้าจัดการกับนักโทษได้ง่ายนิดเดียว” เนย์ยาเอ่ยอย่างผู้เป็นต่อ
“เราทำอะไรที่นี่ได้บ้างครับท่านไคล์?” เบลเอ่ยเพราะเป็นห่วงเพื่อน
“ที่นี่คุกเวทย์ นอกจากทหารเวทย์แล้วใครที่เข้ามาที่นี่จะโดนจำกัดการใช้เวทย์ เรียกว่าเวทย์จองจำ เราแทบไม่มีโอกาสสู้เขาได้เลยทีเดียว” เจ้าเมืองเอ่ยเพราะเขาเองก็รู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่สามารถจองจำได้ทั้งตัวบุคคลและเวทย์ของบุคคลได้ทั้งคู่
“และขอเตือนว่าอย่าคิดตุกติกนะ เพราะตอนนี้ทหารเวทย์ทั้งหมดพร้อมทั้งทหารกองกำลังป้องกันได้ล้อมคุกเวทย์ไว้หมดแล้ว ไหนจะอารามเทพที่อยู่ในการควบคุมของข้าอีก พวกเขาแค่รอคำสั่งจากข้านะขอรับท่านเจ้าเมือง คำสังแต่งตั้งข้าให้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่ที่ฝากท่านไปนั้น เพียงแค่ท่านประทับตาแล้วส่งมันมาก็เรียบร้อย และทุกคนจะปลอดภัย หึหึ” เนย์ยาเอ่ยดักเจ้าเมือง
“ผมก็อยากลองอานุภาพเวทย์จองจำของคุกเวทย์นี้เช่นกันว่าจะแข็งแกร่งสักเพียงใด” ชายน์เอ่ยพร้อมกับก้าวออกมาข้างหน้าคู่กับเจ้าเมือง
“ปีศาจที่เอาชนะเวทย์ควบคุมของเมืองได้ก็ใช่ว่าจะเอาชนะเวทย์จองจำของเทพที่คุกนี่ได้หรอกนะ อย่าหาเรื่องเลยหนุ่มน้อย” เนย์ยาเอ่ยเสียงดังพร้อมยกมือขึ้นก็ปรากฏเหล่าทหารเวทย์กว่า 10 นาย ก้าวออกมายืนขวางชายน์ไว้
‘ใครว่าฉันเป็นแค่ปีศาจกันล่ะ หึหึ’ ชายน์กระตุกยิ้มเบาๆ ฉับพลันปีกเวทย์แห่งแสงสีขาวสว่างจ้าก็ปรากฏออกมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของเจ้าของร่างนั้น ร่ายกายของชายน์ราวกับว่ามีแสงสีขาวสาดส่องออกมา แววตาที่ทรงพลังกับเรือนผมสีขาวสว่างทำให้คนที่ยืนขวางทางไว้ต่างชะงักนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด
“เด็กนี่เป็นปีศาจหรือเป็นเทพกันแน่เนี่ย ทำไมเขามีอำนาจเหนือเวทย์จองจำของคุกเวทย์ได้ ทหาร!! เรียกคนของอารามเทพมา!!” เนย์ยาเอ่ยกับตัวเองอย่างตกตะลึงก่อนจะหันไปสั่งการกับทหารในที่สุด
‘เวทย์จองจำนี่ร้ายกาจไม่เบา ต้องรีบทำอะไรก่อนที่จะสิ้นสภาพ’ แต่สำหรับชายน์เองก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะเขาต้องฝืนต่อสู้กับเวทย์จองจำในคุกเวทย์นี้เพื่อที่จะใช้ร่างเทพ และดูเหมือนว่าเขาคงจะรู้ตัวว่าตนเองจะคงสภาพร่างเทพไว้ได้ไม่นานนัก เปลวเพลิงสีขาวปรากฏขึ้นและลุกลามไปยังทหารเวทย์เบื้องหน้า แต่ทว่าทุกคนต่างกระโดดหนีเปลวเพลิงไปมาโดยไม่มีใครคิดจะตอบโต้ชายน์
“ไม่ได้เรื่อง ทหาร!!” เนย์ยาเอ่ยเรียกทหารเวทย์ที่ประจำอยู่ในคุกเวทย์ที่เหลือแต่ก็ถูกเด็กๆ ที่เหลือขวางไว้ซะก่อน
“เฟย์ ออกมาช่วยกันหน่อย” ชายน์เอ่ยพร้อมกับร่างของเด็หนุ่มอีกคนปรกฏขึ้นและเข้าช่วยเหลือเพื่อนๆ บัดนี้เดวี่ที่รู้ข้อจำกัดของตนเองดีก็ให้ดัสค์ มังกรหนุ่มของตนออกมาสู้แทน
“มังกรในร่างนี้ก็หล่อไม่เบาแฮะ” เฟย์เอ่ยแซวดัสค์ที่อยู่ในร่างของคน ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้ดัสค์อยู่กับเดวี่ตลอดแต่ไม่เคยปรากฏกายออกมาให้ใครเห็นเลย เดวี่เคยบอกว่าดัสค์ยังไม่โตพอที่จะอยู่ในร่างคนได้ แต่หลังจากที่เดวี่พบกับแดร์ดราก้อนและได้รับของขวัญบางอย่างดัสค์ก็มีพัฒนาการที่รวดเร็วจนน่าตกใจ
“ไม่ต้องชม ไม่ชอบ” ดัสค์เอ่ยเรียบๆ ก่อนจะหันไปรับมือกับเหล่าทหารเวทย์
“ถอดแบบมาจากเดวี่แป๊ะเลย 555” เฟย์เอ่ยอารมณ์ดีก่อนจะหันไปช่วยเด็กคนอื่นๆ สำหรับในเมืองนี้เด็กๆ บางคนอาจโดนจำกัดการใช้พลังเวทย์เพราะติดเวทย์ควบคุมของเมืองและเวทย์จองจำของคุกเวทย์ แต่สำหรับดัสค์และเฟย์พวกเขาทั้งคู่เป็นสัตว์เวทย์ที่โตได้ด้วยพลังเทพและการบำเพ็ญ ซึ่งจุดอ่อนของเมืองสมุทรนี้ทั้งชายน์และเดวี่เข้าใจเป็นอย่างดี
“เซ ฉันใช้เวทย์ฉันไม่ได้เลย” ฮันนี่เอ่ยอย่างตกใจที่ตนเองไม่สามารถใช้เวทย์ของแม่มดได้
“มาอยู่หลังฉัน” เซฟานี่ที่มีหมาป่าสีดำเป็นสัตว์เวทย์แม้ว่ามันจะยังไม่สามารถใช้ร่างคนได้แต่มันก็สามารถรับมือกับทหารเวทย์ได้ดี
“เลออน ฝากด้วยนะ” เบลก็เรียกสัตว์เวทย์ของตัวเองออกมาเช่นกัน ทันทีที่ปรากฏร่างของสิงโตไฟตัวโตขึ้น เหล่าทหารเวทย์ก็ต่างตกใจไม่น้อยแต่ก็ต้องแข็งใจต่อสู้ตามคำสั่ง ทางด้านของเชโด้ก็ใช้สัตว์เวทย์มาต่อสู้เช่นกัน แมงมุมสีดำตัวโตกำลังรับมือกับทหาร แต่ด้วยหน้าตาของมันกลับทำให้ทหารเวทย์ไม่กล้าเข้าจู่โจมมันจึงทำหน้าที่คอยคุ้มกันเชโด้และคิมที่ยังไม่มีสัตว์เวทย์
“พี่ๆ มารวมกันทางนี้ครับ” คิมเอ่ยเรียกเบล เดวี่ ฮันนี่และเซฟานี่ให้มารวมกัน ขณะนี้การต่อสู้ของทหารเวทย์ ชายน์และสัตว์เวทย์ต่างดำเนินไปอย่างชุลมุน แต่ดูท่าว่ากว่าคนของอารามเทพจะมาที่นี่คงถูกควบคุมได้แล้ว เนย์ยาที่คุมสถานการณ์เห็นว่ากำลังจะเสียท่าจึงรีบชิงลงมือกับนีโอที่โดนจับล่ามโซ่อยู่ห้องขังซะก่อน
“ถ้าที่นี่ยังคงวุ่นวาย ก็ถือว่ายังพอมีเวลาให้เราไปทำธุระที่สำคัญกว่าได้สินะ 555” เนย์ยาเอ่ยพร้อมกับใช้เวทย์ของตนทลายผนังกำแพงของคุกเวทย์ลง และทันทีที่มันพังแสงสว่างจากด้านนอกก็สาดเข้ามายังตำแหน่งของนีโอพอดี
“ห้ะ!! อึก ท่านพ่อ!!” เอ่ยได้เพียงเท่านั้นเพราะบัดนี้ร่างของนีโอชะงักเกร็งอยู่กับโซ่ตรวนที่ล่ามไว้ แสงที่สาดส่องเข้ามาทำให้สีหน้าของนีโอแสดงอาการทรมานราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างชะงักตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นีโอ!!”
…………………………………………………………………………………………………………………………….
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ