Twin แฝดเลือดผสม
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) ภาค2 แสงแห่งสมุทร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแสงแห่งสมุทร
“นีโอ!!” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับร่างของนีโอกำลังค้างเกร็ง หากสังเกตดีๆ จะเห็นไอเวทย์กำลังระเหยออกจากร่าง
“รีบช่วยเหลือเขาก่อน” เจ้าเมืองสั่งการ เชโด้และเบลจึงตรงเข้าช่วยนีโอออกจากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่าง
“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ เอายังไงต่อดี” เบลเอ่ย
“จะหนีไปตลอดไม่ได้ ต้องแก้ที่ต้นเหตุถึงจะถูกต้อง” ชายน์เอ่ยขณะที่ตรงเข้ามาดูอาการของนีโอ
“เชื่อว่าเธอมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว งั้นเราฝากนีโอด้วยนะ จาร์น่า กลับคฤหาสน์ไปจับคนกบฏพร้อมกับเรา” เจ้าเมืองเอ่ยตัดสินใจ
“ที่นี่มีทหารของคุณจาร์น่าควบคุมสถานการณ์แล้ว พวกนายไปช่วยท่านไคล์ ส่วนนีโอฉันจัดการเอง”
“แล้วผมละครับพี่?” คิมถามเพราะตนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ
“นายไปกับฉัน ” ชายน์เอ่ยพร้อมกับอุ้มร่างของนีโอแล้วบินออกไปยังลานพื้นที่ว่างใจกลางเมือง
‘อดทนอีกนิดนะนีโอ’
“เอ้ยย ผมบินไม่ได้นะพี่ชายน์ เอายังไงละเนี่ย” คิมที่ไม่เคยใช้เวทย์สำหรับการเดินทางอากาศก็ได้แต่โอดครวญจนพี่ๆ อดขำไม่ได้
“อ่ะ พี่สาวให้นายยืมก่อน แค่ขี่มันไว้แล้วสั่งการได้เลย มันฟังรู้เรื่อง” ฮันนี่เอ่ยพร้อมกับส่งไม้กวาดให้คิม
“แล้วพี่ละครับ?” คิมยังคงห่วงพี่
“พี่ยืมส่วนกลางได้ รีบไป” ฮันนี่เอ่ยตัดบทพร้อมรีบผลักรุ่นน้องให้ออกตามเพื่อนไป แม้ว่าจะดูทุลักทุเลไปบ้างสำหรับครั้งแรกของการใช้ไม้กวาดแม่มด แต่แค่คิมไม่ตกลงมาบาดเจ็บก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
“นีโอ เป็นไงบ้าง?” ชายน์เอ่ยถามหลังจากที่ตนสร้างบาเรียป้องกันให้นีโอแล้วและดูเหมือนว่านีโอมีอาการที่ดีขึ้น
“ขอบใจนะชายน์ นายจะทำอะไรต่อ?”
“ฉันจะไม่ยอมให้นายต้องเสียสละอีก อัญมณีนั่นเป็นหน้าที่ของฉันดังนั้นฉันจะจัดการมันเอง”
“ยังไง?” นีโอเอ่ย
“มันอยากได้พลังเวทย์ ก็ให้มันมาเอาที่ฉันนี่” คำกล่าวของชายน์สร้างความตะลึงให้นีโอไปชั่วขณะ
“ฉันจะถ่ายพลังไปยังอัญมณีแล้วนายจะต้องดึงพลังเวทย์นายกลับมาให้ได้ เข้าใจนะ”
“แล้วนายล่ะ? จะเป็นอย่างไรต่อ?” นีโอถามเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของชายน์
“นายว่าเกาะนี้มันจมลงเพราะอะไร? ถ้ามันจะกลับขึ้นไปได้อีกครั้งก็เพราะสิ่งนั้นแหละ” ชายน์เอ่ยอย่างมีความหวัง
“อืม เข้าใจแล้ว” นีโอที่เริ่มเข้าใจความหมายของชายน์ก็เริ่มมีสีหน้าดีขึ้น แม้เขาจะรู้ว่าชายน์มีความสามารถและจริงจังกับทุกสิ่งที่ทำแต่ทว่าภารกิจเสี่ยงอันตรายแบบนี้ยังไงเขาก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
ณ คฤหาสน์เจ้าเมือง
ทันทีที่เนย์ยาและหัวหน้าทหารเวทย์หลบออกจากคุกเวทย์ก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เพราะหากหนังสือแต่งตังของเขาได้ประทับตราของเจ้าเมืองคนปัจจุบันแล้วนั่นก็หมายถึงเขาได้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่โดยสมบูรณ์แบบ และสิ่งที่เขาต้องการคือตราประทับที่เขาเชื่อว่ามันอยู่ในคฤหาสน์นี่
“ท่านและคนของท่านจัดการทหารองครักษ์นี้ที เราจะเข้าไปหาตราประทับของท่านเจ้าเมือง” เนย์ยาเอ่ยสั่งหัวหน้าทหารเวทย์
“ท่านต้องรีบหน่อยนะครับ ”
“อย่ากลัวไปนักเลย พวกนั้นคงปลีกตัวออกมาจากคุกเวทย์ไม่ได้ง่ายๆ หรอกเพราะแม่ทัพทหารกองกำลังป้องกันและแม่ทัพกองกำลังอาสากำลังพาคนไปสมทบที่นั่น ส่วนคนของอารามเทพกำลังมาที่นี่แล้ว ” เนย์ยาเอ่ยแผนการให้หัวหน้าทหารเวทย์สบายใจ
“งั้นเชิญท่านตามสบายเลยครับ ทางนี้ข้าและคนของข้าจะจัดการให้” หัวหน้าทหารเวทย์เอ่ยพร้อมกับที่เนย์ยารีบบุกเข้ายังคฤหาสน์ แม้ว่าสถานการณ์จะดูเงียบผิดปกติไปบ้างแต่เนย์ยาก็ไม่ได้สนใจมากเท่ากับการค้นหาตราประทับของตำแหน่งเจ้าเมือง เหตุนี้จึงไม่ได้สังเกตว่ามีบางคนกำลังเข้ามาในห้องนี้เช่นกัน
“แทนที่จะสำนึกหรือหนีไป แต่กลับมาอยู่ที่นี่ ท่านช่างกล้ามากนะ ” เสียงเจ้าของคฤหาสน์เอ่ยขึ้นทำให้เนย์ยาชะงักไป
“หึ แต่ท่านก็กล้ากว่านะ พลังเวทย์เท่าทีมีก็น้อยนิด ยังกล้ามาเผชิญหน้ากับข้า” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเรียกวารีเวทย์ออกมาบนฝ่ามือ ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่เคลื่อนไหวไปมาพร้อมจู่โจม
“เราไม่กลัวท่านหรอก ยังไงซะท่านก็ไปจากที่นี่ไม่ได้แล้ว อ้อ ท่านกำลังตามหาสิ่งนี้อยู่สินะ” เจ้าเมืองเอ่ยพร้อมแสดงตราประทับออกมาให้เนย์ยาได้เห็น ทันทีที่เนย์ยาเห็นก็รีบจู่โจมเจ้าเมืองทันที แม้พลังเวทย์จะสู้เนย์ยาไม่ได้แต่ก็เพียงพอที่จะป้องกันตนได้ในระยะเวลาหนึ่ง เหตุนี้บาเรียแก้วจึงถูกสร้างขึ้นมาป้องกันพลังเวทย์จากเนย์ยาที่จู่โจมอย่างฉับพลัน
“ส่งตราประทับมาดีกว่านะท่านไคล์ เรื่องจะได้จบ”
“ต่อให้ท่านได้มันไป ท่านก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเมืองนี้ได้หรอก”
“งั้นท่านก็จงพังพินาศไปกับคฤหาสน์นี้เลยแล้วกัน” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเตรียมร่ายเวทย์อย่างสุดกำลัง ฉับพลันก็มีเสียงดังแทรกขึ้นพร้อมกับกลุ่มทหารมากมายวิ่งเข้ามาล้อมเนย์ยาไว้ทันที
“ท่านนั่นแหละหยุดได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวท่านเองที่พินาศนะ ท่านหัวหน้าแม่ทัพ” จาร์น่าเอ่ยแทรกพร้อมเข้าขวางเพื่อคุ้มกันเจ้าเมือง บัดนี้ทหารจำนวนมากต่างวิ่งเข้ามาปิดล้อมทุกทางเข้าออกของคฤหาสน์ ส่วนภายในห้องโถงที่เกิดเหตุอยู่
“ถึงตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หึหึ!!”
..................................
“ทุกคนเข้าไปช่วยท่านไคล์ ทางนี้ให้พวกเราจัดการดีกว่า” เฟย์เอ่ยให้เด็กๆ เข้าไปยังในตัวคฤหาสน์หลังจากที่ทั้งหมดได้เดินทางมาถึงก็พบว่าทหารของจาร์น่าและเนย์ยากำลังต่อสู้กันอยู่ และยังมีคนของอารามเทพติดตามพวกเขามาด้วย
“ทำตามนี้เถอะ พวกอารามเวทย์ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” ดัสค์เอ่ยสนับสนุนเฟย์ เดวี่ ฮันนี่ เซ เชโด้และเบลจึงพากันเข้าไปยังด้านใน
“เราคงต้องร่วมมือกันดีๆ แล้วแหละนะ” เฟย์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ดัสค์
“ไม่ต้องพูดมาก จะเอายังไงก็บอกมา” ดัสค์เอ่ยแต่ก็ทำให้เฟย์ยิ้มออกมาทันที แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ลงมือก็มีเสียงเอ่ยแทรกจากผู้มาเยือนดังขึ้น
“พวกเธอเป็นใครถึงมาขวางทางพวกเรา” กลุ่มผู้มาเยือนทั้งเก้าคนเอ่ย
“แล้วพวกท่านเป็นใครถึงกล้ามาบุกคฤหาสน์เจ้าเมือง” เฟย์เอ่ยย้อนคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนที่ดูแล้วมีอายุมากพอควรแล้วและคิดว่าน่าจะเป็นพวกบำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์เป็นแน่
“เรามาตามล่าปีศาจ เมืองของเราไม่ต้อนรับและไม่ยอมให้ใครคบคิดกับปีศาจเพื่อทำลายเมืองนี้เด็ดขาด”
“แม้แต่เจ้าเมืองพวกท่านก็จะจัดการรึ?” ดัสค์เอ่ยแทรก
“นี่เจ้า!! แบบนี้ก็แสดงว่าข่าวที่เราทราบมาเป็นความจริงสินะ” ผู้นำของอารามเทพเอ่ย
“จริงหรือไม่จริงพวกเราไม่รู้หรอก แต่อีกซักครูทุกอย่างที่เป็นความจริงจะกระจ่าง อย่างไรเชิญท่านรอดีกว่านะ อย่าเข้าไปเลย” เฟย์เอ่ยเสริม
“เกรงว่าจะไม่ได้แน่ๆ หากพวกเจ้าขัดขวางเราเห็นทีเราคงจะต้องจัดการพวกเจ้าไปด้วย” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพเอ่ยแทรกขึ้นสร้างความหงุดหงิดให้ดัสค์จนเห็นได้ชัด
“พวกนี้เป็นถึงเทพผู้บำเพ็ญเพียรแต่กลับโดนหลอกชักจูงได้ง่ายจัง หึ!!” ดัสค์เอ่ยอย่างหงุดหงิด
“งั้นเราก็เล่นกับเขาหน่อยสิ 555” เฟย์เอ่ยพร้อมเดินออกไปหากลุ่มของอารามเวทย์ทันที
“นี่ ถ้าอยากจะจัดการพวกเราก็เข้ามาเลย แต่ขอเตือนนะว่าหากพวกท่านแพ้ พวกท่านคงต้องเสียพลังเวทย์ที่อุส่าห์บำเพ็ญเพียรมาให้กับเราแน่ๆ หึ!!” เอ่ยจบดาบสีส้มก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มที่ลุกโชติขึ้นจะกลุ่มของอารามเทพแตกกระเจิง
“ไฟแห่งฟินิกซ์ ระวังตัวกันด้วย” ผู้นำอารามเวทย์เอ่ยพร้อมสร้างบาเรียเวทย์มาคุ้มกันพวกตัวเองทันที แต่ยังไม่ทันได้อุ่นใจก็ปรากฏว่าเด็กหนุ่มอีกคนกำลังส่งของขวัญมาให้อีกแล้ว
“ระวัง!!” เพียงเสี้ยววินาทีที่ผู้นำเอ่ยเตือนทำให้กลุ่มของอารามเวทย์หลบพ้นอัคคีเวทย์ของดัสค์ไปได้
“เจ้าเด็กพวกนี้ รับไป!!” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพยกไม้คฑาขึ้นพร้อมกับเกลียวคลื่นพุ่งเข้าจู่โจมดัสค์ แต่ก็มลายไปทันทีเมื่อปะทะเข้ากับเปลวเพลิงของเฟย์
“ไฟแห่งฟินิกซ์จริงๆ สินะ” ผู้ใช้วารีเวทย์โจมตีดัสค์เอ่ยอย่างรู้ทันเมื่อเห็นว่าเวทย์ของตนไม่สามารถเอาชนะเด็กหนุ่มเบื้องหน้าได้
“ทุกคนฟัง เราคือผู้บำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์ หากเราร่วมมือกันอย่างไรเราก็เอาชนะเด็กสองคนนี้ได้แน่ๆ ” ทันทีที่ผู้นำเอ่ยเหล่าสมาชิกของอารามเวทย์ก็ขยับประจำที่ตามตำแหน่งในจุดที่แปลกตาออกไปพร้อมกับเริ่มร่ายเวทย์
“ค่ายกล ระวังพวกนี้ไว้หน่อยนะ” เฟย์เอ่ยเตือนดัสค์เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้กำลังผสานเวทย์เพื่อมาสู้กับฝ่ายของตน แม้ว่าเวทย์ของกลุ่มอารามเทพจะสูงแต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าเขาและดัสค์ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเขาทั้งคู่ไม่ใช่มนุษย์แต่คือภูตที่บำเพ็ญเพียรฝึกจิตมานานนับร้อยๆปีจนสามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้ แต่หากว่าคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนนี้รวมพลังกันก็น่ากลัวมิใช่น้อย
“กลัวรึ” ดัสค์เอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มน้อยๆ และถือเป็นยิ้มแรกที่เฟย์ได้เห็นเลยก็ว่าได้
“ฉันเป็นห่วงนายต่างหาก หากผิดพลาดไปนายคงได้กลับไปเป็นมังกรตัวดำๆ แบบเก่าอีกแน่ หึหึ” เฟย์แซวแต่ก็มิวายอดยิ้มไม่ได้
“เอางี้ เรามาลองร่วมมือกันสู้บ้างเป็นไง?” เฟย์ยังคงเสนอความคิดต่อ และดูเหมือนว่าดัสค์ก็เห็นดีด้วย
“งั้นก็ลองดู” สิ้นคำของดัสค์วงแหวนสีส้มทองและสีดำก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับอักขระสีทองและสีเงินลอยรอบๆ วงแหวนนั้น บัดนี้ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองลอยอยู่ใจกลางวงแหวนนั่นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงค่อยๆ เกิดขึ้น
“โจมตี!!” ฝ่ายอารามเทพที่บัดนี้ผสานเวทย์เรียบร้อยแล้วก็ชิงโจมตีก่อน เมื่อคนทั้งเก้าตั้งค่ายกลก็ปรากฏขึ้นเขตแดนแปดเหลี่ยมสีขาวสว่างจ้าขึ้น ทันทีที่ผู้นำเอ่ยจู่โจมใจกลางค่ายกลก็ปรากฏมังกรเวทย์สีขาวเลื้อยพุ่งออกมาเข้าจู่โจมเฟย์และดัสค์ทันที
“ช้าไปแล้ว หึหึ ขึ้นหลังฉันมา!!” เฟย์ที่กลับสู่ร่างจริงเอ่ยเรียกให้ดัสค์ขึ้นมาบนหลังพร้อมกับบินทะยานสวนออกไปเช่นกัน สองปีกใหญ่ที่กางออกพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มแดงที่ลุกโชติช่วงอีกทั้งเสียงร้องที่ก้องกังวานของฟินิกซ์สร้างความน่าเกรงขามมิใช่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างของหนุ่มน้อยที่บัดนี้มีเขาสีดำเงาและสวมชุดเกราะเกร็ดมังกรสีดำยืนถือแซ่กระดูกมังกรอยู่ด้านบนพร้อมจิตสังหารสีดำที่พวยพุ่งออกมาก็ยิ่งทำให้ผู้ที่เผชิญหน้าถึงกับตกตะลึง ทันทีที่ฟินิกซ์และมังกรเวทย์ปะทะกันก็เกิดกระแสพลังขนาดมหึมาแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนไปตามแรงพลัง เพียงแค่แซ่กระดูกมังกรของดัสค์ที่ตวัดเข้าใส่มังกรเวทย์เพียงครั้งเดียวร่างนั้นก็สลายไปทันที
“เป็นไปไม่ได้” ผู้นำอารามเทพเอ่ยอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นความสามารถของเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลังมังกร แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเฟย์ก็จู่โจมคนทั้งเก้าต่อทันที เสียงร้องของฟินิกซ์ทำให้คนทั้งเก้าต่างก็ยกมือปิดป้องหูอย่างทรมาน
“อ๊าคคคคคคค”
‘พวกท่านยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา’
กลับมาที่ชายน์และนีโอ...
หลังจากที่ชายน์และนีโอตกลงกันได้ ชายน์ก็เริ่มลงมือทันที วงแหวนสีทองปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของชายน์ ที่เจ้าตัวยังคงใช้ร่างเทพแห่งแสงอยู่ บัดนี้อาณาบริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยไอเวทย์ของชายน์ที่ปลดปล่อยออกมาและดูเหมือนว่าเจ้าลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ด้านบนนั้นก็กำลังตอบสนองต่อชายน์เป็นอย่างดี
“ฉันจะดึงมันลงมาแล้วนะ พร้อมมั๊ยลีโอ?” ชายน์หันมาเอ่ยกับเพื่อน และเมื่อนีโอพยักหน้าชายน์ก็ลงมือทันที ลูกแก้วสีขาวกำลังลอยลงมาหาชายน์ ทันทีที่มันสัมผัสกับมือของชายน์บางอย่างก็เกิดขึ้น
“อึก!!” ร่างของชายน์กระตุกเกร็งค้างก่อนจะหลับตาค่อยๆ ผ่อนความรู้สึกลงพร้อมกับเอ่ยกับนีโอ
“ลงมือเลยนีโอ”
“อืม” สิ้นคำของนีโอ เจ้าตัวก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับอีกด้านของลูกแก้วและก็เกิดอาการเดียวกันกับชายน์ แต่เพียงครูเดียวก็กลับสู่สภาพปกติ บัดนี้ร่างของคนทั้งสองกำลังยืนแตะลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่คนละด้านโดยที่คนทั้งสองต่างก็หลับตานิ่ง เพียงแต่คนหนึ่งมีสีหน้าและอาการที่ดีขึ้นแต่อีกคนกำลังค่อยๆ แสดงอาการทรมานออกมาเรื่อยๆ ไอเวทย์ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของชายน์บัดนี้ทวีความรุนแรงขึ้น ผู้คนที่หลบอยู่ในบ้านต่างรับรู้ได้เป็นอย่างดี บ้างออกมามุงดูการกระทำของคนทั้งสอง บ้างไม่สามารถทนต่อกระแสไอเวทย์ได้ก็ต้องหลบอยู่ในบ้านหรืออยู่ในระยะห่างๆ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ยังพื้นที่นั้นได้เลย
“ชายน์ นายจะไม่ไหวแล้วนะ” นีโอที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าเพื่อนของตนเองมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก บัดนี้ร่างของชายน์เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ไอเวทย์สีขาวลอยคละคลุ้งอยู่รอบๆร่าง และทั้งหมดจะถูกดูดเข้าสู่ลูกแก้ว ในขณะที่นีโอเองก็รับรู้ได้เช่นกันว่าไอเวทย์แห่งแสงที่คุ้นเคยถูกส่งออกมาจากลูกแก้วเข้าหาตนเอง
“แค่นี้ยังไหว นี่ยังไม่ถึงครึ่งที่นายสูญเสียเลยนีโอ ฉันจะชดใช้ให้ อึก!!” ชายน์เอ่ยพร้อมกับหลับตารวมสมาธิอีกครั้ง ไอเวทย์ระลอกใหม่ถูกผลักเข้าสู่ลูกแก้วพร้อมกับร่างของชายน์เริ่มสั่น แม้นีโอจะเห็นใจและสงสารเพื่อนแต่ทว่าเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถหยุดเพื่อนได้ จึงได้แต่ให้ความร่วมมือกับชายน์ต่อไป แต่ผ่านไปเพียงไม่นานชายน์กลับเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเสียเอง
“นีโอ..” ชายน์เอ่ยออกมาเมื่อพบว่าบัดนี้ไอเวทย์ที่ตนปลดปล่อยออกมานั้นบางลงทุกทีและกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกแก้ว
“ฉันอยู่นี่” นีโอรีบเอ่ยรับเพื่อน
“เวทย์ฉันกำลังถึงขีดจำกัดแล้ว มันอันตรายเกินไป นายออกไปก่อน”
“ฉันจะส่งมันกลับคืนให้นาย ฉันไม่ได้ต้องการมันขนาดนี้ชายน์” นีโอที่ขณะนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างไรแล้วเอ่ยเป็นห่วงเพื่อนเพราะเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ส่งผ่านลูกแก้วมาให้และเจ้าลูกแก้วขนาดใหญ่นี้ที่คืนพลังเวทย์ของตนกลับมาให้นั้นมันมากเกินพอที่นีโอจะรับไว้แล้วเช่นกัน
“ไม่ ปล่อยมือแล้วรีบออกไปซะ” ชายน์ย้ำ
“แต่นายจะบาดเจ็บนะ” นีโอก็ปฏิเสธคำขอของชายน์เช่นกัน บัดนี้เมื่อทั้งคู่ต่างก็ส่งพลังกลับคืนสู่ลูกแก้วและเพียงเสี้ยวระยะเวลาที่จะได้เอ่ยต่อ ลูกแก้วก็ร้าวและแตกกระจายออกทันที
“กรี๊ดดดด”
“ชายน์!!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
เสียงร้องของคนที่มุงดูอยู่ห่างๆ หวีดร้องดังขึ้นอันเนื่องมาจากการระเบิดของลูกแก้วนั้นส่งผลต่อสิ่งต่างๆ มากมาย ทุกคนต่างวิ่งหลบหนีชุลมุนโดยไม่มีใครสนใจถึงลำแสงสีฟ้ากำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเมืองทั้งเมืองกำลังสั่นไหวเหตุเพราะพื้นแผ่นดินกำลังเกิดการเคลื่อนตัวขึ้นนั่นเอง
“ชายน์!!” นีโอตะโกนอย่างสุดเสียงเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังพาร่างของเพื่อนพุ่งทะลุบาเรียของเมืองสมุทรออกไป ทันทีที่บาเรียได้แตกลงก็พบว่าบัดนี้เมืองสมุทรที่เคยจมอยู่ก้นทะเลได้ลอยขึ้นสู้พื้นทะเลกลายเป็นเกาะแล้ว
เบื้องบนในตอนนี้คือท้องฟ้าที่สดใสพร้อมแสงแดดที่มาจากดวงอาทิตย์จริงๆ หาใช่ลูกแก้วลูกเดิมไม่ นีโอนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมๆ กับที่ผู้คนต่างค่อยๆ ออกมาจากอาคารบ้านเรือนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมกับเริ่มมีเสียงพูดคุย ตะโกนเรียกกันอย่างตื่นเต้น จนสุดท้ายก็ครึกครื้นไปด้วยเสียงโห่ร้องอย่างยินดีของชาวเมืองสมุทรที่ได้เห็นท้องฟ้าและแสงแดดอีกครั้ง....
หลังจากความวุ่นวายได้สงบลง แม่ทัพใหญ่เนย์ยาถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เห็นแก่ความรื่นเริงของชาวเมืองที่ได้หลุดพ้นขึ้นมาจากใต้ทะเล นีโอจึงขออภัยโทษให้แม่ทัพเนย์ยาเหลือรับโทษแค่คุมขังอยู่ในคุกเวทย์ตลอดชีวิต ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดก็โดนคุมขังเช่นกัน เจ้าเมืองประกาศให้จัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองให้แก่ชาวเมืองและแสดงความยินดีกับนีโอที่ได้เวทย์แห่งแสงกลับคืนมาจากลูกแก้ว พร้อมทั้งประกาศรับกองกำลังเหล่าต่างๆ และจอมเวทย์ทั่วทั้งเมืองเพื่อคัดสรรเข้าสู่อารามเทพแทนกลุ่มคนก่อนๆ ที่ก่อกบฏ ...นีโอที่กำลังยืนมองเมืองทั้งเมืองของตนในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงดนตรีมากมายคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะของผู้คนแต่เจ้าตัวกลับไร้ซึ่งความรู้สึกยินดีใดๆ
“อย่าคิดมากเลยนีโอ ชายน์ไม่เป็นอะไรหรอก” เดวี่ที่เห็นว่าหนุ่มน้อยกำลังแบกความรู้สึกไม่ดีไว้มากมายก็ฉวยโอกาสเข้ามาพูดคุยกับนีโอ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ถนัดเรื่องปลอบประโลมแต่ในยามที่เพื่อนกำลังทุกข์ เดวี่ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
“ฉันทำให้ชายน์ต้องลำบากแล้ว” นีโอเอ่ยจากความรู้สึก
“ตอนนี้เฟย์กำลังออกตามหาชายน์ เขาน่าจะสื่อสารถึงกันได้” เดวี่เอ่ยเรียบๆ
“นายก็กำลังจะออกไปอีกคน?” นีโอเอ่ยดักทางอย่างรู้ทัน จนเดวี่ชะงักไปทันที
“ฉันปล่อยให้ชายน์หายไปจากสายตาไม่ได้”
“ทำไม?” นีโอเอ่ย แต่เดวี่ก็ยังคงเงียบอยู่
“ระหว่างนายสองคน มันมีอะไรที่พวกเรายังไม่รู้อีกหรือเปล่า เดวี่?”
“สำหรับฉัน แม้ฉันจะเป็นแค่คนธรรมดา หรือวันข้างหน้าฉันจะได้ทุกอย่างคืน แต่ชายน์คือคนที่สำคัญที่สุด” คำตอบของเดวี่ แม้ว่าจะตอบไม่ตรงคำถามแต่ก็ทำให้นีโอยอมแพ้ที่จะถามไถ่ต่อไปได้
“งั้นก็ขอให้นายโชคดีนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ฉันจะให้เพื่อนๆ ได้พักอีกสักสองสามวัน จากนั้นเราจะไปส่งคิมเข้าโรงเรียนตามที่นายกับชายน์เคยเอ่ยไว้ แล้วเราจะออกเดินทางตามไปสมทบพวกนายอีกที”
“อืม อย่างไรก็ตาม ให้ยึดแผนเดิมของชายน์นะ” เดวี่เอ่ยย้ำก่อนจะปรากฏกลุ่มควันสีดำปรากฏขึ้นท่วมร่างของเดวี่พร้อมกับร่างนั้นหายวับไปกับตา
‘ถ้าไม่ใช่ชายน์เดวี่ไม่มีทางเอาจริงแบบนี้แน่ หึหึ’
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ