Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) กองทัพอสูร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กองทัพอสูร

 

                หลังจากที่กลุ่มของนีโอ  มาร์ติน  เบลและดัชแยกออกไปตามเบาะแสที่ได้จากผู้บาดเจ็บในหมู่บ้านที่ผ่านมานั้น     บัดนี้ทั้งสี่คนมาถึงหมู่บ้านเป้าหมายแล้วแต่ทว่าเหตุการณ์ก็ยังคงปกติดีจนอดที่จะแปลกใจไม่ได้

“ข้อมูลของเราผิดหรือเปล่าเนี่ย     ทำไมทุกอย่างมันดูปกติไร้วี่แววของพวกอสูรเลยหล่ะ?”   มาร์ตินสงสัย

“นั่นสิ   ผิดหมู่บ้านหรือเปล่า    หรือนี่อาจเป็นแผนการของพวกมันที่จะหลอกเราให้ออกจากเส้นทางของมันก็เป็นได้นะ”    นีโอเอ่ยในสิ่งที่ตนเองคิด

“แต่ฉันว่าอาจไม่ผิดก็ได้นะ     บางทีวาโยเวทย์ของมาร์ตินอาจพาเรามาถึงก่อนพวกมันก็ได้     ยังไงก็รอๆ ดูไปก่อน”   เบลเอ่ย

“ฉันเห็นด้วยนะเพราะอย่างน้อยการที่หน่วยอื่นๆ ของทางโฮเนอร์ยังนิ่งเงียบอยู่ก็แสดงว่าทางอื่นนั้นปกติเช่นกัน      ดังนั้นในฐานะที่เราอยู่ในจุดเป้าหมายของพวกมันเราต้องตั้งรับให้ดี”   ดัชเอ่ยเสริม

“ไม่น่าเชื่อนะว่าพวกเราเด็กปี1 แต่ดันได้รับมอบหมาหน้าที่นี้อ่ะ    ปกติงานเหล่านี้จะเป็นของเด็กปี3 นะ”

“เด็กนักเรียนโฮเนอร์เมื่อเข้าสู่รั้วโรงเรียนแล้วก็เหมือนทหารนายหนึ่งนั่นแหละ     เราอาจโดนสภาแกรนน่าเรียกตัวไปปฏิบัติหน้าที่หรือโดนรับมอบหมายงานต่างๆ จากหน่วยงานต่างๆ ก็เป็นได้     ส่วนการที่เด็กปี1 อย่างเราได้รับมอบหมายหน้าที่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะงานนี้เรามีตำแหน่งและผลงานเข้าตาจนได้รับภารกิจนี้ไง     พวกรุ่นพี่ปี2 ปี3 เขาก็รับภารกิจกันหมดแล้วนี่”   นีโออธิบาย

“แต่เพื่อนเราบางส่วนก็ไม่ได้ทำอะไรนะ”    มาร์ตินแย้ง

“ได้ทำภารกิจตั้งแต่ปี1 น่าภูมิใจจะตาย ฮ่าๆๆ”    เบลตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อๆ

“เห็นร้านกาแฟนั่นมั๊ย    ฉันว่าเราไปนั่งเล่นที่นั่นกันก่อนดีกว่า”    มาร์ตินเอ่ยชวนเพื่อๆ และก็ได้ผลเมื่อนีโอและดัชแสดงอาการสนใจเต็มที่แต่จู่ๆ เบลก็รั้งแขนเพื่อนไว้พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เดี๋ยวก่อน    ฉันว่าพวกมันมาแล้วล่ะ”

“นายรู้ได้ไง?”

“ดูข้างบนสิ”    เบลเอ่ยพลางแหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้า

‘กรี๊ดดดดดด’

บึ้มมม!!   เสียงหวีดร้องของชาวบ้านดังขึ้นเมื่อมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านบนจนเกิดเป็นเงาขนาดใหญ่พาดทับผ่านยังพื้นล่าง      และเมื่อเธอผู้นั้นเงยหน้าขึ้นไปก็ต้องเปล่งเสียงร้องลั่นด้วยความตกใจพร้อมกับที่เจ้าสิ่งนั้นเริ่มจู่โจมลงมาทันที

“จัดการมันอย่าให้เหลือ”    เสียงของแม่ทัพอสูรที่อยู่บนหลังมังกรดำออกคำสั่งบรรดากองทัพอสูรที่ติดปีกบินอยู่มากมาย     และเมื่อได้รับคำสั่งเหล่าอสูรร้ายก็บินร่อนลงสู่เบื้องล่างทันที

“นี่หรออสูร     น่ากลัวกว่าที่ฉันคิดไว้อีก”    มาร์ตินกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเมื่อเห็นบรรดาอสูรรูปร่างคล้ายกับคนแต่มีหน้าตาที่น่าเกลียดกำลังแสยะยิ้มโชว์เขี้ยวและฟันอันแหลมคมกับผิวหนังที่เป็นเกล็ดทั้งตัว      สองมือของพวกมันมีเล็บยาวดำคล้ายกับกรงเล็บเหยี่ยวที่กำลังถืออาวุธต่างกันออกไปทั้งดาบ   ขวาน  ค้อนและกระบอง     และที่สำคัญพวกมันทุกตัวมีปีกสีดำดังปีกค้างคาวขนาดใหญ่ที่พามันบินได้อย่างคล่องแคล่ว

“เฮ้ย!!”   ท่ามกลางความตกตะลึงของเด็กๆ เหล่าอสูรก็เริ่มจู่โจมทันทีโดยการบินโฉบลงมายังตำแหน่งที่มาร์ตินยืนอยู่จนเจ้าตัวร้องลั่นด้วยความตกใจพร้อมกับกระโดดหลบอย่างไม่เป็นท่า

“อย่าใจลอยสิพวก   นายสู้มันได้อยู่แล้ว”    เบลเอ่ยพร้อมกับเรียกดาบสีส้มแดงออกมาไว้ในมือแล้วไล่ฟาดฟันใส่เหล่าอสูรไม่ยั้ง     ทันทีที่คมดาบฟาดลงยังร่างของอสูรก็เกิดเปลวเพลิงลุกท่วมร่างของพวกมันจนมอดไหม้เป็นจุล

“สุดยอดเลยเบล    ดาบของนายจัดการพวกมันได้ผล”    ดัชเอ่ยอย่างทึ่งๆ เพราะดาบของเขาเองนั้นไม่สามรถจัดการพวกอสูรได้อย่างเด็ดขาดนั้นเอง

“นายระวังให้เราดีกว่า    ฉันกับเบลจะจัดการเอง”    นีโอเอ่ยพลางหยิบลูกดอกออกมาแล้วยิ่งออกไปไม่ยั้งเพราะธนูของเขาก็สามารถจัดการกับอสูรได้เป็นอย่างดีแต่ทว่า….

“อ๊าคคคค   ช่วยฉันหน่อยเบลลลลล”    เสียงของมาร์ตินร้องลั่นเมื่ออสูรบินลงมาหิ้วร่างของเขาแล้วพาบินขึ้นไปยังด้านบน     ด้วยกรงเล็บที่ใหญ่และแข็งแรงนั้นกำลังขยำอยู่ที่บ่าทั้งสองของมาร์ตินจนเลือดสีแดงกำลังซึมไหลออกมาเป็นทาง      และแม้ว่ามาร์ตินจะพยายามยกดาบต่อสู้แล้วแต่ด้วยความแข็งแรงของกรงเล็บนั่นกลับตรึงให้ร่างของมาร์ตินแทบไม่สามารถจะขยับช่วงแขนได้เลย

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง    อยู่นิ่งๆ นะอย่าดิ้น”    นีโอตะโกนสั่งออกไปพร้อมยกคันธนูขึ้นเล็งเป้าหมายทันที

“ระวังโดนฉันนะนีโอ”   

“อย่าดิ้นสิมาร์ติน    ฉันจับเป้าหมายไม่ได้”    นีโอเอ่ยพลางขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเป้าหมายของเขามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและเขาก็ยังไม่กล้ายิงออกไปเพราะเกรงว่าจะพลาดไปโดนมาร์ตินนั่นเอง

“ใช้วาโยเวทย์ของนายให้เกิดประโยชน์สิมาร์ติน”    เบลเอ่ยตะโกนแนะนำพร้อมกับปะทะดาบกับอสูรอีกนับสิบที่กำลังเข้ารุมเขา     สถานการณ์ในตอนนี้ชุลมุนมากเพราะอสูรที่มานั้นมีจำนวนมากและยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงทั้งๆ ที่โดนกำจัดไปไม่น้อย      ซึ่งในส่วนของชาวเมืองนั้นก็ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถช่วยกำจัดอสูรได้เลยแม้ว่าจะมีกลุ่มชาวบ้านผู้ชายออกมาช่วยสกัดทัพอสูรแต่ด้วยอาวุธธรรมดานั้นก็ไม่สามารถจะกำจัดเหล่าอสูรได้

“ใช่ๆๆ   นายใช้วาโยเวทย์ของนายสิมาร์ติน”    นีโอเอ่ยเสริมความคิดของเบลซึ่งมาร์ตินเองก็ปฏิบัติตามทันที      กระแสลมพัดวนรอบๆ ร่างของมาร์ตินและอสูรนั่นจนมันบินถลาไม่เป็นท่าพร้อมกับที่กระแสลมอีกทิศทางหนึ่งบีบอัดตัวเป็นเส้นและพุ่งเข้าจู่โจมร่างของอสูรทันที

“อ๊าคคคค”    เสียงร้องของมาร์ตินดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเจ้าอสูรนั่นโดนวาโยเวทย์ของมาร์ตินจู่โจมจนมันเผลอปล่อยร่างของมาร์ตินออกจากกรงเล็บของมันซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลูกธนูของนีโอพุ่งเข้าจัดการมันเช่นกัน

ตุบ!!  ตุบ!!    เสียงของหนักหล่นกระแทกพื้นสองครั้งในตำแหน่งเดียวกันโดยครั้งแรกเป็นร่างของมาร์ตินที่หล่นลงมาไม่เป็นท่าทั้งๆ ที่เจ้าตัวเป็นพวกใช้ลมแท้ๆ      ส่วนอีกเสียงนั้นเกิดจากร่างของอสูรที่โดนลูกธนูของนีโอจัดการจนร่วงลงมาทับร่างของมาร์ตินก่อนร่างนั้นจะสลายไปด้วยเวทย์แห่งแสงที่มาพร้อมกับลูกธนูนั่น

“ทำไมมันไม่สลายไปก่อนจะตกลงมาล่ะ  โอยย”   เสียงโอดครวญของมาร์ตินดังขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวลุกขึ้นนั่งได้แล้ว

“จริงๆ นายไม่ควรจะลงมาด้วยสภาพนี้เลยด้วยซ้ำนะมาร์ติน     เสียชื่อพวกธาตุลมหมด ฮ่าๆๆ”    เบลหันมากล่าวอย่างอารมณ์ดีแม้ว่าสถานการณ์จะเป็นรองก็ตามที

“นี่ๆๆ   พวกเธอเป็นใครกัน     นักเรียนจากโฮเนอร์หรอ?”    ชายชาวบ้านคนนึงที่กำลังรับมือกับกองทัพอสูรในบริเวณใกล้เคียงตะโกนถามกลุ่มเด็กๆอย่างมีความหวังเมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสี่สามารถจัดการกับอสูรได้

“ใช่ครับ    พวกเราเป็นนักเรียนจากโฮเนอร์ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาทำภารกิจนี้ครับ”    นีโอเอ่ยตอบพลางง้างธนูยิงใส่อสูรไม่ยั้ง

“แต่สถานการณ์แบบนี้พวกเราคิดว่าเราเองก็คงจัดการได้ไม่หมดแน่ครับ    ไม่ทราบว่าที่หมู่บ้านนี้มีจุดหลบภัยมั๊ยครับ?    ผมคิดว่าเราควรอพยพชาวบ้านโดยเฉพาะเด็ก  คนชราและผู้หญิงไปยังจุดที่ปลอดภัยก่อนนะครับ”    ดัชหันมาถามชายผู้นั้นและเอ่ยเสนอความคิดออกมาบ้าง

“ผมชื่อ บ๊อบ  เป็ผู้ดูแลหมู่บ้านนี้     ตามที่คุณถามผมจะตอบว่ามีครับและเรากำลังจะอพยพคนของเราไปยังจุดปลอดภัยแต่เราไม่มีคนคุ้มกัน”     ชายผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยพร้อมกับแนะนำตัวเองและแจงความต้องการของเขา

“คุณจะบอกว่าต้องการให้เราคุ้มกันให้ใช่มั๊ย?”    เบลเอ่ยถามบ้าง

“ครับ    ผมคิดว่าพวกคุณสามารถช่วยเหลือพวกเราได้   ได้โปรดช่วยคนของผมด้วยนะ”   บ๊อบเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เรายินดีช่วยเต็มที่แต่ก็ไม่รับปากนะครับ     เพราะถ้าเพื่อนของเราอยู่กันครบผมคงมั่นใจกว่านี้”   นีโอเอ่ยตามความรู้สึกของเขาที่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าชายน์อยู่ด้วยทุกอย่างคงง่ายกว่านี้

“แค่พวกคุณรับปากเราก็ดีใจแล้ว    ที่เหลือจะเป็นอย่างไรผมและชาวบ้านพร้อมจะเผชิญ”    บ๊อบเอ่ยพลางส่งยิ้มมาให้

บึ้ม!!   กรี๊ดดดดด   เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวีดร้องของชาวบ้านที่ดังขึ้นช่วยเรียกสติของบุรุษทั้งกลุ่มที่กำลังคุยกันให้หันไปมองยังต้นเสียงนั้น

“ร่ำลากันเรียบร้อยยัง   ฉันจะได้จัดการซะทีเดียวเลย  เหอะๆๆ”    แม่ทัพอสูรที่นั่งบัญชาการอยู่บนหลังมังกรสีดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่ทว่ากลับมีอำนาจยิ่งนัก

“งั้นก็เชิญได้เลย!!”   เบลว่าพลางเรียกอัคคีเวทย์ออกมาแล้วสาดไปยังเป้าหมายทันที

บึ้ม!!   เปลวเพลิงของเบลเข้าปะทะกับสายพลังเวทย์สีดำจนเกิดการระเบิดดังขึ้นกึกก้องแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

“ไม่ได้ผลหรอก    ต้องฉันเอง”    นีโอเอ่ยพลางรวบรวมสมาธิเพื่อกระทำบางสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะได้ผลที่สุด      สองแขนกางออกพร้อมกับแสงสว่างสีขาวจ้ากำลังแผ่ขยายออกมาจากร่างของนีโออย่างมากมายไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“อ๊าคคคค”   เสียงร้องของอสูรที่อยู่ในรัศมีของแสงนั่นดังขึ้นพร้อมกับร่างของมันที่สลายหายไปในพริบตาไม่เว้นแม้แต่แม่ทับอสูรที่ต้องกางบาเรียสีดำกั้นแสงสว่างสีขาวจ้าของนีโอไว้เช่นกัน

“พวกเจ้าทำตามข้าเร็ว”    แม่ทัพอสูรเอ่ยบัญชาการลูกน้องจนเหล่าอสูรหันมาเป็นฝ่ายตั้งรับเกือบจะทั้งหมดแล้ว

“นี่เขาทำอะไรเนี่ย?”    บ๊อบเอ่ยอย่างตะลึงเมื่อเห็นร่างของนีโอสว่างจ้าราวกับเป็นแหล่งกำเนิดแสงแล้วเปล่งแสงขาวสว่างออกมาไปทั่วทั้งสมรภูมิรบ

“หมอนี่เป็นพวกธาตุแสงน่ะ     นี่ก็คงเป็นเวทย์แสงขั้นสูงที่น้อยคนนักจะสามารถใช้ได้     ฉันว่ารีบชิงลงมือเหอะก่อนที่นีโอจะไม่ไหวนะ”   ดัชเอ่ยดึงสติเพื่อนเมื่อสังเกตเห็นอาการของนีโอว่าสีหน้าของนีโอนั้นกำลังซีดเพราะใช้พลังเวทย์เกินกำลังพร้อมกับที่ตนเองหันมาใช้เวทย์แสงบ้างแม้ว่าจะไม่ใช้ทางของตนก็ตามที     ก้อนพลังสีขาวสว่างขนาดย่อมถูกเรียกออกมาไว้ในสองฝ่ามือก่อนที่ดัชจะจัดการส่งมันไปยังอสูรที่อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด       ทันทีที่มันเข้าปะทะกับอสูรที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในบาเรียสีดำราวกับตัวอ่อนกำลังเข้าดักแด้อยู่นั้นมันก็ระเบิดร่างของเจ้าอสูรร้ายตัวนั้นจะแหลกกระจายทันที

“ได้ผล!!   คุณบ๊อบรีบพาคนของคุณออกจากพื้นที่เลยครับ   ทางนี้พวเรารับมือเอง”    มาร์ตินเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นบ๊อบและเหล่าชายฉกรรจ์เริ่มอพยพคนของพวกเขาไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้วจากนั้นจึงเริ่มลงมือบ้างเช่นกันกับเบลที่ผสานเวทย์แห่งแสงไว้ที่ปลายดาบแล้วไล่ฟาดฟันใส่เหล่าอสูรอย่างไม่ยั้งจนเพียงแค่ครู่เดียวเหล่าอสูรก็ลดจำนวนเบาบางลงไปมากแต่ทว่า…

“อึก!!”   ลูกดอกปริศนาที่ทำจากไม้พุ่งตรงมายังร่างของนีโอโดยที่เจ้าตัวไม่ได้กางเวทย์ป้องกันตัวไว้ก่อนจึงส่งผลให้ร่างนั้นล้มฟุบลงพร้อมกับแสงสว่างทั้งหมดนั้นสลายหายไปทันที

“แกพลาดแล้วล่ะที่ไม่ระวังหลัง    รัตติกาลเวทย์เข้าถึงและทำอะไรแกไม่ได้แต่สำหรับธาตุไม้… หึหึ”   ร่างของเด็กสาวปรากฏกายขึ้นพร้อมกับชายวัยกลางคนหน้าตาเหี้ยมเกรียมที่มีผ้าดำคาดปิดตาไว้ข้างหนึ่งกำลังแสยะยิ้มอย่างพอใจ

“นีโอ!!”   เบลเอ่ยออกมาอย่างตกใจพร้อมกับวิ่งเข้าประคองร่างของเพื่อนทันทีเมื่อจู่ๆ แสงสว่างสีขาวที่เกิดจากนีโอนั้นดับวูบลงและเมื่อหันไปมองยังจุดกำเนิดแสงนั่นก็ต้องตกใจเมื่อเพื่อนรักของเขากำลังฟุบลงกองกับพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงกำลังไหลนองพื้น    

“นายเป็นอย่างไรบ้าง  ไหวมั๊ย?”   เบลเขย่าร่างเพื่อนพร้อมเอ่ยถามเสียงสั่นรัวแต่ด้วยการใช้เวทย์ที่เกินขีดจำกัดแต่แรกและยังเสียเลือดอีกจึงทำให้ร่างของนีโอซีดเซียวไร้ซึ่งการตอบรับใดๆจากเบล

“พวกคุณไหวมั๊ย?   ผมมาช่วยแล้ว”    บ๊อบที่ย้อนกลับมาเอ่ยถามไถ่หลังจากที่เห็นเหตุการณ์พอดี

“คุณกลับมาทำไมแล้วทางนั้นใครจะดูแลคนของคุณล่ะ?”    มาร์ตินเอ่ยถามเพราะไม่เข้าใจที่ชายผู้นำของหมู่บ้านและพวกอีกสามคนย้อนกลับมาหาพวกเขาทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้แล้ว

“พวกเราคิดว่าเราควรกลับมาช่วยพวกคุณ      อีกอย่างคนของเราที่เหลือปลอดภัยแล้วล่ะ”    บ๊อบเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ขอบคุณแต่เกรงว่าเราจะทำให้พวกคุณต้องเสี่ยงไปกับเราด้วย”   ดัชเอ่ย

“พวกคุณต่างหากที่ต้องมาเสี่ยงเพื่อพวกเรา”   หนึ่งในสมาชิกของหมู่บ้านที่ย้อนกลับมาเอ่ย      ขณะเหล่ากองทัพอสูรที่เหลือกลับมาสู่สภาวะปกติเรียบร้อยหมดแล้วถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่าตอนแรกแต่ก็ยังมากเกินกว่าที่คนไม่กี่คนจะรับมือได้

“เตรียมตัวตายตามเพื่อนแกได้แล้ว ฮ่าๆๆ”   เมอร์ดอร์ฟเอ่ยอย่างมั่นใจ

ครืนนนน..   ทั้งพายุและเมฆฝนดำทะมึนเคลื่อนเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ     เหล่าอสูรบินร่อนไปทั่วท้องฟ้าพร้อมกับหมอกควันสีดำลอยเข้าโอบล้อมไปทั่ว

“ตะวันลับขอบฟ้าแล้วนี่ยังเจอกับพายุอีก    เราเสียเปรียบพวกมันแน่”    บ๊อบเอ่ยเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเสียเปรียบ

ซ่า….   และจู่ๆ ฝนก็กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตานั่นยิ่งทำให้เบลหงุดหงิดเข้าไปอีก

“ให้ตายเถอะ   ฉันไม่ชอบน้ำเอาซะเลย!!”    เบลบ่นเพราะเขารู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้เข้าไม่สามารถใช้เวทย์สายถนัดของเขาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง     และเหมือนกับว่าเมอร์ดอร์ฟจะรู้ทันเพราะเมื่อฝนกระหน่ำลงมาก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้แก่ฝั่งของตนไม่น้อย

“จัดการมันแม่ทัพอสูร!!”   สิ้นคำของเมอร์ดอร์ฟแม่ทัพอสูรก็พุ่งเข้าใส่ทันทีพร้อมกับที่มาร์ตินเลือกที่จะรับมือกับแม่ทัพอสูรเช่นกัน     ส่วนเบลก็เข้าจู่โจมเมอร์ดอร์ฟโดยไม่รีรอ

“นี่เป็นกริชเงินที่สามารถกำจัดพวกอสูรได้     แต่ต้องใช้ระยะประชิดตัวพวกคุณถนัดมั๊ย?”

“สบายมาก   ขอบคุณครับ”    ชายฉกรรจ์ทั้งสามรับกริชจากดัชมาไว้ในมือพอมกล่าวขอบบบคคคุณก่อนจะเริ่มประจัญบานกับกองทัพอสูรอีกครั้ง

“ที่นี้ก็เหลือแค่นายกะฉันสินะ”   นากี้เอ่ยหลังจากยืนรอดูคู่ต่อสู้มาแต่แรก

“ถ้าไม่ชอบใจกันฉันจะรีบจบเกมนี้เอง!!”    ดัชกล่าวพลางเรียกดาบออกมาไว้ในมือพร้อมกับแววตาเอาเรื่อง

“ย๊ากกกก”

                                                             ……………………………………………..

 

“ไวกว่านี้ได้มั๊ยฮันนี่”   เซฟานี่เอ่ยขณะนั่งกอดเอวของฮันนี่

“ไม้กวาดนะถึงจะเป็นของวิเศษของเหล่าแม่มดแต่ก็ไม่ได้วิเศษดังสัตว์เวทย์ชั้นสูงนี่จะให้ไวปานไหนล่ะเซ”    ฮันนี่ว่าพลางกลั้วหัวเราะที่เห็นอาการใจร้อนของเพื่อนใหม่ที่แม้ว่าจะกลัวความสูงในตอนแรกที่เธอพานั่งไม้กวาด     แต่พอนานไปเพียงครู่เดียวเซฟานี่ก็หายกลัวแล้วยังเอ่ยปากเร่งความเร็วกับเธอมาตลอดทาง

“นี่ฉันเป็นห่วงพวกนั้นนะ     กลัวว่าจะรับมืออสูรไม่ไหว”

“เธออยากไปไวกว่านี้มั๊ยล่ะ?    ฉันมีวิธี”   ฮันนี่เอ่ยพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ยังไง?”   สิ้นคำถามของเซฮันนี่ก็เรียกไม้กวาดมาไว้ในมืออีกอันแล้วส่งให้เซฟานี่

“อ่ะ   ให้ยืมใช้อันนึง    บางทีเราแยกกันน่าจะไปได้ไวกว่านี้นะ ฮ่าๆๆ”   ฮันนี่หัวเราะเสียงใส

“ฉันใช้ไม่เป็นนะฮันนี่      ถ้าเกิดพลาดตกลงไปล่ะ?”   เซฟานี่ถามแต่ก็รับไม้กวาดมาไว้ในมือแต่โดยดี

“มันไม่ปล่อยให้เธอตกหรอกหน่า    ก็เหมือนเวลาเธอขี่มังกรหรือสัตว์เวทย์อื่นๆ แหละเพราะมันรับคำสั่งและฟังภาษาเรารู้เรื่องนะ   อ่ะลองดู”    ฮันนี่เอ่ยยืนยันหนักแน่นจนเซฟานี่ยอมทำตาม     เมื่อเปลี่ยนไม้กวาดมาเป็นหนึ่งต่อหนึ่งก็ปรากฏว่าสามารถเดินทางได้เร็วกว่าตอนแรกจริงๆ จนเซฟานี่อดที่จะตกใจในความเร็วที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วไม่ได้

“กรี๊ดดดด”    เสียงร้องอย่างตกใจของเซฟานี่เรียกเสียงหัวเราะจากฮันนี่ได้เป็นอย่างดี

“เร็วสมใจเธอยังละเซ  วู้ววว  ฮ่าๆๆ”

“รู้งี้ฉันไปกับเซและเจด้าแต่แรกดีกว่า  โธ่” เซฟานี่บ่นหลังจากเริ่มตั้งสติได้

“สองคนนั่นใช้เวทย์ลมของเจด้าในการเดินทาง    ถ้าเธอไปด้วยเจด้าจะต้องใช้พลังเวทย์ในการเดินทางหนักเข้าไปอีกนะ     มากับฉันนี่แหละดีแล้ว  คิคิ”

“อ๊ะ!!  ข้างหน้ามีพายุฝน    อย่าห่างจากฉันนะเดี๋ยวจะหลงกัน”    ฮันนี่เอ่ยอีกครั้งเมื่อเห็นว่าบัดนี้สายฝนเริ่มเข้าปะทะกับร่างของเธอสองคนแล้ว

“เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกางบาเรียซะจะได้ไม่เปียก”    เซฟานี่เอ่ยพร้อมกับเรียกวารีเวทย์ออกมากางเป็นบาเรียหุ้มร่างของตนไว้กันการปะทะกับสายฝนที่กำลังจะเผชิญ

“ฉันทำไม่เป็น”   ฮันนี่ตอบแทบจะทันที

“ห๊ะ!!  เธอพูดจริงหรอ?”   เซฟานี่ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“อืม    เธอก็สอนฉันสิจะได้เป็นซักที”   

“ไม่ทันแล้วมั้ง   มานี่!!”   เอ่ยจบเซฟานี่ก็เอื้อมมือไปดึงแขนของฮันนี่เข้ามาข้างๆ ตนและนั่นหมายถึงบัดนี้บาเรียของเธอห่อหุ้มร่างของทั้งสองไว้เรียบร้อยแล้ว

 

ทางด้านของเชและเจด้า

“ข้างหน้านั่นอะไรน่ะ?    พวกมันใช่มั๊ย?”    เจด้าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าของเธอบัดนี้มีสิ่งมีชีวิตสีดำบางสิ่งกำลังบินร่อนอยู่เต็มฟากฟ้าไปหมด       อีกทั้งจิตสังหารและไอเวทย์แห่งเวทย์มืดที่รุนแรงชัดเจนกำลังแผ่ขยายไปทั่วบริเวณนั้นสามารถบ่งบอกบางอย่างได้เป็นอย่างดี

“สงสัยเราจะมาถึงแล้วล่ะ     น่าจะทันได้ออกแรงนะ  หึหึ”   เชเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มเบาๆ

“แสดงว่าเรามาถึงก่อนเซและฮันนี่สินะ”   เจด้าเอ่ยถึงเพื่อนทั้งสอง

“มาก่อนก็เริ่มก่อนไง    หวังว่าพวกนั้นคงยังไม่เละคามือพวกมันไปซะก่อนนะ!!”

                  …………….........................................................................................………………………………….......................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา