Twin แฝดเลือดผสม
8.0
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
31.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) เผ่าพันธุ์ที่สาบสูญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเผ่าพันธุ์ที่สาบสูญ
“คุณชินแน่ใจใช่มั๊ยครับว่าพวกนั้นอยู่ที่เมืองแม่มด?” พอลเอ่ยถามเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดังแก้วตาดวงใจของนายท่าน เด็กคนนี้แรกเริ่มก็มีสถานะไม่ต่างจากพวกเขาคือ เด็กที่นายท่านเก็บมาเลี้ยง แต่ด้วยความสามารถและความสำคัญของเด็กคนนี้ที่มีอยู่มาก อีกทั้งนายท่านก็เมตตาและเอ็นดูกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้เด็กคนนี้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าพวกเขา หากแต่เด็กคนนี้วางตัวได้แตกต่างจากทุกๆ คนอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยเกเรหรือลำลายชีวิตใดๆ ในเกรย์โซนเลยแม้แต่ชีวิตเดียว …แม้แต่สายตาเย็นชาแบบนี้ก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน
“มีบางอย่างบอกข้าว่าพวกมันอยู่ที่นั่น” ชินตอบเสียงเย็น
“แล้วคุณชินมีแผนการอย่างไรครับ” จีเอ่ยถามเพราะอยากรู้
“ไม่ต้องมีแผนการใดๆ หรอก บุกไปให้รู้เรื่องเลย” ชินเอ่ยอย่างมั่นใจในตนเองสูง
“ครับ จากความสามารถของคุณชิน ผมว่าต่อให้ไปแบบไม่มีแผนก็สามารถจัดการได้อย่างสบายอยู่แล้ว หึหึ” จีเอ่ยพลางหัวเราะชอบใจในความบ้าบิ่นของชินที่ไม่เคยฉายแววออกมาเลยตั้งแต่รู้จักกันมา
“แต่ผมว่างานนี้เราดักรอหน้าประตูมิติดีกว่าครับ เพราะพวกพ่อมดแม่มดไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปแน่ๆ” พอลเอ่ยเสนอ
“นั่นสิครับคุณชิน” จีเอ่ยสนับสนุน ชินเองก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“งั้นตกลงตามนั้น เราจะดักรอพวกมันหน้าประตูมิติของเมืองแม่มด” กล่าวจบก็ปลีกตัวเดินออกไปอีกทางปล่อยให้เด็กทั้งสามที่เหลืออดที่จะซุบซิบตามหลังไม่ได้
“ไม่น่าเชื่อว่าพันธะสัญญาจะเปลี่ยนคุณชินไปได้ถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีสายตาเย็นชาแบบนี้ให้เห็นมาก่อนเลย”
“นอกจากพันธะสัญญานั่นจะผูกมัดชีวิตแล้วมันยังล้างจิตสำนึกและความคิดของเขาอีก ตอนนี้คุณชินไม่ต่างอะไรจากจักรกลที่นายท่านสามารถสั่งและบงการได้ทุกอย่างโดยที่ไม่มีความคิดและจิตสำนึกของเจ้าตัวมาเกี่ยวเลย” พอลเอ่ย
“คุณชินคนที่สุภาพอ่อนโยนหายไปแล้ว ฉันว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ากลัวมาก หากเทียบกับอีกคนที่เจอมาหมอนั่นไม่ได้ครึ่งของคุณชินแน่ๆ” นากี้บ่นเมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยนที่เขารู้จักบัดนี้ไม่มีคนเดิมนั้นแล้ว พันธะสัญญาที่นายท่านพวกเขาทำไว้สามารถเปลี่ยนเด็กผู้ชายหน้าตาดีให้กลายเป็นเด็กผู้ชายอีกคนที่แสนจะเย็นชาและน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“แต่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว คุณชินคนเก่าแม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยใช้ความสามารถนั้นเลย เสียดายของเปล่าๆ” จีเอ่ยแย้ง
“สรุปว่าสีตาที่เปลี่ยนจากเทาเป็นดำนั่นแสดงว่าคุณชินอยู่ภายใต้พันธะสัญญาของนายท่าน แผลเป็นที่น่าเกลียดบนหน้าเกิดจากการสร้างพันธะสัญญาและฝังโลหิตของนายท่านไว้ในนั้นสินะ” นากี้เอ่ยในสิ่งที่คาดคะเนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง
“หมดหล่อเลยคุณชิน ตอนนี้หน้าตาน่าเกลียดจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว”
“ไปเถอะ คุณชินกำลังจะเดินทางแล้ว” พอลเอ่ยเตือนเพื่อนทั้งสองก่อนที่ทุกคนจะเดินตามชินไป
………………………………………
“เธอเป็นใคร?” ชายน์เอ่ยถามเด็กผู้หญิงที่เขากำลังคว้าข้อมือไว้ แต่ร่างของเด็กนั่นกลับยืนตะลึงนิ่ง
“แล้วที่นี่ที่ไหน?” อีกคำถามที่ส่งไปแต่คราวนี้ร่างของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาเริ่มมีสติแล้วจึงเอ่ยตอบคำถามนั้นอย่างตะกุกตะกัก
“ที่นี่ เอ่ออ เมืองแม่มดน่ะ” กล่าวจบก็รีบชักมือกลับแล้ววิ่งออกนอกห้องทันที
“ตอนหลับว่าดูดีแล้ว พอตื่นแล้วดียิ่งกว่าอีก เสียงก็นุ่มน่าฟัง โอ้ยย เขิน!!” ฮันนี่ยืนบ่นพึมพรำกับตัวเองแต่สีหน้านั่นกลับแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด
“เมืองแม่มดหรือ แล้วเดวี่กับแดร์ดราก้อนล่ะ?” ชายน์ที่เริ่มได้สติแล้วกำลังนอนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาพร้อมกับร้องเรียกหาใครบางคน
‘ชิน ได้ยินฉันมั๊ย?’
‘ตอบฉันหน่อยชิน ยังอยู่กับฉันหรือเปล่า?’ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมานอกจากความรู้สึกที่ว่างเปล่าที่ชายน์สัมผัสได้ว่าชินไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว
“นายหายไปไหนอ่ะชิน? ” ชายน์บ่นออกมากับตัวเองในที่สุด
“ใครไปไหนหรือชายน์?” แดร์ดราก้อนเอ่ยหลังจากเดินเข้ามาแล้วเห็นว่าชายน์ฟื้นแล้วพร้อมกับนอนบ่นอยู่คนเดียว
“คู่หูของชายน์เขาหนะครับ” เดวี่กล่าวเสริมพร้อมเดินตามเข้ามา
“ว่าแต่ นายไหวนะชายน์?” เดวี่ถามพลางเดินเข้ามาดูอาการ
“ฉันไหว ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน?” ชายน์ยังคงสงสัย
“เมืองแม่มด พอดีนายโดนดาบอาบยาพิษของนักดาบสองคนนั่น แล้วฉันคิดว่าเพื่อนฉันน่าจะช่วยนายได้เลยพามานี่ไง” แดร์ดราก้อนร่ายยาว
“ขอบคุณครับ ว่าแต่เพื่อนคุณอยู่ไหนล่ะครับ? ผมจะได้ไปขอบคุณเขา”
“เอาให้ลุกไหวก่อนแล้วจะพาไปนะ ฮ่าๆๆ” แดร์ดราก้อนเอ่ยพลางหัวเราะลั่นแต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อชายน์สามารถลุกขึ้นนั่งได้แม้จะไม่ทันทีทันใดก็ตาม
“เห้ย ฉันพูดเล่น นายแข็งแรงขนาดนี้เลยหรอ?” แดร์ดราก้อนถามด้วยน้ำเสียงอันตกใจ
“ทีนี้จะพาฉันไปหาเขาได้ยัง?” ชายน์ถามพลางยักคิ้วให้อย่างท้าทาย
“ฮ่าๆๆ สมกับเป็นนายจริงๆ เล้ยย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ นายก็ยังเป็นนายไม่เปลี่ยนแปลง” แดร์คราก้อนหัวเราะชอบใจพร้อมกับเข้าช่วยพยุงชายน์
“น่าจะรอให้แข็งแรงดีกว่านี้ก่อนนะ เรื่องขอบคุณฉันนี่ไม่ต้องรีบก็ได้ ฮ่าๆๆ” บาบาร่าเอ่ยหัวเราะอย่างชอบใจที่เห็นว่าชายน์แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
“จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นายก็คงจะไม่รอดมาถึงมือบาบาร่าได้หรอก ถ้านายจะอึดขนาดนี้ก็ไม่แปลกนะที่จะลุกเดินได้ทันทีที่ฟฟื้น หึหึ” แดร์ดราก้อนเอ่ยเสริม
‘สมกับเป็นผู้พิทักษ์ตามที่แดร์ว่าไว้จริงๆ’ บาบาร่าคิดพลางลอบยิ้มอย่างพอใจ
“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้วครับแต่แค่รูสึกเพลียนิดหน่อย บอกตามตรงว่าผมอยากกลับไปรอแข่งรอบสุดท้ายที่โฮเนอร์แล้ว” ชายน์เอ่ยตามที่ตนกำลังคิดกังวล
“งั้นเอาเป็นว่ารอดูอาการอีกคืน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางก็แล้วกันนะ” บาบาร่ากล่าวตัดบทพร้อมกับแสดงอาการลังเลเพียงชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด
“การแข่งขันรอบสุดท้ายจะตรงกับวันสำคัญของแกรนน่าด้วยสินะ ฉันคิดว่าเธอควรจะมีอะไรใหม่ๆไปรับมือนะชายน์” คำกล่าวของบาบาร่าสร้างความงุนงงสงสัยให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่แดร์ดราก้อน
“ยังไงรึบาบาร่า อย่าบอกนะว่าเธอจะสอนคาถาของแม่มดให้ชายน์” แดร์ดราก้อนเอ่ยดักคอ
“ฉันล่ะเบื่อนายก็ตรงที่ชอบรู้ทันฉันตลอดนี่แหละแดร์ ชิ!” บาบาร่าเอ่ยพลางสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจจนเรียกเสียงหัวเราะจากแดร์ดราก้อนได้เป็นอย่างดี
“ไม่ใช่แค่สอนนะ แต่จะส่งผู้ช่วยไปด้วยเลยแหละ ฮ่าๆๆ” คำตอบของบาบาร่าทำเอาแดร์ดราก้อนหัวเราะชอบใจลั่น
“ฮ่าๆๆๆ หลังจากหลบหายไปสิบกว่าปีงานนี้เผ่าแม่มดพ่อมดถึงกับยอมเปิดเผยตัวอีกครั้งเลยหรือ?”
“หมายความว่าไงครับ?” ชายน์ที่สงสัยในคำพูดของแดร์ดราก้อนเอ่ยถามโดยทันที
“งั้นฉันจะเล่านิทานให้ฟังก็แล้วกัน หึหึ” พรึบ!! บาบาร่าเอ่ยพร้อมกับวาดมือขึ้นกลางอากาศหนึ่งครั้ง ฉับพลันภาพเหตุการณ์หนึ่งก็บังเกิดขึ้นพร้อมกับที่บาบาร่าเริ่มเอื้อนเอ่ยวาจา
“เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ดินแดนแห่งนี้เกิดเหตุความวุ่นวายมากมาย ก็อย่างที่เธอได้รับรู้มาจากวิชาประวิตศาสตร์แกรนน่านั่นแหละ หลายเหตุการ์สร้างความสุญเสียมากมาย เริ่มตั้งแต่กลุ่มกบฏเวทย์มืดเข้ายึดเมืองย่อยๆ ในเกรย์โซน อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายลง จอมเวทย์ออกมาปกป้องเมืองและสละชีพตนเพื่อรักษาสมดุลของแกรนน่าไว้ กษัตริย์แห่งแกรนโซนและครอบครัวถูกลอบปลงพระชนม์และองค์รัชทายาทสาบสูญไป ในขณะที่เกรย์โซนก็วุ่นวายไม่แพ้กันเพราะธิดาของกษัตริย์มีบุตรกับทหารองค์รักษ์แห่งแกรนโซนจนกษัตริย์แห่งเกรย์โซนในตอนนั้นไม่พอใจและนำมาซึ่งเหตุสะเทือนใจ…” กล่าวถึงตรงนี้บาบาร่าก็หันมามองหน้าเดวี่ที่กำลังน่งฟังอยู่เงียบๆ และเมื่อเห็นว่าบาบาร่ากำลังชะงักเพราะเรื่องมาถึงชีวิตของตนเดวี่ก็เพียงแต่พยักหน้าและเอ่ยออกไปเบาๆ
“เชิญเล่าต่อเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไร” เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวอนุญาตบาบาร่าก็เริ่มเอ่ยต่ออีกครั้ง
“กษัตริย์เกรย์โซนขับไล่ธิดาของตนออกจากเกรย์โซนพร้อมถอดยศให้เหลือแค่สามัญชนธรรมดา หลังจากนั้นกษัตริย์เอสเทอร์ในปัจจุบันก็เข้ายึดอำนาจกษัตริย์องค์ก่อน จากนั้นความเปลี่ยนแปลงก็มาเยือนเกรย์โซนและแกรนน่าในที่สุด และพวกเราก็เป็นหนึ่งในหลายๆ เผ่าพันธุ์ที่ไม่อาจอยู่ร่วมกับการปกครองของกษัตริย์เอสเทอร์ได้จึงหลบหนีมาสร้างมิติของเราเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะไม่มีใครสามารถผ่านเข้ามาได้หากเราไม่อนุญาต เรามาตั้งถิ่นฐานที่นี่กว่าสิบปีแล้วโดยที่ไม่ออกไปยุ่งเกี่ยวกับเกรย์โซนเลยจนคนส่วนมากเขาคิดว่าเราโดนล้างเผ่าพันธุ์ไปแล้ว” บาบาร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์ได้ว่าเธอกำลังปวดร้าวกับเรื่องที่พึ่งจะเล่าออกมาไม่น้อย เมื่อเธอหยุดเล่าลงภาพนิมิตนั่นก็หายไปทันที
“สรุปว่าคุณจะส่งคนของคุณออกไปกับเราด้วย เพื่ออะไรครับ?” เดวี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ฉันและพี่น้องของฉันคงไม่อาจทนดูความย่อยยับของแกรนน่าได้ จริงอยู่ว่าคนของฉันอาจช่วยได้ไม่มากเพราะพวกนายฝีมือไม่ธรรมดาแล้ว แต่ฉันก็ตั้งใจว่าจะสอนคาถาของเผ่าเราให้พวกเธอก็เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในภายหน้า”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านจะเมตตาพวกเรา” ชายน์กล่าวพร้อมก้มหัวคำนับบาบาร่า
“แต่มีข้อแม้ข้อหนึ่งนะว่าพวกเธอจะต้องดูแลคนของเราด้วยเช่นกัน ฮ่าๆๆ” บาบาร่าผู้ไม่เคยยอมเสียเปรียบใครเอ่ยหัวเราะลั่น
“หมายความว่าเธอจะส่ง…” แดร์ดราก้อนเอ่ยค้างอย่างไม่มั่นใจในคำตอบของตน บาบาร่าจึงชิงเฉลยคำตอบออกมาก่อน
“ใช่ ฉันจะให้ฮันนี่ บุตรสาวของฉันออกไปกับพวกเธอด้วย”
เพล้ง!!! เสียงแจกันตกดังขึ้นขัดจังหวะจนคนทั้งห้องรับรองหันไปมองยังต้นเสียงที่เป็นเด็กสาวผมดำสลวยกำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่พึ่งจะได้ยิน
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮันนี่?” บาบาร่าถามลูกสาวราบเรียบ
“ท่านแม่พูดจริงหรือค่ะ?” ฮันนี่ที่แอบฟังอยู่ตั้งแต่แรกไม่ตอบคำถามของผู้เป็นแม่หากแต่ตั้งคำถามกลับทันที
“ใช่ เข้ามานี่สิไหนๆ ก็มาแอบฟังแล้ว ว่าแต่ลูกมีอะไรหรือเปล่า?” บาบาร่าถามพลางกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันบุตรสาวตน
“เย้ ท่านแม่คะหนูยินดีและเต็มใจมากเลยค่ะ ฮ่าๆๆ” เด็กสาวยกมือกระโดดดีใจพร้อมโผเข้ากอดผู้เป็นแม่อย่างลิงโลด
“งั้นเอาเป็นว่าผมพร้อมจะเรียนคาถาเวทย์ของคุณบ่ายนี้เลยเพราะผมอยากออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า อีกอย่างผมคิดว่าฮันนี่เขาก็คงใจร้อนไม่แพ้ผม ใช่มั๊ยครับ หึหึ” ท้ายประโยคชายน์หันไปเอ่ยกับฮันนี่พร้อมกับส่งสายตาให้จนฮันนี่หน้าแดงอย่างชัดเจน
“ฮ่าๆๆ ถ้าเธอไหวฉันก็พร้อมนะชายน์ บ่ายนี้เจอกันที่สนามหญ้าหลังคฤหาสน์นะ” กล่าวจบการพูดคุยก็เริ่มขึ้นอย่างครึกครื้น …นานเท่าไหร่แล้วที่เมืองนี้ไม่มีแขกมาเยือน
เช้าวันต่อมา….
“อย่าดื้ออย่าซนนะฮันนี่ ถ้าชายน์และเดวี่เขารายงานแม่มาว่าลูกนิสัยไม่ดีแม่จะเรียกตัวลูกกลับทันที”
“โหยยย ท่านแม่ย้ำลูกมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะคะ ลูกสัญญาว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งของชายน์และเดวี่อย่างเคร่งคัดเลยนะคะ” ฮันนี่เอ่ยพลางหันไปหัวเราะชอบใจกับชายน์และเดวี่หลังจากที่เธอและบาบาร่าช่วยกันสอนคาถาเวทย์ให้กับชายน์และเดวี่จนเป็นที่น่าพอใจและนั่นก็ทำให้ระหว่างเธอและชายน์เข้ากันได้ดีกว่าตอนแรก ส่วนเดวี่นั้นก็นิ่งเงียบตามแบบฉบับจนฮันนี่อดคิดไม่ได้ว่าหมอนี่คงไม่พอใจที่เขาสนิทกับชายน์แน่ๆ
“ขอบคุณนะบาบาร่าสำหรับความช่วยเหลือและการต้อนรับที่ดี แต่ตอนนี้ได้เวลาแล้วล่ะ” แดร์ดราก้อนเอ่ย
“อย่าลืมนะชายน์ เดวี่ ใช้สิ่งที่เราให้อย่างรอบคอบ เพราะมันเป็นทั้งคุณและโทษ”
“ครับคุณบาบาร่า เราสองคนจะคิดให้มากหากถึงเวลานั้นจริงๆ” ชายน์เอ่ย
“ฝากดูฮันนี่ด้วยนะเดวี่ เพราะยังไงฮันนี่ก็ประชาชนของเกรย์โซนคนนึง และเธอก็คือกษัตริย์ของที่นี่” บาบาร่ายิ้มให้เดวี่และเช่นกันที่เดวี่ยิ้มตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน
“ผมไม่ทิ้งคนของผมแน่ คุณบาบาร่า” เดวี่รับปากอย่างหนักแน่นจนบาบาร่ายิ้มออกมาอีกครั้ง
“ไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูมิติหน่อยฟาราโด้ แล้วจัดการให้เรียบร้อยนะ” บาบาร่าเอ่ยกำชับกับคนของตนในระหว่างที่เด็กๆ กำลังออกเดินทาง
“ครับท่านบาบาร่า” ฟาราโด้รับคำก่อนจะตามกลุ่มของเด็กๆ ออกไปจากคฤหาสน์ของบาบาร่า
“ชะตาของแกรนน่าอยู่กับท่านแล้วนะ ผู้พิทักษ์ ส่วนเกรย์โซนจะเป็นไปในทิศทางใดก็ขึ้นอยู่กับท่านเช่นกันเจ้าชายเดวี่”บาบาร่าเอ่ยอย่างมีความหวัง
………………………………………………………………
“สรุปว่าตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยออกจากมิตินี้เลยหรือฮันนี่?” ชายน์เอ่ยถามขณะออกเดินทาง
“เคยครั้งเดียว แต่แอบท่านแม่ออกไปนะ จากนั้นก็โดนทำโทษและไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่อีกเลย”
“แล้วทุกคนที่นี่จะอยู่กันแบบนี้ตลอดไปหรือ” เดวี่ถามอย่างอดห่วงไม่ได้
“ไม่หรอก ท่านแม่บอกว่าวันนึงจะมีกษัตริย์มาเยือนเมืองเรา และวันนึงเราจะต้องออกไปช่วยพวกเขาและสุดท้ายเราจะออกไปใช้ชีวิตปกติบนผืนแผ่นดินเดิมของเรา”
“นอกจากเผ่าพ่อมดแม่มดแล้วยังมีเผ่าพันธุ์อื่นอีกมั๊ยที่หลบซ่อนแบบนี้อ่ะ” เดวี่หันไปถามกับฟาราโด้
“ก็มีครับ จริงๆ พวกแวร์วูฟบางเผ่าที่เราคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วก็ยังคงหลบซ่อนอยู่ พวกแวมไพร์และปิศาจที่ดีก็ยังหลงเหลือแต่ส่วนมากจะตกเป็นพวกของเวทย์มืดไปเกือบหมดแล้วล่ะ”
“เผ่าพันธุ์มังกรก็ยังไม่สูญพันธุ์นะ ทั้งมังกรเพลิง มังกรวารี มังกรวาโยและมังกรรัตติกาล เพียงแต่พวกเรามีที่ที่สามารถหลบซ่อนได้เป็นอย่างดีก็เท่านั้น ฮ่าๆๆ” แดร์ดราก้อนเอ่ยแทรกขึ้นมา
“เอาละครับ ทะลุแนวป่านี่ไปก็คนละมิติกันแล้ว เอาเป็นว่าพวกท่านเดินทางดีๆ นะครับท่านแดร์ดราก้อน เจ้าชาย คุณชายน์และคุณหนู” ฟาราโด้เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แต่เมื่อคณะเดินทางเดินพ้นแนวป่าออกไปฟาราโด้ก็ยังคงเดินตามออกไปด้วยจนชายน์ที่หันมาเห็นก็สงสัยและอดที่จะถามออกมาไม่ได้
“อ่าว คุณฟาราโด้ ผมไม่คิดว่าคุณจะออกมาส่งถึงด้านนอกนี่ เอ้… มีอะไรพิเศษหรือเป่าครับ?”
“ผมจะตามมาบอกว่ามีคนรอต้อนรับอยู่ด้านนอกนี้ ยังไงถ้าร้อนวิชาก็ลองได้นะครับ คาถาเวทย์ของพ่อมดแม่มดไม่เป็นรองเวทย์สายอื่นๆ อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ” กล่าวจบก็ถอยหลังกลับสู่ประตูมิติของดินแดนตนพร้อมกับประตูมิตินั่นก็หายวับไปอันเป็นสัญญาณว่าฟาราโด้ทำหน้าที่ตามที่บาบาร่าสั่งเรียบร้อยแล้ว
“บาบาร่าสั่งให้เขามาเตือนเราและปิดประตูให้มิดชิด ตอนนี้เขาทำหน้าที่เขาเรียบร้อยแล้วล่ะ หึหึ” แดร์ดราก้อนเอ่ย
“แล้วไหนล่ะ คนที่จะมาต้อนรับเรา” ฮันนี่ถามอย่างตื่นเต้น
ฟิ้ววว ฉึก!! เสียงดอกธนูนับสิบพุ่งแหวกอากาศมายังตำแหน่งที่บุคคลทั้งสี่กำลังยืนอยู่แต่ด้วยสัญชาตญาณและการระวังตัวอยู่ก่อนแล้วทำให้ทั้งสี่สามารถหลบวิถีการโจมตีนั่นได้อย่างสบาย
“ลอบกัดชัดๆ!!” ชายน์สบถขณะกระโดดหลบทั้งลูกดอกธนูและลูกบอลสีดำนับสิบที่ต่างมุ่งโจมตีเขามากกว่าคนอื่นๆ จนชายน์ต้องเรียกรัตติกาลเวทย์มาสร้างเป็นกำแพงป้องกันตัวเองไว้ ฉับพลันเบื้องหน้าของคนทั้งสี่ก็ปรากฏวงแหวนสีดำขึ้นพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มผมเงินที่ชายน์นั้นสัมผัสได้ว่าแสนจะคุ้นเคย
“ออกมาแล้วสินะ หึหึ” เด็กหนุ่มผมเงินหน้าตาละม้ายกับชายน์เอ่ย หากแต่แผลเป็นขนาดใหญ่และดวงตาสีดำแข็งทื่อไร้แววนั้นกลับทำให้หมอนี่ดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก
...........................................................................................................................................................................................
“คุณชินแน่ใจใช่มั๊ยครับว่าพวกนั้นอยู่ที่เมืองแม่มด?” พอลเอ่ยถามเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดังแก้วตาดวงใจของนายท่าน เด็กคนนี้แรกเริ่มก็มีสถานะไม่ต่างจากพวกเขาคือ เด็กที่นายท่านเก็บมาเลี้ยง แต่ด้วยความสามารถและความสำคัญของเด็กคนนี้ที่มีอยู่มาก อีกทั้งนายท่านก็เมตตาและเอ็นดูกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้เด็กคนนี้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าพวกเขา หากแต่เด็กคนนี้วางตัวได้แตกต่างจากทุกๆ คนอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยเกเรหรือลำลายชีวิตใดๆ ในเกรย์โซนเลยแม้แต่ชีวิตเดียว …แม้แต่สายตาเย็นชาแบบนี้ก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน
“มีบางอย่างบอกข้าว่าพวกมันอยู่ที่นั่น” ชินตอบเสียงเย็น
“แล้วคุณชินมีแผนการอย่างไรครับ” จีเอ่ยถามเพราะอยากรู้
“ไม่ต้องมีแผนการใดๆ หรอก บุกไปให้รู้เรื่องเลย” ชินเอ่ยอย่างมั่นใจในตนเองสูง
“ครับ จากความสามารถของคุณชิน ผมว่าต่อให้ไปแบบไม่มีแผนก็สามารถจัดการได้อย่างสบายอยู่แล้ว หึหึ” จีเอ่ยพลางหัวเราะชอบใจในความบ้าบิ่นของชินที่ไม่เคยฉายแววออกมาเลยตั้งแต่รู้จักกันมา
“แต่ผมว่างานนี้เราดักรอหน้าประตูมิติดีกว่าครับ เพราะพวกพ่อมดแม่มดไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปแน่ๆ” พอลเอ่ยเสนอ
“นั่นสิครับคุณชิน” จีเอ่ยสนับสนุน ชินเองก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“งั้นตกลงตามนั้น เราจะดักรอพวกมันหน้าประตูมิติของเมืองแม่มด” กล่าวจบก็ปลีกตัวเดินออกไปอีกทางปล่อยให้เด็กทั้งสามที่เหลืออดที่จะซุบซิบตามหลังไม่ได้
“ไม่น่าเชื่อว่าพันธะสัญญาจะเปลี่ยนคุณชินไปได้ถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีสายตาเย็นชาแบบนี้ให้เห็นมาก่อนเลย”
“นอกจากพันธะสัญญานั่นจะผูกมัดชีวิตแล้วมันยังล้างจิตสำนึกและความคิดของเขาอีก ตอนนี้คุณชินไม่ต่างอะไรจากจักรกลที่นายท่านสามารถสั่งและบงการได้ทุกอย่างโดยที่ไม่มีความคิดและจิตสำนึกของเจ้าตัวมาเกี่ยวเลย” พอลเอ่ย
“คุณชินคนที่สุภาพอ่อนโยนหายไปแล้ว ฉันว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ากลัวมาก หากเทียบกับอีกคนที่เจอมาหมอนั่นไม่ได้ครึ่งของคุณชินแน่ๆ” นากี้บ่นเมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยนที่เขารู้จักบัดนี้ไม่มีคนเดิมนั้นแล้ว พันธะสัญญาที่นายท่านพวกเขาทำไว้สามารถเปลี่ยนเด็กผู้ชายหน้าตาดีให้กลายเป็นเด็กผู้ชายอีกคนที่แสนจะเย็นชาและน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“แต่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว คุณชินคนเก่าแม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยใช้ความสามารถนั้นเลย เสียดายของเปล่าๆ” จีเอ่ยแย้ง
“สรุปว่าสีตาที่เปลี่ยนจากเทาเป็นดำนั่นแสดงว่าคุณชินอยู่ภายใต้พันธะสัญญาของนายท่าน แผลเป็นที่น่าเกลียดบนหน้าเกิดจากการสร้างพันธะสัญญาและฝังโลหิตของนายท่านไว้ในนั้นสินะ” นากี้เอ่ยในสิ่งที่คาดคะเนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง
“หมดหล่อเลยคุณชิน ตอนนี้หน้าตาน่าเกลียดจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว”
“ไปเถอะ คุณชินกำลังจะเดินทางแล้ว” พอลเอ่ยเตือนเพื่อนทั้งสองก่อนที่ทุกคนจะเดินตามชินไป
………………………………………
“เธอเป็นใคร?” ชายน์เอ่ยถามเด็กผู้หญิงที่เขากำลังคว้าข้อมือไว้ แต่ร่างของเด็กนั่นกลับยืนตะลึงนิ่ง
“แล้วที่นี่ที่ไหน?” อีกคำถามที่ส่งไปแต่คราวนี้ร่างของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาเริ่มมีสติแล้วจึงเอ่ยตอบคำถามนั้นอย่างตะกุกตะกัก
“ที่นี่ เอ่ออ เมืองแม่มดน่ะ” กล่าวจบก็รีบชักมือกลับแล้ววิ่งออกนอกห้องทันที
“ตอนหลับว่าดูดีแล้ว พอตื่นแล้วดียิ่งกว่าอีก เสียงก็นุ่มน่าฟัง โอ้ยย เขิน!!” ฮันนี่ยืนบ่นพึมพรำกับตัวเองแต่สีหน้านั่นกลับแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด
“เมืองแม่มดหรือ แล้วเดวี่กับแดร์ดราก้อนล่ะ?” ชายน์ที่เริ่มได้สติแล้วกำลังนอนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาพร้อมกับร้องเรียกหาใครบางคน
‘ชิน ได้ยินฉันมั๊ย?’
‘ตอบฉันหน่อยชิน ยังอยู่กับฉันหรือเปล่า?’ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมานอกจากความรู้สึกที่ว่างเปล่าที่ชายน์สัมผัสได้ว่าชินไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว
“นายหายไปไหนอ่ะชิน? ” ชายน์บ่นออกมากับตัวเองในที่สุด
“ใครไปไหนหรือชายน์?” แดร์ดราก้อนเอ่ยหลังจากเดินเข้ามาแล้วเห็นว่าชายน์ฟื้นแล้วพร้อมกับนอนบ่นอยู่คนเดียว
“คู่หูของชายน์เขาหนะครับ” เดวี่กล่าวเสริมพร้อมเดินตามเข้ามา
“ว่าแต่ นายไหวนะชายน์?” เดวี่ถามพลางเดินเข้ามาดูอาการ
“ฉันไหว ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน?” ชายน์ยังคงสงสัย
“เมืองแม่มด พอดีนายโดนดาบอาบยาพิษของนักดาบสองคนนั่น แล้วฉันคิดว่าเพื่อนฉันน่าจะช่วยนายได้เลยพามานี่ไง” แดร์ดราก้อนร่ายยาว
“ขอบคุณครับ ว่าแต่เพื่อนคุณอยู่ไหนล่ะครับ? ผมจะได้ไปขอบคุณเขา”
“เอาให้ลุกไหวก่อนแล้วจะพาไปนะ ฮ่าๆๆ” แดร์ดราก้อนเอ่ยพลางหัวเราะลั่นแต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อชายน์สามารถลุกขึ้นนั่งได้แม้จะไม่ทันทีทันใดก็ตาม
“เห้ย ฉันพูดเล่น นายแข็งแรงขนาดนี้เลยหรอ?” แดร์ดราก้อนถามด้วยน้ำเสียงอันตกใจ
“ทีนี้จะพาฉันไปหาเขาได้ยัง?” ชายน์ถามพลางยักคิ้วให้อย่างท้าทาย
“ฮ่าๆๆ สมกับเป็นนายจริงๆ เล้ยย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ นายก็ยังเป็นนายไม่เปลี่ยนแปลง” แดร์คราก้อนหัวเราะชอบใจพร้อมกับเข้าช่วยพยุงชายน์
“น่าจะรอให้แข็งแรงดีกว่านี้ก่อนนะ เรื่องขอบคุณฉันนี่ไม่ต้องรีบก็ได้ ฮ่าๆๆ” บาบาร่าเอ่ยหัวเราะอย่างชอบใจที่เห็นว่าชายน์แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
“จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นายก็คงจะไม่รอดมาถึงมือบาบาร่าได้หรอก ถ้านายจะอึดขนาดนี้ก็ไม่แปลกนะที่จะลุกเดินได้ทันทีที่ฟฟื้น หึหึ” แดร์ดราก้อนเอ่ยเสริม
‘สมกับเป็นผู้พิทักษ์ตามที่แดร์ว่าไว้จริงๆ’ บาบาร่าคิดพลางลอบยิ้มอย่างพอใจ
“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้วครับแต่แค่รูสึกเพลียนิดหน่อย บอกตามตรงว่าผมอยากกลับไปรอแข่งรอบสุดท้ายที่โฮเนอร์แล้ว” ชายน์เอ่ยตามที่ตนกำลังคิดกังวล
“งั้นเอาเป็นว่ารอดูอาการอีกคืน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางก็แล้วกันนะ” บาบาร่ากล่าวตัดบทพร้อมกับแสดงอาการลังเลเพียงชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด
“การแข่งขันรอบสุดท้ายจะตรงกับวันสำคัญของแกรนน่าด้วยสินะ ฉันคิดว่าเธอควรจะมีอะไรใหม่ๆไปรับมือนะชายน์” คำกล่าวของบาบาร่าสร้างความงุนงงสงสัยให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่แดร์ดราก้อน
“ยังไงรึบาบาร่า อย่าบอกนะว่าเธอจะสอนคาถาของแม่มดให้ชายน์” แดร์ดราก้อนเอ่ยดักคอ
“ฉันล่ะเบื่อนายก็ตรงที่ชอบรู้ทันฉันตลอดนี่แหละแดร์ ชิ!” บาบาร่าเอ่ยพลางสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจจนเรียกเสียงหัวเราะจากแดร์ดราก้อนได้เป็นอย่างดี
“ไม่ใช่แค่สอนนะ แต่จะส่งผู้ช่วยไปด้วยเลยแหละ ฮ่าๆๆ” คำตอบของบาบาร่าทำเอาแดร์ดราก้อนหัวเราะชอบใจลั่น
“ฮ่าๆๆๆ หลังจากหลบหายไปสิบกว่าปีงานนี้เผ่าแม่มดพ่อมดถึงกับยอมเปิดเผยตัวอีกครั้งเลยหรือ?”
“หมายความว่าไงครับ?” ชายน์ที่สงสัยในคำพูดของแดร์ดราก้อนเอ่ยถามโดยทันที
“งั้นฉันจะเล่านิทานให้ฟังก็แล้วกัน หึหึ” พรึบ!! บาบาร่าเอ่ยพร้อมกับวาดมือขึ้นกลางอากาศหนึ่งครั้ง ฉับพลันภาพเหตุการณ์หนึ่งก็บังเกิดขึ้นพร้อมกับที่บาบาร่าเริ่มเอื้อนเอ่ยวาจา
“เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ดินแดนแห่งนี้เกิดเหตุความวุ่นวายมากมาย ก็อย่างที่เธอได้รับรู้มาจากวิชาประวิตศาสตร์แกรนน่านั่นแหละ หลายเหตุการ์สร้างความสุญเสียมากมาย เริ่มตั้งแต่กลุ่มกบฏเวทย์มืดเข้ายึดเมืองย่อยๆ ในเกรย์โซน อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายลง จอมเวทย์ออกมาปกป้องเมืองและสละชีพตนเพื่อรักษาสมดุลของแกรนน่าไว้ กษัตริย์แห่งแกรนโซนและครอบครัวถูกลอบปลงพระชนม์และองค์รัชทายาทสาบสูญไป ในขณะที่เกรย์โซนก็วุ่นวายไม่แพ้กันเพราะธิดาของกษัตริย์มีบุตรกับทหารองค์รักษ์แห่งแกรนโซนจนกษัตริย์แห่งเกรย์โซนในตอนนั้นไม่พอใจและนำมาซึ่งเหตุสะเทือนใจ…” กล่าวถึงตรงนี้บาบาร่าก็หันมามองหน้าเดวี่ที่กำลังน่งฟังอยู่เงียบๆ และเมื่อเห็นว่าบาบาร่ากำลังชะงักเพราะเรื่องมาถึงชีวิตของตนเดวี่ก็เพียงแต่พยักหน้าและเอ่ยออกไปเบาๆ
“เชิญเล่าต่อเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไร” เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวอนุญาตบาบาร่าก็เริ่มเอ่ยต่ออีกครั้ง
“กษัตริย์เกรย์โซนขับไล่ธิดาของตนออกจากเกรย์โซนพร้อมถอดยศให้เหลือแค่สามัญชนธรรมดา หลังจากนั้นกษัตริย์เอสเทอร์ในปัจจุบันก็เข้ายึดอำนาจกษัตริย์องค์ก่อน จากนั้นความเปลี่ยนแปลงก็มาเยือนเกรย์โซนและแกรนน่าในที่สุด และพวกเราก็เป็นหนึ่งในหลายๆ เผ่าพันธุ์ที่ไม่อาจอยู่ร่วมกับการปกครองของกษัตริย์เอสเทอร์ได้จึงหลบหนีมาสร้างมิติของเราเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะไม่มีใครสามารถผ่านเข้ามาได้หากเราไม่อนุญาต เรามาตั้งถิ่นฐานที่นี่กว่าสิบปีแล้วโดยที่ไม่ออกไปยุ่งเกี่ยวกับเกรย์โซนเลยจนคนส่วนมากเขาคิดว่าเราโดนล้างเผ่าพันธุ์ไปแล้ว” บาบาร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์ได้ว่าเธอกำลังปวดร้าวกับเรื่องที่พึ่งจะเล่าออกมาไม่น้อย เมื่อเธอหยุดเล่าลงภาพนิมิตนั่นก็หายไปทันที
“สรุปว่าคุณจะส่งคนของคุณออกไปกับเราด้วย เพื่ออะไรครับ?” เดวี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ฉันและพี่น้องของฉันคงไม่อาจทนดูความย่อยยับของแกรนน่าได้ จริงอยู่ว่าคนของฉันอาจช่วยได้ไม่มากเพราะพวกนายฝีมือไม่ธรรมดาแล้ว แต่ฉันก็ตั้งใจว่าจะสอนคาถาของเผ่าเราให้พวกเธอก็เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในภายหน้า”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านจะเมตตาพวกเรา” ชายน์กล่าวพร้อมก้มหัวคำนับบาบาร่า
“แต่มีข้อแม้ข้อหนึ่งนะว่าพวกเธอจะต้องดูแลคนของเราด้วยเช่นกัน ฮ่าๆๆ” บาบาร่าผู้ไม่เคยยอมเสียเปรียบใครเอ่ยหัวเราะลั่น
“หมายความว่าเธอจะส่ง…” แดร์ดราก้อนเอ่ยค้างอย่างไม่มั่นใจในคำตอบของตน บาบาร่าจึงชิงเฉลยคำตอบออกมาก่อน
“ใช่ ฉันจะให้ฮันนี่ บุตรสาวของฉันออกไปกับพวกเธอด้วย”
เพล้ง!!! เสียงแจกันตกดังขึ้นขัดจังหวะจนคนทั้งห้องรับรองหันไปมองยังต้นเสียงที่เป็นเด็กสาวผมดำสลวยกำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่พึ่งจะได้ยิน
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮันนี่?” บาบาร่าถามลูกสาวราบเรียบ
“ท่านแม่พูดจริงหรือค่ะ?” ฮันนี่ที่แอบฟังอยู่ตั้งแต่แรกไม่ตอบคำถามของผู้เป็นแม่หากแต่ตั้งคำถามกลับทันที
“ใช่ เข้ามานี่สิไหนๆ ก็มาแอบฟังแล้ว ว่าแต่ลูกมีอะไรหรือเปล่า?” บาบาร่าถามพลางกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันบุตรสาวตน
“เย้ ท่านแม่คะหนูยินดีและเต็มใจมากเลยค่ะ ฮ่าๆๆ” เด็กสาวยกมือกระโดดดีใจพร้อมโผเข้ากอดผู้เป็นแม่อย่างลิงโลด
“งั้นเอาเป็นว่าผมพร้อมจะเรียนคาถาเวทย์ของคุณบ่ายนี้เลยเพราะผมอยากออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า อีกอย่างผมคิดว่าฮันนี่เขาก็คงใจร้อนไม่แพ้ผม ใช่มั๊ยครับ หึหึ” ท้ายประโยคชายน์หันไปเอ่ยกับฮันนี่พร้อมกับส่งสายตาให้จนฮันนี่หน้าแดงอย่างชัดเจน
“ฮ่าๆๆ ถ้าเธอไหวฉันก็พร้อมนะชายน์ บ่ายนี้เจอกันที่สนามหญ้าหลังคฤหาสน์นะ” กล่าวจบการพูดคุยก็เริ่มขึ้นอย่างครึกครื้น …นานเท่าไหร่แล้วที่เมืองนี้ไม่มีแขกมาเยือน
เช้าวันต่อมา….
“อย่าดื้ออย่าซนนะฮันนี่ ถ้าชายน์และเดวี่เขารายงานแม่มาว่าลูกนิสัยไม่ดีแม่จะเรียกตัวลูกกลับทันที”
“โหยยย ท่านแม่ย้ำลูกมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะคะ ลูกสัญญาว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งของชายน์และเดวี่อย่างเคร่งคัดเลยนะคะ” ฮันนี่เอ่ยพลางหันไปหัวเราะชอบใจกับชายน์และเดวี่หลังจากที่เธอและบาบาร่าช่วยกันสอนคาถาเวทย์ให้กับชายน์และเดวี่จนเป็นที่น่าพอใจและนั่นก็ทำให้ระหว่างเธอและชายน์เข้ากันได้ดีกว่าตอนแรก ส่วนเดวี่นั้นก็นิ่งเงียบตามแบบฉบับจนฮันนี่อดคิดไม่ได้ว่าหมอนี่คงไม่พอใจที่เขาสนิทกับชายน์แน่ๆ
“ขอบคุณนะบาบาร่าสำหรับความช่วยเหลือและการต้อนรับที่ดี แต่ตอนนี้ได้เวลาแล้วล่ะ” แดร์ดราก้อนเอ่ย
“อย่าลืมนะชายน์ เดวี่ ใช้สิ่งที่เราให้อย่างรอบคอบ เพราะมันเป็นทั้งคุณและโทษ”
“ครับคุณบาบาร่า เราสองคนจะคิดให้มากหากถึงเวลานั้นจริงๆ” ชายน์เอ่ย
“ฝากดูฮันนี่ด้วยนะเดวี่ เพราะยังไงฮันนี่ก็ประชาชนของเกรย์โซนคนนึง และเธอก็คือกษัตริย์ของที่นี่” บาบาร่ายิ้มให้เดวี่และเช่นกันที่เดวี่ยิ้มตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน
“ผมไม่ทิ้งคนของผมแน่ คุณบาบาร่า” เดวี่รับปากอย่างหนักแน่นจนบาบาร่ายิ้มออกมาอีกครั้ง
“ไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูมิติหน่อยฟาราโด้ แล้วจัดการให้เรียบร้อยนะ” บาบาร่าเอ่ยกำชับกับคนของตนในระหว่างที่เด็กๆ กำลังออกเดินทาง
“ครับท่านบาบาร่า” ฟาราโด้รับคำก่อนจะตามกลุ่มของเด็กๆ ออกไปจากคฤหาสน์ของบาบาร่า
“ชะตาของแกรนน่าอยู่กับท่านแล้วนะ ผู้พิทักษ์ ส่วนเกรย์โซนจะเป็นไปในทิศทางใดก็ขึ้นอยู่กับท่านเช่นกันเจ้าชายเดวี่”บาบาร่าเอ่ยอย่างมีความหวัง
………………………………………………………………
“สรุปว่าตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยออกจากมิตินี้เลยหรือฮันนี่?” ชายน์เอ่ยถามขณะออกเดินทาง
“เคยครั้งเดียว แต่แอบท่านแม่ออกไปนะ จากนั้นก็โดนทำโทษและไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่อีกเลย”
“แล้วทุกคนที่นี่จะอยู่กันแบบนี้ตลอดไปหรือ” เดวี่ถามอย่างอดห่วงไม่ได้
“ไม่หรอก ท่านแม่บอกว่าวันนึงจะมีกษัตริย์มาเยือนเมืองเรา และวันนึงเราจะต้องออกไปช่วยพวกเขาและสุดท้ายเราจะออกไปใช้ชีวิตปกติบนผืนแผ่นดินเดิมของเรา”
“นอกจากเผ่าพ่อมดแม่มดแล้วยังมีเผ่าพันธุ์อื่นอีกมั๊ยที่หลบซ่อนแบบนี้อ่ะ” เดวี่หันไปถามกับฟาราโด้
“ก็มีครับ จริงๆ พวกแวร์วูฟบางเผ่าที่เราคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วก็ยังคงหลบซ่อนอยู่ พวกแวมไพร์และปิศาจที่ดีก็ยังหลงเหลือแต่ส่วนมากจะตกเป็นพวกของเวทย์มืดไปเกือบหมดแล้วล่ะ”
“เผ่าพันธุ์มังกรก็ยังไม่สูญพันธุ์นะ ทั้งมังกรเพลิง มังกรวารี มังกรวาโยและมังกรรัตติกาล เพียงแต่พวกเรามีที่ที่สามารถหลบซ่อนได้เป็นอย่างดีก็เท่านั้น ฮ่าๆๆ” แดร์ดราก้อนเอ่ยแทรกขึ้นมา
“เอาละครับ ทะลุแนวป่านี่ไปก็คนละมิติกันแล้ว เอาเป็นว่าพวกท่านเดินทางดีๆ นะครับท่านแดร์ดราก้อน เจ้าชาย คุณชายน์และคุณหนู” ฟาราโด้เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แต่เมื่อคณะเดินทางเดินพ้นแนวป่าออกไปฟาราโด้ก็ยังคงเดินตามออกไปด้วยจนชายน์ที่หันมาเห็นก็สงสัยและอดที่จะถามออกมาไม่ได้
“อ่าว คุณฟาราโด้ ผมไม่คิดว่าคุณจะออกมาส่งถึงด้านนอกนี่ เอ้… มีอะไรพิเศษหรือเป่าครับ?”
“ผมจะตามมาบอกว่ามีคนรอต้อนรับอยู่ด้านนอกนี้ ยังไงถ้าร้อนวิชาก็ลองได้นะครับ คาถาเวทย์ของพ่อมดแม่มดไม่เป็นรองเวทย์สายอื่นๆ อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ” กล่าวจบก็ถอยหลังกลับสู่ประตูมิติของดินแดนตนพร้อมกับประตูมิตินั่นก็หายวับไปอันเป็นสัญญาณว่าฟาราโด้ทำหน้าที่ตามที่บาบาร่าสั่งเรียบร้อยแล้ว
“บาบาร่าสั่งให้เขามาเตือนเราและปิดประตูให้มิดชิด ตอนนี้เขาทำหน้าที่เขาเรียบร้อยแล้วล่ะ หึหึ” แดร์ดราก้อนเอ่ย
“แล้วไหนล่ะ คนที่จะมาต้อนรับเรา” ฮันนี่ถามอย่างตื่นเต้น
ฟิ้ววว ฉึก!! เสียงดอกธนูนับสิบพุ่งแหวกอากาศมายังตำแหน่งที่บุคคลทั้งสี่กำลังยืนอยู่แต่ด้วยสัญชาตญาณและการระวังตัวอยู่ก่อนแล้วทำให้ทั้งสี่สามารถหลบวิถีการโจมตีนั่นได้อย่างสบาย
“ลอบกัดชัดๆ!!” ชายน์สบถขณะกระโดดหลบทั้งลูกดอกธนูและลูกบอลสีดำนับสิบที่ต่างมุ่งโจมตีเขามากกว่าคนอื่นๆ จนชายน์ต้องเรียกรัตติกาลเวทย์มาสร้างเป็นกำแพงป้องกันตัวเองไว้ ฉับพลันเบื้องหน้าของคนทั้งสี่ก็ปรากฏวงแหวนสีดำขึ้นพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มผมเงินที่ชายน์นั้นสัมผัสได้ว่าแสนจะคุ้นเคย
“ออกมาแล้วสินะ หึหึ” เด็กหนุ่มผมเงินหน้าตาละม้ายกับชายน์เอ่ย หากแต่แผลเป็นขนาดใหญ่และดวงตาสีดำแข็งทื่อไร้แววนั้นกลับทำให้หมอนี่ดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก
...........................................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ