Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  32.32K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) เมืองแม่มด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                                                                     เมืองแม่มด

 

“จะนั่งเหม่อแบบนี้อีกนานมั๊ยเซ?”   เจด้าเอ่ยถามหลังจากที่เห็นเพื่อนสาวนั่งเหม่อลอยไม่สนใจข้าวเย็นที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย

“เมื่อตอนบ่ายฉันรับรู้ถึงอันตรายที่เกิดกับชายน์อ่ะ”   เซฟานี่หันมาตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเป็นกังวลจนเพื่อนๆ ในกลุ่มหันมาสนใจเซเป็นจุดเดียว

“หมายความว่าไง?”   เบลเอ่ยถามทันที

“ก็อัญมณีบนสร้อยที่ฉันสวมนี่มันมันเปลี่ยนสีจากแดงเป็นชมพูอ่ะ   คือถ้าเกิดเหตุกับชายน์ที่สวมสร้อยอีกเส้นไว้จนถึงขั้นหมดสติหรือร้ายแรงสีอัญมณีจะซีดลงตามความรุนแรงนั้นๆไง”   เซฟานี่เอ่ยอธิบาย

“แล้วสีแบบนี้มันอันตรายแค่ไหนอ่ะเซ?”   มาร์ตินถามกลับอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

“ถ้าเป็นสีชมพูแบบนี้คือหมดสติจนถึงสาหัส แต่ถ้าใสจนไม่มีสีก็แสดงว่า… ไม่มีชีวิต”   ท้ายประโยคนั้นเซฟานี่เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจนคนฟังใจคอไม่ดีตามไปด้วย

“ระดับชายน์ไม่น่าจะพลาดท่าง่ายๆ นะ”   ดัชเอ่ยอย่างครุ่นคิด

“อย่าลืมสิว่าที่นั่นเกรย์โซนนะ   ไว้ใจใครไม่ได้นักหรอก”  เชเอ่ยราวกับรู้ดี

“แต่ฉันเชื่อว่าเขาว่าเขาไม่เป็นอะไรร้ายแรงหรอก   เพราะยังไงเดวี่คงไม่ยอมแน่”  นีโอเอ่ยปลอบให้เพื่อนๆ สบายใจขึ้น

“กลับมาไวๆ นะชายน์”   เซฟานี่เอ่ยเบาๆ กับตัวเอง

                                                   ……………………………………………………

 

“เจ้าว่าอย่างไรนะพอล   ผู้พิทักษ์นะหรือหมดสติหลังจากจบการประลอง ฮ่าๆๆ”   ชายชุดดำผู้ทรงอำนาจหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“ขอรับนายท่าน   ข้าเองก็ไม่ได้ปะทะกับเขาหรอก   แต่แค่นักดาบฝีมือดีสองคนเขายังเอาชนะไม่ได้เลย”

“ยังไง?”

“ก็อยู่ๆ เขาก็ทรุดแล้วเหม่อลอยจนโดนดาบไปหลายแผลน่ะขอรับ” พอลรายงานในสิ่งที่ตนเก็บข้อมูลมา

“หึหึ   ข้าก็นึกว่าจะแน่   แต่ก็เอาเถอะข้ามีงานให้พวกเจ้าทำ”   เอ่ยพร้อมกับส่งสัญญาณให้ใครบางคน   ทันทีที่ชายผู้นั้นเดินเข้ามาทุกคนก็อุทานเป็นเสียงเดียวกัน

“คุณหนูชิน!!”

“หมายความว่าไงขอรับนายท่าน”   พอลพอจะเข้าใจสถานการณ์แต่ก็ไม่อาจเชื่อได้ว่านายของเขาจะใช้วิธีนี้กับเด็กที่นายเขารักปานลูกชาย

“ไม่ว่าใครก็ตามถ้าข้าปกครองไม่ได้ข้าก็ไม่เอามันไว้”

“แต่วิธีนี้คุณหนูชินจะไม่อาจมีชีวิตปกติได้   และในระยะยาวเขาจะกลายเป็นซาตานนะเจ้าคะนายท่าน” นากี้ยกเหตุผลมาอธิบาย

“ก็ดีสิ  อย่างน้อยวิธีนี้เขาก็ฟังและปฏิบัติตามคำสั่งข้า   และเมื่อข้าได้มันทั้งสองมาทำพิธีพร้อมกันข้าก็ไม่ต้องง้ออัญมณีบ้าบอนั้นแล้ว”

“นายท่านไม่โปรดคุณหนูแล้วรึขอรับ”   จีเอ่ยถามในสิ่งที่กำลังสงสัย

“ข้าไม่เลี้ยงคนที่เลี้ยงไม่เชื่องนะจำไว้!!   เอาล่ะ มาฟังงานที่ข้าจะสั่งให้พวกเจ้าทำ”   ก่อนที่จะเริ่มหงุดหงิดไปมากกว่านี้ชายชุดดำก็หันมาตัดบทแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที

“ข้าจะให้ชินได้ยืดเส้นยืดสายก่อนไปเยือนโฮเนอร์ซะหน่อย    ไปส่งแขกให้ข้าที” 

“ขอรับ/เจ้าค่ะ นายท่าน”  เด็กทั้งสามแสดงสีหน้ายินดีพร้อมตอบรับเสียงชัดเจนจนเมอร์ดอร์ฟอดจะเอ่ยแทรกออกมาไม่ได้

“นายท่านให้โอกาสข้านำพวกเขาไปจัดการนะขอรับ” เมอร์ดอร์ฟเอ่ยขอโอกาส

“ไม่ได้!!  งานนี้ข้าจะให้เด็กๆ เข้าไปสนุกกัน   ส่วนเจ้าข้ามีงานอื่นรอให้ทำอยู่”   ชายชุดดำผู้เป็นนายเอ่ยเสียงแข็งพร้อมแจงเหตุผลที่ทำให้เมอร์ดอร์ฟเผยยิ้มออกมาได้บ้าง

“นายท่านบัญชาการได้เลยขอรับ   ข้าพร้อมจะปฏิบัติเต็มที่”   ทันทีที่เมอร์ดอร์ฟกล่าวจบชายชุดดำผู้เป็นนายก็หัวเราะลั่นอย่างชอบใจพร้อมกับแจกแจงแผนและภาระงานให้กับเมอร์ดอร์ฟและเด็กๆ ก่อนที่เด็กๆ ทั้งสี่จะรับทราบหน้าที่และออกปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งทันที

 

ทางด้านของชายน์และเดวี่

“ข้าขอพูดอะไรหน่อยได้มั๊ยเดวี่?”   แดร์ดราก้อนเอ่ยขณะพาชายน์และเดวี่ออกจากเทเรอร์โดยเดวี่นั้นยืนยันว่าจะพาชายน์กลับโฮเนอร์อย่างเร็วที่สุดหลังจากที่ปฐมพยาบาลด้วยเวทย์รักษาเบื้องตนไปแล้วแต่อาการของชายน์ยังไม่ดีขึ้น

“อะไร?”  เดวี่ถามกลับ

“ดาบของสองคนนั่นอาบยาพิษของพวกแม่มด   ชายน์จะแย่นะถ้าถอนพิษไม่ทัน”   แดร์ดราก้อนในร่างมังกรเอ่ยเหตุผลที่ทำเอาเดวี่เงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง

“ท่านพอจะช่วยพวกเราได้รึเปล่าล่ะ ท่านแดร์ดราก้อน?”

“ข้าช่วยไม่ได้หรอก   แต่พอจะเป็นธุระจัดการให้ได้”

“งั้นรบกวนท่านหน่อยนะ”   เดวี่รีบเอ่ยออกมาทันทีจนแดร์ดราก้อนในร่างมังกรกระตุกยิ้มเบาๆ อย่างชอบใจ

‘นายมีเพื่อนดีๆ แบบนี้   เพื่อนเก่าอย่างข้าก็สบายใจ’   เพียงเท่านั้นหลังจากการสนทนาจบลงทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังป่าลึกของเกรย์โซนอันเป็นดินแดนของเหล่าพ่อมดแม่มดที่น้อยคนนักจะสามารถเข้าไปได้

“เดี๋ยวข้าจะพาไปพบคนที่รู้วิธีปรุงยารักษาชายน์นะ   แต่เบื้องต้นเจ้าต้องยืนยันตัวตนต่อพวกเขาก่อน”   แดร์ดราก้อนที่กลับสู่ร่างของคนเอ่ยหลังจากที่พาชายน์และเดวี่มาถึงยังปากทางเข้าสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูรกล้างน่ากลัว

“ยังไง”

“ดาบของเจ้าไง”   แดร์ดราก้อนเอ่ยและเดวี่ก็พอจะรู้หน้าที่ตนเองดีแล้วก็พยักหน้าเบาๆ

“พร้อมนะ”   กล่าวจบแดร์ดราก้อนก็คำรามลั่นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงบางอย่างกำลังเกิดขึ้น   หมอกควันสีขาวลอยเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณและเดวี่ก็สัมผัสได้ว่าควันนั่นกำลังจะทำให้เขามึนงง   แดร์ดราก้อนเองก็สัมผัสได้จึงเรียกวาโยเวทย์ออกมาพัดเอาควันเหล่านั้นให้ลอยออกไปจากตัว    เมื่อหมอกควันลอยเปลี่ยนวิถีก็ปรากฏให้เห็นเงาร่างของบุคคลนับสิบเคลื่อนไหวไปมารอบๆ พร้อมกับลูกไฟนับร้อยที่พุ่งใส่และลอยโฉบไปมาราวกับมีชีวิต

“ข้า แดร์ดราก้อน   มังกรผู้กล้าหาญแห่งเกรย์โซนจะขอเข้าไปได้หรือไม่?”   กล่าวจบพร้อมกับหันหน้ามายังเดวี่แล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงส่งสัญญาณ

“ข้า เดวี่ ลอฟดาน่า   บุตรแห่งเจ้าหญิงเดริก้า   สายเลือดแห่งกษัตริย์องค์ก่อนจะขอผ่านเข้าไปได้หรือไม่?”   เดวี่กล่าวพร้อมกับเรียกดาบดำออกมาถือไว้ในมือ   ทันทีที่ดาบปรากฏออกมากลุ่มหมอกควันสีขาวก็จางหายไปพร้อมกับร่างของบุรุษในชุดคลุมสีดำกว่าสิบคนกำลังโค้งทำความเคารพให้แก่ผู้มาเยือนทั้งสามอย่างนอบน้อมก่อนที่หนึ่งในนั้นจะกล่าวออกมาบ้าง

“ข้า ฟาราโด้  ในฐานะของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งเมืองนี้ขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่รู้จักเบื้องสูง   โปรดจงอภัยด้วยเจ้าชาย”   ชายหนุ่มนามฟาราโด้เอ่ยอย่างนอบน้อม

“ตอนนี้ข้าเป็นแค่สามัญชนธรรมดา   ลุกขึ้นเถิด”   เดวี่กล่าว

“งั้นเชิญด้านในเลยครับเจ้าชาย   ท่านแดร์ดราก้อน”  ฟาราโด้เอ่ยพร้อมกับนำทางทั้งสามมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองของตน   เมื่อหมอกควันจางลงเดวี่ก็พึ่งได้เห็นว่าดินแดนของพวกพ่อมดแม่มดนี่สวยงามมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในผืนดินของเกรย์โซนที่แห้งแล้งและมืดดำเลย  

“นี่คือดินแดนของพวกเรา   เหตุที่ต่างจากดินแดนเกรย์โซนส่วนกลางเพราะดินแดนของเราอยู่ในอีกมิติหนึ่งที่ซ้อนทับไว้กับเกรย์โซนนะครับ”   ฟาราโด้ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีแนะนำเดวี่ราวกับอ่านความคิดได้

“เอ่อ  เดี๋ยวพาพวกเราไปหาบาบาร่าเลยนะ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยเหมือนพึ่งจะนึกได้

“ครับ   ข้าส่งคนของข้าล่วงหน้าไปบอกท่านบาบาร่าแล้ว  คิดว่าทางนั้นกำลังเตรียมการต้อนรับพวกท่านอยู่”   กล่าวจบทั้งหมดก็รีบเร่งเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองพ่อมดแม่มดทันทีจนมาถึงยังปราสาทสีแดงขนาดใหญ่ท่ามกลางหมู่แมกไม้นานาพรรณทั้งต้นเล็กใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนามหญ้าสีเขียว   ทันทีที่ฟาราโด้พาคนทั้งสามมายังหน้าปราสาทก็มีบุคคลหนึ่งกำลังยืนยิ้มรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

“ยินดีที่มาเยี่ยมข้านะ แดร์ดราก้อน  ฮ่าๆๆ”   สตรีสาวใหญ่ที่ยังคงงดงามเอ่ยทักเพื่อนออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหันไปเอ่ยกับเดวี่ที่ยืนแบกเด็กอีกคนหนึ่งไว้บนบ่า

“ข้าว่าท่านคงจะหนักไม่น้อยนะ เจ้าชาย   เชิญด้านในดีกว่า”   กล่าวพร้อมกับผายมือเชิญแขกเข้ายังด้านใน

“ข้าอยากให้เจ้าช่วยสหายของข้าหน่อยนะบาบาร่า”   ทันทีที่เข้าสู่ห้องรับรองแดร์ดราก้อนก็เอ่ยกับบาบาร่าทันที

“เด็กที่บาดเจ็บนั่นใช่มั๊ย   ไปโดนอะไรมาล่ะ”

“ดาบอาบยาพิษน่ะครับ”   เดวี่ชิงตอบ

“ขอข้าดูแผลหน่อยนะ”   บาบาร่ากล่าวพร้อมกับเปิดเสื้อชายน์ออก   ทันทีที่เห็นว่าบาดแผลนั้นกำลังเปลี่ยนเป็นสีดำเพราะพิษกำลังออกฤทธิ์ก็หันไปมองหน้าคนที่หมดสติอีกครั้ง   แม้ว่าหน้าจะซีดจนแทบจะไม่มีสีแต่ก็ยังคงความสง่างามไว้ได้จนบาบาร่าอดคิดไม่ได้ว่าใบเด็กคนนี้ช่างคุ้นตาเสียเหลือเกินแต่ก็ยังคงนึกไม่ออก

“โดนขนาดนี้ยังรอดแสดงว่าไม่ธรรมดา  หึหึ”

“เธอไม่รู้หรือว่าเขาเป็นใคร?   มองหน้าเขาดีๆ สิบาบาร่า”   แดร์ดราก้อนเอ่ยกับบาบาร่าจนเธอต้องเพ่งพิจารณาอีกครั้งก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมาในที่สุด

“ใช่เขาใช่จริงๆ ใช่มั๊ย?”   เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสะกดกั้นความยินดีแทบไม่มิด

“ไม่ผิดตัวแน่ๆ”   แดร์ดราก้อนเอ่ย

“เชิญนายและเจ้าชายออกไปด้านนอกก่อน   คนของข้าจะพาไปยังห้องพักรับรอง   ส่วนทางนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง” บาบาร่ากล่าวพร้อมกับเรียกสั่งเด็กรับใช้ตั้งหม้อปรุงยาทันที

“ไปรอที่ห้องพักรับรองเถอะเดวี่   ทางนี้เพื่อนข้าจัดการได้   ชายน์เขาไม่เป็นอะไรหรอก”  แดร์ดราก้อนเอ่ยพร้อมพาเดวี่เดินออกจากห้องรับรองทิ้งให้บาบาร่าใช้สมาธิผสมเวทย์ปรุงยารักษาชายน์ต่อไป

 

เช้าวันต่อมา

“ชายน์เป็นอย่างไรบ้างบาบาร่า   เธอทำได้มั๊ย?”   แดร์ดราก้อนและเดวี่เดินเข้ามายังห้องรับรองที่บาบาร่าใช้เป็นสถานที่รักษาชายน์   และเมื่อบาบาร่าหันไปก็ยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยออกมาบ้าง

“ระดับฉันแล้วไม่มีคำว่าไม่ได้หรอกนะแดร์   ชายน์พ้นขีดอันตรายแล้ว   เดี๋ยวย้ายไปพักฟื้นที่ห้องพักรับรองดีกว่า”  

“ขอบใจนะบาบาร่า   ตอนที่รู้ว่าชายน์โดนดาบอาบยาพิษฉันก็นึกถึงเธอเลย”

“แน่ล่ะ   ฉันเป็นถึงแม่มดอันดับหนึ่งของเมืองนี้นะ  หึหึ”  บาบาร่ายิ้มเจ้าเล่ห์

“ว่าแต่พิษนั้นคืออะไรครับ?”   เดวี่ที่สงสัยในพิษนั่นเอ่ยถามออกมาบ้าง

“เป็นพิษจากเผ่าพวกเรานี่แหละเจ้าชาย   เพราะแบบนี้ไงแดร์ถึงพาเขามาที่นี่”   บาบาร่าตอบเสียงใส

“อันตรายมากใช่มั๊ย?”  

“ถ้าเป็นคนอื่นอาจตายคาสนามไปแล้ว   แต่นี่…  ”   บาบาร่าเอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง

“พิษนี่ถือว่าเล็กน้อยมากสำหรับผู้พิทักษ์อย่างชายน์  ฮ่าๆๆ”  บาบาร่าหัวเราะอารมณ์ดีก่อนจะเอ่ยเชิญแดร์ดราก้อนและเดวี่ร่วมรับประทานอาหารเช้า

“ยังไงก็เชิญทานอาหารเช้ากันก่อนดีกว่า   ลูกสาวฉันรอนานแล้วล่ะ”

‘ลูกสาว!!’  เดวี่สะดุดกับคำกล่าวของบาบาร่าก่อนจะเดินตามไปยังโต๊ะอาหาร

 

“ท่านแม่ทำไมมาช้าจังค่ะ  หนูหิวจะ แย่ … แล้ว”   สาวน้อยโวยวายลั่นเมื่อเห็นมารดาเธอพึ่งจะเดินมาแต่เมื่อเห็นว่ามีแขกมาด้วยเธอก็ชะงักไปเล็กน้อยที่แสดงกิริยาเสียมารยาทออกมา

“ขอโทษค่ะ  พอดีหนูไม่รู้ว่าท่านแม่มีแขก”   สาวน้อยเอ่ยขอโทษแดร์ดราก้อนและเดวี่เป็นการใหญ่

“ไม่เป็นไรหรอกฮันนี่   ลุงเห็นหนูมาแต่เด็กล่ะ   รู้จักนิสัยเราดี  ฮ่าๆๆ”

‘ฮันนี่หรอ  หึหึ’   เดวี่กระตุกยิ้มเบาๆ

“นี่ลุงแดร์ที่เคยมาเยี่ยมเราเมื่อหลายสิบปีก่อน  ลูกอาจจำไม่ได้   และนี่เจ้าชายเดวี่  ลอฟดาน่า”   บาบาร่าเอ่ยแนะนำบุคคลทั้งสองแก่ลูกสาว   และทันทีที่เอ่ยจบฮันนี่ก็ทำตาโตอย่างตกใจแล้วหันมองหน้าเดวี่แบบไม่ละสายตา

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”   เดวี่เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้จนฮันนี่ได้สติและหน้าเปลี่ยนสีทันที

“ค่ะ เจ้าชาย”   ตอบพร้อมหันไปหาแดร์ดราก้อนเพื่อหลบสายตาของเดวี่ที่เป็นสาเหตุให้เธอหน้าแดงนั่นเอง

“ลุงแดร์สบายดีมั๊ยค่ะ   ไม่เจอกันนานจนหนูจำลุงไม่ได้เลย   ขอโทษนะค่ะ  ฮ่าๆๆ”   ฮันนี่เอ่ยทักเสียงใส

“สบายดี   หลายก็โตขึ้นเยอะเลยนะ   ถ้าได้เจอกันที่อื่นลุงก็คงจำไม่ได้”   แดร์ดราก้อนเอ่ยตามความจริงที่เขาคิด   เพราะเด็กผู้หญิงที่เขาเคยเจอเมื่อหลายปีก่อนบัดนี้โตเป็นสาวน้อยน่ารักแล้ว    ผมสีดำสลวยกับดวงตาสีดำนั่นช่างดูไร้เดียงสาเสียจริงๆ

“ยังมีแขกอีกคนนึงนะจ๊ะฮันนี่   แต่เขาป่วยอยู่เลยนอนพักฟื้นอยู่ห้องพักรับรอง   เดี๋ยวถ้าเขาหายแล้วคงได้ทำความรู้จักกันนะ”   บาบาร่าเอ่ยกับลูกสาวก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหารเช้ากัน    จากนั้นบทสนทนาต่างๆก็ออกมามากมายจากบุคคลบนโต๊ะอาหาร

‘เจ้าชายเดวี่หรอ   หน้าตาก็หล่อดีแต่ทำไมไม่ยิ้มบ้างเลย’

‘ฮันนี่หรือ   ชื่อแสนจะหวานแต่ทำไมดูแล้วเหมือนจะแสบไม่เบาเลยนะ  หึหึ’    ทั้งเดวี่และฮันนี่ต่างกำลังจมอยู่กับความคิดของตน

“เดี๋ยวยังไงหนูขอตัวก่อนนะค่ะ   พอดีจะออกไปฝึกยิงธนูน่ะค่ะ”   ฮันนี่เอ่ยหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว

“ลุงว่าหลานสาวลุงจะเหมือนเด็กผู้ชายเกินไปแล้วมั้ง   ทั้งขี่ม้าฟันดาบแล้วนี่ยังจะยิงธนูอีก ฮ่าๆๆ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยแซวฮันนี่

“แค่เวทย์อย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะคุณลุง   หนูต้องเก่งให้รอบด้านค่ะ ฮ่าๆๆ”   ฮันนี่ตอบพร้อมหัวเราะเสียงใส

“อย่าให้ใครมารายงานว่าลูกเล่นพิเลนนะ   เราน่ะเป็นเด็กผู้หญิง”   บาบาร่าเอ่ยดักคอลูกสาว

“หนูเรียบร้อยนะคะท่านแม่   เด็กพวกนั้นสู้หนูไม่ได้เลยใส่ร้ายหนูให้แม่ฟังต่างหากล่ะ ชิ”   ฮันนี่เอ่ยพลางลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้ทุกคนก่อนจะเดินออกไป

“ตั้งแต่พ่อเขาเสียเมื่อสิบปีก่อนก็พึ่งจะปีนี้แหละแดร์ที่ลูกสาวข้าเลิกซึมเศร้า”

“ดีแล้วไง”   แดร์ดราก้อนตอบเพราะเขาก็รู้มาว่าพ่อของฮันนี่เสียชีวิตลงเพราะขัดผลประโยชน์กับกษัตริย์เอสเทอร์จนโดนลอบสังหารไปเมื่อ 10 ปีก่อน   และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ฮันนี่ที่เคยร่าเริงเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาจรบาบาร่าอดที่จะกลัวใจของลูกสาวไม่ได้   จนมาปีนี้ลูกสาวเธอดูโตขึ้นมากและดูเหมือนว่าลูกสาวเธอจะคิดและทำใจได้แล้วจึงเริ่มพูดจามากขึ้นและกลับมาร่าเริงอีกครั้ง   หากแต่ครั้งนี้ที่พิเศษออกไปคือฮันนี่หันมาฝึกการต่อสู้และการใช้อาวุธมากขึ้นจนเก่งกล้า

“ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะคิดทำอะไร   แต่ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วฉันอดห่วงฮันนี่ไม่ได้จริงๆ”

“เธอห้ามเขาไม่ได้เธอก็รู้   แต่เธอสามารถทำให้เขาแกร่งที่สุดได้นี่บาบาร่า”  

“ฉันก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้นแหละ   นี่ก็ว่าจะให้นายมาสอนฮันนี่ด้วยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”   คำกล่าวของบาบาร่าทำเอาแดร์ดราก้อนแทบสำลักน้ำชา

                                                                          ………………………………

 

“ป่วยอยู่ห้องพักรับรองหรอ?   ฉันก็คนมีจิตเมตตาซะด้วยซิ   ขอแวะดูหน่อยละกันนะ”   ระหว่างเดินผ่านห้องพักรับรองฮันนี่ก็นึกถึงคำพูดของบาบาร่าขึ้นมาจึงคิดจะแวะทักทายดูอาการคนป่วยขึ้นมาทันที    บานประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา   ร่างของชายคนหนึ่งนอนตะแคงหันหลังให้ผู้มาเยือนที่กำลังย่องเข้ามาอย่างแผ่วเบา

“ขอดูหน้าเพื่อนลุงแดร์หน่อยนะ”   ฮันนี่เอ่ยพลางชะโงกหน้ามองคนที่กำลังนอนหลับตานิ่ง   แต่เพียงยื่นหน้าเข้าไปหมายจะชะโงกดูร่างนั้นก็พลิกตัวกลับมานอนหงายในท่าปกติจนฮันนี่ที่เห็นถึงกับยืนนิ่งด้วยความตะลึงอีกครั้ง

‘ว่าเจ้าชายเดวี่ดูดีแล้วนะ   หมอนี่ดูดีไม่แพ้เจ้าชายเลยแฮะ’   ฮันนี่คิดขณะสำรวจชายที่นอนหลับตานิ่งอยู่เบื้องหน้า   ….ขนาดหลับตายังดูดีถ้าตื่นมาฉันคงไม่กล้าสบตาเขาแน่ๆ  > <

แค่คิดใบหน้าก็เริ่มแดงอีกครั้งจึงตัดสินใจหันหลังจะเดินออกแต่ก็ปรากฏว่า…

หมับ!!   มือของคนป่วยคว้าเข้าที่ข้อมือของผู้มาเยือนก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ

“ข้าเจ็บ”   ชายน์ที่เริ่มได้สติเอ่ยออกมาแผ่วเบาพร้อมกับเปลือกตาค่อยๆ เปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสีดำนั่นที่มองฮันนี่นิ่งๆ เช่นกันกับที่ฮันนี่ยืนตัวแข็งทื่อ

 “เธอเป็นใคร?”

……………………………………………………………………………………………………..................................…………..

ฮันนี่.......  ฮ่าๆๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา