Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) เผ่าพันธุ์ที่สาบสูญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เผ่าพันธุ์ที่สาบสูญ

 

“คุณชินแน่ใจใช่มั๊ยครับว่าพวกนั้นอยู่ที่เมืองแม่มด?”   พอลเอ่ยถามเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดังแก้วตาดวงใจของนายท่าน   เด็กคนนี้แรกเริ่มก็มีสถานะไม่ต่างจากพวกเขาคือ เด็กที่นายท่านเก็บมาเลี้ยง    แต่ด้วยความสามารถและความสำคัญของเด็กคนนี้ที่มีอยู่มาก   อีกทั้งนายท่านก็เมตตาและเอ็นดูกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้เด็กคนนี้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าพวกเขา   หากแต่เด็กคนนี้วางตัวได้แตกต่างจากทุกๆ คนอย่างสิ้นเชิง    แม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยเกเรหรือลำลายชีวิตใดๆ ในเกรย์โซนเลยแม้แต่ชีวิตเดียว  …แม้แต่สายตาเย็นชาแบบนี้ก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน

“มีบางอย่างบอกข้าว่าพวกมันอยู่ที่นั่น”   ชินตอบเสียงเย็น

“แล้วคุณชินมีแผนการอย่างไรครับ”   จีเอ่ยถามเพราะอยากรู้

“ไม่ต้องมีแผนการใดๆ หรอก   บุกไปให้รู้เรื่องเลย”   ชินเอ่ยอย่างมั่นใจในตนเองสูง

“ครับ   จากความสามารถของคุณชิน   ผมว่าต่อให้ไปแบบไม่มีแผนก็สามารถจัดการได้อย่างสบายอยู่แล้ว  หึหึ”   จีเอ่ยพลางหัวเราะชอบใจในความบ้าบิ่นของชินที่ไม่เคยฉายแววออกมาเลยตั้งแต่รู้จักกันมา

“แต่ผมว่างานนี้เราดักรอหน้าประตูมิติดีกว่าครับ   เพราะพวกพ่อมดแม่มดไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปแน่ๆ”   พอลเอ่ยเสนอ

“นั่นสิครับคุณชิน” จีเอ่ยสนับสนุน    ชินเองก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา

“งั้นตกลงตามนั้น   เราจะดักรอพวกมันหน้าประตูมิติของเมืองแม่มด”   กล่าวจบก็ปลีกตัวเดินออกไปอีกทางปล่อยให้เด็กทั้งสามที่เหลืออดที่จะซุบซิบตามหลังไม่ได้

“ไม่น่าเชื่อว่าพันธะสัญญาจะเปลี่ยนคุณชินไปได้ถึงเพียงนี้   ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีสายตาเย็นชาแบบนี้ให้เห็นมาก่อนเลย”

“นอกจากพันธะสัญญานั่นจะผูกมัดชีวิตแล้วมันยังล้างจิตสำนึกและความคิดของเขาอีก   ตอนนี้คุณชินไม่ต่างอะไรจากจักรกลที่นายท่านสามารถสั่งและบงการได้ทุกอย่างโดยที่ไม่มีความคิดและจิตสำนึกของเจ้าตัวมาเกี่ยวเลย”   พอลเอ่ย

“คุณชินคนที่สุภาพอ่อนโยนหายไปแล้ว   ฉันว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ากลัวมาก   หากเทียบกับอีกคนที่เจอมาหมอนั่นไม่ได้ครึ่งของคุณชินแน่ๆ”   นากี้บ่นเมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยนที่เขารู้จักบัดนี้ไม่มีคนเดิมนั้นแล้ว   พันธะสัญญาที่นายท่านพวกเขาทำไว้สามารถเปลี่ยนเด็กผู้ชายหน้าตาดีให้กลายเป็นเด็กผู้ชายอีกคนที่แสนจะเย็นชาและน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ

“แต่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว   คุณชินคนเก่าแม้ว่าจะเก่งกล้าเพียงใดแต่ก็ไม่เคยใช้ความสามารถนั้นเลย   เสียดายของเปล่าๆ”   จีเอ่ยแย้ง

“สรุปว่าสีตาที่เปลี่ยนจากเทาเป็นดำนั่นแสดงว่าคุณชินอยู่ภายใต้พันธะสัญญาของนายท่าน   แผลเป็นที่น่าเกลียดบนหน้าเกิดจากการสร้างพันธะสัญญาและฝังโลหิตของนายท่านไว้ในนั้นสินะ”   นากี้เอ่ยในสิ่งที่คาดคะเนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง

“หมดหล่อเลยคุณชิน   ตอนนี้หน้าตาน่าเกลียดจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว”

“ไปเถอะ   คุณชินกำลังจะเดินทางแล้ว”   พอลเอ่ยเตือนเพื่อนทั้งสองก่อนที่ทุกคนจะเดินตามชินไป

                                                         ………………………………………

 

“เธอเป็นใคร?”   ชายน์เอ่ยถามเด็กผู้หญิงที่เขากำลังคว้าข้อมือไว้   แต่ร่างของเด็กนั่นกลับยืนตะลึงนิ่ง

“แล้วที่นี่ที่ไหน?”   อีกคำถามที่ส่งไปแต่คราวนี้ร่างของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาเริ่มมีสติแล้วจึงเอ่ยตอบคำถามนั้นอย่างตะกุกตะกัก

“ที่นี่  เอ่ออ   เมืองแม่มดน่ะ”   กล่าวจบก็รีบชักมือกลับแล้ววิ่งออกนอกห้องทันที

“ตอนหลับว่าดูดีแล้ว  พอตื่นแล้วดียิ่งกว่าอีก   เสียงก็นุ่มน่าฟัง   โอ้ยย  เขิน!!”  ฮันนี่ยืนบ่นพึมพรำกับตัวเองแต่สีหน้านั่นกลับแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด

“เมืองแม่มดหรือ  แล้วเดวี่กับแดร์ดราก้อนล่ะ?”   ชายน์ที่เริ่มได้สติแล้วกำลังนอนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาพร้อมกับร้องเรียกหาใครบางคน

‘ชิน   ได้ยินฉันมั๊ย?’

‘ตอบฉันหน่อยชิน   ยังอยู่กับฉันหรือเปล่า?’   ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมานอกจากความรู้สึกที่ว่างเปล่าที่ชายน์สัมผัสได้ว่าชินไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว

“นายหายไปไหนอ่ะชิน? ”    ชายน์บ่นออกมากับตัวเองในที่สุด 

“ใครไปไหนหรือชายน์?”   แดร์ดราก้อนเอ่ยหลังจากเดินเข้ามาแล้วเห็นว่าชายน์ฟื้นแล้วพร้อมกับนอนบ่นอยู่คนเดียว

“คู่หูของชายน์เขาหนะครับ”   เดวี่กล่าวเสริมพร้อมเดินตามเข้ามา

“ว่าแต่ นายไหวนะชายน์?”   เดวี่ถามพลางเดินเข้ามาดูอาการ

“ฉันไหว   ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน?”   ชายน์ยังคงสงสัย

“เมืองแม่มด   พอดีนายโดนดาบอาบยาพิษของนักดาบสองคนนั่น   แล้วฉันคิดว่าเพื่อนฉันน่าจะช่วยนายได้เลยพามานี่ไง”  แดร์ดราก้อนร่ายยาว

“ขอบคุณครับ   ว่าแต่เพื่อนคุณอยู่ไหนล่ะครับ?   ผมจะได้ไปขอบคุณเขา”

“เอาให้ลุกไหวก่อนแล้วจะพาไปนะ ฮ่าๆๆ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยพลางหัวเราะลั่นแต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อชายน์สามารถลุกขึ้นนั่งได้แม้จะไม่ทันทีทันใดก็ตาม

“เห้ย  ฉันพูดเล่น   นายแข็งแรงขนาดนี้เลยหรอ?”   แดร์ดราก้อนถามด้วยน้ำเสียงอันตกใจ

“ทีนี้จะพาฉันไปหาเขาได้ยัง?”   ชายน์ถามพลางยักคิ้วให้อย่างท้าทาย

“ฮ่าๆๆ   สมกับเป็นนายจริงๆ เล้ยย   ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ นายก็ยังเป็นนายไม่เปลี่ยนแปลง”   แดร์คราก้อนหัวเราะชอบใจพร้อมกับเข้าช่วยพยุงชายน์

 

 

“น่าจะรอให้แข็งแรงดีกว่านี้ก่อนนะ   เรื่องขอบคุณฉันนี่ไม่ต้องรีบก็ได้  ฮ่าๆๆ”   บาบาร่าเอ่ยหัวเราะอย่างชอบใจที่เห็นว่าชายน์แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก

“จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นายก็คงจะไม่รอดมาถึงมือบาบาร่าได้หรอก   ถ้านายจะอึดขนาดนี้ก็ไม่แปลกนะที่จะลุกเดินได้ทันทีที่ฟฟื้น หึหึ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยเสริม

‘สมกับเป็นผู้พิทักษ์ตามที่แดร์ว่าไว้จริงๆ’   บาบาร่าคิดพลางลอบยิ้มอย่างพอใจ

“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้วครับแต่แค่รูสึกเพลียนิดหน่อย    บอกตามตรงว่าผมอยากกลับไปรอแข่งรอบสุดท้ายที่โฮเนอร์แล้ว”   ชายน์เอ่ยตามที่ตนกำลังคิดกังวล

“งั้นเอาเป็นว่ารอดูอาการอีกคืน    แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางก็แล้วกันนะ”   บาบาร่ากล่าวตัดบทพร้อมกับแสดงอาการลังเลเพียงชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“การแข่งขันรอบสุดท้ายจะตรงกับวันสำคัญของแกรนน่าด้วยสินะ   ฉันคิดว่าเธอควรจะมีอะไรใหม่ๆไปรับมือนะชายน์”   คำกล่าวของบาบาร่าสร้างความงุนงงสงสัยให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่แดร์ดราก้อน

“ยังไงรึบาบาร่า   อย่าบอกนะว่าเธอจะสอนคาถาของแม่มดให้ชายน์”   แดร์ดราก้อนเอ่ยดักคอ

“ฉันล่ะเบื่อนายก็ตรงที่ชอบรู้ทันฉันตลอดนี่แหละแดร์  ชิ!”   บาบาร่าเอ่ยพลางสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจจนเรียกเสียงหัวเราะจากแดร์ดราก้อนได้เป็นอย่างดี

“ไม่ใช่แค่สอนนะ   แต่จะส่งผู้ช่วยไปด้วยเลยแหละ  ฮ่าๆๆ”   คำตอบของบาบาร่าทำเอาแดร์ดราก้อนหัวเราะชอบใจลั่น

“ฮ่าๆๆๆ  หลังจากหลบหายไปสิบกว่าปีงานนี้เผ่าแม่มดพ่อมดถึงกับยอมเปิดเผยตัวอีกครั้งเลยหรือ?” 

“หมายความว่าไงครับ?”   ชายน์ที่สงสัยในคำพูดของแดร์ดราก้อนเอ่ยถามโดยทันที

“งั้นฉันจะเล่านิทานให้ฟังก็แล้วกัน  หึหึ”   พรึบ!!    บาบาร่าเอ่ยพร้อมกับวาดมือขึ้นกลางอากาศหนึ่งครั้ง   ฉับพลันภาพเหตุการณ์หนึ่งก็บังเกิดขึ้นพร้อมกับที่บาบาร่าเริ่มเอื้อนเอ่ยวาจา

“เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ดินแดนแห่งนี้เกิดเหตุความวุ่นวายมากมาย   ก็อย่างที่เธอได้รับรู้มาจากวิชาประวิตศาสตร์แกรนน่านั่นแหละ   หลายเหตุการ์สร้างความสุญเสียมากมาย   เริ่มตั้งแต่กลุ่มกบฏเวทย์มืดเข้ายึดเมืองย่อยๆ ในเกรย์โซน   อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายลง   จอมเวทย์ออกมาปกป้องเมืองและสละชีพตนเพื่อรักษาสมดุลของแกรนน่าไว้   กษัตริย์แห่งแกรนโซนและครอบครัวถูกลอบปลงพระชนม์และองค์รัชทายาทสาบสูญไป        ในขณะที่เกรย์โซนก็วุ่นวายไม่แพ้กันเพราะธิดาของกษัตริย์มีบุตรกับทหารองค์รักษ์แห่งแกรนโซนจนกษัตริย์แห่งเกรย์โซนในตอนนั้นไม่พอใจและนำมาซึ่งเหตุสะเทือนใจ…”   กล่าวถึงตรงนี้บาบาร่าก็หันมามองหน้าเดวี่ที่กำลังน่งฟังอยู่เงียบๆ และเมื่อเห็นว่าบาบาร่ากำลังชะงักเพราะเรื่องมาถึงชีวิตของตนเดวี่ก็เพียงแต่พยักหน้าและเอ่ยออกไปเบาๆ

“เชิญเล่าต่อเถอะครับ   ผมไม่เป็นอะไร”  เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวอนุญาตบาบาร่าก็เริ่มเอ่ยต่ออีกครั้ง

“กษัตริย์เกรย์โซนขับไล่ธิดาของตนออกจากเกรย์โซนพร้อมถอดยศให้เหลือแค่สามัญชนธรรมดา   หลังจากนั้นกษัตริย์เอสเทอร์ในปัจจุบันก็เข้ายึดอำนาจกษัตริย์องค์ก่อน    จากนั้นความเปลี่ยนแปลงก็มาเยือนเกรย์โซนและแกรนน่าในที่สุด    และพวกเราก็เป็นหนึ่งในหลายๆ เผ่าพันธุ์ที่ไม่อาจอยู่ร่วมกับการปกครองของกษัตริย์เอสเทอร์ได้จึงหลบหนีมาสร้างมิติของเราเอง   ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะไม่มีใครสามารถผ่านเข้ามาได้หากเราไม่อนุญาต    เรามาตั้งถิ่นฐานที่นี่กว่าสิบปีแล้วโดยที่ไม่ออกไปยุ่งเกี่ยวกับเกรย์โซนเลยจนคนส่วนมากเขาคิดว่าเราโดนล้างเผ่าพันธุ์ไปแล้ว”   บาบาร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์ได้ว่าเธอกำลังปวดร้าวกับเรื่องที่พึ่งจะเล่าออกมาไม่น้อย     เมื่อเธอหยุดเล่าลงภาพนิมิตนั่นก็หายไปทันที

“สรุปว่าคุณจะส่งคนของคุณออกไปกับเราด้วย   เพื่ออะไรครับ?”   เดวี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ฉันและพี่น้องของฉันคงไม่อาจทนดูความย่อยยับของแกรนน่าได้      จริงอยู่ว่าคนของฉันอาจช่วยได้ไม่มากเพราะพวกนายฝีมือไม่ธรรมดาแล้ว    แต่ฉันก็ตั้งใจว่าจะสอนคาถาของเผ่าเราให้พวกเธอก็เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในภายหน้า” 

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านจะเมตตาพวกเรา”   ชายน์กล่าวพร้อมก้มหัวคำนับบาบาร่า

“แต่มีข้อแม้ข้อหนึ่งนะว่าพวกเธอจะต้องดูแลคนของเราด้วยเช่นกัน  ฮ่าๆๆ”   บาบาร่าผู้ไม่เคยยอมเสียเปรียบใครเอ่ยหัวเราะลั่น

“หมายความว่าเธอจะส่ง…”   แดร์ดราก้อนเอ่ยค้างอย่างไม่มั่นใจในคำตอบของตน    บาบาร่าจึงชิงเฉลยคำตอบออกมาก่อน

“ใช่   ฉันจะให้ฮันนี่   บุตรสาวของฉันออกไปกับพวกเธอด้วย”

เพล้ง!!!   เสียงแจกันตกดังขึ้นขัดจังหวะจนคนทั้งห้องรับรองหันไปมองยังต้นเสียงที่เป็นเด็กสาวผมดำสลวยกำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่พึ่งจะได้ยิน

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮันนี่?”   บาบาร่าถามลูกสาวราบเรียบ

“ท่านแม่พูดจริงหรือค่ะ?”   ฮันนี่ที่แอบฟังอยู่ตั้งแต่แรกไม่ตอบคำถามของผู้เป็นแม่หากแต่ตั้งคำถามกลับทันที

“ใช่   เข้ามานี่สิไหนๆ ก็มาแอบฟังแล้ว    ว่าแต่ลูกมีอะไรหรือเปล่า?”   บาบาร่าถามพลางกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันบุตรสาวตน

“เย้   ท่านแม่คะหนูยินดีและเต็มใจมากเลยค่ะ  ฮ่าๆๆ”   เด็กสาวยกมือกระโดดดีใจพร้อมโผเข้ากอดผู้เป็นแม่อย่างลิงโลด

“งั้นเอาเป็นว่าผมพร้อมจะเรียนคาถาเวทย์ของคุณบ่ายนี้เลยเพราะผมอยากออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า   อีกอย่างผมคิดว่าฮันนี่เขาก็คงใจร้อนไม่แพ้ผม   ใช่มั๊ยครับ  หึหึ”   ท้ายประโยคชายน์หันไปเอ่ยกับฮันนี่พร้อมกับส่งสายตาให้จนฮันนี่หน้าแดงอย่างชัดเจน

“ฮ่าๆๆ  ถ้าเธอไหวฉันก็พร้อมนะชายน์      บ่ายนี้เจอกันที่สนามหญ้าหลังคฤหาสน์นะ”   กล่าวจบการพูดคุยก็เริ่มขึ้นอย่างครึกครื้น   …นานเท่าไหร่แล้วที่เมืองนี้ไม่มีแขกมาเยือน

 

เช้าวันต่อมา….

“อย่าดื้ออย่าซนนะฮันนี่    ถ้าชายน์และเดวี่เขารายงานแม่มาว่าลูกนิสัยไม่ดีแม่จะเรียกตัวลูกกลับทันที”

“โหยยย  ท่านแม่ย้ำลูกมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะคะ    ลูกสัญญาว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งของชายน์และเดวี่อย่างเคร่งคัดเลยนะคะ”   ฮันนี่เอ่ยพลางหันไปหัวเราะชอบใจกับชายน์และเดวี่หลังจากที่เธอและบาบาร่าช่วยกันสอนคาถาเวทย์ให้กับชายน์และเดวี่จนเป็นที่น่าพอใจและนั่นก็ทำให้ระหว่างเธอและชายน์เข้ากันได้ดีกว่าตอนแรก   ส่วนเดวี่นั้นก็นิ่งเงียบตามแบบฉบับจนฮันนี่อดคิดไม่ได้ว่าหมอนี่คงไม่พอใจที่เขาสนิทกับชายน์แน่ๆ

 

 “ขอบคุณนะบาบาร่าสำหรับความช่วยเหลือและการต้อนรับที่ดี   แต่ตอนนี้ได้เวลาแล้วล่ะ”  แดร์ดราก้อนเอ่ย

“อย่าลืมนะชายน์  เดวี่   ใช้สิ่งที่เราให้อย่างรอบคอบ   เพราะมันเป็นทั้งคุณและโทษ”

“ครับคุณบาบาร่า   เราสองคนจะคิดให้มากหากถึงเวลานั้นจริงๆ”   ชายน์เอ่ย

“ฝากดูฮันนี่ด้วยนะเดวี่   เพราะยังไงฮันนี่ก็ประชาชนของเกรย์โซนคนนึง   และเธอก็คือกษัตริย์ของที่นี่”    บาบาร่ายิ้มให้เดวี่และเช่นกันที่เดวี่ยิ้มตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน

“ผมไม่ทิ้งคนของผมแน่ คุณบาบาร่า”   เดวี่รับปากอย่างหนักแน่นจนบาบาร่ายิ้มออกมาอีกครั้ง

“ไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูมิติหน่อยฟาราโด้    แล้วจัดการให้เรียบร้อยนะ”   บาบาร่าเอ่ยกำชับกับคนของตนในระหว่างที่เด็กๆ กำลังออกเดินทาง

“ครับท่านบาบาร่า”   ฟาราโด้รับคำก่อนจะตามกลุ่มของเด็กๆ ออกไปจากคฤหาสน์ของบาบาร่า

ชะตาของแกรนน่าอยู่กับท่านแล้วนะ ผู้พิทักษ์    ส่วนเกรย์โซนจะเป็นไปในทิศทางใดก็ขึ้นอยู่กับท่านเช่นกันเจ้าชายเดวี่บาบาร่าเอ่ยอย่างมีความหวัง

 

                                                         ………………………………………………………………

 

“สรุปว่าตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยออกจากมิตินี้เลยหรือฮันนี่?”   ชายน์เอ่ยถามขณะออกเดินทาง

“เคยครั้งเดียว   แต่แอบท่านแม่ออกไปนะ    จากนั้นก็โดนทำโทษและไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่อีกเลย”

“แล้วทุกคนที่นี่จะอยู่กันแบบนี้ตลอดไปหรือ”   เดวี่ถามอย่างอดห่วงไม่ได้

“ไม่หรอก   ท่านแม่บอกว่าวันนึงจะมีกษัตริย์มาเยือนเมืองเรา   และวันนึงเราจะต้องออกไปช่วยพวกเขาและสุดท้ายเราจะออกไปใช้ชีวิตปกติบนผืนแผ่นดินเดิมของเรา”

“นอกจากเผ่าพ่อมดแม่มดแล้วยังมีเผ่าพันธุ์อื่นอีกมั๊ยที่หลบซ่อนแบบนี้อ่ะ”   เดวี่หันไปถามกับฟาราโด้

“ก็มีครับ   จริงๆ พวกแวร์วูฟบางเผ่าที่เราคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วก็ยังคงหลบซ่อนอยู่    พวกแวมไพร์และปิศาจที่ดีก็ยังหลงเหลือแต่ส่วนมากจะตกเป็นพวกของเวทย์มืดไปเกือบหมดแล้วล่ะ”  

“เผ่าพันธุ์มังกรก็ยังไม่สูญพันธุ์นะ   ทั้งมังกรเพลิง   มังกรวารี  มังกรวาโยและมังกรรัตติกาล   เพียงแต่พวกเรามีที่ที่สามารถหลบซ่อนได้เป็นอย่างดีก็เท่านั้น   ฮ่าๆๆ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยแทรกขึ้นมา

“เอาละครับ   ทะลุแนวป่านี่ไปก็คนละมิติกันแล้ว    เอาเป็นว่าพวกท่านเดินทางดีๆ นะครับท่านแดร์ดราก้อน   เจ้าชาย คุณชายน์และคุณหนู”   ฟาราโด้เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มมาให้    แต่เมื่อคณะเดินทางเดินพ้นแนวป่าออกไปฟาราโด้ก็ยังคงเดินตามออกไปด้วยจนชายน์ที่หันมาเห็นก็สงสัยและอดที่จะถามออกมาไม่ได้

“อ่าว คุณฟาราโด้   ผมไม่คิดว่าคุณจะออกมาส่งถึงด้านนอกนี่   เอ้… มีอะไรพิเศษหรือเป่าครับ?”  

“ผมจะตามมาบอกว่ามีคนรอต้อนรับอยู่ด้านนอกนี้   ยังไงถ้าร้อนวิชาก็ลองได้นะครับ   คาถาเวทย์ของพ่อมดแม่มดไม่เป็นรองเวทย์สายอื่นๆ อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ”  กล่าวจบก็ถอยหลังกลับสู่ประตูมิติของดินแดนตนพร้อมกับประตูมิตินั่นก็หายวับไปอันเป็นสัญญาณว่าฟาราโด้ทำหน้าที่ตามที่บาบาร่าสั่งเรียบร้อยแล้ว

“บาบาร่าสั่งให้เขามาเตือนเราและปิดประตูให้มิดชิด   ตอนนี้เขาทำหน้าที่เขาเรียบร้อยแล้วล่ะ  หึหึ”   แดร์ดราก้อนเอ่ย

“แล้วไหนล่ะ  คนที่จะมาต้อนรับเรา”   ฮันนี่ถามอย่างตื่นเต้น   

ฟิ้ววว   ฉึก!!   เสียงดอกธนูนับสิบพุ่งแหวกอากาศมายังตำแหน่งที่บุคคลทั้งสี่กำลังยืนอยู่แต่ด้วยสัญชาตญาณและการระวังตัวอยู่ก่อนแล้วทำให้ทั้งสี่สามารถหลบวิถีการโจมตีนั่นได้อย่างสบาย

“ลอบกัดชัดๆ!!”   ชายน์สบถขณะกระโดดหลบทั้งลูกดอกธนูและลูกบอลสีดำนับสิบที่ต่างมุ่งโจมตีเขามากกว่าคนอื่นๆ จนชายน์ต้องเรียกรัตติกาลเวทย์มาสร้างเป็นกำแพงป้องกันตัวเองไว้      ฉับพลันเบื้องหน้าของคนทั้งสี่ก็ปรากฏวงแหวนสีดำขึ้นพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มผมเงินที่ชายน์นั้นสัมผัสได้ว่าแสนจะคุ้นเคย

“ออกมาแล้วสินะ  หึหึ”   เด็กหนุ่มผมเงินหน้าตาละม้ายกับชายน์เอ่ย   หากแต่แผลเป็นขนาดใหญ่และดวงตาสีดำแข็งทื่อไร้แววนั้นกลับทำให้หมอนี่ดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก

...........................................................................................................................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา