Twin แฝดเลือดผสม
8.0
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
31.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ป่าศักดิ์สิทธิ์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความป่าศักดิ์สิทธิ์
“อย่าลืมที่ครูบอกนะเด็กๆ ว่าพวกเธอมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงในการจับสัตว์เวทย์ พรุ่งนี้เวลา 16.45 นาฬิกา ทุกคนจะต้องมารวมกันยังจุดนัดพบนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองร่ายเวทย์สัตว์เวทย์มายาที่สามารถใช้จับสัตว์เวทย์ได้ด้วยก็ให้ไปฝึกเอาระหว่างที่อยู่ในป่านะ ขอให้ทุกคนจงโชคดีนะคะ ฮ่าๆๆ”
“ไม่คิดที่จะบอกกันล่วงหน้าเลยนะ หิวข้าวเป็นบ้าเลย โธ่…” มาร์ตินเอ่ยอย่างตัดพ้อหลังจากที่เข้าป่ามาได้สักพักแล้วแต่ยังไม่พบเจอสัตว์เวทย์ใดๆ เลย อีกทั้งยังโดนกำชับมาว่าไม่ควรจะไปเป็นกลุ่มเพราะจะทำให้เข้าถึงสัตว์เวทย์ได้ยากพวกเขาจึงจำต้องแยกกันไปคนละทาง
สวบๆๆ เสียงของสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเคลื่อนที่มายังทางที่เขานั่งอยู่จนมาร์ตินอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้
“ตัวอะไรว่ะ เข้ามาเล้ยยย พ่อจะจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงให้ได้เลยนะคอยดู ฮึ!!” กล่าวเรียกกำลังใจตัวเองพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์มาไว้ในมือทันที เมื่อต้นตอของเสียงโผล่พรวดออกมาก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มาร์ตินส่งวาโยเวทย์ในมือไปให้พอดี
“ว๊ายยยย อัก!!” เสียงร้องอันคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับอีกเสียงที่ดังตามมาเพื่อบ่งบอกอาการของผู้รับวาโยเวทย์ไปเต็มๆ
“เฮ้ยๆๆ เซฟานี่หรอ ฉันขอโทษ นึกว่าสัตว์เวทย์หน่ะ” มาร์ตินกล่าวทันทีที่เห็นว่าบัดนี้คนที่รับวาโยเวทย์ของเขาเข้าไปกำลังเงยหน้ามามองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นังมาร์ตี้ คิดจะเอาคืนฉันด้วยวิธีนี้หรอ ไม่แมนเลยนะ” เซตะโกนด่าเพื่อนตัวแสบเสียงดังลั่น
“ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าสัตว์เวทย์นี่” มาร์ตินอธิบายเสียงอ่อย
“ถึงจะเป็นสัตว์เวทย์แล้วมันควรหรอที่ต้องใช้วิธีนี้ อาจารย์ให้มาจับสัตว์เวทย์นะไม่ใช่มาฆ่าสัตว์เวทย์” เซยังคงตะคอกใส่มาร์ตินให้สาสมกับความเจ็บที่ตนได้รับ
“แล้วเธอวิ่งหนีอะไรมาล่ะ?” มาร์ตินเปลี่ยนเรื่องทันที
“คือ ฉันไม่ชอบอยู่คนเดียวน่ะ เมื่อกี้มีอะไรแปลกๆ ตามฉันมา ฉันเลยวิ่งไง” เซฟานี่เอ่ยออกมาอย่างอายๆ
“ฮ่าๆๆๆ ฉันก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว สงสัยเราต้องขัดคำสั่งอาจารย์หน่อยแล้วล่ะ” มาร์ตินว่าพลางหัวเราะอารมณ์ดี
“จุ๊ๆๆ เบาๆ” เซฟานี่เอ่ยหลังจากที่จับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างรอบๆ ตัว
“มีบางอย่างกำลังล้อมเราไว้ นายรู้สึกมั๊ย?” เซกล่าวต่อตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าไอ้เจ้าสิ่งที่ตามเธอมามันมีมากกว่าหนึ่ง
“อืม” มาร์ตินตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์ออกมาอีกครั้ง
‘บึ้มมมม!! แฮ่…..’ เสียงระเบิดดังสนั่นก่อนจะตามด้วยเสียงขู่ของฝูงหมาป่าหลายสิบตัวที่โผล่ออกมายืนล้อมทั้งสองคนไว้
“เยอะขนาดนี้จะเอายังไงดีล่ะมาร์ติน” เซฟานี่ถามพลางขอความคิดเห็น
“อาจารย์ให้มาจับเราก็เลือกจับสิ เธอจะเอาตัวไหนละ แต่ฉันจองตัวสีขาวนั่นนะ ฮ่าๆๆๆ” ตอบอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับร่ายเวทย์เตรียมจับหมาป่าแล้ว
“แทนที่จะได้สัตว์น่ารักๆ ดันได้หมาป่า ชิ” บ่นพร้อมกับมองหาตัวที่คิดว่าน่ารักที่สุดจนไปสะดุดเข้ากับหมาป่าสีดำตัวหนึ่งเข้า ….หาที่น่ารักๆ ไม่ได้ก็ขอเอาที่น่ากลัวที่สุดแล้วกันนะ หึหึ!!
…………………………………………………………………………
ทางด้านของเบล บัดนี้กำลังฟัดอยู่กับสิงโตตัวงามที่มีแผงคอเป็นไฟลุกโชนอย่างทุลักทุเล เพราะแม้เข้าจะถนัดการใช้อัคคีเวทย์ก็ตามแต่เมื่อเจอกับสัตว์เวทย์ชั้นสูงอย่างสิงโตไฟนี่ก็เล่นเอาเสียกำลังไปไม่น้อย
“ไฟศักสิทธิเชียวนะ จะไม่ยอมหน่อยหรือ” เบลกล่าวเพราะเขารู้ว่าสัตว์เวทย์ชั้นสูงสามารถฟังภาษาคนได้ แต่เมื่อเห็นว่าสิงโตนั่นกระโจนมาใส่เขาจึงจำต้องจัดการ
“โฮกกก” เสียงร้องลั่นของสิงโตไฟเมื่อเจอกับไฟศักดิ์สิทธิเข้าไปก็กระเด็นไปนอนตัวงออยู่โคนต้นไม้ เมื่อเห็นว่าได้โอกาสเบลก็ร่ายเวทย์ทันที แสงสีขาวจากเบลสว่างว้าบพุ่งตรงไปยังสิงโตเพลิงนั่นและเมื่อแสงขาวดับลงก็ปรากฏร่างของหนุ่มน้อยผมแดงยืนแทนที่อยู่ทันที
“นับต่อแต่นี้ ข้า เลออน ขอรับใช้ท่านตลอดชีวิต ท่าน……” หนุ่มหล่อผมแดงกล่าว
“เบล ฟีลเนเลี่ยน” เบลกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ
ทางด้านของนีโอตั้งแต่เข้าป่ามาจนถึงตอนนี้เขายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย
“นี่เราเข้ามาส่วนไหนของป่าเนี่ย วังเวงชะมัดเลย” นีโอบ่นอย่างหงุดหงิดเพราะว่าบัดนี้ก็ค่ำแล้วแต่เขายังไม่เจออะไรเลยนอกจากความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“มืด….ใช่แล้ว” และเหมือนจะนึกอะไรได้บางอย่าง สองมือของนีโอกางออกพร้อมกับแสงสว่างจ้าพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของบุคคลปริศนานั่น
“เก่งนี่ที่จับสัมผัสของฉันได้หน่ะ ฮ่าๆๆๆ” บุรุษชุดดำกล่าว
“พอดีฉันไม่ชอบความมืดน่ะ” นีโอกล่าวเรียบๆ แต่ก็ลอบสังเกตุชายตรงหน้าว่าอายุไม่น่าจะห่างกับเขามากนัก หากแต่ปีกใหญ่ๆ และทรงผมยาวสีดำที่ถักเปียไว้ด้านหลังกับชุดดำที่สวมใส่นั่นทำให้เดาได้ไม่ยากว่านี่คือรัตติกาลภูตแน่ๆ
“งั้นนายก็ไม่ชอบฉันหนะสิ อุตส่าห์ตามมาหวังจะให้รับข้าไปเป็นภูตประจำตัวซะหน่อย เฮ้อออ” ภูตหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ฉันมาจับสัตว์เวทย์ ไม่ใช้มาหาภูตประจำตัว” นีโอกล่าวทั้งๆ ที่ในหัวกำลังวางแผนจัดการเจ้าภูตจอมก่อกวนนี่
“ไม่ดีหรอที่มีสัตว์เวทย์เป็นถึงภูตหน่ะ” กล่าวเสนอตัวเต็มที่
“งั้นก็รับมือให้ดีแล้วกัน!!” ทันทีที่กล่าวจบอัคคีย์เวทย์จากมือของนีโอก็ถูกส่งไปยังภูตหนุ่มนั่นทันที แต่เพียงแค่ภูตหนุ่มนั่นยกมือขึ้นสะบัดเบาๆ อัคคีย์เวทย์ของนีโอก็สลายไป
“ถนัดแสงก็ใช้เวทย์แห่งแสงสิ แบบนี้มันดูถูกกันนะ” กล่าวจบภูตหนุ่มก็เป็นฝ่ายโจมตีนีโอกลับบ้าง หมอกสีดำเคลือนเข้ามาปกคลุมไปทั่วจนนีโอไม่สามารถมองเห็นอะไรได้นอกจากรับรู้เพียงว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่รอบๆ เขา
“อึก!! ” ความอึดอัดเข้าปกคลุมพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงจนติดลบนั้นทำให้นีโอไม่สามารถขยับร่างกายได้ และทุกครั้งที่หายใจหมอกควันสีดำนั่นก็จะถูกสูดเข้าไปยังร่างกายซึ่งมันจะทำให้ผู้ที่ได้รับหมอกควันนั่นแน่นหน้าอกจนไม่สามารถหายใจได้
“ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็ตายอยู่ในป่านี่ก็แล้วกันนะ หึหึ” ภูตหนุ่มกล่าวเสียงเย็นจนน่ากลัว บัดนี้นีโอไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือขยับปากร่ายเวทย์อย่างยากลำบากเท่านั้น เมื่อเริ่มร่ายเวทย์ก็ปรากฏวงแหวนสีขาวสว่างขึ้นที่พื้นรอบๆ ตัวของนีโอในลักษณะที่นีโอกำลังยืนอยู่กลางวงเวทย์นั่น ฉับพลันแสงขาวก็สว่างว้าบขึ้นมาจากวงเวทย์นั่นก่อนที่ร่างของนีโอจะหายไป
“แฮกๆๆ” เสียงหอบของนีโอดังมาจากอีกทางหลังจากที่เขาสามารถพาตัวเองออกมาจากหมอกดำนั่นได้แล้ว
“ถ้ารัตติกาลเวทย์ของนายขังฉันไม่ได้ นายก็เตรียมตัวเลย”กล่าวจบธนูเล่มงามก็ปรากฏขึ้นในมือของนีโอพร้อมกับที่เจ้าตัวแผลงศรใส่ไปยังกลุ่มควันนั่น
‘ฟิ้ววววว วูบบบบ’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวสว่างพุ่งเข้าไปในหมอกดำนั่นความมืดก็จางหายไปทันที ไม่รอช้านีโอก็แผลงศรนั่นใส่ภูตหน่มทันที
‘ฟิ้ววววว บึ้มมม!!’ ทันทีที่ลูกธนูเข้าประชิดตัวภูตหนุ่มมันก็พลันต้องระเบิดออกก่อนทันทีเพียงเพราะแค่ภูตหนุ่มนั่นจ้องไปที่ลูกธนูเท่านั้นเอง เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลนีโอก็เก็บธนูพร้อมกับเรียกเวทย์แห่งแสงออกมาอีกครั้งอย่างมากมาย ลูกธนูสีขาวมากมายพุ่งเข้าโจมตีภูตหนุ่มอย่างบ้าครั้งจนภูตหนุ่มนั้นต้องกระโดดหลบลูกธนูสีขาวเป็นพัลวัน เมื่อเห็นว่าได้โอกาสนีโอก็รีบจัดการทันที ลำแสงสีขาวจากร่างของนีโอเปล่งประกายออกมาอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นโซ่สีขาวเส้นโตและพุ่งเข้าพันธนาการร่างของภูตหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“ถ้านายเอาชนะโซ่ของฉันไม่ได้นายก็เตรียมตัวมาอยู่กับฉันได้เลย” กล่าวย้อนภูตหนุ่มตรงหน้าบ้างหลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเองก็เกือบจะพลาดท่าไปแล้ว แต่เหมือนว่านีโอจะไม่ใจเย็นซักเท่าไหร่เพราะระหว่างที่ภูตหนุ่มกำลังดิ้นอยู่นีโอก็ส่งลูกธนูสีขาวไปให้ทันที
‘วู้บบบบ อึก!!’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวปักเข้ายังร่างของภูตหนุ่มร่างนั้นก็ทรุดและนิ่งไปทันที
“เสร็จฉันจนได้นะ ภูตรัตติกาล ฮ่าๆๆ”
………………………………………………………….
“อาจารย์ครับ หน่วยสังเกตการณ์พิเศษรายงานเข้ามาว่าทางตอนใต้ของป่าศักดิ์สิทธิ์มีบางสิ่งผิดปกติครับ” นักเรียนชั้นปี3 เข้ามารายงานความผิดปกติกับกิมเมอร์ด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“มีอะไรผิดปกติหรือ?” ถามด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจเล็กน้อย
“มีเวทย์มืดโผล่มาวูบหนึ่งแล้วหายไป ทางนั้นรายงานว่าไม่ใช่รัตติกาลเวทย์ธรรมดาแน่” นักเรียนปี3 ยังกล่าวอย่างจริงจังเพราะเวทย์มืดนั้นคือรัตติกาลเวทย์แขนงหนึ่งที่ใช้ในทางชั่วร้ายเท่านั้น!!
“ส่งหน่วยสอดแนมพิเศษไป แล้วยังไงก็ให้ทางนั้นจับตาไว้ให้ดีพร้อมกับรายงานผลกับผมเป็นระยะนะ” กิมเมอร์กล่าวอย่างจริงจัง
‘คิดจะบุกโฮเนอร์หรอ หึหึ’
‘นายอย่าลืมนะ ทุกครั้งที่ใช้เวทย์ให้ใช้แค่2ใน3 ของพลังเวทย์ เพราะเวลาคับขันนายจะได้เอาตัวรอดได้’ เสียงคนในความคิดกล่าวขณะที่ชายน์กำลังเดินอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ที่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอกับสัตว์เวทย์ใดๆ เลย
‘รู้แล้วหน่า นายบอกแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจะใช้เวทย์เลยนะ แต่ยังไงก็จะทำตามที่แนะนำก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ’ ชายน์ตอบอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเขาเก่งและใช้เวทย์ต่างๆ ได้ดีเพราะคนๆ นี้ คนที่ไม่ยอมแม้แต่จะบอกชื่อตัวเองให้เขาได้รับรู้
‘ว่าแต่ไม่คิดจะบอกชื่อกันจริงๆ หรือ เรารู้จักกันสามเดือนได้แล้วมั้งเนี่ย’
‘ก็จะบอกแล้วล่ะ รำคาญลูกตื้อของนาย จริงๆ ฉันชื่อ….’ ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบก็ปรากฏว่ามีบางสิ่งพุ่งตรงมายังชายน์อย่างรวดเร็ว
ฟิ้วววววววว ฉึก!! มีดสั้นสีดำพุ่งเฉียดหน้าชายน์ไปนิดเดียว บุรุษชุดดำปรากฏกายขึ้นพร้อมกับหมอกควันสีดำมากมายเข้าปกคลุมบริเวณนั้น
“ไม่เจอกันนานเดี๋ยวนี้ฝีมือดีขึ้นนะ หึหึ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้าชื่อ เมอร์ดอร์ฟ คนที่ท่านน่าจะจดจำได้” บุรุษชุดดำที่แสนจะคุ้นตากล่าวทักทาย
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนคุ้นเคยนี่เอง หึหึ” ชายน์กล่าวเพราะจำได้ว่าคนๆ นี้คือคนที่ดักทำร้ายเขาและชาร์ลเมื่อครั้งที่มายังแกรนน่าในวันแรก
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ยังจำข้าได้ ยังไงก็ขอเชิญไปดื่มน้ำชาด้วยกันหน่อยนะ มีคนอยากจะเจอหน่ะ”
“ถ้าคิดว่าฝีมือดีพอก็ลองดู!!” กล่าวจบก็ส่งลูกบอลเวทย์สีขาวสว่างเข้าใส่ชายชุดดำทันที หากแต่เมื่อกำลังจะถึงคนตรงหน้าก็หายวับไปจากวิถีของลูกบอลเวทย์เขาแต่ทว่าบางสิ่งที่อันตรายกลับเข้าจู่โจมเขาอีกด้าน
‘เคร้ง!!’ ชายน์เรียกดาบออกมารับกับดาบเล่มโตสีดำของเมอร์ดอร์ฟอย่างทันท่วงที จากนั้นเพลงดาบของทั้งคู่ก็เริ่มต้นอย่างดุเดือด แต่ด้วยประสบการณ์และเชิงดาบที่เป็นรองจึงทำให้ชายน์พลาดท่าเข้าจนได้
“อึก!!” ดาบเล่มโตสีดำนั่นเฉือนเข้าที่ไหล่ขวาของชายน์เข้าอย่างจังๆ จนเจ้าตัวทรุดลงทันที
เลือดสีแดงสดไหลออกมามากมายจนคนที่ไม่ชอบเลือดนั้นถึงกับหน้าซีดไปทันที
“ดาบนี่อาบยาพิษสินะ” ชายน์พึมพำเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา บัดนี้กลุ่มควันสีดำกำลังเคลือนเข้ามาปกคลุมชายน์จาดด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ!!” ทันทีที่ระลึกได้ก็กระโดดออกจากจุดยืนนั้นทันทีแต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะบัดนี้หมอกควันสีดำเข้าปกคลุมร่างของชายน์อย่างหนาแน่นจนส่งผลให้ร่างนั้นได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่!!
“ประสาทสัมผัสช้าไปนะ สงสัยข้าคงประเมินเจ้าสูงเกินไป” กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ อย่างมั่นใจในเวทย์มืดของตนเพราะจากที่ผ่านมาหากใครตกอยู่ในสภาพนี้จะไม่สามารถครองสติได้ และเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถจัดการชายน์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
บัดนี้ชายน์กำลังตกอยู่ในสถานะลำบากเพราะเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เพราะหมอกควั่นนั่นกำลังเล่นงานเขาอยู่นั่นเอง ทุกครั้งที่หายใจมันก็จะเข้าสู่ร่างของเขาพร้อมกับร่างนั้นจะค่อยๆ อ่อนแรงลง ยิ่งพยายามต่อต้านก็ยิ่งอ่อนแรงอีกทั้งเลือดที่ไหลอาบไหล่ขวานั่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนบัดนี้แม้สติก็แทบจะดับลงแล้ว
‘รวบรวมสติให้ดีนะ แล้วว่าตามที่ฉันบอก’ เสียงในความคิดดังขึ้นอย่างร้อนรนพร้อมกับกล่าวบางอย่างออกมาและชายน์ก็ว่าตามทันที แสงสว่างสีขาวนวลกำลังส่องประกายออกมาจากกลุ่มหมอกควันสีดำนั่นจนคนที่ยืนยิ้มอยู่รอบนอกนั้นไม่สามารถสังเกตุเห็นได้
“คิดว่าได้เวลาอันสมควรของข้าแล้วล่ะ หึหึ” กล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหากลุ่มควันนั่นหวังจะพาร่างที่คาดว่าน่าจะกำลังนอนสลบไหลอยู่ในนั้นออกมา แต่ทันทีที่เข้าไปใกล้ๆ ก็ปรากฏว่าแสงสีขาวนวลนั่นกำลังเปล่งประกายจ้าออกมาพร้อมกับที่สัญชาตญาณของเมอร์ดอร์ฟบอกว่าสิ่งนี้อันตรายเกินกว่าที่เขาจะเดินเข้าไปหาได้
‘บึ้มมมม!!’ เสียงระเบิดดังลั่นไปทั้งป่าพร้อมกับรังสีแสงสีขาวนวลสว่างว้าบฉายขึ้นบนฟ้ายามราตรีจนบรรดาเด็กปีหนึ่งที่ได้ยินและเห็นต่างก็พากันจินตนาการถึงต้นตอไปต่างๆ นาๆ
“อึก!!” เส้นรังสีขาวนวลพุ่งเข้ายังกลางอกของเมอร์ดอร์ฟพร้อมกับแรงระเบิดนั่นพาร่างของเขาเข้ากระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนเจ้าตัวถึงกทรุดลงนั่งพร้อมกับกระอักเลือดกองโตออกมา
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไปสินะ!!” กล่าวพร้อมกับสติดับวูบลงท่ามกลางหมอกควันสีดำที่เข้ามาปกคลุม และทันทีที่มันจางลงก็ไม่ปรากฏร่างของเมอร์ดอร์ฟแล้ว
แรงระเบิดจากเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ใช้นั้นทำให้ร่างของชายน์กระเด็นไปไกลจนพลัดหล่นลงไปยังน้ำตกสูงทันที เมื่อร่างนั้นร่วงลงถึงพื้นน้ำก็ไหลไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากพร้อมกับสติของชายน์ที่ดับวูบลง
……………………………………………………
“เซ เธอว่าแสงสีขาวเมื่อซักครู่นี้ฝีมือใครอ่ะ” มาร์ตินถามอย่างสงสัย
“นายว่าใครในรุ่นล่ะที่ใช้เวทย์แสงได้รุนแรงขนาดนั้นอ่ะ” เซฟานี่ถามกลับบ้าง
“นีโอหรอ? แต่ฉันว่าไม่น่าจะเป็นหมอนั่นนะ เธอว่าจะใช่ชายน์หรือเปล่า?”
“ไม่รูสิ แต่ลางสังหรณ์ฉันบอกว่าแรงระเบิดและแสงนั่นไม่น่าจะใช่วิธีการจับสัตว์เวทย์นะ” เซฟานี่กล่าวอย่างจริงจัง
“อย่าลืมที่ครูบอกนะเด็กๆ ว่าพวกเธอมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงในการจับสัตว์เวทย์ พรุ่งนี้เวลา 16.45 นาฬิกา ทุกคนจะต้องมารวมกันยังจุดนัดพบนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองร่ายเวทย์สัตว์เวทย์มายาที่สามารถใช้จับสัตว์เวทย์ได้ด้วยก็ให้ไปฝึกเอาระหว่างที่อยู่ในป่านะ ขอให้ทุกคนจงโชคดีนะคะ ฮ่าๆๆ”
“ไม่คิดที่จะบอกกันล่วงหน้าเลยนะ หิวข้าวเป็นบ้าเลย โธ่…” มาร์ตินเอ่ยอย่างตัดพ้อหลังจากที่เข้าป่ามาได้สักพักแล้วแต่ยังไม่พบเจอสัตว์เวทย์ใดๆ เลย อีกทั้งยังโดนกำชับมาว่าไม่ควรจะไปเป็นกลุ่มเพราะจะทำให้เข้าถึงสัตว์เวทย์ได้ยากพวกเขาจึงจำต้องแยกกันไปคนละทาง
สวบๆๆ เสียงของสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเคลื่อนที่มายังทางที่เขานั่งอยู่จนมาร์ตินอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้
“ตัวอะไรว่ะ เข้ามาเล้ยยย พ่อจะจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงให้ได้เลยนะคอยดู ฮึ!!” กล่าวเรียกกำลังใจตัวเองพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์มาไว้ในมือทันที เมื่อต้นตอของเสียงโผล่พรวดออกมาก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มาร์ตินส่งวาโยเวทย์ในมือไปให้พอดี
“ว๊ายยยย อัก!!” เสียงร้องอันคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับอีกเสียงที่ดังตามมาเพื่อบ่งบอกอาการของผู้รับวาโยเวทย์ไปเต็มๆ
“เฮ้ยๆๆ เซฟานี่หรอ ฉันขอโทษ นึกว่าสัตว์เวทย์หน่ะ” มาร์ตินกล่าวทันทีที่เห็นว่าบัดนี้คนที่รับวาโยเวทย์ของเขาเข้าไปกำลังเงยหน้ามามองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นังมาร์ตี้ คิดจะเอาคืนฉันด้วยวิธีนี้หรอ ไม่แมนเลยนะ” เซตะโกนด่าเพื่อนตัวแสบเสียงดังลั่น
“ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าสัตว์เวทย์นี่” มาร์ตินอธิบายเสียงอ่อย
“ถึงจะเป็นสัตว์เวทย์แล้วมันควรหรอที่ต้องใช้วิธีนี้ อาจารย์ให้มาจับสัตว์เวทย์นะไม่ใช่มาฆ่าสัตว์เวทย์” เซยังคงตะคอกใส่มาร์ตินให้สาสมกับความเจ็บที่ตนได้รับ
“แล้วเธอวิ่งหนีอะไรมาล่ะ?” มาร์ตินเปลี่ยนเรื่องทันที
“คือ ฉันไม่ชอบอยู่คนเดียวน่ะ เมื่อกี้มีอะไรแปลกๆ ตามฉันมา ฉันเลยวิ่งไง” เซฟานี่เอ่ยออกมาอย่างอายๆ
“ฮ่าๆๆๆ ฉันก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว สงสัยเราต้องขัดคำสั่งอาจารย์หน่อยแล้วล่ะ” มาร์ตินว่าพลางหัวเราะอารมณ์ดี
“จุ๊ๆๆ เบาๆ” เซฟานี่เอ่ยหลังจากที่จับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างรอบๆ ตัว
“มีบางอย่างกำลังล้อมเราไว้ นายรู้สึกมั๊ย?” เซกล่าวต่อตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าไอ้เจ้าสิ่งที่ตามเธอมามันมีมากกว่าหนึ่ง
“อืม” มาร์ตินตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์ออกมาอีกครั้ง
‘บึ้มมมม!! แฮ่…..’ เสียงระเบิดดังสนั่นก่อนจะตามด้วยเสียงขู่ของฝูงหมาป่าหลายสิบตัวที่โผล่ออกมายืนล้อมทั้งสองคนไว้
“เยอะขนาดนี้จะเอายังไงดีล่ะมาร์ติน” เซฟานี่ถามพลางขอความคิดเห็น
“อาจารย์ให้มาจับเราก็เลือกจับสิ เธอจะเอาตัวไหนละ แต่ฉันจองตัวสีขาวนั่นนะ ฮ่าๆๆๆ” ตอบอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับร่ายเวทย์เตรียมจับหมาป่าแล้ว
“แทนที่จะได้สัตว์น่ารักๆ ดันได้หมาป่า ชิ” บ่นพร้อมกับมองหาตัวที่คิดว่าน่ารักที่สุดจนไปสะดุดเข้ากับหมาป่าสีดำตัวหนึ่งเข้า ….หาที่น่ารักๆ ไม่ได้ก็ขอเอาที่น่ากลัวที่สุดแล้วกันนะ หึหึ!!
…………………………………………………………………………
ทางด้านของเบล บัดนี้กำลังฟัดอยู่กับสิงโตตัวงามที่มีแผงคอเป็นไฟลุกโชนอย่างทุลักทุเล เพราะแม้เข้าจะถนัดการใช้อัคคีเวทย์ก็ตามแต่เมื่อเจอกับสัตว์เวทย์ชั้นสูงอย่างสิงโตไฟนี่ก็เล่นเอาเสียกำลังไปไม่น้อย
“ไฟศักสิทธิเชียวนะ จะไม่ยอมหน่อยหรือ” เบลกล่าวเพราะเขารู้ว่าสัตว์เวทย์ชั้นสูงสามารถฟังภาษาคนได้ แต่เมื่อเห็นว่าสิงโตนั่นกระโจนมาใส่เขาจึงจำต้องจัดการ
“โฮกกก” เสียงร้องลั่นของสิงโตไฟเมื่อเจอกับไฟศักดิ์สิทธิเข้าไปก็กระเด็นไปนอนตัวงออยู่โคนต้นไม้ เมื่อเห็นว่าได้โอกาสเบลก็ร่ายเวทย์ทันที แสงสีขาวจากเบลสว่างว้าบพุ่งตรงไปยังสิงโตเพลิงนั่นและเมื่อแสงขาวดับลงก็ปรากฏร่างของหนุ่มน้อยผมแดงยืนแทนที่อยู่ทันที
“นับต่อแต่นี้ ข้า เลออน ขอรับใช้ท่านตลอดชีวิต ท่าน……” หนุ่มหล่อผมแดงกล่าว
“เบล ฟีลเนเลี่ยน” เบลกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ
ทางด้านของนีโอตั้งแต่เข้าป่ามาจนถึงตอนนี้เขายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย
“นี่เราเข้ามาส่วนไหนของป่าเนี่ย วังเวงชะมัดเลย” นีโอบ่นอย่างหงุดหงิดเพราะว่าบัดนี้ก็ค่ำแล้วแต่เขายังไม่เจออะไรเลยนอกจากความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“มืด….ใช่แล้ว” และเหมือนจะนึกอะไรได้บางอย่าง สองมือของนีโอกางออกพร้อมกับแสงสว่างจ้าพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของบุคคลปริศนานั่น
“เก่งนี่ที่จับสัมผัสของฉันได้หน่ะ ฮ่าๆๆๆ” บุรุษชุดดำกล่าว
“พอดีฉันไม่ชอบความมืดน่ะ” นีโอกล่าวเรียบๆ แต่ก็ลอบสังเกตุชายตรงหน้าว่าอายุไม่น่าจะห่างกับเขามากนัก หากแต่ปีกใหญ่ๆ และทรงผมยาวสีดำที่ถักเปียไว้ด้านหลังกับชุดดำที่สวมใส่นั่นทำให้เดาได้ไม่ยากว่านี่คือรัตติกาลภูตแน่ๆ
“งั้นนายก็ไม่ชอบฉันหนะสิ อุตส่าห์ตามมาหวังจะให้รับข้าไปเป็นภูตประจำตัวซะหน่อย เฮ้อออ” ภูตหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ฉันมาจับสัตว์เวทย์ ไม่ใช้มาหาภูตประจำตัว” นีโอกล่าวทั้งๆ ที่ในหัวกำลังวางแผนจัดการเจ้าภูตจอมก่อกวนนี่
“ไม่ดีหรอที่มีสัตว์เวทย์เป็นถึงภูตหน่ะ” กล่าวเสนอตัวเต็มที่
“งั้นก็รับมือให้ดีแล้วกัน!!” ทันทีที่กล่าวจบอัคคีย์เวทย์จากมือของนีโอก็ถูกส่งไปยังภูตหนุ่มนั่นทันที แต่เพียงแค่ภูตหนุ่มนั่นยกมือขึ้นสะบัดเบาๆ อัคคีย์เวทย์ของนีโอก็สลายไป
“ถนัดแสงก็ใช้เวทย์แห่งแสงสิ แบบนี้มันดูถูกกันนะ” กล่าวจบภูตหนุ่มก็เป็นฝ่ายโจมตีนีโอกลับบ้าง หมอกสีดำเคลือนเข้ามาปกคลุมไปทั่วจนนีโอไม่สามารถมองเห็นอะไรได้นอกจากรับรู้เพียงว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่รอบๆ เขา
“อึก!! ” ความอึดอัดเข้าปกคลุมพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงจนติดลบนั้นทำให้นีโอไม่สามารถขยับร่างกายได้ และทุกครั้งที่หายใจหมอกควันสีดำนั่นก็จะถูกสูดเข้าไปยังร่างกายซึ่งมันจะทำให้ผู้ที่ได้รับหมอกควันนั่นแน่นหน้าอกจนไม่สามารถหายใจได้
“ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็ตายอยู่ในป่านี่ก็แล้วกันนะ หึหึ” ภูตหนุ่มกล่าวเสียงเย็นจนน่ากลัว บัดนี้นีโอไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือขยับปากร่ายเวทย์อย่างยากลำบากเท่านั้น เมื่อเริ่มร่ายเวทย์ก็ปรากฏวงแหวนสีขาวสว่างขึ้นที่พื้นรอบๆ ตัวของนีโอในลักษณะที่นีโอกำลังยืนอยู่กลางวงเวทย์นั่น ฉับพลันแสงขาวก็สว่างว้าบขึ้นมาจากวงเวทย์นั่นก่อนที่ร่างของนีโอจะหายไป
“แฮกๆๆ” เสียงหอบของนีโอดังมาจากอีกทางหลังจากที่เขาสามารถพาตัวเองออกมาจากหมอกดำนั่นได้แล้ว
“ถ้ารัตติกาลเวทย์ของนายขังฉันไม่ได้ นายก็เตรียมตัวเลย”กล่าวจบธนูเล่มงามก็ปรากฏขึ้นในมือของนีโอพร้อมกับที่เจ้าตัวแผลงศรใส่ไปยังกลุ่มควันนั่น
‘ฟิ้ววววว วูบบบบ’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวสว่างพุ่งเข้าไปในหมอกดำนั่นความมืดก็จางหายไปทันที ไม่รอช้านีโอก็แผลงศรนั่นใส่ภูตหน่มทันที
‘ฟิ้ววววว บึ้มมม!!’ ทันทีที่ลูกธนูเข้าประชิดตัวภูตหนุ่มมันก็พลันต้องระเบิดออกก่อนทันทีเพียงเพราะแค่ภูตหนุ่มนั่นจ้องไปที่ลูกธนูเท่านั้นเอง เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลนีโอก็เก็บธนูพร้อมกับเรียกเวทย์แห่งแสงออกมาอีกครั้งอย่างมากมาย ลูกธนูสีขาวมากมายพุ่งเข้าโจมตีภูตหนุ่มอย่างบ้าครั้งจนภูตหนุ่มนั้นต้องกระโดดหลบลูกธนูสีขาวเป็นพัลวัน เมื่อเห็นว่าได้โอกาสนีโอก็รีบจัดการทันที ลำแสงสีขาวจากร่างของนีโอเปล่งประกายออกมาอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นโซ่สีขาวเส้นโตและพุ่งเข้าพันธนาการร่างของภูตหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“ถ้านายเอาชนะโซ่ของฉันไม่ได้นายก็เตรียมตัวมาอยู่กับฉันได้เลย” กล่าวย้อนภูตหนุ่มตรงหน้าบ้างหลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเองก็เกือบจะพลาดท่าไปแล้ว แต่เหมือนว่านีโอจะไม่ใจเย็นซักเท่าไหร่เพราะระหว่างที่ภูตหนุ่มกำลังดิ้นอยู่นีโอก็ส่งลูกธนูสีขาวไปให้ทันที
‘วู้บบบบ อึก!!’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวปักเข้ายังร่างของภูตหนุ่มร่างนั้นก็ทรุดและนิ่งไปทันที
“เสร็จฉันจนได้นะ ภูตรัตติกาล ฮ่าๆๆ”
………………………………………………………….
“อาจารย์ครับ หน่วยสังเกตการณ์พิเศษรายงานเข้ามาว่าทางตอนใต้ของป่าศักดิ์สิทธิ์มีบางสิ่งผิดปกติครับ” นักเรียนชั้นปี3 เข้ามารายงานความผิดปกติกับกิมเมอร์ด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“มีอะไรผิดปกติหรือ?” ถามด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจเล็กน้อย
“มีเวทย์มืดโผล่มาวูบหนึ่งแล้วหายไป ทางนั้นรายงานว่าไม่ใช่รัตติกาลเวทย์ธรรมดาแน่” นักเรียนปี3 ยังกล่าวอย่างจริงจังเพราะเวทย์มืดนั้นคือรัตติกาลเวทย์แขนงหนึ่งที่ใช้ในทางชั่วร้ายเท่านั้น!!
“ส่งหน่วยสอดแนมพิเศษไป แล้วยังไงก็ให้ทางนั้นจับตาไว้ให้ดีพร้อมกับรายงานผลกับผมเป็นระยะนะ” กิมเมอร์กล่าวอย่างจริงจัง
‘คิดจะบุกโฮเนอร์หรอ หึหึ’
‘นายอย่าลืมนะ ทุกครั้งที่ใช้เวทย์ให้ใช้แค่2ใน3 ของพลังเวทย์ เพราะเวลาคับขันนายจะได้เอาตัวรอดได้’ เสียงคนในความคิดกล่าวขณะที่ชายน์กำลังเดินอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ที่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอกับสัตว์เวทย์ใดๆ เลย
‘รู้แล้วหน่า นายบอกแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจะใช้เวทย์เลยนะ แต่ยังไงก็จะทำตามที่แนะนำก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ’ ชายน์ตอบอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเขาเก่งและใช้เวทย์ต่างๆ ได้ดีเพราะคนๆ นี้ คนที่ไม่ยอมแม้แต่จะบอกชื่อตัวเองให้เขาได้รับรู้
‘ว่าแต่ไม่คิดจะบอกชื่อกันจริงๆ หรือ เรารู้จักกันสามเดือนได้แล้วมั้งเนี่ย’
‘ก็จะบอกแล้วล่ะ รำคาญลูกตื้อของนาย จริงๆ ฉันชื่อ….’ ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบก็ปรากฏว่ามีบางสิ่งพุ่งตรงมายังชายน์อย่างรวดเร็ว
ฟิ้วววววววว ฉึก!! มีดสั้นสีดำพุ่งเฉียดหน้าชายน์ไปนิดเดียว บุรุษชุดดำปรากฏกายขึ้นพร้อมกับหมอกควันสีดำมากมายเข้าปกคลุมบริเวณนั้น
“ไม่เจอกันนานเดี๋ยวนี้ฝีมือดีขึ้นนะ หึหึ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้าชื่อ เมอร์ดอร์ฟ คนที่ท่านน่าจะจดจำได้” บุรุษชุดดำที่แสนจะคุ้นตากล่าวทักทาย
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนคุ้นเคยนี่เอง หึหึ” ชายน์กล่าวเพราะจำได้ว่าคนๆ นี้คือคนที่ดักทำร้ายเขาและชาร์ลเมื่อครั้งที่มายังแกรนน่าในวันแรก
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ยังจำข้าได้ ยังไงก็ขอเชิญไปดื่มน้ำชาด้วยกันหน่อยนะ มีคนอยากจะเจอหน่ะ”
“ถ้าคิดว่าฝีมือดีพอก็ลองดู!!” กล่าวจบก็ส่งลูกบอลเวทย์สีขาวสว่างเข้าใส่ชายชุดดำทันที หากแต่เมื่อกำลังจะถึงคนตรงหน้าก็หายวับไปจากวิถีของลูกบอลเวทย์เขาแต่ทว่าบางสิ่งที่อันตรายกลับเข้าจู่โจมเขาอีกด้าน
‘เคร้ง!!’ ชายน์เรียกดาบออกมารับกับดาบเล่มโตสีดำของเมอร์ดอร์ฟอย่างทันท่วงที จากนั้นเพลงดาบของทั้งคู่ก็เริ่มต้นอย่างดุเดือด แต่ด้วยประสบการณ์และเชิงดาบที่เป็นรองจึงทำให้ชายน์พลาดท่าเข้าจนได้
“อึก!!” ดาบเล่มโตสีดำนั่นเฉือนเข้าที่ไหล่ขวาของชายน์เข้าอย่างจังๆ จนเจ้าตัวทรุดลงทันที
เลือดสีแดงสดไหลออกมามากมายจนคนที่ไม่ชอบเลือดนั้นถึงกับหน้าซีดไปทันที
“ดาบนี่อาบยาพิษสินะ” ชายน์พึมพำเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา บัดนี้กลุ่มควันสีดำกำลังเคลือนเข้ามาปกคลุมชายน์จาดด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ!!” ทันทีที่ระลึกได้ก็กระโดดออกจากจุดยืนนั้นทันทีแต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะบัดนี้หมอกควันสีดำเข้าปกคลุมร่างของชายน์อย่างหนาแน่นจนส่งผลให้ร่างนั้นได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่!!
“ประสาทสัมผัสช้าไปนะ สงสัยข้าคงประเมินเจ้าสูงเกินไป” กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ อย่างมั่นใจในเวทย์มืดของตนเพราะจากที่ผ่านมาหากใครตกอยู่ในสภาพนี้จะไม่สามารถครองสติได้ และเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถจัดการชายน์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
บัดนี้ชายน์กำลังตกอยู่ในสถานะลำบากเพราะเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เพราะหมอกควั่นนั่นกำลังเล่นงานเขาอยู่นั่นเอง ทุกครั้งที่หายใจมันก็จะเข้าสู่ร่างของเขาพร้อมกับร่างนั้นจะค่อยๆ อ่อนแรงลง ยิ่งพยายามต่อต้านก็ยิ่งอ่อนแรงอีกทั้งเลือดที่ไหลอาบไหล่ขวานั่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนบัดนี้แม้สติก็แทบจะดับลงแล้ว
‘รวบรวมสติให้ดีนะ แล้วว่าตามที่ฉันบอก’ เสียงในความคิดดังขึ้นอย่างร้อนรนพร้อมกับกล่าวบางอย่างออกมาและชายน์ก็ว่าตามทันที แสงสว่างสีขาวนวลกำลังส่องประกายออกมาจากกลุ่มหมอกควันสีดำนั่นจนคนที่ยืนยิ้มอยู่รอบนอกนั้นไม่สามารถสังเกตุเห็นได้
“คิดว่าได้เวลาอันสมควรของข้าแล้วล่ะ หึหึ” กล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหากลุ่มควันนั่นหวังจะพาร่างที่คาดว่าน่าจะกำลังนอนสลบไหลอยู่ในนั้นออกมา แต่ทันทีที่เข้าไปใกล้ๆ ก็ปรากฏว่าแสงสีขาวนวลนั่นกำลังเปล่งประกายจ้าออกมาพร้อมกับที่สัญชาตญาณของเมอร์ดอร์ฟบอกว่าสิ่งนี้อันตรายเกินกว่าที่เขาจะเดินเข้าไปหาได้
‘บึ้มมมม!!’ เสียงระเบิดดังลั่นไปทั้งป่าพร้อมกับรังสีแสงสีขาวนวลสว่างว้าบฉายขึ้นบนฟ้ายามราตรีจนบรรดาเด็กปีหนึ่งที่ได้ยินและเห็นต่างก็พากันจินตนาการถึงต้นตอไปต่างๆ นาๆ
“อึก!!” เส้นรังสีขาวนวลพุ่งเข้ายังกลางอกของเมอร์ดอร์ฟพร้อมกับแรงระเบิดนั่นพาร่างของเขาเข้ากระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนเจ้าตัวถึงกทรุดลงนั่งพร้อมกับกระอักเลือดกองโตออกมา
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไปสินะ!!” กล่าวพร้อมกับสติดับวูบลงท่ามกลางหมอกควันสีดำที่เข้ามาปกคลุม และทันทีที่มันจางลงก็ไม่ปรากฏร่างของเมอร์ดอร์ฟแล้ว
แรงระเบิดจากเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ใช้นั้นทำให้ร่างของชายน์กระเด็นไปไกลจนพลัดหล่นลงไปยังน้ำตกสูงทันที เมื่อร่างนั้นร่วงลงถึงพื้นน้ำก็ไหลไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากพร้อมกับสติของชายน์ที่ดับวูบลง
……………………………………………………
“เซ เธอว่าแสงสีขาวเมื่อซักครู่นี้ฝีมือใครอ่ะ” มาร์ตินถามอย่างสงสัย
“นายว่าใครในรุ่นล่ะที่ใช้เวทย์แสงได้รุนแรงขนาดนั้นอ่ะ” เซฟานี่ถามกลับบ้าง
“นีโอหรอ? แต่ฉันว่าไม่น่าจะเป็นหมอนั่นนะ เธอว่าจะใช่ชายน์หรือเปล่า?”
“ไม่รูสิ แต่ลางสังหรณ์ฉันบอกว่าแรงระเบิดและแสงนั่นไม่น่าจะใช่วิธีการจับสัตว์เวทย์นะ” เซฟานี่กล่าวอย่างจริงจัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ