Twin แฝดเลือดผสม
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) สัตว์เวทย์มายา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสัตว์เวทย์มายา
หลังจากเปิดเรียนมา 2 เดือนกว่าๆ หลายๆ อย่างก็เข้าที่มากขึ้น เด็กปี1 ได้เรียนได้ฝึกการต่อสู้หลายๆ ด้านทั้งการใช้เวทย์ ทักษะการต่อสู้และฝึกร่ายเวทย์บทพื้นฐานต่างๆ แต่ข่าวเรื่องประธานรุ่นปี1 มีสายเลือดของเผ่าพันธุ์ปีศาจและข่าวการกลับสู่ร่างที่แท้จริงของชายน์ก็ยังคงดังไปทั้งโฮเนอร์ ยิ่งช่วงนี่เดวี่ก็ตามติดชายน์ยังกับเงาตามตัวทำให้ทั้งคู่ยิ่งกลายเป็นเป้าสายตาของหลายๆ คนเข้าไปใหญ่
‘เป็นคู่หูที่หล่อทั้งคู่เลยอ่ะเธอ’
‘ถ้าปีศาจจะหล่อกันขนาดนี้นะ ฉันจะยอมพลีกายให้ปีศาจเลย’
‘ชายน์ก็เป็นพวกสืบสายเลือดเผ่าพันธุ์ปีศาจหรอถึงมีปีกสีดำอ่ะ’
‘ปีศาจไม่สามารถใช้เวทย์แห่งแสงได้ทรงอานุภาพขนาดนั้นนะ จำตอนทดสอบเวทย์กับปี2 ไม่ได้หรอ ชายน์นี่อย่างกับเทพบุตรแหนะ’ และอีกมายมายที่ทั้งคู่มักได้ยินหลายๆ คนในโฮเนอร์กล่าวถึงพวกเขา
“สวัสดีค่ะคุณชายน์ คุณเดวี่ ตั้งแต่ได้ตำแหน่งประธานรุ่นและประธานสายมาฉันก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพวกคุณทั้งสองคนเลยนะค่ะ” เจด้า สาวสวยสายศิลป์กล่าวทักทายเมื่อเห็นคนทั้งคู่ผ่านมาทางกลุ่มเขาพอดี เธอเองก็ยอมรับว่าหนุ่มทั้งสองคนนี่มีแรงดึงดูดไม่น้อย และเธอก็ปลื้มชายน์ตั้งแต่แรกอยู่ไม่น้อย
“เอ่อออ คุณ..” ชายน์กล่าวพลางพยายามนึกชื่อสาวสวยตรงหน้า
“ฉัน เจด้า เอนเชน่า ค่ะ ” เจด้าพร้อมกับยิ้มหวาน
“ออ ขอโทษทีครับ ผมความจำไม่ค่อยดีหน่ะ ฮ่าๆๆ” แก้ตัวพร้อมกับส่งยิ้มหล่อๆ กลับไปให้
“เขาว่ากันว่าคุณชายน์เปลี่ยนไป ” ยังไม่ทันที่เจด้าจะกล่าวจบชายน์ก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้น
“ก็แค่ผมยาวกับมีปีกหน่ะ ฮ่าๆๆ” ชายน์ว่าอย่างอารมณ์ดี
“ไม่หรอก ฉันว่าคุณชายน์ดูโตขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น” ท้ายประโยคเจด้ากล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับใบหน้าที่บัดนี้กำลังแดงจนสังเกตุได้
“ชมผมใช่มั๊ยเจด้า ขอบคุณนะครับ ยังไงผมขอตัวก่อนนะพอดีมีธุระหน่ะ ไปเดวี่” กล่าวดักคออย่างรู้ทันความคิดพร้อมกับปฏิเสธอย่างนิ่มนวลก่อนจะลาดแขนคูหูที่ยื่นนิ่งไม่พูดจาซักคำ
“เฮ้อออ วันหลังนายพูดบ้างก็ได้นะ ให้ฉันพูดอยู่คนเดียวเกิดวันไหนฉันหลวมตัวไปนายจะว่าไง ฮ่าๆๆ”
“นายไม่ได้ต้องการแบบนั้นหรอก” เดวี่กล่าวในสิ่งที่ชายน์ฟังแล้วก็ลอบยิ้มออกมาทันที …ยิ่งนานวันเดวี่ยิ่งรู้ใจเรานะเนี่ย > <
‘ให้โอกาสฉันหน่อยนะ ชายน์’
…………………………………………….
ณ สนามหลังโรงเรียนในชั่วโมงเรียนวิชาเวทย์พื้นฐาน…
เอาละค่ะนักเรียนที่น่ารัก ตามที่อาจารย์เคยบอกไปแล้วว่าวันนี้เราจะสร้างสัตว์เวทย์มายากัน ในที่นี่ทุกคนสามารถสร้างสัตว์เวทย์มายาได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพลังเวทย์และธาตุพื้นฐานของเราด้วยนะว่าจะสร้างสัตว์เวทย์มายาได้ในระดับใด คนที่มีพลังเวทย์มากๆ ก็จะสร้างสัตว์เวทย์มายาขั้นสูงได้อย่างเช่น ภูต ฟินิกซ์หรือมังกร ขอดีของสัตว์เวทย์มายาคือเราสามารถใช้พวกนี้ต่อสู้แทนเราโดยที่เราจะสั่งการเขาอีกที เป็นทางเลือกที่ดีในกรณีที่ต้องเจอคู่ต่อสู้หลายทางหน่ะ ไม่ทราบว่าในที่นี้มีใครจะอาสาออกมาสร้างสัตว์เวทย์มายาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ดูรึเปล่าค่ะ
“ผมครับ” แจ็คกี้กล่าวพร้อมยืนขึ้นอย่างมั่นใจและนั่นก็เรียกเสียงเฮจากเด็กสายเวทย์ได้เป็นอย่างดี
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ครูขอเชิญหัวหน้าสายทุกสายออกมาเลยดีกว่านะจ๊ะ” สิ้นเสียงของเอสเทอร์ อาจารย์สาวสวยแล้วเหล่านักเรียนทั้งห้องเรียนรวมก็พากันเฮลั่นกับการเชียร์หัวหน้าสายของตน บัดนี้ แจ็คกี้ เจด้า ลุคและชายน์ต่างก็ออกมายืนอยู่หน้าชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“สิ่งสำคัญคือพวกเธอไม่ควรสร้างสัตว์เวทย์มายาที่สูงเกินพลังเวทย์ตัวเองนะ เพราะมันจะสิ้นเปลืองพลังเวทย์และเธอจะควบคุมมันไม่ได้ ” เอสเทอร์กล่าวกำชับ
“แล้ววิธีการละค่ะ” เจด้าถามหลังจากที่เห็นว่าอาจารย์ยังไม่บอกวิธีการสร้างให้รู้
“ใจร้อนจังนะเจด้า ฮ่าๆๆๆ ก็ต้องใช้เวทย์นิดหน่อยโดยเวทย์บทนี้จะใช้สร้างสัตว์เวทย์มายาจากเวทย์ของเราเองและยังใช้ในการจับสัตว์เวทย์จริงๆ มาเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยนะ” คำกล่าวของเอสเทอร์ทำให้เด็กๆ หลายคนทำหน้าสงสัยแต่เธอก็เพียงแต่สอนเวทย์บทนั้นให้กับหัวหน้าสายทั้งสี่คนอย่างรวดเร็วด้วยเวลาไม่ถึง 5 นาที
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะพร้อมแล้วนะ เริ่มจากใครก่อนดีจร๊ะ” เอสเทอร์กล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ผมครับ” อีกครั้งที่แจ็คกี้เสนอตัวออกมาคนแรก และเมื่อเขาเริ่มร่ายเวทย์ก็ปรากฏว่าเปลวเพลิงสีส้มแดงกองโตลุกโชติขึ้นเบื้องหน้า ทันทีที่เวทย์จบก็ปรากฏร่างของมังกรเพลิงบินทะยานออกมาจากกองไฟนั่น เสียงร้องฮือของบรรดานักเรียนดังไปทั่วทั้งสนามที่เห็นว่าแจ็คกี้สามารถสร้างมังกรไฟได้ …ถ้าสร้างมังกรได้คนๆ นี้คงมีพลังเวทย์ไม่น้อย!!
“คนต่อไปเชิญ” เอสเทอร์กล่าวเรียกหัวหน้าสายคนต่อไปทันที เมื่อได้ยินดังนั้นเจด้าก็เริ่มสร้างสัตว์เวทย์มายาของตนบ้าง สายลมรอบๆ สนามพัดโหมกระหน่ำจนเด็กๆ ต้องยกมือปิดป้องร่างกายจากลมนั้น เบื้องหน้าของเจด้าตอนนี้กำลังเกิดพายุหมุนลูกย่อมๆ ที่กำลังหมุนอย่างบ้าครั่ง เมื่อมันสิ้นสุดลงก็ปรากฏร่างของวิหกลมตัวโตที่มีร่างใสเพราะเป็นวิหกธาตุลมแต่มีจะงอยปากและกรงเล็บสีดำสนิทกำลังบินทะยานขึ้นไปเบื้องบน เมื่อเห็นว่าเจด้าสร้างสัตว์เวทย์มายาได้เรียบร้อยแล้วลุคก็หันมาเริ่มสร้างสัตว์เวทย์มายาของตนบ้าง ทันใดนั้นผืนดินเบื้องหน้าของลุคก็สั่นสะเทือนพร้อมกับที่บางอย่างกำลังโผล่ขึ้นมาจากรอยแตกของดินนั่น แมลงป่องตัวโตกำลังคลานขึ้นมาจากรอยแยกนั้นนั่นเอง!!
“โห หมอนี่สร้างสกอร์เปี้ยนได้ แสดงว่าเป็นพวกธาตุดินแน่ๆ” ดัชเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นที่เขาเจอพวกเดียวกัน
“ฉันละอยากลองเหลือเกินว่าไฟของฉันจะสร้างมังกรได้น่ากลัวกว่าของเจ้านั่นหรือเปล่า” เบลกล่าวพลางจ้องมองมังกรเพลิงที่กำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้า
“แต่วิหกลมของเจด้านี่ไม่ธรรมดานะ ไม่รู้ว่าระดับฉันจะทำได้ขนาดนั้นหรือเปล่า” มาร์ตินเอ่ยชื่นชมวิหกร่างใสตัวนั้น
“รอดูของชายน์บ้างดีกว่า ฉันว่าหมอนี่ต้องไม่ธรรมดาอีกแน่” นีโอออกความคิด เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาชายน์ใช้เวทย์ได้ดีในทุกสายจนหลายคนยังคงคาใจว่าชายน์มีสายเลือดของเผ่าพันธุ์ใดและมีธาตุอะไรเป็นธาตุประจำตัว!!
“คนสุดท้ายแล้ว เชิญจ้า” เอสเทอร์หันมากล่าวกับชายน์เป็นเชิงส่งสัญญาณและชายน์ก็เริ่มทันที
กลุ่มควันสีดำลอยคละคลุ้งไปรอบๆกายของเขา ความอึดอัดและกดดันแผ่ออกไปทั่วจนทุกคนสามารถสัมผัสมันได้ อุณหภูมิทั่วทั้งบริเวณลดต่ำลงจนหลายๆ คนถึงกับตัวสั่นแต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างพึงพอใจคือกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่อบอวลไปทั่วทั้งบริเวณนั้นกำลังเข้ามาบรรเทาความอึดอัดและกดดันให้เบาบางลง จู่ๆ ก็มีสายลมอ่อนๆ พัดเข้ามาวูบหนึ่งทำให้กลุ่มควันสีดำนั่นจางหายไปและเผยสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นออกมาจนทุกคนในสนามต้องตกตะลึงจนตาค้าง
ภาพหญิงสาวผมดำยาวกับผิวกายขาวที่มีอาภรณ์สีชมพูหวานห่มร่างเพียงน้อยนิดตรงหน้ากำลังย่อกายทำความเคารพชายน์อย่างอ่อนน้อมเรียกให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่าอาจารย์ให้เรียกสัตว์เวทย์มายาแต่ทำไมชายน์เรียกสตรีงามนางนี้ออกมาแทนล่ะ !!
“นายว่าชายน์มันคิดอะไรตอนร่ายเวทย์ว่ะ ฮ่าๆๆ” เบลหันมาถามเพื่อนๆ อย่างอารมณ์ดี
“ไม่ว่าจะคิดอะไรก็จะได้อย่างที่คิดนั่นแหละ ฮ่าๆๆ” นีโอตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ
“ชายน์ก็ร้ายไม่เบานะเนี่ย แอบหื่นใช่เล่นเลย หึหึ” เซฟานี่กล่าวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพื่อนเรียกออกมาคือสตรีงามผู้ที่นุ่งน้อยห่มน้อยจนอดหวาดเสียวแทนไม่ได้ …ใส่แค่เกาะอกสีชมพูกับเครื่องประดับแปลกๆ ผ้าที่นุ่งนั่นก็แหวกขึ้นมาจนจะถึงเอวแล้ว แบบนี้จะสู้กับมังกรเพลิงได้ยังไง ชิ!!
“ยอมรับเหอะเซว่าผูหญิงของชายน์หน่ะ ขาวสวยและเซ็กซี่กว่าเธอเยอะ ฮ่าๆๆๆ” มาร์ตินเอ่ยแซวเซฟานี่ทันทีที่เห็นว่านี่เป็นโอกาสเอาคืนของเขา
โป๊กกก!! โอ๊ยยย!!! เสียงกำปั้นเขกลงบนหัวพร้อมกับเสียงร้องของมาร์ตินตามมาติดๆ
“ถ้าไม่พูดก็ไม่เจ็บตัวหรอกนะ มาร์ตี้!!” ต่อว่าพร้อมกับเปลี่ยนชื่อให้เพื่อนทันที
“ฮ่าๆๆๆ มาร์ตี้ วู้วๆๆ” เสียงแซวโห่ร้องของเบลช่วยเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ เป็นอย่างดีแต่คนโดนแซวกำลังหน้าหงิกสุดๆ!!
“เอาล่ะ ตอนนี้มีสัตว์เวทย์มายาแล้วคือ มังกรเพลิง วิหกลม สกอร์เปี้ยนและภูตพฤกษา ครูก็จะให้พวกเธอฝึกควบคุมสัตว์เวทย์มายาด้วยการต่อสู้กันโดยการใช้สัตว์เวทย์มายาที่สร้างขึ้นมานี่แหละ ตัวแทนจากสายไหนเป็นผู้ชนะครูจะบวกคะแนนวิชานี้ให้พิเศษทั้งสายเลยนะ ฮ่าๆๆ ” กล่าวจบหัวหน้าสายทั้งสี่ก็มองหน้ากันก่อนจะหันไปสื่อสารกับสัตว์เวทย์มายาของตนทันที
ทันทีที่ได้โอกาสมังกรเพลิงของแจ็คกี้ก็บินโฉบมายังภูตพฤกษาของชายน์ทันทีหากเพียงแต่ภูตพฤกษาแค่ตีลังหลบอย่างอ่อนช้อยก็พ้นวิถีจู่โจมของมังกรเพลิงได้แล้ว
“แค่ทักทายหน่ะ หึหึ” แจ็คกี้หันมากล่าวกับชายน์หลังจากการจู่โจมแรกเกิดขึ้น
“ไอ้พวกที่บินได้น่ะสมควรเจอกันมากกว่านะ อย่าเอาเปรียบพวกไม่มีปีกสิ” เจด้ากล่าวท้าทายไปยังแจ็คกี้และก็ได้ผลทันทีเพราะตอนนี้มังกรเพลิงบินตรงไปยังวิหกลมแล้ว ทำให้สกอร์เปี้ยนหันมาฟัดกับภูตพฤกษาทันที เจ้าสกอร์เปี้ยนหรือแมลงป่องตัวโตวิ่งเข้าใส่ภูตพฤกษาพร้อมกับก้อนหินมากมายที่มันขุดขึ้นมาแล้วดีดใส่ภูตพฤกษาแต่เธอก็หลบได้ดังเช่นก่อนหน้านี้ ทันทีที่การจู่โจมนั่นไม่ได้ผลมันก็ยกหางที่มีเหล็กแหลมอยู่ตรงปลายขึ้นขู่พร้อมตั้งรับการโจมตีของภูตพฤกษาบ้าง เถาวัลย์เส้นใหญ่มากมายผุดขึ้นมาจากพื้นแล้วตรงไปยังร่างของสกอร์เปี้ยนพร้อมกับพันธนาการร่างนั้นทันที หากแต่เมื่อภูตพฤกษาตามเข้าไปจะจัดการมันหางของเจ้าสกอร์เปี้ยนก็จู่โจมภูตพฤกษาจนเธอได้แต่กระโดดหลบไปมา
“ตัดหางมัน!!” ชายน์ตะโกนออกไปพร้อมกับที่ภูตพฤกษาส่งใบไม้นับร้อยๆ ใบที่คมราวกับดาบเข้าไปตัดหางเจ้าสกอร์เปี้ยนจนลุคได้แต่ร้องลั่น
“เห้ย ระวัง!!” เจ้าสกอร์เปี้ยนของลุคพยายามโยกหางหลบคมใบไม้พร้อมทั้งดิ้นสะบัดตัวออกจากพันธนาการของเถาวัลย์นั่นจนตอนนี้เถาวัลย์หลายเส้นเริ่มขาดลงบ้างแล้ว
“ไม่ทันหรอกลุค ฮ่าๆๆ” ชายน์เอ่ยออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตะโกนออกไปอีกครั้ง
“ปลิดชีพเลย” ทันทีที่กล่าวจบภูตพฤกษาของชายน์ก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของเจ้าสกอร์เปี้ยนและมันก็พยายามใช้หางจู่โจมภูตพฤกษาอย่างไม่ละความพยายามเพราะตอนนี้คู่ต่อสู้ของมันได้เข้ามาประชิดตัวมันแล้ว
ฉับ!!! กรีซซซซซ!! มีดสั้นในมือของภูตพฤกษาตัดเข้ายังหางของเจ้าสกอร์เปี้ยนทันทีจนมันร้องลั่นอย่างเจ็บปวดก่อนจะสลายไปหลังจากที่ภูตพฤกษาใช้มีดนั้นปักลงยังกลางหลังของมัน
เฮ….. เสียงเฮจากเด็กสายสามัญดังลั่นเมื่อภูตพฤกษาจัดการเจ้าสกอร์เปี้ยนของลุคจากสายยุทธ์ได้แล้ว
“ฉันว่าไม่ใช่แค่สวยนะ แต่ผู้หญิงของชายน์นี่อันตรายจริงๆ” ดัชเอ่ยออกมาพร้อมกับกระตุกยิ้มบางๆ
“สัตว์เวทย์มายาย่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงของชายน์ซะหน่อย” เซเอ่ยขัดออกมาจนเพื่อนๆ ต่างพากันแอบยิ้ม
“เลือกเลยว่าเธออยากจะจัดการอะไรก่อน ฮ่าๆๆ” ชายน์สั่งภูตพฤกษาอย่างอารมณ์ดีและภูตสาวก็เพียงหันกลับมาย่อกายเชิงรับคำสังอย่างดงามพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ชายน์
“เผามันเลย!!” แจ็คกี้สั่งมังกรเพลิงให้หันกลับมาจัดการภูตพฤกษาแทน และเจ้ามังกรเพลิงก็รับคำสั่งนั้นทันที เปลวไฟอันร้อนระอุถูกส่งมายังภูตสาวของชายน์แต่ก่อนที่เพลิงนั่นจะเข้ามาถึงตัวภูติพฤกษาก็หายวับไปทันทีก่อนจะไปปรากฏตัวอีกด้านทางวิหกลมและเข้าจู่โจมวิหกลมทันทีจนเจด้าเองก็ตั้งตัวไม่ทัน
“ขอโทษนะเจด้า แต่งานนี้ฉันขอ” ชายน์หันมากล่าวกับเจด้าพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
“จัดการเลย” ชายน์หันไปสั่งภูตสาวของเขาอีกครั้ง แสงสีขาวสว่างว้าบที่ร่างของภูตสาวก่อนที่จะมีกลีบดอกไม้นับพันๆ กลีบปลิวออกมาและตรงเข้าไปยังวิหกลม ทันทีที่มันปะทะกับวิหกลมก็จะระเบิดทันทีจนตอนนี้วิหกลมได้แต่บินหลบหลีกกลีบดอกไม้สีชมพูนั่นอย่างทุลักทุเล และไม่ใช่แค่วิหกลมเท่านั้นที่ต้องหลบเพราะตอนนี้มังกรเพลิงก็ได้รับกลีบดอกไม้จากภูตพฤกษาเช่นกัน
“ดอกไม้กับมังกร หึหึ ตลกสิ้นดี” แจ็คกี้กล่าวอย่างเหยียดๆ เมื่อเห็นวิธีการต่อสู้ของภูตพฤกษา เพราะระเบิดนั่นอาจมีผลต่อวิหกลมของเจด้า แต่แน่นอนว่าระเบิดเพียงแค่นั้นไม่สามารถทำอะไรมังเพลิงตัวโตได้
“เผามันให้หมด” แจ็คกี้สั่งเสียงเฉียบขาด จากนั้นมังกรเพลิงก็พ่นไฟใส่กลีบดอกไม้ของภูตพฤกษาจนมอดไหม้หายไปทันที
“อันนั้นแค่ทักทาย ของจริงมันต้องอดใจรออีกนิดนะ ฮ่าๆๆ” ชายน์กล่าวพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เมื่อการจู่โจมของภูตพฤกษาจบลงวิหกลมก็เริ่มจู่โจมบ้าง สายลมพัดมาจากทุกทิศทางและตรงเข้าจู่โจมมังกรเพลิงกับภูตพฤกษาทันที พายุหมุนขนาดใหญ่พัดเข้ามายังร่างของภูตสาวในขณะที่เถาวัลย์ยักษ์ก็โผล่ออกมาสานกันเป็นกำแพงกั้นแนวพายุนั้นไว้ ส่วนมังกรเพลิงนั้นเมื่อพ่นไฟออกไปก็เจอกับกระแสลมของวิหกลมที่พัดเปลี่ยนวิถีของเปลวเพลิงนั้นให้เบี่ยงออกไปจากทิศทางที่ต้องการ แต่เหมือนเจด้าจะลืมนึกไปว่าลมคือตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดีให้กับไฟ เพราะเมื่อลมพัดเข้าใส่ไฟมันก็จะลุกแรงขึ้นและเหมือนว่าแจ็คกี้กับมังกรเพลิงจะจับทางได้แล้วเพราะบัดนี้มังกรเพลิงกำลังเร่งการโจมตีอย่างหนักและเข้าจู่โจมทุกทิศทางจนในที่สุด
“ระวัง!!” ยังไม่ทันที่เจด้าจะเตือนวิหกลมสำเร็จ ไฟจากมังกรเพลิงก็เขาจู่โจมจนวิหกลมสลายไปแล้ว เสียงเฮลั่นจากเด็กสายเวทย์ดังขึ้นบ้างหลังจากที่หัวหน้าสายของเขาจัดการวิหกลมได้สำเร็จ
“ทีนี้ก็เหลือแค่เราแล้วนะ” แจ็คกี้กล่าวพลางยิ้มกริ่ม
“ได้เวลาโชว์ของจริงซะที หึหึ” ชายน์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพยักหน้าให้ภูตสาวของตน ทันทีที่รับคำสั่งภูตพฤกษาก็ลอยตัวขึ้นไปเสมอกับมังกรเพลิงอย่างไม่กลัวเกรง แสงสีขาวสว่างว้าบไปทั่วร่างของภูตสาวพร้อมกับร่างนั้นกำลังเปลี่ยนไป
“โห ภูตพฤกษาแปลงร่างได้ด้วยหรอ เจ๋งเป็นบ้าเลย ฮ่าๆๆ” มาร์ตินกล่าวพลางหัวเราะชอบอกชอบใจ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ชายน์แค่แปรธาตุให้ภูตพฤกษาเหมาะที่จะสู้กับมังกรเพลิงหน่ะ ไม่งั้นนายคิดว่าพลังดอกไม้ใบไม้จะจัดการมังกรได้หรอ” นีโออธิบายตามที่เขาคาดการณ์
สิ้นแสงนั้นก็ปรากฏร่างของสตรีคนเดิมแต่ครั้งนี้เธอกลับห่มอาภรณ์สีแดงเพลิงกับผมที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามและปีกใสๆ ที่กลางหลังนั่นกำลังบินวนไปมาอย่างพร้อมที่จะเข้าจู่โจมทันที
“ถ้าเปลี่ยนธาตุตามที่นีโอบอกนี่ก็คงจะเป็นธาตุไฟสินะ” ดัชเอ่ยออกมาหลังจากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับภูตพฤกษานั่น
“ไม่ใช่ นี่เป็นธาตุผสมระหว่างไฟกับน้ำ การสร้างสัตว์เวทย์มายาได้ถึงระดับภูตแล้วยังจะผสานวารีเวทย์กับอัคคีเวทย์เข้าไว้ด้วยกันได้อีกนี่ยากมากนะ แต่เพราะเป็นชายน์มันดูง่ายไปซะหมดหมด” เดวี่กล่าวออกมาบ้างหลังจากที่นั่งดูอย่างเงียบๆ มาพักใหญ่ และแน่นอนว่าตอนนี้เด็กปีหนึ่งหลายคนต่างกำลังตื่นเต้นกับความสามารถของชายที่สามารถแปรธาตุเพื่อเปลี่ยนร่างภูตพฤกษาให้เหมาะกับคู่ต่อสู้ได้
“จัดการมันเลย” แจ็คกี้ออกคำสั่งอย่างหงุดหงิดหลังจากที่เห็นสายตาชื่นชมของเพื่อนๆ ต่างพากันส่งไปให้กับชายน์ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เขา สิ้นคำสั่งร่างของมังกรเพลิงก็บินร่อนไปรอบๆ ภูตสาวพร้อมกับพ่นไฟออกมามากมาย หากแต่เมื่อภูตสาวของชายน์สะบัดฝ่ามือสวนออกไปก็เกิดเปลวไฟพุ่งสวนไปปะทะกับไฟของมังกรเพลิงทันที
บึ้มมมมม!! เสียงการปะทะกันจนเกิดการระเบิดขึ้นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณจนตอนนี้บรรดาเด็กปี2 ปี3 ที่ไม่มีเรียนต่างพากันมาดูการใช้สัตว์เวทย์มายาของเด็กปี1 มากพอสมควร
“นายว่าตัวไหนของแจ็คกี้ และตัวไหนของชายน์” โทนี่เอ่ยถามริวที่แอบมาดูน้องชายตัวแสบของเขาหลังจากที่เขาต้องไปทำภารกิจให้ทางสภาแกรนน่าจนหลายวันมาแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับชายน์เลย
“ฉันว่าภูตนั่นน่าจะของชายน์นะ เพราะถ้าไม่แน่จริงคงสร้างสัตว์เวทย์มายาถึงขั้นภูตไม่ได้หรอก หนำซ้ำภูตนั้นยังเกิดจากธาตุผสมอีก” นีน่ากล่าวแทรกขึ้นมาก่อน
“จริงๆ ชายน์น่าจะได้เป็นประธานรุ่นมากกว่านะ เขาดูเก่งและโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ มาก” แนนนี่กล่าวสนับสนุน
“อย่าพึ่งประเมินเดวี่ต่ำขนาดนั้น ถ้าลองว่ามีดาบดำแห่งราชันย์ปีศาจอยู่ในครอบครองแล้วละก็ เด็กคนนี้ย่อมไม่ธรรมดา” ริวเอ่ยขัดความคิดของแนนนี่โดยสิ่งที่คิดและไม่พูดออกไปก็คือสายเลือดและสถานะนั่นเอง
‘หึหึ ช่างเป็นคู่หูที่น่าสนใจดีจริงๆ’ โทนี่คิด
………………………………….
บัดนี้การต่อสู้นั้นกินเวลามาเกือบชั่วโมงแล้วซึ่งการควบคุมสัตว์เวทย์มายาเป็นเวลานานๆ นั้นนอกจากเจ้าของสัตว์เวทย์มายาจะสูญเสียพลังแล้วนั้น การเรียกสัตว์เวทย์มายาขั้นสูงอย่างมังกรเพลิงและภูตนั้นก็ทำให้ทั้งแจ็คกี้และชายน์หน้าซีดไปตามๆ กัน
“โจมตี!!” ทันทีที่แจ็คกี้สั่งมังกรเพลิงตัวโตก็พ่นไฟใส่ภูตสาวทันที และก็เหมือนเดิมที่เธอใช้ไฟสวนกลับไปจนมันปะทะกันและระเบิดออกกลางอากาศทันที
‘ไฟกับไฟคงไม่ได้ผลแน่’ ชายน์คิดหาทางจัดการมังกรเพลิงนั่น แต่เมื่อภูตสาวของเขาใช้วารีเวทย์อัดเข้าไปปรากฏว่าได้ผล เพราะเมื่อมังกรเพลิงโดนวารีเวทย์ของภูตสาวเข้าไปมันก็มีอาการชะงักไปและเสียหลักทันที …หึหึหึ จะดับไฟก็ต้องใช้น้ำสินะ
“จัดการเลย ฉันอยากกลับหอแล้ว” ชายน์ออกคำสั่งกับภูตสาวพลางหันไปยิ้มให้แจ็คกี้ และนั่นก็ทำให้แจ็คกี้โมโหได้ไม่น้อยเพราะเขารู้ว่าเขากำลังโดนชายน์เล่นสงครามประสาทกับเขา
สิ้นคำสั่งของชายน์ภูตสาวก็กางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับอาภรณ์ของเธอที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าขาวซึ่งแสดงว่าชายน์ได้แปรธาตุให้กับภูตสาวของเธออีกครั้งแล้ว มวลน้ำมหาศาลกำลังหมุนวนอยู่รอบๆ กายของเธอก่อนจะพุ่งตรงไปยังมังกรเพลิงที่มันก็พ่นไฟกลับมาเช่นกัน แต่ไฟที่มีน้อยกว่าน้ำก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา…
“อย่ายอมแพ้นะ อัดมันกลับไปอีกสิ โธ่!!” เสียงของแจ็คกี้ตะโกนสั่งมังกรเพลิงอย่างหัวเสียหลังจากที่เห็นว่าไฟของมังกรเพลิงทำอะไรภูตสาวไม่ได้เลย และเหมือนว่าการประลองจะมาถึงจุดจบแล้วเพราะบัดนี้ภูตสาวได้เรียกมวลน้ำออกมาอีกครั้งพร้อมกับสายลมที่โหมกระหน่ำมาจากทุกทิศทาง ทันทีที่เธอส่งมวลน้ำนั่นไปให้มังกรเพลิงมันก็กลายเป็นน้ำแข็งเข้าปกคลุมร่างนั้นให้หยุดนิ่งไปทันที
“มังกรนายแข็งแล้วว่ะ แจ็คกี้ ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะของชายน์สร้างความโกรธแค้นให้แจ็คกี้จนบัดนี้เจ้าตัวได้แต่กำหมัดแน่นเพราะเริ่มมองเห็นผลการแข่งขันแล้ว
“จัดการ!!” เสียงออกคำสั่งอันทรงพลังทำให้ภูตสาวเรียกลูกธนูน้ำออกมานับร้อยๆ ดอกก่อนจะส่งมันเข้าไปยังเจ้ามังกรนั่น
บึ้มมมมม เสียงระเบิดดังลั่นพร้อมกับเศษสะเก็ดน้ำแข็งกระจายไปทั่วโดยที่บัดนี้ร่างของมังกรเพลิงนั่นหายวับไปแล้ว
‘แปะๆๆๆๆ’ เสียงปรบมือของอาจารย์เอสเทอร์ดังขึ้นก่อนที่นักเรียนทั้งหมดรอบๆ สนามไม่เว้นแม้แต่ปี2 และปี3 ต่างก็ลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับผู้ชนะในครั้งนี้
“เก่งมากชายน์ เอาละนักเรียน ครูมีเรื่องจะมาชี้แจงกับพวกเธอนิดหน่อยนะ” เอสเทอร์กล่าวพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ครูได้ทำเรื่องขออนุญาตต่อท่านผู้อำนวยการแล้วว่าครูจะให้พวกเธอเข้าป่าศักดิ์สิทธิ์” สิ้นเสียงของอาจารย์เอสเทอร์เหล่านักเรียนปี1 ก็ร้องฮือไปทั้งสนาม
“ไม่ต้องกลัวนะเพราะด้วยเวทย์และทักษะการต่อสู้ต่างๆ ที่พวกเธอร่ำเรียนมากว่าสองเดือนนั่นก็สามารถช่วยให้เธอเอาตัวรอดได้สบายๆ อีกอย่างป่านั่นอยู่ในเขตของโฮเนอร์ ครูรับรองได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะอยู่ในสายตาของรุ่นพี่ปี3 แน่นอนจร้า ฮ่าๆๆ”
“แล้วจะให้เราเข้าไปทำไมค่ะ” เสียงของเด็กสาวสายศิลป์คนหนึ่งเอ่ยถาม
“ไปจับสัตว์เวทย์ไง ฮ่าๆๆ” คำตอบของอาจารย์เอสเทอร์ทำให้หลายๆ คนหน้าเสียไปตามๆ กัน
‘ยังไม่ได้ลองร่ายเวทย์เลยแล้วจะไปจับได้หรอ’
‘ฉันยังร่ายเวทย์ไม่แม่นเลย โธ่….’
..........................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ