Twin แฝดเลือดผสม
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ป่าศักดิ์สิทธิ์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความป่าศักดิ์สิทธิ์
“อย่าลืมที่ครูบอกนะเด็กๆ ว่าพวกเธอมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงในการจับสัตว์เวทย์ พรุ่งนี้เวลา 16.45 นาฬิกา ทุกคนจะต้องมารวมกันยังจุดนัดพบนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองร่ายเวทย์สัตว์เวทย์มายาที่สามารถใช้จับสัตว์เวทย์ได้ด้วยก็ให้ไปฝึกเอาระหว่างที่อยู่ในป่านะ ขอให้ทุกคนจงโชคดีนะคะ ฮ่าๆๆ”
“ไม่คิดที่จะบอกกันล่วงหน้าเลยนะ หิวข้าวเป็นบ้าเลย โธ่…” มาร์ตินเอ่ยอย่างตัดพ้อหลังจากที่เข้าป่ามาได้สักพักแล้วแต่ยังไม่พบเจอสัตว์เวทย์ใดๆ เลย อีกทั้งยังโดนกำชับมาว่าไม่ควรจะไปเป็นกลุ่มเพราะจะทำให้เข้าถึงสัตว์เวทย์ได้ยากพวกเขาจึงจำต้องแยกกันไปคนละทาง
สวบๆๆ เสียงของสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเคลื่อนที่มายังทางที่เขานั่งอยู่จนมาร์ตินอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้
“ตัวอะไรว่ะ เข้ามาเล้ยยย พ่อจะจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงให้ได้เลยนะคอยดู ฮึ!!” กล่าวเรียกกำลังใจตัวเองพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์มาไว้ในมือทันที เมื่อต้นตอของเสียงโผล่พรวดออกมาก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มาร์ตินส่งวาโยเวทย์ในมือไปให้พอดี
“ว๊ายยยย อัก!!” เสียงร้องอันคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับอีกเสียงที่ดังตามมาเพื่อบ่งบอกอาการของผู้รับวาโยเวทย์ไปเต็มๆ
“เฮ้ยๆๆ เซฟานี่หรอ ฉันขอโทษ นึกว่าสัตว์เวทย์หน่ะ” มาร์ตินกล่าวทันทีที่เห็นว่าบัดนี้คนที่รับวาโยเวทย์ของเขาเข้าไปกำลังเงยหน้ามามองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นังมาร์ตี้ คิดจะเอาคืนฉันด้วยวิธีนี้หรอ ไม่แมนเลยนะ” เซตะโกนด่าเพื่อนตัวแสบเสียงดังลั่น
“ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าสัตว์เวทย์นี่” มาร์ตินอธิบายเสียงอ่อย
“ถึงจะเป็นสัตว์เวทย์แล้วมันควรหรอที่ต้องใช้วิธีนี้ อาจารย์ให้มาจับสัตว์เวทย์นะไม่ใช่มาฆ่าสัตว์เวทย์” เซยังคงตะคอกใส่มาร์ตินให้สาสมกับความเจ็บที่ตนได้รับ
“แล้วเธอวิ่งหนีอะไรมาล่ะ?” มาร์ตินเปลี่ยนเรื่องทันที
“คือ ฉันไม่ชอบอยู่คนเดียวน่ะ เมื่อกี้มีอะไรแปลกๆ ตามฉันมา ฉันเลยวิ่งไง” เซฟานี่เอ่ยออกมาอย่างอายๆ
“ฮ่าๆๆๆ ฉันก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว สงสัยเราต้องขัดคำสั่งอาจารย์หน่อยแล้วล่ะ” มาร์ตินว่าพลางหัวเราะอารมณ์ดี
“จุ๊ๆๆ เบาๆ” เซฟานี่เอ่ยหลังจากที่จับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างรอบๆ ตัว
“มีบางอย่างกำลังล้อมเราไว้ นายรู้สึกมั๊ย?” เซกล่าวต่อตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าไอ้เจ้าสิ่งที่ตามเธอมามันมีมากกว่าหนึ่ง
“อืม” มาร์ตินตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเรียกวาโยเวทย์ออกมาอีกครั้ง
‘บึ้มมมม!! แฮ่…..’ เสียงระเบิดดังสนั่นก่อนจะตามด้วยเสียงขู่ของฝูงหมาป่าหลายสิบตัวที่โผล่ออกมายืนล้อมทั้งสองคนไว้
“เยอะขนาดนี้จะเอายังไงดีล่ะมาร์ติน” เซฟานี่ถามพลางขอความคิดเห็น
“อาจารย์ให้มาจับเราก็เลือกจับสิ เธอจะเอาตัวไหนละ แต่ฉันจองตัวสีขาวนั่นนะ ฮ่าๆๆๆ” ตอบอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับร่ายเวทย์เตรียมจับหมาป่าแล้ว
“แทนที่จะได้สัตว์น่ารักๆ ดันได้หมาป่า ชิ” บ่นพร้อมกับมองหาตัวที่คิดว่าน่ารักที่สุดจนไปสะดุดเข้ากับหมาป่าสีดำตัวหนึ่งเข้า ….หาที่น่ารักๆ ไม่ได้ก็ขอเอาที่น่ากลัวที่สุดแล้วกันนะ หึหึ!!
…………………………………………………………………………
ทางด้านของเบล บัดนี้กำลังฟัดอยู่กับสิงโตตัวงามที่มีแผงคอเป็นไฟลุกโชนอย่างทุลักทุเล เพราะแม้เข้าจะถนัดการใช้อัคคีเวทย์ก็ตามแต่เมื่อเจอกับสัตว์เวทย์ชั้นสูงอย่างสิงโตไฟนี่ก็เล่นเอาเสียกำลังไปไม่น้อย
“ไฟศักสิทธิเชียวนะ จะไม่ยอมหน่อยหรือ” เบลกล่าวเพราะเขารู้ว่าสัตว์เวทย์ชั้นสูงสามารถฟังภาษาคนได้ แต่เมื่อเห็นว่าสิงโตนั่นกระโจนมาใส่เขาจึงจำต้องจัดการ
“โฮกกก” เสียงร้องลั่นของสิงโตไฟเมื่อเจอกับไฟศักดิ์สิทธิเข้าไปก็กระเด็นไปนอนตัวงออยู่โคนต้นไม้ เมื่อเห็นว่าได้โอกาสเบลก็ร่ายเวทย์ทันที แสงสีขาวจากเบลสว่างว้าบพุ่งตรงไปยังสิงโตเพลิงนั่นและเมื่อแสงขาวดับลงก็ปรากฏร่างของหนุ่มน้อยผมแดงยืนแทนที่อยู่ทันที
“นับต่อแต่นี้ ข้า เลออน ขอรับใช้ท่านตลอดชีวิต ท่าน……” หนุ่มหล่อผมแดงกล่าว
“เบล ฟีลเนเลี่ยน” เบลกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ
ทางด้านของนีโอตั้งแต่เข้าป่ามาจนถึงตอนนี้เขายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย
“นี่เราเข้ามาส่วนไหนของป่าเนี่ย วังเวงชะมัดเลย” นีโอบ่นอย่างหงุดหงิดเพราะว่าบัดนี้ก็ค่ำแล้วแต่เขายังไม่เจออะไรเลยนอกจากความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“มืด….ใช่แล้ว” และเหมือนจะนึกอะไรได้บางอย่าง สองมือของนีโอกางออกพร้อมกับแสงสว่างจ้าพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของบุคคลปริศนานั่น
“เก่งนี่ที่จับสัมผัสของฉันได้หน่ะ ฮ่าๆๆๆ” บุรุษชุดดำกล่าว
“พอดีฉันไม่ชอบความมืดน่ะ” นีโอกล่าวเรียบๆ แต่ก็ลอบสังเกตุชายตรงหน้าว่าอายุไม่น่าจะห่างกับเขามากนัก หากแต่ปีกใหญ่ๆ และทรงผมยาวสีดำที่ถักเปียไว้ด้านหลังกับชุดดำที่สวมใส่นั่นทำให้เดาได้ไม่ยากว่านี่คือรัตติกาลภูตแน่ๆ
“งั้นนายก็ไม่ชอบฉันหนะสิ อุตส่าห์ตามมาหวังจะให้รับข้าไปเป็นภูตประจำตัวซะหน่อย เฮ้อออ” ภูตหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ฉันมาจับสัตว์เวทย์ ไม่ใช้มาหาภูตประจำตัว” นีโอกล่าวทั้งๆ ที่ในหัวกำลังวางแผนจัดการเจ้าภูตจอมก่อกวนนี่
“ไม่ดีหรอที่มีสัตว์เวทย์เป็นถึงภูตหน่ะ” กล่าวเสนอตัวเต็มที่
“งั้นก็รับมือให้ดีแล้วกัน!!” ทันทีที่กล่าวจบอัคคีย์เวทย์จากมือของนีโอก็ถูกส่งไปยังภูตหนุ่มนั่นทันที แต่เพียงแค่ภูตหนุ่มนั่นยกมือขึ้นสะบัดเบาๆ อัคคีย์เวทย์ของนีโอก็สลายไป
“ถนัดแสงก็ใช้เวทย์แห่งแสงสิ แบบนี้มันดูถูกกันนะ” กล่าวจบภูตหนุ่มก็เป็นฝ่ายโจมตีนีโอกลับบ้าง หมอกสีดำเคลือนเข้ามาปกคลุมไปทั่วจนนีโอไม่สามารถมองเห็นอะไรได้นอกจากรับรู้เพียงว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่รอบๆ เขา
“อึก!! ” ความอึดอัดเข้าปกคลุมพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงจนติดลบนั้นทำให้นีโอไม่สามารถขยับร่างกายได้ และทุกครั้งที่หายใจหมอกควันสีดำนั่นก็จะถูกสูดเข้าไปยังร่างกายซึ่งมันจะทำให้ผู้ที่ได้รับหมอกควันนั่นแน่นหน้าอกจนไม่สามารถหายใจได้
“ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็ตายอยู่ในป่านี่ก็แล้วกันนะ หึหึ” ภูตหนุ่มกล่าวเสียงเย็นจนน่ากลัว บัดนี้นีโอไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือขยับปากร่ายเวทย์อย่างยากลำบากเท่านั้น เมื่อเริ่มร่ายเวทย์ก็ปรากฏวงแหวนสีขาวสว่างขึ้นที่พื้นรอบๆ ตัวของนีโอในลักษณะที่นีโอกำลังยืนอยู่กลางวงเวทย์นั่น ฉับพลันแสงขาวก็สว่างว้าบขึ้นมาจากวงเวทย์นั่นก่อนที่ร่างของนีโอจะหายไป
“แฮกๆๆ” เสียงหอบของนีโอดังมาจากอีกทางหลังจากที่เขาสามารถพาตัวเองออกมาจากหมอกดำนั่นได้แล้ว
“ถ้ารัตติกาลเวทย์ของนายขังฉันไม่ได้ นายก็เตรียมตัวเลย”กล่าวจบธนูเล่มงามก็ปรากฏขึ้นในมือของนีโอพร้อมกับที่เจ้าตัวแผลงศรใส่ไปยังกลุ่มควันนั่น
‘ฟิ้ววววว วูบบบบ’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวสว่างพุ่งเข้าไปในหมอกดำนั่นความมืดก็จางหายไปทันที ไม่รอช้านีโอก็แผลงศรนั่นใส่ภูตหน่มทันที
‘ฟิ้ววววว บึ้มมม!!’ ทันทีที่ลูกธนูเข้าประชิดตัวภูตหนุ่มมันก็พลันต้องระเบิดออกก่อนทันทีเพียงเพราะแค่ภูตหนุ่มนั่นจ้องไปที่ลูกธนูเท่านั้นเอง เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลนีโอก็เก็บธนูพร้อมกับเรียกเวทย์แห่งแสงออกมาอีกครั้งอย่างมากมาย ลูกธนูสีขาวมากมายพุ่งเข้าโจมตีภูตหนุ่มอย่างบ้าครั้งจนภูตหนุ่มนั้นต้องกระโดดหลบลูกธนูสีขาวเป็นพัลวัน เมื่อเห็นว่าได้โอกาสนีโอก็รีบจัดการทันที ลำแสงสีขาวจากร่างของนีโอเปล่งประกายออกมาอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นโซ่สีขาวเส้นโตและพุ่งเข้าพันธนาการร่างของภูตหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“ถ้านายเอาชนะโซ่ของฉันไม่ได้นายก็เตรียมตัวมาอยู่กับฉันได้เลย” กล่าวย้อนภูตหนุ่มตรงหน้าบ้างหลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเองก็เกือบจะพลาดท่าไปแล้ว แต่เหมือนว่านีโอจะไม่ใจเย็นซักเท่าไหร่เพราะระหว่างที่ภูตหนุ่มกำลังดิ้นอยู่นีโอก็ส่งลูกธนูสีขาวไปให้ทันที
‘วู้บบบบ อึก!!’ ทันทีที่ลูกธนูสีขาวปักเข้ายังร่างของภูตหนุ่มร่างนั้นก็ทรุดและนิ่งไปทันที
“เสร็จฉันจนได้นะ ภูตรัตติกาล ฮ่าๆๆ”
………………………………………………………….
“อาจารย์ครับ หน่วยสังเกตการณ์พิเศษรายงานเข้ามาว่าทางตอนใต้ของป่าศักดิ์สิทธิ์มีบางสิ่งผิดปกติครับ” นักเรียนชั้นปี3 เข้ามารายงานความผิดปกติกับกิมเมอร์ด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“มีอะไรผิดปกติหรือ?” ถามด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจเล็กน้อย
“มีเวทย์มืดโผล่มาวูบหนึ่งแล้วหายไป ทางนั้นรายงานว่าไม่ใช่รัตติกาลเวทย์ธรรมดาแน่” นักเรียนปี3 ยังกล่าวอย่างจริงจังเพราะเวทย์มืดนั้นคือรัตติกาลเวทย์แขนงหนึ่งที่ใช้ในทางชั่วร้ายเท่านั้น!!
“ส่งหน่วยสอดแนมพิเศษไป แล้วยังไงก็ให้ทางนั้นจับตาไว้ให้ดีพร้อมกับรายงานผลกับผมเป็นระยะนะ” กิมเมอร์กล่าวอย่างจริงจัง
‘คิดจะบุกโฮเนอร์หรอ หึหึ’
‘นายอย่าลืมนะ ทุกครั้งที่ใช้เวทย์ให้ใช้แค่2ใน3 ของพลังเวทย์ เพราะเวลาคับขันนายจะได้เอาตัวรอดได้’ เสียงคนในความคิดกล่าวขณะที่ชายน์กำลังเดินอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ที่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอกับสัตว์เวทย์ใดๆ เลย
‘รู้แล้วหน่า นายบอกแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจะใช้เวทย์เลยนะ แต่ยังไงก็จะทำตามที่แนะนำก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ’ ชายน์ตอบอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเขาเก่งและใช้เวทย์ต่างๆ ได้ดีเพราะคนๆ นี้ คนที่ไม่ยอมแม้แต่จะบอกชื่อตัวเองให้เขาได้รับรู้
‘ว่าแต่ไม่คิดจะบอกชื่อกันจริงๆ หรือ เรารู้จักกันสามเดือนได้แล้วมั้งเนี่ย’
‘ก็จะบอกแล้วล่ะ รำคาญลูกตื้อของนาย จริงๆ ฉันชื่อ….’ ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบก็ปรากฏว่ามีบางสิ่งพุ่งตรงมายังชายน์อย่างรวดเร็ว
ฟิ้วววววววว ฉึก!! มีดสั้นสีดำพุ่งเฉียดหน้าชายน์ไปนิดเดียว บุรุษชุดดำปรากฏกายขึ้นพร้อมกับหมอกควันสีดำมากมายเข้าปกคลุมบริเวณนั้น
“ไม่เจอกันนานเดี๋ยวนี้ฝีมือดีขึ้นนะ หึหึ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้าชื่อ เมอร์ดอร์ฟ คนที่ท่านน่าจะจดจำได้” บุรุษชุดดำที่แสนจะคุ้นตากล่าวทักทาย
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนคุ้นเคยนี่เอง หึหึ” ชายน์กล่าวเพราะจำได้ว่าคนๆ นี้คือคนที่ดักทำร้ายเขาและชาร์ลเมื่อครั้งที่มายังแกรนน่าในวันแรก
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ยังจำข้าได้ ยังไงก็ขอเชิญไปดื่มน้ำชาด้วยกันหน่อยนะ มีคนอยากจะเจอหน่ะ”
“ถ้าคิดว่าฝีมือดีพอก็ลองดู!!” กล่าวจบก็ส่งลูกบอลเวทย์สีขาวสว่างเข้าใส่ชายชุดดำทันที หากแต่เมื่อกำลังจะถึงคนตรงหน้าก็หายวับไปจากวิถีของลูกบอลเวทย์เขาแต่ทว่าบางสิ่งที่อันตรายกลับเข้าจู่โจมเขาอีกด้าน
‘เคร้ง!!’ ชายน์เรียกดาบออกมารับกับดาบเล่มโตสีดำของเมอร์ดอร์ฟอย่างทันท่วงที จากนั้นเพลงดาบของทั้งคู่ก็เริ่มต้นอย่างดุเดือด แต่ด้วยประสบการณ์และเชิงดาบที่เป็นรองจึงทำให้ชายน์พลาดท่าเข้าจนได้
“อึก!!” ดาบเล่มโตสีดำนั่นเฉือนเข้าที่ไหล่ขวาของชายน์เข้าอย่างจังๆ จนเจ้าตัวทรุดลงทันที
เลือดสีแดงสดไหลออกมามากมายจนคนที่ไม่ชอบเลือดนั้นถึงกับหน้าซีดไปทันที
“ดาบนี่อาบยาพิษสินะ” ชายน์พึมพำเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา บัดนี้กลุ่มควันสีดำกำลังเคลือนเข้ามาปกคลุมชายน์จาดด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ!!” ทันทีที่ระลึกได้ก็กระโดดออกจากจุดยืนนั้นทันทีแต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะบัดนี้หมอกควันสีดำเข้าปกคลุมร่างของชายน์อย่างหนาแน่นจนส่งผลให้ร่างนั้นได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่!!
“ประสาทสัมผัสช้าไปนะ สงสัยข้าคงประเมินเจ้าสูงเกินไป” กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ อย่างมั่นใจในเวทย์มืดของตนเพราะจากที่ผ่านมาหากใครตกอยู่ในสภาพนี้จะไม่สามารถครองสติได้ และเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถจัดการชายน์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
บัดนี้ชายน์กำลังตกอยู่ในสถานะลำบากเพราะเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เพราะหมอกควั่นนั่นกำลังเล่นงานเขาอยู่นั่นเอง ทุกครั้งที่หายใจมันก็จะเข้าสู่ร่างของเขาพร้อมกับร่างนั้นจะค่อยๆ อ่อนแรงลง ยิ่งพยายามต่อต้านก็ยิ่งอ่อนแรงอีกทั้งเลือดที่ไหลอาบไหล่ขวานั่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนบัดนี้แม้สติก็แทบจะดับลงแล้ว
‘รวบรวมสติให้ดีนะ แล้วว่าตามที่ฉันบอก’ เสียงในความคิดดังขึ้นอย่างร้อนรนพร้อมกับกล่าวบางอย่างออกมาและชายน์ก็ว่าตามทันที แสงสว่างสีขาวนวลกำลังส่องประกายออกมาจากกลุ่มหมอกควันสีดำนั่นจนคนที่ยืนยิ้มอยู่รอบนอกนั้นไม่สามารถสังเกตุเห็นได้
“คิดว่าได้เวลาอันสมควรของข้าแล้วล่ะ หึหึ” กล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหากลุ่มควันนั่นหวังจะพาร่างที่คาดว่าน่าจะกำลังนอนสลบไหลอยู่ในนั้นออกมา แต่ทันทีที่เข้าไปใกล้ๆ ก็ปรากฏว่าแสงสีขาวนวลนั่นกำลังเปล่งประกายจ้าออกมาพร้อมกับที่สัญชาตญาณของเมอร์ดอร์ฟบอกว่าสิ่งนี้อันตรายเกินกว่าที่เขาจะเดินเข้าไปหาได้
‘บึ้มมมม!!’ เสียงระเบิดดังลั่นไปทั้งป่าพร้อมกับรังสีแสงสีขาวนวลสว่างว้าบฉายขึ้นบนฟ้ายามราตรีจนบรรดาเด็กปีหนึ่งที่ได้ยินและเห็นต่างก็พากันจินตนาการถึงต้นตอไปต่างๆ นาๆ
“อึก!!” เส้นรังสีขาวนวลพุ่งเข้ายังกลางอกของเมอร์ดอร์ฟพร้อมกับแรงระเบิดนั่นพาร่างของเขาเข้ากระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนเจ้าตัวถึงกทรุดลงนั่งพร้อมกับกระอักเลือดกองโตออกมา
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไปสินะ!!” กล่าวพร้อมกับสติดับวูบลงท่ามกลางหมอกควันสีดำที่เข้ามาปกคลุม และทันทีที่มันจางลงก็ไม่ปรากฏร่างของเมอร์ดอร์ฟแล้ว
แรงระเบิดจากเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ใช้นั้นทำให้ร่างของชายน์กระเด็นไปไกลจนพลัดหล่นลงไปยังน้ำตกสูงทันที เมื่อร่างนั้นร่วงลงถึงพื้นน้ำก็ไหลไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากพร้อมกับสติของชายน์ที่ดับวูบลง
……………………………………………………
“เซ เธอว่าแสงสีขาวเมื่อซักครู่นี้ฝีมือใครอ่ะ” มาร์ตินถามอย่างสงสัย
“นายว่าใครในรุ่นล่ะที่ใช้เวทย์แสงได้รุนแรงขนาดนั้นอ่ะ” เซฟานี่ถามกลับบ้าง
“นีโอหรอ? แต่ฉันว่าไม่น่าจะเป็นหมอนั่นนะ เธอว่าจะใช่ชายน์หรือเปล่า?”
“ไม่รูสิ แต่ลางสังหรณ์ฉันบอกว่าแรงระเบิดและแสงนั่นไม่น่าจะใช่วิธีการจับสัตว์เวทย์นะ” เซฟานี่กล่าวอย่างจริงจัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ