เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.63K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ตอนที่6:เรื่องกลับตาลปัตร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่6:เรื่องกลับตาลปัตร
เฉินเยี่ยนถามจบ อวี๋ชุนชานอึ้งไป เขาตอบโต้ไม่ได้ เพราะที่เฉินเยี่ยนพูดเป็นเรื่องจริง หน้าตาเขาไม่ได้น่าเกลียด แต่เทียบกับอวี๋เหวยหมินแล้ว ก็ต่างกันมากอยู่ อวี๋เหวยหมินหนุ่มกว่าเขา หล่อกว่าเขา เฉินเยี่ยนเอาอะไรมาชอบเขา?
อีกอย่างเขาก็ช่วยอะไรเฉินเยี่ยนไม่ได้จริงๆ เขาเป็นคนขี้เกียจ ที่นาในบ้านเขายังขี้เกียจปลูกเลย และเขาก็เป็นที่พึ่งให้เฉิ่นซุ่ยและอวี๋เหวยหมินไม่ได้ เขาจะช่วยอะไรเฉินเยี่ยนได้?
อวี๋ชุนชานพูดไม่ออก คนรอบๆ ที่มามุงดูก็เริ่มแอบวิจารณ์กัน คิดว่าเฉินเยี่ยนพูดถูก คิดดูแล้ว เฉินเยี่ยนไม่น่าจะไปอ่อยอวี๋ชุนชานได้จริงๆ
“พี่ พี่ชอบบอกฉันถึงแม้ลุงชุนชานจะอายุมาก แต่ข้อดีคือรู้จักเอาใจคน รู้จักเอาใจภรรยามากกว่าคนหนุ่มไม่ใช่เหรอ?”
ตอนนี้เฉินเวยพูดขึ้นมาอีกรอบ แบบนี้หมายความว่าเธอกำลังช่วยหาเหตุผลให้อวี๋ชุนชาน
“ใช่ เสี่ยวเวยพูดถูก เธอต้องรู้สึกว่าฉันรักเธอกว่าอวี๋เหวยหมินถึงได้มาหาฉัน”
อวี๋ชุนชานได้ยินคำพูดเฉินเวยก็รีบพูดตอบรับ
เฉินเยี่ยนไม่สนใจเธอ เธอชำเลืองสายตามองเฉินเวย
หวางนิวก็จ้องมองลูกสาวคนเล็กเหมือนกัน เห็นอยู่ว่าลูกสาวคนโตถามเอาเรื่องอวี๋ชุนชานได้แล้ว อาจจะกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ ลูกสาวคนเล็กมาพูดขัดแบบนี้ ไม่ใช่หาเรื่องหรอกหรือ
“เสี่ยวเวย ครั้งที่แล้วเธอเป็นคนบอกฉันเองว่าคนอายุมากกว่าจะรักมากกว่า ไม่เหมือนคนหนุ่มอายุน้อย คนในบ้านก็รู้กันหมดว่าฉันหมั้นกับเหวยหมินแล้ว ฉันจะไปมีใจให้คนอื่นได้ยังไง ฉันกล้าสาบาน ถ้าฉันมีใจให้อวี๋ชุนชานแม้แต่น้อย ฉันให้คนไปเรียกอวี๋ชุนชานมาหาจริง ฉันต้องไม่ตายดี ให้โดนฟ้าผ่าห้าครั้ง”
ในความทรงจำของร่างเดิมทำให้เฉินเยี่ยนรู้ว่าคนที่นี่เชื่องมงาย ตอนนี้เธอเลยต้องเล่นไม้นี้
คำพูดนี้ของเฉินเยี่ยนพูดออกไป หลายคนต่างเชื่อกันแล้ว เพราะคนที่ทำจริงจะสาบานไม่ได้
“ลูกสาวฉันสาบานขนาดนี้แล้ว แกยังมีอะไรจะพูดอีก แกมันไม่ใช่คน คิดจะทำร้ายลูกสาวฉัน ฉันจะสู้กับแกเอง”
หวางนิวพุ่งไปหาอวี๋ชุนชาน
ตอนนี้อวี๋ชุนชานเข้าใจแล้ว เขาน่าจะโดนคนวางแผนหลอก ดูแล้วเฉินเยี่ยนไม่น่าจะเรียกเขามาหาจริง แต่คนนั้นบอกเขาแบบนี้จริงๆ นะ
“เป็นชุนเอ๋อร์ที่มาพูดกับผม เธอบอกว่าเฉินเยี่ยนต้องการเจอผม ไม่ใช่ผมจริงๆ คุณดูหัวผมสิ อย่ามาโทษผมนะ”
อวี๋ชุนชานร้องเสียงดัง กลัวหวางนิวตีเขา
หวางนิวและคนตรงนั้นต่างหาคนชื่อชุนเอ๋อร์ที่อวี๋ชุนชานพูดถึง แต่หาไปหามา เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น
“เดี๋ยวฉันจะไปถามเธอที่บ้าน ดูสิว่าทำไมเธอถึงพูดโกหก”
หวางนิวพูดอย่างโมโห
เฉินเยี่ยนมองไปรอบๆ คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อคำพูดเธอแล้ว แต่เพราะอวี๋ชุนชานบอกว่าชุนเอ๋อร์ไม่อยู่ ดังนั้นจะถามเรื่องนี้ให้ชัดเจนต้องไปหาชุนเอ๋อร์ในหมู่บ้าน แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง สถานการณ์ตอนนี้พลิกผันแล้ว ไม่เหมือนตอนที่ตัวเองเพิ่งฟื้นขึ้นมา ทุกคนต่างคิดว่าเฉินเยี่ยนเป็นหญิงหน้าด้านไปอ่อยผู้ชาย ตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่าเฉินเยี่ยนเป็นผู้บริสุทธิ์
“พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี ถ้าเฉินเยี่ยนไม่มีอะไรจริง ทำไมถึงมาอยู่ในสวนผลไม้ได้? ฉันว่าเธอเรียกผู้ชายมาหาต่างหาก”
เฉิ่นซุ่ยตะโกนออกมา เธอไม่ยอมให้เฉินเยี่ยนกูชื่อเสียงกลับมาได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะเปลี่ยนลูกสะใภ้ได้ยังไง
“ฉันมาสวนผลไม้นี้แต่เช้าเพื่อมาเก็บฟืน หลายวันนี้ที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว พ่อกับพี่ชายฉันต่างก็ยุ่ง แม่ฉันก็ยุ่งทำงานบ้าน ยุ่งจนไม่มีเวลา ฉันเลยถือโอกาสตอนเช้าไม่มีอะไรทำเลยมาเก็บฟืน พอมาถึงก็เจออวี๋ชุนชาน เลยเกิดเรื่องนี้ขึ้น”
เฉินเยี่ยนอธิบาย ในความทรงจำของร่างเดิม เธอมาเก็บฟืนจริงๆ เพราะเฉินเวยบอกเธอว่าที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว บอกให้ตอนเช้ามาเก็บ ไม่งั้นไม่พอใช้ เธอถึงได้มา
เฉิ่นซุ่ยกำลังจะบอกว่าไม่เชื่อ ตอนนี้มีคนเดินเข้ามา
“วันนี้ตอนเช้าหนูออกจากบ้านมาเจอพี่เยี่ยนจื่อพอดี หนูถามว่าพี่จะไปไหน พี่บอกที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว เลยจะไปเก็บฟืนในสวนผลไม้”
คนที่เดินเข้ามาเป็นหญิงสาววัยสิบห้าสิบหกปี หน้าตาสวยงาม แต่ผิวคล้ำไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ดูคล้ำมากเกินไป คนผิวขาวในหมู่บ้านนี้มีน้อยอยู่แล้ว
เฉินเยี่ยนรู้จักเด็กหญิงที่พูดขึ้นมาคนนี้ชื่อหวางจวน อาศัยอยู่ใกล้บ้านเธอมาก ห่างกันแค่หลังเดียว เจ้าของร่างเดิมเจอเธอจริงๆ เมื่อเช้า แต่ตอนนี้หวางจวนกล้าออกมาพูดแทนเธอ ถือว่าไม่เลวเลย ยังไงถ้าไม่เคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจน จะกู้ชื่อเสียงเธอกลับมาได้ยังไง
“ฉันรู้สึกว่าจวนเอ๋อร์ต้องไม่พูดโกหกแน่ อีกอย่างเยี่ยนจื่อก็เป็นหญิงซื่อๆ มีคู่หมั้นที่ดีอย่างเหวยหมิน เธอจะไปชอบชุนชานได้ยังไง ฉันว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เรื่องนี้ต้องเป็นชุนชานกับชุนเอ๋อร์นั่นสร้างขึ้นมา”
“ใช่ ฉันก็ว่าเยี่ยนจื่อไม่ใช่คนแบบนั้น”
คนรอบข้างต่างพูดขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาต่างเชื่อว่าเฉินเยี่ยนเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว
“แต่ไม่ว่ายังไงเฉินเยี่ยนมานอนข้างๆ ผู้ชายคนอื่นในสวนผลไม้นี่ ไม่แน่เธออาจจะไม่บริสุทธิ์แล้ว ลูกสะใภ้แบบนี้เหวยหมินของเราไม่ต้องการ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ทำตัวกันไม่ถูกแล้ว”
เฉิ่นซุ่ยไม่อาจจะพูดได้ว่าที่ทุกคนพูดนั้นผิด ยังไงก็เป็นหมู่บ้านเดียวกัน เธอทำให้คนอื่นโกรธไม่ได้ แต่เธอไม่ต้องการเฉินเยี่ยนมาเป็นลูกสะใภ้เธอ
หวางนิวกำลังจะพูด เฉินเยี่ยนดึงเธอไว้ เฉินเยี่ยนเห็นเฉินเวยกำลังจะอ้าปาก เธอรีบพูดขึ้นมาก่อน “คุณป้า ถ้าอยากจะยกเลิกงงานแต่งฉันก็ไม่คัดค้าน ฉันรู้ว่าป้าไม่ชอบฉันมาตลอด เหวยหมินก็ไม่ได้ชอบฉัน ใช่ ฐานะที่บ้านฉันไม่ได้ดีเท่าบ้านป้า เป็นครอบครัวฉันใฝ่สูงเอง ป้าสบายใจได้ ฉันเฉินเยี่ยนจะคับอกคับใจที่พวกคุณไม่ชอบฉันขนาดไหน ฉันก็จะไม่ตามตื๊อ การแต่งงานนี้ยกเลิกได้”
เฉินเยี่ยนภาวนาให้รีบๆ ยกเลิกงานแต่งเสียที
“เยี่ยนจื่อ”
หวางนิวรีบร้องออกมา ถ้าลูกสาวโดนยกเลิกงานแต่งแล้ว อีกหน่อยจะแต่งงานกับบ้านไหนได้
“แม่ แม่ฟังหนูนะ คนอื่นไม่เสียดายหนู หนูแต่งไปก็ทรมาน สู้ยกเลิกไปเลยดีกว่า เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย”
เฉินเยี่ยนปลอบหวางนิว
หวางนิวกำลังจะพูด แต่เฉิ่นซุ่ยเบะปากพูด “ถือว่าเธอรู้ตัวดี”
“คุณป้า เรื่องแต่งงานคือยกเลิก แต่ถ้าจะพูดให้ชัดเจน ป้าเป็นฝ่ายต้องการยกเลิก ไม่ใช่เพราะวันนี้ฉันโดนรังแก ไม่ใช่เพราะฉันทำเรื่องหน้าไม่อาย แต่เป็นเพราะป้าต้องการจะหาสะใภ้ที่ดีกว่าให้อวี๋เหวยหมิน เลยยกเลิกงานแต่ง เป็นปัญหาของความครัวป้า ไม่ใช่ครอบครัวฉัน”
เฉินเยี่ยนมองเฉิ่นซุ่ย ยกเลิกงานแต่งได้ แต่ชื่อเสียงตัวเองเธอไม่ยอม
เฉิ่นซุ่ยอ้าปาก ยังไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนก็พูดขึ้นมาอีก “คุณป้า คิดดูให้ดี ถ้าป้าอยากจะยกเลิกงานแต่ง แล้วยังไม่ยอมรับ จะผลักความรับผิดชอบให้บ้านฉัน จะทำฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง งั้นฉันไม่ยอม งานแต่งนี้ฉันไม่ยกเลิก อย่างมากก็แค่ปลาที่ตายในแหแค่นั้น”
สีหน้าเฉินเยี่ยนเคร่งขรึมขึ้นมา เธอไม่สนใจชื่อเสียงตัวเองได้ แต่เธอไม่ยอมให้ตระกูลเฉินเสื่อมเสียชื่อเสียง ในหมู่บ้าน ถ้าชื่อเสียงไม่ดีแล้ว เดินออกไปก็ไม่มีใครสนใจ ได้รับคำตำหนิ นั่นเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมานมาก
เฉินซุ่ยได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนแล้วกลอกลูกตา พูดตามจริง เธออยากหาสะใภ้ที่ดีกว่านี้ให้อวี๋เหวยหมิน ตอนแรกเลือกเฉินเยี่ยน เพราะว่าครอบครัวเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าครอบครัวเฉิน เธอคิดว่าครอบครัวเฉินจะช่วยครอบครัวเธอ แต่ตอนนี้ครอบครัวเธอดีขึ้นแล้ว เธอก็มักใหญ่ใฝ่สูงขึ้นไป
“แล้วสินสอดล่ะ?”
เฉิ่นซุ่ยถามเฉินเยี่ยน
“เธอคิดว่าใครเสียดายของเธอ แต่เรื่องยกเลิกงานแต่งไม่ใช่เธอพูดก็จบ รอเฉินจงกลับมาแล้วว่ากัน”
หวางนิวคิดไม่เหมือนเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนจะอ้าปากพูด แต่หวางนิวห้ามเธอไว้ ไม่ให้เธอพูด ในใจเฉินเยี่ยนทำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็รู้ว่าแม่คนนี้หวังดี เพราะหวางนิวรู้ว่าในใจลูกสาวตัวเองชอบอวี๋เหวยหมินมาก แต่แม่คนนี้ไม่รู้จริงๆ ว่าเฉินเยี่ยนคนนี้ไม่อยากจะแต่งงานแล้ว
เฉินเยี่ยนถามจบ อวี๋ชุนชานอึ้งไป เขาตอบโต้ไม่ได้ เพราะที่เฉินเยี่ยนพูดเป็นเรื่องจริง หน้าตาเขาไม่ได้น่าเกลียด แต่เทียบกับอวี๋เหวยหมินแล้ว ก็ต่างกันมากอยู่ อวี๋เหวยหมินหนุ่มกว่าเขา หล่อกว่าเขา เฉินเยี่ยนเอาอะไรมาชอบเขา?
อีกอย่างเขาก็ช่วยอะไรเฉินเยี่ยนไม่ได้จริงๆ เขาเป็นคนขี้เกียจ ที่นาในบ้านเขายังขี้เกียจปลูกเลย และเขาก็เป็นที่พึ่งให้เฉิ่นซุ่ยและอวี๋เหวยหมินไม่ได้ เขาจะช่วยอะไรเฉินเยี่ยนได้?
อวี๋ชุนชานพูดไม่ออก คนรอบๆ ที่มามุงดูก็เริ่มแอบวิจารณ์กัน คิดว่าเฉินเยี่ยนพูดถูก คิดดูแล้ว เฉินเยี่ยนไม่น่าจะไปอ่อยอวี๋ชุนชานได้จริงๆ
“พี่ พี่ชอบบอกฉันถึงแม้ลุงชุนชานจะอายุมาก แต่ข้อดีคือรู้จักเอาใจคน รู้จักเอาใจภรรยามากกว่าคนหนุ่มไม่ใช่เหรอ?”
ตอนนี้เฉินเวยพูดขึ้นมาอีกรอบ แบบนี้หมายความว่าเธอกำลังช่วยหาเหตุผลให้อวี๋ชุนชาน
“ใช่ เสี่ยวเวยพูดถูก เธอต้องรู้สึกว่าฉันรักเธอกว่าอวี๋เหวยหมินถึงได้มาหาฉัน”
อวี๋ชุนชานได้ยินคำพูดเฉินเวยก็รีบพูดตอบรับ
เฉินเยี่ยนไม่สนใจเธอ เธอชำเลืองสายตามองเฉินเวย
หวางนิวก็จ้องมองลูกสาวคนเล็กเหมือนกัน เห็นอยู่ว่าลูกสาวคนโตถามเอาเรื่องอวี๋ชุนชานได้แล้ว อาจจะกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ ลูกสาวคนเล็กมาพูดขัดแบบนี้ ไม่ใช่หาเรื่องหรอกหรือ
“เสี่ยวเวย ครั้งที่แล้วเธอเป็นคนบอกฉันเองว่าคนอายุมากกว่าจะรักมากกว่า ไม่เหมือนคนหนุ่มอายุน้อย คนในบ้านก็รู้กันหมดว่าฉันหมั้นกับเหวยหมินแล้ว ฉันจะไปมีใจให้คนอื่นได้ยังไง ฉันกล้าสาบาน ถ้าฉันมีใจให้อวี๋ชุนชานแม้แต่น้อย ฉันให้คนไปเรียกอวี๋ชุนชานมาหาจริง ฉันต้องไม่ตายดี ให้โดนฟ้าผ่าห้าครั้ง”
ในความทรงจำของร่างเดิมทำให้เฉินเยี่ยนรู้ว่าคนที่นี่เชื่องมงาย ตอนนี้เธอเลยต้องเล่นไม้นี้
คำพูดนี้ของเฉินเยี่ยนพูดออกไป หลายคนต่างเชื่อกันแล้ว เพราะคนที่ทำจริงจะสาบานไม่ได้
“ลูกสาวฉันสาบานขนาดนี้แล้ว แกยังมีอะไรจะพูดอีก แกมันไม่ใช่คน คิดจะทำร้ายลูกสาวฉัน ฉันจะสู้กับแกเอง”
หวางนิวพุ่งไปหาอวี๋ชุนชาน
ตอนนี้อวี๋ชุนชานเข้าใจแล้ว เขาน่าจะโดนคนวางแผนหลอก ดูแล้วเฉินเยี่ยนไม่น่าจะเรียกเขามาหาจริง แต่คนนั้นบอกเขาแบบนี้จริงๆ นะ
“เป็นชุนเอ๋อร์ที่มาพูดกับผม เธอบอกว่าเฉินเยี่ยนต้องการเจอผม ไม่ใช่ผมจริงๆ คุณดูหัวผมสิ อย่ามาโทษผมนะ”
อวี๋ชุนชานร้องเสียงดัง กลัวหวางนิวตีเขา
หวางนิวและคนตรงนั้นต่างหาคนชื่อชุนเอ๋อร์ที่อวี๋ชุนชานพูดถึง แต่หาไปหามา เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น
“เดี๋ยวฉันจะไปถามเธอที่บ้าน ดูสิว่าทำไมเธอถึงพูดโกหก”
หวางนิวพูดอย่างโมโห
เฉินเยี่ยนมองไปรอบๆ คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อคำพูดเธอแล้ว แต่เพราะอวี๋ชุนชานบอกว่าชุนเอ๋อร์ไม่อยู่ ดังนั้นจะถามเรื่องนี้ให้ชัดเจนต้องไปหาชุนเอ๋อร์ในหมู่บ้าน แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง สถานการณ์ตอนนี้พลิกผันแล้ว ไม่เหมือนตอนที่ตัวเองเพิ่งฟื้นขึ้นมา ทุกคนต่างคิดว่าเฉินเยี่ยนเป็นหญิงหน้าด้านไปอ่อยผู้ชาย ตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่าเฉินเยี่ยนเป็นผู้บริสุทธิ์
“พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี ถ้าเฉินเยี่ยนไม่มีอะไรจริง ทำไมถึงมาอยู่ในสวนผลไม้ได้? ฉันว่าเธอเรียกผู้ชายมาหาต่างหาก”
เฉิ่นซุ่ยตะโกนออกมา เธอไม่ยอมให้เฉินเยี่ยนกูชื่อเสียงกลับมาได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะเปลี่ยนลูกสะใภ้ได้ยังไง
“ฉันมาสวนผลไม้นี้แต่เช้าเพื่อมาเก็บฟืน หลายวันนี้ที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว พ่อกับพี่ชายฉันต่างก็ยุ่ง แม่ฉันก็ยุ่งทำงานบ้าน ยุ่งจนไม่มีเวลา ฉันเลยถือโอกาสตอนเช้าไม่มีอะไรทำเลยมาเก็บฟืน พอมาถึงก็เจออวี๋ชุนชาน เลยเกิดเรื่องนี้ขึ้น”
เฉินเยี่ยนอธิบาย ในความทรงจำของร่างเดิม เธอมาเก็บฟืนจริงๆ เพราะเฉินเวยบอกเธอว่าที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว บอกให้ตอนเช้ามาเก็บ ไม่งั้นไม่พอใช้ เธอถึงได้มา
เฉิ่นซุ่ยกำลังจะบอกว่าไม่เชื่อ ตอนนี้มีคนเดินเข้ามา
“วันนี้ตอนเช้าหนูออกจากบ้านมาเจอพี่เยี่ยนจื่อพอดี หนูถามว่าพี่จะไปไหน พี่บอกที่บ้านไม่มีฟืนแล้ว เลยจะไปเก็บฟืนในสวนผลไม้”
คนที่เดินเข้ามาเป็นหญิงสาววัยสิบห้าสิบหกปี หน้าตาสวยงาม แต่ผิวคล้ำไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ดูคล้ำมากเกินไป คนผิวขาวในหมู่บ้านนี้มีน้อยอยู่แล้ว
เฉินเยี่ยนรู้จักเด็กหญิงที่พูดขึ้นมาคนนี้ชื่อหวางจวน อาศัยอยู่ใกล้บ้านเธอมาก ห่างกันแค่หลังเดียว เจ้าของร่างเดิมเจอเธอจริงๆ เมื่อเช้า แต่ตอนนี้หวางจวนกล้าออกมาพูดแทนเธอ ถือว่าไม่เลวเลย ยังไงถ้าไม่เคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจน จะกู้ชื่อเสียงเธอกลับมาได้ยังไง
“ฉันรู้สึกว่าจวนเอ๋อร์ต้องไม่พูดโกหกแน่ อีกอย่างเยี่ยนจื่อก็เป็นหญิงซื่อๆ มีคู่หมั้นที่ดีอย่างเหวยหมิน เธอจะไปชอบชุนชานได้ยังไง ฉันว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เรื่องนี้ต้องเป็นชุนชานกับชุนเอ๋อร์นั่นสร้างขึ้นมา”
“ใช่ ฉันก็ว่าเยี่ยนจื่อไม่ใช่คนแบบนั้น”
คนรอบข้างต่างพูดขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาต่างเชื่อว่าเฉินเยี่ยนเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว
“แต่ไม่ว่ายังไงเฉินเยี่ยนมานอนข้างๆ ผู้ชายคนอื่นในสวนผลไม้นี่ ไม่แน่เธออาจจะไม่บริสุทธิ์แล้ว ลูกสะใภ้แบบนี้เหวยหมินของเราไม่ต้องการ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ทำตัวกันไม่ถูกแล้ว”
เฉิ่นซุ่ยไม่อาจจะพูดได้ว่าที่ทุกคนพูดนั้นผิด ยังไงก็เป็นหมู่บ้านเดียวกัน เธอทำให้คนอื่นโกรธไม่ได้ แต่เธอไม่ต้องการเฉินเยี่ยนมาเป็นลูกสะใภ้เธอ
หวางนิวกำลังจะพูด เฉินเยี่ยนดึงเธอไว้ เฉินเยี่ยนเห็นเฉินเวยกำลังจะอ้าปาก เธอรีบพูดขึ้นมาก่อน “คุณป้า ถ้าอยากจะยกเลิกงงานแต่งฉันก็ไม่คัดค้าน ฉันรู้ว่าป้าไม่ชอบฉันมาตลอด เหวยหมินก็ไม่ได้ชอบฉัน ใช่ ฐานะที่บ้านฉันไม่ได้ดีเท่าบ้านป้า เป็นครอบครัวฉันใฝ่สูงเอง ป้าสบายใจได้ ฉันเฉินเยี่ยนจะคับอกคับใจที่พวกคุณไม่ชอบฉันขนาดไหน ฉันก็จะไม่ตามตื๊อ การแต่งงานนี้ยกเลิกได้”
เฉินเยี่ยนภาวนาให้รีบๆ ยกเลิกงานแต่งเสียที
“เยี่ยนจื่อ”
หวางนิวรีบร้องออกมา ถ้าลูกสาวโดนยกเลิกงานแต่งแล้ว อีกหน่อยจะแต่งงานกับบ้านไหนได้
“แม่ แม่ฟังหนูนะ คนอื่นไม่เสียดายหนู หนูแต่งไปก็ทรมาน สู้ยกเลิกไปเลยดีกว่า เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย”
เฉินเยี่ยนปลอบหวางนิว
หวางนิวกำลังจะพูด แต่เฉิ่นซุ่ยเบะปากพูด “ถือว่าเธอรู้ตัวดี”
“คุณป้า เรื่องแต่งงานคือยกเลิก แต่ถ้าจะพูดให้ชัดเจน ป้าเป็นฝ่ายต้องการยกเลิก ไม่ใช่เพราะวันนี้ฉันโดนรังแก ไม่ใช่เพราะฉันทำเรื่องหน้าไม่อาย แต่เป็นเพราะป้าต้องการจะหาสะใภ้ที่ดีกว่าให้อวี๋เหวยหมิน เลยยกเลิกงานแต่ง เป็นปัญหาของความครัวป้า ไม่ใช่ครอบครัวฉัน”
เฉินเยี่ยนมองเฉิ่นซุ่ย ยกเลิกงานแต่งได้ แต่ชื่อเสียงตัวเองเธอไม่ยอม
เฉิ่นซุ่ยอ้าปาก ยังไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนก็พูดขึ้นมาอีก “คุณป้า คิดดูให้ดี ถ้าป้าอยากจะยกเลิกงานแต่ง แล้วยังไม่ยอมรับ จะผลักความรับผิดชอบให้บ้านฉัน จะทำฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง งั้นฉันไม่ยอม งานแต่งนี้ฉันไม่ยกเลิก อย่างมากก็แค่ปลาที่ตายในแหแค่นั้น”
สีหน้าเฉินเยี่ยนเคร่งขรึมขึ้นมา เธอไม่สนใจชื่อเสียงตัวเองได้ แต่เธอไม่ยอมให้ตระกูลเฉินเสื่อมเสียชื่อเสียง ในหมู่บ้าน ถ้าชื่อเสียงไม่ดีแล้ว เดินออกไปก็ไม่มีใครสนใจ ได้รับคำตำหนิ นั่นเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมานมาก
เฉินซุ่ยได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนแล้วกลอกลูกตา พูดตามจริง เธออยากหาสะใภ้ที่ดีกว่านี้ให้อวี๋เหวยหมิน ตอนแรกเลือกเฉินเยี่ยน เพราะว่าครอบครัวเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าครอบครัวเฉิน เธอคิดว่าครอบครัวเฉินจะช่วยครอบครัวเธอ แต่ตอนนี้ครอบครัวเธอดีขึ้นแล้ว เธอก็มักใหญ่ใฝ่สูงขึ้นไป
“แล้วสินสอดล่ะ?”
เฉิ่นซุ่ยถามเฉินเยี่ยน
“เธอคิดว่าใครเสียดายของเธอ แต่เรื่องยกเลิกงานแต่งไม่ใช่เธอพูดก็จบ รอเฉินจงกลับมาแล้วว่ากัน”
หวางนิวคิดไม่เหมือนเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนจะอ้าปากพูด แต่หวางนิวห้ามเธอไว้ ไม่ให้เธอพูด ในใจเฉินเยี่ยนทำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็รู้ว่าแม่คนนี้หวังดี เพราะหวางนิวรู้ว่าในใจลูกสาวตัวเองชอบอวี๋เหวยหมินมาก แต่แม่คนนี้ไม่รู้จริงๆ ว่าเฉินเยี่ยนคนนี้ไม่อยากจะแต่งงานแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ