ลำนำบุปผาพิษ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.37 น.
แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) บทที่ 55-56
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 55 ไม่ว่าผู้ก่อความวุ่นวายจะเป็นใครก็จงไล่ออกไปให้หมด
กู้ซีจิ่วเอ่ยเรียบๆ “ตัวข้านั้นรักสงบ ไม่ชอบให้มีผู้ใดมารบกวน เรื่องนี้ข้าก็เคยกำชับไปนานแล้ว หากบุกรุกที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าก็ไม่ต่างอะไรกับโจร ครั้งนี้พวกเจ้าไม่ได้พยายามขัดขวางอย่างสุดความสามารถถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ เห็นแก่ที่พวกเจ้าเพิ่งกระทำผิดเป็นครั้งแรก ข้าจะลงโทษสถานเบา โบยคนละสิบไม้และหักเบี้ยหวัดอีกครึ่งปี พวกเจ้ายินยอมหรือไม่?”
เรื่องเหล่านี้กู้ซีจิ่วเคยกำชับไว้แล้วจริงๆ เพียงแต่พวกนางไม่คิดว่าคุณหนูหกผู้นี้จะถือเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ หากยามนั้นพวกนางพยายามขัดขวางไว้อย่างสุดความสามารถ คงจะยื้อไว้ได้สักพัก
ยามนี้กู้ซีจิ่วสั่งลงโทษแล้ว พวกนางจึงต้องยินยอมอย่างช่วยไม่ได้ ได้แต่ก้มหัวรับโทษ
กู้ซีจิ่วยังสั่งหัวหน้าสาวใช้ให้เรียกสาวใช้คนหนึ่งที่เมื่อครู่พยายามสกัดกั้นไว้อย่างสุดกำลังเข้ามา ชมเชยว่านางทำได้ดี ตกรางวัลให้นางต่อหน้าคนอื่นๆ ทั้งยังเลื่อนขั้นให้นางจากสาวใช้เก็บกวาดกลายเป็นสาวใช้คนสนิท
การลงโทษและตกรางวัลของเธอครั้งนี้ เป็นการตบหน้ากู้เทียนฉิงสองพี่น้องอย่างจัง!
เธอยังจัดการไม่ทันเสร็จ กู้เทียนฉิงสองพี่น้องก็อยู่ไม่สุขแล้ว
กู้เทียนอีหวีดร้องเสียงแหลมอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้า...เจ้ามันไร้เหตุผลสิ้นดี! พวกเราเป็นพี่สาวของเจ้านะ จะนับว่าบุกรุกเรือนเจ้าได้อย่างไร?! พวกเรามาเรือนนี้ไม่ได้งั้นหรือ?! รู้เอาไว้ซะว่าที่นี่คือจวนตระกูลกู้ ครอบครัวเดียวกันยังจะมาพูดเรื่องบุกรุกไม่บุกรุกอะไรกันอีก...”
“ห้องหนังสือของท่านพ่อท่านกล้าย่างกรายเข้าไปไหม? แล้วห้องนอนของแม่ท่านล่ะกล้าเหยียบย่างเข้าไปหรือไม่?” กู้ซีจิ่วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
กู้เทียนอีอึกอัก “นี่...พวกเขาเป็นผู้อาวุโสนะ ห้องของผู้อาวุโสย่อมไม่อาจบุกเข้าไปได้ตามอำเภอใจ...”
“เช่นนั้น...ห้องของพี่สาวทั้งสามคนของท่านล่ะ? ท่านกล้าเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตจากพวกนางหรือไม่?” นัยน์ตาของกู้ซีจิ่วจ้องเขม็งไปที่นาง “หรือจะบอกว่าห้องนอนของท่านพี่น้องคนอื่นๆ สามารถเข้าไปตามอำเภอใจได้? อยากจะเข้าก็เข้าได้เลย?”
กู้เทียนอีเจอคำถามนี้เข้าไป ได้แต่อ้าปากค้างทว่าพูดโต้แย้งไม่ออกสักคำ
ห้องของพวกนางก็ไม่อาจบุกเข้าไปได้ตามอำเภอใจ เพียงแต่พวกนางไม่เคยเห็นกู้ซีจิ่วอยู่ในสายตาเลย ที่อยู่ของกู้ซีจิ่วพวกนางก็เข้านอกออกในตามอำเภอใจจนเคยชินไปแล้ว นอกจากจะเข้าออกตามใจแล้วยังเคยลงมือตบตีด้วย...
“น้องหก พวกเราเองก็ไม่อยากบุกรุกห้องนอนของเจ้า แต่เป็นเพราะไม่วางใจ...เอาเถอะ ในเมื่อเจ้ายังอยู่ดี เช่นนั้นก็ยุติเท่านี้แล้วกัน เทียนอี พวกเราไปกันเถอะ ควรกลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว” กู้เทียนฉิงออกมาไกล่เกลี่ยให้จบลงด้วยดี พลางลากกู้เทียนอีที่ยังไม่ยินยอมออกไปด้วย
“พวกเจ้าจงฟัง ที่แห่งนี้อยู่ในการปกครองของข้ากู้ซีจิ่ว ไม่ว่าผู้ก่อความวุ่นวายจะเป็นใครก็จงไล่ออกไปให้หมด! หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าจะรับผิดชอบเอง” น้ำเสียงของกู้ซีจิ่วเยือกเย็นโดยธรรมชาติ เสียงก็ไม่ได้ดัง ทว่าทรงพลังยิ่งนัก!
“เจ้าค่ะ คุณหนูหก!” เสียงตอบรับของสาวใช้เหล่านั้นดังกังวานเป็นพิเศษ เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ แถมคุณหนูยังออกปากแล้ว ต่อไปพวกนางย่อมกล้าลงมืออย่างเต็มที่
กู้เทียนฉิงสองพี่น้องก็ได้ยินเช่นกัน เงาร่างชะงักเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดก็จากไป
ผู้ที่แต่ก่อนเคยเป็นดั่งโคลนเลนที่โดนเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า จู่ๆ ยามนี้กลับแข็งแกร่งขึ้นมาถึงเพียงนี้ แถมยังสร้างความลำบากใจให้พวกนางหลายต่อหลายครั้ง นี่ทำให้กู้เทียนอีไม่คุ้นชินอย่างยิ่ง และขุ่นเคืองเป็นที่สุด พอกลับไปอยู่บนทางเดินก็บ่นออกมาอย่างเหลืออด “นังเด็กชั้นต่ำคนนั้นชักจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำเช่นนี้กับพวกเรา! พี่สาม หรือว่าพวกเราต้องเลิกราเพียงเท่านี้หรือ?”
กู้เทียนฉิงเม้มริมฝีปากน้อยๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“พี่สาม ท่านว่านางโดนผีสิงหรือไม่? ถึงเปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละคน...”
กู้เทียนฉิงสูดลมหายใจเข้าเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ถ้าหากว่าโดนผีสิงจะเคลื่อนไหวเชื่องช้ามาก แววตาก็จะเลื่อนลอย แต่นางไม่คล้าย...”
-------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 56 หรือท่านอยากแต่งเข้าไปทีหลังแล้วกลายเป็นอนุ?
“เช่นนั้นนางเป็นอะไร?”
“อาจเป็นเพราะถูกบีบคั้นอย่างหนักจนในที่สุดจึงเริ่มโต้ตอบกลับกระมัง? บางคนก็เก็บซ่อนนิสัยที่แท้จริงไว้ลึกนัก พอถูกบีบคั้นหนักๆ ถึงจะปะทุออกมา”
“ฮึ ที่แท้ก็เป็นเพราะนังเด็กชั้นต่ำนั่นได้รับบทเรียนน้อยเกินไป! เมื่อกี้ข้าอยากจะดึงนางมาตบสักหลายๆ ฉาดเสียจริง ทำให้นางรู้ว่าอย่าผยองให้มันมากนัก! พี่สาม ทำไมเมื่อกี้ท่านถึงลากข้าออกมา?” เมื่อครู่กู้เทียนอีคิดจะลงมือกับกู้ซีจิ่วจริงๆ เพียงแต่ถูกกู้เทียนฉิงลากออกมาซะก่อน
กู้เทียนฉิงส่ายหัวเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เทียนอี อย่างไรเสียซีจิ่วก็เป็นน้องสาวของพวกเรา ทั้งยังเป็นบุตรสาวฮูหยินเอกของจวนแม่ทัพ ไม่ควรจะไปทุบตีด่าทอนางบ่อยๆ คนนอกเห็นเข้ามันจะดูไม่งาม”
“น้องสาวอะไรกัน ข้าไม่มีน้องสาวอกตัญญูเช่นนี้! บุตรสาวฮูหยินเอกหรือ? เหอะ มารดาของนางก็เป็นเพียงหญิงสารเลวที่หนีตามชายชู้ไป ลูกที่เกิดจากนางไม่มีทางเทียบกับพวกเราได้” กู้เทียนอีกำมือแน่น น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“เทียนอี อย่าพูดแบบนี้ ถึงแม้มารดาของนางจะละเมิดจารีตสตรี แต่อย่างไรเสียนางก็ยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านพ่อนะ...”
“ฮึ ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใครกันแน่! นางอัปลักษณ์ถึงเพียงนั้น ไม่เห็นจะเหมือนท่านพ่อตรงไหน...” กู้เทียนอียังคงก่นด่าต่ออีกหลายประโยค จู่ๆ ก็เหมือนฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “พี่สาม ตั้งแต่ท่านกลับมาจากโรงประมูลก็รีบร้อนมาหานางที่นี่ มีเรื่องอันใดกัน? คงไม่ได้คิดจะมาเยี่ยมนางจริงๆ กระมัง?”
กู้เทียนฉิงยิ้มละไม “เป็นการมาเยี่ยมนางจริงๆ ข้าบอกแล้วไงว่านางเป็นน้องสาวของพวกเรา...ต่อให้ชีวิตนางจะไม่อัตคัดขัดสนแล้ว แต่นางก็ยังเป็นน้องสาวของพวกเราอยู่เหมือนเดิม ข้ากลัวว่านางจะไม่คุ้นชินกับที่นี่ ดังนั้นจึงมาเยี่ยมเยียนดูเสียหน่อย”
แม้ปากของนางจะเอ่ยวาจาห่วงหาอาทร แต่สิ่งที่อยู่ในใจนางมีเพียงตัวนางเท่านั้นที่รู้ เพราะยามที่นางได้เห็นกู้ซีจิ่วที่ปลอมตัวแล้วในโรงประมูล นางมักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูแปลกๆ ชอบกล ทำให้นางเกิดภาพลวงตาคล้ายว่าเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน... แน่นอนว่า คนที่อยู่ในโรงประมูลคนนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือส่วนสูง ล้วนไม่เหมือนกู้ซีจิ่วเลยสักกระผีกด้วย เพียงแต่ในใจของนางเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยก็เท่านั้น
คำพูดของนางนั้นสวยหรูดูดี ทว่ากู้เทียนอีกลับไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “พี่สาม ท่านจิตใจดีเกินไปแล้ว ท่านนับนางเป็นน้อง แต่นางไม่ได้นับพวกเราเป็นพี่ ตอนนี้ท่านพ่อก็ทำดีกับนางราวกับเลอะเลือนไปเสียแล้ว เกรงว่าวันหน้านางคงได้แต่งกับพี่หรงเหยียนเป็นแน่ นางคู่ควรเสียที่ไหน?! ต้องเป็นพี่สามกับพี่หรงเหยียนสิถึงจะเหมาะสมกันที่สุด…
“ยิ่งไปกว่านั้นคือพี่หรงเหยียนเองก็มีความรักลึกซึ้งให้กับพี่สาม ในงานประมูลครั้งนี้เขายังซื้อสร้อยไข่มุกทะเลใต้ให้พี่ด้วย จ่ายไปตั้งสองหมื่นตำลึงเชียวนะ ที่สำคัญที่สุดคือน้องเห็นกับตาว่าพี่หรงเหยียนสลักคำว่า ‘ฉิง’ ลงไปบนสร้อยไข่มุกเส้นนั้น นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพี่หรงเหยียนชอบท่านจริงๆ... พี่สาม ท่านลองคิดหาวิธีหน่อยสิ ทำให้พี่หรงเหยียนถอนหมั้นนังชั้นต่ำคนนั้น หรือท่านอยากแต่งเข้าไปทีหลังแล้วกลายเป็นอนุเล่า?”
“พอเถอะ เทียนอี อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ระหว่างข้ากับองค์ชายหรงเหยียนไม่มีอะไรจริงๆ... ดึกมากแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะ” เห็นได้ชัดว่ากู้เทียนฉิงไม่ต้องการพูดคุยมากไปกว่านี้ จึงโบกมือให้กู้เทียนอีแล้วหันหลังจากไป
พูดคุยเกี่ยวกับนิยาย #ลำนำบุปผาพิษ
ได้ใน FB Group : หอน้ำชาเสี่ยวเปย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ