เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตามน้ำไปก่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสิ่งที่เกิดกับกล้าในเวลาต่อมาก็คือ…..การได้เห็นฉากสีขาวผุดขึ้นมารอบด้าน ทำให้เขาตกใจจนสะดุ้งตัวโยน
“ เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน ชั้นกำลังอยู่ในห้องของตัวเองไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ฉากสีขาวนี่คืออะไร ” กล้ามึนงงไปหมด แต่พอตั้งหลักได้ เด็กหนุ่มร่างสมบูรณ์ก็เตรียมจะเข้าไปฉีกกระชากฉากขาวที่ห่อหุ้ม หวังกลับคืนสู่ห้องแคบที่คุ้นเคย ทว่าสองเท้ากลับขยับไม่ได้
“ เอ๊ะ! ขยับตัวไม่ได้ แย่แล้ว ไม่น่าไปตกลงกับไอ้เซนต์แพนโดร่าเลย เพราะเจ้าหมอนั่นน่าจะเป็นซาตานจำแลงกายมา แล้วนี่คงกำลังพาวิญญาณของเราลงสู่นรกแหงๆ ” กล้าเดาไปต่างๆนาๆ สีหน้าแสดงออกว่าจิตตก สงสัยว่าพ่อหนุ่มร่างสมบูรณ์จะชอบดูหนังจากฝั่งฮอลลีวู้ดพอสมควร เลยมีจินตนาการที่กว้างไกลแบบนี้
แต่ไม่ทันที่กล้าจะได้บทสรุป ฉากขาวก็ค่อยๆจางลง กลายเป็นลานกว้างที่ร้างราผู้คน รอบข้างประกอบไปด้วยเสาหินสไตค์กรีซโบราณที่แตกหักนับสิบต้น
“ เอ๊ะ! ที่นี่คือที่ไหน ” กล้าสงสัย เพราะไม่ว่ามองมุมใด ก็ช่างห่างไกลจากห้องนอนของตนเอง แถมท้องฟ้ายังถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกแห่งราตรี มีดาวนับล้านดวงสาดแสงกระจายอยู่บนนั้น
“ อืม….แม้กระทั่งเวลาก็น่าจะดึกกว่าตอนที่อยู่ในห้อง หรือเราโดนเจ้าเซนต์แพนโดร่าวางยาสลบ แล้วลากมาอยู่กลางแจ้ง แต่เอ…..มันใช้วิธีไหนป้ายยา เพราะเรายังไม่ได้แตะต้องน้ำหรืออาหารใดๆเลย ”
กล้าพยายามคิดหาทางออก แต่ตรึกตรองได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงห้าวใหญ่ของหญิงสาวนางหนึ่ง
“ หนีการฝึกอีกแล้วหรือ ”
แม้กล้าจะไม่เห็นรูปโฉมของสตรีผู้มาใหม่ เขาก็เดาได้ว่ามันน่าจะออกมาจากปากของ….ทอมบอยที่ดูบึกบึน แต่พอเด็กหนุ่มหันไปมอง ก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบกับสาววัยรุ่นร่างสูงเพรียว
“ จ้าก…..ใครกันน่ะ ”
เหตุที่ทำให้กล้าร้องเสียงหลงเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าสาววัยรุ่นคนนั้นจะสวยหยาดเยิ้ม แต่เป็นเพราะยูนิฟอร์มที่เธอสวมใส่ต่างหาก มันดูคล้ายชุดเต้นอาระบิคสีแดงผสมดำ อันรับกับรูปร่างที่ปราดเปรียว เส้นผมสีโค้กที่ยาวประบ่า แลหยักศก ทว่าไม่อาจเห็นหน้าตา เนื่องจากถูกปิดบังด้วยหน้ากากเหล็กสีเงิน
สาวปริศนาในชุดประหลาด เอียงคอเล็กน้อย เป็นเชิงสงสัย ก่อนจะย้อนถาม
“ กินอะไรผิดสำแดง หรือหัวไปกระแทกอะไรมา เจ้าถึงได้เพี้ยนแบบนี้ ”
ฟังจากน้ำเสียงและวิธีการพูดของสาวประหลาด กล้าคาดว่าเธอต้องคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีสิ่งที่ชวนให้ติดใจ
“ เอ…..แล้วเรารู้จักเธอคนนี้ได้ยังไง หรือจะเจอกันในตอนที่ไปงานคอสตูมเซนต์เซย่า ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนก่อน โอ้….ใช่แล้ว น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะเธอดูเหมือนอีเกิล มารีนเหลือเกิน อย่างกับถอดมาจากการ์ตูนเลย ”
“ โอ้….สุดยอด เธอเป็นใคร ทำไมถึงแต่งตัวเหมือนอีเกิล มารีนขนาดนี้ อย่างกับได้พบตัวจริงเลย ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ถอดกันมาไม่ผิดเพี้ยน ” ด้วยความที่กล้ารู้สึกตื่นเต้นยินดี จึงรีบร้องทัก พร้อมก้าวเข้าไปหา หวังจะได้จับมือ แต่สุดท้าย เขากลับประสบบางสิ่งที่ไม่พึงประสงค์
“ ผลั้ก ”
กล้ารู้สึกว่าโลกนี้หมุนได้ แต่สิ่งที่ขยับ กลับไม่ใช่พื้นแผ่นดินที่เหยียบ แต่เป็นตัวเขาต่างหาก ที่ตีลังกาลงไปนอนบนพื้นดิน
“ อั้ก….” สิ่งที่ตามมาคือ…ความเจ็บปวดที่แผ่นหลัง บอกให้รู้ว่าเขาเพิ่งถูกจับทุ่ม และผู้ที่ลงมือนั้นก็คือ….บุคคลที่แต่งตัวเหมือนอีเกิล มารีนนี่เอง
“ อู้ย….เธอทำบ้าอะไรเนี่ย จู่ๆก็มาเล่นงานชั้น ” กล้ารีบลุกขึ้นมาโวย พร้อมเอามือลูบคลำแผ่นหลัง เพราะยังรู้สึกเจ็บแสบอยู่นิดๆ
“ ชิ ดูท่าทางยังไม่หายบ้า คงต้องโดนอีกซักดอก ” สาวปริศนาพึมพำเบาๆ ก่อนจะพุ่งเข้ามาถีบลำตัวของกล้า ด้วยความเร็วแรงในการจู่โจม ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับกระเด็นไกลไปชนเสาปูนจนหักกลาง
“ อุ้ก……”
“ โครม….”
กล้ารู้สึกมึนงงนิดหน่อย และจุกเสียด แต่ไม่นาน เขาก็เริ่มฟื้นตัว พร้อมลุกขึ้นมาคำรามดัง
“ ฮึ่ม….ไม่ยอมให้อีกแล้ว ชั้นสู้นะโว้ย ”
กล้าพุ่งเข้าไปหาสาวปริศนา แล้วปล่อยหมัดซ้ายขวาแบบมวยวัด ซึ่งแต่ละดอก ล้วนไม่ต้องกายของอีกฝ่าย ด้วยเจ้าหล่อนพริ้วหลบอย่างง่ายดาย
“ แม้จะเร็วพอสมควร แถมน้ำหนักหมัดก็ใช้ได้ แต่โจมตีไร้รูปแบบ พูดง่ายๆคือมั่ว นี่ล้อเล่นใช่มั้ย นายเคยทำได้ดีกว่านี้นี่ จริงจังหน่อย ” สาวปริศนาหลบไป ก็บ่นไป แม้ไม่เห็นใบหน้า แต่ดูเธอไม่ค่อยพอใจ เพราะน้ำเสียงฟ้องว่าอย่างงั้น
“ อย่าพูดมาก นี่แน่ะ ” กล้ายิ่งโมโหหนักกว่าเดิม เพราะอยู่ดีๆ ก็ถูกสาวนางนี้เล่นงาน แถมยังตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนการต่อสู้ให้อีก ทว่าการหลับหูหลับตาต่อยของเด็กหนุ่ม ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า…..เข้าเป้า
“ เปรี้ยง…..”
กล้าได้ยินเสียงปะทะดังสนั่นที่กกหู คาดว่าน่าจะมาฝ่าเท้าของสาวปริศนาที่พุ่งมาฟาดต้นคอ และความรุนแรงนั้นก็มีมากมาย จนส่งให้เขาลอยไปยังลำธารตื้นๆ
“ ตูม…..” เสียงน้ำแตกกระจายดังกังวาน เพราะถูกของหนักกระแทกใส่ สิ่งนั้นก็คือร่างของมนุษย์เพศชาย ที่มีอายุพ้นวัยเด็กมาเล็กน้อย
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ” กล้าหอบถี่ เพราะเหนื่อยจากการโหมโจมตี แถมยังประสบกับอาการมึนงง เนื่องจากเพิ่งถูกเตะก้านคอมาหมาดๆ
“ นี่ยัยคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงได้เล่นงานเรา แถมยังวางตัวเป็นอาจารย์สอนต่อยตีอีก หรือวิญญาณมารีนจะเข้าสิงเธอ ” กล้าแอบสงสัย ดูท่าทางสาวแต่งคอสตูมคนนี้ จะอินกว่าที่คิด ไม่ทันไร เขาก็ได้ยินเสียงของเจ้าหล่อน
“ เป็นไง ลงไปนอนแช่น้ำแบบนั้น ทำให้เจ้าสงบใจได้มั้ย เซย่า ”
กล้ารีบหันขวับไปมองสาวปริศนา ที่บัดนี้ ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงริมตลิ่ง ทิ้งให้เขายืนงงอยู่ในลำธารที่สูงประมาณเข่า
“ โห….แม้แต่คำพูดคำจา ยังคล้ายมารีน ยัยนี่ถ้าไม่ได้เรียนแอคติ้งมา ก็ต้องบ้าการ์ตูนเซนต์เซย่าชนิดเข้าเส้น เพราะเลียนแบบได้เหมือนจริงจนน่ากลัว ราวกับถอดตัวละครมาอยู่ตรงหน้าเลย ” กล้ารู้สึกทึ่ง แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้พบกับเงาของตนเองที่สะท้อนบนผิวน้ำ
“ จ้าก…….นี่มัน ” กล้าตะโกนดัง เขาแทบล้มทั้งยืน เพราะเงาที่ปรากฏเป็นเด็กหนุ่มร่างผอมเกร็งนายหนึ่ง เสื้อและกางเกงที่สวมใส่ ทำมาจากผ้าเนื้อหยาบเก่าๆ บนหน้าอกและหัวไหล่มีเกราะหนังประดับอยู่ ตามแขนขาพันผ้าขาว หน่วยก้านแลคล้ายกาดิเอเตอร์ในยุคโบราณ
แม้จะตกใจกับสารรูปที่เปลี่ยนไป เพราะของเดิม กล้าเป็นแค่เด็กหนุ่มร่างสมบูรณ์ แต่ในยามนี้กลับกลายสภาพเป็นนักสู้วัยเยาว์ไปเสียแล้ว แต่เขาก็พยายามตั้งสติ พร้อมหลับตาลงสามวินาที แล้วภาวนาอยู่ในใจ
“ ไม่นะ ไม่นะ ขอให้ลืมตาขึ้นมา ชั้นคือไอ้กล้าดุจเดิม ”
แต่แล้ว ปาฏิหาริย์ก็ไม่มีจริง เพราะทันทีที่กล้าลืมตาขึ้นมา ก็พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าคมสัน คิ้วหนา ดวงตากลมโต จมูกใหญ่และเชิดสูง ดูท่าทางดื้อรั้น แถมเส้นผมที่ยาวประมาณต้นคอ ก็ดกดำและหยักศกในเวลาเดียวกัน
“ เฮ้ย…..นี่มันใบหน้าของเซย่าชัดๆ แล้วไอ้อ้วนแหยที่แสนจืดของเราหายไปไหน ” กล้ามองเงาใบหน้าของตน พร้อมยกมือขึ้นลูบคลำสองแก้ม สีหน้าดูสับสน ในใจก้ำกึ่งระหว่างตื่นเต้นยินดี กับตกใจถึงขีดสุด
“ ถ้าเราไม่ได้ฝันไป นี่ก็น่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของเจ้าเซนต์แพนโดร่าแน่ๆ ” คิ้วดกหนาของกล้าในโฉมใหม่เริ่มขมวดนิ่ว เป็นเชิงขบคิด แต่อยู่กับตัวเองได้ไม่นาน สาวปริศนาบนชายฝั่ง ก็กวักมือเรียก
“ เซย่าขึ้นมาได้แล้ว เราจะได้ฝึกทบทวนครั้งสุดท้าย ”
กล้ารีบหันไปมอง ในสมองพยายามย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในการ์ตูน เลยพบว่านี่คือฉากที่เซย่าและมารีนฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ก่อนดวลกับคาชิออสในวันพรุ่งนี้
“ โอ้…ใช่แล้ว ต้องเป็นตอนนี้แน่ๆ ” กล้าตบเข่าป้าบๆ และด้วยความที่เขามัวแต่ชักช้า อาจารย์สาวจึงออกคำสั่งแกมขู่
“ เจ้าจะมาได้รึยัง ถ้ายัง เดี๋ยวข้าจะเข้าไปลากเจ้าขึ้นมา และถ้าเป็นแบบนั้นจริง รับประกันได้เลยว่า….อย่างน้อย ต้องถึงขั้นรากเลือด ”
“ คะ…ครับ มารีน เอ๊ะ! คุณมารีน ” กล้ารีบตามน้ำ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใดที่ดีกว่านี้
…………………….
มารีนได้พากล้ามาที่เนินเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งล้านเลี่ยนเตียนโล่ง แถมยังสูงจากพื้นไม่มากนัก ประมาณว่าคนที่กลิ้งตกลงไป ก็ยังมีหวังจะรอดชีวิต
“ เอาล่ะ คงรู้แล้วสินะ ว่าพรุ่งนี้คือศึกชี้ชะตาของเจ้า ” มารีนเริ่มอารัมภบท ดวงตาจับจ้องมายังเด็กหนุ่ม ผู้เป็นศิษย์ แต่ไม่เห็นประกายข้างใน เพราะมีหน้ากากเหล็กคอยปิดบัง
“ เฮือก…ขะ…เข้าใจครับ ” กล้ารับคำสั่งเสียงสั่น สลับกลืนน้ำลาย
ด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้มารีนเริ่มสงสัยจนหยุดชะงัก เพราะเซย่าคนเดิมไม่เคยแสดงอาการขลาดกลัวแบบนี้เลย แถมสำเนียงการพูดก็ดูสุภาพจนผิดสังเกต
“ เอ….ปกติ หมอนี่จะดูมั่นใจในตัวเองสูง บ้าบิ่นไม่กลัวอะไร แถมยังพูดจากระโชกโฮกฮาก ไม่กล่าวเสียงสั่นและเรียบร้อยแบบนี้ ” มารีนขบคิด แต่ก่อนที่เธอจะถามว่า….เจ้ากินยาไม่ได้เขย่าขวดมาหรือ ถึงได้เพี้ยนแบบนี้ นายกล้าก็รีบปรับเปลี่ยนบุคลิกของตนเอง
“ เข้าใจแล้วครับ แต่คุณมารีนไม่ต้องกังวลไปหรอก แค่เจ้าคาชิออส เซย่าคนนี้จะจัดการเอง ” กล้าพูดจบ ก็ทุบอกตัวเองไปหนึ่งที แต่ดูท่าทางจะออกแรงมากเกินไป เลยรู้สึกจุกเสียดเล็กน้อย
“ อุ้ก….ไม่ได้ ต้องทำเข้มไว้ คุณมารีนจะได้ไม่สงสัย เพราะยังไง ตอนนี้เราต้องแสดงเป็นเซย่าไปก่อน ” กล้าพยายามกัดฟันทน พร้อมแสร้งทำเป็นเหี้ยมหาญต่อไป แม้ภายในใจจะนึกหวาดกลัว
“ ว้าก…ตายแล้ว พรุ่งนี้เช้า เราต้องไปเจอไอ้ยักษ์คาชิออส แล้วตูจะรอดมั้ยเนี่ย ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ