เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ข้อเสนอที่คาดไม่ถึง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ…………………
กล้าอุ้มอัยย์หนีไปได้ไม่นาน เขาก็หมดเรี่ยวแรง และนั่งแผ่หลาสิ้นท่าอยู่หน้าร้านกระเป๋าหรู
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…..เหนื่อยชะมัด ” กล้าหอบถี่ ดวงตาเหม่อมองอัยย์ที่นอนเหยียดยาวอยู่บนม้านั่ง ในใจนึกอยากให้เด็กสาวฟื้นคืนโดยไว
“ อัยย์ช่วยตื่นขึ้นมาทีเถอะ เราแบกเธอไม่ไหวแล้ว ”
และแล้ว คำภาวนาของหนุ่มร่างสมบูรณ์ก็เป็นจริง เมื่อเด็กสาวหน้าใสเริ่มขยับเปลือกตาช้าๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นถี่รัว รีแอคชั่นนี้ ทำให้กล้ามีความหวัง
“ เยี่ยมไปเลย อัยย์ใกล้จะฟื้นแล้ว ”
“ อื้อ…” เสียงครางเบาๆหลุดจากปากของอัยย์ คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน และพอดวงตากลมโตลืมขึ้น สาวน้อยก็ขยับมานั่งคุกเข่า พร้อมกุมศีรษะ
“ นี่เราเป็นอะไรไป แล้วเราอยู่ที่ไหน ”
กล้าดีใจที่เห็นเพื่อนสาวคืนสติ แต่ก็รู้สึกจุกอกจนพูดไม่ออก เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำเลยซักนิด
“ อืม…แล้วเราจะอธิบายให้อัยย์ฟังยังไง ”
ขณะที่อัยย์ยังมึนงงอยู่นั้นเอง ความทรงจำก่อนสลบก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และพอนึกออกทั้งหมด เธอก็รีบร้องถามอ้วนแหยรัวเร็ว
“ จำได้แล้ว ภาพสุดท้ายที่เราเห็นคือ…มีนายตุ่มโดนถีบ แล้วคนที่เข้ามาช่วยพวกเรา เขาเป็นใคร ”
“ อะ…เอ่อ….เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ขะ…เขาเป็นหนุ่มรุ่นพี่ที่ไว้ผมทรงประหลาด แถมย้อมหัวเป็นสีเขียวอีกต่างหาก ” กล้าเองก็มืดแปดด้านเช่นกัน เพราะเขาเพิ่งพบบุรุษนายนี้
“ ละ…แล้วเขาไปไหนซะล่ะ อัยย์ยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย ” เด็กสาวหันซ้ายแลขวา หวังจะได้สนองคุณของฮีโร่หนุ่มที่เข้ามาช่วย ทว่าก็พบแต่ความว่างเปล่า เนื่องจากโซนนั้นไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมา
“ อะ…เอ่อ…พี่ชายคนนั้นไม่อยู่แล้วล่ะ เราเพิ่งจากเขามา ” อ้วนแหยตอบตะกุกตะกัก เพราะชักสงสัยว่าทำไม อัยย์ถึงได้กระเหี้ยนกระหือรือจะพบกับหนุ่มหัวเขียวเหลือเกิน ในใจแอบเคืองนิดๆ
“ ทำไมอัยย์ถึงอยากเจอรุ่นพี่จอมเพี้ยนคนนั้นนัก ”
พอเด็กสาวพบว่าตนไม่มีโอกาสได้ขอบคุณ เธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน โดยมีกล้าช่วยประคอง พอเหยียบพื้นได้เต็มสองเท้า อัยย์ก็หันมากล่าวกับอ้วนแหย
“ เอาล่ะ อัยย์จะกลับบ้านล่ะ ลากันตรงนี้เลยดีกว่า ”
กล้ารู้สึกเจ็บปวด คล้ายมีเข็มทิ่มแทงเข้ามากลางใจ เพราะเขาอยากอยู่กับอัยย์ให้นานกว่านี้ เลยลองเสนอตัว
“ เอ่อ…อัยย์เพิ่งฟื้นขึ้นมา อาจเกิดเรื่องไม่ดีอีก ดังนั้นอ่า…..ระ…เราขอ….”
“ ไม่เป็นไร เรากลับบ้านเองได้ แยกกันตรงนี้เถอะ กล้า ” อัยย์ตอบเรียบๆ โดยไม่มองหน้า แต่ก็แฝงแววเด็ดเดี่ยวอยู่ในที ประมาณว่าต่อให้เอาช้างมาฉุด ก็หยุดไม่อยู่
สีหน้าของอ้วนแหยแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที เพราะรู้ดี ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็เปลี่ยนใจของเด็กสาวไม่ได้ จึงรวบรวมความกล้า เพื่อถามถึงเหตุผล
“ อะ…เอ่อ…ทะ…ทำไม อัยย์ถึงรีบกลับ มะ…มันเป็นพะ….เพราะเราหรือเปล่า ”
อัยย์ไม่ตอบทันที ดวงตากลมโตที่มองตรงไปข้างหน้า ดูสั่นไหวเล็กน้อย คล้ายกำลังไตร่ตรองถึงถ้อยวาจาที่จะหลุดออกมา ไม่นาน เด็กสาวก็ตกผลึกทางความคิด จึงหันมามองกล้า พร้อมกล่าวเรียบๆ
“ ไม่เกี่ยวกับกล้าหรอก คนที่ผิดคือเราต่างหาก ต่อจากนี้ไป คงต้องระวังเรื่องการมองคนบ้าง จะได้ไม่พลาดเหมือนคราวนี้ ”
แม้เด็กสาวจะไม่กล่าวถึงกล้าตรงๆ แต่เขาก็ไม่โง่จนตีความไม่ออก และเมื่อรับรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้อัยย์หมางเมิน อ้วนแหยก็ต้องยอมรับ จึงลุกขึ้นยืน แล้วก้มหัวลงต่ำ เพื่อหลบซ่อนน้ำตาที่กำลังหลั่ง จากนั้นก็กล่าวขอโทษจากใจจริง
“ ขอโทษที่ทำให้อัยย์ผิดหวัง แต่นี้ต่อไป เราจะไม่ให้เธอต้องมาพบเจอกับคะ….คนขี้ขลาดแบบเราอีก ”
กล้ากล่าวจบ ก็รีบเผ่นหนี ทิ้งให้อัยย์นั่งเหวอตามลำพัง ในใจเริ่มรู้สึกผิด เพราะคิดว่าเธออาจจะพูดแรงเกินไป
“ กล้ากลับมาก่อน เอ่อ…เราไม่ได้หมายความแบบนั้น ”
…………………..
กล้าห้อเต็มแรง เท่าที่คนต้วมเตี้ยมอย่างเขาจะทำได้ สองมือพยายามปาดน้ำตาที่หลั่งไหลไม่หยุดหย่อน และพออารมณ์เริ่มคลายตัว อ้วนแหยก็พบว่าตนกำลังยืนอยู่ในห้องของตัวเอง
“ เอ๊ะ! นี่เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” อ้วยแหยไม่รู้ตัวว่ามาอยู่ที่นี่ได้ไง อาจเป็นเพราะตอนที่คนเราจิตตกถึงขีดสุด ก็จะกลับมาอยู่ในมุมที่คิดว่าปลอดภัยสุด ซึ่งสำหรับเขาก็คือ…ห้องนอนแห่งนี้
“ ฮะ ฮะ ฮะ คนอย่างเราคงจะเหมาะกับรูแคบๆแห่งนี้ เพราะแค่คนรักเพียงคนเดียว ก็ยังปกป้องไม่ได้ เสียแรงที่ชื่อกล้า ช่างขี้ขลาดสิ้นดี ” กล้ายิ้มเศร้าๆ พร้อมทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ แล้วก้มหน้าลง เพื่อปล่อยน้ำตาให้หยดลงพื้น
ขณะที่กล้ากำลังทำตัวเป็นพระเอกมิวสิควิดีโออยู่นั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นจอคอมพิวเตอร์ ที่บัดนี้ กำลังกะพริบถี่รัว คล้ายจะพยายามปลอบประโลมผู้เป็นนายให้หายเศร้าโศก ทว่าอ้วนแหยกลับสะกิดใจ
“ เดี๋ยวนะ เราจำได้ว่าตอนออกจากห้อง ได้ปิดคอมแล้วนี่นา แต่ทำไมมันถึงได้เปิดขึ้นมาเอง ”
ความหวาดกลัววิ่งแล่นไปทั่วสมอง จนกล้าอยากเผ่นหนีขึ้นไปคลุมโปง อยู่บนเตียง แต่อีกใจก็อยากรู้สาเหตุ จึงข่มอารมณ์หวาด และเอื้อมมือไปจับเมาท์
“ มันเกิดอะไรขึ้นนะ หรือมีใครลอบเข้ามาเปิดคอมในห้องของเรา ” นี่คือคำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุด และพอมือขวาของกล้าแตะโดนเมาท์ ภาพหน้าจอก็ตัดไปที่เพจ “คนรักเซนต์เซย่า” ซึ่งกล้าเป็นแอดมินอยู่
“ เฮ้ย! คนที่ลอบเข้ามาในห้องเรา รู้รหัสเข้าเพสบุ๊คได้ยังไง นี่ถึงขั้นล็อคอินเข้ามาอย่างง่ายดาย ไม่ได้การ เห็นทีต้องเปลี่ยนรหัส ” กล้าบ่นพึมพำ จากนั้นก็รีบไล่เมาท์ไปเรื่อยๆ เพื่อสำรวจความเสียหาย
“ นี่มันแอบทำอะไรกับเพจของเรารึเปล่านะ ”
กล้าตรวจตราถึงหลายหน แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทว่าก็มีคนเข้ามาสมัครสมาชิกเพียบ บางไอดีก็ส่งความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และคำถาม แต่ที่ประหลาดสุด เห็นจะหนีไม่พ้นข้อความจาก…..เซนต์แพนโดร่า
“ อยากเข้ามาในโลกของเซนต์เซย่ามั้ย กล้า ”
“ เฮ้ย! ไอ้เซนต์แพนโดร่าอีกแล้ว มันบ้ารึเปล่าฟะ ถามแต่คำถามเพี้ยนๆ สงสัยต้องกดบล็อกซะแล้ว จะได้ก่อกวนไม่ได้ ” กล้าเดือดดาล แต่ก่อนที่เขาจะลงมือปิดการสื่อสารของล็อคอินนี้ เซนต์แพนโดร่าก็ส่งข้อความใหม่เข้ามา
“ ไร้ประโยชน์ ต่อให้เจ้าบล็อค ข้าก็ส่งข้อความได้อยู่ดี ”
“ เฮ้ย!......” กล้าตกใจจนเผลอร้องเสียงดัง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า เป็นปรากฏการณ์ที่โคตรจะเหลือเชื่อ
“ ยังไม่ได้พิมพ์กลับไปเลย แล้วมันรู้ได้ไงว่าเราจะบล็อค ”
ความคิดแรกของกล้าคือ…..ปิดคอม แล้วมุดเข้าไปซุกตัวใต้ผ้าห่ม เพราะเรื่องราวนี้เข้าขั้นสยองขวัญ แต่ถ้าทำแบบนั้น คงไม่ผิดอะไรกับพฤติกรรมของเขาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน นั่นก็คือ.....การทิ้งให้อัยย์ผจญกับภัยตามลำพัง
“ ไม่ จะหนีอีกไม่ได้ เราต้องเลิกขี้ขลาด ”
เมื่อเป็นเช่นนี้ กล้าจึงต้องพยายามทำตัวให้สมกับชื่อของตัวเอง แล้วพิมพ์ข้อความกลับไป
“ นายรู้ได้ไงว่าชั้นจะบล็อค ”
“ ไม่ต้องรู้หรอกว่าทำได้ไง แต่เจ้าจะตอบข้าได้รึยังว่า…..อยากเข้าไปโลกแห่งเซนต์เซย่าหรือไม่ ” เซนต์แพนโดร่าพิมพ์กลับมาโดยไว ราวกับว่าเขากำลังนั่งจ้องหน้าคอม เพื่อรอข้อความจากกล้า
กล้าอยากตะโกนกลับไปว่า….ไอ้เรื่องที่แกพูดมา มันไร้สาระสิ้นดี เพราะนั่นมันโลกของการ์ตูนโว้ย คนธรรมดาจะเข้าไปได้ยังไง แต่เพื่อรักษามารยาท จึงพิมพ์กลับไปแบบซอฟต์ๆ
“ ขอบคุณสำหรับไอเดียที่แสนบรรเจิด ไว้ว่างๆ ผมจะมาร่วมสนุกใหม่ แต่ตอนนี้ ขอตัวก่อนนะครับ ”
“ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรอก เชื่อเถอะ ข้าทำให้เจ้าเข้าไปในโลกเซนต์เซย่าได้จริงๆ ” เซนต์แพนโดร่ายังไม่ยอมเลิกรา
“ ว้าก…..เป็นไปไม่ได้ ” กล้าตะโกนดัง พร้อมถอยหลังหนีจนเกือบตกเก้าอี้ สองตาเหลือบมองไปรอบๆ เพราะคิดว่าตนกำลังถูกแอบดูอยู่
“ ใช่แล้ว ที่เซนต์แพนโดร่ารู้ว่าเราจะทำอะไร คิดอะไร เป็นเพราะมันติดกล้องวงจรในห้องของเรา ”
“ ข้าไม่ได้ติดกล้องในห้องของเจ้าหรอก เลิกงี่เง่า แล้วตอบมา อยากเข้ามาในโลกแห่งเซนต์เซย่ามั้ย ” เซนต์แพนโดร่าแสดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้ง ด้วยการล้วงใจของหนุ่มร่างสมบูรณ์ ทำให้กล้าเกือบจะหัวใจวายคาโต๊ะคอม เพราะตกใจมากเกินไป
“ ไม่ได้การ ต้องรีบปิดคอม แล้วแจ้งความ นี่มันวายร้ายระดับชาติชัดๆ ” หลังจากตั้งหลักได้ กล้าก็ได้คิด เพราะคนที่ทำแบบนี้ได้ น่าจะหนีไม่พ้นอาชญากรตัวเอ้ แต่ไม่ทันได้กดสวิตซ์ เพื่อยุติการทำงานของเครื่องคำนวณไฮเทค เซนต์แพนโดร่าก็ส่งข้อความใหม่เข้ามาอีก
“ เจ้าจะหนีอีกเหรอ กล้า มันเป็นเพราะเจ้าขี้ขลาด จึงได้เสียคนที่รักไป ”
“ เอ๊ะ! ” กล้าถึงกับสะอึก เพราะเซนต์แพนโดร่าได้แตะต้องปมที่แสนสาหัส
“ ถ้าตัดสินใจแบบนั้นจริง ข้าก็จะไม่ถามเจ้าอีก และเจ้าก็จะกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ไปตลอดกาล ” เซนต์แพนโดร่าตอกหนักๆอีกหนึ่งชุดใหญ่ อันเป็นข้อความที่เชือดเฉือนใจ ชนิดที่ไร้คำว่าปรานี
กล้าเริ่มหน้าชา ทั่วกายร้อนผ่าว ราวกับถูกไฟเผา ในใจสับสนปนเปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ซึ่งมีทั้งเศร้าโศก เสียใจ โกรธ และเกลียดตัวเอง ปิดท้ายด้วยความรู้สึกไม่อยากยอมแพ้ จึงตะโกนใส่คอมจนสุดเสียง
“ ชั้นไม่อยากเป็นคนขี้ขลาด อยากกล้าหาญ และเข้มแข็งกว่านี้ จะได้ปกป้องคนที่เรารัก ”
เซนต์แพนโดร่าไม่ยอมพิมพ์กลับทันควันเหมือนทุกคราว คล้ายกับเจ้าตัวกำลังนิ่งตรึกตรอง ไม่ถึงอึดใจ ข้อความชุดใหม่ก็ถูกส่งมาอีก
“ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น ก็จงเข้ามาในโลกแห่งเซนต์เซย่า ที่นั่นจะช่วยขัดเกลาลูกเจี๊ยบอย่างเจ้าให้กลายเป็น……พญาอินทรี ”
“ ดี งั้นส่งชั้นไปที่นั่นเลย ” เด็กหนุ่มตวาดลั่น ใบหน้าอวบอูมเริ่มแดงก่ำด้วยอารมณ์ที่รุนแรง ทว่าเซนต์แพนโดร่ากลับอธิบายอย่างใจเย็น
“ แต่ก่อนไป ข้าอยากบอกว่า….ถ้าเจ้าไปไม่รอดในโลกนั้น ก็จะจบสิ้นในโลกนี้ ”
“ ชั้นไม่แคร์ ถ้ายังจะเป็นไอ้ขี้ขลาดแบบนี้ ก็ให้มันตายไปซะ ” เด็กหนุ่มร่างสมบูรณ์ของขึ้น จนไม่สนอะไรแล้ว
“ เข้าใจแล้ว งั้นจงพิมพ์กลับมาว่า……ใช่ ข้าอยากเข้ามาในโลกแห่งเซนต์เซย่า ” เซนต์แพนโดร่าพิมพ์ตอบรัวเร็ว เหมือนรู้อยู่แล้วว่ากล้าจะมีรีแอคชั่นแบบนี้
เป็นเพราะเลือดลมของกล้ากำลังเดือดระอุ จึงไม่คิดจะสนใจสิ่งใด นิ้วมือทั้งสิบเลยกดลงไปบนแป้นพิมพ์โดยไว และในขณะที่จะกดปุ่มเอ็นเทอร์ เพื่อส่งข้อความ จิตสุดท้ายของหนุ่มร่างสมบูรณ์ก็ฉุดรั้งเอาไว้
“ เฮ้ย! มึงจะพิมพ์ไปแบบนั้นเลยหรือวะ ถ้าพลาด ก็ถึงตายเลยนะโว้ย สู้อยู่ชิวๆแบบคนขี้ขลาดอย่างนี้ดีกว่า ไม่ต้องเหนื่อยยากและเสี่ยงอันตราย ”
พอกล้าใจเย็นลง เขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเลื่อนเคาท์เซอร์ไปที่ปุ่มครอสแทน เพื่อปิดหน้าเว็บ แต่ในขณะที่จะกดนิ้วลงไป ภาพใบหน้าที่โศกเศร้าของอัยย์ก็ปรากฏในมโนทวาร
“ อัยย์…..”
ภาพนั้นตอกย้ำให้กล้าเจ็บปวดมากกว่าเดิม เพราะต้นเหตุที่ทำให้อัยย์เสียใจ ก็คือ….ความขี้ขลาดตาขาวของตัวเขาเอง
“ บ้าเอย ไอ้ขี้ขลาด เพราะมึงเป็นแบบนี้ จึงทำให้อัยย์เสียใจ ”
ภาพอัยย์ที่อยู่ในจินตนาการ เริ่มยิ้มให้กล้าเล็กน้อย ประมาณจะบอกว่าดีใจที่เขาไม่เลือกเส้นทางของคนขลาด เด็กหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้น พร้อมปาดน้ำตาที่อาบสองแก้ม แล้วกล่าวกับตัวเอง
“ เอาล่ะ อัยย์ เราจะไม่ขี้ขลาดอีกแล้ว และถ้าเป็นไปได้ เราขอโอกาสแก้ตัวอีกที คราวนี้จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง ”
สิ้นคำกล่าว นิ้วมือของกล้าก็ทิ่มลงไปที่ปุ่มเอ็นเทอร์เต็มแรง เพื่อส่งข้อความให้เซนต์แพนโดร่า
“ ใช่ ข้าอยากเข้ามาในโลกแห่งเซนต์เซย่า ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ