เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) คู่ที่ไม่เหมาะสม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ………………….
บรรยากาศภายในร้านไอติมชื่อดัง ยังคงเต็มไปด้วยความครื้นเครง มีเสียงหัวร่อต่อกระซิกแว่วมาจากโต๊ะอื่นเป็นระยะ เพราะที่นี่คือจุดนัดพบของเหล่าเด็กสาวและคู่รัก
วินาทีต่อมา ทุกคนในที่นั้นก็หยุดพูดคุยโดยพลัน และหันไปเห็นเด็กหนุ่มร่างท้วมและเด็กสาวน่ารัก ที่กำลังเดินเข้ามา
ความคิดแรกของชาวประชาคือ…..พวกเขาไม่เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง เพราะเด็กสาวนั้นดูน่ารักแนวคิกขุ บนศีรษะประดับผมบ็อบสั้นประมาณติ่งหู ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเสื้อนักเรียนคอซอง เรือนร่างก็เล็กบางประมาณไซส์มินิ ทำให้ใครที่ได้เห็น รู้สึกเอ็นดูไปตามๆกัน
ส่วนหนุ่มน้อยที่เดินตาม นั้นมีร่างที่สมบูรณ์เกินพอดี ถึงหน้าตาจะไม่ถึงขั้นขี้เหร่ แต่ก็จืดสนิทแบบคนไทยเชื้อสายจีน แถมยังสวมแว่นตาเชยๆแนวเด็กเรียน แน่นอนว่าเขาไว้ผมทรงกะลาครอบ อันเป็นที่นิยมของเด็กชายสายเนิร์ด
“ ว้าย….ดูคู่นั้นดิ ไม่น่ามาด้วยกันได้เลย เพราะฝ่ายหญิงนั้นอย่างกับตุ๊กตาญี่ปุ่น ส่วนผู้ชาย ดูยังไงก็แป๊ะยิ้มติดเกมชัดๆ ” เด็กสาวผมเปียที่นั่งอยู่โต๊ะริม เริ่มเมาท์มอยส์กับสามเพื่อนที่มาด้วยกัน
“ นั่นน่ะสิ ยัยนั่นนึกยังไง ถึงมาคบกับคนแบบนี้ ” เด็กหนุ่มหน้าสวย ประมาณว่าน่าจะอยู่สมาคมสาวสอง เริ่มออกความเห็น สีหน้าแฝงแววเหยียดนิดๆ
“ บ้าน่า สองคนนั่นคงไม่ใช่แฟนกันหรอก ตาอ้วนใส่แว่นน่าจะเป็นพวกเดียวกับเธอมากกว่า ” เด็กสาวหน้ากลมแย้งขึ้นมา พร้อมปรายตาไปทางเด็กหนุ่มหน้าสวย
“ ชิ ยัยชะนี อย่างหล่อนจะไปรู้อะไรยะ แค่เห็น ก็ดูออกแล้วว่าตาอ้วนนั่นไม่ใช่สปีชีส์เดียวกับชั้น ”
“ ประมาณว่า…ผีเห็นผีสินะ ” เด็กสาวคนแรกพยักหน้ารับคำ เป็นเชิงเข้าใจ
“ ใช่แล้วย่ะ เชื่อสิ ชั้นมองไม่ผิดหรอก เพราะเรดาร์การเป็นสาวสองของชั้นนั้นแม่นยำ ประดุจคันศรของพระราม ” เด็กหนุ่มหน้าสวยตอบสะบัดเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยพอใจกับคำเปรียบเปรยของเพื่อนสาว
ทว่าเด็กสาวหน้าจืดยังรู้สึกแคลงใจ จึงลองเปิดประเด็น
“ แล้วตกลงสองคนนั่น เขาเป็นอะไรกัน ”
และนี่คือปัญหาสำคัญที่ชวนสงสัย พลพรรคจึงพากันเงียบเสียง เพื่อเงี่ยหูฟังบทสนทนาของคู่หนุ่มสาว ผู้มาใหม่
“ ต้องตั้งใจฟังให้ดี เพราะการสู่รู้เรื่องชาวบ้าน คืองานถนัดของพวกเรา หึ หึ หึ ”
…………………
นายกล้าและอัยย์เลือกนั่งตรงโต๊ะตัวในสุด อันอยู่ไม่ห่างจากเคาน์เตอร์เท่าไหร่ พอหย่อนก้นลงบนเบาะ เด็กสาวก็หยิบเมนูขึ้นมาดู เพื่อเลือกไอติมหลากสีสันมารับประทาน
ฝ่ายเด็กหนุ่มร่างท้วมดูขัดเขิน เพราะตั้งแต่จำความได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในร้านแบบนี้ และพอได้ยินคำถามของสาวน่ารัก หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวเป็นปืนกล
“ กล้าอยากกินไอติมแบบไหน เราสั่งให้มั้ย ”
“ อะ…เอ่อ….ระ…เราสั่งไม่เป็นน่ะ ละ….แล้วแต่อัยย์เลย ”
อัยย์ปิดปากหัวเราะ ดวงตาหวานซึ้งเปล่งประกายขบขัน ก่อนจะหันไปสั่งของหวานกับเด็กเสิร์ฟวัยไล่ๆกัน
“ หนูเอามิสซิ่งเลิฟซันเดย์หนึ่งที่ค่ะ ”
“ ได้จ้ะ รอเดี๋ยวนะจ๊ะ ” สาวเสิร์ฟในชุดเสื้อยืดรัดรูป กระโปรงสั้น รีบจดออเดอร์ พร้อมรับคำเสียงหวาน
พอทั้งสองได้อยู่ตามลำพัง เด็กสาวก็เป็นฝ่ายเอ่ยถาม ด้วยรู้ดีว่าหนุ่มน้อยนั้นเขินอายจนไม่กล้าเจรจา
“ กล้าเพิ่งเคยมาร้านนี้เหรอ ”
“ ชะ…ใช่คะ…ครับ ”
“ เฮ้…นี่เราเป็นเพื่อนห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาล เธอไม่ต้องสุภาพoydหรอก และก็ไม่ต้องเกร็งด้วย เพราะเราไม่ใช่ดุขนาดนั้น ” อัยย์พยายามพูดให้กล้าผ่อนคลาย แต่น้ำคำดังกล่าว กลับทำให้หนุ่มร่างท้วมสะอึก
“ เอ๊ะ! เมื่อกี้ อัยย์พูดว่าพวกเรา…..เป็นเพื่อนห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาล นี่ก็แปลว่าจำเราได้ เป็นไปไม่ได้ คนอย่างเราจะอยู่ในความสนใจของเธอได้ยังไง ”
แน่นอนว่าเด็กสาวไม่อาจอ่านใจใครได้ เธอจึงเอื้อมมือมาหยิกต้นแขนอวบขาวของกล้าเบาๆ เพื่อดึงความสนใจ
“ นี่มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ ได้ยินที่อัยย์พูดมั้ย ”
“ โอ้…คะ…ครับ ได้ยินละ…แล้วครับ ” แม้กล้าจะเจ็บเท่าไหร่ แต่เล็บน้อยๆของเด็กสาว ก็ทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมดึงสติกลับมา
“ อืม…ได้ยินก็ดีแล้ว ดังนั้นไอ้คำว่าครับ ก็เลิกพูดซะ เพราะมันฟังดูสุภาพเกินเหตุ ” อัยย์เริ่มป้อนคำสั่ง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของเพศหญิง ที่ดูราวจะเป็นช้างเท้าหน้าในยุคนี้
“ คะ…ครับ เอ๊ะ! ไม่สิ อะ…โอเค ” กล้าเผลอปล่อย…ครับ ออกมา แต่พอเหลือบไปเห็นใบหน้างองุ้มของสาวน้อย เขาก็รีบเปลี่ยนไปพูดคำอื่น
“ อืม…ดีมาก ” เด็กสาวกอดอก มุมปากแย้มยิ้มเล็กน้อย
ด้วยความที่เด็กหนุ่มร่างท้วมแทบไม่เคยคุยกับใคร การเปิดบทสนทนาจึงเป็นหน้าที่ของอัยย์ ซึ่งเธอก็ทำได้ดี เพราะนี่คือสกิลหลักของการเป็นสตรีมเมอร์ ไม่นาน กล้าก็เริ่มคุ้นเคย และพูดได้มากขึ้น
“ เอ่อ….กล้าขอถามหน่อยสิ ทำไมอัยย์ถะ…ถึงไม่รังเกียจเราเหมือนคนอื่น ” และนี่ก็เป็นคำถามแรกของกล้า เพราะเป็นสิ่งที่เขานึกสงสัยมาโดยตลอด
“ อืม….ประเด็นนี้น่าสนใจนะ งั้นเราขอถามกลับ ทำไมกล้าถึงคิดว่าคนอื่นรังเกียจเธอล่ะ ” เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ ก่อนสวนคืนด้วยวาจา ทำให้กล้ากระตุกเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าจะเจอไม้นี้ แต่พอตั้งหลักได้ เขาก็ตอบกลับ
“ เพราะเรามีรูปร่างหน้าตาที่ไม่ดี เรียนไม่เก่ง แถมด้านกีฬาก็ไม่เอาอ่าว เป็นคนประหลาด พูดไม่เก่ง ชอบเก็บตัว ไม่ยุ่งกับใคร ”
“ ถ้ามองอย่างนั้น ก็ถูกส่วนนึงนะ แต่ขอค้านเรื่องพูดไม่เก่งนะ เพราะจากที่ฟังคำสาธยายมา ก็นับว่ามีวาทศิลป์ที่ไม่เลว ด้วยมีการเรียบเรียงคำพูดที่เป็นระบบ แถมยังตรงประเด็นที่ต้องการ ดังนั้น จึงกล้าฟันธงว่าเธอมีศักยภาพพอตัว ” อัยย์เอาสองมือประสานคาง ดวงตากลมโตมองมาที่กล้าแน่วนิ่ง
กล้ากระอักอีกครั้ง เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกสอบปากคำ กระนั้นเด็กหนุ่มกลับแอบปลื้มอยู่หน่อยๆ เพราะผู้ที่ลงมือก็คือ…เด็กสาวที่เขาเฝ้าฝัน
“ นี่เรามีตัวตนในสายตาของคนอื่นด้วยหรือเนี่ย แถมคนที่มาสนใจก็คือ….อัยย์ เป็นไปได้ยังไง ”
“ เอ้า….ทำไมมัวแต่นิ่งอึ้งแบบนั้น ตกลงแล้ว เธอคิดว่าเราวิเคราะห์ผิดมั้ย ” อัยย์เรียกสติของกล้ากลับมา
“ เอ่อ…วิเคราะห์เรื่องอะไร ” กล้าถามเสียงสั่น ทำให้สาวน้อยนึกเคืองจนต้องสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆอยู่หลายที เพื่อสงบอารมณ์ และพอเย็นลง เธอก็ถามไถ่แบบใจเย็น
“ ก็เรื่องที่ว่าเธอมีศักยภาพพอสมควรไง ”
“ อืม……” กล้าพยายามนึกถึงสิ่งที่ตนถนัด ซึ่งไม่ใช่การเรียนแน่ๆ เพราะเขามักสอบได้ที่ท้ายๆของห้องเสมอ แต่มีหนึ่งอย่างที่คิดว่าเหนือล้ำเกินใคร นั่นก็คือ…..ข้อมูลทุกแง่มุมในการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่า ทว่านั่นใช่คุณสมบัติที่ควรโอ้อวดหรือไม่
“ เอ่อ…ถ้าเรื่องที่เราคิดว่าทำได้ดีที่สุด ก็คือ….การเป็นแอดมินในเพจคนรักเซนต์เซย่า ”
“ ว่าแล้วไง แอดมินคนนั้นเป็นเธอจริงๆด้วย เดาไม่ผิดเลย ” อัยย์ตบมือฉาดใหญ่จนผู้คนแถวนั้นลอบมอง เธอจึงหวนกลับมาคีบลุคอีกครั้ง ด้วยการลดเสียงลงมาจนใกล้เคียงกระซิบ
“ สาเหตุที่รู้ว่าเธอน่าจะเป็นแอดมินคนนั้น เพราะเมื่อต้นปี เธอเคยแต่งเรียงความเกี่ยวกับเรื่องเซนต์เซย่าคือการ์ตูนที่ชั้นชอบ เราเห็นว่ามันน่าสนใจ จึงตามไปหาข้อมูลในเว็บ ก็บังเอิญเจอเพจนี้ ซึ่งผู้ดูแลก็ได้เขียนบทความมากมายที่มีสำนวนคล้ายเธอ ”
กล้ายอมรับว่าทึ่งมากที่นางฟ้าในใจ เป็นคนลึกซึ้งขนาดนี้ ขนาดอายุแค่ 13 ยังสามารถจับความแตกต่างของสำนวนการเขียนได้ แต่ที่น่าปีติยิ่งกว่า คือเธอคนนั้นให้ความสนใจในตัวเขา
“ อืม….เธอกำลังคิดว่าเรายอดเยี่ยมใช่มั้ย ที่จับสำนวนการเขียนของเธอได้ ” อัยย์ลองเดาใจ ซึ่งก็ถูกถึงเจ็ดส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด กระนั้นกล้าก็เพียงยิ้มรับ
“ แต่อัยย์คิดว่า…….คนที่เก่งจริงๆ ไม่ใช่เราหรอก กลับเป็นเธอมากกว่า ” อัยย์สารภาพ นี่คือสิ่งที่เธอคิดมาตลอด
“ ทำไม อัยย์ถึงคิดอย่างนั้น ”
“ อืม….ทำไมน่ะเหรอ เพราะเท่าที่เราอ่านบทความของเธอ ก็พบว่ามันไม่ได้เป็นแค่งานเขียนที่เรียบเรียงได้ดี แต่แฝงความมุ่งมั่น เข้มแข็งและกล้าหาญ อันสะท้อนถึงจิตใจส่วนลึกของผู้ที่รังสรรค์ ”
กล้ายอมรับว่าตกใจ มาก เพราะในช่วงที่เขียนบทความ เขาอยากตีแผ่ความเป็นนักสู้ของพระเอกหนุ่มในเรื่องอยู่ตลอด เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่ท้อแท้ มิหนำซ้ำ เรื่องนี้ยังอิงอยู่กับความสามัคคีในหมู่คณะ อันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทุกการงานสำเร็จไปได้ด้วยดี
“ เอ่อ…เราก็ไม่คิดว่าจะมีใครมองออก แต่เธอกลับเข้าถึงแก่นของบทความได้ สุดยอดไปเลย ”
“ ฮะ ฮะ เลิกป้อยอกันเองเถอะ ของหวานมาแล้ว ดังนั้น หยุดพูดและกินซะ ” อัยย์ยิ้มนิดนึง ก่อนกล่าวตัดบท เพราะเด็กเสิร์ฟได้ยกไอติมถ้วยใหญ่มาวางบนโต๊ะ
กล้ายอมรับว่าสุขสุดๆ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้ร่วมโต๊ะกับสาวน่ารักอย่างอัยย์ และเชื่อว่าถ้าพวกหนุ่มๆในโรงเรียนได้มาเห็นภาพนี้ คงไม่แคล้วโดนรุมตื้บ โทษฐานหมั่นไส้แน่
“ อืม…..นี่น่าจะเป็นโมเมนต์ที่ดีที่สุดในชีวิตของชั้น ”
ขณะที่ทั้งคู่นั่งกินไอติมหน้าตาหวานแหววในถ้วยใบใหญ่ เด็กสาวก็เจรจาไม่ขาดปาก เธอรัวเป็นปืนกลจนกล้าพูดไม่ทัน แต่แล้วหนุ่มร่างท้วมก็ถึงกับสตั้นในคำถามสุดท้าย
“ ตกลงแล้ว กล้าเป็นคนมาคอมเม้นต์ให้เราในทุกคลิปชวนเล่น ROV รีเปล่า ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ