เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
24) ดวลกับหัวหน้าแบล็คเซนต์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ..............................
หลังจากเซ็นสัญญา สามยากูซ่าก็ได้พากล้าไปที่สังเวียนใต้ดิน ตลอดเวลาที่นั่งในรถเก๋งทรงยุโรป หัวโจกจะคอยสาธยายถึงกติกา อันจับใจความได้ว่า......การแข่งครั้งนี้เป็นแบบฟรีสไตค์ ผู้เข้าร่วมสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้คู่ต่อสู้ลงไปนอนหมอบ หรือไม่ก็.....ตาย
" บรื้อ.......นี่มันอะไรกันเนี่ย หนีนรกจากแซงทัวร์รี่พ้น ยังต้องมาเจอลานประลองใต้ดินของพวกยากูซ่าอีก ทำไมชีวิตของเซย่าถึงได้ซวยขนาดนี้ " กล้าหวาดกลัวจนขนหัวลุก แต่เขาคงลืมเลือนไปแล้วว่าพระเอกในการ์ตูนเรื่องนี้จะต้องประมือกับเหล่าเซนต์ ผู้มีพลังเหนือมนุษย์ ไหนจะได้วัดพลังกับเหล่าเทพเจ้าอีก ซึ่งน่าสะพรึงกว่านี้อีกร้อยเท่าพันทวี
..............................
ชาวแก๊งและกล้าใช้เวลาเดินทางไม่นาน ก็มาถึงโกดังขนาดใหญ่ ข้างในนั้นมีลิฟต์ซ่อนที่แถวช่วงท้าย และมันก็เป็นสิ่งที่นำพาทุกคนสู่ชั้นใต้ดิน
" ลานประลองอยู่ข้างล่าง ชั้นจะพาไปส่งที่ห้องรับรอง และพอถึงเวลา เขาก็จะเรียกนายเข้าสังเวียน " และนี่คือข้อมูลเดียวที่กล้าได้รับ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ใช้ลิฟต์ แต่ในทันทีที่ถึงจุดหมาย เด็กหนุ่มก็ต้องตะลึงจนตาค้าง
" ฮ้า......นี่มัน "
สิ่งที่ทำให้กล้าอึ้งกิมกี่ก็คือ.......ลานกว้างรูปวงกลม ตรงกึ่งกลางมีเวทีมวยที่มีลูกกรงสูงสามเมตรล้อมรอบทั้งสี่ด้าน แน่นอนว่ามันมีผู้ชมแน่นเอี๊ยด ชนิดไม่เหลือที่ให้เดินผ่านได้ง่ายๆ แถมเสียงเฮก็ดังกึกก้อง เพราะมันมาจากมนุษย์ไม่ต่ำกว่า 500 ชีวิต
" โห......เราเคยเห็นฉากนี้ในหนังแอคชั่นโหดๆ แต่ไม่คิดว่าของจริงจะชวนทึ่งขนาดนี้ " กล้าอุทานเบาๆ สองเท้ายืนอยู่บนพื้นที่ว่างหน้าลิฟต์ สายตาเหม่อมองเวทีประลองที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร โดยมีฝูงชนคอยกั้นกลาง
" เอาล่ะ เจ้าหนูเลิกตกใจ แล้วมาทางนี้ " หัวโจกสะกิดไหล่ แล้วบุ้ยใบ้ให้เดินตามทางลัดด้านหลังลิฟต์ ซึ่งเป็นบันไดเวียนไปถึงชั้นสอง
ชั้นสองถูกทำเป็นระเบียงแคบกว้างสามเมตร มีราวกั้นสูงเท่าเอว เพื่อคอยกันคนตก กล้าและเหล่านักเลงเดินไปตามทาง ไม่นาน ก็พบกับห้องๆหนึ่ง หัวโจกจึงหันมากล่าว
" นี่คือห้องพักนักกีฬา นายเข้าไปในนั้นได้เลย แล้วรอเวลาขึ้นเวที "
" คะ......ครับ ว่าแต่....." กล้าทำท่าจะถามบางอย่าง แต่หัวโจกไม่เปิดโอกาส พร้อมผลักเด็กหนุ่มให้เข้าไปในห้อง
.................................
" เอ๊ะ! " ทันทีที่เข้ามาในห้อง กล้าก็อุทานเบาๆ เพราะประสบกับชายฉกรรจ์เกือบสิบนายที่ประจำอยู่ก่อนแล้ว แต่ละคนท่าทางเอาเรื่อง รูปร่างก็ล่ำสัน อันบ่งบอกว่าถ้าไม่ได้ฝึกวิชาการต่อสู้มา ก็ต้องเป็นแนวบ้าพลัง แน่นอนว่าทุกสายตาที่มองพระเอกหนุ่ม ล้วนเต็มไปด้วยประกายดูแคลน เพราะคิดว่า.....ผู้มาใหม่ไม่เข้าพวก
" หมอนี่ยังเด็กอยู่เลย แถมยังตัวเล็กอีกต่างหาก สงสัยจะเป็นพวกเหยื่อที่ถูกหลอกมาให้เชือด "
แม้จะถูกหยามหยันขนาดหนัก แต่กล้าไม่โมโหเลยซักนิด แถมยังก้มหน้ามองพื้น ในหัวมีแต่ความหวาดกลัว
" บรื้อ.....คนพวกนี้น่ากลัวจัง ดูสยองกว่าแก๊งไถตังค์ในโรงเรียนซะอีก เราจะไหวมั้ยเนี่ย "
แต่ไม่ทันที่กล้าจะถูกเหล่าคนเถื่อนกดดันจนขี้ไม่ออก ชายร่างผอมสูงในชุดทักซิโด้ขาวก็เดินตรงเข้ามา พร้อมกล่าวทักทาย
" ไง เจ้าหนู นายคือนักสู้คนใหม่ที่โยเฮพามาหรือ "
กล้าไม่รู้ว่าโยเฮที่ชายผู้นี้พูดถึงคือใคร แต่มั่นใจว่าอีกฝ่ายคุยกับตน เลยข่มความกลัว แล้วเงยหน้าขึ้นมา จึงพบกับวัยรุ่นหน้าแหลม ราวกับหนู เลยสะดุ้งโหยงแบบคนขวัญอ่อน
" เหวอ.......แฮมสเตอร์รึไงเนี่ย "
วัยรุ่นหน้าแหลมเริ่มขุ่นเคือง เพราะบ่อยครั้งที่เขาโดนเพื่อนล้อในปมนี้ และเหมือนกล้าจะมีญาณหยั่งรู้ว่าตนกำลังจะโดนตีน จึงเปลี่ยนมาเจรจาพาที ด้วยกิริยานอบน้อม
" อ้อ.....ครับ ผมเป็นคนที่คุณโยเฮพามา ไม่ทราบว่าพี่ชายหน้าหล่อมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ "
" อะ.....เอ่อ กะ....ก็ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ชั้นหล่อจริงเหรอ " ชายหน้าแหลมเริ่มเกาหัว ท่าทางเขิน เพราะที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีใครชมเขาแบบนี้ แต่แล้วพ่อหนุ่มแฮมสเตอร์ก็รู้ตัว และเข้าสู่ประเด็นที่ต้องการ
" เอ๊ะ.....เรื่องอื่นช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่นายต่อสู้สไตค์ไหน ใช้อาวุธอะไร ชั้นจะได้จัดเตรียมอุปกรณ์ให้ "
กล้าได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้จะตอบยังไง ขืนบอกไปว่าทีเด็ดของเขาคือต่อสู้ด้วยมือเปล่า และนำพลังเหนือธรรมชาติอย่างคอสโม่มาประยุกต์ใช้ มีหวังถูกพาไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้าเป็นแน่ จึงเถไปเรื่อย
" เอ่อ.....ผมไม่มีรูปแบบตายตัวหรอกครับ ส่วนอาวุธ แล้วแต่พี่ชายหน้าหล่อจะจัดให้ก็แล้วกัน "
คำตอบนี้ ยิ่งทำให้ผู้จัดหน้าแหลมงงหนักกว่าเดิม และเริ่มสงสัยว่าเด็กหนุ่มตรงหน้า สติดีหรือไม่ เพราะตั้งแต่ทำหน้าที่นี้มาสามปี ไม่เคยมีใครตอบแบบนี้ เขาเลยแก้เกมด้วยการตัดบทซะดื้อๆ
" โอเค ตกลงตามนั้น นายรอตรงนี้นะ เดี๋ยวชั้นจะมาเรียกขึ้นเวที "
" คะ......ครับ " กล้ารีบรับคำแบบล่กๆ ส่วนนายแฮมสเตอร์รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้กล้ายืนเดียวดาย
กล้ายอมรับว่าบรรยากาศโดยรอบค่อนข้างกดดัน เพราะเหล่านักสู้ดูเคร่งเครียด ด้วยพวกเขาล้วนฝากชีวิตไว้กับการแข่งครั้งนี้ คล้ายกาดิเอเตอร์ในยุคโบราณ และก่อนหน้าก็มีหลายคนออกไปต่อสู้ จากนั้นก็กลับมา พร้อมเปลหามร่างที่นอนร่อแร่ เลือดไหลโทรมกาย
" บรื้อ.......ทำไมการแข่งนี้ถึงดุเดือดขนาดนั้น "
และแล้ว เวลาที่กล้ารอคอย ก็มาถึง นายแฮมสเตอร์รีบวิ่งเข้ามาเรียก พร้อมผลักไสให้ไปยืนอยู่หลังม่านใหญ่ตรงทางออกสู่สังเวียน จากนั้นก็กล่าวสั้นๆว่า.....
" เดี๋ยวรอสัญญาณ ถ้าโฆษกประกาศชื่อของนายเมื่อไหร่ ก็ให้เดินออกไปขึ้นเวทีประลอง "
" คะ.....ครับ " กล้ารับคำอีกครั้ง แต่ดูเหมือนชายหน้าหนูจะไม่อยากคบหา จึงรีบเดินจากไป ทำให้เด็กหนุ่มเริ่มจิตตก
" เฮ้อ......หรือเราจะน่ารังเกียจเกินไป ถึงไม่ค่อยมีใครสนใจ "
ทว่ากล้าสลดได้ไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงประกาศที่ออกมาจากไมโครโฟนกำลังสูง
" และบัดนี้ ก็คือการประลองคั่นเวลา ก่อนถึงคู่เด็ด ขอเชิญน้องใหม่ไฟแรง เด็กหนุ่มนิรนามที่ออกแนวเล็กพริกขี้หนู นามของเขาคือ......เซย่า "
" เอ๊ะ! แย่ล่ะ ถึงคิวของเราแล้ว " มือไม้ของกล้าเริ่มสั่น และไม่รู้จะวางสิ่งนั้นไว้ตรงไหน เพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเอาซะเลย จึงพะว้าพะวังอยู่นาน จนนายแฮมสเตอร์ต้องเดินเข้ามาเตือน
" รออะไรอยู่ล่ะ ไอ้หนู ออกไปได้แล้ว "
" คะ.....ครับ " กล้ารีบรับคำ ก่อนพยายามบังคับสองเท้าให้เดินผ่านม่านสีเลือดหมู ที่ลอยอยู่ตรงหน้า
.................................
" เฮ.........." ทันทีที่กล้าเดินออกมา ก็พบว่าตนเองอยู่บนสแตนด์ที่กว้างพอๆกับเวทีแสดงละคร เบื้องหน้ามีทางเดินแคบๆทอดยาวไปถึงลานประลอง ด้านซ้ายและขวามีที่กั้นเหล็กคอยขนาบ เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาขวางทาง กระนั้นก็ยังมีผู้คนนับสิบยืนเกาะ พร้อมข่มขู่
" แกตายแน่ เจ้าหนู "
" หักกระดูกของไอ้เด็กบ้านี่ซะ "
" ตัดคอมันเลย "
" ทรมานจนกว่ามันจะร้องขอความตาย "
สารพันความป่าเถื่อนวิ่งเข้าสู่โสตประสาท แถมสีหน้าของคนเหล่านั้นก็แลบ้าคลั่ง มันทำให้กล้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านี่คือ....ประเทศญี่ปุ่นจริงมั้ย เพราะติดภาพจำของชนชาติที่มารยาทดีจากสื่อต่างๆที่เคยเสพ
" เหวอ......ที่นี่คือที่ไหนเนี่ย หรือเราจะแอบวาร์ปมาที่โซมาเรีย "
ทว่ากล้าอ้อยอิ่งได้ไม่นาน ก็มีชายฉกรรจ์ในชุดทหารพรานเดินเข้ามา พร้อมยกปืนกลมือขึ้นมาขู่
" ไอ้หนูอย่ามัวชักช้า รีบขึ้นเวทีได้แล้ว "
เมื่อเป็นเช่นนี้ กล้าก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ระหว่างที่ผ่านฝูงชนผู้บ้าคลั่ง เขาก็พยายามทำตัวให้ลีบที่สุด และบังคับหูให้หนวก จะได้ไม่ต้องรับฟังกระแสเสียงที่ชวนสยอง
" เราไม่มีทางเลือก ต้องชนะการประลอง เพื่อนำเงินมาเลี้ยงชีวิตของตัวเอง "
พอกล้าขึ้นไปยืนบนเวทีได้ซักพัก โฆษกก็ประกาศอีกครั้ง คราวนี้กระแสเสียงดูฮึกเหิมยังไงชอบกล และถ้าวิเคราะห์ให้ดี ก็บอกได้ทันทีว่ามันแฝงแววฆ่าฟัน
" และขอต้อนรับนักสู้ผู้มาจากโลกันตร์ เขาคือนักรบแห่งขุมนรกที่ไม่มีวันตาย ท่านเซอร์จังโก้ "
กล้าพยายามนึกทบทวนเรื่องราวในเซนต์เซย่า จึงจำได้ว่าจังโก้ที่ว่า เป็นหัวหน้าเหล่าแบล็คเซนต์ที่เคยปกครองเกาะเดธควีน ก่อนที่อิกคิจะเข้ามายึดอำนาจ นั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกมวนท้องอย่างรุนแรง เพราะรู้ดีว่านักสู้คนนี้มีฝีมือแค่ไหน
" ตายล่ะ นี่เราต้องเจอของแข็งเลยหรือนี่ เพราะเจ้าจังโก้มีฝีมือถึงขั้นสร้างความลำบากให้อิกคิ บรอนต์เซนต์อันดับหนึ่งอยู่พักใหญ่ แล้วเราที่เพิ่งใช้คอสโม่ได้ จะเอาอะไรไปสู้ "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ