เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope

9.3

เขียนโดย Jalando

วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.

  26 ตอน
  52 วิจารณ์
  26.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ผิดคาด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       ขณะที่กล้ากำลังสิ้นหวัง   ก็มีบุรุษหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา  เขามีรูปร่างสูงโปร่ง  บนกายประดับไปด้วยเกราะแบบอัศวินยุคกลางที่รมดำ  มีลวดลายสีแดงเพลิงสถิตในบางจุด  มือขวาถือดาบยาวที่คมกริบ 

 

“ เอ๊ะ!  เดี๋ยวนะ  ไอ้ที่เราเห็นนี่เป็นใคร  เขาไม่ใช่จังโก้  ราชาแห่งเกาะเดธควีนนี่นา ” กล้าเริ่มหายกลัว  และกลับมาสับสนดังเดิม  เพราะเท่าที่ดูการ์ตูนมาหลายปี  ไม่เคยเห็นตัวละครนี้เลย 

 

“ เฮ……..” เสียงผู้คนดังสนั่นยิ่งกว่าเดิม  ประมาณว่าบุรุษในชุดเกราะเหล็กจะเป็นขวัญใจ และนั่นยิ่งเขย่าประสาทของกล้ามากกว่าเดิม  สองขาจึงเริ่มสั่น 

 

“ แต่ถึงจะไม่ใช่หัวหน้าแบล็คเซนต์  แต่คนๆนี้ก็สยองไม่ใช่เล่น  เพราะมีทั้งเกราะและดาบ  แถมยังตัวสูงใหญ่กว่าเราอีก ” 

       

 

        ชายเกราะดำเยื้องย่างมาที่เวที  และพอสองเท้าสัมผัสผืนผ้าใบ  เขาก็เปิดฉากขู่ทันที  มือขวายกดาบขึ้นมาครูดกับถุงมือเหล็ก  ประมาณว่าจะลับศาสตราให้คมยิ่งกว่าเดิม 

 

“ เจ้าหนู  นายเป็นคู่ต่อสู้ของชั้นรึ  โง่หรือเปล่าที่ไม่ใช้อาวุธ  แต่ช่างเถอะ  ชั้นไม่ยอมให้นายตายง่ายๆแน่  เพราะเราต้องสนุกกันก่อน ” 

 

“ ตายล่ะ  หมอนี่เป็นพวกโรคจิต  ชอบทรมานคนอื่นด้วยนี่หว่า  เราไม่รอดแน่ ” กล้าพูดไม่ออก  พร้อมขยับไปยืนชิดมุม  กายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว 

       

 

        หัวไหล่ของชายเกราะดำ  สั่นสะท้านเล็กน้อย  คาดว่ากำลังหัวเราะ  แต่เพราะสวมหน้ากากเหล็กเอาไว้  เลยไม่แน่ชัดว่าบุรุษผู้นี้รู้สึกยังไง  ส่วนกล้านั้นยืนตัวแข็ง  ปากคอสั่นหงึกๆ 

 

“ หึ  หึ  หึ  เริ่มจากตรงไหนดีนะ  อ้อ…..รู้แล้ว  เล่นแบบนี้ดีกว่า ” บุรุษเกราะเหล็ก  ยกดาบขึ้นมาพาดบ่า  ก่อนพุ่งเข้ามาตวัดศาสตราใส่กล้า 

      

 

        แม้กล้าจะเป็นเพียงเด็กอ้วนขี้แหย  ซึ่งปอดแหกเป็นที่สุด  แต่เขาก็ถือครองร่างกายของเซย่า  จึงมีทั้งพลังและปฏิกิริยาที่ว่องไว  เลยหลบคมศาสตราได้อย่างหวุดหวิด 

 

“ ว้าว…..ไม่เลวนี่  ไอ้หนู  แกหลบคมดาบของชั้นได้ ” บุรุษเกราะดำดูทึ่ง  เพราะกะว่าการโจมตีเมื่อครู่  น่าจะเรียกเลือดสดจากแขนของกล้าได้  ทว่ากลับฟาลว์ซะอย่างงั้น  เขาจึงเหวี่ยงดาบใส่อีกหน  เป้าหมายคือหน้าท้อง 

 

“ เหวอ…..” กล้าร้องดังลั่น  ก่อนจะหลีกด้วยการสปริงตัวถอยหลัง  ทำให้รอดพ้นจากคมดาบอีกครั้ง 

 

“ ฮึ่ม….หลบได้อีกแล้ว  ชักไม่ค่อยสบอารมณ์ซะแล้วสิ ” บุรุษในชุดเกราะเหล็ก  เริ่มหัวเสียเล็กน้อย  จึงคิดจะเอาจริง  ด้วยการแทงดาบถี่รัว 

 

“ รับไป  พายุหะคมดาบ ” 

        

 

         ปลายดาบที่คมกริบ  พุ่งเข้าใส่กล้านับสิบครั้ง  ในสายตาของคนทั่วไป  มันคือการโจมตีที่รวดเร็วจนมองไม่ทัน  แต่สำหรับพระเอกหนุ่มกลับเห็นการจู่โจมอย่างชัดเจน  เลยหลบได้ทุกดอกแบบไม่ยากเย็นนัก 

 

“ เอ๋…..จะว่าไป  แม้หมอนี่จะดูน่ากลัว  แต่การเคลื่อนไหวเชื่องช้าเหลือเกิน  เจ้าโฟเทียที่เราเคยประมือ  ยังเร็วกว่านี้ตั้งเยอะ  หรือร่างกายเซย่าที่เราครอบครองจะมีระดับฝีมือที่เกินมนุษย์  เลยทำให้บุรุษในชุดเกราะเหล็กกลายเป็นไก่อ่อน ” กล้าวิเคราะห์  สองเท้าขยับตลอด  เพื่อหลีกคมดาบที่พุ่งเข้าใส่  และในเสี้ยววินาทีต่อมา  เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจ 

 

“ เอาก็เอา  เลิกกลัว  แล้วลองสู้ดูซักตั้ง  ถ้าไม่ไหว  ค่อยกลับมาแหยต่อ ” 

        

 

        พอกล้าคิดได้  เขาก็เลิกหลบ  แล้วรอจังหวะที่บุรุษเกราะเหล็กแทงดาบเข้ามาจนสุด  จากนั้นก็เอี้ยวตัวหลบเล็กน้อย  ทำให้คมศาสตราเฉียดแขนไปอย่างหวุดหวิด  

 

“ เอ๊ะ! ”  บุรุษในชุดเกราะเหล็กเสียหลักจนเกือบถลำ  เพราะคิดจะแทงศาสตราให้ทะลุแขนของอีกฝ่าย  เลยทุ่มแรงมากเกินไป  เปิดช่องให้กล้าเอาสองฝ่ามือประกบใบดาบ 

 

“ เฮ้ย!  แกจะทำอะไร  ไอ้หนู ” บุรุษเกราะเหล็กตกใจ  และพยายามดึงอาวุธกลับมา  แต่ทำไม่สำเร็จ  เพราะถูกกล้ารั้งใบดาบเอาไว้ 

 

“ โอ้….นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย  เจ้าหนูนี่แรงเยอะชะมัด ” และนี่คือความคิดแรกของบุรุษในชุดเกราะเหล็ก  แต่นั่นไม่ใช่ความตกใจสุดท้ายของชายผู้นี้ เพราะเขาเริ่มเห็นบางสิ่งที่ผุดจากกายของเด็กหนุ่ม  มันดูคล้ายเปลวเพลิงสีฟ้าอ่อน 

       

 

        บุรุษในชุดเกราะเหล็กตะลึงงัน  ทันใดนั้นเอง  เขาก็ต้องลอยไปไกลแบบไม่รู้ตัว  ด้วยลูกถีบของกล้า 

 

“ โครม…..” 

 

“ อั้ก……” บุรุษในชุดเกราะเหล็กแทบกระอักโลหิต  เพราะเขาลอยมาชนเสาบุนวม  ซึ่งอยู่ตรงมุมเวที  ก่อนจะทรุดลงไปนอนกองกับพื้น  และเมื่อก้มลงไปมองเกราะอก  อันเป็นจุดที่ถูกถีบ  เขาก็แทบผวา  เพราะเหล็กตรงบริเวณนั้นได้บุ๋มเป็นรูปฝ่าเท้า 

 

“ นะ…..นี่มันเกินระดับของมนุษย์แล้ว  ไอ้พวกลิ่วล้อพาตัวอะไรมาให้เราสู้ ” บุรุษในชุดเกราะเหล็กตื่นตระหนก  เพราะอุปกรณ์ที่สวมใส่  ทำมาจากเหล็กชั้นดีที่ป้องกันกระสุน 9 มม. ได้อย่างสบาย  แต่กลับเสียหายจากการถูกถีบเพียงครั้งเดียว  เขาจึงรีบลุกขึ้นยืน  พร้อมเอาสองแขนไขว้กัน  อันเป็นส่งสัญญาณให้ผู้จัดการแข่ง 

       

 

        ผู้จัดการแข่งก็นิ่งอึ้งอยู่เหมือนกัน  เพราะไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน  เลยชะงักไปหลายอึดใจ  แต่พอปรับอารมณ์ได้  ก็เริ่มประกาศ 

 

“ ขอยุติการแข่งขันชั่วคราว  เหตุเพราะศึกนี้ไม่ยุติธรรม  ด้วยเด็กหนุ่มผู้มาใหม่มีแค่ตัวเปล่า  ไร้ทั้งอาวุธและชุดเกราะ  ถ้าสู้ต่อไป  อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ” 

 

“ โห่……ทุเรศ  ทำไมไม่ต่อให้จบ  กูอยากเห็นเลือดโว้ย  ให้อัศวินดำจังโก้ตัดหัวของไอ้เด็กนั่นซะ ” เสียงโห่ฮาของผู้ชมดังไม่ขาดสาย  บ่งบอกถึงความผิดหวังถึงขีดสุด  เพราะกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนอยากให้กล้าตายแบบทรมาน 

       

 

        สีหน้าของผู้ประกาศดูเจื่อนๆ  ชายหน้าหนู  ผู้เป็นพี่เลี้ยงนักกีฬาจึงเตร่มาชี้แนะ  เขาเลยหาทางออกได้สำเร็จ 

 

“ ผู้ชมอย่าเพิ่งโวยวาย  ในเมื่อการแข่งครั้งนี้เป็นโมฆะ  ทางเราก็จะยกเลิกเดิมพัน  เชิญทุกท่านไปรับเงินคืนได้ที่เคาน์เตอร์ ” 

        

 

         เสียงโวยวายเบาลงกว่าแปดส่วน  เพราะพอใจที่รู้ว่าตนเองไม่เสียเงินให้กับการแข่งคู่นี้  คงเหลือไว้แต่พวกซาดิสม์ที่อยากเห็นเลือดของเด็กหนุ่ม  ซึ่งก็มีไม่กี่คน 

        

 

         แม้การแข่งจะจบลงอย่างรวดเร็ว  แต่กล้าไม่ค่อยยินดี  เพราะเข้าใจว่าตนคงจะชวดเงินรางวัลแน่ๆ 

 

“ เฮ้อ…..ถึงจะโล่งอกที่ไม่ต้องต่อสู้กับศัตรูอีก  แต่ก็แอบเซ็ง  เพราะทางฝ่ายจัดการแข่งขันคงไม่ให้เงิน  แล้วเราจะอดตายมั้ยเนี่ย ” กล้าท้อแท้  มือขวาลูบหน้าท้องที่เริ่มร้องของตัวเอง 

      

 

         ทว่าสิ่งที่กล้าคิดนั้นผิดถนัด  เพราะในเวลาต่อมา  บุรุษเกราะเหล็กได้เดินเข้ามา  และสร้างเซอร์ไพรส์  ด้วยการยื่นสองมือมาจับหัวไหล่  พร้อมกล่าวเชื้อเชิญ 

 

“ เจ้าหนู  นายต่อสู้ได้เก่งมาก  ชั้นไม่เคยเจอใครเทพแบบนี้มาก่อน  สนใจมาทำงานกับชั้นมั้ย ” 

 

“ ฮ้า……คุณพูดแบบนี้  หมายความว่าไงครับ ” กล้าตอบตะกุกตะกัก  เพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก  บุรุษในชุดเกราะเหล็กจึงแสดงความจริงใจ  ด้วยการเปิดหน้ากากออกมา  ทำให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง  ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อที่มีผมยาวประบ่า  แถมยังย้อมทองอีกต่างหาก 

 

“ ที่พูดมา  หมายความว่าอยากให้นายมาเป็นลูกน้อง  รับประกันว่าเงินดี  มีที่อยู่อาศัยให้  แถมถ้าอยากได้อะไร  ขอแค่บอก  ชั้นจะประเคนให้นายทันที ” 

       

 

         กล้าถึงกับพูดไม่ออก  บอกไม่ถูก  เพราะตอนแรก  เขาเป็นเพียงเด็กเนิร์ดที่คลั่งไคล้การ์ตูนดังยุค 90  แต่คราวนี้  กลับต้องมาเป็นลูกน้องของมาเฟียคุมลานประลอง  นับเป็นจินตนาการที่บ้าบอสุดๆ  ทว่าถึงไม่เอ่ยปาก  ร่างกายก็กลับเป็นฝ่ายร้องขอ  ด้วยการส่งเสียงประหลาดออกจากท้อง 

 

“ โครก…….” 

 

“ โอ้….ทีนี้  ชั้นพอจะรู้แล้วว่านายต้องการสิ่งใด  และถ้าไม่ว่าอะไร  ขอเชิญนายมาทานอาหารกัน  จะได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจ ” ชายผมทองโยนหมวกเหล็กทิ้ง  พร้อมพาพระเอกหนุ่มลงจากเวที  ท่าทางสนิทสนมเหลือประมาณ  ราวกับว่าเขารู้จักกับกล้ามานับสิบปี 

 

………………….. 

        

        หนุ่มหล่อในชุดเกราะเหล็กได้พากล้ามาที่ห้องสูท  ซึ่งตั้งอยู่ชั้นสูงสุด  จากนั้นก็ยกอาหารชั้นเลิศมาเลี้ยงหลายสิบจาน  แน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่คิดเกรงใจ  เพราะมีความหิวคอยทรมานเป็นทุนเดิม 

       

 

        หนุ่มหล่อได้สลัดเกราะเหล็กทิ้งไปหมดแล้ว  และอยู่ในชุดสูทที่ดูหรูหรา  ดวงตาจ้องมองกล้าอยู่ตลอด  เพื่อทำการประเมิน  จากนั้นก็เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว 

 

“ ยินดีที่ได้รู้จัก  ชื่อโนบุโระ  อิเดะ  เป็นเจ้าของสังเวียนใต้ดินแห่งนี้  ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ ” 

 

“ เอ่อ…..ผมชื่อกล้าครับ  ง่ำๆ ” กล้าเคี้ยวหมูหันเต็มปาก  เขายอมรับว่ามันอร่อยสุดขีด  ด้วยตอนที่อยู่โลกเดิม  เด็กหนุ่มเป็นเพียงชนชั้นกลางของประเทศไทย  เลยไม่มีปัญญากินอาหารระดับภัตตาคารแบบนี้ 

       

 

       ทว่าคำตอบนี้กลับทำให้โนบุโระงุนงงยิ่งกว่าเดิม  ก็แน่ล่ะสิ  มีคนญี่ปุ่นที่ไหนชื่อกล้าบ้าง  และพอเด็กหนุ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ  จึงแก้ตัวน้ำขุ่นๆ 

 

“ เอ่อ…พอดี  ช่วงเด็กๆ  ผมอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย  คนที่นั่นจึงตั้งชื่อเล่นนี้ให้  แต่ชื่อจริงของผมคือ…..เซย่า ” 

 

“ อ้อ…..อย่างนี้นี่เอง ” สีหน้าของมาเฟียใหญ่ดูดีขึ้นมาทันตา  เพราะได้รับคำตอบที่สมเหตุผล  แต่แล้ว  หนุ่มหล่อก็ป้อนคำถามใหม่เข้ามาอีก  ด้วยอยากรู้จักกล้าให้มากกว่านี้ 

 

“ แล้วนายฝึกวิชามาจากที่ไหนเหรอ  ถึงได้เก่งขนาดนี้ ” 

        

 

        กล้าเกือบจะตอบไปตามจริงว่า….ไม่ได้ฝึกอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  แต่ดันไปรับคำของคนที่ชื่อเซนต์แพนโดร่า  จากนั้นก็ถูกส่งมาให้เป็นเซย่าในโลกนี้  ทว่าเขาก็ยั้งปากไว้ได้ทัน  เพราะถ้าขืนพูดออกไป  มีหวังถูกอีกฝ่ายหาว่าบ้าแน่ๆ 

 

“ อืม…..เล่าไปตามความจริงไม่ได้  ต้องลองแต่งเรื่อง  แต่จะไปเวย์ไหนดีนะ  เราไม่เก่งด้านนี้ซะด้วย ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา