เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
9.3
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
26 ตอน
52 วิจารณ์
26.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ไอ้หนุ่มจงอางไฟ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกล้าตกตะลึง เพราะตั้งแต่เข้ามาในโลกแห่งเซนต์เซย่า เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกน็อคแบบไม่รู้ตัว
“ เป็นไปได้ไง ทำไมเราถึงเสียท่าขนาดนี้ ” ความภูมิใจของกล้าถูกบั่นทอน เขาไม่เข้าใจ และมัวแต่ช็อกอยู่อย่างนั้น ไม่นาน อาจารย์สาวก็เตือนสติ
“ เจ้าศิษย์บ้า รีบลุกขึ้นมาได้แล้ว อย่ามัวแต่นั่งโง่อยู่แบบนั้น ”
“ เอ๊ะ ครับ ” กล้ารีบรับคำ ก่อนจะลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ปลุกปลอบตัวเอง
“ ใช่แล้ว เมื่อกี้ เจ้านั่นต้องฟลุ๊คแน่ๆ เพราะเรามีร่างกายของเซย่าที่ทั้งรวดเร็วและแข็งแรง จะแพ้ทหารเลวคนนึงได้ยังไง ”
พอความมั่นใจกลับมา กล้าก็ตั้งกระบวนท่า สายตาจ้องมองเด็กหนุ่มปริศนา จึงพบว่าอีกฝ่ายก็เตรียมรับมือเช่นกัน ริมฝีปากบนใบหน้าเรียวแย้มยิ้มนิดๆ เป็นเชิงเย้ย
“ นายยิ้มทำไม แค่ฟลุ๊ค ต่อยชั้นล้มได้ทีเดียว อย่าได้ใจไปหน่อยเลย ” กล้าตะคอกใส่ เพราะรู้สึกเดือดหน่อยๆ แต่ก็ไม่ผลีผลามเข้ามาจู่โจม เนื่องจากกลัวจะโดนสวนด้วยกำปั้นแบบเมื่อครู่
“ ผมไม่คิดจะได้ใจหรอก และหมัดเมื่อครู่ ก็แค่โชคดีเท่านั้น ทหารเลวคนนึงไม่มีความสามารถมากพอจะล้มเซนต์ตัวจริงได้แน่ๆ ” เด็กหนุ่มปริศนายังคงส่งยิ้มกวนๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างนอบน้อม ทว่าสำเนียงกลับแฝงแววดูแคลน
กล้าคิดจะพูดว่า…..รู้ตัว ก็ดีแล้ว แต่พอฉุกคิดได้อึดใจ ก็ประจักษ์ว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังแอบหยามตนอยู่ เลยโกรธหนักกว่าเดิม
“ ฮึ่ม…..ไอ้หมอนี่ นอกจากโชคดี ยังพูดจาเลี้ยวลดคดเคี้ยว ”
ทั้งสองฝ่ายยืนประจันหน้ากัน เด็กหนุ่มปริศนายังคงยิ้มกริ่ม ส่วนกล้านั้นตั้งท่ารัดกุม พร้อมตีหน้านิ่ว และในเสี้ยววินาทีต่อมา พระเอกของเรื่องก็เปิดฉากบุกก่อน ด้วยหมัดขวาตรง
“ ย้าก……”
แม้หมัดนั้นจะไวเหลือประมาณ แต่เด็กหนุ่มปริศนาก็โยกหลบได้ไม่ยาก แถมยังสวนด้วยกำปั้นซ้ายเหมือนครั้งที่แล้ว ทว่ากล้าก็ไม่ใช่ไอ้โง่ เลยเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด
“ หึ หึ หึ ไม่เลวนี่ ท่านเซนต์เพกาซัส ” เด็กหนุ่มปริศนาหัวเราะเบาๆ
กล้าเริ่มมองเด็กหนุ่มผู้นี้ใหม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นสายตา ความว่องไว จังหวะ ล้วนอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเหล่าทหารเลว และถ้าว่ากันตามตรง เขาน่าจะเก่งกว่าคาชิออสเสียด้วยซ้ำ
“ หมอนี่เป็นใครกันนะ เราก็เคยดูเซนต์เซย่ามาเกินกว่าร้อยรอบ แต่ไม่เคยเห็นนักสู้ที่มีลักษณะแบบนี้เลยซักครั้ง ”
ทั้งสองคนดีดตัวออกจากกัน แล้วตั้งกระบวนต่อสู้ที่ตนถนัด ซึ่งกล้าก็ลองหยั่งเชิงด้วยการวาดฝ่ามือเป็นรูปหมู่ดาว อันเป็นท่าเตรียมตัวก่อนเผด็จศึก
“ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ไม่น่าจะหยุดเพกาซัสหมัดดาวตกได้ เพราะนายยังไม่เหนือชั้นเท่าเซนต์ตัวจริง ” กล้ามั่นใจแบบนั้น ก่อนจะรวบรวมสมาธิ เพื่อใช้พลังคอสโม่ที่อยู่ในตัว แล้วปล่อยท่าไม้ตายออกไป
“ เพกาซัสหมัดดาวตก ” ดวงตาของพระเอกหนุ่มเปล่งแสงแรงกล้าออกมาแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดขวาตรง ทว่าสิ่งที่พุ่งออกมา กลับเป็นลำแสงสีฟ้าเพียงเส้นเดียว หาใช่ฝูงพายุหมัดที่ดุเดือด
“ เอ๊ะ! ” เด็กหนุ่มปริศนาตกใจ ก่อนจะโดนลำแสงสีฟ้าเข้าไปเต็มๆ ทำให้ร่างเพรียวบางกระเด็นถอยหลังและนอนหงาย
หมู่มนุษย์ที่อยู่ตรงนั้น พากันนิ่งเงียบ แม้กล้าจะไม่พอใจที่ไม้ตายเด็ด บอดไปอีกคำรบ แต่ก็ยินดีที่การโจมตีนี้สามารถน็อคอริได้ เลยเป่าปากระบายลม
“ ฟู่…..โล่งอก คิดว่าจะทำอะไรมันไม่ได้ซะแล้ว ว่าแต่ทำไมเราถึงปล่อยเพกาซัสหมัดดาวตกไม่ได้ซักที ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ” กล้าฉงน พลางพลิกฝ่ามือไปมา เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
แม้กล้าจะวางใจ เพราะเห็นเด็กหนุ่มปริศนาแน่นิ่งไป แต่อาจารย์สาวกลับไม่เห็นอย่างงั้น เพราะเธอรู้สึกได้ถึงกระแสพลังบางอย่างของอีกฝ่าย จึงร้องเตือนลูกศิษย์เอก
“ เซย่าอย่ามัวแต่สงสัย เจ้าเด็กนั่นยังไม่เป็นอะไร หมัดลำแสงของเจ้าแทบทำอะไรไม่ได้เลย ”
“ บ้าน่า เจ้านั่นจะไม่เป็นอะไรได้ไง ในเมื่อมันล้มลงนอนแบบนั้น ” กล้าเถียงกลับ เพราะไม่เชื่อ แต่แล้ว เขาก็ต้องตกใจ เมื่อได้ยินเสียงโอดโอยจากเจ้าของร่างที่นอนอยู่
“ อู้ย…..หมัดของนายก็หนักไม่เลว ถึงกับทำให้ข้าหลับไปตั้งสามวินาที แต่เท่าที่รู้มา เพกาซัสหมัดดาวตกคือการปล่อยหมัดความเร็วเสียงนับร้อยในเสี้ยววินาทีนี่นา ทำไมคราวนี้ถึงออกมาแค่ดอกเดียว ”
“ เฮ้ย…..เป็นไปไม่ได้ ทำไมมันไม่สลบ ” กล้าตกตะลึง ดูท่าทางศึกนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด ไม่ถึงอึดใจ เด็กหนุ่มปริศนาก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน บนแก้มซูบๆมีรอดแดงช้ำเป็นรูปกำปั้น
กล้าเริ่มใจเสีย เพราะทีเด็ดที่ปล่อยออกมา ไม่สามารถน็อคคู่อริ แถมเจ้านั่นยังดูฟิตเต็มถัง ซ้ำร้ายกว่านั้น เด็กหนุ่มปริศนาเริ่มวาดกระบวนท่าเลียนแบบเขา
“ อ้า…..เตรียมรับมือท่าไม้ตายของตัวเอง เซนต์เพกาซัส ”
ทันทีที่พูดจบ กายเพรียวบางของเด็กหนุ่มปริศนาก็เริ่มแผ่ออร่าสีแดงเข้มออกมา ประกายตาดูน่าสะพรึงกลัวและแวววาว ก่อนจะปล่อยหมัดขวาตรง เพื่อใช้ท่าเด็ด
“ เพกาซัส หมัดดาวตก ”
ลำแสงสีแดงนับสิบพุ่งออกจากหมัดของเด็กหนุ่มปริศนา และทุกดอกพุ่งกระทบร่างแกร่งเกร็งของกล้า โชคดีที่เขายกสองแขนขึ้นป้องกัน เลยได้แต่กระเด็นถอยหลังไปสามก้าว
ถึงการโจมตีจะไม่หนักเท่าไหร่ แต่กลับสร้างความหนักใจให้แก่สองศิษย์อาจารย์เป็นที่สุด โดยเฉพาะกล้าถึงกับช็อกไปถนัดตา เพราะอีกฝ่ายปล่อยเพกาซัสหมัดดาวตกได้ดีกว่าเขาเสียอีก
“ มะ…..หมอนี่เป็นใคร มันทำได้ไง สามารถปล่อยท่าไม้ตายในตำนานได้กว่าชั้น ”
ดูเหมือนมารีนจะอดรนทนไม่ไหว จึงร้องถามเด็กหนุ่มปริศนา หวังให้ม้ามืดนายนี้ประกาศนาม
“ ทหารเลวคนนั้นหยุดต่อสู้ก่อน ตกลงแล้ว เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงใช้พลังคอสโม่ได้ ”
เด็กหนุ่มปริศนากลับคืนสู่ท่ายืนปกติตามคำสั่ง ก่อนจะหันมาไขข้อข้องใจของมารีน
“ ข้าชื่อ…..โฟเทีย เป็นศิษย์ของท่านไชน่า ”
มารีนนิ่งงันกับคำตอบ แม้แต่กล้าก็สตั้นไปด้วย เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในสารบบของการ์ตูน ประหนึ่งว่าไอ้หนุ่มนี่จะมาจากต่างมิติ หรือไม่ก็เป็นพวกนักสู้ตกสำรวจ
“ เป็นไปได้ไง ในการ์ตูน คุณไชน่ามีศิษย์เพียงหนึ่งเดียวนี่นา นั่นก็คือ…..คาชิออส แล้วเจ้าโฟเทียโผล่มาได้ไง ” กล้างงสุดๆ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ส่วนมารีนยังแอบไม่เชื่อ แต่ก่อนที่เซนต์สาวผมแดงจะเอ่ยถาม ก็มีสตรีนางหนึ่งกล่าวยืนยันข้อเท็จจริงจากทางด้านหลัง
“ เจ้านั่นไม่ได้โกหก มันเป็นศิษย์ของข้าจริงๆ ”
สองศิษย์อาจารย์หันมามองพร้อมกัน จึงพบกับเซนต์สาวร่างสูงเพรียว ผู้มีนามว่า “ไชน่า” เส้นผมสีเขียวที่แสนยาวปลิวไสว แถมยังสวมหน้ากากเหล็กที่ไม่แสดงออกถึงอารมณ์อีกต่างหาก
มารีนมองหน้าของไชน่านิ่งๆอยู่นานสองนาน ประมาณว่ายังเคลือบแคลงสงสัย เซนต์สาวผมเขียวเลยกล่าวตัดบท
“ ข้ารู้ว่าพวกเจ้ายังไม่เชื่อ ดังนั้น โฟเทียจงแสดงหลักฐานให้ดู ”
“ หึ หึ หึ ได้ครับ ท่านอาจารย์ ” เด็กหนุ่มร่างเพรียวรับคำ ก่อนจะตั้งกระบวนท่าใหม่ ด้วยการยื่นมือซ้ายมาข้างหน้า แล้วง้างหมัดขวาไปข้างหลัง
“ อ้า……เตรียมรับมือ เจ้าเซนต์เพกาซัสจำแลง ” โฟเทียคำรามเบาๆ ก่อนที่ออร่าสีแดงเข้มจะแผ่ไปทั่วร่างอีกครั้ง แต่นั่นไม่ทำให้กล้าตกใจเท่าสิ่งที่เด็กหนุ่มปริศนาพูด
“ เอ๊ะ เจ้านั่นเรียกเราว่า…..เซนต์เพกาซัสจำแลง มันรู้ได้ไงว่าเราไม่ใช่เซย่าตัวจริง ”
แต่ไม่ทันที่กล้าจะได้คำตอบ เปลวไฟที่ร้อนแรงก็ห่อหุ้มร่างกายแกร่งเกร็ง ส่งผลให้เขาตกใจจนร้องตะโกน
“ โว้…..นี่มันไฟอะไรกัน ร้อนเหลือเกิน ”
ขณะที่พระเอกหนุ่มกำลังสติแตก โฟเทียก็พุ่งเข้ามาจู่โจม ฝ่าเท้าของเขาพุ่งปะทะใบหน้าของกล้าแบบเต็มตีน ส่งผลให้ร่างแกร่งเกร็งกระเด็นไกลจนกระแทกภูเขาหิน
“ โครม ”
กล้าร่วงล้มลงไปนอน กล่องชุดครอธที่สะพายอยู่ด้านหลัง หลุดกระเด็นไปอีกทาง เหลือเพียงโฟเทียที่ยืนตั้งกระบวนท่าต่อสู้ พร้อมออร่าสีแดงเข้มที่รายล้อมเรือนร่าง
“ เป็นไง เชื่อหรือยังว่าเจ้านั่นคือศิษย์ของข้า ” ไชน่าก้าวเข้ามายืนข้างมารีน พร้อมเอ่ยถามเบาๆ ดวงตายังคงจับจ้องการต่อสู้เบื้องหน้า
“ อืม….เชื่อแล้ว เพราะท่าไม้ตายนั่นมีหลักการคล้ายธันเดอร์ คล็อลว์ ของเจ้า เพียงแต่เจ้าหนูนั่นจู่โจมเป็นธาตุไฟ ส่วนเจ้าเป็นธาตุสายฟ้า ” มารีนตอบกลับ แต่ก็ยังไม่ละสายตาจากการต่อสู้
“ หึ หึ หึ ใช่แล้ว เพราะฉะนั้น ข้าถึงเปลี่ยนชื่อท่าไม้ตายของเจ้านั่นใหม่เป็น……ไฟเยอร์ คล็อลว์ ” ไชน่าประกาศนาม ท่าทางเธอจะภาคภูมิใจในลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าแค่นี้ ยังไม่ทำให้มารีนหายสงสัย จึงยิงคำถามต่อ
“ ในเมื่อเจ้ามีศิษย์ที่ฝีมือล้ำเลิศขนาดนี้ ทำไมถึงส่งศิษย์ที่มีฝีมือรองอย่างคาชิออสลงชิงครอธเพกาซัสล่ะ ถ้าเป็นเจ้าหนูนี่ อาจคว้าชัยก็เป็นได้ ”
“ อืม…..จะว่าไป ข้าก็อยากส่งโฟเทียเข้าประลองเหมือนกัน แต่….เจ้านั่นมีฐานะเพียงศิษย์ลับๆที่ข้าแอบสอนวิชาให้ในตอนกลางคืนเท่านั้น แถมมันยังกล่าวกับข้าว่า……” ไชน่าพูดแค่นั้น ก่อนจะนิ่งไป มารีนจึงรีบทวงถาม เพราะร้อนใจเหลือประมาณ
“ เจ้าหนูนั่นพูดว่าอย่างไร ”
ไชน่าไม่ตอบทันที แต่เธอได้หันมาสบตากับคู่สนทนา ก่อนจะตอบสั้นๆว่า…..
“ เจ้านั่นบอกว่าครอธเพกาซัสไม่คู่ควรกับตัวเอง และมันกำลังรอชุดเกราะที่ใช่อยู่ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ