นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  54 วิจารณ์
  74.84K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

66) ตอนที่ 66 ความขัดแย้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
สำนักงานตำรวจกลาง
   "ผู้กำกับเรียกผมมามีเรื่องอะไรครับ" สารวัตรภาธรถามด้วยความสงสัย ผู้กำกับทอมไม่ตอบนอกจากเดินนำทางพาเขากับจ่าผลเข้ามาในห้องที่จะทะลุถึงห้องประชุม เนื่องจากประตูเป็นกระจกใสทำให้สารวัตรภาธรเห็นคนที่อยู่ในห้องนั้นชัดเจน
   สองพี่น้องแห่งตระกูลแมกซ์เวลล์เบอร์นี่&เอลตัน ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่มีสีหน้าที่พร้อมจะเปิดสงครามน้ำลายกับใครก็ตาม ที่เดินเข้าไปในห้องประชุมต่อให้เป็นเด็กประถมก็ดูออกว่า กำลังหัวร้อนมากแค่ไหนจากประสบการณ์ในการทำงานเป็นตำรวจมา สารวัตรภาธรจำได้ว่าทุกครั้งที่มีคดีเกี่ยวกับอันเดธหรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่คน ตำรวจมักเป็นไม้เบื่อไม้เมากับนักล่าอันเดธมาตลอดโดยเฉพาะกับแมกซ์เวลล์ซึ่งเป็นตระกูลนักล่าที่ดังมาก แถมประชาชนยังให้ความเชื่อถือมากกว่าตำรวจเสียด้วยซ้ำ
    สารวัตรภาธรไม่แน่ใจว่าที่สองคนนี้มาเพราะกำลังเสียผลประโยชน์ทางงานอาชีพ หรือจะมาเจรจาเพื่อมาร่วมงานกับตำรวจซึ่งดูทรงแล้วไม่น่าจะใช่ เพราะท่าทางของสองคนนี้ไม่ได้มาเพื่อเจรจาแน่นอน จนเมื่อหยางเสี่ยวฟงกับอภิชัยเดินมาสมทบและเบอร์นี่เห็นก็แสดงความไม่เป็นมิตรใส่ทั้งคู่ทันที แต่สองหนุ่มจากต่างเมืองไม่ได้สนใจเท่ากับจุดประสงค์ที่สองคนมามากกว่า ผู้กำกับทอมมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างมากจนสารวัตรภาธรใจหาย
    "ท่านครับ พวกเขามาทำไมครับ" สารวัตรภาธรตั้งคำถามขึ้น
    "สองคนนั้นต้องการคุยกับคุณสารวัตร แล้วก็ลูกทีมของคุณด้วย" ผู้กำกับทอมกล่าว
    "คุยเรื่องอะไรได้บอกไหมครับ" จ่าผลถามด้วยความสงสัย
    "เรื่องนั้นพวกคุณต้องไปคุยกับเขาเอง"
    เมื่อไม่มีทางเลือกสารวัตรภาธรจำใจต้องเดินเข้าไปในห้องประชุม ทั้งที่ยังไม่ครบทีมเสียด้วยซ้ำแต่เขาเลือกที่จะไม่รอ และทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันซึ่งบรรยายกาศในห้องเริ่มขรึมจนน่าอึดอัก จ่าผล หยางเสี่ยวฟง และอภิชัยที่ตามเข้ามาทีหลังยังจับสัมผัสถึงแรงอาฆาตที่สองพี่น้องหันมาทางพวกเขาได้ แต่คนที่เฉยมากที่สุดคงไม่พ้นหยางเสี่ยวฟงซึ่งชายหนุ่มรู้เจตนาของทั้งคู่ว่า ไม่ได้ต้องการมาพบเขาหรอกหากแต่เป็นอีกคนหนึ่ง
    "คุณมีธุระอะไรจะคุยกับพวกผม" สารวัตรภาธรยิงคำถามตรงๆทันที ซึ่งเอลตันยิ้มชอบใจพอสมควร
    "รู้อะไรไหมสารวัตร ผมชอบที่คุณเป็นคนตรงๆแบบนี้แหละ... ที่จริงผมกับพี่ชายไม่ได้มาหาคุณแต่...."
    "พวกนายสองคนมาตามหาคนที่แย่งงานไปสองครั้งใช่ไหม.... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักล่าอันเดธกิตติมศักดิ์อย่างตระกูลแมกซ์เวลล์ จะมาหาเรื่องเด็กอายุ 15 ปี เนี่ยนะ"
    เอลตันทำหน้าเหมือนคนไม่ได้กินอะไรมาหลายเดือนทันทีที่โดนหยางเสี่ยวฟงพูดจี้จุด ในขณะที่เบอร์นี่นั้นยังคงรักษามาดขรึมของตนเอาไว้ เขาจำคำพูดของไวแอตต์ญาติผู้พี่ได้ดีว่าอย่าประเมินหยางเสี่ยวฟงต่ำไป เพราะชายหนุ่มผิวขาวตาตี๋ๆคนนี้อ่านใจคนได้ทะลุปรุโปร่งราวกับตาเห็นซึ่งน่ากลัวพอๆกับการต่อสู้ของเขา ในตอนแรกเบอร์นี่ยอมรับว่าไม่เชื่อเท่าไหร่แต่ตอนนี้เขาคงต้องเชื่อแล้ว ว่าถ้าทำได้อย่าเป็นอริกับหยางเสี่ยวฟงจะดีที่สุด
    "ใช่ เด็กอายุ 15 ที่แย่งทั้งงานของเราและของตำรวจ" เบอร์นี่พูดขึ้น
    "อันนั้นยอมรับนะว่าแย่งจริงแต่... ยังไม่ได้ตอบคำถามเลยนะว่ามาหาเจ้านั้นใช่ไหม"
    "ตามที่นายเข้าใจแหละฉันกับเอลตันอยากมาเตือนหน่อยว่า ที่นี้คือเขตแดนของพวกเราดังนั้นเด็กนาย...."
    "ต้องขออภัยด้วยนะที่ต้องขัดที่นี้ไม่มีใครเป็นของใครทั้งนั้น... ผมยอมรับนะว่าครอบครัวของคุณเชี่ยวชาญเรื่องการล่าอันเดธ แต่ไม่ได้หมายความว่าประเทศนี้จะเป็นหนี้บุญคุณอะไรพวกคุณขนาดนั้น ประเทศนี้ไม่ใช่ของพวกคุณแต่เป็นของประชาชนทุกคน"
    เบอร์นี่แสดงสีหน้าไม่พอใจอีกครั้งหลังจากที่โดนขัดจังหวะมาสองครั้ง ในขณะที่สารวัตรภาธรนั้นก็แสดงความไม่พอใจมากกว่า กล้าดียังไงมาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของประเทศ เขาเชื่อเสมอว่าประเทศนี้เป็นของประชาชนทุกคน เพราะความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้แหละที่ทำให้สารวัตรหนุ่มไม่ชอบขี้หน้าตระกูลนี้เลย หยางเสี่ยวฟงส่งสายเชิงเตือนสติไม่ให้อีกฝ่ายหัวร้อน เบอร์นี่แสดงสีหน้าไม่พอใจอีกครั้งหลังจากที่โดนขัดจังหวะมาสองครั้ง ในขณะที่สารวัตรภาธรนั้นก็แสดงความไม่พอใจมากกว่า กล้าดียังไงมาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของประเทศ เขาเชื่อเสมอว่าประเทศนี้เป็นของประชาชนทุกคน เพราะความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้แหละที่ทำให้สารวัตรหนุ่มไม่ชอบขี้หน้าตระกูลนี้เลย หยางเสี่ยวฟงส่งสายเชิงเตือนสติไม่ให้อีกฝ่ายหัวร้อน ไม่งั้นอาจโดนคุมเกมเอาง่ายๆได้นับว่าโชคดีที่เบอร์นี่กับเอลตันไม่ได้เจ้าเล่ห์ที่ถนัดด้านจิตวิทยาเท่าไหร่
    "คุณสองคนอยากเจอน้องผมทำไม" อภิชัยถาม
    "ฉันกับพี่ชายแค่อยากมาเตือนอีกครั้งว่าอันเดธพวกนั้นเป็นเหยื่อของพวกเรา" เอลตันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเพื่อให้คนฟังรับรู้ถึงการเอาจริงของตน
    "แต่ถ้าเหยื่อของคุณสองคนอยากชิมส้นตีนน้องของผม มันก็ช่วยไม่ได้นะเพราะมันแค่ปกป้อง "คู่" ของมันเอง" คำพูดแบบปริศนาของหยางเสี่ยวฟงทำให้เอลตันกับเบอร์นี่งุนงงไปไม่เป็น และท่าทางดังกล่าวทำให้หยางเสี่ยวฟงยิ้มที่มุมปากทันที แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนจากศึกประทะคารมเป็นการวิวาท ก็ได้มีกลุ่มคนตามเข้ามาสมทบซึ่งนำโดย หมวดฮันโด นั้นเอง
    "ฉันว่านายสองคนมาทางไหนกลับทางนั้นดีกว่า ไม่งั้นฉันจะตั้งข้อหาขัดขวางการทำงานของตำรวจ" หมวดฮันโดพูดด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
    "ก็เอาสิฮันโดนายตั้งข้อหาฉันกับพี่เบอร์นี่ แต่ไม่ตั้งข้อหาคนพวกนี้" เอลตันพูดและชี้มาทางหยางเสี่ยวฟงกับอภิชัย      
   "พวกเขามาจากฟรอนร์เทียร์การร่วมงานกับทั้งสองมันก็เหมือนเป็นการเชื่อมไมตรีสองประเทศ ไม่ได้เหมือนกับพวกนายที่คอยขัดแข้งขัดขาตำรวจมาตลอดจนสุดท้ายพี่ไวแอตต์ต้องเข้าคุก" หมวดฮันโดยังเถียงไม่ยอมแพ้เพราะเขารู้ว่าต้องเอาสองหนุ่มต่างเมืองมาอ้าง                              
   "เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเบอร์นี่ฉันไม่ได้ขายเพราะมันไม่ได้ทำให้ฉันได้เงิน แล้วก็เงินเดือนไม่ได้เพิ่มขึ้นด้วยเพราะงั้นฉันจะเรียกว่าแบ่งบันไม่ใช่ขาย.... แล้วอีกเรื่องถึงฉันจะมีสายเลือดของตระกูลแมกซ์เวลล์ก็จริง แต่เท่าที่ฉันจำได้ว่าปู่ของฉันไม่ได้รับสิทธิ์ในการใช้นามสกุลนี้เพราะเป็นลูกนอกสมรส ดังนั้นนายไม่มีสิทธิ์มาพูดว่าฉันหักหลังตระกูลของนาย" หมวดฮันโดพูดตัดบทโดยที่ไม่รอให้เบอร์นี่นั้นพูดให้จบ แต่คำพูดของเขาทำให้สารวัตรภาธร หมวดอารักษ์ จ่าผล จ่าเข้ม และจ่านนท์ตกใจอย่างมาก เพราะตามประวัติหมวดฮันโดไม่ใช่นามสกุลแมกซ์เวลล์
   ใช่แล้ว ! นามสกุลของหมวดฮันโดคือ แมคบีน เป็นนามสกุลของ ร้อยตำรวจตรีหญิงคาเรน ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ แกเบรียล แมกซ์เวลล์ ซึ่งเป็นปู่ทวดของเบอร์นี่กับเอลตัน ทั้งคาเรนและแกเบรียลมีลูกด้วยกัน 2 คน หญิง 1 และชาย 1 ทั้งสองมีชื่อว่า ชารอน&มาเวอริค แมคบีน ทั้งสองไม่มีสิทธิ์ใช้นามสกุลของแมกซ์เวลล์เพราะตอนนั้น ซาแมนธา ภรรยาหลวงของแกเบรียลเป็นคนค่อนข้างอือฉาวในเรื่องหึงหวงสามีมาก ดังนั้นทำให้สองพี่น้องแทบไม่ค่อยได้รู้จักพ่อมากนักนอกจากนานๆทีจะมาหากัน และถ่ายทอดวิชาการล่าอันเดธให้กับสองพี่น้อง เพื่อหวังจะได้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแต่น่าเสียดายที่เเกเบรียลด่วนจากไปเสียก่อน
   นั้นคือเหตุผลที่หมวดฮันโดกล้าพูดได้เต็มปากว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลนี้เลย เพราะวิชาความรู้เรื่องเกี่ยวกับอันเดธนั้นเขาก็ได้รับการถ่ายทอดมาจาก ชาลส์ แมคบีน พ่อของเขาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากมาเวอริคอีกที และการที่หมวดฮันโดเลือกมาเป็นตำรวจมากกว่าจะเป็นนักล่าอันเดธ เพราะเขาชื่นชมย่าทวดที่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนโดยไม่หวังสิ่งใดเลย นั้นแหละคือเหตุผลของเขาที่เลือกอาชีพนี้โดยไม่หวงวิชาที่ได้รับมา เพื่อหวังแค่จะช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากที่สุด
   "แต่สิ่งที่นายได้มามันก็มาจากตระกูลแมกซ์เวลล์" เอลตันพูดอย่างเดือดดาล
   "นั้นก็มีส่วนแต่... ปู่ทวดของนายเป็นคนมอบให้เอง และที่สำคัญปู่ฉันก็วิจัยค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้นความรู้นี้คือของฉันไม่ใช่ของพวกนาย"
   เอลตันเริ่มจะทนไม่ไหวเผลอชักอาวุธประจำกายออกมาอย่างลืมตัว แต่เบอร์นี่เอาห้ามไว้ชะก่อนเพราะหากน้องชายทำอะไรบุ่มบ่าม ทั้งคู่อาจโดนจับในข้อหาทำลายทรัพย์สินและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ที่สำคัญจังหวะที่เอลตันชักดาบเรเปียร์ออกมาเบอร์นี่เห็นแสงสีแดงเล็กๆตรงหน้าผากของเอลตัน และแสงนั้นมันมาจากปลายกระบอกปืนติดเลเซอร์ของหยางเสี่ยวฟงนั้นเอง ทุกคนในห้องพากันอึ้งที่หยางเสี่ยวฟงชักปืนออกมาเร็วขนาดนั้น
   "เก็บดาบของนายไว้ดีกว่าเอลตัน แมกซ์เวลล์ไม่งั้นสมองของนายจะกระจายไปทั่วพื้นแน่นอน" หยางเสี่ยวฟงกล่าวตักเตือน ซึ่งนั้นทำให้เอลตันจำใจต้องเก็บดาบของเขา และหยางเสี่ยวฟงจึงเก็บปืนเข้าที่เดิม          
   "ก่อนอื่นเลยขอถามหน่อยว่าชอบเล่นเกมไหม" คำถามนี้ทำเอาเอลตันกับเบอร์นี่ขมวดคิ้ว
   "พูดบ้าอะไร...."
   "มาเล่นเกมกันหน่วยไหมว่าใครจะล่าอันเดธอีก 6 ตนทีเหลือได้ก่อนกัน ระหว่างนายสองคนกับพวกตำรวจ.... กล้าพอจะรับคำท้าไหมแต่ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นพี่ไวแอตต์คงรับคำท้าตั้งแต่ฉันถามว่าชอบเล่มเกมไหมแล้วละ"
   ดูเหมือนคำยั่วยุของหยางเสี่ยวฟงจะได้ผลเพราะเบอร์นี่ที่น่าจะเก็บอาการได้มากที่สุด ตอนนี้แสดงท่าทางไม่พอใจกับคำสบประมาทอย่างมากซึ่งมันตรงตามที่ชายหนุ่มคาดการณ์ไว้แล้ว เบอร์นี่นั้นไม่ค่อยถูกชะตากับไวแอตต์เป็นทุนเดิมเพราะฝีมือการล่าอันเดธ และชื่อเสียงดังนั้นหลังจากที่ไวแอตต์อยู่ในเรือนจำ มันก็กลายเป็นโอกาสทองที่จะทำให้ได้โชว์ฝีมือบ้าง แต่ดูจากลักษณะแล้วคงอีก 10 ข้างหน้าถึงจะเหนือกว่า
   "ได้ ! ฉันก็อยากจะรู้ว่าพวกนายจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน" เบอร์นี่รับคำท้าอย่างเดือดดาลแล้วจากนั้นก็ส่งซิกให้เอลตันนั้นเดินตามตนเพื่อจะออกจากห้องประชุมแต่หยางเสี่ยวฟงก็ยังไม่วายพูดจากวนๆตามหลัง
   "อย่าตกม้าตายก่อนละ...มันเจ็บมากเลยนะ"
            
   ปัง !
    
   "เฮียท้าแบบนั้นคิดดีแล้วรึ" อภิชัยถามหลังจากที่สองพี่น้องแมกซ์เวลล์ปิดประตูไปแล้ว
   "ผมว่าคุณหยางทำถูกแล้วครับ ยังไงสองคนนี้ไม่มีทางมาร่วมมือกับพวกเราแน่นอน ถ้าผลสรุปจะเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลกเหรอครับ" หมวดฮันโดกล่าวสมทบ
   "ถ้างั้นในเมื่อเลี่ยงไม่ได้แบบนี้ทางพวกเราต้องทำงานแข่งกับเวลาเท่านั้น เรามาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่า" สารวัตรภาธรพูดขึ้น ซึ่งเหล่าลูกทีมของเขาต่างก็นั่งเก้าอี้เพื่อจะวางแผนในขั้นตอนต่อไป
                                   
                                      
 
 
 
                                                       ++++++++++++++++++++++++++++++++++++                  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา