นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  62 วิจารณ์
  77.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

65) ตอนที่ 65 ขอแค่รอยยิ้ม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง

แท็กลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะได้กลิ่นหอมจากอาหารที่เขานั้นไม่ได้กินนานแล้ว นั้นคือข้าวหมกไก่ที่เขาชอบกินมากแต่.... แท็กไม่เข้าใจว่าทำไมศุภรัศมิ์ต้องลงทุนเอาข้าวหมกไก่มาจ่อใกล้ๆหน้าเขา แล้วเอาพัดเล็กๆพัดให้ควันอาหารลอยเข้าจมูกเขาด้วย กวนตีนใช่ได้นี่หว้าไอ้เพื่อนคนนี้ แท็กพบว่าในห้องมีศุภรัศมิ์ ปวเรศ อภิชัย และสารวัตรภาธร เขางงมากๆว่าทำไมถึงมาอยู่ในโรงพยาบาลได้ ครั้งสุดท้ายเขายังสู้กับนายบึ๊กอยู่เลย

   "ตอนที่พวกเราตามมาสมทบ ก็เจอแกนอนหมดสภาพแล้ว เจอรุมตีนมารึไง" ปวเรศถามแบบกวนๆ จนแท็กอยากกระโดดถีบยอดหน้าเพื่อนมากแต่เขายังขยับตัวไม่ค่อยได้

   "มันเกิดอะไรขึ้น" แท็กถามขึ้น

   สารวัตรภาธรตัดสินใจเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดเอง ตอนที่เขาพากองกำลังตำรวจคอมมานโดมาที่โซนหมายเลข 19 นั้น พบตัวแท็กสลบไม่ได้สติพร้อมกับเด็กน้อยที่พยายามเขย่าตัวแท็กให้ตื่น สารวัตรภาธรสั่งการให้จ่าผลนั้นเรียกวิทยุให้ส่งตัวแท็กไปที่โรงพยาบาล เพราะเขาเห็นว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บหนักมาก ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนั้นเขาจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสารวัตรมารวย ในฐานะผู้รับผิดชอบในเขตนั้น อย่างไรก็ตามก็ถือว่าโชคดีที่แม่ติ่มไม่ได้อยู่ที่นั้นในช่วงเวลานี้

   แต่แท็กนั้นรู้อยู่แก่ใจว่านายบึ๊กไม่ได้ล่าแม่ติ่มเพราะเธอแทบไม่ได้อยู่ห่างตาของเจ้าตัวเลย หากเทียบกับเขาหรือมธุสรซึ่งนายบึ๊กจะเพ็งเล็งเป็นพิเศษซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แท็กกังวลคือการปรากฏตัวของนายเต๋า ตามที่เขาได้ยินมาจากจ่าผลเล่าให้เขาฟังคือ นายเต๋าเป็นหนึ่งใน 7 ทรชนที่เป็นคู่อริของมธุสร ถูกฆ่าด้วยปืนฉมวกแต่ก็ไม่ได้ตายในทันทีจึงถูกตัดอวัยวะเพศซ้ำอีกครั้ง แล้วก็โดนลากลงทะเลไปปล่อยที่ไหนสักแห่งบนหาด แท็กคิดว่านายเต๋าคงตายจริงตอนโดนลากนั้นแหละ เขาจะไม่แปลกใจที่ร่างอันเดธของนายเต๋าจะเป็นแบบนั้น แถมน่าจะชนะยากชะด้วย

   "เด็กที่อยู่กับเธอนะบอกว่ามีอันเดธอีกตน พอบอกลักษณะได้ไหม" สารวัตรภาธรตั้งคำถามขึ้น อภิชัยมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ นี่กะจิตกะใจจะไม่ให้รุ่นน้องเขาได้พักหายใจเลยรึ

   "มันโจมตีตอนที่ผมโฟกัสที่นายบึ๊ก มันเร็วมากผมมองเห็นไม่ชัด.... แต่ผมจำเสียงของมันได้ว่านั้นคือ นายเต๋า"

   "งั้นแสดงว่านายเต๋าคงแค่อยากมาช่วยเพื่อนเท่านั้น เลยติดสินใจล่าถอยไปอย่างนั้นเหรอ" สารวัตรภาธรวิเคราะห์

   "เท่าที่ผมได้ยินมาจากชุมชนเก่าที่พวกนั้นเคยอยู่ เห็นว่าไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดคงสาบานเป็นพี่น้องกันละมั่ง" ปวเรศพูดเสริม

   "สาบานทำเรื่องเXยๆละไม่ว่า" ศุภรัศมิ์เปรยขึ้น

   สักพักประตูห้องก็เปิดออกสารวัตรภาธรหันไปดูก็พบหมอณัฐฐา กุลชาติ สายป่าน เยาวลักษณ์ และมธุกร เดินเข้ามาพร้อมของเยี่ยมที่จะเอามาฝากแท็ก มธุกรยิ้มดีใจอย่างมากที่พบว่าแท็กนั้นปลอดภัยดี ภาพที่เห็นทำเอาปวเรศกับศุภรัศมิ์หมั่นไส้เพื่อนที่นอนบนเตียงไม่ได้จริงๆ

   "น้องเขาเป็นยังไงบ้างอ่ะธร" หมอณัฐฐาถาม

   "หมอบอกว่าไม่ค่อยเป็นอะไรมาก นอนอยู่ที่นี้สัก 3-4 วันก็คงออกจาก รพ.ได้แล้ว"

   จ่าผลเดินเข้ามาในท่าทีที่ค่อนข้างร้อนรนพอตัว เขาเดินมากระซิบข้างหูสารวัตรภาธรซึ่งผลออกมาคือตำรวจหนุ่มแสดงสีหน้ากังวลออกมาชัดเจน ซึ่งอภิชัยคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีชะแล้วสิเมื่อได้ฟังจากที่จ่าผลพูด สารวัตรภาธรตัดสินใจตามจ่าผลออกจากห้องไป มธุกรที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็แสดงท่าทีหวั่นวิตกออกมา แท็กจึงจับมือเธอเพื่อปลอบขวัญอีกฝ่ายซึ่งมันได้ผล หมอณัฐฐาเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจส่งสัญญาณให้เยาวลักษณ์ กุลชาติ และสายป่านออกจากห้อง สายป่านหันมามองเพื่อนรักด้วยความยินดีไม่ได้ ตอนนี้เพื่อนของเธอมีคนคอยปกป้องแล้ว จากนี้ไปมธุกรก็ไม่ต้องหวาดกลัวคนที่จะมาทำร้ายเธออีกตราบใดที่แท็กยังอยู่ จะว่าไปตัวของสายป่านเองจะมีโมเม้นแบบนี้ไหมน่า

   "เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่าแท็ก" มธุกรถามด้วยความเป็นห่วง

   "ไม่อ่ะ... แค่นี้ไกลหัวใจมากเลยละ" แท็กพูดอย่างไม่รู้สึกอะไร แต่กับอภิชัยแล้วคำพูดแบบนี้มันฆ่าตัวตายชัดๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คาดเพราะมธุกรเอามือตีมือของแท็กเต็มแรง จนอีกฝ่ายสะท้านไปทั้งตัวเลยทีเดียว

   "ฉันเป็นห่วงแทบตายเลย ! รู้ตัวไหมว่าตอนที่ฉันเห็นเธอถูกเข็นออกมาจากรถ ฉันกังวลแค่ไหน.... ฉันกลัวว่าเธอจะ จะ..."

   "ผึ้ง ฉันขอโทษ อ่า คือ... สิ่งที่ฉันทำนะเพื่อปกป้องเธอทั้งนั้นนะ ไม่ว่าจะเจ็บกี่สิบครั้งหรือหมื่นครั้ง ฉันก็ไม่หวั่นทั้งนั้น"

   คำพูดของแท็กทำให้มธุกรสะอึกทันทีร่วมทั้งเพื่อนๆของเขาด้วย ศุภรัศมิ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นดูจะอึกอัดมากกว่าคนอื่นๆ ไม่รู้ทำไมเขาคิดว่าตัวเองกำลังเป็นตัวเกะกะของคนสองคนนี่ นั้นทำให้ศุภรัศมิ์นั้นเดินถอยหลังไปอยู่กับปวเรศที่คิดไม่ต่างจากเขาแน่นอน ทั้งสองต่างไม่อยากเชื่อเลยว่าการที่ไปผูกจิตกับใครสักคน มันจะทำให้เสียตัวตนเดิมขนาดนี้พวกเขาไม่ขอมีมันเลยดีกว่า เพราะตอนนี้แท็กเองก็เสียตัวตนไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่จะรู้ตัวรึเปล่าอีกเรื่อง

   "เหม็นความรักโว้ย ! ไปซื้อขนมกินดีกว่า แปง ซี มากับพี่ดิ" อภิชัยพูดขึ้น

   "ผมสองคนยังไม่หิวครับ" ปวเรศพูดขึ้น

   "แต่แกสองคนต้องไปกับพี่ !"

   เจอเสียงดุแกมบังคับแบบนี้ทำให้สองเพื่อนรักจำใจต้องตามอภิชัยไป ปล่อยให้แท็กอยู่กับมธุกรตามลำพังอีกครั้งซึ่งมันทำให้แท็กนั้นนึกถึงเหตุการณ์ที่ยิมมวยไม่ได้ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่โดยเฉพาะคำพูดที่เธอเคยพูดก่อนหน้านั้น และเขาก็ไม่แน่ใจด้วยว่ามธุกรจะคิดแบบเดียวกับเขาไหม แต่ที่แน่ๆแท็กเลือกที่จะเงียบก่อนดีกว่า

   "แท็ก ฉันขอโทษนะ" แท็กหันมามองหน้าผึ้งด้วยสีหน้าที่ฉงนใจอย่างมาก

   "เรื่องอะไร" เขาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

   "ทั้งๆที่ฉันพูดไม่ดีแบบนั้น ทำไม...." แท็กเอามือปิดปากมธุกรเพื่อไม่ให้เธอพูดต่อ เพราะเขารู้แล้วว่ามธุกรคิดอะไรอยู่ แท็กจับมือทั้งสองข้างของมธุกรเชิงให้กำลังใจ

   "ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น อันที่จริง...ต้องพูดว่าเธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดเธอกับแม่ไม่ได้ร้องขอมันเลย ฉันเลือกเองทั้งนั้น.... และอีกอย่างการกำจัดพวกอันเดธมันก็เป็นงานหลักของฉันอยู่แล้ว" แท็กพูด แม้จะพูดแบบนั้นแต่เขาก็พบว่ามีน้ำใสๆไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอเรียบร้อย นั้นทำให้เขาตกใจอย่างมาก

   "ทำไมเธอต้องลงทุนขนาดนั้นด้วยมันไม่คุ้มเลย...."

   "คุ้มสิ ! สำหรับฉันแค่ได้เห็นเธอดีขึ้นเหมือนตอนนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากกว่าอะไรทั้งหมดแล้ว"

   "เธอทำไปเพื่อแค่นี้เองงั้นเหรอ" มธุกรถามและแท็กก็ยื่นมือมาเซ็ดน้ำตาให้กับเธอ ใบหน้าที่ได้สัมผัสกับมือของแท็กนั้นแม้ว่ามันจะดูสากไปสักนิดแต่มธุกรกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับของมธุสรก็ตาม

   "ไม่ใช่.... เรื่องนั้นมันก็มีส่วนนะ แต่เหตุผลจริงๆคือขอแค่รอยยิ้มของเธอก็พอ รอยยิ้มที่เกิดจากความสุขไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องหวาดกลัวจนเธอต้องปิดกั้นตัวเธอเอง นั้นต่างหากคือเหตุผลที่ฉันทำตอนนี้... ฉันอยากให้เธอยิ้มนะผึ้งไม่ใช่ร้องไห้"

   ไม่รู้ทำไมแค่เหตุผลแค่นี้ของแท็กกลับทำให้มธุกรแทบหลั่งน้ำตาไม่หยุด เธอโผเข้ากอดแท็กทันทีถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะพึ่งเจอกัน แต่มธุกรกลับรู้สึกได้ว่าคนๆนี้ไม่ได้โกหกเธอแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับภาพที่เริงฤทธ์พ่อของเธอกระทำไว้กับเธอและแม่ ขอบคุณ คือคำที่แม้เธอจะไม่ได้เอ๋ยมันออกมาแต่แท็กก็รับรู้ผ่านอ้อมกอดเธอแล้ว

   ระหว่างที่ทั้งสองกำลังกอดกันอยู่นั้นอภิชัยแอบมาดูโดยมาในแบบกายจิต ภาพตรงหน้านั้นมันก็ทำให้เขานั้นหวนนึกถึงอดีตของตัวเขาไม่ได้เหมือนกัน ชายหนุ่มก้มมองสร้อยข้อมือข้างขวามันเป็นสีหวานๆที่ดูไม่เข้ากับบุคลิกเขาเลย ภาพในอดีตผุดขึ้นมาเป็นเด็กสาวผมยาวสีดำผิวขาวอายุประมาณ 16-17 ปี กำลังผูกสร้อยข้อมือที่ประดับด้วยลูกหวาดเล็กๆหลากสีสัน ซึ่งคาดว่าเธอทำด้วยมือล้วนๆเพราะมันไม่ค่อยประณีตเท่าไหร่ แต่อภิชัยในตอนนั้นรับรู้ได้ว่าเธอทำด้วยใจและมันเป็นของชิ้นแรกที่เธอหัดทำ

   หลายปีมาแล้วที่เขาแทบไม่ได้ข่าวของเธอเลย ไม่สิ...ต้องพูดว่าเขาเป็นฝ่ายที่เดินหนีออกมาจากชีวิตของเธอเอง นี่ผ่านมา 11 ปีแล้วที่อภิชัยใช้เวลาทั้งชีวิตตามล่าฌอน อดัมส์ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมครอบครัวของเขา และเพราะอภิชัยนั้นมีโจทย์เยอะพอสมควรทำให้เขาเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างจาก พี่น้องเผ่าเดียวกันที่ต้องละทิ้งคู่ของตนเองเพื่อให้คู่ของตนนั้นปลอดภัยเท่านั้น แต่เขาให้คำมั่นกับตนเองแล้วว่าหากเขาจัดการกับฌอน อดัมส์ได้สำเร็จ อภิชัยจะกลับไปหาเธอคนนั้นแน่นอนแม้ว่าเธอจะไม่รอเขาแล้วก็ตาม

 

 

 

        

                                                   ++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา