นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
61) ตอนที่ 61 ครอบครัวนายจั๋ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรือนจำ เวลา 10.08 น.
"เฮีย ทำไมอยู่ดีๆพามานี่ทำไมเนี่ย" อภิชัยถามขึ้นด้วยความสงสัย
หยางเสี่ยวฟงกับอภิชัยตัดสินใจเดินทางมาที่เรือนจำ โดยมีจ่าผลเป็นคนนำทางอีกทีเพราะเส้นทางมันคดเคี้ยวอย่างมาก อภิชัยไม่ค่อยเข้าใจว่ารุ่นพี่ของเขานั้นอะไรดลใจ อยากจะพบครอบครัวของนายจั๋วหนึ่งใน 7 คู่กรณีของมธุสร จากข้อมูลที่อภิชัยพอจะรู้คือนายจั๋วถูกฆ่าด้วยการถูกแทงเข้าที่ข้างหลัง และกรอกด้วยโซดาไฟแค่นั้นสำหรับบุคคลทั่วไปมันก็แสนทรมานแย่แล้ว แต่ไม่หนักสุดคือโดนตัดอวัยวะทิ้งและจับโดนให้ไอ้เห้แถะกินทั้งเป็น ! แค่คิดภาพมันก็สยองขวัญแล้ว
ส่วนที่ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ตัดสินใจมาที่เรือนจำที่ที่คุมขังครอบครัวของนายจั๋ว ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนคือ นายหมู นางดวง และ อรดา ซึ่งเป็นเมียของนายจั๋วโดยหยางเสี่ยวฟงรับรู้ได้ว่า อรดานั้นพึ่งคลอดลูกออกมาเป็นเพศหญิงส่วนสาเหตุที่ทั้งสามนั้นถูกจับกุมเพราะผัวพันกับคดีลักพาตัวเด็กข้ามชาติ โดยนายหมูกับนายดวงนั้นทำงานให้กับ คุณนายรัศมี ธนธรรมตระกูล ตอนนี้หนีการจับกุมไปกบดานอยู่ต่างประเทศ ทำให้การจับกุมล่าช้าอย่างมากแต่อย่างน้อยๆเครือข่ายของหล่อนที่นี้ก็ไม่มีแล้ว เพราะถูกจับกุมทั้งหมด
จ่าผลพาทั้งสองมาถึงห้องสอบสวนซึ่งหยางเสี่ยวฟงใช้เนตรน้ำเงิน มองทะลุห้องไปพบแค่เพียงนายหมูเท่านั้น มันทำให้เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่พามาแค่คนเดียว ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ควบคุมนักโทษเดินออกมาจากห้องสอบสวน พร้อมกับส่งเอกสารบางอย่างให้กับจ่าผลก่อนจะเดินจากไปแต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มสนใจ
"ผมต้องการสามคนทำไมมีแค่นายหมูคนเดียว" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"เมียนายจั๋วพึ่งคลอดลูกจำเป็นต้องพักผ่อน ส่วนนางดวงจำเป็นต้องดูแลเธอในฐานะลูกสะใภ้"
"ก็ได้งั้นขอพวกเราคุยกับอีกฝ่ายแบบส่วนตัวหน่อยละกัน" จ่าผลไม่มีทางเลือกจำใจต้องปล่อยให้หยางเสี่ยวฟงและอภิชัยเดินเข้าไปตามลำพังทั้งที่ใจจริงอยากเข้าไปมาก
ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องสอบสวนแล้วนายหมูนั้นแสดงสีหน้าฉงนว่า อีกฝ่ายเป็นใครดูยังไงไม่น่าจะใช่ตำรวจ หยางเสี่ยวฟงหันไปส่งซิกให้อภิชัยร่ายเวทย์บางอย่างออกมา เมื่อเขตอาคมทำงานแล้วทีนี้เขาก็จะคุยกับอีกฝ่ายได้ถนัดโดยตำรวจจะไม่สามารถล่วงรู้ได้ เท่าที่หยางเสี่ยวฟงสำรวจอีกฝ่าย นายหมูนั้นเป็นคนผอมบางเหมือนกระดูกเดินได้ ผิวสีแทนน้ำตาลไหม้หน่อยๆผมสีดำดวงตาสีดำ ตามประวัตินายหมูทำธุรกิจกับคุณนายรัศมีเกี่ยวกับค้ามนุษย์มานาน ดังนั้นข้อมูลในตัวผู้ชายคนนี้คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
"มึงสองคนเป็นใครว่ะ ไม่ใช่ตำรวจนี่" นายหมูถามขึ้นอย่างสงสัย หยางเสี่ยวฟงนึกไม่ถึงว่าเซนของนายหมูมันจะแม่นยำแบบนี้
"ก็ไม่เชิงนะแต่เอาง่ายๆว่า ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อดูหลานสาวของมึงเติบโต จงบอกข้อมูลเรื่องอีรัศมีนั้นมาให้กูชะ" หยางเสี่ยวฟงเข้าประเด็นทันที นายหมูแสดงอาการหวาดหวั่นขึ้นมาทันที ซึ่งอภิชัยจับจุดแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอยู่ดีๆรุ่นพี่ของเขาก็อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับภารกิจล่าอันเดธทีเหลือเลย
"มึงคิดว่ามึงเป็นใครว่ะ กูไม่บอกง่ายๆหรอก" นายหมูพูดจาอย่างโอหังจนลืมนึกไปว่าตัวเองเป็นนักโทษอยู่ หยางเสี่ยวฟงแสวะยิ้มออกมาราวกับชอบใจ ซึ่งอภิชัยใจคอไม่ดีอย่างมาก
"งั้นมาดูสิว่ามึงยังปากดีอยู่ไหม"
ดวงตาของหยางเสี่ยวฟงกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มราวกับทะเลดำ พร้อมคว้าข้อมือของนายหมูและจับแน่นชะเจ้าตัวไม่สามารถสลัดมันออกได้ และสิ่งที่ตามมาคือนายหมูดิ้นทุรนทุรายราวกับเขาโดนน้ำร้อนลวกทั้งตัว นายหมูก้มมองที่มือตนเองพบว่ามือเขาพุพองหนองที่ข้อมือ มันแสบร้อนจนถึงกระดูกและกำลังลามมาถึงแขนกับหัวไหล่ นายหมูร้องอ้อนวอนขอชีวิตแต่หยางเสี่ยวฟงหาได้สนใจไม่ยังทรมานเขาเหมือนเดิม จนอภิชัยนี่แหละที่ต้องห้ามรุ่นพี่ของเขาเสียเอง
"เฮียพอเถอะ เดียวได้ตายก่อนจะรู้ข้อมูลพอดี" อภิชัยพูดปรามทำให้หยางเสี่ยวฟงยอมปล่อยมือจากนายหมู
ซึ่งสิ่งแรกนายหมูที่ทำก่อนคือสำรวจมือแขนของตนเอง ที่ตอนนี้ไม่มีแผลพุพองหนองแล้วแต่ความรู้สึกแสบร้อนเมื่อครู่ ตนยังจำไม่มีวันลืมได้และเริ่มหวาดหวั่นต่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า และยิ่งสบตากับดวงตาสีน้ำเงินผสมดำคู่นั้นความหวาดกลัวก็ทวีคูณขึ้นไปอีก ตอนนี้นายหมูรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มาเล่นๆ
"ถ้ามึงยังไม่ยอมบอกกูว่าอีแพศยานั้นมันอยู่ที่ไหนละก็ กูถือว่ามึงชอบโดนแบบเมื่อกี้" หยางเสี่ยวฟงพูดข่มขู่
"ต่อให้มึงทรมานกูแค่ไหน กูก็บอกมึงไม่ได้หรอก..... คุณนายเขามีสายเยอะถ้ากูปากโป้ง ครอบครัวกูก็เดือดร้อนสิว่ะ"
"ออ เรอะ... โอเคงั้นเอางี้ หลานสาวของมึงเกิดวันที่ 8 กันยายน ใช่ป่ะ" หยางเสี่ยวฟงเกริ่นขึ้นมา ซึ่งมันได้ผลเมื่อมีการพูดถึงหลานสาวที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นทำไมอีกฝ่ายถึงรู้วันเกิดได้ แอบดูเอกสารใบแจ้งเกิดเหรอแต่... ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำใบแจ้งเลยนี่ แล้วทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงรู้
"มึงรู้ได้ไงว่าหลานกูเกิดเมื่อไหร่" นายหมูถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
"เฮอะ ! กูรู้มากกว่านั้นอีก หลานสาวของมึงนะชื่อ พรประภา ในอนาคตเธอจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข แต่งงาน มีลูกมีหลานและชีวิตในปั้นปลายก็จากไปอย่างสงบ แต่...." น้ำเสียงของหยางเสี่ยวฟงแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกจน นายหมูนั้นหายใจออกมาเป็นไอเย็นได้เลย
"มันจะเป็นยังไงน่าถ้าอายุของเด็กน้อยคนนี้สั้นลงมาเหลือชีวิตแค่อีก 2 ชั่วโมงข้างหน้านี้"
ประโยคมีผลกับนายหมูอย่างมากและก่อนที่ตนจะเอ๋ยปาก นายหมูก็ได้เห็นเงาร่างยมทูตโผล่มาทับซ้อนบนตัวของหยางเสี่ยวฟง มันใส่ผ้าคลุมสีดำสนิทราวกับเปลวเพลิงทมิฬ ถือเคียวเล่มยาวที่เหมือนพร้อมจะตวัดวิญญาณออกจากร่างก็มิปาน โครงหน้าไร้ผิวหนังเหลือเพียงโครงกระดูกสีขาวซีดจับจ้องมาที่นายหมู
"ตอนนี้มึงรู้แล้วใช่ไหมว่า กูทำอะไรได้บ้างกูจะต่อชีวิตหลานมึงได้..... กูก็ตัดชีวิตของหลานมึงได้เหมือนกัน ทีนี้บอกกูมาว่าอีรัศมีมันไปกบดานที่ไหนไม่งั้นหลานมึงจะตายก่อนมื้อเที่ยงของมึงแน่ ถ้ามึงยังไม่หยุดท้าทายกู"
"อย่าทำอะไรหลานกูเลย หลานกูไม่เกี่ยวหลานกูยังเล็ก....." พูดยังไม่ทันจบหยางเสี่ยวฟงกระชากคอเสื้อของนายหมููขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายมองหน้าเขา
"มันไม่ใช่เรื่องของกู ! ชีวิตของหลานมึงอยู่ในกำมือกู คลายก็รอด กำก็ตาย มันก็แค่นั้นแหละ มึงก็แค่ทำใจยอมรับชะเหมือนที่มึงลักพาตัวลูกหลานของคนอื่นไง กูจะทำให้มึงตายทั้งเป็นเหมือนพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้น.... และการที่มึงไม่ให้ความร่วมมือกูก็ถือว่ามึงขายชีวิตของหลานสาวมึงให้กับกูแล้ว ก่อนเที่ยงนี้หลานมึงจะนอนไหลตายบนเตียงนอนข้างลูกสะใภ้ของมึง" พูดจบหยางเสี่ยวฟงก็ปล่อยนายหมูก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู นายหมูวิ่งเข้ามากอดขาหยางเสี่ยวฟงด้วยท่าทีอ้อนวอน
"กูยอมแล้วอย่าทำหลานกู กูยอมบอกทุกอย่างแล้วปล่อยหลานกูเถอะ กูขอร้อง" นายหมูกล่าวอ้อนวอน
"งั้นบอกกูมาทั้งหมดที่มึงรู้"
นายหมูลุกขึ้นมากระซิบข้างหูของหยางเสี่ยวฟงซึ่งอภิชัยไม่รู้ว่า อีกฝ่ายบอกอะไรกับรุ่นพี่ของเขาแต่ที่แน่ๆหยางเสี่ยวฟงส่งสัญญาณให้กับอภิชัยว่าหมดธุระแล้ว ซึ่งเขานั้นตัดสินใจร่ายเวทย์เพื่อให้เขตอาคมหายไป และเขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินออกไปข้างนอกก่อน นั้นทำให้เขาต้องเจอสีหน้างงๆแปลกๆของจ่าผลที่อยู่ข้างนอก และอภิชัยเลือกที่จะเงียบไม่พูดคุยกับตำรวจยศจ่า ส่วนหยางเสี่ยวฟงที่ยังอยู่ในห้องนั้นก็กลับหลังหันเดินไปที่ประตู แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาเพื่อตอกย้ำนายหมูอีกครั้ง
"ถ้ามึงตอแหลกูละก็.... รู้นะว่าจะเจออะไร" นายหมูกลืนน้ำลายไม่ลงคอ แต่รู้สึกถึงไอเย็นวาบที่สันหลังอย่างบอกไม่ถูก และคงจะจำความรู้สึกนี้ไปจนตาย
+++++++++++++++++++++++++++
"เฮีย ทำไมอยู่ดีๆพามานี่ทำไมเนี่ย" อภิชัยถามขึ้นด้วยความสงสัย
หยางเสี่ยวฟงกับอภิชัยตัดสินใจเดินทางมาที่เรือนจำ โดยมีจ่าผลเป็นคนนำทางอีกทีเพราะเส้นทางมันคดเคี้ยวอย่างมาก อภิชัยไม่ค่อยเข้าใจว่ารุ่นพี่ของเขานั้นอะไรดลใจ อยากจะพบครอบครัวของนายจั๋วหนึ่งใน 7 คู่กรณีของมธุสร จากข้อมูลที่อภิชัยพอจะรู้คือนายจั๋วถูกฆ่าด้วยการถูกแทงเข้าที่ข้างหลัง และกรอกด้วยโซดาไฟแค่นั้นสำหรับบุคคลทั่วไปมันก็แสนทรมานแย่แล้ว แต่ไม่หนักสุดคือโดนตัดอวัยวะทิ้งและจับโดนให้ไอ้เห้แถะกินทั้งเป็น ! แค่คิดภาพมันก็สยองขวัญแล้ว
ส่วนที่ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ตัดสินใจมาที่เรือนจำที่ที่คุมขังครอบครัวของนายจั๋ว ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนคือ นายหมู นางดวง และ อรดา ซึ่งเป็นเมียของนายจั๋วโดยหยางเสี่ยวฟงรับรู้ได้ว่า อรดานั้นพึ่งคลอดลูกออกมาเป็นเพศหญิงส่วนสาเหตุที่ทั้งสามนั้นถูกจับกุมเพราะผัวพันกับคดีลักพาตัวเด็กข้ามชาติ โดยนายหมูกับนายดวงนั้นทำงานให้กับ คุณนายรัศมี ธนธรรมตระกูล ตอนนี้หนีการจับกุมไปกบดานอยู่ต่างประเทศ ทำให้การจับกุมล่าช้าอย่างมากแต่อย่างน้อยๆเครือข่ายของหล่อนที่นี้ก็ไม่มีแล้ว เพราะถูกจับกุมทั้งหมด
จ่าผลพาทั้งสองมาถึงห้องสอบสวนซึ่งหยางเสี่ยวฟงใช้เนตรน้ำเงิน มองทะลุห้องไปพบแค่เพียงนายหมูเท่านั้น มันทำให้เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่พามาแค่คนเดียว ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ควบคุมนักโทษเดินออกมาจากห้องสอบสวน พร้อมกับส่งเอกสารบางอย่างให้กับจ่าผลก่อนจะเดินจากไปแต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มสนใจ
"ผมต้องการสามคนทำไมมีแค่นายหมูคนเดียว" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"เมียนายจั๋วพึ่งคลอดลูกจำเป็นต้องพักผ่อน ส่วนนางดวงจำเป็นต้องดูแลเธอในฐานะลูกสะใภ้"
"ก็ได้งั้นขอพวกเราคุยกับอีกฝ่ายแบบส่วนตัวหน่อยละกัน" จ่าผลไม่มีทางเลือกจำใจต้องปล่อยให้หยางเสี่ยวฟงและอภิชัยเดินเข้าไปตามลำพังทั้งที่ใจจริงอยากเข้าไปมาก
ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องสอบสวนแล้วนายหมูนั้นแสดงสีหน้าฉงนว่า อีกฝ่ายเป็นใครดูยังไงไม่น่าจะใช่ตำรวจ หยางเสี่ยวฟงหันไปส่งซิกให้อภิชัยร่ายเวทย์บางอย่างออกมา เมื่อเขตอาคมทำงานแล้วทีนี้เขาก็จะคุยกับอีกฝ่ายได้ถนัดโดยตำรวจจะไม่สามารถล่วงรู้ได้ เท่าที่หยางเสี่ยวฟงสำรวจอีกฝ่าย นายหมูนั้นเป็นคนผอมบางเหมือนกระดูกเดินได้ ผิวสีแทนน้ำตาลไหม้หน่อยๆผมสีดำดวงตาสีดำ ตามประวัตินายหมูทำธุรกิจกับคุณนายรัศมีเกี่ยวกับค้ามนุษย์มานาน ดังนั้นข้อมูลในตัวผู้ชายคนนี้คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
"มึงสองคนเป็นใครว่ะ ไม่ใช่ตำรวจนี่" นายหมูถามขึ้นอย่างสงสัย หยางเสี่ยวฟงนึกไม่ถึงว่าเซนของนายหมูมันจะแม่นยำแบบนี้
"ก็ไม่เชิงนะแต่เอาง่ายๆว่า ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อดูหลานสาวของมึงเติบโต จงบอกข้อมูลเรื่องอีรัศมีนั้นมาให้กูชะ" หยางเสี่ยวฟงเข้าประเด็นทันที นายหมูแสดงอาการหวาดหวั่นขึ้นมาทันที ซึ่งอภิชัยจับจุดแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอยู่ดีๆรุ่นพี่ของเขาก็อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับภารกิจล่าอันเดธทีเหลือเลย
"มึงคิดว่ามึงเป็นใครว่ะ กูไม่บอกง่ายๆหรอก" นายหมูพูดจาอย่างโอหังจนลืมนึกไปว่าตัวเองเป็นนักโทษอยู่ หยางเสี่ยวฟงแสวะยิ้มออกมาราวกับชอบใจ ซึ่งอภิชัยใจคอไม่ดีอย่างมาก
"งั้นมาดูสิว่ามึงยังปากดีอยู่ไหม"
ดวงตาของหยางเสี่ยวฟงกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มราวกับทะเลดำ พร้อมคว้าข้อมือของนายหมูและจับแน่นชะเจ้าตัวไม่สามารถสลัดมันออกได้ และสิ่งที่ตามมาคือนายหมูดิ้นทุรนทุรายราวกับเขาโดนน้ำร้อนลวกทั้งตัว นายหมูก้มมองที่มือตนเองพบว่ามือเขาพุพองหนองที่ข้อมือ มันแสบร้อนจนถึงกระดูกและกำลังลามมาถึงแขนกับหัวไหล่ นายหมูร้องอ้อนวอนขอชีวิตแต่หยางเสี่ยวฟงหาได้สนใจไม่ยังทรมานเขาเหมือนเดิม จนอภิชัยนี่แหละที่ต้องห้ามรุ่นพี่ของเขาเสียเอง
"เฮียพอเถอะ เดียวได้ตายก่อนจะรู้ข้อมูลพอดี" อภิชัยพูดปรามทำให้หยางเสี่ยวฟงยอมปล่อยมือจากนายหมู
ซึ่งสิ่งแรกนายหมูที่ทำก่อนคือสำรวจมือแขนของตนเอง ที่ตอนนี้ไม่มีแผลพุพองหนองแล้วแต่ความรู้สึกแสบร้อนเมื่อครู่ ตนยังจำไม่มีวันลืมได้และเริ่มหวาดหวั่นต่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า และยิ่งสบตากับดวงตาสีน้ำเงินผสมดำคู่นั้นความหวาดกลัวก็ทวีคูณขึ้นไปอีก ตอนนี้นายหมูรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มาเล่นๆ
"ถ้ามึงยังไม่ยอมบอกกูว่าอีแพศยานั้นมันอยู่ที่ไหนละก็ กูถือว่ามึงชอบโดนแบบเมื่อกี้" หยางเสี่ยวฟงพูดข่มขู่
"ต่อให้มึงทรมานกูแค่ไหน กูก็บอกมึงไม่ได้หรอก..... คุณนายเขามีสายเยอะถ้ากูปากโป้ง ครอบครัวกูก็เดือดร้อนสิว่ะ"
"ออ เรอะ... โอเคงั้นเอางี้ หลานสาวของมึงเกิดวันที่ 8 กันยายน ใช่ป่ะ" หยางเสี่ยวฟงเกริ่นขึ้นมา ซึ่งมันได้ผลเมื่อมีการพูดถึงหลานสาวที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นทำไมอีกฝ่ายถึงรู้วันเกิดได้ แอบดูเอกสารใบแจ้งเกิดเหรอแต่... ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำใบแจ้งเลยนี่ แล้วทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงรู้
"มึงรู้ได้ไงว่าหลานกูเกิดเมื่อไหร่" นายหมูถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
"เฮอะ ! กูรู้มากกว่านั้นอีก หลานสาวของมึงนะชื่อ พรประภา ในอนาคตเธอจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข แต่งงาน มีลูกมีหลานและชีวิตในปั้นปลายก็จากไปอย่างสงบ แต่...." น้ำเสียงของหยางเสี่ยวฟงแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกจน นายหมูนั้นหายใจออกมาเป็นไอเย็นได้เลย
"มันจะเป็นยังไงน่าถ้าอายุของเด็กน้อยคนนี้สั้นลงมาเหลือชีวิตแค่อีก 2 ชั่วโมงข้างหน้านี้"
ประโยคมีผลกับนายหมูอย่างมากและก่อนที่ตนจะเอ๋ยปาก นายหมูก็ได้เห็นเงาร่างยมทูตโผล่มาทับซ้อนบนตัวของหยางเสี่ยวฟง มันใส่ผ้าคลุมสีดำสนิทราวกับเปลวเพลิงทมิฬ ถือเคียวเล่มยาวที่เหมือนพร้อมจะตวัดวิญญาณออกจากร่างก็มิปาน โครงหน้าไร้ผิวหนังเหลือเพียงโครงกระดูกสีขาวซีดจับจ้องมาที่นายหมู
"ตอนนี้มึงรู้แล้วใช่ไหมว่า กูทำอะไรได้บ้างกูจะต่อชีวิตหลานมึงได้..... กูก็ตัดชีวิตของหลานมึงได้เหมือนกัน ทีนี้บอกกูมาว่าอีรัศมีมันไปกบดานที่ไหนไม่งั้นหลานมึงจะตายก่อนมื้อเที่ยงของมึงแน่ ถ้ามึงยังไม่หยุดท้าทายกู"
"อย่าทำอะไรหลานกูเลย หลานกูไม่เกี่ยวหลานกูยังเล็ก....." พูดยังไม่ทันจบหยางเสี่ยวฟงกระชากคอเสื้อของนายหมููขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายมองหน้าเขา
"มันไม่ใช่เรื่องของกู ! ชีวิตของหลานมึงอยู่ในกำมือกู คลายก็รอด กำก็ตาย มันก็แค่นั้นแหละ มึงก็แค่ทำใจยอมรับชะเหมือนที่มึงลักพาตัวลูกหลานของคนอื่นไง กูจะทำให้มึงตายทั้งเป็นเหมือนพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้น.... และการที่มึงไม่ให้ความร่วมมือกูก็ถือว่ามึงขายชีวิตของหลานสาวมึงให้กับกูแล้ว ก่อนเที่ยงนี้หลานมึงจะนอนไหลตายบนเตียงนอนข้างลูกสะใภ้ของมึง" พูดจบหยางเสี่ยวฟงก็ปล่อยนายหมูก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู นายหมูวิ่งเข้ามากอดขาหยางเสี่ยวฟงด้วยท่าทีอ้อนวอน
"กูยอมแล้วอย่าทำหลานกู กูยอมบอกทุกอย่างแล้วปล่อยหลานกูเถอะ กูขอร้อง" นายหมูกล่าวอ้อนวอน
"งั้นบอกกูมาทั้งหมดที่มึงรู้"
นายหมูลุกขึ้นมากระซิบข้างหูของหยางเสี่ยวฟงซึ่งอภิชัยไม่รู้ว่า อีกฝ่ายบอกอะไรกับรุ่นพี่ของเขาแต่ที่แน่ๆหยางเสี่ยวฟงส่งสัญญาณให้กับอภิชัยว่าหมดธุระแล้ว ซึ่งเขานั้นตัดสินใจร่ายเวทย์เพื่อให้เขตอาคมหายไป และเขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินออกไปข้างนอกก่อน นั้นทำให้เขาต้องเจอสีหน้างงๆแปลกๆของจ่าผลที่อยู่ข้างนอก และอภิชัยเลือกที่จะเงียบไม่พูดคุยกับตำรวจยศจ่า ส่วนหยางเสี่ยวฟงที่ยังอยู่ในห้องนั้นก็กลับหลังหันเดินไปที่ประตู แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาเพื่อตอกย้ำนายหมูอีกครั้ง
"ถ้ามึงตอแหลกูละก็.... รู้นะว่าจะเจออะไร" นายหมูกลืนน้ำลายไม่ลงคอ แต่รู้สึกถึงไอเย็นวาบที่สันหลังอย่างบอกไม่ถูก และคงจะจำความรู้สึกนี้ไปจนตาย
+++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ