นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
55) ตอนที่ 55 ความหวังที่ริบหรี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องส่วนตัวของหมอณัฐฐา เวลา 09.18 น.
"ขอบคุณมากนะค่ะหมอที่ยอมให้ฉันมาพบทั้งๆที่วันนี้วันหยุดแท้ๆ" เยาวลักษณ์พูดด้วยท่าทีรู้สึกผิด แต่ยังไงเธอก็อยากปรึกษากับหมอณัฐฐาให้ได้ และทางฝ่ายหมอณัฐฐาก็พอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร
"ไม่เป็นไรค่ะคุณเยาว์ คนกันเองยังไงณัฐก็ว่างอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าค่ะ" หมอณัฐฐาถามขึ้น
"เรื่องของมธุสรกับน้องผึ้งค่ะ ฉันอยากรู้ว่าทั้งสองหายกลับมาเป็นปกติแล้วใช่ไหมค่ะ"
"เรื่องนั้นยังให้คำตอบไม่ได้เต็มร้อย แต่เท่าที่ณัฐตามดูอาการมาน้องผึ้งเริ่มมีอาการดีขึ้นคนแรก ซึ่งมันส่งผลไปยังคุณมธุสรแม่ของน้องผึ้งด้วย"
เมื่อได้ยินดังนั้นเยาวลักษ์รู้สึกมีความหวังว่าเพื่อนรักของเธอนั้น จะกลับมาเป็นปกติร่วมทั้งมธุกรด้วยหลังจากที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชนานนับเดือนตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ทว่ากับหมอณัฐฐาไม่คิดแบบนั้นเพราะยังมีคำสั่งศาลอยู่ว่า หากมธุสรหายเป็นปกติแล้วเธอต้องไปรับโทษจำคุกตลอดชีวิต จากคดีสะเทือนขวัญที่เธอก่อมาถึงแม้ว่าเหตุผลที่เธอทำ มันจะน่าเห็นใจแต่หากมองในรูปแบบของกฏหมายยังไงมธุสรก็ต้องรับโทษอยู่ดี หมอณัฐฐาได้แต่เห็นใจเท่านั้นเพราะเธอทำอะไรไม่ได้
"หมอคิดว่าเพราะเด็กคนนั้นหรือเปล่าค่ะ ที่ทำให้น้องผึ้งเริ่มดีขึ้น" จู่ๆเยาวลักษณ์ก็เกริ่นขึ้นมา
ไม่ใช่แค่หมอณัฐฐาเท่านั้นที่สังเกตเห็นคนเดียวเพราะเยาวลักษณ์ก็สังเกตเห็นเช่นกัน โดยระยะ 2-3 อาทิตย์แรกตอนที่เธอนั้นมาเยี่ยมนั้นจู่ๆมธุกรก็เริ่มบทสนทนากับเธอก่อน ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ใจสำหรับหญิงสาวอย่างมาก และยิ่งเหตุการณ์ที่มีคนบุกมาที่โรงพยาบาลนั้นก็มีคนเห็นมธุกรวิ่งเข้าไปกอดแท็กเอง บวกกับอีกหลายปัจจุัยมากมายยิ่งทำให้เยาวลักษณ์มั่นใจว่า เพราะแท็กซึ่งเป็นหลานสาวของกุลชาติถึงแม้ว่าบุคลิกภายนอกจะดูไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงก็ตาม
"เรื่องนั้นมันอาจมีส่วนหากจะให้สรุปโดยภาพร่วมนะค่ะ เคสของน้องผึ้งมีหมอหลายท่านให้ความสนใจพอสมควร" หมอณัฐฐาพูด
"แต่เหมือนหมอมีอะไรอยู่ในใจนะค่ะ" เยาวลักษณ์ถามขึ้น
"เรื่องอาการป่วยของคุณมธุสรกับน้องผึ้งมันอาจเป็นข่าวดี แต่..."
บรรยากาศภายในห้องอึดอัดและเงียบกริบทันที เพราะเยาวลักษณ์เข้าใจในสิ่งที่หมอณัฐฐากำลังจะสื่อ เธอลืมนึกไปว่ามธุสรนั้นมีคดีติดตัวและอายุความยังไม่หมด หากทางศาลรู้ว่ามธุสรหายเป็นปกติยังไงเธอก็ถูกส่งไปอยู่คุกอยู่ดี หรือต่อให้ไม่ต้องติดคุกก็ไม่รู้จะได้ใช้ชีวิตปกติรึเปล่า โธ่ มธุสร ชีวิตนี้เธอจะไม่มีความสุขกับเขาเลยเหรอ เยาวลักษณ์ได้แต่นึกสงสารเพื่อนรักและไหนจะมธุกรอีก เด็กสาวไม่มีญาติที่ไหนนอกจากแม่คนเดียว จะอยู่คนเดียวได้อย่างไร
"แล้วสารวัตรภาธรทราบเรื่องนี้ไหมค่ะหมอ"
"ช่วงนี้ณัฐแทบไม่ได้คุยกับธรเท่าไหร่ค่ะ เขาก็คงยุ่งกับงานอยู่" หมอณัฐฐาตอบ
ใจจริงแล้วเยาวลักษณ์ยอมรับว่าเธอเองขุ่นเคืองในตัวสารวัตรภาธร ที่ออกหมายจับมธุสรจนสุดท้ายก็ต้องถูกส่งมาที่โรงพยาบาลจิตเวช แต่จะโทษอีกฝ่ายไม่ได้เพราะตัวตำรวจหนุ่มก็ต้องตามหน้าที่ไป หากจะย้อนกลับไปจริงๆก็คือถ้ามธุสรกับมธุกรได้รับความเป็นธรรมมากกว่านี้ เยาวลักษณ์เชื่อว่าเพื่อนคนนี้ก็คงไม่ต้องมาถูกตีตราเป็นฆาตกรอำมหิตแบบนี้ แถมยังมาถูกรังควานจากอริเก่าที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตแบบอื่นอีก มันจะมีความหวังบ้างไหม
"อย่าพึ่งท้อนะเยาวว์ตอนนี้ณัฐไม่ได้สรุปว่าคุณมธุสรกับน้องผึ้งหายเป็นปกติ เพราะยังไงก็ต้องตามผลวินิจฉัยอยู่และเท่าที่ณัฐสังเกตมา คุณมธุสรยังมีอาการหวาดระแวงและมันพร้อมกำเริบได้ตลอดเวลา ดังนั้นคุณมธุสรยังไม่ได้ออกไปตอนนี้แน่นอนค่ะ"
ถึงแม้จะบอกว่าอย่าท้อแต่ความหวังที่เยาวลักษณ์จะได้เห็นมธุสรกับมธุกร กลับมาใช้ชีวิตปกตินั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกินไม่ต่างอะไรกับการพยายามจุดเทียนไขท่ามกลางลมฝนพายุในความมืด ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นเยาวลักษณ์กลับยังมีความหวังแบบนั้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม และเธอยิ่งเชื่อด้วยว่าแท็กอาจมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วย เพราะหากไม่ได้เด็กคนนี้มธุสรกับมธุกรก็อาจจะยังอยู่ในโลกสมมุติของกันและกันอยู่
"แล้วหมอคิดว่ายังมีความหวังอยู่ไหมค่ะ" เยาวลักษณ์ถามขึ้นอย่างลังเล
"ถึงความหวังมันจะดูริบหรี่ แต่ก็ยังมีแสงสว่างส่องนำทางอยู่" หมอณัฐฐาตอบ
+++++++++++++++++++++++++++
"ขอบคุณมากนะค่ะหมอที่ยอมให้ฉันมาพบทั้งๆที่วันนี้วันหยุดแท้ๆ" เยาวลักษณ์พูดด้วยท่าทีรู้สึกผิด แต่ยังไงเธอก็อยากปรึกษากับหมอณัฐฐาให้ได้ และทางฝ่ายหมอณัฐฐาก็พอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร
"ไม่เป็นไรค่ะคุณเยาว์ คนกันเองยังไงณัฐก็ว่างอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าค่ะ" หมอณัฐฐาถามขึ้น
"เรื่องของมธุสรกับน้องผึ้งค่ะ ฉันอยากรู้ว่าทั้งสองหายกลับมาเป็นปกติแล้วใช่ไหมค่ะ"
"เรื่องนั้นยังให้คำตอบไม่ได้เต็มร้อย แต่เท่าที่ณัฐตามดูอาการมาน้องผึ้งเริ่มมีอาการดีขึ้นคนแรก ซึ่งมันส่งผลไปยังคุณมธุสรแม่ของน้องผึ้งด้วย"
เมื่อได้ยินดังนั้นเยาวลักษ์รู้สึกมีความหวังว่าเพื่อนรักของเธอนั้น จะกลับมาเป็นปกติร่วมทั้งมธุกรด้วยหลังจากที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชนานนับเดือนตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ทว่ากับหมอณัฐฐาไม่คิดแบบนั้นเพราะยังมีคำสั่งศาลอยู่ว่า หากมธุสรหายเป็นปกติแล้วเธอต้องไปรับโทษจำคุกตลอดชีวิต จากคดีสะเทือนขวัญที่เธอก่อมาถึงแม้ว่าเหตุผลที่เธอทำ มันจะน่าเห็นใจแต่หากมองในรูปแบบของกฏหมายยังไงมธุสรก็ต้องรับโทษอยู่ดี หมอณัฐฐาได้แต่เห็นใจเท่านั้นเพราะเธอทำอะไรไม่ได้
"หมอคิดว่าเพราะเด็กคนนั้นหรือเปล่าค่ะ ที่ทำให้น้องผึ้งเริ่มดีขึ้น" จู่ๆเยาวลักษณ์ก็เกริ่นขึ้นมา
ไม่ใช่แค่หมอณัฐฐาเท่านั้นที่สังเกตเห็นคนเดียวเพราะเยาวลักษณ์ก็สังเกตเห็นเช่นกัน โดยระยะ 2-3 อาทิตย์แรกตอนที่เธอนั้นมาเยี่ยมนั้นจู่ๆมธุกรก็เริ่มบทสนทนากับเธอก่อน ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ใจสำหรับหญิงสาวอย่างมาก และยิ่งเหตุการณ์ที่มีคนบุกมาที่โรงพยาบาลนั้นก็มีคนเห็นมธุกรวิ่งเข้าไปกอดแท็กเอง บวกกับอีกหลายปัจจุัยมากมายยิ่งทำให้เยาวลักษณ์มั่นใจว่า เพราะแท็กซึ่งเป็นหลานสาวของกุลชาติถึงแม้ว่าบุคลิกภายนอกจะดูไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงก็ตาม
"เรื่องนั้นมันอาจมีส่วนหากจะให้สรุปโดยภาพร่วมนะค่ะ เคสของน้องผึ้งมีหมอหลายท่านให้ความสนใจพอสมควร" หมอณัฐฐาพูด
"แต่เหมือนหมอมีอะไรอยู่ในใจนะค่ะ" เยาวลักษณ์ถามขึ้น
"เรื่องอาการป่วยของคุณมธุสรกับน้องผึ้งมันอาจเป็นข่าวดี แต่..."
บรรยากาศภายในห้องอึดอัดและเงียบกริบทันที เพราะเยาวลักษณ์เข้าใจในสิ่งที่หมอณัฐฐากำลังจะสื่อ เธอลืมนึกไปว่ามธุสรนั้นมีคดีติดตัวและอายุความยังไม่หมด หากทางศาลรู้ว่ามธุสรหายเป็นปกติยังไงเธอก็ถูกส่งไปอยู่คุกอยู่ดี หรือต่อให้ไม่ต้องติดคุกก็ไม่รู้จะได้ใช้ชีวิตปกติรึเปล่า โธ่ มธุสร ชีวิตนี้เธอจะไม่มีความสุขกับเขาเลยเหรอ เยาวลักษณ์ได้แต่นึกสงสารเพื่อนรักและไหนจะมธุกรอีก เด็กสาวไม่มีญาติที่ไหนนอกจากแม่คนเดียว จะอยู่คนเดียวได้อย่างไร
"แล้วสารวัตรภาธรทราบเรื่องนี้ไหมค่ะหมอ"
"ช่วงนี้ณัฐแทบไม่ได้คุยกับธรเท่าไหร่ค่ะ เขาก็คงยุ่งกับงานอยู่" หมอณัฐฐาตอบ
ใจจริงแล้วเยาวลักษณ์ยอมรับว่าเธอเองขุ่นเคืองในตัวสารวัตรภาธร ที่ออกหมายจับมธุสรจนสุดท้ายก็ต้องถูกส่งมาที่โรงพยาบาลจิตเวช แต่จะโทษอีกฝ่ายไม่ได้เพราะตัวตำรวจหนุ่มก็ต้องตามหน้าที่ไป หากจะย้อนกลับไปจริงๆก็คือถ้ามธุสรกับมธุกรได้รับความเป็นธรรมมากกว่านี้ เยาวลักษณ์เชื่อว่าเพื่อนคนนี้ก็คงไม่ต้องมาถูกตีตราเป็นฆาตกรอำมหิตแบบนี้ แถมยังมาถูกรังควานจากอริเก่าที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตแบบอื่นอีก มันจะมีความหวังบ้างไหม
"อย่าพึ่งท้อนะเยาวว์ตอนนี้ณัฐไม่ได้สรุปว่าคุณมธุสรกับน้องผึ้งหายเป็นปกติ เพราะยังไงก็ต้องตามผลวินิจฉัยอยู่และเท่าที่ณัฐสังเกตมา คุณมธุสรยังมีอาการหวาดระแวงและมันพร้อมกำเริบได้ตลอดเวลา ดังนั้นคุณมธุสรยังไม่ได้ออกไปตอนนี้แน่นอนค่ะ"
ถึงแม้จะบอกว่าอย่าท้อแต่ความหวังที่เยาวลักษณ์จะได้เห็นมธุสรกับมธุกร กลับมาใช้ชีวิตปกตินั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกินไม่ต่างอะไรกับการพยายามจุดเทียนไขท่ามกลางลมฝนพายุในความมืด ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นเยาวลักษณ์กลับยังมีความหวังแบบนั้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม และเธอยิ่งเชื่อด้วยว่าแท็กอาจมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วย เพราะหากไม่ได้เด็กคนนี้มธุสรกับมธุกรก็อาจจะยังอยู่ในโลกสมมุติของกันและกันอยู่
"แล้วหมอคิดว่ายังมีความหวังอยู่ไหมค่ะ" เยาวลักษณ์ถามขึ้นอย่างลังเล
"ถึงความหวังมันจะดูริบหรี่ แต่ก็ยังมีแสงสว่างส่องนำทางอยู่" หมอณัฐฐาตอบ
+++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ