นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
45) ตอนที่ 45 ดักรอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านของนายบึ๊ก เวลา 20.15 น.
บริเวณหน้าบ้านของครอบครัวของนายบึ๊ก เงียบสนิทและเงียบเหงาในเวลาเดียวกัน แต่ในฝั่งตรงข้ามบ้านนายบึ๊กนั้นมีโรงแรม ห้องเช่าพักเก่าๆไม่ค่อยหรูมาก จ่านนท์กับจ่าเข้มพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 5 นายเท่านั้น หลังจากที่สารวัตรภาธรมอบคำสั่งให้ทั้งคู่นั้นจับตาดูครอบครัวของนายบึ๊กในค่ำคืนนี้ เผื่อว่าเป้าหมายจะปรากฎตัวซึ่งก่อนที่ทั้งคู่จะลงพื้นที่ ได้แอบปลอมตัวเป็นนักสืบธรรมดา ไปสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงซึ่งผลออกมาคือ หลังจากที่สูญเสียนายบึ๊กไปครอบครัวก็ตัดขาดกับชุมชน เพราะทนกับกระแสสังคมไม่ได้
วันนี้นายสินตัดสินลาหยุดไม่ไปค้าขายซึ่งจ่าเข้มเดาว่า นายสินคงอยากมีเวลาให้กับแม่และเมีย ซึ่งสภาพจิตใจยังไม่ดีเท่าไหร่กับการสูญเสีย ในใจของตำรวจหนุ่มก็คงคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นคนเลวร้ายแค่ไหนก็ยังคงเป็นลูกเป็นหลานอยู่ดี แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องรับกรรมที่นายบึ๊กก่อเอาไว้ หากนายบึ๊กรับรู้น่าจะสำนึกผิดอะไรบ้าง แต่นายบึ๊กกลายเป็นอันเดธไปแล้วคงยากที่จะสำนึกแบบนั้น
"จ่าครับ นายสินปิดประตูบ้านแล้วครับ" เสียงตำรวจข้างๆดึงสติจ่าเข้ม เพื่อให้โฟกัสกับภารกิจนี้
ตอนนี้ไฟด้านล่างของบ้านนั้นมืดดำสนิทแล้ว คงเหลือเพียงไฟสว่างด้านบนเท่านั้น และจ่าเข้มกับจ่านนท์เชื่อสุดใจว่าทั้งสาม สมาชิกในบ้านคงไม่นอนตอนนี้ง่ายๆ ซึ่งถัดมาในฝั่งของครอบครัวนายสินนั้น กำลังมีปากเสียงกันเล็กน้อยแต่นายสินกับแม่จำปา พยายามที่จะเบาเสียงลงเพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน โดยเฉพาะนายสินที่ไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องที่ภรรยากำลังบอก ตนเองอยู่ในขณะนี้และเขาไม่ได้มีท่าทีจะยินดีกับข่าวนี้เลย
"ข้าจะแจ้งทางการยังไงคงไม่มีปัญญา หาเงินมาจ้างนักล่าอันเดธแน่ๆ" นายสินกล่าวตามสิ่งที่ตนคิด
"อย่านะพี่สิน ยังไงนั้นก็ลูกของฉันกับพี่สินนะ จะฆ่าแกงกันเลยรึ" แม่จำปาถามสามีทั้งน้ำตาแต่นายสินไม่ได้มีท่าทีจะใจอ่อนลง
"จำปา เจ้าบึ๊กลูกของเราตายไปแล้ว สิ่งที่น้องเห็นคงเป็นวิญญาณของมันและพี่เชื่อว่า มันคงเป็นวิญญาณไม่ดีไปชะมากกว่า หรือไม่อาจเป็นอันเดธที่จะสร้างปัญหามากขึ้น จัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมง่ายกว่า"
"พี่สินทำไมจิตใจพี่ถึงใจดำแบบนี้ละ ยังไงสำหรับฉันนั้นก็คือบึ๊กฉันจะไม่ยอมให้พี่สินทำอะไรลูกอีก" นายสินเดินเข้ามาจับตัวแม่จำปาพร้อมมองหน้าภรรยา เขาเข้าใจดีว่าแม่จำปากำลังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับนายสินไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกเจ็บหรือเสียใจ ยังไงชะนั้นก็คือลูกการตายของนายบึ๊ก ทำให้นายสินเสียใจอยู่ไม่น้อยแต่เขาต้องทำใจและเดินหน้าต่อ แต่อยู่ดีๆแม่จำปาและแม่แต้มมาเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก
"ยอมรับความจริงได้แล้วแม่จำปา ลูกเราสองคนตายไปแล้วและการที่ลูกเรามา ก็ไม่ได้เป็นคนแล้วด้วย"
"แต่ผมก็ได้รับชีวิตใหม่และกลับมาหาพ่อแม่กับย่า มันไม่ดีงั้นเหรอพ่อ"
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสองคน ซึ่งแม่จำปานั้นแสดงสีหน้าดีใจอย่างมากเมื่อได้เห็น นายบึ๊กบุตรชายอีกครั้งแต่ทว่านายสินกลับทำตรงข้าม นั้นคือการไปคว้าปืนลูกซองแฝดของตนเองออกมา พร้อมกับเล็งไปทางนายบึ๊กผู้ขึ้นชื่อเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แม่แต้มกับแม่จำปาแสดงสีหน้าตกใจ กับการกระทำของนายสินแต่กับนายบึ๊กไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร นอกจากยืนนิ่งและจ้องมองพ่อของตัวเอง
"ชีวิตใหม่งั้นเหรอ... ข้าไม่สนว่านั้นจะเป็นเอ็งหรือไม่ไอ้บึ๊ก แต่สำหรับข้านะเอ็งตายไปตั้งนานแล้ว ตายไปพร้อมกับความอัปยศที่เอ็งทำเอาไว้ ทำให้แม่กับย่าที่เลี้ยงเอ็งมาไม่เคยขาดตกบกพร่อง ต้องพลอยรับกรรมที่เอ็งก่อเอาไว้ ขนาดก่อนตายเอ็งก็ยังทำอีกคนอย่างเอ็งมันเกินเยียวยาแล้ว" นายสินพูดอย่างเดือดดาลและพร้อมจะยิงนายบึ๊กทันที
"พี่สิน ! ใจคอพี่จะยิงลูกได้ลงคอเลยเหรอ" แม่จำปากล่าวอย่างอ้อนวอนด้วยท่าทีที่ใจสลาย
"แม่ก็ขอด้วยคนนะลูก อย่าฆ่าแกงกันเลยแม่ขอร้อง" แม่แต้มก็เสริมด้วยอีกคน
"อย่างที่ผมบอกไปนะแหละแม่ว่า ผมทำใจได้แล้วกับการสูญเสียลูกเหมือนกับที่ ยัยติ่มต้องทำใจกับเรื่องลูกสาวของมัน"
เมื่อได้ยินชื่อแม่ติ่มนั้นนายบึ๊กแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวจนลืมตัว แต่ก่อนที่สมองนายบึ๊กจะทำงานว่าจะจัดการกับแม่ติ่มยังไงนั้น กระสุนลูกซองก็เฉียดหน้านายบึ๊กไปนิดเดียวเท่านั้น เมื่อได้เห็นสีหน้านายสินพ่อของตัวเองก็พบว่า นายสินแสดงสีหน้าให้เห็นว่าเขาไม่ลังเลที่จะยิงนายบึ๊กเลยแม้แต่น้อย ภาพตอนที่นายสินชอบด่าทอทุบตีเขาเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ยังคงเป็นคนผิดในสายตาของนายสินอยู่ดี งั้นเขาจะเก็บชายคนนี้ไว้ทำไมละ
"ข้ารู้นะว่าเอ็งจะทำอะไรชั่วๆนะไอ้บึ๊ก ข้าจะดับลมหายใจของเอ็งตรงนี้เลย" นายสินประกาศก้าว
"พ่อปกป้องอีแม่ค้านั้นมากกว่าผมงั้นเหรอ ที่ครอบครัวเราต้องตกอับแบบนี้เพราะนางแม่ค้านั้นแหละพ่อ ทำไมถึงยังเลือกมัน"
"ทั้งหมดที่แม่ติ่มทำก็เพราะเอ็งนั้นแหละไอ้ลูกชั่ว ถ้าเอ็งไม่ไปข่มขืนลูกแม่ติ่มก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าโตมาทำตัวแบบนี้นะข้าน่าจะเอาไปทิ้งข้างถนนให้ตายเลยยังดีชะกว่า"
"พี่สิน !"
แววตานายบึ๊กเริ่มแปรเปลี่ยนไปจนนายสินสัมผัสได้ และแม่แต้มที่ได้เห็นแบบนั้นก็เริ่มปักใจเชื่อแล้วว่า นั้นไม่ใช่หลานชายของตนเองอีกต่อไปแล้ว เล็บที่มือขวาของนายบึ๊กงอกยาวและแหลมคม แต่ก่อนที่เขาจะจู่โจมนั้นนายสินก็ลั่นไกปืนใส่อีกรอบ ซึ่งคราวนี้นายบึ๊กหลบได้ และใช้กรงเล็บพุ่งจู่โจมนายสินทันทีแต่ฝ่ายนายสินใช้กระบอกปืน กันเล็บเอาไว้และภาพตรงหน้าของแม่จำปานั้น แทบทำให้เธอนั้นสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
"ไม่ใช่พ่อผมอีกแล้ว ผมจะเก็บแค่แม่กับย่าก็พอ" คำพูดของนายบึ๊กทำให้ใจของแม่จำปา แทบจะกลายเป็นผงธุลีเพราะเธอไม่อยากให้ลูกฆ่าพ่อผู้ให้กำเนิด
แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายกว่านี้จ่าเข้มก็พุ่งเข้าทางหน้าต่างเข้ามา พร้อมกับโจมตีด้วยปลายทวนแต่นายบึ๊ก เบี่ยงหลบไปทางซ้ายมือแต่ก็ยังโดนคมดาบ ฟาดลงบนไหล่ของนายบึ๊กทำให้เกิดรอยแผลยาว และเลือดดำอาบหลังนายบึ๊กซึ่งเมื่อรู้ว่าบาดเจ็บก็ตอบโต้กลับ แต่จ่าเข้มใช้ทวนกันเอาไว้จากนั้นตำรวจอีก 5 นาย พร้อมกับจ่านนท์ก็บุกเข้ามาล้อมนายบึ๊กเอาไว้ ซึ่งเมื่อนายบึ๊กรู้ว่าตนเสียเปรียบเพราะไม่อยากให้แม่กับย่า เห็นร่างอันเดธของตนเองเด็ดขาดจึงได้ตัดสินใจ คว้าระเบิดควันออกมาและโยนลงที่พื้น เกิดเป็นควันสีดำมากมายขึ้น
ตำรวจนายหนึ่งใช้พลังควบคุมลมปัดควันดำออกไป จนไม่เหลือควันเหลือภายในบ้านแต่ไม่พบร่องรอยของนายบึ๊กอีก จ่าเข้มได้ตรวจสอบว่ามีพลเรือนคนไหนได้รับบาดเจ็บไหม สำหรับแม่จำปานั้นแม้ว่าจะไม่เจ็บกายแต่ใจของเธอ ก็บอกช้ำเกินกว่าที่จะมีสิ่งใดเยียวยาได้อีกแล้ว เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอได้กลายเป็นสิ่งชั่วร้ายไปเสียแล้ว
จ่าเข้มนั้นใช้วิทยุเรียกรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่ม เพื่อดูแลนายสิน แม่แต้ม และแม่จำปาอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะแม่จำปา ที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ส่วนนายสินแม้จะไม่มีเลือดตกยางออกแต่ก็มีรอยช้ำเล็กน้อย ระหว่างที่บ้านของนายสินกำลังวุ่นวายอยู่นั้น ในบริเวณนอกกลุ่มคนดู ได้มีบุคคลหนึ่งแอบมองอยู่ไกลๆจนไม่มีใครสังเกตเห็น แม้แต่รอยยิ้มอันชั่วร้ายของคนๆนี้
"นึกแผนอะไรสนุกๆชะแล้วสิ"
+++++++++++++++++++++
บริเวณหน้าบ้านของครอบครัวของนายบึ๊ก เงียบสนิทและเงียบเหงาในเวลาเดียวกัน แต่ในฝั่งตรงข้ามบ้านนายบึ๊กนั้นมีโรงแรม ห้องเช่าพักเก่าๆไม่ค่อยหรูมาก จ่านนท์กับจ่าเข้มพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 5 นายเท่านั้น หลังจากที่สารวัตรภาธรมอบคำสั่งให้ทั้งคู่นั้นจับตาดูครอบครัวของนายบึ๊กในค่ำคืนนี้ เผื่อว่าเป้าหมายจะปรากฎตัวซึ่งก่อนที่ทั้งคู่จะลงพื้นที่ ได้แอบปลอมตัวเป็นนักสืบธรรมดา ไปสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงซึ่งผลออกมาคือ หลังจากที่สูญเสียนายบึ๊กไปครอบครัวก็ตัดขาดกับชุมชน เพราะทนกับกระแสสังคมไม่ได้
วันนี้นายสินตัดสินลาหยุดไม่ไปค้าขายซึ่งจ่าเข้มเดาว่า นายสินคงอยากมีเวลาให้กับแม่และเมีย ซึ่งสภาพจิตใจยังไม่ดีเท่าไหร่กับการสูญเสีย ในใจของตำรวจหนุ่มก็คงคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นคนเลวร้ายแค่ไหนก็ยังคงเป็นลูกเป็นหลานอยู่ดี แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องรับกรรมที่นายบึ๊กก่อเอาไว้ หากนายบึ๊กรับรู้น่าจะสำนึกผิดอะไรบ้าง แต่นายบึ๊กกลายเป็นอันเดธไปแล้วคงยากที่จะสำนึกแบบนั้น
"จ่าครับ นายสินปิดประตูบ้านแล้วครับ" เสียงตำรวจข้างๆดึงสติจ่าเข้ม เพื่อให้โฟกัสกับภารกิจนี้
ตอนนี้ไฟด้านล่างของบ้านนั้นมืดดำสนิทแล้ว คงเหลือเพียงไฟสว่างด้านบนเท่านั้น และจ่าเข้มกับจ่านนท์เชื่อสุดใจว่าทั้งสาม สมาชิกในบ้านคงไม่นอนตอนนี้ง่ายๆ ซึ่งถัดมาในฝั่งของครอบครัวนายสินนั้น กำลังมีปากเสียงกันเล็กน้อยแต่นายสินกับแม่จำปา พยายามที่จะเบาเสียงลงเพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน โดยเฉพาะนายสินที่ไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องที่ภรรยากำลังบอก ตนเองอยู่ในขณะนี้และเขาไม่ได้มีท่าทีจะยินดีกับข่าวนี้เลย
"ข้าจะแจ้งทางการยังไงคงไม่มีปัญญา หาเงินมาจ้างนักล่าอันเดธแน่ๆ" นายสินกล่าวตามสิ่งที่ตนคิด
"อย่านะพี่สิน ยังไงนั้นก็ลูกของฉันกับพี่สินนะ จะฆ่าแกงกันเลยรึ" แม่จำปาถามสามีทั้งน้ำตาแต่นายสินไม่ได้มีท่าทีจะใจอ่อนลง
"จำปา เจ้าบึ๊กลูกของเราตายไปแล้ว สิ่งที่น้องเห็นคงเป็นวิญญาณของมันและพี่เชื่อว่า มันคงเป็นวิญญาณไม่ดีไปชะมากกว่า หรือไม่อาจเป็นอันเดธที่จะสร้างปัญหามากขึ้น จัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมง่ายกว่า"
"พี่สินทำไมจิตใจพี่ถึงใจดำแบบนี้ละ ยังไงสำหรับฉันนั้นก็คือบึ๊กฉันจะไม่ยอมให้พี่สินทำอะไรลูกอีก" นายสินเดินเข้ามาจับตัวแม่จำปาพร้อมมองหน้าภรรยา เขาเข้าใจดีว่าแม่จำปากำลังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับนายสินไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกเจ็บหรือเสียใจ ยังไงชะนั้นก็คือลูกการตายของนายบึ๊ก ทำให้นายสินเสียใจอยู่ไม่น้อยแต่เขาต้องทำใจและเดินหน้าต่อ แต่อยู่ดีๆแม่จำปาและแม่แต้มมาเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก
"ยอมรับความจริงได้แล้วแม่จำปา ลูกเราสองคนตายไปแล้วและการที่ลูกเรามา ก็ไม่ได้เป็นคนแล้วด้วย"
"แต่ผมก็ได้รับชีวิตใหม่และกลับมาหาพ่อแม่กับย่า มันไม่ดีงั้นเหรอพ่อ"
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสองคน ซึ่งแม่จำปานั้นแสดงสีหน้าดีใจอย่างมากเมื่อได้เห็น นายบึ๊กบุตรชายอีกครั้งแต่ทว่านายสินกลับทำตรงข้าม นั้นคือการไปคว้าปืนลูกซองแฝดของตนเองออกมา พร้อมกับเล็งไปทางนายบึ๊กผู้ขึ้นชื่อเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แม่แต้มกับแม่จำปาแสดงสีหน้าตกใจ กับการกระทำของนายสินแต่กับนายบึ๊กไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร นอกจากยืนนิ่งและจ้องมองพ่อของตัวเอง
"ชีวิตใหม่งั้นเหรอ... ข้าไม่สนว่านั้นจะเป็นเอ็งหรือไม่ไอ้บึ๊ก แต่สำหรับข้านะเอ็งตายไปตั้งนานแล้ว ตายไปพร้อมกับความอัปยศที่เอ็งทำเอาไว้ ทำให้แม่กับย่าที่เลี้ยงเอ็งมาไม่เคยขาดตกบกพร่อง ต้องพลอยรับกรรมที่เอ็งก่อเอาไว้ ขนาดก่อนตายเอ็งก็ยังทำอีกคนอย่างเอ็งมันเกินเยียวยาแล้ว" นายสินพูดอย่างเดือดดาลและพร้อมจะยิงนายบึ๊กทันที
"พี่สิน ! ใจคอพี่จะยิงลูกได้ลงคอเลยเหรอ" แม่จำปากล่าวอย่างอ้อนวอนด้วยท่าทีที่ใจสลาย
"แม่ก็ขอด้วยคนนะลูก อย่าฆ่าแกงกันเลยแม่ขอร้อง" แม่แต้มก็เสริมด้วยอีกคน
"อย่างที่ผมบอกไปนะแหละแม่ว่า ผมทำใจได้แล้วกับการสูญเสียลูกเหมือนกับที่ ยัยติ่มต้องทำใจกับเรื่องลูกสาวของมัน"
เมื่อได้ยินชื่อแม่ติ่มนั้นนายบึ๊กแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวจนลืมตัว แต่ก่อนที่สมองนายบึ๊กจะทำงานว่าจะจัดการกับแม่ติ่มยังไงนั้น กระสุนลูกซองก็เฉียดหน้านายบึ๊กไปนิดเดียวเท่านั้น เมื่อได้เห็นสีหน้านายสินพ่อของตัวเองก็พบว่า นายสินแสดงสีหน้าให้เห็นว่าเขาไม่ลังเลที่จะยิงนายบึ๊กเลยแม้แต่น้อย ภาพตอนที่นายสินชอบด่าทอทุบตีเขาเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ยังคงเป็นคนผิดในสายตาของนายสินอยู่ดี งั้นเขาจะเก็บชายคนนี้ไว้ทำไมละ
"ข้ารู้นะว่าเอ็งจะทำอะไรชั่วๆนะไอ้บึ๊ก ข้าจะดับลมหายใจของเอ็งตรงนี้เลย" นายสินประกาศก้าว
"พ่อปกป้องอีแม่ค้านั้นมากกว่าผมงั้นเหรอ ที่ครอบครัวเราต้องตกอับแบบนี้เพราะนางแม่ค้านั้นแหละพ่อ ทำไมถึงยังเลือกมัน"
"ทั้งหมดที่แม่ติ่มทำก็เพราะเอ็งนั้นแหละไอ้ลูกชั่ว ถ้าเอ็งไม่ไปข่มขืนลูกแม่ติ่มก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าโตมาทำตัวแบบนี้นะข้าน่าจะเอาไปทิ้งข้างถนนให้ตายเลยยังดีชะกว่า"
"พี่สิน !"
แววตานายบึ๊กเริ่มแปรเปลี่ยนไปจนนายสินสัมผัสได้ และแม่แต้มที่ได้เห็นแบบนั้นก็เริ่มปักใจเชื่อแล้วว่า นั้นไม่ใช่หลานชายของตนเองอีกต่อไปแล้ว เล็บที่มือขวาของนายบึ๊กงอกยาวและแหลมคม แต่ก่อนที่เขาจะจู่โจมนั้นนายสินก็ลั่นไกปืนใส่อีกรอบ ซึ่งคราวนี้นายบึ๊กหลบได้ และใช้กรงเล็บพุ่งจู่โจมนายสินทันทีแต่ฝ่ายนายสินใช้กระบอกปืน กันเล็บเอาไว้และภาพตรงหน้าของแม่จำปานั้น แทบทำให้เธอนั้นสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
"ไม่ใช่พ่อผมอีกแล้ว ผมจะเก็บแค่แม่กับย่าก็พอ" คำพูดของนายบึ๊กทำให้ใจของแม่จำปา แทบจะกลายเป็นผงธุลีเพราะเธอไม่อยากให้ลูกฆ่าพ่อผู้ให้กำเนิด
แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายกว่านี้จ่าเข้มก็พุ่งเข้าทางหน้าต่างเข้ามา พร้อมกับโจมตีด้วยปลายทวนแต่นายบึ๊ก เบี่ยงหลบไปทางซ้ายมือแต่ก็ยังโดนคมดาบ ฟาดลงบนไหล่ของนายบึ๊กทำให้เกิดรอยแผลยาว และเลือดดำอาบหลังนายบึ๊กซึ่งเมื่อรู้ว่าบาดเจ็บก็ตอบโต้กลับ แต่จ่าเข้มใช้ทวนกันเอาไว้จากนั้นตำรวจอีก 5 นาย พร้อมกับจ่านนท์ก็บุกเข้ามาล้อมนายบึ๊กเอาไว้ ซึ่งเมื่อนายบึ๊กรู้ว่าตนเสียเปรียบเพราะไม่อยากให้แม่กับย่า เห็นร่างอันเดธของตนเองเด็ดขาดจึงได้ตัดสินใจ คว้าระเบิดควันออกมาและโยนลงที่พื้น เกิดเป็นควันสีดำมากมายขึ้น
ตำรวจนายหนึ่งใช้พลังควบคุมลมปัดควันดำออกไป จนไม่เหลือควันเหลือภายในบ้านแต่ไม่พบร่องรอยของนายบึ๊กอีก จ่าเข้มได้ตรวจสอบว่ามีพลเรือนคนไหนได้รับบาดเจ็บไหม สำหรับแม่จำปานั้นแม้ว่าจะไม่เจ็บกายแต่ใจของเธอ ก็บอกช้ำเกินกว่าที่จะมีสิ่งใดเยียวยาได้อีกแล้ว เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอได้กลายเป็นสิ่งชั่วร้ายไปเสียแล้ว
จ่าเข้มนั้นใช้วิทยุเรียกรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่ม เพื่อดูแลนายสิน แม่แต้ม และแม่จำปาอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะแม่จำปา ที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ส่วนนายสินแม้จะไม่มีเลือดตกยางออกแต่ก็มีรอยช้ำเล็กน้อย ระหว่างที่บ้านของนายสินกำลังวุ่นวายอยู่นั้น ในบริเวณนอกกลุ่มคนดู ได้มีบุคคลหนึ่งแอบมองอยู่ไกลๆจนไม่มีใครสังเกตเห็น แม้แต่รอยยิ้มอันชั่วร้ายของคนๆนี้
"นึกแผนอะไรสนุกๆชะแล้วสิ"
+++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ