ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  17.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ตอนที่ 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                ไลค์ สตาร์ยังคงจ้องหน้าฉันนิ่งนั่นทำเอาฉันอยู่ไม่เป็นสุข จะมาจ้องฉันทำไมเนี่ย!                 “ว้ายยยย!!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อไลค์ สตาร์อุ้มฉันขึ้นแบบไม่ให้ตั้งตัวก่อนที่จะสาวเท้ายาวๆไปที่เตียง                 ฟุบ!                 ไลค์ สตาร์โยนฉันลงบนเตียงเหมือนตอนที่พาฉันมาแต่ครั้งนี้มันแตกต่างกันที่……เขามาคร่อมตัวฉันเอาไว้น่ะสิ!! คิดจะทำบ้าอะไรห๊ะ!!                 “จะทำบ้าอะไรของนาย ถอยออกไปนะ!!” ฉันทั้งถีบทั้งผละไลค์ สตาร์ออกห่างจากตัว ก่อนที่จะโดนรวบมือเอาไว้ด้านข้าง                 “ฉันจะให้เธอพูดอีกที จะกลับไปที่นั่นมั้ย?” ไลค์ สตาร์ถามเสียงเรียบ                 “ก็ใช่น่ะสิ! ฉันจะกลับ ปล่อยฉันนะ!!” ฉันดิ้นพล่านไปมาทันที ปล่อยช้านนนน~                 ไลค์ สตาร์ปล่อยมือฉันออกแต่เปลี่ยนเป็นรวบมือฉันไว้เหนือหัวแทน ก่อนที่จะล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ                 ขวดแก้วสีใสที่บรรจุของเหลวสีฟ้าเอาไว้ทำให้ฉันเบิกตากว้างทันที นี่เขาไม่คิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย!!?? O.O!                 “นั่นนายจะทำอะไรน่ะ!?อย่านะ!! O.O!” ฉันเริ่มดิ้นแรงกว่าเดิมเมื่อไลค์ สตาร์กรอกของเหลวสีฟ้านั่นเข้าปาก ไม่นะ! มันต้องไม่เป็นอย่างนี้สิ!!!!                 ไลค์ สตาร์แสะยิ้มมาให้ฉันก่อนที่จะรีบประกบริมฝีปากลงมาทันที ฉันเม้มปากเอาไว้อย่างขัดขืนแต่หมอนั่นกลับบีบแก้มฉันให้เปิดปาก ก่อนที่แผ่นลิ้นร้อนชื้นจะเข้ามาควานหาความหวานในปากพร้อมๆกับรสชาติเย็นๆของของเหลวที่หมอนั่นเพิ่งกรอกเข้าปากไปก่อนที่มันจะค่อยๆไหลสู่ลำคอ ฉันดิ้นพล่านไปมาอย่างทรมาน ทำไมต้องทำอย่างนี้กับฉันด้วย!!!                 ฉันบิดตัวไปมาอย่างทรมาน ร้อน ร้อนมากๆเลย ทำไมมันร้อนอย่างนี้!!                 ไลค์ สตาร์ถอนปากออกจากฉันก่อนที่ปล่อยฉันเป็นอิสระ แต่ฉันไม่มีแม้แต่แรงที่จะเอ่ยปากด้วยซ้ำ ได้แต่บิดตัวไปมาพร้อมๆกับกุมต้นคอด้วยท่าทางที่ทรมาน ไม่ไหว ไม่ไหวแล้วววว!!!!!!!                 “อ๊ายยยยยยยยย!!!!!!” ฉันกรี๊ดร้องอย่างทรมาน ร่างกายมันร้อนรุ่มเหมือนโดนไฟเผาน้ำตามากมายไหลออกจากดวงตา เหงื่อมากมายผุดขึ้นตามไรผม ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม บัดนี้ถูกกลบด้วยสีหน้าที่แสนทรมาน ก่อนที่ตราพันธะสีดำจะค่อยๆปรากฎขึ้นบนคอของฉันและไลค์ สตาร์                 ไลค์ สตาร์วางมือลงบนหน้าผากฉันเบาๆก่อนที่ความทรมานจะค่อยๆจางหายไปจนกลายมาเป็นปกติ ตราพันธะค่อยๆหายเข้าไปในเนื้อ ก่อนที่ฉันจะค่อยๆหลับตาลงจนเข้าสู่หวงนิทราในที่สุด
                 ฉันกระพริบตาถี่เมื่อตื่นขึ้นมาเจอไลค์ สตาร์ที่กำลังเช็ดตัวให้อยู่  เอ๋? แต่ผมสีทองแบบนี่มัน…….                 “เทสึ O.O!!” ฉันเบิกตากว้างทันที หมอนี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง? แล้วที่นี่มัน……                 ฉันมองไปรอบๆก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล -_-^^                 “ก็ฉันน่ะสิ ว่าแต่ไปทำทำอะไรมาถึงโดนทำร้ายได้น่ะ?” เทสึถามพลางจ้องหน้าฉันนิ่ง โดนทำร้าย? ฉันไปโดนทำร้ายตอนไหนเนี่ย!                 “โดนทำร้าย? ฉันเนี่ยนะ!” ฉันถามอย่างงงๆฉันเป็นเทพนะย่ะ! จะโดนคนธรรมดาทำร้ายได้ยังไง?                 “ก็ใช่น่ะสิ! ตัวเองโดนแทงยังไม่รู้ตัวอีก ถ้าฉันไปไม่ทันเธอจะเป็นยังไงห๊ะ!” เทสึพูดขึ้นอย่างกับอดกลั้นมานาน ว่าแต่ ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น?                 “เดี๋ยวๆ นายช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” ฉันเอ่ยถามด้วยความงุนงง ฉันไม่รู้นี่หว่า                 “เฮ้อ~ ตอนที่ไฟดับในงานวันเกิดฉันน่ะ จู่ๆเธอก็วิ่งออกไป พอฉันวิ่งตามไปก็เจอเธอโดนแทงเข้าพอดี ฉันเลยพามาโรงพยาบาลนี่ไง ออ! แล้วเธอก็หลับไปเกือบอาทิตย์แล้วด้วย” คำตอบที่ได้ทำเอาฉันมึนเข้าไปอีก สรุปฉันโดนทำร้ายแล้วบ้าไปเองหรอเนี่ย!  เฮ้อ~ฉันนึกว่าโดนอีตาไลค์ สตาร์จับทำพันธะด้วยซะแล้ว โล่งอก                 “หึๆ” จู่เทสึก็หัวเราะในลำคอ เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย!                  “ -_-^^?”                 “ต้องขอโทษที่ทำให้เธอฝันสลายนะ สาวน้อย” เทสึเชยคางฉันขึ้นก่อนที่จะมองเขามาในดวงตาของฉัน ความรู้สึกนี่มัน……..                 “มันไม่จริงใช่มั้ย? นาย….นายไม่ใช่เทสึ!!” ฉันตวาดออกไปทันที หมอนี่ไม่ใช่เทสึ!! หมอนี่เป็นใครกัน!!!                 เทสึ(คิดว่านะ) ยิ้มมุมปากก่อนที่จะถอดแหวนอออกจากนิ้วของตัวเองและนั่นทำให้ฉันเบิกตากว้างแทบจะทันที                 เสื้อคลุมสีดำที่ปรากฏให้เห็นเป็นอย่างแรกบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหมอนี่เป็นเผ่าพันธุ์ไหน พร้อมๆกับปีกขนาดเล็กสีดำที่อยู่ด้านหลังนั่นด้วย  เทพนรก!!กรี๊ดดดดด!! มาได้ไงน่ะ!!?                 หมอนั่นแสะยิ้มอันน่ารังเกียจมาให้เมื่อมันกลับร่างครบร้อยเปอร์เซ็น ก่อนที่จะมองฉันด้วยสายตาเกลียดชัง                 “เพราะเธอ!! วิสกับไฟท์ถึงต้องตาย!!” หมอนั่นปรี่เข้ามาบีบคอฉันแล้วยกฉันขึ้นเหนือพื้นเกือบเมตร  ฉันไอแค็กๆออกมาแทบจะทันที หายใจไม่ออก!!!!                 “ฉันไม่ได้ฆ่าพวกนั้นนะ!! แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าหมอนั่นเป็นใคร โอ๊ยยยย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมันบีบคอฉันแน่นกว่าเดิม อย่าว่าแต่พูดขอชีวิตเลย ลำพังหายใจฉันยังทำไม่ได้!!                 “ใช่! เธอไม่ได้เป็นคนทำแต่ไลค์ สตาร์มันเป็นคนทำ!!” มันตะคอกกลับมาอย่างเหลืออด มือที่เคยบีบคอฉันเริ่มออกแรงมากกว่าเดิม จนเล็บของมันจิกเข้าไปในเนื้อ เจ็บบบ!!!!!!                 “หมอนั่นเป็นคนทำแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า!!” ฉันดิ้นพล่านไปมาอย่างทรมาน เท้าแกว่งไปมาในอากาศ หายใจไม่ออก ใครก็ได้ช่วยด้วย!!                 “หึ ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วนะสาวน้อย ว่าตัวเองได้ทำพันธะสัญญากับไลค์ สตาร์ไปแล้ว” หมอนั่นแสะยิ้มได้อย่างน่ารังเกียจมาก เอ๊ะ! พันธะสัญญางั้นหรอ? หรือว่า……                 “อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ การที่จะกำจัดไลค์ สตาร์มันเป็นเรื่องยากแต่ถ้าเปลี่ยนเป็นกำจัดเธอแทน มันก็ง่ายกว่ากันเยอะ” หมอนั่นเพื่อแรงบีบจนตอนนี้กระดูกฉันแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆจากที่เริ่มหายใจไม่ออกตอนนี้ฉันหายไม่ออกแล้ว! แต่ก่อนที่ดวงตาจะปิดลง ใครบางคนก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับดาบแห่งเพลิงที่ถูกฟันลงกลางลำตัวของหมอนั่น                  พลั่ก!!!                 ร่างของฉันถูกเหวี่ยงติดกำแพงด้วยฝีมือไอ้บ้านั่น จะตายทั้งทียังไม่วายแก้แค้นฉันอีกT^T                 ร่างของเทพนรกตนนั้นค่อยๆกลายเป็นหินแล้วสลายไปในที่สุด ฉันมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาแปลกใจ                  “ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” ผู้มาใหม่มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เป็นห่วงก่อนที่จะมาพยุงฉันขึ้น ซึ่งฉันได้แต่ทำหน้างง มาได้ไง?                 “ไม่เป็นไร” ช่างเป็นคำตอบที่ตรงข้ามกับความจริงอย่างกับฟ้ากับเหว                 เบิร์น ฟินิกส์พาฉันมาที่เตียง ออ!พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก คนที่มาช่วยฉันคือเบิร์น ฟินิกส์ ลูกสาวสุดที่รักของท่านลุงฮาเดสที่ทั้งสวยทั้งเก่ง จนฉันอิจฉาเลยล่ะ                 “ว่าแต่ เธอมาที่นี่ได้ยังไงน่ะ แถมยัง……” ฉันมองเบิร์น ฟินิกส์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้ามาในร่างเทพเต็มยศขนาดนี้ เบิร์น ฟินิกส์ก็ต้องรู้แน่ๆว่าฉันเป็นใคร                 “ก็เพราะฉันรู้ว่าเธอเป็นใครน่ะสิ ฉันถึงกล้ามาในร่างนี้” เบิร์น ฟินิกส์พูดแบบสบายๆ แต่หล่อนไม่คิดจะเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์เลยหรอย่ะ!                 “แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” ฉันถามในขณะที่เบิร์น ฟินิกส์กำลังรักษาบาดแผลให้ เธอหันมามองฉันนิดหน่อยก่อนที่จะตอบ                           “เทพนรกฝ่ายมืดกำลังหาทางทำลายล้างโลกมนุษย์โดยการเอาดวงวิญญาณของพวกเด็กๆไปเป็นอาหารให้แอเรส ทีแรกฉันคิดว่าพวกนั้นไม่น่าจะเอาจริง แต่จู่ๆยมทูตก็มาบอกฉันว่าวิญญาณของมนุษย์ออกจากร่างก่อนเวลาอันควร ฉันเลยมาตรวจสอบดู พวกมนุษย์โดนโจมตีทางวิญญาณหรือที่มนุษย์เรียกว่าหัวใจวายนั่นแหละ ดวงวิญญาณเลยถูกชิงไป”                 “ถ้าวิญญาณถูกชิงไปมากขึ้นเรื่อยๆจะเกิดอะไรขึ้นหรอ?” ฉันถามในขณะที่เบิร์น ฟินิกส์เอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้                 “มนุษย์ก็จะล้มตาย สวรรค์จะขาดคนที่เหมาะสมไปจุติ ส่วนนรกก็จะมีจำนวนมากขึ้นเพราะชิงวิญญาณไป หลังจากนั้นพวกมันก็จะบุกสวรรค์แล้วทำลายล้างเหล่าเทพ และถ้าพวกมันทำสำเร็จ……” เบิร์น ฟินิกส์หยุดพูดกะทันหัน แต่ถึงไม่พูดฉันก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามนุษย์หายไป สวรรค์ถูกทำลาย เหล่าเทพทั้งมวลสาปสูญ จักรวาลจะถึงกาลอวสาน แต่ความชั่วร้ายจะยังคงอยู่ชั่วกาลนาน!!                 “แล้ว…เราจะทำยังไงกันดี?” ฉันเปล่งเสียงถามอย่างยากลำบาก ทำไมเรื่องวุ่นวายถึงประดังประเดเข้ามาในชีวิตฉันนักนะ                 “เฮ้อ~ฉันเองก็ไม่อยากให้เธอมาลำบากกับเรื่องนี้หรอกนะเพราะแค่เรื่องที่เธอโดนจับทำพันธะกับไลค์ สตาร์มันก็ทำให้เธอเหนื่อยมากแล้ว” คำพูดของเบิร์น ฟินิกส์ทำเอาฉันเบิกตากว้าง ยัยนี่รู้??                 “O.O!!”                 “โทษที ฉันได้ยินจากที่หมอนั่นพูดน่ะ แต่ว่า มันจะทำให้เธอลำบากกว่าเดิมนะ” เบิร์น ฟินิกส์พูดอย่างเป็นห่วง                 ฉันยังไม่ได้เล่าให้ฟังใช่มั้ย ว่าทำไมฉันถึงไม่อยากทำพันธะ ก็เพราะว่าตราพันธะจะทำให้คนสองคนเป็นเหมือนคนๆเดียวกัน แบบว่า ฉันกับไลค์ สตาร์ที่ทำพันธะกันจะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน ถ้าไลค์ สตาร์โดนแทงฉันก็ต้องเจ็บด้วยถึงแม้จะไม่โดน ถ้าไลค์ สตาร์ป่วยฉันก็ป่วย ถ้าฉันเจ็บปวดไลค์ สตาร์เองก็ต้องเจ็บปวด และถ้าไลค์ สตาร์ตาย ฉันก็ต้องตายเช่นกัน….                 และวิธีที่จะยกเลิกพันธะคือ…..ไม่ฉันก็ไลค์ สตาร์คนใดคนหนึ่งต้องฆ่ากันเอง ถ้าไลค์ สตาร์ฆ่าฉัน ตราพันธะก็จะถูกถอน และถ้าฉันฆ่าเขา พันธะก็จะถูกถอนเช่นกัน ส่วนอีกวิธีคือ…ฆ่าตัวตาย…                 “ช่างมันเถอะ แล้วฉันพอจะช่วยอะไรได้บ้างมั้ย?” ฉันไม่สนใจปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ แล้วถามเบิร์น ฟินิกส์แทน                 “แค่ช่วยจัดการเทพนรกฝ่ายดำที่มาก่อกวนบนโลกมนุษย์ก็พอ หวังว่ามันจะไม่หนักเกินไปนะ” เบิร์น ฟินิกส์พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่า แค่นี้จิบจ๊อย สบายหายห่วง ^O^                 “สบายหายห่วง ฉันจะช่วยจัดการพวกเทพนรกที่มาวุ่นวายบนโลกมนุษย์ให้นะ” ฉันยิ้มให้เพื่อให้เธอหายห่วง เบิร์น ฟินิกส์ยิ้มมาให้แทนคำขอบคุณ ก่อนที่จะหายไปพร้อมๆกับเปลวเพลิงที่อบอุ่น                 ในที่สุด!! ฉันก็ได้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่นอนกินนั่งกินมาเกือบเดือน -_-^^                 วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างจะวุ่นวายนิดหน่อยเพราะครอบครัวฉันและเทสึยกขบวนมารับฉันถึงโรงพยาบาล จะมาแบบปกติไม่ได้หรือไง แค่คนสำคัญในบ้านก็เยอะจะตายอยู่แล้ว แต่นี่……                 “เชิญค่ะคุณหนูรอง” แล้วทำไมต้องมีขบวนพ่อบ้านแม่บ้านมารับด้วยเล่า!! นี่มันไม่ต่างจากวันเกิดอีตาเทสึเลยนะ แถมหนักกว่าเดิมอีกต่างหาก! T^T                 “ท่านพ่อคะ ทำไมต้องขนกันมาขนาดนี้ด้วยคะเนี่ย” ฉันบ่นพึมพำเมื่อขึ้นรถมาพร้อมท่านพ่อและท่านแม่                 “พูดอะไรอย่างนั้น พ่อว่าแค่นี้ไม่ยังน้อยไปนะแค่พ่อกลัวลูกบ่นพ่อเลยเอามาแค่นี้” ยัง ยังไม่สำนึกว่าทำลูกสาวอาย พ่อใครเนี่ย!!                 ฉันได้แต่ทำหน้าเบื่อโลก การเป็นคุณหนูไม่ได้ดีไปซะทุกอย่างหรอกนะ เหมือนตอนนี้เป็นต้น!!                 รถลีมูซีนคันยาวเฟื้อยสุดหรูถูกเลี้ยวเข้าสู่คฤหาสน์เอนาริที่มีบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านเข้าแถวต้อนรับการกลับมาของคุณหนูรองของบ้าน ช่างเป็นการต้อนรับที่ฉันประทับจริงๆ(ดูหน้าฉันแล้วจะรู้ว่าฉันประชด -_-^^)                 เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านฉันยิ่งออกอาการเซ็งกว่าเดิมอีกตอนรับกลับมาฉันก็ว่ามันดูเว่อร์ไปแล้วนะ ยิ่งเข้ามาในบ้านยิ่งหนักเข้าไปอีก                  ภายในบ้านเต็มไปด้วยกุหลาบนานาสีที่ดูแล้วเหมือนจะสบายตา(เหมือนจะนะ) ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบ้าน แต่ก็มีกลิ่นอายของเวทมนตร์ผสมอยู่ ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือใคร                  ท่านพ่อและท่านแม่ยิ้มแฉ่งเมื่อฉันหันไปมอง ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำลูกสาวเบื่อ!                 ฉันเดินขึ้นมาบนห้องที่คิดว่าน่าจะดีกว่าอยู่กับดอกไม้นับล้านดอกที่อยู่ข้างล่าง                 แอดดดดด!! ปัง!!                 เมื่อเปิดเข้าไปในห้องฉันก็ปิดประตูลงทันที เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เพราะมีใครบางคนนั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนเตียง ให้ทายว่าใคร?                 “จะเข้ามาก็เข้าซะทีสิ หรือว่าอยากให้อุ้ม?” เทสึโผล่หน้าออกมาจากห้อง ใช่แล้วค่ะทุกท่าน อีตาเทสึนั่นแหละที่อยู่ในห้องฉัน มาตั้งแต่เมื่อไหร่?                 “มาทำอะไรในห้องคนอื่นเขา เดี๋ยวจับข้อหาบุกรุกซะเลยหนิ” ฉันบ่นอย่างไม่จริงจังก่อนจะกระโดดลงเตียง เบื่อเฟ้ย!!!                 “คนเค้าเป็นห่วงหรอกน่าถึงมาหา อย่าทำหน้าเหี่ยวแบบนั้นสิ” กรี๊ดดดด!! เทสึมันว่าฉันทำหน้าเหี่ยวค่ะทุกคน ยอมไม่ด้ายยยยยย!!!                 “แกอยากตายใช่ป่ะ?” ฉันหันไปจ้องหน้าเทสึเขม็ง ก่อนที่หมอนั่นจะยิ้มแห้งๆมาให้                 “ยังคร้าบ T^T” ทำหน้าได้น่าสมเพชสุดๆ                 ฉันอมยิ้มกับท่าทางปัญญาอ่อนของเทสึ ไม่บ่อยนักหรอกที่หมอนั่นจะทำแบบนี้                 “ว่าแต่ นี่มันจะสองเดือนเข้าไปแล้วนะ  เรื่องวางระเบิดโรงเรียนถึงไหนแล้วล่ะ?” เมื่อนึกขึ้นได้ฉันเลยถาม ทำงานช้าเป็นบ้าเลย                 “ได้แค่ข้อมูลน่ะ จากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายเอาไว้ได้ คนร้ายน่าจะเป็นผู้หญิง” เทสึบอกก่อนจะเอาภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ให้ดู                  ภาพคนร้ายเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆผมยาวประบ่า ใส่เครื่องแบบของMeitoka  Giluku  Senior  High แถมใส่ปลอกแขนสีขาวที่ข้างซ้ายอีกต่างหาก! เดาได้ไม่ยากว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นหนึ่งในสมาชิกสภานักเรียนแน่ๆ และอีกอย่าง…..                 ผู้หญิงคนนี้เป็นสมาชิกคนใหม่!! เพราะอะไรน่ะหรอ?  ปลอกแขนสีแดงคือประธานซึ่งก็คือฉันที่เป็นควีนและคนที่จะมาเป็นคิง(ซึ่งตอนนี้คนข้างตัวฉันยังไม่ลงมือสร้างผลงานให้ตัวเองเลย) ปลอกแขนสีน้ำเงินคือสมาชิกที่อยู่ประจำเกินหนึ่งภาคเรียน ส่วนปลอกแขนสีขาวคือสมาชิกใหม่ที่มาประจำยังไม่ถึงหนึ่งภาคเรียน!!                 และคนที่มายังไม่ถึงหนึ่งภาคเรียนมีแค่คนเดียวเท่านั้น!! เธอเสร็จฉันแน่ ยัยคนร้ายจอมหลอกลวง!!                 “ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วล่ะ ว่าใครคือคนในภาพ”
                Tetsu’s talk                 ผมทำหน้างงเมื่อยัยสาหร่ายพูดว่าพอจะรู้จักคนในภาพ ไปรู้ตอนไหนว่ะ? ทั้งๆที่ผมตามหาแทบตายแต่ยัยนี่ดูแค่ภาพก็รู้แล้วว่าใคร                 ยัยสาหร่ายเล่าแผนการที่จะจับคนร้ายให้ฟัง ยัยนี่จอมวางแผนชะมัด                 “โอเคป่ะ?” ยัยสาหร่ายถามเมื่อเล่าเสร็จ แผนมันก็ดูโอเคอยู่หรอก ว่าแต่ว่าทำไมต้องเป็นผมล่ะ?                 “คนอื่นทำไม่ได้หรือไง ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ?” ผมถามอย่างไม่สบอารมณ์ ผมไม่ชอบแอบตามใครนะโดยเฉพาะตามคนที่ผมเพิ่งหลอกเขาไปน่ะ                 ออ! ลืมบอกไปว่าแผนมันเป็นยังไง มันไม่มีอะไรมากหรอกยัยสาหร่ายแค่บอกให้ผมสะกดรอยตามใครคนนึงที่ผมไม่อยากเจอในตอนนี้ แต่ยัยสาหร่ายเอาเแต่พูดกรอกหูอยู่เกือบชั่วโมงว่าเพื่อที่จะได้เป็นคิง ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่อยากเป็นแต่เห็นแก่แววตาออดอ้อนของยัยสาหร่ายผมยอมก็ได้                 “เอาน่าๆงานแค่นี้ไม่เห็นต้องกลัวเลย แล้วอีกอย่างถ้านายมีหลักฐานจับคนร้าย ตำแหน่งคิงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ^^” ยัยสาหร่ายยิ่มแฉ่ง                 “ข่าวว่าฉันไม่อยากเป็นนะ -_-^^” เท่านั้นแหละยัยสาหร่ายก็แทบอยากจะกระโดดกัดคอผม อะไรว่ะ คนเขาแค่พูดความจริง                 “นายอยากรู้หรือเปล่า ว่าทำไมฉันถึงอยากให้นายเป็นคิง” ยัยสาหร่ายพูดเสียงจริงจัง จะมาไม้ไหนเนี่ย!                 “ไม่อ่ะ” ผมส่ายหัวพึบพับ จะเหตุผลอะไรก็ช่างผมรู้แค่ว่าผมไม่อยากเป็น                 “แต่ฉันอยากบอก” จบคำยัยสาหร่ายก็โน้มหน้าผมกระซิบถึงเหตุผลที่อยากให้ผมเป็นคิง                 “O.O!!” <= หน้าผม                 “-////-^^” <= หน้ายัยสาหร่าย                 เหตุผลที่ยัยสาหร่ายบอกทำเอาผมเบิกตากว้าง รู้สึกหัวใจเต้นแรงชอบกล ส่วนเหตุผลที่ยัยนั่นบอกน่ะหรอ? ไปถามยัยนั่นเองสิ! ใครมันจะไปกล้าพูดว่ะ -///-                 หมับ!!                 ผมได้แต่อึ้ง ทึ่ง ประหลาดปนตกใจที่ยัยสาหร่ายดึงผมเข้าไปกอด เป็นครั้งแรกจริงๆที่ยัยนี่เป็นฝ่ายจู่โจมก่อน ปกติก็มีแต่ผมนี่แหละที่เป็นฝ่ายจู่โจม ยัยนี่คงคาดหวังในตัวผมมากเลยสินะ                 ผมกอดตอบคนร่างเล็กที่กอดผมราวกับว่าถ้าปล่อยผมแล้วเธอจะไม่ได้ทำแบบนี้อีก ก่อนซุกหน้าลงบนเรือนผมหนานุ่มของคนร่างเล็ก                 “ฉันจะพยายามนะ เตรียมตัวรับตำแหน่งคู่ฉันได้เลย” ผมให้สัญญากับคนในอ้อมกอด เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะผละออกจากผม                 “สัญญาแล้วนะ” ยัยสาหร่ายยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าเป็นอันรู้กันว่าผมต้องทำอะไร ผมยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยกับยัยสาหร่ายก่อนที่ยัยนั่นจะยิ้มกว้าง                 “ฉันจะลากตัวยัยนั่นมาตบสั่งสอนซะหน่อยโทษฐานที่ทำให้ฉันโดนพักการเรียน” ยัยสาหร่ายพูดพลางกำหมัดแน่น ซึ้งได้แค่แป๊บเดียวก็กลับมาเป็นคนเดิมซะแล้ว แล้วอย่างนี้จะหาแฟนได้มั้ยเนี่ย!!                 ว่าแต่ว่า ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆนะพอคิดว่าคนที่จะมาเป็นแฟนยัยนี่ไม่ใช่ผม ดูท่าผมจะนอนน้อยล่ะมั้งถึงได้คิดเป็นตุเป็นตะ
                 และแล้ววันที่ผมต้องเริ่มแผนก็มาถึง ผมมาถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้าเพื่อมาดักรอใครบางคนโดยใช้วิธีการล่องหน อ้าว? ถ้าเกิดให้ผมไปคอยหลบคอยเดินผมก็เบื่อตายพอดี แถมเสี่ยงต่อภาพพจน์อีกต่างหากทำแบบนี้แหละดีแล้ว นอกจากจะไม่โดนจับได้แล้ว ผมสามารถฟังพวกนั้นคุยกันได้สะดวกอีกด้วย                 เอ๊ะ!!  มานั่นแล้วไง!                 เมื่อเป้าหมายเดินผ่านหน้าผมไปแล้ว ผมจึงเดินประกบข้างเธอทันที เธอจะรู้สึกแปลกๆหรือเปล่านะว่าเธอไม่ได้กำลังเดินอยู่คนเดียวแค่มีเทพบุตรสุดหล่อมาเดินอยู่ด้วย(กล้าพูด)                 เธอเดินดุ่มๆไปที่อาคารร้างหลังตึกสภานักเรียน อ้าว? ได้ข่าวว่าตึกนั่นมันมีเรื่องสยองขวัญไม่ใช่หรอ เป็นผู้หญิงแท้ๆทำไมถึงกล้าไปคนเดียว ไม่กลัวแขกไม่ได้รับเชิญมาทักทายหรอ? (แกนั่นแหละแขกไม่ได้รับเชิญ เทสึ)                 ผมงงหนักกว่าเดิมเมื่อเธอคนนั้นเดินเข้าตึกไปด้วยท่าทางรีบร้อน จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่งนั่นทำให้ผมต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันเธอ จะไปตามควายที่ไหนแม่คุณ!!(ที่ญี่ปุ่นมีควายด้วยหรอ?)                 กึก!!                 ผมเหยียบเบรกแทบไม่ทันเมื่อเธอหยุดวิ่งซะดื้อๆ ก่อนจะจับเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูดี ก่อนจะก้าวออกเดินอย่างช้าๆด้วยท่างทางแบบนางพญา โห~พญาคางคกอ่ะดิ อย่างยัยนี่ทำยังไงก็ไม่ดูดีขึ้นมาหรอก เชื่อผมเถอะ                 “มาช้าไปนะ” เสียงบุคคลปรึศนาดังขึ้น ผมชะโงกหน้าออกไปดูก็เจอผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาโคตรจะเหมือนกับยัยคนตรงหน้านี้เลย ฝาแฝดหรือเปล่าหว่า?                 “แค่สามนาทีเอง บ่นไปได้” ยัยเตี้ย (เรียกอย่างนี้ดีกว่า) บ่นขึ้นแบบไม่จริงจัง ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆหมอนั่น                 “จะเอาไงต่อ ลงมือเลยมั้ย?” ผมไปนั่งฟังพวกมันคุยกันใกล้ๆแต่ไม่ลืมที่จะบันทึกเสียงเอาไว้                 “ลงมือได้เลย เอาเป็นที่ตึกกลางเลยละกัน พวกมันจะได้ตายกันเยอะๆ” หมอนั่นพูดขึ้นอย่างกับเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าตึกกลางงั้นหรอ? อยากทำอะไรก็เชิญเพราะวันนี้ตึกกลางปิดซ่อมแซม ^^                 “ตึกกลางปิดซ่อมแซม เอาเป็นตึกสภานักเรียนดีกว่าพวกสภานักเรียนจะได้ตายๆกันไปให้หมดโดยเฉพาะยัยโนริ ฉันเกลียดมัน!!” ยัยเตี้ยแผดเสียงขึ้น สงสัยแค่เสียงไม่พอแล้วล่ะ ขอภาพด้วยละกัน ^^                 “หึ! ถ้าอย่างนั้นวันนี้เธอลงมือได้เลยนะ ตายกันเยอะๆโรงเรียนนี้จะได้ไม่มีคนกล้าเข้าแล้วไปเข้าที่โรงเรียนเราแทน” หมอนั่นพูดก่อนจะแสะยิ้ม อ๋อ!! ที่พวกมันสองคนวางระเบิดโรงเรียนก็เพราะกะจะให้คนในโรงเรียนตายกันหมดแล้วหลังจากนั้นก็จะไม่มีคนกล้ามาเข้าที่นี่เพราะมีการวางระเบิดจนนักเรียนตายเป็นเบือแล้วคนอื่นๆก็จะไปเข้าที่โรงเรียนของสองคนนี้!!                 เลวววววว!!!!                 ผมดูสองคนนั้นวางแผนกันเงียบๆโดยแกล้งพวกมันเป็นระยะ ก่อนที่จะชิ่งออกมาแล้วตรงไปที่ตึกสภานักเรียนที่ตอนนี้คนเยอะกว่าทุกวันเพราะเป็นวันประชุมของเหล่าสภานักเรียน ให้ตาย! นี่มันใกล้เวลาที่ระเบิดจะทำงานแล้วนะ!!  ถ้าไม่รีบออกจากตึกนี้ล่ะก็….             ‘ประชาสัมพันธ์ไปยังนักเรียนที่อยู่ตึกสภานักเรียนทุกคน ในเวลานี้ขอให้ทุกคนมาประชุมที่ตึกอำนวยการด้วยนะคะ’                   ผมถึงกับงงนิดหน่อย อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น วันนี้พวกสภานักเรียนเปลี่ยนที่ประชุมไปประชุมที่ตึกอำนวยการแทน และผมก็งงมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าคนที่ประชาสัมพันธ์คือยัยสาหร่าย ยัยนี่มีเซนต์อะไรหรือเปล่าว่ะเนี่ย                 พวกสภานักเรียนออกวิ่งทันที ไม่ใช่เพราะรู้ว่าตึกนี้กำลังจะโดนระเบิดหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่ายัยสาหร่ายเดินมาตามน่ะสิ แต่ตัวเองกลับเดินมาหาผมซะงั้น                 “เป็นไงบ้าง?” ยัยสาหร่ายถามขึ้นก่อนจะเอื้อมมือมาซับเหงื่อให้ผม ห่วงคนอื่นเป็นด้วย                 “ไม่เป็นไร อ่ะนี้หลักฐาน” ผมยื่นโทรศัพท์ให้แต่ยัยนั่นกลับส่ายหน้า ก่อนจะหันไปสั่งผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง                 “ไปตามตัวฮิราชิอิ มาคัสไปที่ห้องประชุมด้วย วันนี้เราต้องประชุมใหญ่ ออ!อาจารย์ทุกท่านด้วยนะ” ผู้ชายคนนั้นรับคำก่อนที่จะเดินไปอีกทาง แล้วจะตามไอ้มาคัสมาทำไมว่ะ อารมณ์เสีย!!                 “นี่เป็นหลักฐานที่ฉันเจอในที่เกิดเหตุ  มันคือเส้นผมของผู้ต้องสงสัย ฉันส่งไปตรวจดูแล้วล่ะแล้วผลก็ออกมาแล้วด้วย” ยัยสาหร่ายยื่นเอกสารมาให้ผม ผมสงสัยนิดหน่อยว่าจะเอามาให้ผมทำไม แต่ผมก็รับมันมาแต่โดยดี                 “ไปกันเถอะ วันนี้นายต้องเข้าประชุมกับพวกเราด้วย” จบคำยัยสาหร่ายก็ลากผมไปที่ตึกอำนวยการทันที ฉันไม่ใช่สมาชิกสภานักเรียนนะโว้ย!! จะพาฉันไปทามมายยยยย!!!
                  และแล้วผมก็มานั่งทำหน้าสลอนอยู่ท่ามกลางเหล่าสภานักเรียนและอาจารย์โดยมียัยสาหร่ายเป็นประธานในการประชุม(ยัยนี่ใหญ่กว่าผู้อำนวยการโรงเรียนซะอีก) โดยที่การประชุมก็ไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องในโรงเรียนตามปกติ ก่อนที่หัวข้อการประชุมจะถูกเปลี่ยนไป                 “อย่างที่ทุกท่านรู้ว่าเมื่อสองเดือนก่อนโรงเรียนเราได้ถูกลอบวางระเบิด และนี่คือภาพที่กล้องวงจรปิดถ่ายเอาไว้ได้” ภาพจากจอมอนิเตอร์ด้านหลังยัยสาหร่ายเปลี่ยนเป็นภาพที่ผมเอาให้ยัยสาหร่ายดูเมื่อวาน                 “นี่เป็นหลักฐานบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในสภานักเรียน” ยัยสาหร่ายชี้ไปที่ภาพก่อนที่ใครบางคนจะแทรกขึ้น                 “ควีนรู้ได้ไงคะว่านั่นคือคนในสภานักเรียน” ผมหันไปมองเจ้าของคำถามซึ่งก็คือมีนา                 “แล้วปลอกแขนนั่นมันคืออะไรล่ะ?” ยัยสาหร่ายชี้ไปที่ปลอกแขนสีขาวข้างซ้าย มีนายังคงมีท่าทีสบายๆเช่นเดิม คิดอะไรอยู่นะ?                 “สมมุติว่านี่ไม่ใช่คนในสภานักเรียน ควีนจะทำยังไงคะ?” มีนายังคงถามต่อ เดี๋ยวยัยสาหร่ายก็ฉีกหน้าเธอหรอก                 “นี่เป็นคนในสภานักเรียนแน่ๆ ออ!ถ้าเธอจะบอกว่ามีคนนอกเอาปลอกแขนของสภานักเรียนไปใส่ก็แสดงว่านักเรียนคนนั้นน่าสมเพชมากที่ไม่สามารถรักษาสิ่งสำคัญของตัวเองจนคนอื่นสามารถขโมยมันไปใส่ได้” ยัยสาหร่ายตอกกลับอย่างเจ็บแสบ แต่ไม่มีคนว่าอะไรเธอเลย                 มีนาทำท่าไม่พอใจนิดหน่อยก่อนจะเงียบไป ยัยสาหร่ายจึงพูดต่อ                 “อย่างที่ทุกท่านเห็นว่าปลอกแขนคือสีขาว และคนที่ใส่ปลอกแขนสีขาวมีแค่คนเดียวเท่านั้น คือเธอยังไงล่ะ ฮาสึโตะ มีนา” ทุกคนหันขวับไปมองมีนาทันที  มีนายังคงตีหน้านิ่งไม่เดือนร้อนอะไรทั้งนั้น หน้าหนาใช้ได้เลยแฮะ                 “อาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้ บางทีอาจเป็นควีนก็ได้หรือว่าไม่จริงคะ?” มีนาจ้องหน้ายัยสาหร่ายที่ตีหน้านิ่ง บรรยากาศเริ่มมาคุซะแล้ว                 “เป็นไปได้” ยัยสาหร่ายพูดแบบสบายๆก่อนที่นั่งไขว้ห้างราวนางพญา ช่วยจริงจังหน่อยสิเฮ้ย!                 “งั้นเรามาพิสูจน์กันดีมั้ยว่าระหว่างฉันกับเธอ ใครกันที่เป็นคนร้าย ^^”                 “O.O!!”                 “o.O”                 “-O-!”                 “O.o!”                 เอาจริงซะทีนะยัยบ้า!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา