ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตอนที่ 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เย้ๆ ในที่สุดฉันก็ได้มาเที่ยวที่ห้างจนได้หลังจากที่ออดอ้อนอีตาเทสึอยู่นานกว่าหมอนั่นจะพามา
“อย่าวิ่งไปวิ่งมานักสิ” เทสึบ่นเบาๆเมื่อฉันวิ่งเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อยู่นาน จนหมอนั่นต้องจับฉันให้อยู่นิ่งๆ
“เอาน่า นานๆจะได้มาที นายอย่าบ่นนักเลยน่า” ฉันพูดก่อนจะเดินไปที่ร้านขายนาฬิกา
เมื่อเดินเข้ามาพนักงานชายก็แทบจะมาต้อนรับฉันด้วยตัวเอง จนทำให้พนักงานสาวในร้านส่งออร่าความอิจฉามาให้
“นาฬิกาเรือนไหนสวยที่สุดในร้านนี้ เอามาให้ฉันดูทั้งหมดเลยนะ” ฉันบอกก่อนจะเดินไปที่โซฟาสำหรับรับแขก ก่อนจะมีพนักงานเอาน้ำมาเสิร์ฟ
“เธอจะดูอะไรนักหนาว่ะ ทั้งร้านเลยนะ” เทสึบ่นพึมพำ ก็บอกแล้วว่าหมอนี่ขี้บ่นกว่าฉันอีก
“ใครบอกว่าทั้งร้าน ฉันบอกว่าอันไหนสวยที่สุดในร้านต่างหากเล่า” ฉันบอกก่อนที่พนักงานจะเอานาฬิกาที่คิดว่าสวยที่สุดในร้านมาให้ฉันดู
ฉันหยิบเรือนนั้นวางเรือนนี้อยู่นาน ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับนาฬิกาหนังสีดำที่อยู่ในตู้โชว์หน้าร้าน นั่นแหละใช่เลย!
“ฉันขอดูเรือนนั้นหน่อย” ฉันบอกก่อนจะชี้ไปที่นาฬิกาเรือนดังกล่าว ก่อนที่พนักงานจะเดินไปเอามาให้
นาฬิกาหนังสีดำที่หน้าปัดประดับด้วยเพชรพลอยดูล้ำค่า ตัวเลขใช้อักษรโรมันดูสวยงาม อันนี้แหละที่เหมาะกับหมอนั่นโฮะๆ ^O^!
“นาฬิกาเรือนนี้ถูกสั่งทำเป็นพิเศษ ออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงของโลก มีแค่เรือนเดียวในโลกเท่านั้นนะคะ สนใจมั้ยคะ คุณผู้หญิง” พนักงานสาวถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หล่อนอยากยิ้มให้อีตาเทสึมากกว่าล่ะสิ
ฉันมองตาผู้หญิงคนนั้นโดยพบว่าเธอไม่ได้โกหก นาฬิกาเรือนนี้มีแค่เรือนเดียวในโลกอย่างนั้นสินะ นี้แหละใช่เลย!!!
“ฉันเอาเรือนนี้แหละ ห่อให้ฉันสวยๆเลยนะ” ฉันบอกก่อนจะยื่นนาฬิกาเรือนนั้นให้ พนักงานรับนาฬิกาไปก่อนที่จะหายไปอีกทาง ในระหว่างรอฉันก็ดูนาฬิกาเรือนนั้นเรือนนี้ต่อ อันไหนสวยฉันก็ซื้อไว้ใส่ ก่อนที่พนักงานจะถือกล่องของขวัญสีน้ำเงินผูกริบบิ้นสีทองดูล้ำค่าเดินมาก่อนที่จะส่งให้ฉัน
ฉันยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานก่อนที่จะรับกล่องของขวัญมา ฉันยิ้มอย่างเป็นสุข ถ้าหมอนั่นได้นาฬิกาเรือนนี้ เขาต้องชอบมากแน่ๆ ^O^
“จะซื้อไปให้ใครอ่ะ คนสำคัญหรือไง” เทสึถามขึ้น จะอยากรู้ไปทำไม?
“ช่ายยย~ เป็นคนที่สำคัญมากๆเลย สำคัญจนไม่มีใครเทียบเขาได้เลย” น้ำเสียงอ่อนโยนจนไม่น่าเป็นได้ถูกปล่อยออกจากริมฝีปากอันอวบอิ่มเมื่อนึกถึงเขาคนนั้น คนที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด
“สำคัญ…..ขนาดนั้นเลยหรอ?” เทสึถามด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป เหมือนกับว่า….หมอนี่กำลังเศร้าอยู่
ฉันไม่ตอบก่อนที่พนักงานจะเอาบัตรเครดิตมาคืน ฉันเลยเดินออกจากร้านมาพร้อมเทสึที่ดูเหมือนจะเงียบลงไปเยอะ ให้มันเงียบบ้างเถอะ เพราะปกติมันพูดไม่เคยหยุดปากเลย -_-^^
“อย่าลืมไปบ้านฉันล่ะวันนี้” เทสึพูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน แน่นอนอยู่แล้วเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของหมอนี่นี้นา
“แน่นอนอยู่แล้ว” ฉันยิ้มหวานก่อนที่เราสองคนจะขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นใต้ดิน เพราะเราจะกลับบ้านกัน
ชั้นใต้ดินค่อนข้างมืดนิดหน่อย แต่ก็ยังมองเห็นอยู่ แต่มันลำบากตรงที่ต้องมองหารถของเทสึน่ะสิ ก็หมอนี่ดันใช้รถสีดำแถมยังมาจอดในที่มืดๆอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าหมอนี่มองเห็นได้ยังไงถึงได้หารถตัวเองถูก
“นี่ ฉันขอทวงสัญญานะที่เธอบอกว่าฉันจะเอาอะไรก็ได้ถ้าฉันพาเธอมาเที่ยวน่ะ” เทสึพูดขึ้นเมื่อเราเข้ามาในรถ ออ!ฉันเป็นคนบอกเขาเองว่าถ้าเขาพาฉันมาเที่ยว เขาอยากได้อะไรฉันจะให้หมดเลย^^
“ว่ามาสิ” ฉันบอกก่อนที่จะเอาของขวัญใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วหันไปมองเทสึที่ไม่ยอมบอกสักทีว่าเขาจะเอาอะไร ฉันอ่านจิตใจเหมือนไลค์ สตาร์ไม่ได้หรอกนะ
จู่ๆเทสึก็ไน้มหน้ามาหาฉันจนฉันหลบแทบไม่ทัน ก่อนที่เทสึจะจับหน้าฉันให้หันไปหาเขา
“สิ่งที่ฉันอยากได้คือ….”
“….///”
“จูบของเธอยังไงล่ะ”
“ว่าไงนะ อุ๊บ~” เทสึประกบริมฝีปากลงมาทันที ก่อนที่จะประคองฉันให้นอนราบกับเบาะรถ ส่วนฉันเมื่อเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะเป็นเหมือนวันนั้น เลยทุบไปที่แผงอกอุ่นๆของเทสึที่ไม่มีท่าทีว่าจะผละออก แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
แผ่นลิ้นร้อนชื้นลุกล้ำเข้ามาควานหาความหวานในปากแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆจนฉันไม่อาจปฏิเสธเขาได้ มือที่เคยผลักไสเขาตอนนี้ทำได้แค่วางทาบแผงอกอุ่นๆของเขาเท่านั้น
“อื้อ~” ฉันครางออกมาเบาๆเมื่อเทสึเปลี่ยนจากริมฝีปากของฉัน เป็นซอกคอขาวๆแทน ก่อนที่เขาจะจูบหนักๆลงไปพลางตวัดลิ้นไปทั่วลำคอก่อนที่เขาจะเลื่อนริมฝีปากมาประกบกับฉันอีกครั้ง
จูบครั้งนี้แตกต่างจากคราวที่แล้ว มันเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน นุ่มนวล ก่อนที่เทสึจะถอนปากออก
ฉันหอบหายใจนิดหน่อยโดยที่เทสึยิ้มขำๆเมื่อทำให้ฉันเมาจูบได้ ร้ายนักนะ
“แค่นี้แหละที่อยากจะขอ ^^” เขาพูดก่อนที่จะจุ๊บที่ปากฉันเบาๆแล้วผละออกไป
“ >////<” ส่วนฉันก็หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงผสมสตอเบอรี่ซะอีก ไอ้อาการหัวใจเต้นดุ่มๆด่อมๆนี่มันอะไรกันเนี่ย!
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันก็วิ่งกลับเข้าห้องเพื่อหลบหน้าทุกคนเพราะกลัวว่าจะมีใครถามว่าไปไหนมาน่ะสิ
ฟุบ!!
ฉันกระโดดขึ้นเตียงทันทีก่อนที่จะกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะยังรู้สึกเขินๆชอบกล ถ้าฉันไปงานวันเกิดเทสึแล้วเจอหมอนั่นขึ้นมา ฉันจะทำหน้าแบบไหนล่ะเนี่ย! ไม่ไปได้มั้ยน้า?
ฉันลุกขึ้นมาหยิบกระเป๋าตัวเองก่อนจะล้วงกล่องของขวัญออกมา พลางมองมันด้วยสายตาลังเล เอาไงดีนะ?
ก็อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นฉันเลยลุกจากเตียงไปเปิดประตูด้วยท่างทางเซ็งๆ
“มีอะไร?” ฉันถาม คนยิ่งใช้ความคิดอยู่
“คุณชายไอระฝากของมาให้คุณหนูรองค่ะ” แม่บ้านพูดก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดใหญ่มาให้ เทสึฝากอะไรมาหว่า?
“ขอบใจ” ฉันบอกก่อนจะรับมาแล้วเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะวางกล่องที่ว่าลงบนเตียง
หมอนั่นจะแกล้งอะไรฉันหรือเปล่าว่ะถึงได้ส่งของมาให้ฉันถึงบ้าน ฉันว่าใช่แน่ๆอีตานั่นยิ่งชอบแกล้งคนอื่นอยู่ด้วย
เมื่อทำใจได้สักพักฉันก็ค่อยๆเปิดกล่องออก สิ่งที่อยู่ข้างในทำให้ฉันต้องเบิกกว้าง เพราะมันคือ…..
ชุดราตรีสีฟ้าเปิดไหล่ที่ยาวถึงพื้น ประดับด้วยลูกไม้และผีเสื้อที่ชายกระโปรง ตรงหน้าอกประดับด้วยดอกกุหลาบสีฟ้าดูงดงามและสวยหรู ข้างๆชุดคือการ์ดที่ส่งมาด้วย
‘ฉันสั่งตัดเป็นพิเศษเลยนะอยากให้เธอใส่มางานวันเกิดของฉัน ฉันเชื่อว่ามันต้องสวยมากแน่ๆถ้าเธอเป็นคนใส่ ^^’
คำพูดที่อยู่ในการ์ดบ่งบอกได้เลยว่าฉันต้องไปงานนี้แน่ๆ ชุดนี้สั่งตัดเป็นพิเศษเพื่อฉันโดยเฉพาะเลยหรอเนี่ย! ลงทุนมากไปหน่อยมั้ยย่ะ
ฉันเอาชุดวางทาบตัวเองก่อนจะมองตัวเองในกระจก มันสวยมากๆเลยนะ แต่ฉันว่าเขาน่าจะเอาไปให้คู่ควงเขาใส่ดีกว่านะ เห็นว่าที่ผ่านมาก็ดูแลแต่ละคนอย่างดีเลยนี่นา แล้วทำไมไม่เอาชุดนี้ให้ฉันล่ะ
เอาเถอะๆไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งที่ฉันต้องคิดในตอนนี้คือ….
เมื่อเจอหน้าเทสึฉันควรจะทำยังไงต่างหากล่ะ!!
ฉันหมุนตัวไปมาพลางมองตัวเองในกระจก เป็นเหมือนที่อีตาเทสึพูดไว้เลยว่าถ้าฉันใส่ชุดที่เขาส่งมาให้มันจะต้องดูสวยมากๆ หมอนี่คาดเดาเก่งจังแฮะ^^
“กระจกมันจะแตกแล้วนะนั่น ส่องอยู่ได้” ใครบังอาจมาพูดจากวนมายฟุตฉันแบบนี่ว่ะ!
ฉันหันควับไปทางต้นเสียง ทันใดนั้นออร่าความหล่อก็กระเด็นเข้าตาแทบจะทันที(เว่อร์) ทำไมเทสึถึงหล่อลากขนาดนี้เนี่ย!
เทสึมาในชุดทักษิโด้สีดำดูหล่อเหลา ทรงผมถูกเซ็ตให้ดูเรียบง่ายแต่ดูดีมีระดับ พระเจ้า! นี้มันเทพบุตรชัดๆทำไมหมอนี่ถึงเกิดมาหน้าตาดีขนาดนี้เนี่ย>//<!
เอ๊ะ! เทสึใส่แหวนด้วยหรอ? ปกติเขาไม่ใส่นี่นา หรือว่าของคนสำคัญ?
แค่คิดฉันก็รู้สึกใจหายวาบ เทสึมีคนสำคัญแล้วอย่างนั้นหรอ? ใครกันนะ?
เทสึทำหน้างงนิดหน่อยเมื่อฉันเอาแต่จ้องเขา ก่อนที่เขาจะมองตามสายตาของฉันซึ่งตอนนี้หยุดอยู่ที่แหวน
“สงสัยล่ะสิว่าทำไมฉันถึงใส่แหวน” เทสึพูดขึ้นก่อนที่จะเดินมาหาฉันที่เอาแต่ยืนนิ่ง
“……”
“มันเป็นของแม่ฉันน่ะ ท่านบอกว่าวันเกิดทั้งทีเลยอยากให้ฉันใส่ของๆท่านบ้าง” คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ฉันยิ้มกว้างของคนสำคัญจริงๆด้วย ท่านแม่ของหมอนี่นี่เอง
“มันไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย” ฉันลอยหน้าลอยตาก่อนที่จะหยิบสร้อยคอที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งมาใส่
“ฉันใส่ให้” เทสึคว้าสร้อยไปจากมือฉันก่อนที่จะอ้อมไปทางด้านหลัง โดยที่ฉันงงนิดหน่อยว่าจะมาช่วยทำไม
สร้อยรูปผีเสื้อถูกสวมลงบนคอระหงด้วยฝีมือของเทสึที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว เป็นอะไรของเขา?
“เป็นอะไรนักหนา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้” ฉันถามขึ้นเมื่อเทสึสวมสร้อยให้ฉันเสร็จ
“ก็ยิ้มที่เธอยอมใส่ชุดนี้ไปงานน่ะสิ สวยจริงๆ” เทสึพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะเชยคางฉันขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา แล้วทำไมฉันต้องเขินด้วยว่ะเนี่ย!
“ฉันสวยมาตั้งนานแล้วย่ะ!” ฉันแก้เขินโดยการชมตัวเองซะงั้น ดีกว่าคนอื่นชมแล้วเขินละกันน่า
ฉันเดินหนีเทสึเพราะความเขินที่มีมากเกินไป แต่ดูเหมือนจะเดินผิดจังหวะไปหน่อย
“ว้ายยย!!!” ฉันเดินเหยียบชายกระโปรงด้วยเองค่ะทุกท่าน! งานนี้จบไม่สวยแน่T^T
หมับ!
จู่ๆร่างกายก็เหมือนถูกกระชากก่อนที่ฉันจะหน้าทิ่มพื้น เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?
เมื่อตั้งสติได้อีกที ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนร่างสูงที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา เฮ้ย!! นี่เท่ากับว่าฉันกำลังกอดกับหมอนี่น่ะสิ! ขืนมีใครมาเห็นฉันตายแน่ๆ T^T
“ปล่อยได้แล้ว” ฉันผลักเขาออกแต่เขาไม่มีท่าทีว่าจะขยับเลยสักนิด แถมกอดฉันแน่นกว่าเดิมอีก
“เป็นอะไรหรือเปล่าเทสึ?” ฉันถามอย่างเป็นห่วง เทสึจะชอบกอดฉันแน่นๆเวลาที่หมอนี่มีเรื่องทุกข์ใจ ว่าแต่ หมอนี่จะมีเรื่องทุกข์ใจอะไรได้ล่ะ?
“ สัญญากับฉันนะโนริ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะไม่ทิ้งฉันไปไหนเด็ดขาด” เทสึพูดเสียงสั่นเครือ เขาเป็นอะไรไปนะ?
“ สัญญาสิ เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ฉันไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะกอดเขาตอบ
“ฉันว่าเราไปกันดีกว่านะเดี๋ยวแขกที่บ้านนายจะรอ” ฉันบอกก่อนจะผละออกจากเขาแล้วเดินลงมาที่ชั้นล่างที่มีพ่อบ้านนับร้อยยืนเรียงแถวเป็นทางยาว -_-^^
ฉันชักสงสัยนิดหน่อยว่าจะมายืนทำซากอ้อยอะไร ทั้งๆที่งานก็มีให้ทำตั้งมากมายแท้ๆสงสัยจะว่างจัด
เมื่อเดินออกมาหน้าบ้านฉันก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง รถลีมูซีนไม่ต่ำกว่าสิบคันพร้อมพ่อบ้านของเทสึที่ยืนเรียงอย่างเป็นระเบียบ ดูจากสายตาแล้วน่าจะเท่ากับจำนวนที่อยู่ในบ้าน จะยกพวกมาถล่มบ้านฉันหรือไง -_-^^
“จะยกพวกมาถล่มบ้านฉันหรือไง ถึงขนกันมาขนาดนี้น่ะ” ฉันบ่นอย่างเอือมๆก่อนจะเข้าไปในรถลีมูซีนคันกลางโดยมีเทสึเป็นคนเปิดให้
“ก็ต้องเอาให้สมเกียรติคุณหนูคนรองของตระกูลเอนาริหน่อยสิ ความจริงฉันว่าแค่นี้มันยังน้อยไปนะ แต่ถ้าจะเอามาเยอะกว่านี้เธอก็จะบ่นเป็นยายแก่ไปน่ะสิ เลยเอามาแค่นี้” เทสึพูดก่อนจะเข้ามาในรถก่อนที่พ่อบ้านจะปิดประตูลง
“ไม่กลัวแม่คู่ควงของนายอิจฉาฉันหรือไง ถึงได้ดูแลฉันดีขนาดนี้น่ะ” ฉันถามแบบไม่จริงจัง ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากบ้านฉัน
“แค่คู่ควงฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอกน่า” เทสึบ่นพึมพำ ย่ะ!พ่อคนหล่อ
+ + + คฤหาสน์ไอระ + + +
รถลีมูซีนคันหรูค่อยๆจอดเทียบพรมแดงหน้าบ้านของเทสึโดยมีพ่อบ้านนับร้อยมาคอยต้อนรับ จะอะไรนักหนา
เทสึลงจากรถเป็นคนแรกก่อนจะยื่นมือมาหาฉันเพื่อที่เราสองคนจะได้เดินเข้างานพร้อมกัน
แชะ! แชะ!
แสงแฟลตกล้องนับสิบตัวที่มาพร้อมนักข่าวจำนวนหนึ่ง อย่าได้สงสัยไปเลยค่ะทุกคน เทสึเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านนายพลที่มีผลงานด้านการจับผู้ร้ายและการทำคดีต่างๆไม่แปลกเลยที่พ่อของเทสึจะเป็นที่รู้จักของคนในสังคมและนักข่าวทุกสังกัด
ฉันเดินเคียงคู่เทสึเข้ามาในงานหลังจากที่ตอบคำถามนักข่าวเสร็จ ก่อนจะเดินไปสวัสดีพ่อกับแม่ของเทสึ
“สายันต์สวัสดิ์ค่ะ คุณลุงคุณป้า ^^” ฉันทักทายท่านทั้งสองด้วยรอยยิ้มก่อนที่ท่านจะหันมาส่งยิ้มให้
“สายันต์สวัสดิ์จ้ะโนริจัง วันนี้หนูสวยมากๆเลยลูก” คุณป้าลูบผมฉันอย่างเอ็นดู กลิ่นน้ำหอมของคุณป้าทำเอาฉันเคลิ้มเลย หอมจัง ^^
“เทสึ พาหนูโนริไปหาอะไรทานหน่อยนะลูก” คุณลุงหันไปบอกเทสึที่กำลังหลีสาวในสังกัดตัวเอง ขนาดวันเกิดมันยังไม่เว้น -_-^^
“ฮะ พ่อ” เทสึรับคำก่อนที่จะจูงกึ่งลากฉันไปที่โต๊ะทานอาหาร ก่อนที่จะกดไหล่ฉันให้นั่งลง
“จะทานอะไรดีล่ะ?” เทสึถามพลางหยิบค็อกเทลจากถาดของบริกรหนุ่มที่เดินผ่านมาก่อนจะส่งให้ฉัน
“ขอบใจ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่หิวน่ะ” ฉันบอกก่อนจะจิบค็อกเทลที่อยู่ในมือ
ฉันกวาดสายตาไปรอบๆงานที่ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิงซะมากกว่า ทั้งสาวหมวย สาวอึ๋ม สาวเซ็กซี่ เรียกได้ว่างานนี้เป็นงานรวมหญิงสาวจากทุกสารทิศเลยนะ หมอนี่มันจะเลือกคู่หรอ?
“สุขสันต์วันเกิดนะ ^^” ฉันบอกก่อนจะยื่นกล่องของขวัญสีเงินผูกด้วยริบบิ้นสีทองดูล้ำค่า คุ้นๆกันมั้ยเอ่ย??
“นี่มัน…O.O!” เทสึรับกล่องของขวัญไปก่อนที่จะยิ้มกว้าง เฉลยละกันนะ กล่องของขวัญที่ฉันให้เขาไปมันเป็นกล่องเดียวกับที่ฉันไปซื้อมาวันนี้เอง ^^
“ฉันแกะเลยได้มั้ย?” เทสึถามพลางมองฉันด้วยสายตาออดอ้อน น่ารักจัง>.<
“ตามใจสิ ฉันให้นายแล้วหนิ” ฉันบอกก่อนจะกดมือถือเล่นแก้เขิน แล้วจะเขินทำซากอ้อยอะไรว่ะเนี่ย!
เทสึแกะกระดาษห่อของขวัญออกอย่างเบามือชนิดไม่มีแม้แต่รอยยับ ก่อนจะยิ้มตาตี่เมื่อเจอของที่อยู่ข้างใน
นาฬิกาหนังสีดำดูหรูหรา หน้าปัดประดับด้วยเพชรพลอยดูล้ำค่า ตัวเลขให้อักษรโรมันทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูมีเสน่ขึ้นอีก
“ใส่ให้หน่อยสิ” เทสึพูดก่อนจะยื่นนาฬิกามาให้ ฉันเลยใส่ให้เขาตามที่เขาขอ
ฉันมองคนตรงหน้าที่ยิ้มแก้มปริบพลางดูนาฬิกาบนข้อมือซ้ายของตัวเอง มันเหมาะกับเขาจริงๆนั่นแหละ คิดไม่ผิดจริงๆที่ซื้อให้เขา ^^
พรึบ!
จู่ๆไฟในบ้านก็ดับลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ถ้าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนฉันก็ไม่สงสัยหรอกนะเพราเขาจะจุดเทียนเป่าเค้กกัน แต่นี่….
มันเพิ่งจะสองทุ่มเองนะ!! ใครเขาจะมาเป่าเค้กกันตอนสองทุ่มเล่า!
ฉันรีบปรับสายตาให้มองเห็นในความมืดเพราะกลัวว่าจะมีใครเป็นอะไรซะก่อน ถึงฉันจะใช้เวทย์แห่งแสงได้แต่ในเวลาที่มีคนอยู่เยอะขนาดนี้ก็ไม่ไหวหรอก
“เธออยู่ไหนน่ะ ยัยสาหร่าย?” เสียงคนข้างตัวทำให้ฉันรีบหันไปมอง เทสึกำลังใช้มือควานหาฉันอยู่
“ฉันอยู่นี่ยังไม่ได้ไปไหน นายโอเคนะ?” ฉันถามเขาอย่างเป็นห่วง เทสึเป็นคนที่กลัวความมืดมากเลยนะ
หมับ!
ฉันคว้าข้อมือของเทสึเอาไว้ ซึ่งเขารีบกุมมือฉันไว้ทันที ตัวเขาสั้นเล็กน้อยเพราะความกลัว
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ?” ฉันถามอย่างงงๆ พลางมองไปรอบๆก่อนจะไปหยุดที่ดวงตาสีโลหิตคู่หนึ่งที่มองมาทางฉันอย่างอาฆาต ดวงตาอย่างนั้นมัน….
“เทสึ นายอย่าไปไหนเป็นอันขาดนะ เดี๋ยวฉันกลับมา” ฉันบอกก่อนจะปล่อยมือออกจากเทสึ แล้วสาวเท้าออกมานอกบ้านซึ่งผลมันก็เป็นไปตามคาด
เทพนรกฝ่ายดำที่คิดจะเอาชีวิตฉันในวันนั้น!! พวกมันมาทำอะไรที่นี่!!??
“ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว สวยขึ้นเป็นกองเลยนะ” เทพแห่งลมกล่าวก่อนจะแสะยิ้มชั่วร้ายมาให้ ดูท่าว่าฉันจะคิดผิดซะแล้วที่ออกมาคนเดียว ทั้งๆที่มีเทพนรกมากันถึงสามคน!
“จะมาป่วนอะไรอีกล่ะ? หรือว่าจะมาล้างแค้นฉันหรือไง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ หวังว่าคงไม่โดนเล่นงานจนปางตายเมื่อวันนั้นหรอกนะ
“ข้อแรกไม่ใช่ แต่ข้อหลังไม่แน่” เทพแห่งไฟพูดก่อนจะสาวเท้ามาหาฉันด้วยความเร็วจนมาหยุดตรงหน้าฉัน
“โอ๊ยย!!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมันบีบคางฉันแน่นจนรู้สึกเจ็บไปทั่วใบหน้า แรงเทพมันน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ!
“ทำเอาไว้แสบมากเลยนะยัยเทพแห่งน้ำตัวแสบ หนีไปได้ยังไม่พอ ยังเอาวิญญาณของพวกเด็กๆไปอีก เธอรู้มั้ยว่าพวกเรากลับไปแล้วพวกเราเจออะไรมาบ้าง!!” เทพแห่งไฟพูดด้วยความโกรธก่อนที่เปลวเพลิงจะเริ่มลุกโชติช่วงรอบตัวฉันและเขา ทำเอาร่างกายฉันต้านไม่อยู่ ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ว่าน้ำกับไฟมันไม่ถูกกัน ถ้าน้ำมากกว่าไฟน้ำก็ชนะ แต่ถ้าไฟมากกว่าน้ำล่ะก็… ฉันโดนเผาเป็นจุนแน่!!
“ใครมันจะไปรู้เล่า! แต่มันก็สมควรแล้วหนิกับสิ่งที่พวกแกทำ แค่นี้มันยังน้อยไปถ้าเทียบกับความเจ็บปวดที่เด็กๆต้องเจอ รู้ไว้ซะ!!” ฉันตะโกนใส่หน้าหมอนั่นอย่างเหลืออดและดูเหมือนคนตรงหน้าจะโกรธอยู่ไม่น้อยเพราะไฟรอบๆตัวฉันเริ่มโหมกระหน่ำมากกว่าเดิม ถ้าไม่รีบทำอะไรล่ะก็…ฉันเสร็จพวกมันแน่!!
ฉันเอามือโบกผ่านแหวนก่อนที่ร่างของฉันจะค่อยๆเปล่งแสงออกมา ซึ่งทำเอาคนตรงหน้ากระเด็นออกห่างแทบจะทันที
เสื้อผ้าหน้าผมค่อยๆเปลี่ยนไปที่ละนิดจนกระทั่งกลายเป็นเทพเต็มตัว คฑาคริสตัลยังคงอยู่ในมือเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา
“ใจคอจะไม่คิดจะชวนฉันสู้เลยหรือไง” น้ำเสียงที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากทำให้ฉันต้องละสายตาไปจากเทพนรกตรงหน้าไปยังต้นเสียงทันที
“ไลค์ สตาร์ O.O!” ฉันมองเทพแห่งแสงที่ตอนนี้บินอยู่เหนือพวกเทพนรกด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนแทบทะลุออกมานอกเบ้า เขามาได้ไง!?
“เออ! ฉันเอง เลิกทำหน้าเหมือนเห็นผีได้แล้วน่า” ไลค์ สตาร์พูดก่อนที่จะร่อนลงข้างๆฉันที่ทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างที่เขาพูด
“นายมาได้ไงน่ะ แล้วมานานหรือยัง?” ฉันถามอย่างร้อนรน ถ้ามาก่อนหน้านี้ล่ะก็แสดงว่าร่างมนุษย์ของฉันเขาก็ต้องเห็นแล้วน่ะสิ!
“มาเมื่อกี้ ถามทำไม” ไลค์ สตาร์ทำหน้าสงสัย
“เปล่า ระวัง!!” ฉันเตือนไลค์ สตาร์ก่อนจะผลักเขาออกจากรัศมีคมดาบของเทพแห่งลม
ฉึก!!
ฉันหยุดการเคลื่อนไหวทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บที่ท้องก่อนจะก้มหน้าลงมองอย่างอึ้งๆ
ดาบสีดำทมิฬแทงเข้าที่ท้องฉันจนมิดด้าม ความเจ็บปวดเข้าจู่โจมมากกว่าเดิมเมื่อเห็นแผลตัวเอง เลือดสาดกระเด็นไปทั่วบริเวณที่ฉันยืนอยู่ พลาดท่าเข้าจนได้!
ฉัวะ!!
เลือดปริมาณมากพุ่งออกจากบาดแผลเมื่อเทพแห่งลมถอนดาบออก นั่นทำเอาฉันทรุดตัวลงกับพื้นทันที ไม่ไหว ไม่มีแรงเลย!!
ฉึก! ฉึก!
ลูกธนูสองลูกปักเข้าที่หัวใจของเทพนรกทั้งสองตนที่ได้แต่เบิกตากว้างก่อนที่ร่างกายของพวกมันจะค่อยๆแข็งเป็นหินแล้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งฉันเองก็ไม่ต่างกันถ้าไม่รีบใช้เวทย์รักษา
“เธอทำบ้าอะไรของเธอห๊ะ!!” ไลค์ สตาร์ตะคอกอย่างเหลืออดพลางวิ่งมาประคองฉันขึ้นด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก
ไลค์ สตาร์วางมือลงบนแผลของฉันพลางร่ายเวทย์เบาๆเพื่อรักษาบาดแผลให้ฉัน ก่อนที่แผลที่เคยมีเลือดพุ่งกระฉูดจะค่อยๆสมานตัวกันจนเกือบหายเป็นปกติ
ไลค์ สตาร์ปล่อยมือออกจากแผลฉันก่อนจะจ้องฉันด้วยสายตาที่กริ้วโกรธ อย่ามองฉันแบบนั้นเสะ!
“อย่ามองฉันแบบนั้นสิ มันน่ากลัวนะ T^T” ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆพลางหลบสายตาที่มองมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อของไลค์ สตาร์
“แล้วทีตอนรับดาบทำไมไม่กลัวห๊ะ! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้ทำอย่างนั้น!” ก็คิดว่าเป็นเทพยังไงล่ะ ฉันถึงกล้าทำ!
“ถ้ารู้ว่าช่วยนายแล้วเป็นอย่างนี้ใครมันจะไปทำเล่า!” ฉันตะคอกกลับอย่างเหลืออด ถ้ารู้ว่าจะโดนแทงฉันคงไม่ช่วยนายหรอก ชิ!
ฉันสะบัดหนีอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แต่มันติดตรงอีตานี่นี่แหละ เมื่อไหร่แกจะปล่อยฉันห๊ะ!
“ปล่อยได้แล้ว” สุดท้ายฉันก็เอ่ยขึ้นมาเพราะอีตานี่ไม่ยอมปล่อยฉันสักที จะทวงบุญคุณที่ช่วยรักษาแผลให้หรือไง
“ว้ายยย! จะทำอะไรน่ะ!?ปล่อยฉันนะ!!!!!” ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของไลค์ สตาร์ที่อุ้มฉันขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
“หุบปากแล้วอยู่เฉยๆไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ไลค์ สตาร์มองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์นั่นทำให้ฉันต้องรูดซิบปากอย่างจำใจ
ไลค์ สตาร์กางปีกหงส์สีขาวของตัวเองออกก่อนที่เขาจะกระพือปีกสองสามที เราสองคนก็ขึ้นมาอยู่บนฟ้าเป็นที่เรียบร้อย
บรรยากาศยามค่ำคืนบนฟากฟ้ายังคงความงดงามเอาไว้ชั่วนิรันด์ หมู่ดาวน้อยใหญ่ที่กำลังเปล่งแสงแข่งกันในยามราตรียิ่งทำให้ท้องฟ้าดูสวยงาม ฉันชอบท้องฟ้าตอนกลางคืนที่สุดเลย ^^!
ฟุบ!
ไลค์ สตาร์โยนฉันลงบนเตียงทันทีเมื่อมาถึงบ้านของหมอนั่น แล้วทำไมต้องโยนด้วยล่ะ วางดีๆก็ได้นี่นา T^T
ฉันจ้องไลค์ สตาร์ด้วยสายตาสาปแช่ง เกลียดแกไอ้เทพแห่งแสงขี้เก๊ก! หมั่นไส้หมอนี่โว้ย!
ไลค์ สตาร์ยืนเท้าเอวเหนือหัวฉันที่กำลังแช่งเขาในใจ อ่านจิตใจได้ก็อ่านไปเถอะย่ะ! ฉันไม่สน เกลียดแกเฟ้ย!!
ไลค์ สตาร์โบกมือผ่านร่างฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เสื้อผ้าหน้าผมจะเปลี่ยนไป เป็นชุดนอนกระโปรงสีฟ้าน่ารักที่ยาวแค่เข่า อีตานี่น่าคงเพลย์บอยน่าดู
“ไม่ยักรู้ว่าเธอจะหุ่นดีขนาดนี้ ฉันชักสนใจเธอขึ้นมาแล้วสิ” ไลค์ สตาร์มองไปทั่วร่างฉันก่อนที่จะมาหยุดที่ริมฝีปากอันอวบอิ่มของฉัน
ฉันสะบัดหน้าหนีสายตาอันยั่วยวนของเขาทันที หมอนี่กำลังจะทำให้ฉันบ้า!
ไลค์ สตาร์หัวเราะในลำคอก่อนที่จะห่มผ้าให้ฉันแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งฉันเอาไว้ในห้องคนเดียว
เกือบลืมไปเลย เทสึจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย!!
เมื่อนึกขึ้นได้ฉันก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียง ส่งผลให้ฉันมึนงงนิดหน่อยแต่ก็ไม่มาก ก่อนจะก้าวยาวๆมาที่ประตู
“อย่าคิดที่จะกลับโลกมนุษย์เพื่อไปหาหมอนั่นซะให้ยาก ฉันไม่ยอมให้เธอไปแน่!” ไลค์ สตาร์ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่คว้าข้อมือฉันเอาไว้ มาได้ไงเนี่ย!!
“ปล่อยฉันนะ! ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน!” ฉันพยายามแกะมือเขาออก แต่หมอนั่นก็ยิ่งบีบแรงกว่าเดิมจนน้ำตาเล็ด
“สภาพแบบนี้ยังจะลงไปอีกหรอ! หมอนั่นมันไม่เป็นอะไรหรอกน่า!” ไลค์ สตาร์ตะคอกกลับมาอย่างเหลืออด ส่วนฉันที่โดนตะคอกจึงได้แต่สะดุ้ง แค่นี้ทำไมต้องโกรธด้วยเล่า!
“นั่นเพื่อนฉันนะ! ฉันจะปล่อยให้หมอนั่นอยู่คนเดียวได้ไง!!” ฉันตะคอกกลับอย่างไม่เกรงกลัว ก็คนมันห่วงเพื่อนหนิ
ไลค์ สตาร์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาของเขาไม่บ่งบอกอารมณ์อะไรทั้งนั้น ฉันชักกลัวเขาขึ้นมาแล้วสิ T^T
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ