เขาเรียกพวกผมว่าปาร์ตี้มอนสเตอร์สุดกาก...ผมก็ไม่ได้เถียงนี่!
เขียนโดย cQMan
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 04.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ตอนที่ 2 ผมเป็นแค่สไลม์ ในขณะที่เผ่าของเพื่อนๆฟังดูโคตรโหด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2
ผมเป็นแค่สไลม์ ในขณะที่เผ่าของเพื่อนๆฟังดูโคตรโหด
สองวันผ่านไปกับชีวิตใหม่ในโลกใบใหม่ของพวกผม พวกเราค้นพบสิ่งต่างๆมากมายเกี่ยวกับโลกใบนี้ ซึ่งพวกผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต!...หมายถึงชีวิตที่แล้วอ่ะนะ
อย่างแรกเลยคือ ในโลกแห่งนี้ก็มีมนุษย์เหมือนกับโลกเก่าของพวกผมด้วย จะแตกต่างกันตรงที่เครื่องแต่งกายของมนุษย์เหล่านี้ดูแปลกตามาก แต่ภาษาที่พวกเขาใช้คุยกันก็เป็นภาษาแปลกๆที่พวกผมสามารถเข้าใจได้แม้ไม่เคยได้ยินมาก่อนก็ตาม ทว่าเมื่อพวกผมพยายามเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาเพื่อหาข้อมูล เจ้าพวกมนุษย์เหล่านั้นก็เกิดสติแตกร้องลั่นออกมาว่า “เฮ้ย! มอนสเตอร์พูดได้! จับพวกมันได้เรารวยเละแน่!!!” แล้วก็วิ่งไล่กวดพวกผมอย่างหิวกระหาย โชคยังดีที่แถวนั้นเป็นป่าทึบ พวกผมจึงใช้ร่างกายที่เล็กๆกลมๆพอๆกับลูกบอลลัดเลาะตามพุ่มไม้หนาทึบหนีเอาชีวิตน้อยๆรอดกันมาได้ สรุปก็คือ พวกมนุษย์ในน่าจะเป็นมิตรกับพวกผมแน่ๆ และพวกผมไม่ควรจะให้มนุษย์รู้ว่าพวกผมสามารถพูดได้ เหตุผลเดียวกับข้อหนึ่งคือ พวกผมเป็นแค่ถุงเงินถุงทองมีชีวิตของพวกมนุษย์ร้อนเงิน
อย่างที่สอง เซนค้นพบว่า เมื่อเราคิดถึงบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “สถานะ” “ความแข็งแกร่ง” “ข้อมูลส่วนตัว” หรืออะไรก็ตามที่มันมีความหมายเฉียดๆกับคำพวกนี้ กระดานสี่เหลี่ยมปริศนาก็จะปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่ามาอยู่ตรงหน้าของพวกเราในทันใด
โอ้พระเจ้า! นี่มันเหมือนกับพวกเราใช้เวทมนตร์กันอยู่เลย!
บนกระดานตรงหน้าของผมมีข้อความมากมายถูกเขียนลงในช่องสี่เหลี่ยมแบ่งแยกย่อยอย่างเป็นระเบียบด้วยภาษาประหลาดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนแต่สามารถอ่านมันออกราวกับคลุกคลีมาตั้งแต่เกิด ด้านบนสุดของกระดานมีชื่อของผมเขียนเอาไว้นั่นก็คือ ลอฟ…ยังไม่ลืมกันนะครับ
หลังชื่อของผมมีคำว่า “ระดับ 1” พ่วงท้าย ผมไม่แน่ใจว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ฟังดูเหมือนพวกผมน่าจะอ่อนแอพอสมควร ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลกับสภาพร่างกายอันน่าอนาถใจของเราอยู่พอสมควร
ถัดลงมาเป็นเผ่าพันธ์ มันระบุว่าผมเป็นเผ่าสไลม์สีเขียว ตรงช่องที่แสดงธาตุเขียนเอาไว้ว่า ธาตุธรรมดา หรืออาจจะหมายความว่าผมไม่มีพลังธาตุใดๆอยู่ในตัว จากนั้นก็เป็นค่าสถานะต่างๆอย่างเช่น พลังชีวิต พลังพิเศษ พลังโจมตี พลังป้องกัน พลังโจมตีเวทมนตร์ พลังป้องกันเวทมนตร์ ความแม่นยำ และความว่องไว ซึ่งผมมีค่าพลังเท่าๆกันในทุกๆช่อง
เพื่อป้องกันไม่ให้มีนักอ่านบางคนเอาผมไปนินทาว่า ไอ้เจ้าลอฟมันอธิบายเรื่องสถานะของตัวเองอย่างเดียวเลย สงสัยคงอยากจะดูเด่นกว่าเพื่อนๆล่ะมั้ง นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกของเรื่องนี้รึไงกัน! เป็นแค่สไลม์แท้ๆ! งั้นจากนี้ผมจะบอกข้อมูลของเพื่อนๆเท่าที่ผมรู้ให้คุณฟังก็แล้วกันนะ อย่างเพิ่งพิมพ์ด่าผมล่ะ
คนแรก กะโหลกเซน เป็นมอนสเตอร์เผ่าปีศาจ ธาตุความมืด ซึ่งเป็นธาตุที่ผมชอบมากๆ ผมก็เลยรู้สึกอิจฉาเขานิดๆที่เขาได้ธาตุมืดสุดเท่ไปครอบครอง ค่าสถานะของเขาจะโดดเด่นด้านพลังพิเศษ พลังโจมตีเวทมนตร์ พลังป้องกันเวทมนตร์ และความแม่นยำ หมอนี่เกิดมาเป็นจอมเวทย์ชัดๆเลย!
ไข่ยักษ์เดรค…คือผมตัดสินใจว่าผมจะเรียกอย่างงี้แทนไข่เดรคเฉยๆแล้วนะ เพราะแบบเก่ามันฟังดู…อ่า เชื่อผมสิ คุณรู้ว่าผมกำลังลำบากใจเรื่องอะไรอยู่ เขาได้เป็นเผ่ามังกร! ซึ่งหมายความว่าถ้าหมอนี่ฟักออกมาจากไข่นั่น เขาจะกลายเป็นมังกร!
นี่มันไม่แฟร์เลย เจ้าคนที่โวยวายน่าหงุดหงิดที่สุดกลับได้เป็นเผ่ามังกรอันยิ่งใหญ่ที่เด็กหนุ่มทุกคนใฝ่ฝันในขณะที่ผม…เป็นแค่สไลม์ อะไรกันเนี่ย!!!
พอมาถึงตอนนี้ผมก็ชักอยากจะด่าเจ้าเทพเจ้าโรคจิตนั่นอีกรอบแล้วสิ
โอเคๆ พักเรื่องระบายอารมณ์เอาไว้ก่อน เอาเป็นว่าเราเปลี่ยนจากการเรียก ไข่เดรค หรือไข่ยักษ์เดรค ไปเป็นไข่มังกรเดรคแทน คงจะฟังดูเข้าท่ามากกว่า เข้าใจตรงตามนี้นะครับ
ผมต่อเลยนะ
ไข่มังกรเดรคมีธาตุไฟซึ่งเข้ากับเผ่าของเขา ค่าสถานะโดดเด่นของเขาก็คือ พลังโจมตี พลังโจมตีเวทมนตร์ และความเร็ว หลังจากที่หมอนี่ได้เห็นข้อมูลต่างๆของตัวเองแล้ว เขาก็เกิดอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
“ฉันว่าเทพเจ้าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนะ” นี่คือความเห็นของเจ้าเดรคเมื่อผมชวนเขานินทาเทพเจ้า
ส่วนก้อนหินจิล เพื่อนผู้แสนดีของพวกเราได้เป็นเผ่าโกเล็ม…แน่ล่ะ ก้อนหินกับโกเล็มมันสอดคล้องกันจะตาย จิลเป็นธาตุดิน ความโดดเด่นของเขาจะเป็นพลังชีวิต พลังโจมตี และพลังป้องกันทั้งสองด้าน ก็โกเล็มนี่นะ
คนสุดท้าย ลูกแก้วฟราน เข้าเป็นมอนสเตอร์เผ่าภูติธาตุแสงที่มีพลังชีวิต พลังเวทย์ พลังป้องกันทั้งสองด้าน กับความแม่นยำที่โดดเด่น แม้ค่าพลังในด้านการโจมตีจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่เขาก็ยังพอใจกับมันอยู่ดี คงเพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฟรานก็ไม่เคยนึกอยากตบตีชีวิตใดๆบนโลกนี้อยู่แล้ว
พอดูภาพรวมแล้ว ทุกคนดูเหมือนกับจะมีอนาคตที่ดี มีลู่ทางในการกลายเป็นสุดยอดมอนสเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ เพราะแต่ละคนก็มีเผ่าพันธ์ที่ฟังดูทรงพลังอย่างมาก แถมยังมีธาตุพลังในตัวกันอีกต่างหาก แล้วตัดภาพมาที่ผมสิ…แค่สไลม์เขียวอ๋อยที่ไม่มีธาตุใดๆ ทำได้แค่เด้งไปเด้งมา ทำตัวเหลวๆหยึยๆไปวันๆ
บางทีผมก็คิดนะ ว่าผมโดนพระเจ้ากลั่นแกล้งน่ะ คือพวกเราทุกคนเหมือนถูกกลั่นแกล้งก็จริง แต่ผมนี่โดนหนักเป็นพิเศษเลยนะ คิดแล้วก็ท้อจริงๆ เฮ้อออออออ…
พวกเรามีระดับเท่ากันคือระดับ 1 ตัวเลขแรกเริ่มที่ไม่น่าจะวิเศษวิโสอะไรมากนัก ไม่มีใครรู้ว่าทำยังไงระดับถึงจะเพิ่มขึ้น และถ้าระดับเพิ่มขึ้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราบ้าง กะโหลกเซนออกความเห็นว่ามันอาจจะเป็นตัวเลขที่แสดงความแข็งแกร่งของพวกเรา และเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเก็บประสบการณ์เอาชีวิตรอด หรือประสบการณ์การต่อสู้ ส่วนฟรานที่มีความเห็นแตกต่างบอกว่ามันคือตัวเลขระดับความเทพ และหมายเลข 1 แสดงให้เห็นว่าพวกเราเจ๋งเป็นอันดับหนึ่ง!
คุณพอจะเดาออกใช่ไหมว่าผมเลือกเห็นด้วยกับใคร
เรื่องที่สาม เมื่อพวกผมนึกถึงคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า “ความสามารถ” กระดานอีกบานก็โพล่พรวดขึ้นมาตรงหน้า มันมีลักษณะแบบเดียวกับกระดานแผ่นแรก แตกต่างกันตรงข้อความที่เขียนไว้บนกระดาน
กระดานแผ่นนี้อธิบายเกี่ยวกับความสามารถของแต่ละคน คำว่า “ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง” เขียนเอาไว้ในช่องแรก ผมไม่เข้าใจว่าไอ้ปัญญาประดิษฐ์นี่มันคืออะไร แต่ทุกๆคนมีความสามารถนี้เหมือนกันหมด ผมและกะโหลกเซนมีความเห็นตรงกันว่าเป็นเพราะความสามารถนี้แน่ๆที่ทำให้พวกมนุษย์ต้องการตัวพวกเรา นั้นก็เพราะอะไรก็ตามที่ห้อยท้ายด้วยคำว่าขั้นสูง แสดงว่ามันจะต้องมีคุณค่าอะไรบางอย่างแน่นอน
ความสามารถที่สองของผมคือความสามารถ “ย่อยสลาย” หลังจากที่ผมได้ทดลอง ผมพบว่า อะไรก็ตามที่เข้าไปอยู่ในร่างกายวุ้นเหลวของผม มันจะค่อยๆถูกย่อยสลายไปอย่างช้าๆ ซึ่งการย่อยสลายใบไม้หนึ่งใบใช้เวลานานมาก ผมไม่สามารถระบุเวลาได้อย่างชัดเจนว่านานเท่าไหร่ แต่ผมมั่นใจอย่างหนึ่งก็คือ ผมไม่สามารถใช้ความสามารถนี้โจมตีได้แน่ๆ
ความสามารถที่สองของก้อนหินจิลเป็นความสามารถในการ “พุ่งชน” ซึ่งเหมือนกับของไข่มังกรเดรคและลูกแก้วฟราน เดรคโวยวายว่ามันฟังดูเป็นความสามารถขยะที่ไม่เหมาะกับตัวเอง แต่เดรคเอ๋ย…นายจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าความสามารถขยะที่แท้จริงหรอกตราบเท่าที่นายไม่ได้มีความสามารถแบบฉัน
ทว่าความสามารถที่สองของกะโหลกเซนกลับเป็นความสามารถในการ “กัด” ไม่แปลกเลยเพราะหมอนั่นมีขากรรไกร แถมยังมีฟันสภาพสมบูรณ์อยู่ครบทุกซี่อีกต่างหาก การกัดคงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา และดีกว่าความสามารถในการย่อยสลายของผมอย่างไม่ต้องสงสัย
เรื่องสุดท้ายที่พวกผมค้นพบ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาแรกของพวกผมด้วยเช่นกันคือ พวกผมสามารถหิวได้ด้วย! ผมที่เป็นสไลม์กับก้อนหินจิลที่มีปากสามารถหิวได้ อันนี้ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ไข่มังกรเดรคที่เป็นสิ่งมีชีวิตก็ยังดูไม่หลุดโลกมากนัก แม้ผมจะไม่แน่ใจว่ามันจะกินอาหารทางไหนก็ตาม แต่ลูกแก้วกับหัวกะโหลกเนี่ยสิ พวกนี้จำเป็นต้องกินอาหารด้วยงั้นเหรอ!
“พวกเราต้องออกไปหาอาหาร” ก้อนหินจิลบอกกับเพื่อนๆ “การกินอาหารให้ครบทุกมื้อและครบทั้งห้าหมู่สำคัญมากสำหรับเด็กวัยกำลังโต”
“แต่นายเป็นก้อนหินไง” ผมแย้ง
“ออกไปล่าสัตว์กันเถอะ” ไข่มังกรเดรคเลือดร้อนอยากจะลองออกไปปลดปล่อยสุดยอดมหาเวทย์ในตำนานที่เรียกว่า “พุ่งชน” ซะเต็มแก่
“แต่นายเป็นแค่ไข่ไง” ไข่อย่างเขาแค่โดนกระแทกแรงๆก็คงจบเห่แล้ว
“ความหิวทำให้ฉันดูเซ็กซี่” ลูกแก้วฟรานเพ้อออกมา ดูจากอาการแล้ว ไม่ใช่เพราะความหิวทำให้เขาเสียสติ ก็คงเป็นเพราะความเพี้ยนส่วนตัวนั่นแหละ
“ถ้าพวกเราช่วยกันล่าสัตว์จะต้องได้อาหารแน่ๆ” ไข่มังกรเดรคมุ่งมั่นกับแผนการล่าสัตว์ของเขามาก
“ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า…” กะโหลกเซนกล่าวอย่างเยือกเย็น “พวกเราอ่อนแอเกินไป และถ้าบังเอิญไปเจอพวกมนุษย์เข้า พวกเรามีปัญหาแน่ๆ”
“ปัญหาของฉันคือฉันนี่มันเซ็กซี่จริงๆ” ลูกแก้วฟรานหมุนตัวไปรอบๆ
“ฟรานอาการแย่แล้ว” ก้อนหินจิลกระโดดไปดูอาการเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“เราจำเป็นต้องเสี่ยง” ผมบอกกะโหลกเซน ผมจะไม่ยอมตายอนาถเป็นรอบที่สองเด็ดขาด “ถ้าจะให้เราอดตาย สู้ออกไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า”
“งั้นให้ฉันไปคนเดียวไหม” ก้อนหินจิลเสนอตัว “ฉันเป็นก้อนหิน และฉันกลมกลืนไปกับป่า พวกมนุษย์น่าจะสังเกตเห็นฉันได้ยาก”
“ปัญหาก็ยังมีอยู่ นายคนเดียวล่าสัตว์ไม่ไหวหรอก อีกอย่างเรื่องการขนอาหารกลับมาอีก” กะโหลกเซนชี้ให้เห็นถึงปัญหา
“ฉันคาบอาหารกลับมาก็ได้” ก้อนหินจิลบอก
“ฉันไม่มีทางกินอาหารที่นายคาบกลับมาแน่ๆ” ผมร้องยี้ ไข่มังกรเดรคพยักเพยิบอย่างเห็นด้วย
“งั้นเราก็ไปกันทั้งหมดนี่เลยสิ!” ไข่มังกรเดรคเสนอ “รวมฝูงกันออกล่าไง”
“อืม…ก็คงมีแต่วิธีนี้วิธีเดียวนั่นแหละ” กะโหลกเซนยอมจำนนในโชคชะตา
“งั้นเอาตามนี้ รวมกลุ่มกันออกล่าสัตว์ ถ้าอิ่มก็อิ่มด้วยกัน ถ้าโกยก็ต้องโกยด้วยกัน” ผมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
“ฉันชอบคำนั้นจัง” ก้อนหินจิลร้องบอก
ทันใดนั้นกระดานเล็กๆก็โผล่พรวดขึ้นมาเร็วพอๆที่จะทำให้ผมร้องลั่นอย่างตกใจเพราะตั้งตัวไม่ทัน มันเขียนเอาไว้ว่า “ต้องการสร้างปาร์ตี้ใช่หรือไม่” ผมอึ้งเพราะไม่รู้ว่าอะไรคือปาร์ตี้ แต่เมื่อลองนึกย้อนกลับไปถึงหัวข้อก่อนหน้านี้ที่เราคุยกันและสิ่งที่ผมกำลังนึกอยู่ในหัว ไอ้คำว่าปาร์ตี้คงต้องเป็นอะไรที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่ารวมฝูงแน่ๆ
“ใช่” ผมตอบ ทุกคนหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว อ้อ! ลืมบอกไป กระดานที่ปรากฏขึ้นมา จะมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่มองเห็น
ข้อความบนกระดานเปลี่ยนไปเป็นคำว่า “สร้างปาร์ตี้เสร็จสมบูรณ์ ทำการเชิญสมาชิกให้เข้าร่วม”
แล้วทุกคนก็เจอหน้ากระดานคำเชิญของผม ผมอธิบายให้ทุกคนฟังว่าอะไรคือปาร์ตี้แล้วสั่งให้พวกเขาตอบรับคำเชิญ แล้วปาร์ตี้มอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในโลกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ตอนนั้นนั่นเอง!!!
ขอโทษด้วยนะ ผมพยายามเล่าให้มันดูยิ่งใหญ่แล้ว แต่ผมทำได้แค่นั้นจริงๆ
“เอาล่ะ” ผมมองไปยังปากถ้ำ จุดหมายต่อไปของพวกผมคือป่าใหญ่ด้านนอกนั่น “จะได้เป็นผู้ล่า หรือจะถูกล่าเสียเอง เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน!”
ทุกๆคนเห็นด้วยว่า เราคือกลุ่มมอนสเตอร์ที่เซ็กซี่ที่สุด…มีรสนิยมที่ดีกันจริงๆเลยนะ : ลูกแก้วฟราน
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ