เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  38.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

35) หึงโหด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
“ชื่นใจไหมไม่รู้ รู้แค่ว่าหายคันคอแน่” และก็หายไปจากโลกนี้ด้วย ชีวิตมึงอ่ะ ไอ้เวร!
 
มัจจุราชสีดำมืดถูกกระแทกลงมาบนโต๊ะรุนแรงจนกาแฟในแก้วกระฉอกออกมาข้างนอก ดวงตาเบิกกว้างสองคู่เงยขึ้นมองเจ้าของปืนอัตโนมัติ ลันลาดาอ้าปากค้าง ลำคอไร้เสียงเพราะคาดไม่ถึงว่าจะเจอคมพัชญ์ยืนหน้าถมึงทึงอยู่ห่างออกไปแค่ปลายช่วงแขน ส่วนพันศักดิ์นั้นไปต้องพูดถึง แว่บแรกที่เห็นกระบอกปืน พ่อหนุ่มนักหยอดก็ปากคอสั่น พอได้สบดวงตาปีศาจของเจ้าของปืนก็พลันเกิดอาการแข้งขาอ่อน รีบลนลานลุกจากเก้าอี้ออกไปยืนถอยห่างโดยที่ดวงตาเบิกกว้างไม่ยอมคลาดไปจากคมพัชญ์สักวินาที บุรุษเคราดกตรงหน้าไม่ได้หล่อมากจนยากถอนสายตา แค่พันศักดิ์ต้องการมองให้มั่นใจว่าแฝดนรกคนน้องที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดจะไม่คว้าปืนมายิงกรอกปากตัวเองตามที่นำเสนอไว้ก่อนหน้าจริงๆ
 
“คะ..คุณคมพัชญ์ สะ..สวัสดีครับ มากินกาแฟเหรอที่นี่เหมือนกันเหรอครับ”
 
ต้องถอยหลังออกมาจากร่างสูงของคมพัชญ์ถึงห้าก้าว ถึงจะมากพอให้มีพื้นที่ว่างวิ่งหนีลูกตะกั่ว เสียงสั่นๆของพันศักดิ์จึงจะยอมกลับมา ครั้นจะยืนสบตาชายหนุ่มนิ่งๆก็ดูจะเก๋าเหมือนนักเลงมองหาเรื่องคู่อริมากเกินไป จนไปกระตุ้นลูกปืนในมือคมพัชญ์ให้ทำงาน คนตัวสั่นจึงพยายามเก็บอาการปอดแหกแล้วเอ่ยทักทายตามมารยาท เผื่อจะทำให้สติของคมพัชญ์ระลึกได้ว่าเขากับมันรู้จักกัน
 
“มารับเมีย” ตรงกว่านี้ก็ไม้บรรทัด คำตอบทื่อๆของคมพัชญ์ทำเอาคนถูกพาดพิงหน้าร้อนวูบ
 
“เมีย?”
 
“เออ! ผู้หญิงหน้าหวานที่มึงหยอดอยู่นี่ไง ลันลาดา เมียกูเอง!”
 
พันศักดิ์อาจโง่จริงหรือแกล้งโง่ถึงได้ทำหน้าเป็นเครื่องหมายเควชชั่นมาร์กตัวโต...ก็ช่างหัวมัน แต่น้ำเสียงเหี้ยมๆของคนถูกถามที่กัดฟันตอบกลับมาน่ะของจริงแน่นอน มารยงมารยาทไม่ต้องถามหากันแล้วนาทีนี้ เพราะสำหรับคมพัชญ์ การไม่เอาปืนยิงกรอกปากไอ้หนุ่มที่ริอ่านมาจีบเมียเขาคือความเมตตาสูงสุดที่พอจะควานหาให้ได้ เข้าใจชีวิตเลยว่ายากกว่าขุดดินร้อยเอเคอร์ด้วยสองมือเปล่ายังไม่เท่าการพยายามห้ามสองเท้าไม่ให้กระโดดถีบขาคู่ใส่ไอ้หน้าหม้อพันศักดิ์ ยืนตาขวาง กำหมัดแน่นตั้งแต่ได้ยินที่มันบอกว่าจะมาหาเมียเขาที่นี่บ่อยๆแล้ว และที่ทำให้หัวร้อน ไม่ยงไม่เย็นมันแล้วอารมณ์ ก็ตอนที่ได้ยินมันกระแดะชมลันลาดาว่าหน้าหวาน เมียเขาน่ารักหน้าหวาน น่ากอดน่าฟัด น่าจับขย้ำบนเตียงเขารู้ดี แต่ที่ไม่ดีคือไอ้พวกผู้ชายที่มันไม่รู้ชะตาเงาหัวมันนี่แหละที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังปลุกปีศาจขี้โมโหในตัวเขาให้ออกอาละวาด เกรงว่าทอดเวลาออกไปอีกนิดแล้วไอ้หูดำนี่มันจะบังอาจลวนลามเนื้อตัวลันลาดาให้เป็นเสนียด คมพัชญ์จึงเลิกแอบฟังแล้วเดินอาดๆ สาดรังสีอำมหิตเข้ามาหาทั้งคู่ ประกาศให้โลกรู้กันไปเลยว่าผู้หญิงคนนี้เมียกู!
 
‘ซวยแล้วพันศักดิ์ น้องหน้าหวานคนนี้เป็นเมียไอ้ขี้เก๊กคมพัชญ์!’
 
นึกว่าน้องหน้าหวานไม่มีเจ้าของ ที่ไหนได้ เจ้าของเขามาตามคืนแล้ว แถมไอ้เจ้าของยังดุเป็นหมาบ้าไม่ได้ฉีดวัคซีนซะด้วย พันศักดิ์หาทางออกด้วยใจระส่ำ ความสัมพันธ์กับคมพัชญ์จะเรียกว่าสนิทก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นศัตรู ว่ากันตามจริงก็แค่คนที่รู้จักกันผ่านๆตามงานสังคม ในสายตาของพันศักดิ์ ฝาแฝดบารมีเสียดฟ้าก็แค่พวกเศรษฐีขี้เก๊ก โดยเฉพาะคมพัชญ์ที่ชอบทำหน้าหยิ่งไม่สนโลก เรียกร้องความสนใจจากหญิง ไม่ได้เกลียด แค่หมั่นไส้ที่บรรดาสาวๆพากันกรี๊ดกร๊าดทุกครั้งที่แฝดนรกคู่นี้ปรากฏตัว ก็แค่ลูกคนรวยหน้าบ้านๆ ไม่ได้ดูดีกว่าพันศักดิ์ ลูกชายคนเดียวของท่านนายอำเภออย่างเขาเลยสักนิด ไม่ต่างจากคมพัชญ์ที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรพันศักดิ์ แต่แค่ไม่อยากสุงสิง ไม่อยากสนิทสนมกับพวกที่เก่งแต่ปาก พูดจาอวดร่ำอวดรวย ยกตนข่มท่าน และกร่างเป็นลูกเทวดายามน้ำเมาเข้าปาก แต่พอมีปัญหาเข้าจริงกลับวิ่งหางจุกตูดไปฟ้องพ่อมาช่วยจัดการ ทว่าวันนี้เขากลับเกลียดขี้หน้ามันสุดใจตั้งแต่ที่เห็นมันจีบลันลาดา
 
“คะ..คือว่า...”
 
“แก้วนี้ชงให้ใคร!”
 
เหมือนโดนเอาฝ่าเท้าลูบหน้า พันศักดิ์ลอบกัดฟันกับท่าทีไม่เห็นหัวของคมพัชญ์ที่ไม่รอให้เขาพูดจบแต่กลับหันหน้าไปมองยังบาริสต้าหน้าหวานตัวต้นเหตุของสถานการณ์ชวนนองเลือด คมพัชญ์ตวัดดวงตามองเครื่องชงก่อนตะคอกถามถึงกาแฟแก้วที่เห็นลันลาดาตั้งใจชงและตอบกลับพันศักดิ์ว่ามันมีเจ้าของจับจอง ที่หลบอยู่ตรงประตูไม่ยอมเข้ามาแต่แรกก็เพราะอยากรู้นี่แหละว่าเมียเขาชงกาแฟให้ใครกิน ทำไมถึงต้องยิ้มหวานล้ำขนาดนั้นตอนชงด้วย ถ้ารู้ว่าชงให้ชายชู้จะได้ตามไปถลกหนังหัวมันมาทำพรมเช็ดเท้า
 
“ลาดาตั้งใจชงให้พี่คมค่ะ” อืม...ชื่นใจฉิบหาย!
 
“ได้ยินไหมว่า...ของกู!”
 
ถ้าแค่ต้องการโอ้อวดว่ากาแฟแก้วที่พันศักดิ์ต้องการมีชายหนุ่มเป็นเจ้าของ น้ำเสียงและดวงตาของคมพัชญ์คงไม่ต้องใส่ความดุดันเฉียบขาดมากมายเหมือนจอมมารแสนโหดร้ายถึงเพียงนั้น ทว่าผู้ชายด้วยกันย่อมดูออก ว่าจุดประสงค์หลักของคมพัชญ์คือตอกย้ำว่าลันลาดาคือผู้หญิงของตัวเอง และชายหนุ่มก็หวงแหนมากเสียด้วย
 
“ดะ..ได้ยินครับ ผมมีธุระ คงต้องขอตัวกลับก่อน” ‘กะ...กู กูจะฟ้องพ่อ!’
 
ใครจะอยากเอาชีวิตสุดเพอร์เฟ็คไปทิ้งกับอีแค่ผู้หญิงมีเจ้าของดุเป็นหมาบ้าคนเดียวกันเล่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน พันศักดิ์จึงหาทางเลี่ยงจากการถูกรังสีอำมหิตของคมพัชญ์กดดันจนขาดใจตายด้วยการเอาธุระที่ไม่มีจริงมาอ้าง วางเงินค่ากาแฟบนเคาท์เตอร์โดยไม่ยอมเฉียดสายตามองลันลาดาก่อนหมุนตัวตั้งท่าจะเดินออกไปจากร้านให้เร็วที่สุด ทว่ามือใหญ่ของคมพัชญ์กลับตะปบลงมาบนหัวไหล่จนไหล่แห้งๆของพันศักดิ์สะดุ้งโหยง ใบหน้าชื้นเหงื่อค่อยๆหันกลับมามองเจ้าของมือ ในใจก็ภาวนาอย่าให้หันไปเจอว่ามีกระบอกปืนจ่อกบาลอยู่เลย
 
“เดี๋ยว! ถ้ามึงไม่อยากไปนอนคุยกับรากมะม่วง อย่าเข้าใกล้เมียกูอีก จำไว้!”
 
ลือกระฉ่อนไม่แพ้ความปอดแหกของพันศักดิ์ คงเป็นสันดานฟันแล้วทิ้ง คนน่ารังเกียจอย่างมันไม่สมควรเลยสักนิดที่จะเฉียดเข้าใกล้ลันลาดาให้ราคีหม่นหมองติดตัว คมพัชญ์จึงต้องตะคอกสั่งไอ้หน้าหม้อด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม เหี้ยมจนคนถูกสั่งเกือบปัสสาวะราดกางเกงให้ขายหน้า จึงไม่ต้องแปลกใจที่พอคมพัชญ์สะบัดมือออกด้วยความรังเกียจ แล้วพันศักดิ์จะวิ่งสี่คูณร้อยออกไปจากร้านขนาดนั้น
 
“มาตั้งแต่เมื่อไรวะ”
 
น้ำเสียงคุ้นเคยที่ทักทายทำให้คมพัชญ์เหลือบดวงตาที่ยังไม่คลายโทสะมองเลยศีรษะลันลาดาไปทางด้านหลังเคาท์เตอร์ ไอ้พี่ชายตัวดีที่กำลังมองหาตัวอยู่ตรงนั้นนั่นเอง กำลังจะอ้าปากด่ามันเลยเชียวว่าพาเมียเขามาทิ้งไว้ให้ผู้ชายคนอื่นนั่งแทะโลมได้อย่างไร ทว่าหัวคิ้วของคมพัชญ์กลับขมวดหากันน้อยๆเมื่อกวินพลไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ข้างๆมันมีสาวสวยยืนทำหน้านิ่วเหมือนคอมพิวเตอร์กำลังประมวลอะไรสักอย่างอยู่ด้วยหนึ่งคน จากใบหน้าเลอะเทอะผงแป้งผสมวิปครีมสีขาวข้นของทั้งคู่ทำให้เกิดประกายบางอย่างในดวงตาคู่คม และยิ่งชัดเจนเมื่อก้มหน้ามองมือของกวินพลที่กุมมือผู้หญิงคนนั้นไว้ทำเหมือนมันเป็นเจ้าของเนื้อตัวสาวเจ้าเหมือนที่เขาชอบทำกับลันลาดา ฮึ! ร้ายนักนะมึงไอ้วิน
 
“ก็มาทันเห็นไอ้หน้าหม้อพันศักดิ์นั่งจีบลาดา”
 
เสียงของคมพัชญ์ไม่เบานักหรอกยามนึกถึงเหตุการณ์บาดตาก่อนหน้า ดวงตาสีเข้มตวัดมองพี่ชายอย่างคาดโทษ โกรธพี่ชายไม่น้อยเลยที่พาเมียเขาออกมาแล้วไม่นั่งเฝ้าให้ดี และตอนนี้ก็เคืองลันลาดาด้วยที่ปล่อยให้พันศักดิ์มันเกี๊ยว ไม่ยอมเอาน้ำกาแฟร้อนๆกรอกปากมันไปซะ ไอ้เวรนั่นจะได้หายซ่า
 
‘มีคนจีบน้องลาดา! ฉิบหาย! คม คม ไอ้คม! นี่พี่เอง พี่วินสุดที่รักของมึงไง’
 
กวินพลพยายามห้ามปรามน้องชายด้วยสายตา ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพันศักดิ์ถึงวิ่งหางจุกตูดออกไปแบบนั้น เพราะขนาดเขาเป็นพี่ชายของคมพัชญ์ยังนึกหวั่นๆกับดวงตาอำมหิตที่มันตวัดมองมานั่นเลย น่ากลัวชิบ ปากมันไม่ว่างด่าเพราะกำลังเม้มแน่นด้วยแรงอารมณ์ที่ยังพุ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือด แต่ดวงตาของมันน่ะขว้างคำสบถหยาบคายมากมายมาแปะเต็มหน้าเขาหมดแล้ว เป็นต้นว่า...ไอ้พี่เฮงซวย ไอ้ชั่ว ไอ้พี่สารเลว ไอ้คนสับปลับ ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ และอีกหลายไอ้ที่ไม่สามารถออกอากาศ นี่ยังถือว่าปรานีแล้วนะ ถ้าหากเขาไม่ใช่พี่ชายมัน ป่านนี้คนแรกที่ต้องไปนอนคุยกับรากมะม่วงคงเป็นเขานี่ล่ะ
 
‘มึงดูแลลาดายังไง ฮะ! ทำไมปล่อยไอ้พันศักดิ์มาจีบ ถ้าไอ้เวรนั่นมันแตะเมียกู กูไม่เอามึงไว้แน่!’
 
‘กูไม่รู้ กูไม่ได้ตั้งใจ กูเข้าไปช่วยยายโหดทำขนมแป๊บเดียวเอง’
 
‘ทำขนม? หน้าที่มึงเหรอ!’
 
‘อยู่ในช่วงทำคะแนนกับพี่สะใภ้มึงไง’
 
‘คะแนนกับลูกปืน มึงจะเอาอะไร!’
 
‘ใจเย็นก่อนสิวะ กูขอโทษที่ไม่ระวัง’
 
‘มึงมาเป็นกู แล้วมึงจะรู้ว่ากูเย็นไม่ลง!’
 
เพราะไม่อยากตะโกนด่าให้ภาพลักษณ์ของพี่ชายดูไม่ดีในสายตาของสาวที่มันตามจีบ คมพัชญ์จึงส่งกระแสจิตต่อว่ากวินพลซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของคนเป็นคู่แฝดที่แค่ประสานสายตาก็หยั่งรู้ไปถึงก้นบึ้งหัวใจของอีกฝ่าย เหตุผลและคำขอโทษของพี่ชายเหมือนจะช่วยชะล้างความกรุ่นโกรธให้ลดระดับลงไปบ้างแต่ก็ยังไม่มากพอจะทำให้สีหน้าบึ้งตึงของคมพัชญ์จางหาย ดวงตาของชายหนุ่มยังเรืองรอง ระดับการหายใจยังรุนแรง ปืนยังวางอยู่บนโต๊ะ รังสีอำมหิตยังครอบคลุม บรรยากาศภายในร้านเงียบกริบยิ่งพาให้ทั้งสี่ชีวิตรู้สึกกดดันจนหายใจลำบาก หนักกว่าใครเพื่อนคงหนีไม่พ้นลันลาดาที่ยืนก้มหน้างุดเพราะรู้ดีว่าตัวเองคือตัวการของปัญหา
 
“กลับบ้าน!”
 
อยู่ไปก็ไม่มีทีท่าว่าอะไรจะดีขึ้น คมพัชญ์จึงเดินอ้อมไปหลังเคาท์เตอร์ก่อนคว้าปืนเหน็บไว้ที่เอว เก็บอาวุธร้ายอันเป็นบทสรุปว่าจะไม่มีเหตุนองเลือดกลางร้านกาแฟ ข้อมือบางของคนยืนก้มหน้าจนปลายคางแตะเนื้อเนินอกก็ถูกคว้าไปกุมแน่น คมพัชญ์เงยหน้าขึ้นมองกวินพลเหมือนหยั่งรู้ว่าพี่ชายกำลังจะเอ่ยปากห้ามก่อนส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบสุดท้ายว่าความต้องการของมันไม่ได้รับการอนุมัติ จากนั้นร่างสูงก็กระชากข้อมือเล็กพาออกเดินเพื่อกลับไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ ทว่าเดินห่างมาได้แค่สองก้าว ท่อนขาของคมพัชญ์กลับหยุดชะงักเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนหันไปสั่งลันลาดาเสียงเข้ม
 
“หยิบกาแฟมาด้วย”
************************************************
รื้อตู้เสื้อผ้าเมียเสร็จแล้วล่ะสิ ถึงได้ตามมารับลาดาเองถึงร้าน แล้วจังหวะดันพาซวยไปอี๊ก ลาดาชงกาแฟอยู่ตั้งนานไม่มา พอมีหนุ่มมาจีบปุ๊บ อิพี่มาปั๊บ จากนี้อิพี่คมคงไม่ยอมปล่อยน้องคลาดสายตาแน่  ส่วนเรื่องความขี้หึงนี่พี่ยืนหนึ่งตัวจริงนะจ๊ะ งานนี้ปืนไม่ลั่นถือว่าโชคดีมากกกกกกก
ปล.ส่งงานให้โรงพิมพ์เรียบร้อยแล้วนะคะ กำหนดส่งหนังสือน่าจะเหมือนเดิม แต่ถ้าเลทจริงก็จะไม่เกิน 2 วันค่ะ แม่ยกเตรียมไม้หน้าสามรอต้อนรับพี่คมได้เลย
 
************************************************************************

ปล.ภัคแอบไปเปิดเรื่อง 'บ่วงร้ายพ่ายใจรัก' ไว้แหละ เป็นเรื่องของพี่วินคนหล่อ ฝาแฝดของอิพี่คมนั่นเอง ฝากกดติดตามไว้ด้วยนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา