เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.00K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) คนขี้หวง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
“ลาดาเข้าใจแล้วค่ะ และจะไม่ใส่ชุดปาดไหล่แบบนี้อีกค่ะ” เพื่อให้เรื่องจบ ไม่เข้าใจก็ต้องทำเป็นเข้าใจ
 
“ห้ามใส่ออกไปข้างนอก อนุญาตให้ใส่เฉพาะตอนอยู่กับพี่” ในห้อง ...พี่จะได้ถอดง่ายๆ 
 
“ค่ะ งั้นลาดาขอไปเปลี่ยนชุด พะ..พี่คม จะ..จะทำอะไรคะ”
 
ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศที่ปะทะผิวกายยังไม่ทำให้หนาวสะท้านได้เท่าดวงตาร้อนแรงของคมพัชญ์ที่กวาดมองผิวเนื้อละมุน ขัดเขินจนเนื้อตัวร้อนวูบวาบ มือบางจึงพยายามรั้งเนื้อผ้าให้กลับสู่ที่ทางของมัน ทว่ามือใหญ่กลับขัดขวาง ลันลาดาเงยหน้าตื่นๆขึ้นมองเจ้าของมือ คมพัชญ์ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนกดยิ้มมุมปากใส่ดวงตาหวาดหวั่น รอยยิ้มของชายหนุ่มพราวระยับดูเจ้าเล่ห์ร้ายจนขนอ่อนบนเรือนกายเกือบเปลือยลุกชูชัน
 
“พี่คม!”
 
มีปัญญาเรียกได้เท่านั้น เพราะสติน้อยนิดกระเจิงหายทันทีที่คมพัชญ์ฉกริมฝีปากจูบลงมาบนหัวไหล่เปลือย ร่างบางสะดุ้งโหยง เพียงแค่จุมพิตเดียวก็เกิดอาการร้อนวูบวิ่งพล่านไปตามกระแสเลือด แต่ขึ้นชื่อว่าคมพัชญ์ แฝดนรกตัวน้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้า มีหรือจะหยุดอยู่แค่นั้น เรียวปากอุ่นยังคงขยับจูบวนเวียน เบาบ้าง หนักบ้างไปทั่วผิวเนียนบริเวณหัวไหล่ ลันลาดาห่อไหล่เข้าหากัน พยายามย่นคอหนี แต่พื้นที่แคบๆบนตักแกร่ง ซ้ำยังถูกกักตัวไว้ด้วยท่อนแขนกำยำแล้วเช่นนี้จะหนีไปไหนพ้น
 
“จำไว้ เป็นเมียพี่ อย่าริเอาเนื้อตัวไปให้ใครมอง!”
 
แล้วคนขี้หวงก็จัดการลงโทษภรรยาที่ริอ่านทำให้ขุ่นใจด้วยการจับร่างบางให้หันแผ่นหลังเปลือยเข้าหา แวบแรกใจหายวูบเพราะคิดว่าถูกคมพัชญ์ผลักไส ทว่าอึดใจต่อมาเรียวปากที่กำลังจะกล่าวคำขอโทษกลับต้องเม้มเข้าหากันแน่นสนิทเมื่อถูกความร้อนกดลงที่กลางแผ่นหลัง ลันลาดาหลับตาลง สองมือบีบเข้ากับปลายนิ้วแข็งแรงของคมพัชญ์ที่แทรกเข้ามาประสาน สองเท้าเกร็งหงิกงอเมื่อริมฝีปากได้รูปยังคงบรรจงจูบไปทั่วแนวสันหลังแผ่วๆ แค่จูบก็ทำเอาหัวใจกระหน่ำเต้นแรงโลด แต่คมพัชญ์กลับใจร้ายกว่านั้นด้วยการใช้ปลายคางที่ปกคลุมด้วยไรเคราสากคลึงเล่นกับผิวเนื้อนวลจนร่างบางร้อนวูบวาบเหมือนปลายประสาทที่หลับใหลถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเพื่อรองรับสัมผัสซ่านสยิว ร่างบนตักแอ่นหยัดบิดเอี้ยวตัวทุกครั้งที่ริมฝีปากร้ายกดจุมพิตร้อนแตะแต้ม ผิวเนื้อบางเห่อร้อนแดงแล้วแดงอีกแต่คมพัชญ์ก็หาได้ปรานี ชายหนุ่มยังคงตีตราจับจองเป็นเจ้าของเนื้อนวลทั่วทุกตารางนิ้วไม่เกรงใจเจ้าของผิวเลยว่าลันลาดาจะต้องกัดริมฝีปากสกัดเสียงร้องครางให้อยู่แค่ในลำคอจนกลีบปากบางเจ็บหนึบ
 
“พี่ถอดนะ”
 
เพราะบราไร้สายยังเกาะอยู่กับอกอิ่ม ภารกิจประทับตราเนื้อนวลจึงถูกกีดขวางด้วยเนื้อผ้าที่คาดอก คมพัชญ์จึงทำตัวเป็นสุภาพชนเอ่ยขออนุญาตเสียงพร่า ทว่ายังไม่ทันได้คำตอบ สองมือเยี่ยงโจรของชายหนุ่มก็ปลดตะขอดึงบราที่แสนเกะกะโยนทิ้งไม่ใยดีจนสองเต้าถูกปลดปล่อยจากความรัดรึง มาถึงขนาดนี้แล้วลันลาดาจะเอาอะไรไปห้ามปรามได้อีกงั้นหรือ ไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืน ไม่มีความกล้าจะขัดใจ ไม่มีอะไรไปหยุดยั้งคนตัวโตได้เลย หน้าที่เดียวตอนนี้คือนั่งเป็นตุ๊กตาตัวน้อยให้คมพัชญ์บีบคลำลูบเคล้นตามที่ชายหนุ่มสบายใจ
 
‘ฉิบ! งานการไม่ต้องทำมันแล้ว’
 
คมพัชญ์แสยะยิ้มเมื่อคิดถึงตารางงานประจำวันที่วางไว้ อ้อมแขนแกร่งออกแรงกระชับร่างบางให้แน่นกว่าเดิมยืนยันความต้องการของใจตัวเอง นาทีนี้ต่อให้เอาทองสูงท่วมหัวบวกกับเงินกองใหญ่กว่าภูเขามาล่อก็อย่าหวังว่าจะเขาจะยอมปล่อยลันลาดาให้ห่างตัว หากกองงานที่แปรเป็นเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลมีชีวิต มันคงน้อยใจน่าดูที่ถูกผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าหวานๆบนตักแกร่งแย่งชิงความสำคัญด้วยคะแนนทิ้งห่าง ใบหน้าคมส่ายเบาๆเมื่อคนที่ขยันขันแข็งกับงานมาตลอดกลับมาเกเรเอาตอนอายุสามสิบกว่าเช่นนี้ จมูกโด่งกดจูบบนลาดไหล่นวล กระจ่างชัดว่าผิวเนื้อหอมหวานคือสาเหตุของความเลยเถิดที่แท้จริง จากความตั้งใจที่คิดจะลงโทษเพื่อตอกย้ำลันลาดาว่าใครคือเจ้าของเนื้อตัวนุ่มลื่นตัวจริงด้วยการจุมพิตตีตราประทับ แต่ทำไปทำมากลับกลายเป็นการโลมเล้าเพื่อจุดไฟปรารถนาเมื่อสองมืออุ่นได้สัมผัสกับอกหยุ่น แต่จะต้องแปลกใจด้วยหรือ ในเมื่อก้อนเนื้อที่ตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่นั้นนุ่มนิ่มอวบอูมเสียจนไม่อาจยั้งใจ และไม่คิดจะยั้งด้วยเมื่อเจ้าของอกก็เมียเขาเอง อีกทั้งสัดส่วนกลางกายก็ดีดตัวซุกซนอยู่ใต้กางเกงยีนส์สีเข้มเป็นที่เรียบร้อย ยังต้องรออะไรอีก
 
“พี่คม จะ...จะทำอะไรคะ” เสียงใสเริ่มขาดห้วงเพราะถูกมือใหญ่ลูบไล้ไม่ผ่อนปรน
 
แทนคำตอบคือร่างบางที่ถูกยกจนตัวลอยก่อนจับพลิกให้หันหน้าเข้าหา สองแขนรีบไขว้ปิดบังทรวงอกอิ่มมือไม้สั่น เนื้อตัวที่ว่าแดงยังไม่เท่าใบหน้าหวานที่กลายเป็นสีเข้มจัดทันทีที่สัมผัสกับแรงดุนดันใต้กางเกงยีนส์ของเจ้าของตัก ลันลาดาตกใจหน้าตาตื่น ความไม่เดียงสาที่ถูกคมพัชญ์หยิบยื่นทำให้พอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังรู้สึกเช่นไร แต่ที่น่าอับอายยิ่งกว่าคือเธอรู้สึกอยากห้ามปรามและตอบรับในเวลาเดียวกันนี่สิ หากปล่อยให้คมพัชญ์เล้าโลมต่อไปนานกว่านี้อีกนิดไม่รีบต่อต้านไว้คงได้เผลอทำตัวไร้ยางอายเป็นแน่ ลันลาดาจึงพยายามขืนตัวออกห่างจาก ทว่าท่าทางคล้ายรังเกียจทำให้คมพัชญ์กลับยิ่งแกล้งกดแผ่นหลังบางเข้ามาใกล้ ใกล้จนปลายจมูกทั้งสองสัมผัสกัน
 
“อย่าดื้อกับผัว ไม่งั้นจะจับจูบให้แก้มยุบ”
 
ไม่ได้มาแค่คำขู่ แต่คมพัชญ์ยังสาธิตเป็นตัวอย่างว่าจูบจนแก้มยุบน่ะเขาทำกันแบบไหน พูดจบปลายจมูกโด่งก็กดลงสูดดมความหอมของแก้มนิ่มหนักๆจนชนกับสันกระดูกจงใจให้เกิดเสียงดังฟอด หอมแล้วก็ติดใจ แก้มนุ่มๆทั้งสองข้างจึงถูกจมูกโด่งฟัดเล่นจนช้ำชอกอย่างที่ไม่เคยนึกอยากทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
 
“พี่คม!”
 
แล้วความหอมกรุ่นของผิวเนื้อเนียนจากร่างบางก็ทำให้ความยับยั้งของคมพัชญ์เลยเถิดอีกครั้ง เอวเล็กถูกรวบกอดก่อนจับยกขึ้นจากตักแกร่งด้วยมือทรงพลังข้างเดียว เพื่อเปิดโอกาสให้มืออีกข้างจัดการรูดชุดเดรสเจ้าปัญหาที่นอนกองอยู่ตรงหน้าท้องแบนให้พ้นไปจากร่างบางแสนสวยที่ยิ่งสวยขึ้นอีกสิบเท่ายามเปลือยเปล่า ตาวาวมองเนื้อผ้าที่ค่อยๆรูดผ่านข้อเท้าน้อยๆด้วยความชอบใจเหมือนคนโรคจิต ทั้งที่เคยถอดเคยสัมผัสมากกว่านี้มาแล้วด้วยซ้ำ แต่คมพัชญ์ก็ยังรู้สึกฮึกเหิมทุกครั้งที่ได้เป็นคนปอกเปลือกเนื้อนวลของลันลาดาให้ปรากฏแก่สายตาทีละเล็กทีละน้อยจนเหลือเพียงซับในสีชมพูตัวเดียวเกาะร่าง ลันลาดาเปรียบได้ดั่งของขวัญชิ้นโปรด และเขาก็โปรดการแกะของขวัญชิ้นนี้เป็นที่สุด
 
“อย่าห้ามน่า ปล่อยพี่อดอยากมาหลายวัน ไม่คิดจะสงสารกันบ้างรึไง”
 
ตัดพ้อเสียงเครียดก่อนซบหน้าคลอเคลียกับหว่างอกนุ่มจนเจ้าของอกผวาเฮือก สั่นสะท้านไปทั้งตัว ทั้งที่ดอดมานอนร่วมเตียงเคียงหมอนด้วยกันทุกคืน แต่หลายวันมานี้คมพัชญ์กลับหิวโซไม่ต่างจากยาจกยากไร้ เหตุแรกเพราะงอนสะบัดกับสายตาหวาดกลัวของภรรยา คมพัชญ์จำต้องทำตัวเย่อหยิ่ง ซุกซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาเพื่อปิดกั้นตัวเองไม่ให้ดึงร่างอรชรเข้ามากอดฟัด ทำหน้าเชิดจนคอแทบหักแต่คนถูกงอนก็ยังไม่รู้ตัว ทว่าพฤติกรรมน่าถีบของคมพัชญ์หาได้รอดพ้นสายตาช่างสังเกตของกวินพล ไม่รู้เป็นเพราะรักน้องชายหรือหมั่นไส้กิริยาแสนงอนขัดกับหน้าตามหาโหด กวินพลจึงสวมบทกามเทพแสนดีเข้ามาช่วยเคลียร์สถานการณ์ให้ดีขึ้น กระหยิ่มยิ้มย่องกับแผนชั่วร้ายว่าตกค่ำคืนจะจับร่างบางมากอดมาฟัดให้หนำใจ แต่รอบเดือนของลันลาดากลับมาขัดขวางทางรักเสียนี่ ทำให้ใกล้ชิดได้มากที่สุดก็แค่นอนกอดให้แน่น แน่นจนกระดูกกระเดี้ยวของลันลาดาแทบแหลกละเอียด แน่นจนอีกนิดคมพัชญ์คงได้เผลอทำผิดกฎจราจรด้วยการฝ่าไฟแดงเป็นเกียรติประวัติของชีวิต
 
“ไม่ได้กอดลาดา แล้วพี่คม...ทรมานเหรอคะ” ลำคอของคนถามบีบหดลงด้วยลุ้นระทึกกับปฏิกิริยาและคำตอบ
 
“อือ”
 
คำตอบของคมพัชญ์สั้นห้วน แต่กระนั้นความหมายเฉียบขาดที่อัดแน่นอยู่ในนั้นก็ทำเอาคนที่ทำใจกล้าเอ่ยปากถามสามารถละทิ้งลมหายใจแล้วนอนตายอย่างสงบ ศพเป็นสีชมพูได้โดยที่คมพัชญ์ไม่ทันได้เงยหน้าจากการคลุกเคล้าอกอิ่มขึ้นมามองด้วยซ้ำ ลันลาดาก้มหน้ามองที่อกข้างซ้ายของตัวเองที่มีเส้นผมดกหนาของคมพัชญ์บดบังเมื่อรู้สึกว่ามันพองขยายเป็นลูกบอลลูนถูกเติมลม นึกดีใจที่ไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้นที่รู้สึกอ้างว้างโหยหายามที่สามีทางพฤตินัยถอยห่าง คำตอบจากเจ้าของตักนำพาความสุขใจมาให้จนไม่คิดต่อต้านความต้องการของชายหนุ่ม นอกจากไม่ห้าม ลันลาดายังมอบรางวัลให้คำตอบที่ถูกใจด้วยการคล้องแขนเกาะเกี่ยวลำคอแข็งแรงแล้วกระเถิบร่างเข้าหาเพื่ออำนวยความสะดวกให้คมพัชญ์สามารถดูดกลืนอกอิ่มได้ถนัดถนี่ นานหลายนาทีที่ริมฝีปากและสองมือช่วยกันปลุกเร้าเรือนกายอ่อนเดียงสาจนแรงปรารถนาท่วมท้นทัดเทียมกับร่างสูง คมพัชญ์จึงช้อนร่างบางขึ้นสู่อ้อมแขน ค่อยๆวางลงบนเตียงนอนอย่างทะนุถนอม ก่อนทิ้งร่างทาบทับแต่ก็ไม่ลืมระวังมิให้น้ำหนักตัวสร้างความเดือดร้อนให้ลันลาดาต้องอึดอัด ความยินยอมจากดวงตากลมทำให้คมพัชญ์ไม่คิดรั้งรอ ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอบจุมพิตร้อนแรงให้คนใต้ร่าง ทว่า...
 
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
 
“ลาดาขา แต่งตัวเสร็จรึงยังคะ พี่วินพร้อมแล้วน้า”
 
‘ไอ้วิน ไอ้ชั่ว ไอ้ตัวมาร ไอ้พี่เลว ไอ้เจ้ากรรมนายเวร!’
 
และอีกสารพัดคำสรรเสริญที่คมพัชญ์มอบให้พี่ชายสุดที่รักที่มาได้ถูกที่ถูกเวลาจนน่าลากมันไปฝังดินทั้งเป็นให้สิ้นซาก เสียงเรียกพร้อมเคาะประตูหนักๆส่งผลให้สองร่างที่คลอเคลียแนบชิดตกใจ ลันลาดาตั้งท่าจะพลิกตัวหนีแต่คมพัชญ์ไม่ยอม ชายหนุ่มทิ้งร่างทาบทับก่อนซุกหน้ากับซอกคอนุ่ม สูดดมกลิ่นหอมจากเนื้อนิ่มเข้าปอด หวังใช้มันระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านร้อนระอุให้คลายตัวลง
 
“พี่คม ทำยังไงดีคะ พี่วินจะรู้ไหมคะว่าเรา...อยู่ด้วยกัน” ลันลาดากระซิบถามเสียงสั่นด้วยความหวั่นใจ
 
“ลาดาจ๋า ลาดาของพี่ อยู่ไหมเอ่ย พี่วินเข้าไปข้างในได้ไหมคะ”
 
ยังไม่ทันได้รับคำตอบจากคมพัชญ์ เสียงของกวินพลก็แว่วเข้ามากดดันให้ลันลาดายิ่งสติแตก คมพัชญ์จูบซับเหงื่อเม็ดโตที่ผุดพรายล้อมกรอบใบหน้าซีดเซียว ก่อนกระซิบสั่งคนใต้ร่างเสียงเหี้ยม นี่ถ้าไม่ติดว่าลันลาดาอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยล่ะก็ ชายหนุ่มคงได้เปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับเจ้ากรรมนายเวรตัวร้าย แล้วกล่าวย้ำหนักแน่นใส่หน้ามันว่าลันลาดาน่ะเกิดมาเพื่อเป็นของคมพัชญ์คนเดียวเท่านั้นโว๊ย!
 
“บอกมันว่าถ้าไม่อยากตายห่าอย่าสะเออะเข้ามา” พี่ก็พี่เถอะวะ ถ้ามันกล้าแหยมเข้ามาในห้องเมียเขาล่ะก็ เละ!
 
“พี่วินลงไปรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ อีกห้านาทีลาดาตามไปค่ะ”
 
“พี่วินคนดีตามใจลาดาทุกอย่างเลยค่ะ อีกห้านาทีเจอกันนะคะคนสวยของพี่”
 
มือบางต้องรีบตะครุบไหล่หนาของคมพัชญ์ที่ดีดตัวขึ้นพรวดทันทีที่ได้ยินคำพูดของกวินพล ลันลาดาลูบแผ่นหลังของคนเหนือร่างพยายามทำให้ชายหนุ่มสงบ ศีรษะน้อยๆส่ายเบาๆอย่างอ่อนใจ คนพี่ก็ช่างแหย่ ส่วนคนน้องก็หัวร้อน ของขึ้นง่ายดายเหลือเกิน นี่หากเธอคว้าตัวคมพัชญ์ไว้ไม่ทัน ป่านนี้ชายหนุ่มคงเปิดประตูออกไปอาละวาดใส่พี่ชายฝาแฝด แล้วความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเธอกับคมพัชญ์ก็คงแตกดังโพล๊ะเพราะความขี้หวงของเขา
 
อา...นี่พี่คมหวงเรางั้นเหรอ แม้ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานก็ยังมีความสุขกรุ่นกำจายอยู่ในหัวใจดวงน้อยเมื่อรู้ว่าคมพัชญ์หึงหวงตัวเอง
 
“ไม่ไปได้ไหม” คมพัชญ์อ้อนเสียงอ่อนก่อนซบหน้าลงกับไหล่มน แค่คิดว่าต้องปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขน แม้เป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เถอะ แต่มันก็รู้สึกหงอยๆพิกล
 
“พี่วินคะ ลาดาขออนุญาตถามบ้างเรื่องได้ไหม”
 
“สำหรับน้องลาดา หลายเรื่องก็ได้ค่ะ พี่ยินดีตอบทุกคำถาม”
 
“พี่วิน...ชอบคุณขวัญ ใช่ไหมคะ”  
 
“ลาดา! จะไม่อ้อมค้อม ไม่อารัมภบทให้ต่อมแถพี่ทำงานก่อนเหรอคะ ทำไมใจร้าย”
 
กะล่อนตัวพ่อเบิกตากว้าง ถึงกับสะอึกน้ำลาย ถึงกับมือไม้อ่อนแรงจนต้องหักพวงมาลัยรถจอดข้างทางเมื่อเจอคำถามตรงทื่อเป็นไม้บรรทัดของลันลาดา กวินพลตัดพ้อเสียงอ้อนก่อนหันหน้างอนๆหนีสายตาซุกซนอย่างคนรู้ทันของน้องสะใภ้แสนน่ารัก ปลายนิ้วแข็งแรงตบแก้มเบาๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ จนรู้สึกว่าใบหน้าหนาขึ้น กวินพลจึงยอมหันหน้าที่ต้องพยายามเกร็งให้ดูขรึมกลับมามองลันลาดา
 
“เพราะน้องลาดาคือคนในครอบครัว พี่จะยอมบอกความลับให้ฟังก็ได้ ก็...ประมาณนั้นแหละค่ะ สงสัยพี่วินชอบของแปลกถึงได้ถูกใจยายโหดนั่น แต่ลาดาต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าเพิ่งบอกใครนะคะ รู้แค่เราสองคน” ทั้งที่นั่งอยู่ในรถกันแค่สองชีวิต แต่กวินพลยังมิวายทำเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนกลัวบุคคลที่สามมาได้ยิน
 
“แล้วที่ลากลาดาไปดื่มกาแฟด้วยทุกวัน เพราะอยากใช้ลาดาเป็นข้ออ้าง ใช่หรือเปล่าคะ?”
 
ลันลาดายื่นหน้าเข้าไปใกล้พลางแกล้งหรี่ตามองจับผิดกวินพลประหนึ่งนายตำรวจกำลังสอบสวนโจรผู้ร้าย ส่วนคนถูกรีดความจริงก็รับมุก แกล้งยกมือทาบอก ทำตาโตตกใจให้น้องสะใภ้ได้หัวเราะ แต่ในเรื่องขำขันกลับมีความจริงอยู่ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะหากเขาไปคนเดียว เจ้าของร้านกาแฟจอมดุจะไม่สนใจเขาเลย แต่พอมีลันลาดาไปด้วย น้องสะใภ้เขายังเรียกร้องความสนใจจากยายโหดนั่นได้ และตอนนี้ทั้งคู่ก็สนิทกันแล้ว จากนี้ก็หวังว่าคิวปิดน้อยลันลาดาจะค่อยๆทำให้ของขวัญมองเขาในแง่ดีบ้าง
 
“นี่พี่เผลอทำความลับแตกเหรอเนี่ย พี่นี่แย่จริงๆ ว่าแต่...รู้แบบนี้แล้วลาดาจะช่วยเป็นกามเทพตัวน้อยให้พี่วินได้ไหมคะ เห็นหน้าสวยๆ พูดหวานๆแบบนั้น แต่ยายนั่นน่ะร้ายไม่ใช่เล่นเลยค่ะ พี่วินต้องการกำลังเสริม!”
 
“อืม คุณขวัญเธอน่ารักดี เวลายืนคู่พี่วินแล้วเหมาะสมกันมาก ตกลงค่ะ ลาดาจะช่วยพี่วินเอง”
 
“น้องสาวพี่น่ารักที่สุด”
 
กวินพลรวบร่างเล็กเข้ามากอดแทนคำขอบคุณหลังจากถูกลันลาดาแกล้งทำท่าครุ่นคิดให้หัวใจตุ้มๆต่อมๆก่อนจะพยักหน้ายอมสวมบทเป็นคิวปิดตัวน้อยเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของร้านกาแฟที่น่ารักน่าฟัดสุดใจขาดดิ้นอย่างยายจอมโหดของขวัญ
 
“ลาดาจะรีบไปรีบกลับนะคะ”
 
คำขอของคมพัชญ์ทำให้ลันลาดาย้อนนึกถึงบทสนทนาในรถกับกวินพลเมื่อวานตอนกลับออกมาจากลิตเติ้ลโฮม คาเฟ่ช่วงบ่าย เกือบใจอ่อนให้กับน้ำเสียงออดอ้อนของคนที่ยังวนเวียนจุมพิตหัวไหล่มนที่นานทีปีหนจะได้ยินมันอยู่แล้ว หากรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจของกวินพลทันทีที่เธอตอบรับคำขอจะไม่ลอยขึ้นมาย้ำเตือนว่าเธอได้สัญญากับพี่ชายใจดีเอาไว้ สองคนกับสองความต้องการที่สวนทางกันทำให้คนกลางอย่างลันลาดาต้องครุ่นคิด ก่อนให้คำตอบที่เป็นกลางที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ แต่นั่นก็ยังไม่ดีพอสำหรับคนเหนือร่าง คมพัชญ์กัดฟันเมื่อคำตอบของลันลาดาไม่ได้เป็นดั่งที่หวัง ชายหนุ่มดีดร่างสูงขึ้นนั่งพลางรั้งร่างบางติดมือขึ้นมานั่งปลายเตียงด้วยกัน
 
“พี่คมคะ”
 
“รีบแต่งตัวสิ ไอ้วินรออยู่”
 
อารมณ์ของคมพัชญ์อยู่ในโหมดไหนคงไม่ต้องเดาเมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนที่มือบางจะทันได้วางบนไหล่กว้าง คมพัชญ์สะบัดใบหน้าหมางเมินมองไปอีกทางพลางสาวเท้าเดินนำไปยังห้องแต่งตัว ชั่วครู่ชายหนุ่มก็เดินกลับมาพร้อมชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าที่พาดไหล่มาหนึ่งชุด เมื่อชายหนุ่มไม่พูดไม่จา ลันลาดาจึงต้องหุบปากเงียบไปอีกคน คมพัชญ์รั้งร่างเกือบเปลือยบนเตียงให้ยืนขึ้น ก่อนคว้าบราสีหวานตัวใหม่สวมให้ลันลาดา ตามด้วยชุดที่เลือกเองกับมือปิดคลุมร่างบางมิดชิดตั้งแต่ลำคอยาวจรดข้อเท้าเรียว แต่งตัวเรียบร้อย มือหนาก็ช่วยจัดแต่งเส้นผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ ดวงตาเรียบเฉยพิจารณาร่างบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วข้อมือเล็กจึงถูกจับจูงเตรียมพาออกไปส่งให้กวินพลที่รออยู่ด้านล่าง
 
“พี่คม โกรธลาดาเหรอคะ”
 
ลันลาดารั้งมือหนาที่กำลังจะแตะลูกบิดประตูไว้ได้ทัน ก่อนทำใจกล้าถามคมพัชญ์เสียงขลาด แทนคำตอบคือการหันใบหน้าเรียบเฉยมองเมินไปอีกทาง เห็นแบบนั้นลันลาดาก็หน้าจ๋อย อาการนิ่งเงียบไม่พูดจาของสามียิ่งทำให้บรรยากาศอึดอัดจนหายใจลำบาก ความรู้สึกผิดท่วมท้นล้นหัวใจเมื่อเธอคือผู้ทำลายความสัมพันธ์ที่ค่อยๆดีขึ้นให้สั่นคลอนด้วยคำไม่กี่คำ
 
จุ๊บ!
 
ลันลาดากัดฟันข่มความขัดเขินจนรู้สึกร้อนผ่าวทั่วผิวแก้มก่อนตัดสินใจเขย่งจนสุดปลายเท้าให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของคมพัชญ์ สองมือบอบบางเกาะไหล่บึกบึนเป็นที่ยึดเหนี่ยวกันล้มคะมำ พฤติกรรมของภรรยาเนื้อนุ่มทำให้คมพัชญ์แปลกใจจนเผลอหันหน้ากลับมามอง แล้วก็เหมือนเหยื่อติดกับที่นายพรานตัวน้อยกำลังซุ่มรอ เมื่อแก้มสากของคมพัชญ์ชนเข้ากับริมฝีปากน้อยที่ตั้งท่ารออยู่ คนถูกลวนลามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อความอบอุ่นมันแผ่ซ่านเบิกบานอยู่กลางหัวใจกับสัมผัสอ่อนหัดแต่น่ารักน่าฟัดสุดใจขาดดิ้นของคนตัวเล็กที่ยืนแก้มแดงแจ๋
 
“อย่าโกรธเลยนะคะ ลาดาจะรีบไปรีบกลับ”
 
‘อ้อนก็เป็นนี่นะ’
 
“รีบลงไปเถอะ ชักช้าเดี๋ยวไอ้วินคงได้มาตามอีกรอบ”
 
ลันลาดาไม่อาจรู้ได้เลยว่าที่ลงทุนลงแรงง้อคมพัชญ์นั้นได้ผลหรือเปล่า เพราะใบหน้าของคนขี้งอนนั้นยังราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึกเช่นเดิม กลายเป็นคนทำเสียเองที่ทั้งอับอายและเก้อกระดาก สุดท้ายก็เจ็บจนชาเหมือนถูกตบหน้าเข้าฉาดใหญ่ว่าการกระทำของเธอนั้นเปล่าประโยชน์เมื่อถูกชายหนุ่มเอ่ยปากขับไล่พร้อมกับลุนแผ่นหลังออกมาจากห้องนอนของตัวเอง
 
‘ไปได้สักที!’
 
ในขณะที่เจ้าของห้องนอนสีชมพูหวานกำลังเดินเหงาๆลงบันได ทว่าจอมโจรเคราดกหน้าโหดกำลังรู้สึกพอใจเหลือเกินที่ลันลาดาไม่อยู่ในห้อง ไม่ได้อยากให้เมียรักอยู่ไกลตัว แต่ตอนนี้คมพัชญ์จะยอมตามใจให้กวินพลพาลันลาดาออกไปเที่ยวเล่นตามต้องการสักสองสามชั่วโมง เพื่อให้ตัวเองได้มีเวลาจัดการกับเสื้อผ้าตัวที่เขาไม่ชอบใจของหญิงสาวที่เขาแอบสำรวจตอนไปเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่เมื่อครู่
 
“ได้เวลาคมพัชญ์แล้ว ตัวไหนโป๊ จับเผาแม่งให้หมด!”
**************************************************
ความหล่อของอิพี่คมนี่เต็มร้อย แต่ความร้ายให้ร้อยห้าสิบ+++ไปเลย อะไรจะขี้หวงขนาดนั้น ยืนหนึ่งเรื่องความหวงเมียตัวจริง ถ้าอีกหน่อยเราได้เห็นยายหนูลาดาคลุมตัวเป็นมัมมี่ก่อนออกจากบ้าน ก็ไม่ต้องสงสัยอ่ะนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา