เร้นรักมธุรสลวง
-
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
39.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
24) ไม่น่าไว้ใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มีอะไร”
ประตูห้องนอนของคมพัชญ์เปิดกว้างหลังถูกเคาะหนักๆ เจ้าของห้องในชุดนอนลายทางเข้าชุดกันยืนกอดอกอิงร่างกับกรอบประตูมองผู้บุกรุกยามวิกาลด้วยสีหน้าบ่งชัดว่าไม่ใคร่พอใจที่ถูกรบกวนเวลาพักผ่อน คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องเป็นพี่ชายฝาแฝด ดึกดื่นป่านนี้ก็คงมีเพียงกวินพลคนเดียวนั่นแหละที่กล้าขึ้นมารบกวน ส่วนแม่บ้านจะแยกไปพักที่เรือนพักด้านหลังตั้งแต่สามทุ่ม หากไม่มีเรื่องด่วนจริงๆจะไม่มีใครกล้าเข้ามาเดินเพ่นพ่านในบ้าน
แทนคำตอบที่คมพัชญ์ต้องการคือดวงตาช่างสำรวจของกวินพลที่กวาดมองน้องชายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าช้าๆ ไม่ได้คิดเหยียดหยามแต่คนเป็นพี่ต้องการจับผิด ดวงตาสีเข้มจึงละเลียดมองไปตามเนื้อตัวน้องชายพยายามหาความผิดปกติ รู้ๆกันอยู่ว่าอารมณ์สุดท้ายของคมพัชญ์ก่อนแยกกันไม่ต่างจากกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้ กวินพลจึงกลัวเหลือเกินว่าน้องชายจะขว้างปาความร้อนร้ายใส่คนที่อยู่ใกล้ตัวมันที่สุด ซึ่งก็คือลันลาดาที่ถูกมันลากติดมือออกมาจากงาน รู้นิสัยว่าน้องชายไม่มีทางทำร้ายร่างกายผู้หญิงด้วยการตบตี ดวงตาครุ่นคิดของแฝดพี่เหลือบขึ้นสบตาน้องชายที่ยืนมองอยู่ก่อนนิ่งๆ ก่อนพ่นลมหายใจหนักหน่วง ตบตีน่ะไม่มีทาง แต่...ถ้าเป็นการทำร้ายร่างกายบอบบางของลันลาดาด้วยร่างกายกำยำของมัน เขา...ไม่กล้าฟันธง!
‘ทำไมรู้สึกไม่ไว้ใจน้องตัวเองเลยวะ’
“จะมองอีกนานไหม”
“จนกว่าจะเจอหลักฐาน”
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง คำตอบของกวินพลชัดเจนพอว่าคมพัชญ์กำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอุกฉกรรจ์ ทว่าจำเลยหมายเลขหนึ่งกลับยืนนิ่งเป็นรูปปั้นให้กวินพลไล่สายตามองตามเนื้อตัวที่โผล่พ้นเสื้อผ้าตามใจชอบ เพราะเป็นอีกครั้งที่การพยายามค้นหาความจริงในดวงตาของน้องชายฝาแฝดล้มเหลว สืบจากเซนส์ไม่ได้ก็ต้องว่ากันด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เผื่อมีรอยเล็บรอยข่วนฝากทิ้งไว้บ้าง ทว่ามองเท่าไรก็หาไม่เจอ กวินพลดึงสายตาขึ้นสบกับน้องชายและได้รับมาเพียงความว่างเปล่าเหมือนเคย จนเริ่มลังเลว่าหรือเป็นเขาเองที่กังวลมากเกินไป
‘คงเจอหรอก’
แน่นอนว่าคนไม่ผิดย่อมไม่ต้องร้อนตัว แต่ในกรณีที่เพิ่งทำผิดมาหมาดๆอย่างคมพัชญ์ก็ยังยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะชายหนุ่มได้ทำลายหลักฐานทิ้งหมดแล้ว พอหูแว่วเสียงรถของกวินพลเข้าอาณาเขตบ้าน คมพัชญ์ก็รีบผละจากร่างบางเหมือนไร้เยื่อใยเพื่อกลับไปอาบน้ำล้างเนื้อตัวที่ห้องของตัวเองเพราะรู้ว่าพี่ชายจะต้องเรียกไปคุยด้วยแน่ ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเนื้อตัวชื้นเหงื่อก็สะอาดเอี่ยม ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเคาะก็ยังเหลือเวลามากพอให้คมพัชญ์ลงไปนอนแผ่บนเตียงสร้างความแนบเนียนพลางยิ้มร้ายยามคิดถึงอ้อมแขนเล็กๆที่โอบรัดเรือนกายเขาแนบแน่น เป็นโชคดีของเขาเหลือเกินที่เมียไม่ชอบไว้เล็บยาว เนื้อตัวของเขาจึงรอดปลอดภัยจากรอยขีดข่วนตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มไว้เป็นหลักฐานมัดตัว ไม่อย่างนั้นไอ้พี่ชายฝาแฝดต้องบังคับให้เขารีบแต่งงานกับลันลาดาเป็นแน่ ไม่ได้กลัวถ้าต้องถูกจับได้ คนอย่างคมพัชญ์กล้าทำกล้ายืดอกรับเสมอ ทว่าเรื่องแต่งงานกับลันลาดา เป็นเรื่องที่เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ก็เท่านั้น
“เอาที่แกสบายใจ”
“บอกตรงๆว่าตอนนี้ฉันหาความสบายใจไม่ได้เลย”
“มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับลาดา แกทำได้แค่คอยดูอยู่ห่างๆ”
“อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆน่ะสิ ไอ้คม ฉันบอกแกแล้วนี่ว่าฉันเป็นคนเลือกชุดให้น้องเอง จะโกรธก็มาลงที่ฉัน น้องไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ถ้าน้องสะใภ้แกไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่มีอะไรให้แกต้องห่วง จริงไหม?”
เพราะสรรพนามว่า ‘น้อง’ ที่กวินพลเรียกแทนตัวลันลาดาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ห่วงใย หนวดงามๆจึงกระตุกทุกครั้งที่ได้ยินกวินพลเรียกขานเมียตัวน้อยของตนเองเช่นนั้น คมพัชญ์จึงจำเป็นต้องย้ำคำว่า ‘น้องสะใภ้’ กรอกหูให้พี่ชายจำขึ้นใจว่าความเอ็นดูสูงสุดที่มันจะมอบให้ลันลาดาได้ต้องไม่เกินไปกว่าฐานะเมียของน้องชายเท่านั้น
“ก็จริง แล้วสรุปว่าฉันต้องห่วงไหมวะ?”
โล่งใจไปเปราะหนึ่งเมื่อตำแหน่งน้องสะใภ้ของเขาได้รับการยืนยันจากปากคมพัชญ์ว่าเจ้าของยังคงเป็นลันลาดา แต่กวินพลก็จำเป็นต้องถามย้ำเพราะดูเหมือนการสนทนากับคมพัชญ์หลายนาทีที่ผ่านมาจะไม่ได้คำตอบเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร หากมนุษย์หนวดดกตรงหน้าบอกว่าต้องห่วง นั่นหมายความว่าลันลาดาที่น่ารักได้กระทำผิดพลาดให้เจ้าน้องชายอารมณ์ร้ายของเขาเคืองขุ่นจริงอย่างที่นึกกังวล ทว่า...
“ไม่จำเป็น!” ลาดาเป็นเมียกู กูหวง กูห่วงคนเดียวพอ!
“หมายความว่าน้องลาดาของฉันเป็นเด็กดี ไม่ได้ทำความผิด ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจ งั้นฉันไม่กวนแล้ว แกไปนอนเถอะ”
เพราะคำถามของกวินพลดันไปกระตุ้นต่อมหึงหวงของคมพัชญ์ให้ทำงาน น้ำเสียงที่แฝดน้องตอบกลับมาจึงเยียบเย็นคล้ายกำลังข่มอารมณ์ ทว่ากวินพลไม่ได้ให้น้ำหนักเพราะปกติคมพัชญ์ก็อารมณ์แปรปรวนผีเข้าผีออกเช่นนี้อยู่แล้ว อีกทั้งคนเป็นพี่ยังใจจดจ่อรอฟังคำตอบ ก่อนจะยิ้มออกมาได้เมื่อคำตอบของคมพัชญ์ทำให้เข้าใจว่าลันลาดามิได้ทำผิดใดๆต่อน้องชายฝาแฝด เป็นอันโล่งอก คิ้วเข้มของกวินพลคลายออก เมื่อไม่ผิดก็คงไม่ต้องนั่งระแวงว่าลันลาดาจะถูกพายุอารมณ์ของคมพัชญ์เล่นงานจนต้องมีน้ำตาเหมือนวันนี้ กวินพลตบบ่าน้องชายก่อนยัดมือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินผิวปากเป็นเพลง ตั้งท่าจะกลับไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน แต่ท่อนขาแข็งแรงกลับชะงัก กวินพลเอี้ยวตัวกลับมามองน้องชายก่อนเอ่ยเตือนเรื่องที่ยังค้างคา
“อ้อ! วันหลังจับแขนน้องเบาๆหน่อย ลาดาตัวเล็กนิดเดียว เดี๋ยวน้องเจ็บ”
คมพัชญ์หรี่ตามองตามหลังพี่ชายที่เดินผิวปากเดินห่างออกไปอย่างสบายอารมณ์พลางคิดตามคำพูดของมัน น้องตัวเล็กนิดเดียวงั้นหรือ บอบบางแบบนี้ต้องทะนุถนอมมากเป็นพิเศษสินะ คมพัชญ์กดยิ้มร้ายมุมปากก่อนเบือนหน้าหันไปมองยังปีกขวาของบ้านซึ่งเป็นที่ตั้งห้องนอนของลันลาดาที่เขาเพิ่งผละมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน โชคดีที่กวินพลไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว เพราะหากชายหนุ่มอยู่ทันเห็นดวงตาแวววาวของน้องชายในตอนนี้ แฝดพี่คงไม่สามารถข่มตาหลับลงเป็นแน่
‘ได้! คมพัชญ์จัดให้’
******************************************
อิพี่คมมันร้ายกาจขนาดที่พี่ชายยังไม่อยากไว้ใจน้องชายตัวเองอ่ะคิดดู๊ ไม่รู้หลังจากนี้หนูลาดาต้องเจอฤทธิ์ของอิพี่แบบไหนอีกบ้าง เอาใจช่วยน้องให้เอาตัวรอดจากความเกรี้ยวกราดของพี่คมด้วยนะคะ
ปล.ช่วงนี้ภัคจะอัพให้อ่านวันเว้นวันนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ