เร้นรักมธุรสลวง
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) มีพิรุธ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“อุ๊ย! พี่คม!”
“เห็นหน้าผัวทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
พอหายจากอาการตกใจหลังจากเปิดประตูห้องนอนออกมาในตอนเช้าแล้วเจอคมพัชญ์ยืนกอดอกรอ ใบหน้าบอกบุญไม่รับทำให้ลันลาดารีบก้มหน้างุด แต่หลบตาไม่ได้นานปลายคางเรียวก็ถูกมือใหญ่ดันแรงๆให้เงยขึ้นมาเผชิญหน้า ไม่รู้จะบอกความรู้สึกในตอนนี้อย่างไรดี เมื่อวานเป็นคู่หมั้น แต่วันนี้ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยีนส์แขนยาวสีเข้มยัดชายเสื้อในกางเกงยีนส์สีดำสนิทคาดทับด้วยเข็มขัดหนังจระเข้สีน้ำตาลแบรนด์หรูที่ยืนขวางหน้ากลับกลายมาเป็นสามีทางพฤตินัยทั้งที่ยังไม่ผ่านพิธีวิวาห์
“ปะ..เปล่าค่ะ”
“เปล่า? เปล่าอะไร เปล่าตกใจ หรือเปล่าเรื่องฉันเป็นผัว”
ในขณะที่ปากถาม สองเท้าก็ก้าวเข้าหาร่างเล็กที่กำลังสั่นเหมือนแมวต้อนเหยื่อจนแผ่นหลังบางถอยไปชนประตูห้อง กักขังร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนไม่ให้เดินหนีด้วยสองมือใหญ่ที่วางทาบกับบานประตู พร้อมก้มหน้าลงต่ำ ใช้สายตากดดันด้วยมุ่งมั่นจะเค้นเอาคำตอบ
“เปล่าตกใจค่ะ”
คำที่คมพัชญ์ใช้เรียกแทนสถานะค่อนข้างหยาบคายจนแก้มขาวนวลของลันลาดาแดงแปร๊ดด้วยความกระดากอาย แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้เลย เพราะร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกระทำด้วยกันฉันสามีภรรยาเมื่อคืนมันยังเจ็บแปลบที่กลางกายคอยย้ำเตือนมาจนถึงตอนนี้ว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาคนเดิมอีกต่อไป ยามก้าวเดินต้องผ่อนจังหวะให้ช้าลงไม่เช่นคนอื่นคงพบเห็นความผิดปกติ
“แสดงว่ายอมรับว่าฉันเป็นผัว แต่ถึงไม่อยากยอมก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะเนอะ ไม่งั้นคงได้ลากกระเป๋าไปนอนข้างถนนทั้งพ่อทั้งลูก”
หัวใจมันพองฟู มุมปากได้รูปของคมพัชญ์กดยิ้มอัตโนมัติที่ไม่ได้ยินลันลาดาปฏิเสธสถานะที่ตนเองยัดเยียด ปลายนิ้วชี้เรียวลากไล้กับผิวแก้มนุ่ม ใบหน้าผ่อนคลายก้มต่ำหวังสูดดมความหอมของมัน
‘เพราะเงินต่างหากล่ะไอ้โง่’
ทว่าสมองเจ้ากรรมกลับนิสัยไม่ดี จากคำพูดที่ตั้งใจแดกดันให้ลันลาดาเจ็บปวดเล่น กลับเป็นคนพูดนั่นแหละที่ปวดหนึบตรงอกข้างซ้าย เพราะถูกความจริงกระแทกเข้าใส่ว่าเป็นเพราะอำนาจเงินต่างหากที่ทำให้ผู้หญิงตรงหน้ายอมตกเป็นภรรยาของตัวเอง หาใช่ความเต็มใจ
“แม้ว่าเมื่อคืนเธอจะนอนนิ่งจนน่าเบื่อ จืดชืดจนนึกว่านอนกับศพ แต่ผัวแสนดีอย่างฉันก็มีรางวัลมาฝาก รับไปสิ”
ยามหัวใจกล้าแกร่งถูกความเจ็บปวดเล่นงานจนพังยับ แน่นอนว่าตัวการก็จะต้องหาความสุขไม่ได้เช่นกัน วาจาถากถางดูแคลนจากปากคมพัชญ์จึงตามมาเป็นหางว่าวให้ผู้หญิงหน้าใสแต่ใจร้ายได้เจ็บปวดบ้าง ตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘น่าเบื่อ’ หลุดจากปากของสามีทางพฤตินัย น้ำตาหยดใสก็รินเลอะแก้มนวล ทุกคำพูดดูแคลนกระตุ้นต่อมน้ำตาให้ทำงานหนักก็จริง ทว่าสิ่งที่ทำให้หัวใจดวงน้อยของลันลาดาปวดร้าวยิ่งกว่าถูกทิ่มแทงด้วยหอกแหลมคมนับสิบนับร้อยคือกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวที่มือใหญ่ยื่นมาเสมอใบหน้านี่ต่างหาก
“นี่มัน...” มือน้อยแตะแผ่นท้องทันทีเมื่อเห็นรางวัลที่คมพัชญ์กล่าวถึง
“ใช่ รีบกินซะ อีกเม็ดที่เหลือ อีกสิบสองชั่วโมงค่อยกิน”
ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องใช้ความรู้ที่เรียนในห้องมาปรับใช้กับตัวเอง ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ ที่อาจารย์เคยสอนสั่งว่าเป็นลูกผู้หญิงยุคใหม่อย่ามัวเหนียมอายที่จะเข้าหาเภสัชกรเพื่อขอซื้อยาตัวนี้ แต่จงภูมิใจที่เราคือสตรีมีสมอง รู้จักปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยจากภาวะตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ไร้ความพร้อมเพื่อลดทอนปัญหาร้อยพันที่จะตามมาในภายหลัง
‘ไม่พร้อมหรือไม่ต้องการ’
ดวงตาหม่นหมองหลุบมองแผงยาที่คมพัชญ์ยัดใส่มือ ไม่ใช่แค่ยา แต่แก้วน้ำเปล่าก็ถูกยื่นตามมาตรงหน้า แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าสามีไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดใดๆสักเปอร์เซ็นต์ที่จะส่งผลให้ในท้องของเธอถือกำเนิดสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ยาอยู่ในมือ แก้วน้ำก็พร้อมแล้ว สถานการณ์ที่เป็นอยู่บีบบังคับให้เธอทำได้แค่ปฏิบัติตามความต้องการของสามี เม็ดยาสีขาวถูกแกะออกจากแผงแล้วโยนเข้าปาก ตามด้วยน้ำเปล่าที่คมพัชญ์บริการยกแก้วขึ้นจ่อริมฝีปาก ดวงตาคมมองตามเม็ดยาที่กลืนลงสู่ลำคอเล็กด้วยความพึงพอใจ บอกไม่ถูกว่าตอนนี้เธอควรภูมิใจที่จะปลอดภัยจากภาวะท้องไม่พร้อมหรือเสียใจกันแน่ที่สามีไม่อยากมีลูกด้วย
“เรียบร้อยแล้วก็ลงไปกินข้าว”
“อุ๊ย!”
ร่างสูงของคมพัชญ์ที่หมุนตัวเตรียมมุ่งหน้าไปทางบันไดเพื่อลงไปรับประทานอาหารเช้าตามปกติชะงักกึกเมื่อเจ้าของข้อมือเล็กที่เขากระชากให้เดินไปพร้อมกันนิ่วหน้า งอตัวลงคล้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ร่างบางถูกดึงให้ยืนหันหน้าเข้าหา คมพัชญ์รีบกวาดดวงตามองไปทั่วร่างของลันลาดาเพื่อหาสาเหตุ แต่เมื่อสังเกตเห็นการแต่งตัวที่ปกปิดเนื้อตัวมิดชิดสวนทางอากาศที่ไม่ได้หนาวเหน็บ กับช่วงขาเรียวที่หนีบเข้าหากันแน่นจึงพอได้เป่าปากด้วยความโล่งใจที่เมียตัวน้อยไม่ได้เป็นอะไรมากมาย
“เจ็บเหรอ? โดนเข้าไปบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน”
น้ำเสียงเยาะ แววตาเย้ย พอรู้ว่าลันลาดาไม่ได้เป็นอะไรมากมายริมฝีปากคมราวมีดโกนก็ทำหน้าที่กรีดเนื้อนวลด้วยถ้อยคำถากถางให้คนตัวบางได้เจ็บได้อายต่อไป แม้การนึกถึงสาเหตุของการบาดเจ็บจะทำให้มุมปากได้รูปกดลึกยามย้อนรำลึกถึงความสุขซาบซ่านที่ได้รับยามตัวตนอลังการสอดแทรกเข้าหาร่างแสนหวานก็ตาม ดวงตาแพรวพราวมองต่ำตรงส่วนนั้นก่อนหลุบมองที่หน้าขาของตัวเอง นอกจากการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ ขนาดที่แตกต่างกันระหว่างเขากับลันลาดาก็น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หญิงสาวก้าวขาลำบาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ของอย่างนี้ฝึกฝนบ่อยๆอีกเดี๋ยวก็หายเจ็บไปเอง และสำคัญที่สุด หากลันลาดายังอยากได้เงินก้อนโตจากเขา เจ็บเจียนขาดใจตายก็ต้องกัดฟันทน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องลาดา เช้านี้ป้านวลทำอะไรให้พวกเราทานบ้างเอ่ย พี่วินหิ๊วหิว”
เจ้าของสะโพกกลมกลึงที่เพิ่งสัมผัสกับความนุ่มของเบาะบนเก้าอี้ตัวใหญ่ประจำโต๊ะกินข้าวที่คมพัชญ์วิ่งไปหามารองให้สะดุ้งเฮือกกับเสียงทักทายที่ดังมาจากทางด้านหลัง เรียวปากบางยิ้มสั่นๆมอบให้พี่ชายของสามีพลางขบคิดว่าคนมีชนักปักหลังมักจิตอ่อนเหมือนเธอหรือเปล่าหนอ เพราะกวินพลก็ยิ้มแย้มทักทายเหมือนที่ทำในทุกๆเช้าที่พบกันบนโต๊ะอาหาร ทว่าวันนี้เธอกลับรู้สึกร้อนตัวแปลกๆกับสายตาอ่อนโยนที่ชายหนุ่มมองมา ร่างบางขยับตัวนั่งตรง มือบางซุกเข้าใต้โต๊ะหลบซ่อนสายตาก่อนดึงชายแขนเสื้อปิดถึงข้อมือ ก่อนลอบถอนหายใจเมื่อคิดว่ากวินพลคงมาไม่ทันเห็นเธอเดินกระย่องกระแย่งจนคมพัชญ์ต้องโอบประคองพาเดินลงบันไดหรอกมั้ง ชายหนุ่มจึงเดินผ่านไปนั่งยังเก้าอี้ตัวประจำฝั่งตรงข้ามตามปกติ
“ข้าวต้มปลากะพงค่ะพี่วิน”
“ก็ดีนะคะ อาหารอ่อนๆ” ที่ได้ข่าวว่าเป็นเมนูที่ใครบางคนสั่งให้ทำ
มือที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นจิบชะงักเมื่อได้ยินที่กวินพลพูด ลันลาดาใช้ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมองฝาแฝดของสามีที่นั่งตรงข้ามกันอย่างตกใจว่าเหตุใดชายหนุ่มถึงพูดเหมือนป้านวลทำถูกต้องแล้วที่ทำข้าวต้มรสชาติอ่อนเป็นอาหารเช้า อาหารอ่อนนั่นเหมาะสำหรับคนป่วยมิใช่หรือ แล้วสามชีวิตที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารตรงนี้มีใครป่วยที่ไหนเล่า ถ้าจะมี คนที่อาการใกล้เคียงที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเธอ หรือว่า....กวินพลรู้!
“เช้าๆร่างกายเพิ่งเริ่มทำงาน เราจึงไม่ควรทานอาหารรสจัดค่ะ ไม่งั้นกระเพาะจะระคายเคือง ข้าวต้มนี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว ว้าว! มีน้ำสตรอเบอร์รี่ด้วย ป้านวลนี่น่ารักจัง รู้ด้วยว่าน้องลาดาชอบดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่ มีแต่ของน่าอร่อย ลาดาทานเยอะๆนะคะ จะได้โตไวๆ”
ลันลาดาค่อยหายใจคล่องเมื่อได้ยินที่กวินพลอธิบาย หญิงสาวยิ้มตอบพี่ชายใจดีก่อนปรุงข้าวต้มในชามที่ส่งควันหอมฉุยตรงหน้า ทั้งนี้ก็แอบชำเลืองหางตาสังเกตปฏิกิริยาของคมพัชญ์ที่นั่งรับประทานข้าวต้มเงียบๆไปด้วย จากการสังเกต ได้ข้อสรุปว่าคงเป็นเธอที่คิดกังวลมากเกินไป เพราะสามีตัวต้นเรื่องของเธอนั่งตักข้าวต้มเข้าไปปากไปเฉยๆเหมือนนั่งอยู่ตามลำพัง ส่วนกวินพลก็ละเลียดข้าวต้มในชามของตัวเองด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยตามประสาคนอารมณ์ดี เห็นอย่างนั้นมือน้อยจึงค่อยๆตักข้าวต้มรับประทานบ้าง แม้ความเจ็บปวดจะจุกอยู่ในอกจนรู้สึกฝืดคอแทบกลืนอะไรไม่ลง ทว่าลันลาดาก็จำต้องพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคมพัชญ์คงไม่มีวันกลับมาหวานชื่นเหมือนก่อนหน้านี้ได้อีกแล้ว
“ลาดาขา ไปเที่ยวที่ออฟฟิศกับพี่วินไหมคะ”
****************************************
แวะมาแจ้งข่าวค่ะ เคาะแล้วนะคะว่า 'เร้นรักมธุรสลวง' เป็นเล่มทำมือค่ะ ตอนนี้รอคิวพิสูจน์อักษร ทำปก กับจัดหน้า คืบหน้าแล้วภัคมาแจ้งราคา+เปิดจองนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ