เร้นรักมธุรสลวง
-
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
39.02K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) หายใจลำบาก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘ลูกสาวใครวะ น่ารักฉิบหาย’
‘ไอ้อาชามันดูอะไรวะ หรือว่าหนังโป๊!’
เพราะคืนนี้อาชาวินไม่อยู่บ้านจึงพลาดโอกาสได้หอมแก้มขาวกลมไม่แพ้ซาลาเปาของบุตรสาวยอดรักยอดดวงใจก่อนส่งเข้านอนเหมือนทุกคืน ช่ออัญชันภรรยาสุดหวงของชายหนุ่มจึงถ่ายรูปเด็กหญิงเนรัญญิการ์ในชุดนอนลายเจ้าหญิงดิสนีย์สีชมพูยืนกอดตุ๊กตาฉีกแป้นยิ้มโชว์ฟันซี่น้อยมาให้สามีได้ดูพอให้หายคิดถึง ภาพที่นายหัวสุดหล่อส่งยิ้มอ่อนโยนให้โทรศัพท์ในมืออยู่นานหลายนาทีคล้ายถูกมนต์สะกดส่งผลให้คนมีมารยาทดีเลิศอย่างกวินพลสงสัยจนต้องชะโงกหน้าเข้าไปมอง เผื่อเป็นหนังโป๊จะได้ขอดูบ้าง ทว่าภาพที่เห็นนั้นสะกดใจมากกว่าหนังโป๊เป็นล้านเท่า แล้วก็เหมือนติดเชื้อไวรัสชนิดรุนแรงจากเพื่อน เรียวปากของกวินพลเองก็พลันฉีกกว้างไม่แพ้อาชาวินทันทีที่ได้เห็นความน่าฟัดของหลานสาวตัวอ้วนกลม และเพราะความน่าหยิกที่สะกดทุกคนให้หลงรักตั้งแต่แรกเห็นนี้เองที่ทำให้กวินพลนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ชายหนุ่มสะกิดแขนเพื่อนแล้วขยิบตาไปทางลันลาดาที่ก้มหน้าจ๋อยๆมองมือตัวเองใต้โต๊ะ
“ลาดา นี่น้องเนเน่ ลูกสาวพี่เอง น่ารักไหมครับ”
อาชาวินเรียกลันลาดาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้น้องสาวของเพื่อนมองภาพน่าเอ็นดูที่สุดในโลก เพียงแค่วินาทีแรกที่ได้ยล ความน่ารักน่าชังของหนูน้อยก็เปลี่ยนโลกหม่นเศร้าของลันลาดาในพริบตา รอยยิ้มกระจ่างใสผุดขึ้นไม่รู้ตัวกับดวงตากลมใสแจ๋วล้อมรอบด้วยขนตายาวงอนเหมือนติดขนตาปลอมกับแก้มสีชมพูกลมป่องที่เกือบล้นจอโทรศัพท์ของเด็กหญิงในภาพ
“น้องเนเน่น่ารักมากเลยค่ะพี่อาชา เห็นแก้มแล้วมันเขี้ยวจัง”
ไม่เพียงแค่ริมฝีปาก แต่ดวงตาของลันลาดาก็ยังวิบวาวดูมีชีวิตชีวาจนอาชาวินกับกวินพลค่อยใจชื้น สองหนุ่มลอบกำหมัดชนกันใต้โต๊ะที่แผนทำลายความเศร้านั้นได้ผลเกินคาด คงต้องยกความดีความชอบให้กับความน่ารักทะลุจอของฮีโร่หน้าตุ๊กตาอย่างหนูน้อยเนรัญญิการ์ที่มาช่วยกอบสู้สถานการณ์ตึงเครียดให้กลับมาสดใสอย่างที่ควรจะเป็น
“ยังมีน่ารักกว่านี้อีกนะ เดี๋ยวพี่เปิดคลิปตอนยายหนูอ่านนิทานให้น้องในท้องฟังให้ดู”
“ลาดามานั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ จะได้ดูถนัดๆ” จะได้นั่งห่างใครบางคนด้วย!
ท่าทางกระตือรือร้นชักชวนให้ดูคลิปลูกสาวของอาชาวินทำให้กวินพลหัวเราะพรืด ชักไม่แน่ใจว่ามันกำลังช่วยลันลาดาหรือกำลังหาเหยื่อรายใหม่กันแน่ เพราะมันช่างเข้าทางคุณพ่อผู้หลงลูกที่สุดในสามโลกเหลือเกิน รับรู้ชะตากรรมข้างหน้าของลันลาดาได้เลยว่าหญิงสาวคงไม่มีเวลาได้นั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอีกแล้ว ลองอาชาวินเล่นอวดมาแบบนี้ กวินพลลุกจากเก้าอี้เพื่อสลับให้ลันลาดามานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองแทน เหยื่อรายใหม่ของคุณพ่อขี้เห่อจะได้ไม่ต้องชะโงกหน้าจนเมื่อยคอ เพราะเชื่อเถอะว่ามันจะไม่ใช่แค่คลิปเดียวแน่ที่อาชาวินจะเปิดให้ดู จากประสบการณ์ที่หลงคบเป็นเพื่อนมันมา อาชาวินจะเปิดให้ดูตั้งแต่ภาพวันแรกที่หนูน้อยลืมตาดูโลกจนถึงภาพปัจจุบัน เผลอๆหากเวลาไม่มากพอ คุณพ่อขี้เห่ออาจจะขอไลน์ของว่าที่น้องสะใภ้เขาเพื่อดึงเข้าสู่กรุ๊ปผู้ตกเป็นทาสความน่ารักของลูกสาวมันอีกด้วย เชื่อพี่สิ พี่วินเคยผ่านจุดนั้นมาก่อน!
“ให้ร้อยคนบอกว่าพี่หล่อ พี่ยังไม่ดีใจเท่าหนึ่งคนชมว่าลูกสาวพี่น่ารักเลย”
กวินพลมองเพื่อนแล้วส่ายหน้าเพลียๆ ไม่รู้มนุษย์พ่อเป็นแบบอาชาวินทุกคนไหมที่ไม่ว่าลูกทำอะไรก็น่ารักไปเสียหมด แค่เห็นภาพอุ้งเท้าอวบๆก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ขนาดโดนลูกสาวกัดจมูกยังยิ้มมีความสุข ยิ่งพอได้ลูกคู่อย่างลันลาดาที่เอ่ยชมบุตรสาวตัวน้อยว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ตอนนั่งดูภาพเคลื่อนไหวของน้องเนเน่กำลังอ้าปากน้อยๆหม่ำข้าวตุ๋นนมแม่ครั้งแรกด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ไอ้คุณอาชาวินก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้าง อีกนิดปากก็จะแหกไปถึงใบหูมันแล้ว โชคดีที่แบตโทรศัพท์ของคุณพ่อลูกสองร้องเตือนว่าใกล้หมดเสียก่อน แบตสำรองก็ไม่ได้พกมา บันทึกความน่าเอ็นดูของเด็กหญิงเนรัญญิการ์จึงต้องงดฉายไปโดยปริยาย โอกาสที่มุมปากของเพื่อนกับติ่งหูของมันแตะกันจึงยังไม่เกิดขึ้น
“น้องเนเน่น่ารักมากจริงๆค่ะ น่าเสียดาย ลาดายังดูไม่จบ เลยไม่รู้ว่ายายหนูทานหมดหรือเปล่า”
“ลาดาเอาโทรศัพท์มาสิครับ แอดไลน์พี่ไว้ เดี๋ยวพี่ส่งให้ดูต่อ”
‘ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ!’
กวินพลตบเข่าฉาด สุดท้ายลันลาดาก็กลายเป็นทาสความน่ารักของเด็กหญิงเนรัญญิการ์โดยสมบูรณ์แบบเมื่อหญิงสาวได้ทำการแอดไลน์กับนายหัวหน้าหล่อเป็นที่เรียบร้อยตามที่เขาเดาไว้ตอนแรก แต่เอาเถอะ จะพูดจะว่าอะไรมากก็คงไม่ได้ เพราะเขาก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันตั้งแต่เห็นตากลมๆของหลานสาวครั้งแรก ป่านนี้ยังถอนตัวไม่ขึ้นเลย!
“ลาดา ส่งโทรศัพท์มานี่!”
ในขณะที่สามชีวิตกำลังมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับความน่ารักไร้เดียงสาของหนูน้อยเนรัญญิการ์จนลืมไปว่ายังมีอีกสองชีวิตเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะนั้น ได้สร้างความขุ่นเคืองให้คมพัชญ์ยิ่งนัก ถูกคู่หมั้นเมินเฉยเหมือนไร้ตัวตนคือความโกรธเรื่องแรก แต่งตัวโป๊คือความผิดที่สอง ยอมให้ผู้ชายนั่งขนาบทั้งซ้ายขวาคือเรื่องที่สาม และข้อสี่ที่ลันลาดาทำผิดมหันต์คือแลกเบอร์โทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตคู่หมั้นที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้เสียก่อน แม้รู้ว่าอาชาวินไม่ได้คิดอะไรเกินเลยก็ไม่ได้ หญิงสาวควรรู้ตัวสิว่าไม่ใช่ผู้หญิงตัวเปล่าเล่าเปลือยแล้ว จะคิดจะทำอะไรโดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม ลันลาดาต้องบอกเขาให้รับรู้และยินยอมทุกครั้ง คมพัชญ์จึงสั่งให้คู่หมั้นส่งโทรศัพท์มาให้ตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ตั้งใจวางอำนาจบอกกล่าวไปถึงสองหนุ่มที่รู้อีกเช่นกันว่าพวกมันรวมหัวกันแยกลันลาดาไปจากเขา คนถูกสั่งเหลือบสายตามองม่านแพรอย่างเกรงๆก่อนมือน้อยจะส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้คมพัชญ์ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนั้น ไม่กลัวเลยหรือว่าผู้หญิงข้างกายเขาจะสงสัย
“ลาดา ให้เกียรติเต้นรำกับพี่สักเพลงนะครับ”
แม้ดวงตาของคมพัชญ์ตอนนี้จะร้อนแรงเทียบเท่าเปลวไฟไปทุกขณะ แต่กวินพลกับอาชาวินก็หาได้เกรงกลัวไม่ ยิ่งเห็นใบหน้าของลันลาดากลับมาหดเหี่ยวก็ดูเหมือนจะเป็นการกระตุ้นให้สองหนุ่มคิดหาแผนการเอาคืนเพื่อนที่ทำอะไรไม่สงสารคู่หมั้นตัวเองเลย อาชาวินรู้ตัวว่ามีเวลาดัดสันดานคมพัชญ์น้อยนิดจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวหน้าลันลาดาเพื่อขอหญิงสาวเป็นคู่เต้นรำทันทีที่เหลือบเห็นบ่าวสาวเปิดฟลอร์ กระอักเลือดแน่ไอ้คม!
“คะ? จะดีเหรอคะ ลาดาเต้นไม่ค่อยเก่ง กลัวออกไปทำให้พี่อาชาอายคนอื่น”
“เพลงช้าๆแบบนี้เต้นไม่ยากหรอกค่ะ แต่ถ้าลาดาปล่อยให้มันโค้งเก้อแบบนี้ล่ะก็ อาชามันอายแน่”
นอกจากไม่เข้าข้างน้องชาย กวินพลยังส่งเสริมให้ลันลาดาออกไปเต้นรำกับอาชาวินเพื่อลงโทษที่คมพัชญ์ทำร้ายจิตใจคู่หมั้นอย่างไม่สมควร เพราะรู้ว่าไอ้แฝดน้องต้องสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงแน่ยามเห็นมือของคนอื่นแตะต้องเรือนกายของลันลาดา ให้มันรู้กันไปว่าเห็นแบบนั้นแล้วมันจะยังนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ได้
“มาครับ เดี๋ยวพี่เต้นนำ ลาดาแค่ก้าวตามพี่ก็พอ”
“เต้นรำกับผู้หญิงคนอื่น ไม่กลัวเมียรู้แล้วคิดมากเหรอวะ”
“สาบานว่าที่พูดนั่นหวังดีกับความสัมพันธ์ของครอบครัวเพื่อนด้วยใจจริง หาใช่หวงก้าง!” กวินพลถามเยาะๆ
สาบานไม่ได้โว๊ย! เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง คมพัชญ์ลอบกัดฟันแน่นจนกรามขึ้นเป็นสัน มันเหมือนจะทนไม่ไหวตอนเห็นฝ่ามือน้อยๆวางลงบนอุ้งมือหนาของอาชาวิน หากปล่อยไว้นานอาจมีการฆาตกรรม ชายหนุ่มจึงตวัดดวงตาออกคำสั่งให้ลันลาดานั่งอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดิม ทว่าหญิงสาวกลับเลือกจะก้มหน้าหลบสายตา ความผิดของสาวน้อยจึงเพิ่มเป็นห้าและหก ด้วยข้อหายื่นมือให้ผู้ชายคนอื่นจับ แล้วยังบังอาจเพิกเฉยต่อคำสั่งของเขา ห่างกันแค่วันเดียวทำเป็นเก่ง กลับบ้านไปคงต้องสั่งสอนให้หลาบจำ!
“ไม่ล่ะ อัญชันไม่งี่เง่า...” ...เหมือนมึง!
เห็นท่าทางหงุดหงิดของเพื่อนก็อยากด่า ทว่าอาชาวินกลับเลือกจะเฉยแล้วจูงมือพาลันลาดาเดินไปเต้นรำร่วมกับแขกคู่อื่นๆกลางฟลอร์ เพราะรู้ว่านี่ต่างหากที่จะสะกิดต่อมความรู้สึกของคมพัชญ์ได้ รองจากเจ้าสาวที่ได้รับอภิสิทธิ์ให้สวยที่สุดในงาน ก็ลันลาดานี่แหละที่หนุ่มๆพร้อมใจกันส่งสายตาชื่นชมมองตามหญิงสาวทุกก้าวเดิน ขนาดเขาไม่ได้สังเกตยังรู้ แล้วไอ้คนที่นั่งจ้องตาเขม็งจะไม่เห็นเชียวหรือว่าผู้ชายในงานพากันมองตามคู่หมั้นของมันเหลียวหลัง แต่ขอแสดงความเสียใจด้วยที่มันไม่อาจแสดงตัวเป็นเจ้าของ เพราะสิทธิ์ของคมพัชญ์หมดลงตั้งแต่ที่มันควงม่านแพรมาเปิดตัว สม!
“คมคะ แพรอยากออกไปเต้นระ...”
เห็นหนุ่มสาวหลายคู่ออกไปโชว์หวานกันกลางฟลอร์ ทายาทร้านผ้าไหมเจ้าเก่าแก่ในตัวเมืองลำพูนก็อยากมีช่วงเวลาเช่นนั้นกับผู้ชายที่ตัวเองพึงใจมานานบ้าง และแอบคาดหวังไปว่าความสวยที่ใครๆต่างพากันชื่นชมคงสะดุดใจชายหนุ่มให้หันมามองเธอสักนิด ม่านแพรเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเจ้าสาวที่อายุน้อยกว่าคมพัชญ์สองปี ทว่าทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งตอนออกบูธงานของดีจังหวัดลำพูน แต่แค่รู้จักกันผิวเผินไม่ได้สนิทอะไรมากมาย เป็นความบังเอิญมากกว่าที่ทำให้หญิงสาวได้มีโอกาสนั่งร่วมโต๊ะกับคมพัชญ์ในวันนี้ ตอนที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินออกไปทำธุระตรงระเบียงแล้วม่านแพรก็กำลังจะไปห้องน้ำที่ใช้เส้นทางเดียวกัน จังหวะที่กำลังจะเดินชน ต่างฝ่ายต่างเงยหน้าขึ้นกล่าวขอโทษ พอเห็นเป็นคนรู้จักจึงเอ่ยทักทายตามมารยาท และเป็นม่านแพรที่รีบคว้าโอกาสตีสนิทกับชายในฝันด้วยการทำตัวเป็นสตรีช่างเจรจาชวนคมพัชญ์คุยนั่นนี่ ซึ่งชายหนุ่มก็มอบความเป็นกันเองให้มาตลอดพาให้หัวใจพองโต จนกระทั่งพากันกลับมานั่งที่โต๊ะนี่แหละที่ความสวยของม่านแพรไร้ความหมาย และเสียงของหญิงสาวก็กำลังกลายเป็นอากาศธาตุ เมื่อตอนนี้จิตใจของชายในฝันกำลังจดจ่ออยู่ที่ร่างน้อยๆของสตรีที่บอกว่าเป็นน้องสาวของกวินพล
“ไอ้วิน สารภาพมาเดี๋ยวนี้ว่าใครเลือกชุดระยำนี่ให้ลาดาใส่”
คนถูกถามลอบกลืนน้ำลายก่อนเอี้ยวตัวออกห่างน้องชายเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ากระไอร้อนจากเรือนกายของคมพัชญ์นั้นกระทบผิวจนแสบร้อน โดยเฉพาะบริเวณสันหลังที่วูบวาบสลับหนาวเหมือนคนจับไข้ตอนเห็นน้องชายกำหมัดแน่นก่อนสาดบรั่นดีเข้าปากจังหวะที่อาชาวินจับลันลาดาหมุนตัวเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนชวนมอง
‘กูเอง มีปัญหาไหมวะ?’
กวินพลกล้าแค่คิดแต่ไม่กล้าพูดออกไป กวนตีนคมพัชญ์ได้แต่ต้องดูอารมณ์มันด้วย ซึ่งจากการประเมิน ในช่วงจังหวะอารมณ์ที่เดือดดาลใกล้แตะอุณหภูมิหนึ่งร้อยองศาเซลเซียสแบบนี้เป็นระยะโคตรอันตรายที่ไม่ควรทำหรือพูดอะไรให้ท่านคมพัชญ์ขัดเคือง กวินพลจึงไม่ยอมรับสารภาพ มิเช่นนั้นพี่ก็พี่เถอะ โดนมันเตะตกเก้าอี้แน่
“ลาดาใส่ชุดนี้แล้วน่ารักดีออก เหมือนตุ๊กตา”
หากไม่ติดที่ชุดด้านหลังเปิดพื้นที่โชว์ผิวเนียนสวยมากเกินไปล่ะก็ ด้วยรูปแบบและโทนสีของชุดราตรีที่ลันลาดาสวมก็ส่งให้คนใส่ที่น่ารักอยู่แล้วยิ่งน่ารักน่ามองเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ไปอีกหลายเท่าตัว
“แกไม่เห็นหรือไงว่ามันโป๊!”
“คนอื่นแต่งโป๊กว่าตั้งเยอะ”
“แล้วคนอื่นเป็นคู่หมั้นกูไหมล่ะ!”
คมพัชญ์ตะคอกใส่พี่ชายเสียงเหี้ยม แต่คนที่ตกใจกลับเป็นม่านแพร รู้ดีเชียวล่ะว่าเป็นการเสียมารยาทที่นั่งเงี่ยหูฟังเรื่องที่สองพี่น้องฝาแฝดคุยกัน ทว่าดวงตาของคมพัชญ์ที่นั่งจ้องลันลาดาไม่ยอมกะพริบมันไม่ธรรมดาเลยสักนิด สัญชาตญาณของคนแอบชอบมันบอกว่าระหว่างสองคนนี่ต้องมีความเกี่ยวพันธ์แอบแฝง และเซ้นต์ของสตรีก็แม่นยำเสมอ ในที่สุดม่านแพรก็ได้คำตอบว่าทำไมคมพัชญ์ถึงได้โมโหนักที่เห็นลันลาดาแต่งตัวไม่มิดชิด
เขาเป็นคู่หมั้นกัน และคมพัชญ์ก็หวงลันลาดาหนักมาก!
“จำไว้ว่าอย่าให้ลาดาใส่ชุดบ้าๆพวกนี้อีก ไม่งั้นฉันซัดแกเละแน่ ไอ้วิน”
คมพัชญ์ลุกพรวดจากเก้าอี้ทันทีที่เห็นว่ามีไอ้หนุ่มหน้าตาเกือบดีคนหนึ่งเข้ามาสะกิดแขนอาชาวินตอนเพลงใกล้จะจบ เดาว่ามันจะขอยืมลันลาดาเป็นคู่เต้นรำในเพลงต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่จะไม่มีวันเกิดขึ้น กับอาชาวินเขายอมให้ได้เพราะมันคือเพื่อนและไม่มีทางคิดอะไรเกินเลยกับลันลาดา แต่ไอ้ผู้ชายคนนี้และคนอื่นๆที่มองตามคู่หมั้นเขาน่ะ พวกมันคิดแน่ แค่จินตนาการว่ามือห่วยๆของมันจะเกาะจะกอดเนื้อตัวของลันลาดา ดวงตาของคมพัชญ์ก็ลุกวาว เกิดอาการหัวร้อนจนแทบพุ่งเข้าไปเตะยอดหน้ามันให้นอนสลบอยู่ใต้ฝ่าเท้า แต่ถ้าทำแบบนั้นงานมงคลของรณฤทธิ์คงพัง คมพัชญ์จึงพยายามข่มใจแล้วทำนิ่งเพื่อเข้าไปดึงตัวลันลาดามาไว้ข้างกาย โดยก่อนไปไม่ลืมหันมาแยกเขี้ยวใส่พี่ชายตัวร้ายสะสางคดีที่กวินพลเลือกชุดบ้าบอคอแตกนี่ให้ลันลาดาใส่มายั่วโทสะเขา
“แกก็จำไว้ด้วยแล้วกัน ว่าเลือกเองย่อมได้ ‘ทุกอย่าง’ ตรงใจเสมอ”
คมพัชญ์หันไปสบตากับพี่ชายที่กำลังนั่งไขว่ห้างจิบไวน์รสร้อนสู่ลำคอด้วยมาดคุณชายสูงศักดิ์ ต่างจากตัวเองที่กำลังจะกลายเป็นฆาตกรใจเหี้ยมเข้าไปทุกนาทีที่เห็นสายตาชื่นชมของแขกผู้ชายในงานมองลันลาดา มันคงเป็นความพิเศษของคนเป็นฝาแฝดกระมัง คมพัชญ์จึงเข้าใจความหมายในดวงตาของกวินพลได้ลึกซึ้ง ว่ามากกว่าการได้เสื้อผ้าที่ไม่ถูกใจคือการสูญเสียช่วงเวลาดีๆระหว่างกันของเขากับลันลาดา กวินพลทำราวกับรู้ใจว่าช่วงเวลาระหว่างที่ให้พี่ชายพาคู่หมั้นไปเลือกซื้อชุดนั้นเขาก็หาได้อยู่เป็นสุข และนอกจากคำเตือน ในดวงตาของกวินพลยังฝากคำถามตามมาว่าเพราะเหตุใดหรือเขาจึงปฏิบัติต่อคู่หมั้นหน้าหวานผิดแผกไปจากเดิม?
************************************************************************************
สงสารน้องงงงง อิพี่คมมันชักจะร้ายขึ้นไปทุกวัน เอาไงดี ส่งหนูลาดากลับบ้านเลยดีมะ?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ