สายสืบสุดอึด
-
3) บทที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแกออกอุทานอย่างพรึงเพริศ ทำท่าจะส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดหวาดกลัวอีก แต่ทว่า
ฉึกก!!
ปลายดาบที่แหลมคมถูกมือของเจ้านายมันคือผ่าเผย ใช้เสือกแทงด้วยความรวดเร็วและแม่นยำตรงไปที่คอหอยของอาแป๊ะ แกส่งเสียงเพียงแค่อ๊อกเดียวในลำคอก่อนที่จะตาเหลือกลานล้มวูบลงกับพื้นขาดใจตายทันที
“มึงไปฆ่ามันทำไมวะไอ้เผย?”
อ้วนร้องโวยวายขึ้นหลังจากตั้งสติรับรู้ต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างค่อนข้างรวดเร็วตรงหน้า
“ไอ้ห่า นี่เราแค่มาปล้นเอาปืนเองนะโว้ย...ไอ้ฉิบหายกูไม่ได้บอกให้มึงฆ่ามันซะหน่อย”
“ก็มันด่าพ่ออ้วนและก็จะกดกริ่งสัญญาณเตือนภัยไปที่ สน.นี่”
ผ่าเผยตอบเรียบๆพร้อมกับเสียบดาบเข้าฝัก
“เฮ้อ...มึงนี่...”
อ้วนมองหน้าผ่าเผยแล้วก็ถอนใจ
“อะไรจะยกย่องกูมากมายขนาดนี้วะ...แค่ไอ้แป๊ะมันโวยวายด่ากูนิดหน่อย ก็ถึงขนาดฆ่ามันเชียวหรือวะ?”
“ใครทำให้พ่ออ้วนระคายเคืองอะไรนิดหน่อย...ผมก็ไม่ไว้มันแล้ว”
ผ่าเผยพูดอย่างจริงจัง
“เอ้า ก็ตามใจ...ยังไงก็ฆ่ามันไปแล้วนี่...”
ว่าอย่างปลงๆต่อความภักดีของลูกบุญธรรมของตนเองซะเหลือเกิน
ก่อนที่จะหันไปส่งเสียงสั่งลูกน้องอีก 3 คนที่มาด้วยกัน ซึ่งยังคงตกตะลึงต่อเหตุการณ์ในการฆ่าคนอย่างรวดเร็วของผ่าเผยเป็นที่ยิ่ง
“เฮ้ยพวกมึง รีบขนอาวุธไปเลยโว้ย...อย่ามัวตะลึงอะไรกันนักหนา...ชักช้าเดี๋ยวพ่อมึงก็ได้แห่กันมาอัญเชิญไปเข้าคุกกันซะหมดหรอกเว้ย”
ท้ายเสียงลูกพี่ใหญ่ของโจรกลุ่มนี้ กำชับเสียงกร้าวพลางขยับตัวรีบชิ่งออกจากร้านนี้ก่อนเพื่อน
“เฮ้ยไอ้บึน...มึงเห็นความจงรักภักดีของไอ้เผยมันรึเปล่าวะ?”
ช่วงจังหวะที่กำลังขนอาวุธปืนที่ปล้นเอาจากร้านปืนแห่งนี้อยู่นั้น 1 ใน 3 ที่กำลังช่วยกันขนก็เอ่ยกระซิบกระซาบตั้งคำถามกับเจ้าบึนที่เดินอยู่ด้านหน้าของตนเอง
“เห็น ทำไมวะไอ้แขม?”
เจ้าบึนพยักหน้ารับพลางย้อนถามกลับเอาบ้าง
เจ้าแขมยักไหล่แล้วพยักพเยิดไปทางอ้วนที่กำลังเร่งรีบเดินนำหน้าอยู่
“กูจะบอกว่า มึงอย่าได้คิดเป็นศัตรูหรือทำอะไรให้ไม่เป็นที่พอใจของน้าอ้วนแกเลยนะโว้ย”
เจ้าบึนปรายตามองตามเจ้าแขมบอก แล้วก็เลยมองไปทางผ่าเผยด้วย ก่อนที่หงึกหน้ายอมรับกับคำพูดของเพื่อน พลางกระซิบตอบเสียงแผ่ว
“กูไม่หาเรื่องอย่างแน่นอน...ไอ้เผยมันทั้งหนักและก็โหดออกอย่างนั้น...ไม่ขอเสี่ยงล่ะกู”
“เฮ้ย ไอ้สองตัวนั่นอย่ามัวชักช้าอยู่เว้ย...ไอ้ฉิบหายจะรอตำรวจรึไงวะ เร็วๆเข้า”
อ้วนร้องเตือนเมื่อปรายตามามองมาที่สองคน แล้วเห็นว่าสองคนนี้ทำตัวช้าจนเกินไป
“ครับน้าอ้วนขอโทษทีครับ...รีบไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
เจ้าบึกตะโกนบอกพลางรีบสาวเท้าเดินให้ทันคนอื่นๆ ที่ล่วงหน้าไปพอควรแล้ว
“เออให้มันรีบๆหน่อยซี...อย่าให้กูต้องสั่งไอ้เผยมันไปเร่งเลยวะ”
อ้วนขู่ตบท้าย
“ไม่ต้องหรอกครับน้าอ้วน ผมตามไปเองได้ไม่ต้องรบกวนไอ้เผยให้มันยุ่งยากหรอก”
เจ้าคนชื่อแขม ปฏิเสธเสียงลั่นพร้อมกับรีบจ้ำเท้าเดินตามกลุ่มไปอย่างเร่งรุด...
* * *
“อะไรกันวะไอ้โด่ง...”
โอบกิจโวยวายขึ้นทันท่วงทีที่ โด่งระบือบอกงานจ๊อบใหม่ที่หัวหน้าสั่งให้ดำเนินการฟังแล้ว
“แค่คดีไอ้พวกโรคจิตชอบลวนลามนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ต้องมาให้ระดับพวกเราทำ...โธ่ ข้าว่ามันจะกระจอกเกินไปหน่อยล่ะมั้งวะ?”
พลางบ่นตามท้าย
“กระจอกหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้ล่ะ...แต่ที่แน่ๆหัวหน้าเขาให้งานมาอย่างนี้”
โด่งระบือเบะปากสรุปกับเสียงบ่นของเพื่อนร่วมงานรุ่นน้าอีกที
“ไอ้ประเภทคดีที่มันจะมีความดีความชอบ...เสี่ยงๆตายนี่มันไม่มีบ้างรึไงกันวะ...ไอ้ห่าทำงานเป็นสายสืบมาจนหัวหงอกจะหมดทั้งกระบาลอยู่แล้ว ยังให้งานมาทำได้เพียงแค่นี้”
โอบกิจยังคงบ่นต่อเนื่อง
โด่งระบือถอนใจแล้วเอ่ยเสียงขึงขัง
“ก็เพราะน้านั่นแหละ ปอดแหก!”
“พูดงี้หมายความว่าไงวะ?” สวนคำถามกลับ
“หมายความว่าตามที่บอกไปแล้วนั่นแหละน้า...ถ้าน้าปอดไม่แหกคอยแต่จะจับงานแบบไม่ต้องเสียงอันตรายมากนักอย่างที่ผ่านมา...เราสองคนคงได้ลุยงานประเภทถึงลูกถึงคนกันไปบ้างแล้วล่ะ...ผมว่านะ ขอโทษเถอะน้านะกลัวตาย”
“อะไรกันวะไอ้โด่ง”
โอบกิจออกเสียงโวยวายที่ถูกเพื่อนรุ่นหลานปรามาสเอาซึ่งๆหน้าเช่นนี้ ก่อนที่จะยืดอกคุยเขื่องอย่างแข็งขัน
“คนหยั่งข้ารึว่ะกลัวตาย...ไม่มีทางเสียล่ะ ข้าน่ะใครๆในหน่วยสืบสวนพิเศษเขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าใจถึง กล้าบ้าบิ่นลุยแบบถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว”
“นั้นมันเมื่อตอนหนุ่มๆ”
โด่งระบือยิ้มเยาะเหน็บแนม
“ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมโว้ย”
โอบกิจเถียง
“ถ้าใจถึงแล้วไหนล่ะปืน?”
โด่งระบือกระทู้ถามเสียงกระหึ่มทำนองเย้ยหยัน พร้อมกับกระตุก.44 แม็กนั่ม กระบอกโต คู่มือของตนเองที่เสียบในซองข้างรักแร้ด้านในที่มีเสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่สวมทับเสื้อยืดชั้นในอยู่อีกที ขึ้นมาอวดโฉมควงไปมาในมือขวาให้เพื่อนร่วมงานรุ่นน้าดูเป็นขวัญตา พลางยักคิ้วแผล็บๆให้อีกทำนองเย้ยหยัน
โอบกิจใช้เท้าเขี่ยขาตั้งรถ ก่อนที่จะเดินรี่เข้าไปจนใกล้โด่ง แล้วจึงแบมือทั้งสองข้างมาด้านหน้าเขาพลางยักไหล่ พร้อมเอ่ยเสียงอย่างทำท่าจริงจังแต่ออกอาการอ่อยๆคล้ายยอมรับคำกล่าวหาของเพื่อนร่วมงานรุ่นหลาน
“อะไรกันวะไอ้โด่งคนหยั่งข้าเหรอไม่มีปืน...ปัดโธ่เอ็งก็รู้ๆอยู่ว่าบ้านข้าน่ะมีแต่เด็กเล็กๆทั้งนั้นขืนพกปืน แล้วไปไว้ที่บ้านเกิดไอ้พวกทะโมนมันเอาไปเล่น คิดว่าเป็นปืนเด็กเล่นขึ้นมาล่ะก็...ได้ฉิบหายกันใหญ่แน่”
“แล้วตกลงน้าจะทำงานที่หัวหน้าสั่งใหม่รึเปล่าล่ะ?”
โด่งระบือเปลี่ยนเรื่องถามเนื่องจากเริ่มรำคาญกับเสียงคร่ำครวญของรุ่นใหญ่แล้ว
โอบกิจเบะปากแล้วก็ยักไหล่อีกที ก่อนที่จะพูดอย่างยอมรับแต่ก็โอ่อยู่หน่อยๆ
“ยังไงมันก็ต้องทำล่ะวะ...ไอ้แก่มันสั่งให้ทำแล้วนี่ ข้าน่ะถึงจะขี้บ่นยังไงก็ตามที แต่ความรับผิดชอบต่อหน้าที่แล้วไม่ต้องห่วง...คนอย่างโอบกิจไม่เคยทิ้งงาน”
“ดีน้า งั้นเราไปเตรียมตัวกันเถอะ”
โด่งระบือสรุปตัดบทพลางสตาร์ตเครื่องรถช๊อปเปอร์คู่ใจ บิดนำหน้าไปก่อนขณะที่โอบกิจก็สตาร์ตเจ้าซูซูกิเลิฟรุ่นบุโรทั่งของตนเองบิดตามหลัง...
* * *
“อย่ายึกยักนะโว้ย...ใครกระดุกกระดิกนิดเดียว กูยิงไส้ไหลแน่!”
เจ้าแขมสั่งเสียงเฉียบขาดพร้อมกับส่ายปากกระบอกปืนยาว ที่ใช้ส่องจ้องบรรดาเชลยชายหญิง 5 คน ที่ยืนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวต่ออาวุธตรงหน้า
ขณะที่ผ่าเผยพร้อมปืนพกขนาด11มม.ยืนคุมเชิงอยู่ด้วย ส่วนเจ้าบึนกับอีกคนหนึ่งกำลังช่วยกันกวาดเงินพร้อมกับทองรูปพรรณในเก๊ะหลังเคาว์เตอร์ใส่กระเป๋าผ้าใบที่เตรียมกันมา ตรงด้านหน้ากันอย่างเร่งรีบ
“พี่อ่วมไหนบอกว่าจะพามาปล้นธนาคารไงล่ะ?”
เป็นกระทู้ถามของชายอายุไล่เลี่ยกับพ่อบุญธรรมของผ่าเผยและยืนคุมเชิงดูสถานการณ์ในการปล้นครั้งนี้ อยู่ใกล้ๆกัน
“ก็นี่ไงล่ะวะธนาคาร”
อ่วมบอกเสียงกวนๆ
“ธนาคารยังไง...นี่มันโรงจำนำชัดๆ”
อีกฝ่ายเถียงตามข้อเท็จจริงที่เห็นอยู่
“ธนาคารของคนจนไงล่ะเว้ย ฮะๆๆ”
ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ
“แล้วพวกเราทำไมไม่ปล้นธนาคารที่มันจริงจังเลยล่ะ...ไอ้โจรกลุ่มอื่นมันรู้ว่ากลุ่มเรามาปล้นโรงจำนำเข้า พวกมันได้หัวเราะกันเหงือกแดงแน่”
“ไปปล้นทำไมวะธนาคารจริงๆ ที่นั่นน่ะหน่วยรักษาความปลอดภัยมันเยอะ ทั้งยามเอยทั้งตำรวจเอย และยังมีกล้องวงจรปิดอีกล่ะ...อัตราเสี่ยงสูงสู้โรงจำนำไม่ได้ ถึงจะได้เงินน้อยกว่าแต่ก็ค่อนข้างเสี่ยงน้อย...มึงไม่ชอบรึไงวะไอ้บักห่า”
“มันก็ชอบอยู่...แต่ฉันว่ายังไงมันก็ยังเสียหน้าอยู่ดี”
“ไม่ต้องไปสนใจอะไรกะใครมากนักหรอกวะ...ขอให้ได้เงินมาใช้จ่ายก็พอแล้วล่ะนะข้าว่า”
สรุปกับคนช่างถาม ก่อนที่จะหันไปเตือนเร่งเจ้าบึนซึ่งกำลังรวบรวมเงินทองข้าวของมีค่าอยู่
“เฮ้ยไอ้บึนให้มันไวๆหน่อยโว้ย จะได้รีบไป ไอ้ห่าอยู่นานๆถึงจะเป็นโรงจำนำก็เสียวนะ”
“เสร็จเดี๋ยวนี้แล้ว น้าอ่วม”
คนถูกเร่งรับคำพลางรีบถอนตัวออกจากบริเวณตู้ ที่เก็บเงินทองรวมทั้งของมีค่าเอาไว้ทั้งหมดอีกที
และช่วงจังหวะนั้นเองชายฉกรรจ์คนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานคนหนึ่งของโรงรับจำนำแห่งนั้นทำท่าจะขยับตัวเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังช้ากว่าผ่าเผยซึ่งถึงตัวของเขาคนนั้นแล้วพร้อมกับดาบด้ามยาวคมกริบในมือไปจ่อที่คอหอย พลางเอ่ยเสียงเหี้ยมสำทับ
“อยากตายรึไง บอกแล้วไงว่าอย่าขยับตัว!”
“ใจเย็นๆเว้ยไอ้เผย...มึงเอาดาบไปจ่อคอมันทำไมวะ?”
อ่วมซึ่งไม่เห็นพฤติกรรมของหนุ่มคนที่กำลังถูกดาบของผ่าเผยจ่ออยู่ ถามอย่างงงๆต่อเหตุการณ์
“มันยึกยัก”
ผ่าเผยตอบเข้มๆ
“พ่ออ่วมสั่งฉันไว้ไม่ใช่หรือว่าะ ใครยึกยักฆ่าได้ทันที”
“แต่มันก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ใช่มั้ย?”
“ยัง”
“งั้นก็อย่าไปฆ่ามันเลยวะ...นี่มึงออกปล้นทุกครั้งต้องฆ่าคนทุกทีไปรึไงกัน?”
ตั้งคำถามแล้วอ่วมก็ถอนใจ พลางเอ่ยส่งท้าย
“นึกว่ากูขอก็แล้วกัน”
“พ่ออ่วมขอ ผมให้...แต่มันก็ต้องได้รับบทเรียนจากการแสดงความดื้อด้านครั้งนี้เหมือนกัน”
พูดจบผ่าเผยก็ใช้กำปั้นข้างที่กุมด้ามดาบอยู่ อัดเปรี้ยงไปที่กระโดงคางของหนุ่มฉกรรจ์คนนั้นอย่างถนัดถนี่
พล๊อกก!
เสียงดังคล้ายลูกมะพร้าวถูกทุบ พร้อมกับร่างนั้นก็สลบเหมือดกลางอากาศอย่างทันท่วงที
“ไปกันเถอะวะพวกเรา...อยู่นานๆเดี๋ยวไอ้ผ่าเผยมันนึกมันเขี้ยวขึ้นมา ก็จะฆ่าใครเข้าให้อีก”
อ่วมตะโกนบอกพรรคพวกของตน
ก่อนที่จะหันไปทางกลุ่มเชลยที่ยืนตัวสั่นงันงก ต่อภาพตรงหน้าที่หนึ่งในพวกของตน
โดนทำให้สลบไปแล้ว
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้นะ...เอาไว้งวดหน้าถ้าพวกกู ไม่มีเงินใช้กันอีกอาจจะต้องมารบกวนอีกรอบก็ได้...ไปล่ะวะ!”
(หมายเหตุ : รีดฯท่านใดที่ติดตามอ่านงานของไรท์ฯอยู่ ต้องการมีข้อตำหนิติเตียนหรือเสนอแนะอย่างไร หรือเพียงแค่จะทักทายเฉยๆก็แชทมาได้เลยครับที่กลุ่มนิยายพวงพลอยในเฟสฯ หรือจะเข้ามาร่วมกลุ่มกันก็ได้นะครับ ไรท์อยากทราบผลตอบรับการเขียนงานให้ท่านอ่านกันว่าเป็นอย่างไรถูกใจหรือไม่ประการใด ทักเข้ามานะ...)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ