The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

90) มาวิน v.s. โจจี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

เครดิตภาพจาก  https://free4kwallpapers.com
 
      มาวินเกร็งนิดๆ ผิดกับโจจี้ซึ่งยืนตัวตรงด้วยท่วงท่าที่ดูสบาย ราวกับกำลังชมนกชมไม้ในอุทยาน  สิ่งนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดจนต้องตะโกนออกมา 
 
“ นี่ ตกลง นายจะไม่ตั้งท่าต่อสู้จริงเหรอ ” 
          
 
       โจจี้ยิ้มเล็กน้อย พร้อมตอบเรื่อยเฉื่อย คล้ายไร้เรื่องราวอันใด 
 
“ ผิดแล้ว ที่นายเห็นอยู่นี่คือ……ท่าต่อสู้ของชั้น ” 
           
 
       คิ้วของมาวินถึงกับขมวดนิ่ว ภายในใจนึกดูแคลน 
 
“ ท่าต่อสู้ตะบักตะบวยอะไรฟะ ก็แค่ยืนนิ่งอยู่กับที่เท่านั้นเอง ” 
           
 
        ไม่ว่ามาวินจะแสดงอากัปกิริยาใดออกมา โจจี้ก็ได้แต่ยืนยิ้มอยู่แบบนั้น ทำให้เขารู้สึกหัวเสีย
 
“ เอ้า ถ้านายอยากจะปากแตก ก็ตามใจแล้วกัน ย่ะ ” 
           
 
       สิ้นเสียงตะโกน มาวินก็พุ่งเข้าใส่โจจี้ด้วยความเร็วสูงจนแทบมองไม่เห็น แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มหัวเขียวจะเข้าถึงตัว เขาก็หยุดชะงักอย่างฉับพลัน สาเหตุเพราะรับรู้ถึงความเยือกเย็นที่ชวนขนลุกอันแผ่ออกมาจากกายของคู่ประลอง
 
“ เฮ้ย ” มาวินร้องเสียงหลง พร้อมกระโดดถอยหลัง เหงื่อบนใบหน้าเริ่มหลั่งไหล
 
“ อ้าว หยุดทำไม เมื่อกี้นายเกือบจะเข้าถึงตัวชั้นแล้วนะ ” โจจี้ถามยิ้มๆ มาวินอึกอักอยู่หลายอึดใจ ก่อนตอบกลับมาด้วยเสียงที่สั่นเทา
 
“ ไม่รู้ดิ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ทันทีที่เข้าใกล้นาย ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่ เจ้าสิ่งนั้นทำให้ชั้นรู้สึกขนลุก ”  
 
“ ฮ่าๆ..... ” ทันทีที่มาวินพูดจบ หนุ่มหล่อผมทองก็หัวเราะเสียงดัง 
 
“ เฮ้ นายหัวเราะอะไรฟะ คิดจะเยาะเย้ยชั้นเหรอ ” มาวินเริ่มฉุนนิดๆ
 
“ ไม่ใช่หรอก ที่ชั้นหัวเราะ เพราะชื่นชมในตัวนาย สิ่งที่รู้สึกเมื่อครู่นี้ เขาเรียกว่า "จิตสังหาร" ถ้าเป็นพวกกระจอกไร้ฝีมือหรือคนธรรมดา จะไม่มีวันรับรู้ถึงสิ่งนี้ นั่นก็แปลว่า.....ฝีมือของนายน่าจะข้ามขอบเขตของคนธรรมดาไปแล้ว ยินดีด้วยนะ ” โจจี้พูดจบ เขาก็แกล้งโค้งคำนับให้เด็กหนุ่ม ทำเอาเจ้าลิงจอมซนเผลอคำนับตอบด้วยท่าทางที่ดูงงๆ แต่พอตั้งสติได้ ก็เริ่มเอ่ยถาม
 
“ เอ่อ......เดี๋ยวนะ นายจะบอกว่าตัวเองสามารถปล่อยไอ้จิตสังหารอะไรเนี่ยออกมาได้เหรอ โม้เปล่าฟะ นี่ไม่ใช่หนังการ์ตูนหรือนิยายกำลังภายในนะ ” 
 
“ นายนี่ยังพูดจาแปลกๆอยู่เหมือนเดิม อะไรคือหนังการ์ตูน ไหนจะนิยายกำลังภายในอีก ตกลงแล้ว มันคืออะไร” คราวนี้เป็นฝ่ายโจจี้ที่มึนตึบบ้าง
 
“  อืม....... หนังการ์ตูนกับนิยายกำลังภายในก็คือ….” มาวินกอดอกนิ่ง เด็กหนุ่มพยายามขบคิดอย่างหนักหน่วง เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้โจจี้เข้าใจ ทันใดนั้นเอง เขาก็พลันได้สติ 
 
“ เฮ้ย เดี๋ยวสิ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ ยามนี้ ชั้นต้องตั้นหน้านายเล่นซักหลายทีนี่นา ” มาวินหันกลับมาตั้งท่าต่อสู้
 
“ เออ จริงของนาย แต่ถ้าคิดจะเล่นงานชั้น ต้องใช้ฝีมือ ไม่ใช่ฝีปาก ” โจจี้เห็นด้วยกับความคิด พร้อมกล่าวท้า 
            
 
       มาวินจ้องโจจี้เขม็งชนิดที่ไม่ยอมละสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว ส่วนหนุ่มผมทอง เขายังคงยืนนิ่ง พร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า ทั้งสองยืนคุมเชิงอยู่นานหลายอึดใจ ก็เป็นฝ่ายลิงหัวเขียวที่ที่เปิดเกมก่อน
            
 
       ทันทีที่มาวินเข้าถึงระยะสามก้าวก่อนถึงตัว เขาก็หยุดชะงักอย่างฉับพลัน พร้อมฉากไปทางขวาและพุ่งเข้าใส่อีกครั้งด้วยความเร็วสูงสุด 
 
“ เสร็จชั้นล่ะ พี่ชายผมทอง ” 
      
 
       มาวินนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ เขาหวดหมัดขวาใส่ใบหน้าของหนุ่มรุ่นพี่สุดกำลัง หวังน็อคในทีเดียว แต่ก่อนที่กำปั้นจะกระทบเป้าหมาย โจจี้ก็กระโดดหลบไปข้างหลัง เป็นผลให้จั่วลม
 
“ เฮ้ย ” มาวินร้องอุทาน เนื่องจากเขาทุ่มกำลังมากเกินไป จึงทำให้เสียหลักจนลงไปนอนคลุกฝุ่น เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นนั่ง พร้อมถุยน้ำลายลงพื้นหลายระลอก ด้วยรู้สึกพะอืดพะอมที่เผลอกินดินเข้าไปหลายคำ
 
“ ตุ้ยๆ ดินเค็มเป็นบ้าเลย ” 
      
 
       ทว่าเด็กหนุ่มก็ต้องหยุดชะงักการขากถุย เมื่อเหลือบไปเห็นรองเท้าบูตสีขาว พอเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับ.......โจจี้
 
“ ฮะๆ นี่ถ้าเป็นการต่อสู้จริง นายตายคาคมดาบของชั้นไปแล้ว ” หนุ่มผมทองยิ้มน้อยๆเป็นเชิงเย้ย
 
“ หน็อย..... ไอ้นักดาบขี้หลี ” มาวินตวาดกลับด้วยแรงโทสะ เขาลุกขึ้นมาต่อยหมัดซ้าย ขวาใส่โจจี้อย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนหนุ่มผมทองจะว่องไวกว่าระดับหนึ่ง เพราะสามารถพริ้วหลบได้ทุกดอก 
 
“ ย่ะๆ...... ” มาวินตะโกนดัง พร้อมรัวหมัด เข่า ศอกใส่ทุกทิศทุกทาง แต่โจจี้ยังหลบได้ทุกกระบวน สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเด็กหนุ่มที่ถอยฉาก
 
“ แฮ่กๆ ทำไมถึงไวนัก ชั้นต่อยนายไม่โดนซักหมัด ” มาวินหอบเหนื่อย แววตามีประกายท้อใจ โจจี้เลยแย้มยิ้มให้นิดหนึ่ง จากนั้นก็แจงนิ่มๆ
 
“ แท้จริงแล้ว นายว่องไวมาก ถ้าวัดกันแค่ความเร็วอย่างเดียว อาจเหนือกว่าชั้นเสียด้วยซ้ำ แต่สาเหตุที่โจมตีไม่โดน เพราะการเคลื่อนไหวของนาย มันอ่านทางง่ายเกินไป ” 
            
 
       สิ้นคำอธิบาย เด็กหนุ่มหัวเขียวก็ถึงบางอ้อ ประกายตาแวววาวอย่างประหลาด
 
“ อ้อ อย่างนี้นี่เอง ” 
            
 
       โจจี้ยังคงยิ้มแย้มอย่างสบายอารมณ์ ต่อมาก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเยาะ 
 
“ ฮะๆ เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ต่อให้นายโจมตีอีกสิบกระบวน ชั้นจะหลบเพียงอย่างเดียว จะไม่ตอบโต้เลย ” 
 
“ โห...... เอางั้นเลยรึ นายใจดีถึงขนาดเฉลยวิธีที่ใช้หลบชั้น แถมยังปล่อยให้โจมตีโดยไม่อัดกลับถึงสิบกระบวน อะไรมันจะเปย์ขนาดนั้น ” มาวินเลิกคิ้วสูง
 
“ เอ๊ะ อะไรคือ.....เปย์ งง ” มนุษย์เจ้าปัญหาสิงสู่โจจี้อีกครั้ง 
 
“ เปย์ก็คือ…. เฮ้ย มันใช่เรื่องที่จะต้องมาคุยในเวลานี้มั้ย ตกลง นายจะให้ชั้นโจมตีได้รึยัง ” มาวินทำท่าจะตอบคำถาม แต่ก็เปลี่ยนมาโวยแทน เขานึกรำคาญการช่างซักที่ไม่เลือกเวลาของหนุ่มผมทอง 
 
“ อืม...... เข้ามาเลย รออยู่แล้ว ” โจจี้ผายมือออก เพื่อเตรียมรับการโจมตีครั้งใหม่ 
 
“ ได้เลย พวก ” มาวินตะโกนดัง พร้อมพุ่งเข้าไปเตะต่ำ เป้าหมายคือหน้าแข้งของหนุ่มหล่อ ทว่าโจจี้ก็ไวพอจะชักขาหลบ 
 
“ หน็อย หลบได้อีกแล้ว ” มาวินคำรามดัง พร้อมเหวี่ยงขาอีกข้างเข้าเตะต่ำดุจเดิม ซึ่งโจจี้ก็อ่านทางออกจนฉากหลบได้อีก
          
 
       แม้พลาดแล้วพลาดเล่า แต่มาวินก็ยังตามโจมตีอย่างต่อเนื่อง คราวนี้คือหมุนตัวเตะสูงไปที่ใบหน้า ทำให้หนุ่มหล่อต้องโชว์เหนือด้วยการโยกร่างกายท่อนบนหลบนิดๆ ทว่าในจังหวะที่เท้าของเด็กหนุ่มสัมผัสพื้น เขาก็พุ่งเข้าไปรัวหมัดซ้ายขวาใส่แบบฉับพลัน 
 
“ ย่ะๆ ” 
 
“ ยังง่ายเกินไป น้องชายหัวเขียว ” สเต็ปของโจจี้ยังคงเทพ เขาพริ้วหลบอย่างรวดเร็วจนทำให้ทุกหมัดที่มาวินปล่อยออกมากระทบแต่อากาศรอบตัว
 
“ หน็อยแน่ะ เจอกระบวนท่านี้หน่อยเป็นไง พยุหะกรงเล็บแมวป่า ” มาวินเริ่มเอาจริง เขาตัดสินใจปล่อยท่าเด็ดในระยะเผาขน 
 
“ เฮ้ย ” 
       
 
       เมื่อเห็นเงากรงเล็บนับสิบที่พุ่งเข้าใส่ โจจี้ถึงกับร้องอุทาน เขาถอยหลังหนีสุดกำลัง ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าส้นเท้าขวาได้กระทบกับของแข็ง เลยหันกลับไปดู สิ่งที่เห็นก็คือ......ท่อนไม้สูง 2 เมตรที่มีดวงไฟแดงฉานอยู่บนคาคบ 
 
“ เอ๊ะ นี่มันคบไฟนี่นา สุดเขตลานประลองแล้วเหรอ ” โจจี้คิดในใจ 
           
 
       ในจังหวะที่โจจี้เผลอ มาวินก็เหยียบเท้าของหนุ่มรุ่นพี่เข้าอย่างจัง ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งสุดตัว แต่นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับสิ่งที่เขาจะทำในเวลาต่อมา
 
“ ฮะๆ นายจนมุมแล้ว เสร็จชั้นล่ะ กระบวนท่าที่สิบ ” 
 
 
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา