The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
166.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) การเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
ค่ำวันนั้น น้าเดชได้มาร่วมกินอาหารเย็น ทุกคนดูสนุกสนานกับงานเลี้ยงฉลอง พ่อและแม่ของจันมักจะตั้งคำถามกับอัจฉริยะสติเฟื่อง อาทิเช่น ทำอะไร ทำที่ไหน จะทำอีกนานมั้ย และจะหายบ้าเมื่อไหร่ ซึ่งคำตอบที่สะท้อนกลับมาก็คือ......ทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ ทำที่อนามัย อีกไม่นานก็คงเสร็จ และจะบ้าต่อๆไปตราบที่ใจปรารถนา
ในวงสนทนามีหลากหลายอารมณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกดี มีเพียงสองคนเท่านั้นที่พยายามหลีกเลี่ยงการสนทนา ทั้งที่โดยปกติพวกเขามักปะทะฝีปากกันเป็นประจำ สองคนนั้นก็คือ “จันและมาวิน”
……………………….
ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น หนุ่มสาวทั้งสองก็บอกลาญาติผู้ใหญ่อันเป็นที่รัก เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ เนื่องจากจันมีเรียนในวันถัดไป แต่ถึงอย่างไรผู้เป็นพ่อแม่ย่อมต้องรักและหวงแหนลูก ดังนั้นบรรยากาศการจากลาจึงเต็มไปด้วยความอาดูร โดยเฉพาะคุณน้าจอมป่วนนั้นเป็นหนักกว่าเพื่อน เขาถึงขั้นร้องไห้โฮออกมาชุดใหญ่ เดือดร้อนถึงเด็กสาวร่างสูงที่ต้องคอยปลอบประโลมอยู่นานสองนาน
มาวินและจันขยับกายมาที่มอเตอร์ไซด์ฮอนด้าสีฉูดฉาด ในครั้งนี้เด็กหนุ่มหัวเขียวรีบรุดมาจองที่นั่งคนขับ พลางเปิดปากพูดเป็นคำแรก
“ ขากลับ ชั้นขอเป็นคนขับเอง ”
“ อืม..... ” จันรับคำอย่างว่าง่ายจนดูผิดปกติ
มาวินสตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นก็เคลื่อนรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีญาติผู้ใหญ่ตามส่งด้วยสายตา
………………………….
ขากลับไม่มีเหตุหวาดเสียวเหมือนตอนขามา เนื่องจากมาวินสามารถขับขี่ได้ตามมาตรฐานที่มนุษย์ทั่วไปพึงกระทำ ดังนั้นจังหวะโฉบเฉี่ยวจึงไม่มีให้เห็น เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง วัยรุ่นทั้งสองก็ถึงบ้านโดยปลอดภัย
ทันทีที่มอเตอร์ไซด์ฮอนด้าจอดสนิทที่หน้าบ้าน วัยรุ่นทั้งสองก็ลงจากรถ ระหว่างที่มาวินลากพาหนะเข้าไปเก็บที่ลานจอด เด็กสาวร่างสูงก็เอ่ยถาม
“ ตกลง นายจะกลับมาเรียนมั้ย ”
เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ต่อมาเขาก็ลากมอเตอร์ไซด์เข้าไปเก็บในโรงรถ หลังจากนั้นก็หันหลังพิงกำแพงและก้มหน้านิ่ง
“ นายยังไม่ได้ตอบคำถามเลย จะกลับมาเรียนหรือเปล่า รีบบอกมาซะทีสิ ” เด็กสาวตามเข้ามาทวงคำตอบ
“ ชั้นก็…..อยากไป แต่ว่า……สิ่งที่ชั้นทำ มัน…..” เด็กหนุ่มก้มหน้านิ่ง ท่าทางดูหงอยๆ
“ มันไม่ใช่ความผิดของนาย ” เด็กสาวชิงตอบ
“ ถึงอย่างงั้น ชั้นก็ทำให้ไอ้ต๋องต้องเจ็บปวดและฝันสลาย ” เด็กหนุ่มรู้สึกผิด
“ ใครจะรู้ล่วงหน้าว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนั้น รู้จักคำว่าอุบัติเหตุมั้ย อีกอย่างเจ้าต๋องก็ฝากมาบอกให้กลับมาเรียน มันไม่ได้โกรธนายเลย ” เด็กสาวพยายามทำให้มาวินเข้าใจ
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวแวบนึง จากนั้นก็ก้มหน้า แม้จะแค่พริบตาเดียว แต่จันก็เห็นแววตาที่เปลี่ยนไป นั่นคือประกายแห่งความหวัง เธอจึงรีบตามติดผลงานด้วยการชี้แจงให้อีกฝ่ายเข้าใจ
“ ตอนนี้ทุกคนให้อภัยหมดแล้ว คนที่ยังไม่ยอมให้อภัยก็มีแต่ตัวนายเองเท่านั้น ทำไมถึงไม่ปล่อยวางแล้วเดินหน้าต่อไป ให้อภัยตัวเองซะ เข้าใจมั้ย นายวิน ”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ดวงตาเปล่งประกายปลาบปลื้มดีใจ หัวใจที่หนักอึ้งและยุ่งเหยิงเริ่มจะคลายตัว วินาทีต่อมาก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ แล้วพวกเราจะรวมตัวกันอีกวันไหน ”
จันแย้มยิ้มออกมา เพราะนี่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่าเด็กหนุ่มผู้มากความสามารถทางด้านสเก็ตบอร์ดกำลังจะกลับสู่เส้นทางที่ควรเดิน
“ ถ้านายต้องการ เราก็จะจัดงานเลี้ยงฉลองในเย็นวันพรุ่งนี้เลย ” เด็กสาวตอบเสียงใส
“ อืม...... ” เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงรับรู้
“ นายต้องมาให้ได้นะ เพื่อนทุกคนที่วิทยาลัยจะมารวมตัวกันที่ชมรม ” เด็กสาวบอกเชิงบังคับ
“ อืม....... ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำอีกครั้ง
“ นายสัญญาแล้ว ต้องมาให้ได้นะ ” เด็กสาวกำชับอีกรอบ เพื่อความแน่ใจ
“ ได้เลย ” คราวนี้เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาสบตา พร้อมยิ้มให้นิดๆ
ทันใดนั้นเองจันก็พุ่งเข้าไปโอบกอดมาวินอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กหนุ่มถึงกลับยืนเอ๋อในบัดดล เขารู้สึกงงกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น อ้อมกอดนั้นช่างเต็มไปด้วยความอบอุ่นและหนักแน่น โสตประสาทแว่วเสียงสดใสของเด็กสาว
“ รู้มั้ยว่าชั้นรอให้นายเปิดใจแบบนี้มาตั้งครึ่งปีแล้ว เพราะรู้ดีว่าสเก็ตบอร์ดคือความฝันของนาย ชั้นอยากให้กลับมา ชั้นยืนข้างนายเสมอ ”
“ ระ…..รู้แล้วน่า ” เด็กหนุ่มพูดติดขัด น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
อึดใจต่อมาเด็กสาวก็คลายอ้อมกอด เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความดีใจ ส่งผลให้ใบหน้าคมเข้มแลอ่อนโยนลง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มาวินจะเป็นฝ่ายหลบตา เพราะรู้สึกเขินอาย
“ อย่าลืมที่นัด พรุ่งนี้ตอนเย็นนะ ฮะๆ ” เด็กสาวพูดไปก็ยิ้มไป ท่าทางแสดงออกถึงอาการรื่นเริงอย่างชัดเจน จากนั้นเธอก็ร่ำลา เพื่อกลับบ้านของตัวเอง
หลังจากเด็กสาวจากไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่มาวินซึ่งยืนโดดเดี่ยวอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เด็กหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ว่างเปล่า มีลมเย็นผสานไอร้อนพัดโชยมาเป็นระยะ อึดใจต่อมาก็พูดออกมาเบาๆ
“ ให้อภัยตัวเองงั้นหรือ ”
………………………….
ทันทีที่เด็กหนุ่มเข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่กระทำก็คือ “ออนไลน์” คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข่าวสารบนโลกไซเบอร์หลั่งไหลผ่านสายตาที่ว่องไว นิ้วมือเคาะแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ทั้งสามเครื่องด้วยความเร็วที่สูงราวจักรผัน
ระหว่างที่กำลังหลุดเข้าไปในโลกออนไลน์อันเสมือนจักรวาลที่ไร้ขอบเขต เขาได้หยุดทุกการกระทำ จากนั้นก็หันมาสนใจกับวัตถุประหลาดที่อยู่ในกระเป๋าเป้ สิ่งนั้นก็คือ “แว่นวิเศษ” ของน้าเดช
“ น้าครับ ผมขอยืมแว่นวิเศษมาเล่นแบบไม่บอกซักเดือนนึงนะ ฮะๆ ” เด็กหนุ่มพูดกับตัวเอง พลางสำรวจของเชลยที่เพิ่งขโมยมา
มาวินลงมือเสียบสายพอร์ตไมโคร usb เพื่อเชื่อมต่อแว่นวิเศษให้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง จากนั้นก็สวมอุปกรณ์ให้กับตัวเอง แล้วคลิกเมาส์ เพื่อเตรียมเข้าสู่เกมที่ต้องการเล่น ทันใดนั้นเองโลโก้ของค่ายยูบิซอฟต์ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ ส่งผลให้เขาอมยิ้ม ในใจนึกคะนอง
“ เยี่ยม รอก่อนนะเกมฟาคราย 8 ชั้นจะเข้าไปลุยกับพวกนายด้วยตัวเองเลย ฮ่าๆ ”
เด็กหนุ่มกดปุ่มบนสุดทางแถบขวาของตัวกล้อง ใจหมายมั่นว่าจะเข้าไปเล่นเกมยิงตะลุยด่านชื่อดังให้สาแก่ใจ อึดใจต่อมาทุกภาพที่เห็นก็เลือนหายไป เหลือไว้แต่เพียง……ความว่างเปล่า
…………………………….
มาวินลืมตาขึ้นมา มันคล้ายว่ากำลังตื่นจากนิทราที่แสนสุขสม เมื่อความรู้สึกทางร่างกายกลับคืน ก็รับรู้ในทันทีว่าตอนนี้เขากำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดตา
เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เขาพบว่าสถานที่อยู่เป็นห้องเล็กๆขนาด 4×4 เมตร ผนังทาสีขาว ส่วนพื้นก็ปูพรมสีเดียวกัน ทั่วทั้งห้องมีแค่เตียงและกระจกเงาขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่มุมห้อง
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงชายสูงอายุดังมาจากที่ไหนซักแห่ง เด็กหนุ่มได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน ราวกับว่าเจ้าของเสียงมาพูดกรอกหูอยู่ใกล้ๆ
“ ยินดีต้อนรับสู่เกม The Dark World นี่คือโหมดสร้างตัวละคร ”
“ เฮ้ย เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ชั้นเข้าเกมฟาคราย 8 นี่นา ไหงมาโผล่มาที่เกม The Dark World ได้ล่ะ หรือว่าเรากดเข้าเกมผิด ไอคอนดันอยู่ใกล้ๆกัน แถมทั้งสองเกมก็มาจากค่ายเดียวกัน สงสัยจะเป็นอย่างนั้น ” เด็กหนุ่มเริ่มโวยวายในตอนแรก แต่หลังจากนิ่งคิดได้ครู่หนึ่ง เขาก็เข้าใจว่าตนน่าจะเข้าผิดเกม
ทีแรกเด็กหนุ่มตั้งใจว่าจะออกจากเกมในทันที เพราะไม่ชอบเล่นเกมแนวเก็บเลเวล เนื่องจากใช้เวลาสะสมค่าประสบการณ์นานเกินไป ต่างจากเกมแนวแอคชั่นที่ใช้ทักษะ ไหวพริบ ปฏิภาณ บวกกับฝีมือการคอนโทรล เพื่อลุยฝ่าเข้าไปตรงๆ ไม่จำเป็นต้องมานั่งปั้นตัวละครที่เล่น ทว่าเขาก็เปลี่ยนใจกะทันหัน
“ อืม…...คิดดูอีกที ไหนๆเราก็เข้ามาแล้ว ก็อยู่เล่นขำๆซักพักหนึ่ง ก็ดีนะ ”
ทันทีที่ได้ข้อสรุป เสียงของชายแก่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ ผู้เล่นกรุณาเดินไปที่หน้ากระจก ”
“ ฮะๆ ออกคำสั่งซะด้วย ท่าทางใหญ่โตจังเลยนะ ตาแก่ ” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ปฏิบัติตาม
ทันทีที่เด็กหนุ่มเดินไปที่หน้ากระจก ภาพที่สะท้อนกลับมา ก็แทบทำให้เขาสะอึก เพราะเงาที่ปรากฏกลับมีเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียวที่ห่อหุ้มร่างกาย
“ เฮ้ย…..ทำไมชั้นถึงล่อนจ้อนอย่างงี้ฟะ บ้าชะมัดเลย ” เด็กหนุ่มหันมาสำรวจตัวเอง เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนกำลังอยู่ในสภาวะที่ใกล้เคียงกับนายแบบนู้ด
“ จงเลือกทรงผม ” เสียงชายแก่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ โห..... ไฮเทคแฮะ นี่ชั้นเลือกได้จริงหรือ ” เด็กหนุ่มอุทานดัง ความเขินอายกำลังจางหายไป ความตื่นเต้นเริ่มเข้ามาแทนที่
“ จงเลือกทรงผมหรือเจ้าจะใช้ทรงเดิม ” เสียงชายแก่ดังขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเร่งให้เด็กหนุ่มรีบตัดสินใจ
“ อ้าว.......ลุงให้เลือกทรงผม ก็จัดมาให้ดูทีละทรงเลย ว่าแต่ลุงจะโผล่มาตัดผมให้ตอนไหนเนี่ย ชั้นจะได้หลับรอ ” เด็กหนุ่มเริ่มโชว์ความเกรียนตามสันดานเดิม
สิ้นคำกล่าว ทรงผมของมาวินก็เปลี่ยนเป็นไร้ผมในทันที เมื่อเด็กหนุ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในกระจก เขาก็สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“ เฮ้ย นี่เล่นเปลี่ยนกันแบบฉับพลันอย่างนี้เลยรึ โห…..อเมซิ่งสุดๆไปเลย ”
พอมาวินเริ่มคุ้นเคย เขาก็ขอเปลี่ยนทรงผมใหม่อีกหลายครั้ง มีทั้งทรงกะลาครอบ รองทรงสูง หวีเป๋ข้างเดียว แสกกลาง แสกข้าง แนวเกาหลีหัวฟูก็มี แม้กระทั่งผมยาวสลวยถึงกลางหลังก็เลือกได้ เด็กหนุ่มดูสนุกและเมามันกับการจัดเปลี่ยนทรงผมจนกินเวลาเนิ่นนาน ดูเหมือนเขาจะสนุกกับเรื่องนี้มากกว่าการเข้าไปเล่นเกมจริงๆเสียด้วยซ้ำ
ในที่สุดการคัดเลือกทรงผมก็จบลงด้วย……ด้านหลังไว้รากไทร ด้านหน้าตั้งเป็นกะบังและย้อมเขียวตลอดทั้งศีรษะ
“ ทรงเดิมนี่แหละ หล่อสุดแล้ว เอาทรงนี้เลย ลุง ” มาวินตอบ
“ ต่อไปเลือกชุด ” เสียงชายแก่เสนอทางเลือกอีกครั้ง น้ำเสียงดูขุ่นมัวนิดๆ ก็น่าจะเป็นแบบนี้ เขาคงรำคาญที่มาวินใช้เวลาในการเลือกทรงผมนานเกินไป
“ ค่อยยังชั่ว ทีแรกนึกว่าจะให้ชั้นเล่นเกมในสภาพชีเปลือยซะอีก ฮ่าๆ ” เด็กหนุ่มหัวเราะโล่งอก
มาวินเลือกชุดที่สวมใส่ ซึ่งมีให้เลือกไม่มาก ชุดแรกก็คือเสื้อแขนกุด คอเสื้อเป็นรูปสามเหลี่ยม กางเกงขายาวที่ทำมาจากผ้าฝ้าย คาดด้วยสายรัดเอวคล้ายนักคาราเต้ รองเท้าผ้าแบบนักสู้กังฟู ส่วนชุดที่สองเป็นเสื้อคอปกที่แสนบาง แขนเสื้อสั้นประมาณศอก กางเกงผ้าเนื้อหยาบดูเบสิก รองเท้าสานด้วยฟาง ชุดสุดท้ายนับว่าเห่ยและรุ่มร่ามที่สุด เพราะมันคือเสื้อคลุมเนื้อหยาบที่ยาวถึงปลายเท้า แขนเสื้อยาวไปถึงข้อมือ ส่วนฝ่าเท้าถูกสวมใส่ด้วยรองเท้าผ้าแบบธรรมดาที่ดูไม่คงทน
“ แต่ละชุดเห่ยสุดๆ เอาชุดแรกก็แล้วกัน เพราะดูทุเรศน้อยที่สุด ส่วนสีสัน ขอเป็นสีเขียวนะ ” มาวินสั่ง เขาเริ่มเซ็งเล็กน้อยที่เกมนี้มีชุดให้เลือกน้อยมาก
วินาทีต่อมา ชุดที่มาวินเลือกก็ปรากฏบนเรือนร่าง เด็กหนุ่มไม่ภาคภูมิใจเลยซักนิด เพราะจากสภาพที่เห็นในกระจก เขาดูเหมือนตัวตลกในชุดนักสู้สีเขียว
“ ต่อไปให้ผู้เล่นเลือกอาชีพพื้นฐาน ” เสียงชายแก่ดังขึ้นมาอีก
“ อ้าว......แล้วมีกี่อาชีพอ่ะ ลุง ” เด็กหนุ่มล้มตัวลงนอนเอกเขนกที่เตียง พลางเอ่ยถามด้วยท่าทางที่ดูชิวๆ
“ มี 4 อาชีพ ” เสียงชายแก่ตอบ
“ ไล่มาทีละอาชีพ เล่ามาให้ตื่นเต้นเลยนะ ลุง ชั้นรอฟังอยู่ ” เด็กหนุ่มนอนไขว่ห้าง ท่าทางกวนๆ
“ อาชีพที่ 1 สายนักสู้ อาชีพนี้เน้นกำลังและความเร็ว เป็นแนวหน้าที่ทำหน้าที่บุกตะลุยคู่ต่อสู้ มีความชำนาญด้านอาวุธและเพลงหมัด ” ชายแก่ที่ไร้ตัวตนแจงโดยละเอียด
“ โห..... น่าสนใจ อาชีพต่อไปเลย ลุง ” เด็กหนุ่มตื่นตัวเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่เลือกอาชีพนี้ เพราะต้องการทราบข้อมูลของอาชีพที่เหลือ
“ อาชีพที่ 2 นักศึกษา อาชีพที่เน้นสติปัญญา เป็นแนวหลังที่คอยสนับสนุน มีความถนัดทางด้านเครื่องยนต์กลไก การประดิษฐ์คิดค้นและเวทมนตร์ ” เสียงแนวโมโนโทนของชายแก่ดังออกมา
“ โห..... ผ่านอ่ะ ชั้นไม่ใช่พวกเด็กเรียน อาชีพต่อไปเลย ” เด็กหนุ่มโบกมือไล่ คล้ายรังเกียจคาแร็คเตอร์ของอาชีพนี้
“ อาชีพที่ 3 ชาวบ้าน อาชีพที่เน้นทักษะเฉพาะด้าน เป็นขุมกำลังที่ใช้ผลิตปัจจัยต่างๆ เน้นสร้างความมั่งคั่ง มีความถนัดหลากหลายตามสาขาที่เลือก ” ชายแก่แจงรายละเอียด
“ ฟังแล้วเบื่อ อาชีพหาเงินแบบนี้ คงไม่ค่อยได้บู๊อ่ะดิ ไม่เอา ” เด็กหนุ่มหาวยาว ท่างทางเซื่องซึม
“ อาชีพสุดท้ายคือ "ไร้อาชีพ" สายนี้จะไม่ถนัดอะไรเลย เป็นอาชีพที่ไร้ค่าที่สุด ผู้ใดที่ต้องการความท้าทาย สมควรเล่นอาชีพนี้ เพราะเป็นสายที่เล่นได้ยากยิ่ง ” ชายแก่แจงอีกครั้ง
ในครั้งนี้เด็กหนุ่มถึงกลับผุดลุกขึ้นมานั่ง ตัวแข็งเกร็ง พลางสบถกับตัวเองเบาๆ
“ อาชีพบ้าๆแบบนี้ก็มีด้วยหรือ เล่นมาตั้งหลายร้อยเกมแล้ว เพิ่งจะเคยเห็น มันเหมือนเริ่มจากศูนย์เลยนี่หว่า เอาเลย อาชีพนี้แหละ น่าจะฮาสุด ฮ่า ฮ่า ฮ่า...... ” เด็กหนุ่มร้องบอกด้วยความตื่นเต้น พร้อมหัวเราะชอบใจราวกับคนบ้า
“ ต่อไปตั้งชื่อตัวละคร ” เสียงชายแก่ดังขึ้นมาอีก
“ อืม……เอาชื่ออะไรดีนะ ” เด็กหนุ่มนิ่งคิด
ชั่วพริบตาเด็กหนุ่มก็คิดได้ เขาจึงขนานนามออกมาด้วยความมั่นใจ
“ ไซเลนเดอร์ ก็แล้วกัน ”
“ มีคนใช้ชื่อนี้แล้ว ” เสียงชายแก่ตอบ
“ ว่ะ งั้นเอา เมททริก ” เด็กหนุ่มเสนอชื่อใหม่
“ มีคนใช้ชื่อนี้แล้ว ” เสียงชายแก่ตอบแบบเดิม
“ อีกแล้วหรือเนี่ย เอาชื่ออะไรดีนะ อืม..... ” เด็กหนุ่มเริ่มเครียด สีหน้าขมวดนิ่ว หัวสมองพยายามคิดชื่ออย่างจริงจัง ราวกับว่ามันคือข้อสอบปลายภาคที่แสนยาก
เด็กหนุ่มคิดขึ้นมานับสิบชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ซาลาเปา นัมร็อค ปาปี้ เง๊กเซียน หน้าหมี แต่ทุกคำตอบของชายแก่ก็คือ.......
“ มีคนใช้ชื่อนี้แล้ว ”
“ เฮ้ย พูดเป็นประโยคเดียวรึไง ตาแก่ งั้นชื่อมาวินล่ะ มีใครใช้อีกมั้ย ” เด็กหนุ่มเริ่มโวยวาย เขารู้สึกหัวเสีย
“ ชื่อนี้ไม่มีคนใช้ ถามซ้ำ เจ้าจะใช้ชื่อนี้จริงหรือไม่ ” เสียงชายแก่ตอบกลับ
“ อ้าว...... เฮ้ย ชื่อของชั้นมันห่วยจนไม่มีคนใช้เลยหรือฟะ เอาก็เอา ขืนไม่ใช้ชื่อนี้ สงสัยใช้เวลาคิดทั้งชาติแน่ ตกลงเอาเลย ลุง เอาชื่อนี้แหละ ” เด็กหนุ่มตัดสินใจใช้ชื่อ “มาวิน” เพราะอยากเล่นเกมนี้เต็มแก่แล้ว
“ ต่อไปอัพความสามารถเบื้องต้น ” เสียงโทนเดียวของชายแก่เริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ เอ้า อธิบายมาเลย มีค่าพลังอะไรบ้าง ตาแก่ ” เด็กหนุ่มสอบถาม
“ มีแต้มเบื้องต้นให้เติม 10 แต้ม มีค่าพลังให้เลือก 5 ชนิด นั่นก็คือ.....กำลัง ความเร็ว ทนทาน โชค และปัญญา ” เสียงชายแก่แจง
“ ค่าพลังแต่ละตัวมีผลยังไงบ้าง ว่ามาทีละตัวซิ ” เด็กหนุ่มสอบถามอย่างละเอียด
“ กำลัง เป็นค่าพลังที่เกี่ยวกับการโจมตีและการป้องกัน ” ชายแก่สาธยาย
“ อ้อ...... พวกหมัดหนักหรือสายป้องกันล่ะซิ ว่าต่อไป ” เด็กหนุ่มเร่งรัด
“ ความเร็ว เป็นค่าพลังที่เกี่ยวกับการหลบหลีก ความไวในการเคลื่อนที่ ” ชายแก่อธิบาย
“ รู้สึกว่าชั้นจะชอบสายนี้นะ เอ้า ว่าต่อไป ” เด็กหนุ่มอมยิ้มด้วยความชอบใจ เพราะที่ผ่านมาเขาชอบเล่นเกมที่ชิงชัยกันด้วยไหวพริบและความไว
“ ทนทาน เป็นค่าพลังที่เกี่ยวกับความอดทน ค่าพลังชีวิต พลังกาย ทำให้ตายยาก อึด หรือเหนื่อยช้าลง ” ชายแก่แจงต่อด้วยเสียงระดับเดียวดุจเดิม
“ ยี้...... ไอ้พวกสายถึก ไม่ชอบเอาซะเลย ต่อๆ ” เด็กหนุ่มเบ้หน้า ดูท่าทางเขาจะไม่ชอบอะไรที่ใช้กำลังเอามากๆ
“ โชค เป็นค่าพลังที่ทำให้ตัวละครหลบหลีกได้ดีขึ้น มีโอกาสสำเร็จในการเสี่ยงดวงมากขึ้น และสามารถโจมตีเข้าจุดตายได้บ่อยขึ้น ” ชายแก่อธิบายต่อ
“ โห..... ชั้นดวงดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องการหรอก ต่อไปเลย ลุง ” เด็กหนุ่มปฏิเสธอีกรอบ
“ ปัญญา ค่าพลังที่ใช้ในการประดิษฐ์เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ การวางแผนการรบและการใช้เวทมนตร์ ” ชายแก่ปริศนาแจงต่อ
“ ค่าพลังที่โคตรกาก ชั้นชอบลุยทำลายแบบตรงๆมากกว่า ไม่ชอบสร้างอะไร โอเค แท็งค์กิ้ว ลุง ต่อไปชั้นจะเริ่มอัพพลังของตัวเองแล้ว ” เด็กหนุ่มกล่าวขอบคุณ
มาวินนิ่งคิดอยู่อึดใจ จากนั้นก็ลงมืออัพค่าพลังของตนเอง มันเป็นการอัพที่ประหลาดแบบสุดๆ ถ้าให้เดา ก็คงไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน เพราะเขาดันอัพแต้มทั้งหมดไปที่พลังความเร็ว โดยปล่อยให้ค่าพลังที่เหลือเป็น 0
“ ฮ่าๆ ที่นี้ชั้นก็เร็วที่สุดในหมู่มือใหม่แล้ว ” เด็กหนุ่มแย้มยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะในบรรดาผู้เล่นเลเวลหนึ่ง คงไม่มีใครไวไปกว่าเขา
“ ขั้นตอนการสร้างตัวละครเสร็จสิ้น เตรียมเข้าสู่เกม ” เสียงชายแก่แถลง
“ มาเลย ” เด็กหนุ่มถูมือไปมา ในใจลุ้นระทึก
ทันใดนั้นเองกระจกบานใหญ่ก็ส่องแสงแวววาวออกมา มันเจิดจ้าไปทั่วทั้งห้อง เด็กหนุ่มถึงกลับผวากับความเปลี่ยนแปลงจนต้องยกมือขึ้นปิดตา พร้อมอุทานดัง
“ เฮ้ย แสงอะไรวะ ”
อึดใจต่อมาแสงนั้นก็เริ่มจางลงจนดับในที่สุด เด็กหนุ่มจึงลืมตาขึ้นมา ทันใดนั้นเองเขาพบว่ากระจกบานนั้นได้กลายสภาพเป็นคลื่นน้ำใสที่สั่นไหว ราวกับจะเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสมัน
“ อู้ ว้าว.......อย่างกับเรื่องสตาร์เกทแน่ะ ” เด็กหนุ่มร้องอุทานอีกครั้ง เขาดูตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏ มันคล้ายคลึงกับฉากหนังดังในอดีตอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“ เดินผ่านเข้าไปในคลื่นน้ำ เพื่อเข้าสู่โลก The Dark World ” เสียงชายแก่ออกคำสั่ง
“ ได้เลย รับประกันว่าชั้นจะไล่กระทืบมอนสเตอร์ทุกตัวให้เละคาเท้าไปเลย ฮ่าๆ ” มาวินหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เดินไปยังคลื่นน้ำที่ลอยอยู่เบื้องหน้า ทันทีร่างกายกระทบถูก เด็กหนุ่มก็ผลุบเข้าไปข้างใน เสมือนว่าเจ้าสิ่งนี้คือประตูต่างมิติที่จะส่งให้ผู้ที่ผ่านต้องเดินทางไปโลกอื่น
พอมาวินหายเข้าไปทั้งตัว คลื่นน้ำก็คืนสภาพกลับมาเป็นกระจกตามเดิม
ในเวลาต่อมาก็ปรากฏเสียงของชายแก่ดังขึ้นมาอีกครั้ง มันฟังดูสบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเจ้าของเสียงจะสะใจด้วยเรื่องอะไรนั้น ยังไม่รู้แน่ชัดในตอนนี้
“ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ The Dark World นะไอ้หนู ฮ่า ฮ่า ฮ่า……. ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ