The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.pinterest.com
……………………………………………….
ทันทีที่มาวินก้าวเข้าไปคลื่นน้ำ เด็กหนุ่มก็รู้สึกเย็นไปทั่วทั้งกาย คล้ายเดินผ่านสายน้ำที่เชี่ยวกราก เพียงแต่เขายังหายใจได้และไม่รู้สึกถึงความเปียกแฉะ ถึงกระนั้นดวงตาก็ยังปิดลงตามสัญชาตญาณ
พอพ้นคลื่นน้ำ สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือสายลมอ่อนๆที่ปะทะใบหน้า เด็กหนุ่มจึงค่อยๆลืมตาขึ้น ภาพที่ได้เห็นทำให้เขาร้องอุทานดังด้วยความตกใจ
“ อุ้….ว้าว นี่มันอะไรกันเนี่ย อลังการงานสร้างจริงๆ ”
ภาพนั้นก็คือภาพเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง ภายในประกอบไปด้วยบ้านเรือนจำนวนมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านชั้นเดียวทรงสี่เหลี่ยมหลังคาแหลม ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา พวกเขาล้วนแต่งตัวประหลาดและหลากหลาย มีทั้งแนวชาวบ้านในยุคกลาง บางคนก็ใส่กิมิโนแบบญี่ปุ่น บางคนก็แต่งชุดตัวตลก แต่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เด็กหนุ่มพบในโหมดสร้างตัวละคร
“ นี่เราอยู่ในเกมจริงๆน่ะหรือ ” มาวินพูดกับตัวเอง พลางเดินไปตามถนนหินที่ปูไว้โดยรอบ
มาวินเดินไปมา เพื่อสำรวจสภาพภายใน จึงพบว่าที่นี่มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจ หนวกหูวุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ทั่วๆไป นอกนั้นยังมีร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆนาๆ โรงแรม ร้านเหล้าให้บริการ ไม่ผิดอะไรจากโลกที่เขาอยู่อาศัย จะแตกต่างก็เพียงสไตค์การแต่งตัวของผู้คนและสภาพสิ่งปลูกสร้างที่ออกไปในแนวแฟนตาซี
หลังสำรวจเมืองอยู่พักใหญ่ สิ่งที่สังเกตเห็นก็คือ…..คนที่แต่งชุดแนวเดียวกับที่เจอในโหมดสร้างตัวละคร ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีอายุเฉลี่ยราวๆ 8-13 ปี นานๆจะเจอคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับมาวิน ที่สำคัญตรงข้อมือของเด็กเหล่านั้นจะมีนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าตาคล้าย G SHOCK หลากสีสันประดับอยู่ ทว่าเด็กหนุ่มก็จะไม่ใส่ใจในประเด็นนี้มากนัก
“ อืม….เดินเที่ยวเมืองมาตั้งนาน ชักอยากออกแรงแล้วซิ ออกไปตีมอนสเตอร์ดีกว่า ” เด็กหนุ่มบิดกายไปมา เพื่อคลายความเมื่อยขบ
มาวินเร่งฝีเท้าไปที่หน้าประตูเมือง เพื่อออกไปตีมอนสเตอร์ตามประสงค์ ไม่นานนักเขาก็เดินมาถึงจุดหมาย ประตูทางเข้าทำมาจากท่อนซุงขนาดสองคนโอบจำนวนหกท่อน มีเชือกใหญ่ผูกมัดให้รวมเป็นหนึ่งเดียว บริเวณหน้าประตูมีทหารใส่เกราะหนังสีดำยืนประจำการอยู่สองนาย ทั้งคู่ถือหอกยาว บนศีรษะสวมหมวกหนังทรงกลม ใบหน้าฉายแววจริงจัง
ทีแรกมาวินไม่ใส่ใจทหารทั้งสองนาย เพราะขณะที่ผู้คนเดินผ่านเข้าออก เหล่าทหารก็ได้แต่ยืนเฉย แต่ในทันทีที่เด็กหนุ่มกำลังจะก้าวพ้นประตูเมือง หนึ่งในสองทหารเฝ้าเมืองก็ตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
“ เฮ้ย ไอ้หนูหัวเขียว นายยังไม่ได้ลงทะเบียนนี่ นายต้องไปหา NPC ประจำอาชีพ เพื่อลงทะเบียนกับรับนาฬิกาประจำตัวซะก่อน ไม่งั้นห้ามออกนอกเมือง ”
“ เฮ้ ทีคนอื่นยังเข้าออกได้เลย แล้วทำไมชั้นถึงออกนอกเมืองไม่ได้ อีกอย่าง NPC มันคืออะไรฟะ ” เด็กหัวเขียวโวยกลับมั่ง เพราะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกทหารยามตะคอกใส่
“ ไม่ต้องพูดมาก ถ้าไม่ลงทะเบียนกับรับนาฬิกา ก็อย่าได้ก้าวออกนอกเมืองและถ้าคิดฝ่าฝืน แกต้องเจอดีแน่ ” ทหารเฝ้าประตูไม่พูดเปล่า มือทั้งสองเริ่มกระชับหอกคมวาวในท่าเตรียมแทง
“ ฮะๆ โอเค ไม่ออกก็ไม่ออก ” เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของทหารเฝ้าประตู เด็กหนุ่มก็ยกมือยอมแพ้ พลางถอยหลังกลับ
มาวินถอยฉากออกมา เนื่องจากหวั่นเกรงปลายหอกคมๆ พลาดพลั้งยังไง มีสิทธิทำให้เขาไส้ไหลได้โดยง่าย ขณะที่ยังหันซ้ายแลขวา เพราะไม่รู้จะไปทางไหน ก็มีเด็กหนุ่มรุ่นน้องคนหนึ่งตรงรี่เข้ามาหา
เด็กหนุ่มผู้นั้นอายุราวๆ 15 ปี ใบหน้าอวบอูม ดวงตาเล็กหยีถูกบดบังด้วยแว่นตาทรงกลมแนวเด็กเรียน ร่างเตี้ยอ้วนถูกซุกซ่อนในเสื้อคลุมยาวสีขาวอันเป็นสไตค์เดียวกันกับชุดสุดเห่ยที่มาวินพบเจอในโหมดสร้างตัวละคร
“ ไง พี่ชาย ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนผู้นั้นร้องทัก ใบหน้าแย้มยิ้ม
มาวินมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเคลือบแคลง เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คล้ายกับคนที่เคยรู้จัก หลังจากเค้นสมองนึกอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกออก
“ เฮ้ย นั่นมัน…..ไอ้ตุ้ยนุ้ยนี่หว่า (เป็นตัวละครที่ปรากฏตัวในตอนแรก) ”
“ ใครคือตุ้ยนุ้ยหรือครับ ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนเตี้ยเหลียวซ้ายแลขวา พร้อมตีหน้างง
“ ก็นายไงเล่า นี่คิดจะเล่นตลกอะไรฟะ ไอ้ตุ้ยนุ้ย ” มาวินเริ่มหัวเสีย เด็กหนุ่มหัวเขียวเข้าใจว่าตุ้ยนุ้ยแกล้งทำเป็นจำชื่อตัวเองไม่ได้ เพื่ออำให้เขาเสียศูนย์
“ พี่คงจำคนผิดแล้ว ผมชื่อ “เอเรียล” อีกอย่างเราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนแนะนำตัว นับว่าเป็นนามกรที่ดูหล่อเหลา ผิดกับลุคจริงของเจ้าตัวราวฟ้ากับดิน
“ หน็อย..... ไอ้อ้วน นี่แกกล้าอำชั้นถึงขนาดนี้เลยรึ นี่แน่ะ ” มาวินโกรธจนควันออกหู เขาจึงกระโดดเตะแก้มก้นของเด็กหนุ่มร่างอ้วนไปสองที
“ โอ๊ย..... เตะผมทำไมครับ ” เด็กร่างอ้วนเด้งก้นใหญ่ๆหนีฝ่าเท้า ปากก็ร้องตะโกนดังด้วยความเจ็บปวด
“ ก็นายแกล้งอำชั้นไม่เลิกนี่หว่า เลิกเล่นได้แล้วโว้ย ไอ้ตุ้ยนุ้ย ” มาวินคำรามและทำท่าจะตามไปเตะตูดอีกหลายที
“ เปล่าๆ ผมไม่ได้อำพี่ งั้นดูให้ดี นี่คือหลักฐานที่ยืนยันว่าผมชื่อเอเรียลจริงๆ ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนรีบแจง พร้อมกดปุ่มที่นาฬิกาข้อมือ
ทันใดนั้นเองแผงประวัติของเด็กหนุ่มร่างอ้วนก็ปรากฏขึ้นมาที่กลางอากาศ มันบังเกิดจากแสงโฮโลแกรมสามมิติสีฟ้าที่แสนไฮเทค ทำให้มาวินถึงกลับเอ๋อจนอ้าปากค้าง
" เออ......นะ.....นี่มัน "
เอเรียลมองคู่สนทนานิ่ง สีหน้าดูงุนงง คล้ายเห็นตัวประหลาดอยู่ตรงหน้า เนื่องจากทุกคนบนโลก The Dark WORLD ล้วนรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร เขาจึงย้อนถาม
" ถามจริงเถอะ พี่ไม่รู้จักเจ้าสิ่งนี้จริงๆน่ะหรือ "
ทันทีที่ได้ยินคำถาม มาวินก็ถึงกลับชะงักงัน ทว่าเขาก็ไม่ยอมเสียเหลี่ยมให้ผู้คนมองว่าโง่เง่าโดยง่าย จึงแสร้งทำเป็นรู้ พร้อมหัวเราะกลบเกลื่อน
" ฮะ ฮะ ฮะ ของแค่นี้ ใครจะไม่รู้จักเล่า "
" ฮะ ฮะ ฮะ นั่นน่ะสิ พี่คงเล่นมุกใส่ผม " เอเรียลหัวเราะมั่ง ในใจเริ่มเชื่อแล้วว่ามาวินคงแกล้งไม่รู้จักจริงๆ
แม้ในใจของมาวินจะสับสนงงงวยกับโฮโลแกรมที่ลอยอยู่กลางอากาศ แต่พอเริ่มสำรวจอย่างละเอียด ก็พบว่ามันคือประวัติโดยย่อและค่าพลังของคนๆหนึ่ง จึงรู้โดยสัญชาตญาณว่ามันน่าจะเป็นค่าพลังของเด็กหนุ่มร่างอ้วนเตี้ยที่อยู่ตรงหน้า รายละเอียดมีดังนี้
ชื่อ เอเรียล อัลฟาซี่ เพศ ชาย อาชีพ นักศึกษาชั้นต้น
LV 3
พลังชีวิต 24/25 กำลัง 2 โชค 1
พลังกาย 4/4 ความเร็ว 1 ปัญญา 9
พลังเวท 5/5 ทนทาน 3 ทักษะ 25
" นี่คือชื่อและค่าพลังของนาย ใช่มั้ย " มาวินถามย้ำอีกครั้ง เป็นเหตุให้เอเรียลถึงกลับมองแบบงงๆ เพราะคำถามดังกล่าวเป็นอะไรที่เอ๋อรับประทานแบบสุดๆ กระนั้นเขาก็ยอมตอบกลับ เพื่อรักษามารยาท
" อ่า....ใช่ครับ นี่คือค่าพลังของผม มันถูกบันทึกอยู่ในนาฬิกาประจำตัว "
“ เออ นายชื่อ เอเรียล จริงๆซะด้วย เหอๆ ขอโทษทีนะที่เตะนาย พอดีชั้นจำคนผิดน่ะ ” เด็กหนุ่มก้มหัวขอโทษ ในใจคิดว่าหมอนี่น่าจะชื่อ เอเรียล จริงๆ เพราะตุ้ยนุ้ยมันไม่มี ”แว่นวิเศษ” ดังนั้นไม่น่าเข้ามาในเกมนี้ได้
“ ฮะๆ ไม่เป็นไรครับ ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้เสมอ ” เอเรียลตอบกลับ พร้อมหัวเราะแหยๆ
แม้ประเด็นที่ถกเถียงเมื่อครู่จะจบลงไปแล้ว แต่มาวินก็ยังไม่วายแคลงใจในค่าพลัง เขาจึงออกปากวิจารณ์แบบตรงๆตามสไตค์ของคนที่มีสุนัขอยู่ในปาก
“ อืม….....เท่าที่ชั้นดูข้อมูลเมื่อกี้ ชั้นคิดว่าค่าพลังมันดูกากๆ ท่าทางนายจะโคตรอ่อนเลยนะเนี่ย ”
“ โธ่......พี่ ก็ผมเพิ่งมาลงทะเบียนที่เมืองนี้ได้อาทิตย์เดียวเอง ช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้แต่นั่งปรุงยา เพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ ยังไม่เคยออกไปสู้กับใครหรืออะไรเลย นี่กะว่าจะหาทีม จะได้ออกไปตีมอนสเตอร์ที่นอกเมือง เผื่อว่าค่าประสบการณ์จะขึ้นไวกว่านี้ ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนแจง พร้อมส่งสายตาวิงวอนมาที่เด็กหนุ่มหัวเขียว
มาวินอ่านความนัยที่ซ่อนอยู่ในสายตาออก แต่ก็จนด้วยเกล้าที่จะช่วยเหลือ เพราะยังออกนอกเมืองไม่ได้ เด็กหนุ่มจึงนิ่งไปถนัดตา หลังจากเงียบไปอึดใจ เอเรียลก็เสนอตัว
“ ว่าแต่พี่จะไปลงทะเบียนกับ NPC ประจำอาชีพหรือเปล่าครับ ผมจะบริการพาไปส่งถึงโซนเอง ”
“ เฮ้อ...... โอเค พาไปได้เลย ไอ้น้อง ” มาวินถอนหายใจแรงๆ ท่าทางเกมนี้มันจะยุ่งยากกว่าที่คิดซะแล้ว
ระหว่างที่เอเรียลทำหน้าที่มัคคุเทศก์ เขาก็เริ่มอธิบายกฎการใช้ชีวิตในโลก The Dark World สรุปได้ดังนี้
เมื่อประชากรมีอายุได้ 8 ปีขึ้นไป ทุกคนต้องเดินทางมาลงทะเบียนกับ NPC (ผู้คุ้มกฎ) ประจำอาชีพที่เมืองนี้ จึงจะถือว่าเป็นประชากรโดยสมบูรณ์ หลังลงทะเบียน จะได้รับนาฬิกาจิตวิญญาณ ซึ่งเมื่อสวมใส่ จะไม่มีวันหลุดจากข้อมือของตนเอง เว้นแต่เจ้าตัวจะถอดมันออกมา นาฬิกานั้นสามารถตรวจสอบระดับพลังด้านต่างๆ ชื่อ อายุ เพศและอาชีพของเจ้าของ วิธีการใช้งานก็แสนง่าย เพราะทั้งเรือนมีแค่สองปุ่มให้เลือกกด ปุ่มแดงใช้เปิดดูค่าพลัง ส่วนปุ่มดำใช้เปิดปิดระบบการทำงาน
เอเรียลพามาวินไปยังจุดลงทะเบียน ไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทาง สถานที่นั้นมีสภาพคล้ายสำนักวิทยายุทธ์ขนาดใหญ่ ทางขึ้นเป็นบันไดหินอ่อนที่ทอดยาวประมาณ 10 ขั้น ประตูสำนักทำจากเหล็กทาสีแดงซึ่งสูงประมาณ 5 เมตร บริเวณหน้าประตูใหญ่มีโต๊ะ เก้าอี้หยกตั้งอยู่
บุคคลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ราคาแพงนั้นก็คือชายร่างใหญ่ในชุดเสื้อเกราะแนวจีนโบราณ มีเด็กวัยรุ่นชายหญิงที่แต่งตัวคล้ายกับมาวินยืนเข้าคิวอยู่ยาวเหยียด เพื่อกรอกข้อมูลบนแผ่นกระดาษเล็กๆหน้าชายในชุดเกราะ หลังจากผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลเสร็จ คนๆนั้นจะได้รับนาฬิกาจิตวิญญาณ
“ โอเค ถึงแล้ว พี่ชายไปลงทะเบียนกับชายชุดเกราะคนนั้นเลย เขาคือ NPC ประจำอาชีพ ” เอเรียลชี้มือไปที่ชายชุดเกราะ
“ ขอบใจมาก พวก แล้วเจอกัน ” มาวินกล่าวขอบคุณ พลางโบกมือ เพื่อล่ำลา
“ เดี๋ยวก่อนครับ ผมรบกวนพี่ช่วยอะไรอย่างหนึ่ง จะได้มั้ย ” เอเรียลถูมือไปมา ท่าทางเกรงใจ
“ เอ้า ว่ามา ช่วยได้ก็จะช่วย เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของนาย ” เด็กหนุ่มตอบกลับ แต่ในใจพอรู้แล้วว่าเอเรียลจะขออะไรจากเขา
“ หลังลงทะเบียนเสร็จ ผมอยากจะขอร่วมทีมกับพี่ เพื่อบุกตีมอนสเตอร์ จะได้มั้ยครับ ” เอเรียลกัดฟันบอกพร้อมทำท่าลุ้นจนตัวโก่ง
“ อ้อ......เรื่องแค่นี้เอง ปัทโธ่ ก็เอาดิ เล่นคนเดียวเบื่อจะตาย มีเพื่อนร่วมทีม น่าจะสนุกกว่า ” มาวินตอบเรียบๆ ปากแย้มยิ้มให้เล็กน้อย
“ โอ้………” ทันใดนั้นเองเอเรียลก็เกิดอาการสติแตก ร่างอ้วนเตี้ยเริ่มสั่นเทิ้ม น้ำตาสีใสปริ่มมาที่ขอบตา
“ เฮ้ย นายเป็นอะไรไปอีกล่ะ ” มาวินถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่ตัวกลับเดินถอยหลังหนีออกมาเล็กน้อย เพราะนึกระแวงต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
ทันใดนั้นเองเด็กหนุ่มร่างอ้วนเตี้ยก็โถมเข้ามากระโดดกอดเต็มแรงจนแทบจะทำให้ทั้งคู่ต้องล้มลงไปนอน น้ำตาใสๆจากดวงตาเล็กหยีร่วงหล่นลงมาบนตัวของมาวินอย่างเนืองนอง พร้อมร้องโฮจนสุดเสียง
“ โฮ……ฮือ...... พะๆ ซู้ด.... พี่รู้มั้ย ผะ……ผมเดินหาเพื่อนร่วมทีมมะๆ ซิกๆ มาตั้งสามวันแล้ว ซิกๆ ก็มีพะ…..พี่นี่แหละที่รับผมเข้าทีม ” เอเรียลพูดไป ก็สะอึกสะอื้นไป ใบหน้าอวบอูมราวหมูน้อยเปรอะเปื้อนไปด้วยขี้มูกและคราบน้ำตาจนชวนเวทนาและน่าขยะแขยงในเวลาเดียวกัน
“ เอ่อ...... ดีใจด้วยนะ ไอ้น้อง อ่า…..ถามจริงเถอะ อาชีพของนาย มันกากถึงขนาดที่ไม่มีใครอยากร่วมทีมเลยหรือ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวพยายามผลักไสเด็กหนุ่มร่างอ้วนและถอยหลังหนี เพราะกลัวภัยจากคราบน้ำลายและขี้มูก ในใจเริ่มคิดแล้วว่าการรับปากร่วมทีมกับหมอนี่ อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
“ คะ…..ครับ ซิกๆ พี่ลองคิดนะ ผะ……ผมทำได้แค่ปรุงยา ซิกๆ สู้ก็ไม่เป็น ใช้อาวุธก็ไม่ได้ ซิกๆ ได้แต่ส่งยารักษาให้กับเพื่อน อึกๆ ละ……แล้วใครที่ไหน เขาจะอยากมาร่วมทีมกะ….ซิกๆ….ผมล่ะ ” เอเรียลชี้แจงซื่อๆ พร้อมส่งเสียงสะอื้นจนชวนสังเวช
“ โอเค เดี๋ยวเราร่วมทีมกันก็ได้ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวเกาหัวแกรกๆ ในใจคิดว่า……..เอาก็เอาวะ ร่วมทีมกับหมอนี่ก็ได้ ซักพักเราจะออกจากเกมนี้แล้ว ถือว่าเล่นขำๆก็แล้วกัน
“ ครับๆ ผมรอพี่ตรงนี้นะ ” เอเรียลยืนรอมาวิน ดวงตาเล็กหยีเปล่งประกายซึ้งใจ
“ เหอๆ แล้วเจอกัน ” มาวินหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็เดินไปต่อแถวที่ยาวเหยียด
“ เดี๋ยวครับ พี่ ” เอเรียลร้องทักอีกครั้ง
“ อืม........ ว่าไง ” มาวินหันกลับมาถาม
เอเรียลล้วงเข้าไปในอกเสื้อ เพื่อหยิบหลอดแก้วสีแดงจำนวนห้าขวดและหลอดแก้วสีน้ำเงินจำนวนสามขวดออกมา จากนั้นก็ส่งให้มาวิน
“ อะไรเนี่ย เจ้าอ้วน ” มาวินถามงงๆ
“ หลอดสีแดงคือยารักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนหลอดสีน้ำเงินคือยาฟื้นฟูร่างกาย ผมเป็นคนปรุงยาพวกนี้เอง พี่เก็บไว้ใช้เถอะครับ ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนเตี้ยส่งขวดยาให้ พร้อมรอยยิ้ม
“ เออ ขอบใจมาก ไอ้น้อง ” มาวินรับมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงแบบงงๆ หลังจากนั้นก็เดินไปต่อแถว เพื่อลงทะเบียนกับ NPC
……………………………………………….
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง มาวินเดินกลับมาหาเอเรียล สีหน้าดูมุ่ยๆ ท่าทางบ่งบอกอาการเซ็งออกมาอย่างชัดเจน เด็กหนุ่มร่างอ้วนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ เอ่อ.......มีปัญหาอะไรรึเปล่า พี่ชาย ”
“ อืม.....มีดิ มีเยอะเลย ไอ้ยักษ์ใส่ชุดเกราะบอกว่ามันเป็น NPC อาชีพนักสู้ ชั้นไม่ได้อยู่ในอาชีพนี้ จึงไม่สามารถลงทะเบียนได้ ” มาวินแจงดุๆ ท่าทางหงุดหงิด
“ อ้าว.......ไม่ได้เป็นนักสู้หรอกรึ หน่วยก้านของพี่ดูเหมาะกับอาชีพนี้มาก อย่าบอกนะว่าเป็นชาวบ้าน มันไม่เหมาะเลย แต่ถ้าเป็นอาชีพนักศึกษา พี่ก็น่าจะถนัดเวทมนตร์สายโจมตี ว้า......แย่จัง ผมดันลืมเอายาฟื้นพลังเวทมาซะด้วย บลาๆ……. ” เอเรียลพล่ามพรรณนาไปเรื่อย แน่นอนว่ามาวินไม่เข้าใจในสิ่งที่พูดเลยซักนิด เพราะตอนที่อยู่บนโลก เขาแทบไม่เคยเล่นเกมแนวเก็บเลเวล
“ ว่าแต่พี่ทำอาชีพอะไร ผมจะได้พาไปลงทะเบียนให้ถูกจุด ” หลังจากเอเรียลเริ่มเบื่อกับการคาดเดา เขาก็เอ่ยถามตรงๆ
“ ชั้นคือพวกไร้อาชีพ ” มาวินตอบในทันที
“ หา……. อาชีพอะไรนะ ” เอเรียลทำตาปริบๆ สองมือยกขึ้นแคะขี้หู จากนั้นก็ถามซ้ำอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาดูตั้งใจฟังคำตอบของมาวินมากขึ้น
“ ชั้นคือ.......พวกไร้อาชีพ ” มาวินตอบซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง
เอเรียลยิ้มแฉ่งรับคำตอบ วินาทีต่อมาเด็กหนุ่มร่างอ้วนก็ก้มหัวคารวะและเงยหน้าขึ้นพูดเบาๆแค่พอได้ยินกันสองคน
“ สวัสดีครับ ผมขอลาก่อนนะ โชคดีเราคงได้พบกันใหม่ ”
“ อ้าว....... เฮ้ย นายช่วยนำทางไปหา NPC ประจำอาชีพก่อนดิ ” มาวินร้องทัก แต่ก็ไม่ทันแล้ว เด็กหนุ่มร่างอ้วนเตี้ยรีบจ้ำหายเข้าไปในกลุ่มคนโดยเร็ว
“ แล้วชั้นจะหา NPC เจอมั้ยเนี่ย เฮ้อ...... เดินหาเองก็ได้ฟะ ” มาวินเกาหัวแกรกๆ เด็กหนุ่มรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ที่จู่ๆเอเรียลเผ่นหนีไป ในทันทีที่บอกว่าเขาคือ…….พวกไร้อาชีพ
………………………..
มาวินตามหาจุดลงทะเบียนด้วยตัวเอง โดยอาศัยป้ายบอกทางที่ปักไว้เป็นระยะ เขาเดินผ่านจุดลงทะเบียนของอาชีพนักศึกษา ซึ่งเป็นตึกทรงยุโรปสูง 5 ชั้นที่สร้างด้วยอิฐแดง บริเวณนั้นมีแต่เด็กวัยรุ่นร่างเล็ก ท่าทางก๋องแก๋ง อมโรคหรือไม่ก็อ้วนตึ้บ หน้าตาก็เนิร์ดจ๋าแนว “เอเรียล” เกือบทุกคน พวกเขาสวมชุดคลุมยาวและเดินสวนไปมารอบตัวตึก บางส่วนก็มานั่งสุมหัวกันอ่านตำราเรียนตามมุมต่างๆ
NPC ประจำอาชีพคือหญิงชราร่างเล็กที่สวมชุดคลุมสีดำ หมวกปีกแหลมดูคล้ายแม่มด และขณะนี้ หญิงสูงวัยนางนั้นก็ได้ยืนอยู่บนเวทีหน้าตึก เพื่อทำการอบรมเหล่าสมาชิกใหม่
“ โห...... ท่าทางเคร่งเครียด ไม่ไหว เฮ้อ…… ” เพียงแค่มองกลุ่มคนเหล่านั้น เด็กหนุ่มก็รู้สึกละเหี่ยใจแล้ว
มาวินเดินเลยจุดลงทะเบียนนั้นไป เขาพยายามมองหาป้ายบอกทางจนคลำไปเจอจุดลงทะเบียนอาชีพชาวบ้าน ซึ่งเป็นเรือนไทยหลังใหญ่ กะคร่าวๆน่าจะมีขนาดไม่ต่ำกว่าศาลาวัด 6 หลังรวมกัน
NPC ประจำอาชีพนี้เป็นชายวัยกลางคนร่างท้วม บนศีรษะไว้ผมทรงมหาดไทย หนวดดกและโง้งสูงราวกับเขี้ยว ในตอนนี้ NPC กำลังนอนไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์อยู่บนแคร่ซึ่งตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน รอบๆมีวัยรุ่นหลายสิบคนนั่งเล่นอยู่ ทุกคนดูมีท่าทีสบายใจ พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายปราศรัย เล่นหัวกันอย่างสนุกสนาน
“ ท่าทางน่าสนุกอ่ะ รู้งี้เลือกอาชีพนี้ดีกว่า ฮะๆ ” มาวินมองแล้วนึกเสียดายเป็นที่สุด จากนั้นก็ตัดใจและรีบจ้ำออกจากโซนดังกล่าว เพื่อตามหา NPC ประจำอาชีพ เนื่องจากเขาอยากออกนอกเมืองไปบู๊กับมอนสเตอร์จนใจจะขาดอยู่แล้ว
มาวินเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนเกือบจะสุดโซน เขาก็มาถึงทุ่งหญ้าโล่งๆขนาดเกือบเท่าสนามฟุตบอล ลานกว้างมีหมู่ไม้ใหญ่น้อยรายล้อม กลางลานปรากฏกระท่อมเก่าๆตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
กระท่อมนั้นดูน่าอนาถใจและบอบบางเป็นที่สุด พิจารณาจากสภาพของมัน คาดว่าแค่ลมพัดมาแรงๆซักทีสองที ก็น่าจะพังพินาศในบัดดล
“ กระท่อมบ้าอะไร ที่เก็บของเก่าล่ะมั้ง ว่าแต่แถวนี้มันดูโล่งโจ้งยังไงชอบกล ไม่มีใครอยู่เลยหรือฟะ ” มาวินเหลียวมองไปรอบๆ ในใจนึกสงสัย
มาวินเดินไปที่กระท่อม พอมาถึง ก็บังเอิญเหยียบโดนป้ายไม้เก่าๆที่ตกอยู่บนพื้น เด็กหนุ่มจึงหยิบมันขึ้นมา แล้วปักลงบนดิน เพราะอยากจะออกแรงทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้หายเซ็ง เขาคิดว่า.....ถ้าอีกครึ่งชั่วโมง ยังหา NPC ประจำอาชีพไม่เจอ ก็จะออกจากเกมอย่างแน่นอน
ระหว่างที่มาวินกำลังจะเดินจากไป ก็เหลือบไปเห็นข้อความบนป้ายเก่าๆที่เพิ่งปัก สิ่งที่ปรากฏทำให้เขาตื่นตกใจจนดวงตาเบิกโพลง เพราะป้ายนั้นมีข้อความสีดำจางๆสลักอยู่ อันอ่านได้ว่า.............
“ จุดลงทะเบียนของพวกไร้อาชีพ "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ