The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
165.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
75) ฝ่าดงคมเขี้ยว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.artstation.com
เสียงการเคลื่อนไหวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เด็กหนุ่มหัวเขียวรู้สึกวิตกจริตจนรีบเอ่ยถามโจจี้ด้วยอาการร้อนรน
“ เฮ้ จะทำไงดี มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ”
“ เดี๋ยว....ใจเย็นก่อน ใกล้รู้แล้วว่ามันคือตัวอะไร ” โจจี้ตอบรัวเร็ว
สิ้นคำกล่าว ตัวประหลาดที่ก่อให้เกิดเสียงแปลกๆก็เข้ามาในระยะ 10 ก้าว เผยให้เห็นว่ามันคือ……ฝูงค้างคาวหลายสิบตัว ขนาดของพวกมันใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อย และนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่โจจี้ให้คำตอบ
“ รู้แล้ว มอนสเตอร์ที่รอนายอยู่ก็คือ…..ค้างคาวดูดเลือด ”
“ เออ ขอบใจนะ ช่วยได้เยอะเลย ” มาวินประชดประชัน ในใจแอบบ่น....ทำไมไม่บอกซะพรุ่งนี้เลยล่ะ
ก่อนที่ฝูงค้างคาวจะเข้าถึงตัว มาวินถือคติใส่ก่อนได้เปรียบ เขาเปิดฉากจู่โจมตี ปากก็กู่ก้องร้องตะโกน
“ ย้าก...... ลุยล่ะนะ ”
ท่วงท่าที่พุ่งใส่ฝูงค้างคาวดูห้าวหาญและดุดันราวกับนักรบกระหายสงคราม และก็ได้ผล กำปั้นลุ่นๆปะทะค้างคาวตัวหนึ่งที่บินสวนเข้ามาจนมันกระเด็นไกล ก่อนจะชนผนังถ้ำและร่วงหล่นลงมาสิ้นใจตาย
“ ฮ่าๆ เป็นไงเล่า ” มาวินหัวเราะชอบใจ แต่ไม่ทันจะพูดประโยคต่อไป ฝูงค้างคาวที่เหลือก็กรูกันเข้ารุมกัด
“ โอ๊ย..... โอ้ว.... เยอะจริงโว้ย ” มาวินฟาดฝ่ามือไปรอบๆ เพื่อหยุดยั้งการรุมกัดของฝูงสัตว์ แต่ด้วยจำนวนที่มากมาย ทำให้หลุดพ้นจากพวกมันไม่ได้
เด็กหนุ่มหัวเขียวทำได้แค่สู้พลางถอยพลาง ปากก็ร้องโอดโอยไปตามประสา เขาทนเจ็บปวดได้ไม่นาน ก็วิ่งหนีออกจากถ้ำมืดไปซะอย่างงั้น
“ โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว หนีดีกว่า ”
แม้ฝูงค้างคาวจะบินเร็วพอสมควร แต่ก็ไม่ไวไปกว่ามาวิน ทำให้หนีพ้นได้ไม่ยาก เมื่อวิ่งมาถึงปากทางเข้า เหล่าสัตว์ป่าก็หยุดล่าอย่างฉับพลัน คล้ายว่าอาณาเขตของพวกมันถูกกำหนดให้อยู่ภายในถ้ำเท่านั้น
“ อ้าว เฮ้ย.....ไหงมันไม่ตามออกมาฟะ ” มาวินยืนเอ๋อ ปากก็สบถไปตามเรื่องตามราว
ฝูงค้างคาวนับสิบบินวนไปมาอยู่ประมาณสองสามรอบ พวกมันก็กลับเข้าไปในถ้ำ ทำเอามาวินยืนงงกับพฤติกรรม
“ เอ๊ะ พวกมันจะเอายังไงกันแน่ฟะ เมื่อกี้รุมกัดซะเกือบตาย แต่พอเผ่นออกนอกถ้ำ กลับปล่อยให้เราลอยนวล ” มาวินเหลือบแลไปทั่วร่างกาย ก็พบว่ามีรอยขีดข่วนอยู่หลายจุด แถมชุดกังฟูที่สวมใส่ก็ขาดวิ่นเล็กน้อย
“ โห.....แผลอย่างกะถูกลูกแมวรุมข่วน ไม่ไหวแฮะ ขืนวิ่งฝ่าไปดื้อๆ มีหวังน่วมแน่ จะทำยังไงดีนะ ” มาวินบ่นพึมพำเบาๆ ระหว่างขบคิดอยู่นั้นเอง เสียงของเหมยลี่ก็ดังออกมาจากนาฬิกาข้อมือ
“ เจ้าลิงหัวเขียว นายมัวทำอะไร ทำไมไม่ฝ่าพวกมันออกไป ”
“ ยัยโย่งกินหญ้าเอย จะฝ่าไปอีกท่าไหนเล่า พวกมันมีเยอะซะขนาดนั้น ขืนทำตามที่เธอบอก ชั้นมิกลายเป็นเศษเนื้อรึไงฟะ ” มาวินเถียงกลับอย่างดุเดือด เพราะตัวเขาเองก็หัวเสียอยู่ก่อนแล้ว
ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ถ้าตั้งใจฟังให้ดี จะได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าออกเบาๆ คล้ายคนที่พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง พอเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กสาวร่างสูงก็กล่าวอย่างใจเย็น
“ ทำอย่างกับว่านายไม่เคยต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากมาก่อน ”
ด้วยความที่มาวินเป็นคนหัวไว จึงเข้าใจทันทีว่าเหมยลี่พยายามสื่อถึงอะไร เมื่อคิดได้ดังนั้น เด็กหนุ่มเลยยิ้มออกมา พร้อมนึกยินดีอยู่ในใจ
“ ดีล่ะ เรายังมีกระบวนท่านี้อยู่นี่หว่า ”
เมื่อทุกอย่างลงตัว มาวินก็ก้าวเข้าสู่ถ้ำมืดอีกครั้ง ท่าทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจสุดขีด แต่ลึกๆ เขาแอบคาดหวังว่า…..จะไม่ต้องเจอตัวอะไรที่มันโหดกว่าค้างคาวกระหายเลือดฝูงนี้
มาวินเดินฝ่าความมืดมิดอย่างช้าๆ รอบตัวมีเพียงเเสงสีฟ้าอ่อนที่แผ่ออกมาจากนาฬิกาข้อมือ ทว่าแววตากลับดูมุ่งมั่น เมื่อเข้ามาได้พักหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงกระพือปีกที่คุ้นเคย
“ พรึ้บ....... ”
มาวินไม่มีท่าทีวิตกกังวลหรือตื่นกลัว ตรงกันข้าม กลับหัวเราะลั่น
“ ฮ่าๆ เข้ามาเลย ”
เมื่อหัวเราะจบ มาวินก็ย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อเตรียมตั้งรับการจู่โจมของสัตว์ป่ากระหายเลือด เวลาต่อมา สายตาของเด็กหนุ่มก็เหลือบไปเห็นค้างคาวดำนับสิบที่บินเข้ามา ปากของพวกมันอ้ากว้าง โชว์คมเขี้ยวที่แวววาวสะท้อนแสงไฟ
มาวินรออย่างใจเย็น มือขวาและมือซ้ายง้างไปข้างหลัง สองขาย่อลงต่ำ เพื่อสร้างสมดุลของร่างกาย สมาธิเพ่งไปยังฝูงค้างคาวที่บินเข้ามา เมื่อพวกมันเข้าถึงระยะหนึ่งก้าว เด็กหนุ่มก็แผดเสียงตะโกน
“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
สิ้นเสียงตะโกน กรงเล็บนับสิบของมาวินก็พุ่งเข้าใส่ฝูงค้างคาว สองฝ่ามือที่รัวเป็นปืนกลเข้าเป้าทุกดอก ก่อให้เกิดเสียงปะทะอย่างต่อเนื่อง
“ ปึก ปึก ปึก....... ”
ทุกครั้งที่ฝ่ามือแหลมคมกระทบสัตว์ป่า ก็มีอันต้องกระเด็นทุกครั้งไป แม้บางตัวจะโดนแค่เฉี่ยวๆ ก็ร่วงลงไปนอนตาย แต่ฝูงค้างคาวที่กรูเข้ามา น่าจะมีจำนวนมากกว่าที่คิด พวกมันจึงหนุนโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่าเด็กหนุ่มเองก็กำลังเลือดขึ้นหน้า เลยปลดปล่อยกระบวนแบบไม่หยุดยั้ง
“ ย่า ย่า ย่า......"
" ปึก ปึก ปึก........ ”
เด็กหนุ่มปล่อยกระบวนท่าพยุหะกรงเล็บแมวป่า พร้อมลุยฝ่าอย่างปราศจากความกลัวเกรง ไปได้พักใหญ่ พละกำลังก็แทบหมดสิ้น ถ้าคำนวณไม่ผิด เขาน่าจะล้มพับลงไปนอนในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
ช่วงที่มาวินใกล้จะสิ้นกำลัง อนุสติสุดท้ายก็พลันปรากฏภาพของเด็กสาวหน้าเข้มนางหนึ่ง สิ่งนั้นทำให้เขาเกิดแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง
“ เราต้องกลับบ้าน เพื่อไปพบ……จัน ”
มาวินร้องตะโกนออกมา เขาทุ่มกำลังที่เหลือทั้งหมด เพื่อปลดปล่อยกระบวนท่าเด็ด
“ ซุปเปอร์พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
พายุกรงเล็บที่พุ่งออกมา ดูเหมือนว่าจะเร็วและแรงกว่าเดิม ก่อให้เกิดเสียงแหวกอากาศ ส่วนสองเท้าก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนเกือบจะกลายเป็นการวิ่ง
“ ย่า ย่า ย่า....... ”
เด็กหนุ่มโจมตี พร้อมฝ่าไปข้างหน้าได้ไม่กี่อึดใจ เขาก็เริ่มหมดกำลังอีกครั้ง คราวนี้น่าจะสิ้นเรี่ยวแรงอย่างจริงจัง และในที่สุด…..
“ โอ๊ย......ไม่ไหว ถึงขีดจำกัดของเราแล้ว ” เด็กหนุ่มนึกท้อใจ พร้อมทิ้งตัวลงไปนอน
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ