The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
74) อะไรอยู่ในความมืด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://stock.adobe.com
มาวินจดๆจ้องๆอยู่ที่หน้าปากถ้ำ ปากก็เอ่ยถามโจจี้ด้วยเสียงที่สั่นเทา เพราะความหวาดกลัว
“ ถามจริงเถอะ นายแน่ใจนะว่าด่านต่อไปคือ.....ถ้ำมืดแห่งนี้ ”
“ แล้วชั้นจะหลอกนายทำไมเล่า เข้าไปซักทีเถอะน่า มัวแต่ยึกยักอยู่นั่นแหละ ” เสียงโจจี้ฟังดูขุ่นๆ บ่งบอกถึงความรำคาญอย่างชัดเจน
“ แฮะๆ ก็อยากเข้าไปอยู่หรอกนะ ติดตรงที่ว่า…..” มาวินหัวเราะแห้งๆ
“ อะไร ” โจจี้ถามห้วนๆด้วยเสียงที่ดังจนเกือบตวาด ทำให้มาวินเผยถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจ
“ ชั้นกลัว ผอ สระ อี น่ะ ”
ปลายสายเงียบอยู่นานหลายอึดใจ คาดว่าโจจี้กำลังปรับตัวเองให้เข้ากับคำพูดแปลกๆของเด็กหนุ่ม แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ทำไม่สำเร็จ เลยถามกลับ
“ นายหมายถึงอะไรฟะ ”
คราวนี้เป็นฝ่ายมาวินที่อึ้งบ้าง ถ้าทำได้ เขาไม่อยากกล่าวถึงมวลสารที่ไร้ตัวตนแบบตรงๆ จึงสรรหาคำอื่นมาใช้แทน
“ งั้นสุกี้น้ำล่ะ นายรู้จักมั้ย ”
“ ไม่รู้จัก ” โจจี้ตอบกลับแบบงงๆ
“ แล้วถ้าเป็น....อดีตของผู้ที่เคยมีตัวตนล่ะ รู้จักมั้ย ” มาวินถามอีก
“ ไม่รู้จัก ” โจจี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าเดิม
“ งั้น เศษซากจากเงามรณะล่ะ รู้รึยังว่ามันคืออะไร ” มาวินถามต่อ ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มสนุกกับการใบ้คำปริศนาจนหลงลืมความกลัวไปชั่วขณะ
“ ไม่รู้โว้ย...... เฉลยมาซักทีเถอะน่า ตกลง นายกลัวห่ากลัวเหวอะไรกันแน่ฟะ ” คราวนี้อารมณ์ของโจจี้พุ่งทะลุปรอท เขาตะเบ็งเสียงใส่จนลืมหล่อ
“ อะจึ้ย ” มาวินตกใจจนหงายหลังลงไปนั่งกับพื้น เพราะเสียงของโจจี้นั้นดังจนแทบจะวิ่งทะลุแก้วหู
“ โอเค บอกก็ได้ แต่ชั้นจะบอกแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ตั้งใจฟังให้ดีล่ะ ” มาวินพยักหน้าหงึกๆ ก่อนกลั้นใจบอกความจริง เพราะในยามนี้ โจจี้ดูน่ากลัวกว่าสิ่งที่เขาสะพรึงซะอีก
“ เอ้า ว่ามา ชั้นฟังอยู่ ” โจจี้ตอบกลับเบาๆ แต่หางเสียงยังคงความเคืองอยู่เล็กน้อย
“ เอ่อ.....ชะ.....ชั้นกลัวผี ” มาวินอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบตะกุกตะกัก
บรรยากาศเงียบสงบอยู่พักใหญ่ คล้ายว่าทุกสรรพสิ่งจะแปรเปลี่ยนไปเป็นหินผา แต่ในเวลาต่อมา โจจี้ก็เริ่มโวยวาย
“ หา......นายจะบอกว่าที่ไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวผีหรอกเหรอ เจ้าบ้าเอย หลงฟังมาตั้งนาน ”
“ ปัดโธ่ นายไม่รู้อะไร ชั้นน่ะเซนซิทิฟกับเรื่องพวกนี้มากนะ ” มาวินเถียง
“ อะไรคือ…เซนซิทิฟ ” โจจี้งุนงงอีกครั้ง
“ อะ เอ่อ แปลว่า….อ่อนไหวมั้งนะ ” มาวินดูลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าคนบนโลกนี้จะเข้าใจคำพูดของตนมั้ย แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะออกทะเลไปมากกว่านี้ เหมยลี่ก็แทรกขึ้นมาว่า......
“ คงต้องเลือกแล้ว…..จะยอมเจอผีหรือยอมตายในดันเจี้ยน เพราะอีกไม่นาน เจ้าวัวสามตัวจะฟื้นขึ้นมา แล้วตามล่านาย ทางรอดมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือฝ่าถ้ำมืดแห่งนี้ ”
เสียงของเด็กสาวร่างสูงดูจริงจังและเด็ดขาด อันบ่งบอกว่า……เธอไม่ได้พูดเล่นแน่ ทำให้เด็กหนุ่มขนหัวลุก สุดท้าย เขาก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
“ เอาก็เอาฟะ เจอผีหลอก ก็ยังดีกว่าตายกลายเป็นผี ” มาวินปลุกปลอบตัวเองด้วยการตะโกน จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ถ้ำกว้างที่แสนมืด
มาวินเข้าไปในถ้ำได้เพียงนาทีเดียว สภาพรอบตัวก็เข้าสู่สภาวะมืดมิดทันที ทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวในระยะสองก้าวแบบรำไร
ภายในถ้ำดูเงียบสงบและวังเวง มีเพียงลมเย็นที่พุ่งกระทบใบหน้า ทำให้ขวัญของเด็กหนุ่มลอยไปไกล เพราะหวาดกลัวอดีตมนุษย์จนจับใจ เขาเลยยกนาฬิกาข้อมือขึ้นสูงในระดับปาก เพื่อคุยกับโจจี้ จะได้บรรเทาอาการปอดลอย
“ เฮ้ พี่ชายผมทอง นายยังอยู่ในสายรึเปล่าฟะ ”
“ เออ อยู่ มีอะไรว่ามา ” โจจี้ตอบกลับทันที
“ เอ่อ..... ไม่มีอะไร แค่เช็คเสียงดู พวกนายยังเห็นชั้นอยู่ในจอภาพ ใช่มั้ย ” มาวินรีบถามกลับ การมีเพื่อนคุยในยามนี้ ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอบอุ่นใจอย่างมากมาย
“ ใช่ พวกเรากำลังนั่งดูอยู่และเริ่มสงสัยว่านายมองเห็นในความมืดได้ยังไง มีไฟฉายติดตัวไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เปิดมันขึ้นมาฟะ เจ้างั่ง ” โจจี้ตอบกลับ น้ำเสียงดูขุ่นมัวและงุนงง
“ เอ๊ะ ชั้นมีไฟฉายมาด้วยเหรอ ไม่มีนี่ ” มาวินล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งซ้ายและขวา ท่าทางเลิ่กลั่ก ในหัวสมองพยายามนึกทบทวนว่าตนเองพกไฟฉายมาตอนไหน
“ ปัทโธ่ ไฟฉายก็อยู่บนนาฬิกาข้อมือไง เจ้าเซ่อ นายนี่มันบ้านนอกจริงๆ ” โจจี้โวยมาตามสาย
“ ก็ชั้นเพิ่งเข้ามาในโลกของพวกนายแค่สามสี่เดือนเอง แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรคืออะไร ” มาวินเริ่มยั้วขึ้นมามั่ง เขาเลยเถียงกลับอย่างดุเดือด
“ เอ๋ เมื่อกี้ว่าไงนะ นายพูดอย่างกับว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้มาตั้งแต่เกิด งงแฮะ ” โจจี้เอ่ยถาม น้ำเสียงดูสับสน
“ เอ่อ.... หมายถึงชั้นเพิ่งมาจากบ้านนอกที่กันดารเอามากๆน่ะ เลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ถึงจะเปิดไฟฉายบนนาฬิกาได้ นายช่วยแนะนำหน่อยดิ ” มาวินกล่าวตะกุกตะกัก ซึ่งเป็นข้อแก้ตัวที่ดูไม่เนียนนัก
“ อ่อ นายเห็นปุ่มรูปไฟฉายใต้หน้าจอของนาฬิกามั้ย นั่นแหละ กดเลย ” โจจี้เลิกสนใจประเด็นเก่า แล้วหันมาบอกวิธีเปิดไฟฉาย
“ อืม..... เจอแล้ว ” มาวินรีบกดปุ่มดังกล่าว
ทันทีที่มาวินกดปุ่ม ก็ปรากฏแสงสีฟ้าอ่อนๆสาดออกจากตัวนาฬิกา มันมีกำลังมากจะก่อให้เกิดความสว่างในระยะ 10 ก้าว
“ โว้..... อย่างกับตะเกียงเจ้าพายุเลย ไม่สิแรงกว่านั้น น่าจะเหนือกว่าหลอดประหยัดไฟเสียด้วยซ้ำ ทีนี้ก็สบายแล้ว ” มาวินโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี
“ เอ๊ะ เดี๋ยว อะไรคือตะเกียงเจ้าพายุ แถมหลอดประหยัดไฟนั่นอีก มันคืออะไรกัน ” โจจี้พยายามไถ่ถาม
หลังได้ยินคำถามนั้น มาวินก็ชะงักไปอึดใจ เพราะดันเผลอพลั้งปากออกมา เด็กหนุ่มเซ็งในความเซ่อของตัวเอง เขาจึงจำต้องเถ
“ เอ่อ มันคือของใช้โบราณแถวบ้านชั้นน่ะ ”
“ อ้อ อย่างนี้นี่เอง ” โจจี้ตอบกลับเบาๆ ทำให้มาวินจินตนาการได้เลยว่าหนุ่มหล่อต้องพยักหน้าหงึกๆอย่างแน่นอน แต่สุดท้าย เด็กหนุ่มก็สลัดความคิดเลอะเทอะ แล้วไถ่ถามอย่างจริงจัง
“ เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่นายพอจะบอกชั้นได้มั้ย....ทำยังไงถึงจะผ่านถ้ำมืดแห่งนี้ ”
“ อ้อ นี่คือดันเจี้ยนระดับต้น เส้นทางไม่ซับซ้อนหรอก นายก็แค่เดินฝ่าเข้าไปตรงๆ ทว่า…..” โจจี้ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ทำให้กลายเป็นปริศนาที่ชวนสงสัย
“ แต่ว่า….มันต้องมีตัวอะไรซักอย่างรอชั้นอยู่ ใช่มั้ย ” มาวินตอบกลับแบบรู้ทัน น้ำเสียงดูเหนื่อยหน่าย
“ ถูกต้องแล้ว ” โจจี้ยืนยันคำตอบ
“ แล้วสิ่งที่ชั้นจะเจอในอนาคต มันคือตัวอะไร มีจำนวนเท่าไหร่ ” มาวินลองเช็คกำลังพลของคู่ต่อสู้
“ อืม.... เดี๋ยวนะ ขอค้นข้อมูลก่อน ” โจจี้กล่าว หลังจากนั้นก็เงียบไปนานหลายอึดใจ
ระหว่างที่เด็กหนุ่มรอคำตอบ โสตประสาทก็แว่วเสียงกระพือปีก ที่สำคัญเสียงนั้นกำลังใกล้เข้ามา ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแตกตื่นและงุนงง คำถามเดียวที่อยู่ในหัวก็คือ…..
“ อะไรอยู่ในความมืดฟะ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ