The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
62) งานพิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.wallpaperflare.com
เหมยลี่ไม่ตอบทันที เธอตีหน้านิ่งแบบคนไร้อารมณ์ จากนั้นก็กดปุ่มบนนาฬิกาข้อมือ ภาพโฮโลแกรมที่ลอยอยู่กลางอากาศก็แปรเปลี่ยนเป็นข้อความใหม่ รายละเอียดมีดังนี้
งานพิเศษ
ตามหาไอ้ด่างเกยคลอง(จระเข้) ผู้จ้าง คุณหยอง ลูกเกด ค่าจ้าง 15 เหรียญทอง
ตามหาไอ้หวาด(แมว) ผู้จ้าง คุณนายจิ้มลิ้ม ค่าจ้าง 8 เหรียญทอง
คุ้มครองนายมอริส คิง เป็นเวลา 3 วัน ผู้จ้าง คุณนายหว่า คิง ค่าจ้าง 18 เหรียญทอง
“ โห...... แต่ละงาน ดูเขี้ยวๆทั้งนั้นเลย ” มาวินร้องเหวอ
“ ใช่ ค่อนข้างยากเอามากๆ ลองคิดดูแล้วกัน การเที่ยวตามหาแมวกับจระเข้ในเมืองใหญ่แบบนี้ มันจะรากเลือดขนาดไหน อีกประการ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้า….มาริส คิง มีอันตรายจากอะไร เป็นคนแบบไหน สุดท้ายถ้าเผลอรับงาน โดยไม่ไตร่ตรอง อาจหลงไปปกป้องคนผิดโดยไม่รู้ตัว” เหมยลี่ร่ายยาว
เมื่อมาวินได้ฟังคำอธิบาย ความเครียดก็พุ่งทะยานจนคิ้วผูกโบ ปากก็เอ่ยถามเด็กสาวร่างสูงด้วยท่าทางที่ดูเซ็งๆ
“ แล้วตกลง พวกเราจะทำงานอะไร ”
เด็กสาวยิ้มนิดๆ สีหน้าคล้ายคนที่กุมสิ่งสำคัญไว้ในมือ เธอกดปุ่มบนนาฬิกาเรือนทองอีกครั้ง ข้อความที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เริ่มแปรเปลี่ยน คราวนี้ปรากฏแค่บรรทัดเดียว อ่านจับใจความได้ว่า……
งานพิเศษเฉพาะผู้ลงทะเบียนฮันเตอร์
จับเป็นหรือจับตายคองโกล่า ผู้ว่าจ้าง เจ้าเมืองแกรนด์ยารด์ ค่าหัว 1000 เหรียญทอง
“ งานบ้าอะไรเนี่ย ได้รางวัลตั้ง 1000 เหรียญทอง โห......สุดยอดไปเลย ” มาวินตะโกนดังด้วยความลืมตัว เพราะรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้ สามารถทำให้พวกเขาเดินทางทั่วโลกได้อย่างน้อย 10 รอบ
“ ใช่แล้ว ถ้างานนี้สำเร็จ ก็สบายไปอีกนาน การไปแคว้นเยอมาเนียคงไม่ไกลเกินเอื้อม แต่…” เด็กสาวร่างสูงแจกแจง กระนั้น เธอยังทิ้งท้ายด้วยคำว่า…แต่ อันชวนให้เกิดความสงสัย
“ แต่อะไร ” มาวินรีบถามทันที ใจเต้นระทึก เพราะเพ้อถึงรางวัลก้อนโตที่ลอยอยู่ตรงหน้า
“ แต่พวกเรามีแค่สองคนน่ะซิ มันไม่เพียงพอที่จะล่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ ” ท่าทางของเหมยลี่ดูเคร่งเครียด
“ แค่นี้ก็พอ เพราะฝีมือของชั้นเข้าขั้นปรมาจารย์แล้ว ส่วนเธอก็ อืม..... เก่งกว่าปรมาจารย์นิดหน่อย รับรองว่าแค่ไอ้คองอะไรซักอย่าง ไม่คณามือพวกเราหรอก เหอๆ ” มาวินยืดอก ท่าทางภาคภูมิ ในใจคิดว่าตนเองเก่งซะเต็มประดา
“ นายเก่งถึงขั้นสู้กับ “แม็กซ์” ได้แล้วเหรอ ” เหมยลี่ถามกลับ ทำให้มาวินนิ่งอึ้งอย่างฉับพลัน
“ แล้วนายรู้มั้ย แม้ว่า “แม็กซ์” จะออกโรงต่อสู้ด้วยตัวเอง เขาก็อาจแพ้สัตว์ประหลาดตัวนี้ ” เหมยลี่อธิบายต่อ สีหน้าจริงจังสุดขีด
สิ้นคำกล่าว ใบหน้าของมาวินก็แปรเปลี่ยนเป็นเจื่อน ปากเอ่ยถามเหมยลี่ เสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“ อะ.......ไอ้เจ้าคอง เอ่อ อะไรซักอย่างนี่ กะ......เก่งขนาดทะ......ที่ทำให้สัตว์ประหลาดในร่างคนอย่าง แม็กซ์ ชนะไม่ได้เลยเหรอ ”
เหมยลี่มองหน้ามาวินนิ่งๆ แววตาดูเคร่งเครียดกว่าที่เคยเป็นถึงสองเท่า คล้ายว่าเธอจะวิตกกังวลอย่างจริงจัง ครู่หนึ่ง ก็เริ่มอธิบายสรรพคุณของสัตว์ประหลาดที่ต้องการล่า
“ เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า……คองโกล่า ลักษณะคล้ายลิงใหญ่ ร่างสูงราว 4 เมตร กำลังมหาศาลชนิดโค่นต้นไม้ขนาดสามคนโอบด้วยมือเพียงข้างเดียว ผิวหนังแกร่งจนดาบเหล็กฟันไม่เข้า มิหนำซ้ำ ยังพ่นไฟออกจากปากได้อีกด้วย ”
“ ชั้นขอถอนตัวไปเสิร์ฟอาหารดีกว่า ถึงไปแคว้นเยอมาเนียช้าหน่อย คงไม่เป็นไรหรอก เหอๆ ” มาวินปาดเหงื่อที่ใบหน้า พร้อมหันหลัง เตรียมวิ่งหนี แต่ก่อนจะออกจากจุดสตาร์ท เหมยลี่ก็ไวพอจะกระชากคอเสื้อและตะโกนใส่หูของอีกฝ่าย
“ ถ้าไม่รับงานนี้ นายก็ไปไม่ถึงแคว้นเยอมาเนีย และจะไม่ได้พบกับคนที่ตัวเองรัก พอใจแบบนี้เหรอ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเด็กสาวร่างสูง มาวินจึงนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง ใบหน้าเล็กเรียวกลับมาแดงก่ำจนล่วงเลยถึงขั้นควันออกหู ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ทำให้เขาตะโกนดัง
“ โอเค ตกลง ชั้นจะสู้ เพื่อจะได้กลับไปหา…เอ๊ะ ไม่ใช่ สู้เพื่อกลับบ้าน ”
แม้มาวินจะอยู่ในสภาพฮึดสู้ แต่เหมยลี่ก็ยังหนักใจอยู่ดี เพราะถ้ารับงานนี้ ต้องหาสมาชิกเพิ่มโดยด่วน และต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติพิเศษ
“ แล้วทำไม ถึงทำหน้าเครียดแบบนั้น ไม่ต้องกลัว ชั้นอยู่ทั้งคน พรุ่งนี้เราไปล่า เอ่อ..คองอะไรซักอย่างนั่นกันเลย ” มาวินพูดกับเหมยลี่เร็วจี๋ ท่าทีที่เปลี่ยนไป ทำให้เด็กสาวประหลาดใจ
“ เฮ้ มองอยู่ได้ ชั้นมีเขางอกบนหัวรึไง ยัยโย่ง ” มาวินเริ่มฉุนที่เห็นเพื่อนสาวจ้องหน้านิ่ง
“ เอ๊ะ ไม่ใช่ แค่คิดว่านายนี่ประหลาดดี เมื่อกี้ยังกลัวอยู่เลย แต่พอบอกว่าอาจไม่ได้พบกับคนรัก ก็กลับมาฮึดสู้จนกลายเป็นบ้าดีเดือด คนๆนั้นคงสำคัญกับนายจริงๆ ” เหมยลี่สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนตอบกลับมาเบาๆ
“ อะ.....บ้าน่า ชะ...... ชั้นแค่อยากกลับบ้านเท่านั้น เธอน่ะมั่วไปเอง ” คราวนี้ถึงทีมาวินที่สะดุ้งบ้าง เขารีบโบกมือไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ทว่าใบหน้ากลับแดงก่ำ
“ อืม.......เป็นอย่างนั้นจริงเหรอ ” เหมยลี่ยืนกอดอกตัวตรงแหน็ว ดวงตาคมเข้มเพ่งมองมายังเด็กหนุ่มแน่วนิ่ง ประมาณว่า....จ้องจับพิรุธ
มาวินกระสับกระส่ายอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดปิ๊งไอเดียบางอย่าง จึงเอ่ยถามเด็กสาวร่างสูงถึงเนื้องาน เพื่อเลี่ยงประเด็น
“ เอ่อ นึกขึ้นมาได้แล้ว ที่ว่าทีมมีคนไม่พอ หมายความว่ายังไง แล้วเราต้องการคนแบบไหน อยากได้อีกกี่คนถึงจะพร้อมล่าเจ้าคองอะไรนั่น ”
การเลี่ยงประเด็นของเด็กหนุ่มหัวเขียวได้ผลเป็นอย่างดี แต่เหมยลี่รู้สึกระอา เพราะมาวินจำชื่อสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้ซักที จากนั้น เธอก็เริ่มอธิบายแผนที่อยู่ในใจ
“ ทีมที่ชั้นคิดไว้มีสามคน คนแรกต้องมีความไว เพื่อเอาไว้ก่อกวนคองโกล่าให้สับสน ซึ่งนั่นก็คือนาย ส่วนคนที่สองคือชั้น มีหน้าที่อัดสัตว์ประหลาดให้หนัก สตั้นให้เกิดอาการมึน ส่วนสมาชิกคนที่สามคือคนที่ต้องเข้าไปเผด็จศึกมัน ”
“ อ้าว เดี๋ยว ไหงให้ชั้นทำหน้าที่แค่ก่อกวน แล้วมันจะเท่ได้ยังไง เธอไปหาใครที่เร็วเป็นลิง แล้วโยกชั้นไปอยู่ตำแหน่งสังหาร จะได้เทพแต่เพียงผู้เดียว ” มาวินร้องค้านอย่างจริงจัง
เหมยลี่จ้องมาวิน สีหน้านิ่งแฝงแววหงุดหงิดอยู่ในที ครู่หนึ่ง เด็กสาวร่างสูงก็กล่าวออกมาตรงๆ
“ ถามจริงเถอะ พลังทำลายสูงสุดของนายถึงขั้นทะลวงเหล็กกล้าได้เลยเหรอ ”
“ เอ่อ...... ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ” มาวินเกาหัวแก้เขิน
“ แล้วนายจะฆ่ามันยังไง อย่าลืมซิ ผิวหนังของมันแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้าอีกนะ ” เหมยลี่ย้ำเตือนความจริง
“ เหอๆ งั้นโยกชั้นไปอยู่ตำแหน่งเธอก็ได้ คนทำหน้าที่สตั้น น่าจะเท่รองลงมา ” มาวินหัวเราะแห้งๆ
เหมยลี่พยายามนับหนึ่งถึงสิบ ความกวนโอ๊ยของเจ้าลิงหัวเขียวนั้นรุนแรงจนคนเฉยอย่างเธอแทบทนไม่ไหว สุดท้าย ก็สงบจิตใจลง ด้วยคิดว่าตนกำลังคุยกับเด็กปัญญาอ่อนคนนึง จะไปถือสาหาความทำไม เลยตอบกลับแบบใจเย็น
“ นายมีท่าไม้ตายที่รุนแรงจนสามารถทำให้คู่ต่อสู้เกิดอาการช็อกได้หรือเปล่า ”
เมื่อได้รับฟัง มาวินก็ห่อเหี่ยวในทันที ปากบ่นพึมพำเบาๆ
“ ว้า....... อดเท่ขั้นเทพเลย ”
เหมยลี่ส่ายหัวไปมา เธอไม่ชินกับความบ้าบอของเด็กหนุ่มซักที จึงกล่าวตัดบท
“ เอาล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปประกาศหาเพื่อนร่วมทีมที่บ่อน้ำพุก็แล้วกัน น่าจะหาได้ เพราะแกรนด์ยาร์ดเป็นเมืองใหญ่ นอนเถอะ ”
พอพูดจบ เหมยลี่ก็พิงเสาไม้หน้าบาร์ ก่อนหลับตานิ่ง เพื่อเข้าสู่นิทรา ทิ้งให้มาวินยืนกุมท้องที่กำลังร้องโครกครากด้วยความหิวตามลำพัง
“ ดีเนอะ หลับหนีกันหน้าตาเฉย แล้วเราจะหาคนที่มีฝีมือขนาดนั้นได้ง่ายๆเลยเหรอ สงสัยต้องทนหิวอีกหลายวัน ”
ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏเสียงนุ่มทุ้มลึกของชายหนุ่ม กระแสนั้นดังมาจากด้านหลัง
“ ไม่ต้องเสียเวลาขนาดนั้นหรอก น้องชาย ”
วัยรุ่นทั้งสองมองตามเสียง จึงพบกับ…ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ด้านหลังผูกผ้าคลุมขาวที่พริ้วไหว ดวงตาสีน้ำเงินบนใบหน้านวลราวอิสตรีจับจ้องมายังคู่สนทนาด้วยความจริงใจ มาวินจำได้ว่าเป็นใคร จึงร้องทักโดยเร็ว
“ เฮ้ย นั่นมัน......พี่ชายหน้าหล่อที่โกงไพ่ในร้านเหล้านี่หว่า ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ