The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
61) หางานทำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.wallpaperflare.com
กลางดึกของเมืองแกรนด์ยารด์ แม้จะมีผู้คนเตร็ดเตร่ไปมา แต่ก็น้อยกว่าตอนกลางวันหลายเท่าตัว ด้านหน้าของบาร์แห่งหนึ่ง มีม้าสองตัวผูกติดกับเสาไม้ ตัวแรกสูงใหญ่ ท่าทางองอาจ สมกับเป็นม้าศึก ส่วนอีกตัวนั้นทั้งเล็กทั้งแห้ง แลหย็องกรอด แถมยังมีสีกระดำกระด่างดูสกปรก ใกล้ๆกับพาหนะมีชีวิต ปรากฏร่างของวัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่ง นั่นก็คือ….มาวินและเหมยลี่นั่นเอง
“ เฮ้อ........เงินโดนขโมยไปหมดแล้ว ทีนี้จะทำยังไงกันดี ” เด็กหนุ่มหัวเขียวนั่งเท้าคาง ท่าทางเบื่อหน่าย ปากก็พล่ามบ่น
เหมยลี่นั่งขัดสมาธิ สายตาที่ทอดยาวไปข้างหน้ากำลังปิดพริ้ม ใบหน้าสงบนิ่ง ปราศจากความกังวลใดๆ เธออยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ
“ คืนนี้ คงต้องอยู่แบบนี้ไปก่อน เพราะเงินไม่พอจะจ่ายค่าโรงแรม จากนั้นก็หางานทำ เพื่อเก็บเงิน ”
“ หา..... ทำงาน ” มาวินตกตะลึงอย่างรุนแรง ดวงตาเบิกโพลงจนเกือบทะลักออกจากเบ้า
“ ใช่แล้ว นี่อย่าบอกนะว่า.....ตั้งแต่เกิดมา นายไม่เคยทำงานเลย ” เด็กสาวร่างสูงหันมาถาม สีหน้าดูสงสัย
“ เหอๆ ก็ไม่เชิง ชั้นเคยทำมานิดหน่อย แต่ไม่ค่อยชอบน่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวหัวเราะแห้งๆ ใบหน้าเล็กเรียวดูเหยเก คล้ายรังเกียจการทำงานอย่างรุนแรง
“ ถึงตอนนี้ นายคงต้องฝืนทำ เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว ” เหมยลี่ตอบเนือยๆ เธอดูไม่ทุกข์ร้อนเลย
ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ด้วยท่าทีที่แตกต่างกัน เหมยลี่ยังคงกอดอกนิ่ง ส่วนมาวินได้แต่ขยุกขยิกตามประสาคนอยู่ไม่สุข เวลาต่อมา เด็กหนุ่มหัวเขียวก็สะกิดเพื่อนสาว เพื่อไถ่ถาม
“ นี่ ยัยโย่ง ในเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว พอจะบอกได้มั้ยว่างานที่ทำมีอะไรบ้าง ”
เหมยลี่ไม่ไหวติง เธอยังนั่งนิ่งในท่าเดิม ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ารำคาญ
“ นายสามารถดูรายละเอียดของงานเหล่านั้นได้ด้วยนาฬิกาประจำตัว ”
“ หา......มันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ ” มาวินร้องเสียงหลง เขายกข้อมือขึ้นมา เพื่อมองนาฬิกาสีกระดำกระด่างที่ตนสวมใส่
เหมยลี่หันมาตำหนิด้วยสายตา ประกายรุนแรงจนมาวินนึกผวา ด้วยรู้ฤทธิ์ของแม่เสือสาวเป็นอย่างดี แต่สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือ เพียงแต่กล่าวสั้นๆว่า…..
“ นาฬิกาทุกเรือนทำได้หมด ”
“ เอ่อ..... ครับผม ” มาวินรีบตอบอย่างสุภาพ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาสำรวจนาฬิกาข้อมือของตนเอง
มาวินง่วนกับอุปกรณ์อยู่พักใหญ่ ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถไขความลับของมันได้ ทุกครั้งที่เขาพยายามกดปุ่มบนตัวเรือน ไฟหน้าจอก็เหมือนจะดับ มิดับเหล่
สิ่งที่เกิดไม่พ้นหูพ้นตาของเหมยลี่ เหมือนว่าเธอจะรำคาญในความงี่เง่าของมาวินหรือไม่ก็สมเพชความโปเกของอุปกรณ์ จึงล้วงเข้าไปในย่าม เพื่อหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมาสวมข้อมือ มันคือ……นาฬิกาทรงเหลี่ยมที่เพรียวบางและล้ำค่า เพราะตลอดทั้งเรือนล้วนทำมาจากทองคำ
“ ว้าว..... นะ...... นี่คือนาฬิกาของเธอเหรอ สุดยอดไปเลย ” มาวินตกตะลึงจนตาค้าง เขาไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะซุกของมีค่าขนาดนี้เอาไว้
“ หุบปาก แล้วตั้งใจดู ” เหมยลี่ตัดบท น้ำเสียงเฉียบขาด ทำให้มาวินสงบคำในทันที เนื่องจากกลัวว่าตนจะโดนภัยจากบาทา ถ้ายังปากมากไม่เข้าเรื่อง แต่ในใจแอบเถียง
" ก็มันสวยจริงๆนี่นา "
เหมยลี่กดปุ่มบนตัวเรือนอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เกิดแสงที่หน้าจอ ความสว่างทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ภาพโฮโลแกรมสามมิติก็พุ่งออกมาจากนาฬิกาและลอยอยู่กลางอากาศ มันคือกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีข้อความให้เลือกมากมาย
“ เฮ้ย.......นาฬิกาของเธอทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ไฮเทคเป็นบ้าเลย แลกกันมั้ย ” มาวินยื่นนาฬิกาของตนให้เด็กสาวร่างสูง หวังจะแลกเปลี่ยนกัน แต่อีกฝ่ายกลับตะคอกใส่ด้วยอาการหัวเสีย
“ เจ้าบ้า นาฬิกาวิญญาณเป็นของประจำตัว ผู้ที่ใช้งานได้คือเจ้าของเพียงคนเดียว ดังนั้น ถึงนายแลกกับชั้น ก็ใช้มันไม่ได้อยู่ดี ”
“ แฮะๆ ใช้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แค่ใส่ไว้เท่ๆก็พอ ” มาวินหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบกลับกวนๆ
“ นี่ไง เท่ ” เหมยลี่เขกกะโหลกของเด็กหนุ่มเต็มแรง
“ โป๊ก ”
“ เจี๊ยก...... ” มาวินกระโดดโลดเต้น พร้อมร้องจนสุดเสียง เพราะน้ำหนักมือที่ประเคนใส่ ท่าทางจะหนักมิใช่น้อย
“ เลิกนอกเรื่อง แล้วตั้งใจดูให้ดี ” เหมยลี่ตวาดกลับ ท่าทางเด็ดขาด ทำให้มาวินต้องข่มความปวด แล้วฝืนดูข้อความที่ลอยอยู่กลางอากาศ
มาวินตั้งอกตั้งใจอย่างเต็มที่ เนื่องจากเขาเป็นอีกคนที่อ่านหนังสือปีละแปดบรรทัด ดังนั้น การอ่านอะไรที่ยาวเหยียดจึงเป็นเรื่องยาก ข้อความบนภาพโฮโลแกรมมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อมูลงานในเมืองแกรนด์ยารด์
งานล้างจานที่ร้านแมวเหิน 1 อัตรา ค่าจ้าง 3 เหรียญเงินต่อวัน
งานแบกหามที่โรงงานสุนัขร้องไห้ 5 อัตรา ค่าจ้าง 2 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดงต่อวัน
งานเด็กเสิร์ฟที่ร้านตะกวดหิว 2 อัตรา ค่าจ้าง 79 เหรียญทองแดงต่อชั่วโมง
งานเลี้ยงเด็กที่บ้านคุณนายโหวง 1 อัตรา ค่าจ้าง 3 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดงต่อวัน
“ เหอๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย ” มาวินหัวเราะแห้งๆ เขาเหนื่อยใจ เมื่อเห็นเนื้องาน
“ อ้าว.....ไม่ชอบเหรอ ชั้นว่างานล้างจานน่าจะดีนะ เพราะเย็นสบายมือ ด้วยโดนน้ำทั้งวัน ” เหมยลี่ถาม สีหน้าเหมือนจะยิ้มนิดๆ
“ ยัยบ้า ตั้งแต่เกิดมา ชั้นไม่เคยเข้าครัวเลย แล้วจะล้างจานเป็นได้ยังไง เกิดไปทำของเขาแตก มิต้องเสียเงินแทนได้เงินรึ ” มาวินเถียง
“ แล้วแบกหามล่ะ สนมั้ย นายน่าจะถนัดงานที่ใช้แต่กำลังนะ ” เด็กสาวเสนอต่อ
“ นี่หาว่าชั้นโง่รึไง ” มาวินตอบกลับ น้ำเสียงดุ
“ หึๆ แล้วงานเด็กเสิร์ฟล่ะ ได้แต่งตัวน่ารักๆด้วยนะ ” เด็กสาวหัวเราะเล็กน้อย เธอแกล้งกระเซ้าต่อ
“ ชั้นเป็นผู้ชายนะยะ....... ” มาวินเริ่มโวยวาย ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหแกมอาย
“ เฮ้อ.......สุดท้ายคืองานเลี้ยงเด็ก ทำมั้ยล่ะ ดูมีความสุขดีนะ ” เหมยลี่ยื่นข้อเสนอสุดท้าย พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขที่ได้แกล้งมาวิน
“ ว้าก...... ไม่ต้องพูดเลย หน้าตาชั้นเหมือนคนรักเด็กเหรอ ” คราวนี้มาวินเริ่มแหกปาก สองมือรุมทึ้งผมบนหัวตัวเอง ท่าทางไม่ต่างจากคนบ้าที่หลุดจากโรงพยาบาล
“ ฮะๆ ” ทันทีที่ฟังจบ เด็กสาวร่างสูงก็หัวเราะเล็กน้อย เพราะขบขันท่าทีปัญญาอ่อนของเด็กหนุ่ม
“ นี่ หัวเราะทำไมยะ หล่อน ชั้นไม่ใช่จำอวดนะเฟ้ย ” มาวินทำตาขวางใส่ พลางแยกเขี้ยว
“ ฮะๆ ไม่หัวเราะก็ได้ อุๆ ” เหมยลี่พยายามจะหยุดหัวเราะ แต่ทำได้ไม่ดีนัก
ทีแรกมาวินนึกเคือง แต่เมื่อเห็นความสดใสของเหมยลี่ จิตส่วนหนึ่งก็หวนระลึกถึง….จัน เพื่อนสาวคนสนิท สองคนนี้มีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึง ราวกับว่าเป็นคนๆเดียวกัน
“ นี่ถ้าจันยิ้มและหัวเราะ ใบหน้าของเธอก็คงเป็นแบบนี้ ” มาวินเพ้ออยู่ภายใน อารมณ์เป็นสุขอย่างประหลาด ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์เริ่มผ่อนคลายและแย้มยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเอง โสตประสาทก็แว่วเสียงร้องทักของเพื่อนสาว
“ นายยิ้มทำไม ”
“ เอ๊ะ เปล่า ไม่มีอะไร เหอๆ ” มาวินสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมตอบตะกุกตะกัก อันดูมีพิรุธเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเหมยลี่ก็ไม่ได้เค้นคอ หาความจริง มีเพียงดวงตาคมเข้มที่หรี่ต่ำ เป็นเชิงสงสัยเท่านั้น
เวลาแห่งความอึดอัดผ่านไปครู่หนึ่ง มาวินก็หาทางออกให้ตัวเอง ด้วยการกระแอมเบาๆ พร้อมเอ่ยถามแบบเป็นการเป็นงาน อันเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยกระทำ
“ ฮะแฮ่ม เอ่อ......ชั้นคิดทบทวนแล้วนะ งานพวกนี้คงไม่เหมาะกับชั้นหรอก อีกประการ เงินที่ได้ก็น้อยเกินไป กว่าจะพอค่าเดินทาง ต้องทำงานไม่ต่ำกว่าสองปี ”
“ ชั้นก็กะไว้อยู่แล้วว่านายต้องพูดแบบนี้ ไม่ต้องห่วง มีงานพิเศษที่ได้เงินดีกว่านั้น ” เหมยลี่เริ่มเข้าเรื่อง
“ เอ๋......งานพิเศษอะไร สนุกมั้ย ” ท่าทีของมาวินดูตื่นเต้น กายเกร็งสุดๆ คล้ายกำลังลุ้นบางอย่าง
“ สนุกรึเปล่าไม่รู้ แต่งานที่ทำนั้นยากและต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง บางทีก็อันตรายถึงชีวิต ” เหมยลี่ตอบกลับด้วยท่าทีขึงขัง
“ ว้า......งั้นไม่เอาแล้ว ทั้งยากทั้งเหนื่อย ดีไม่ดี ต้องตายอีกต่างหาก ” หลังรู้ความจริง มาวินก็คิดถอนตัว
“ โอเค งั้นนายกลับไปทำงานเลี้ยงเด็กก็เเล้วกัน ” เหมยลี่ยิ้มเยาะ
“ ว้าก..... นั่นก็ไม่เอา ยี้...... ” มาวินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา แล้วนายจะทำยังไง หรือจะล้มเลิก แล้วตั้งรกรากที่นี่ ” เหมยลี่เริ่มเซ็งกับความเรื่องมากของเด็กหนุ่ม
มาวินนิ่งคิดอยู่นาน ใบหน้าทะเล้นแปรเปลี่ยนเป็นขมวดนิ่ว เพราะใช้สมองอย่างหนัก ครู่หนึ่ง เขาก็กลั้นใจตอบกลับ
“ เอาล่ะ ชั้นเลือกทำงานพิเศษก็แล้วกัน ตกลงมันคืองานอะไร ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ