The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

60) คราวซวยมาเยือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

เครดิตภาพจาก  https://wall.alphacoders.com
 
……………………
         
      หลังจากแก๊งมาเฟียหลบหนี ตรอกมืดก็เหลือแค่สองวัยรุ่นและเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม มาวินเข้าไปหาตังลี่ที่นอนเหยียดยาว เขาเตะหน้าแข้งของหัวหน้ามาเฟียเบาๆ พร้อมเอ่ยถาม
 
“ แล้ว…..เราจะทำยังไงกับเจ้าหมอนี่ ” 
          
 
       เหมยลี่มองมาเฟียใหญ่ที่นอนสิ้นสติ ดวงตาฉายแววสังเวชนิดๆ ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ
 
“ ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ ” 
          
 
       พอเหมยลี่พูดจบ เธอและเด็กน้อยก็เดินจากไป ส่วนมาวิน เขามองมาเฟียใหญ่อยู่ชั่วขณะ ก่อนหวดก้นอีกหนึ่งป้าบ
 
“ นี่แน่ะ โทษฐานที่ทำให้ชั้นต้องเจ็บตัว ” 
 
……………………..
           
        ทั้งสามมาถึงลานกว้างแถวท่าเรือ บรรยากาศเงียบสงัดและปราศจากผู้คน ลมทะเลกระทบกายจนชวนให้เย็นใจ มาวินยืนกอดอก หลังพิงเสาไฟสูงสามเมตร ส่วนเหมยลี่กำลังพันแผลที่หัวไหล่ โดยมีเด็กน้อยเป็นผู้ช่วย
 
“ อืม…..ค่อยยังชั่ว แผลไม่ลึกเท่าไหร่ แถมไม่ติดพิษ ทายาไม่กี่วัน ก็หายสนิท ” เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มกล่าว สีหน้าดูโล่งอก 
 
“ ทั้งที่อายุยังน้อย แต่เธอก็ปฐมพยาบาลเก่ง แถมยังดูแผลติดพิษออกอีก ” เหมยลี่ชม ทว่าเด็กน้อยกลับสะดุ้งนิดๆ ชนิดถ้าไม่สังเกต คงไม่เห็นพิรุธ 
 
“ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่นายจะทำยังไงต่อไป ไอ้หนู ” มาวินกราดเข้ามาถาม โดยไม่สนใจบรรยากาศของวงสนทนา
 
“ ฮะๆ ผมคิดว่า.....พวกเราคงต้องลากันตรงนี้แล้ว ” เด็กน้อยได้ที จึงรีบเฉไฉไปคุยกับมาวิน
 
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ไอ้ลากันน่ะ มันแน่อยู่แล้ว แต่ที่ชั้นถาม หมายความว่า……นายจะทำยังไงกับชีวิต จะเร่ร่อนทั้งที่ยังเป็นเด็กแบบนี้เหรอ มันอันตรายนะ เมื่อกี้ก็เพิ่งถูกคนชั่วตามล่า ทำไมถึงไม่กลับบ้านไปหาพ่อแม่ล่ะ ” มาวินแสดงเจตนาด้วยสีหน้าจริงจัง อันเป็นภาพหาได้ยากยิ่ง
           
 
        แม้เป็นคำพูดสั้นๆ แต่ก็ทำให้เด็กน้อยนิ่งอึ้ง ใบหน้าเล็กๆที่ขมุกขมัวสั่นเทา ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำและมีหยาดน้ำน้อยๆปรากฏที่ใต้ตา เป็นนัยว่าจะเกิดดราม่าในอีกไม่กี่อึดใจ 
 
“ อ้าว เฮ้ย เป็นอะไรไป ไอ้หนู ทำไมทำท่าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้น คิดถึงพ่อกับแม่ของนายรึไง ” มาวินสะดุ้งโหยง เขาตกใจกับความเปลี่ยนแปลงที่ปรากฏ
         
 
       เด็กน้อยส่ายหน้าช้าๆ พร้อมปาดน้ำตาทิ้ง จากนั้นก็ยิ้มให้มาวิน แล้วตอบคำถามด้วยเสียงที่สั่นเทา 
 
“ เปล่าครับ แค่รู้สึกตื้นตันกับน้ำใจของพี่ชาย ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครห่วงใยผมถึงขนาดนี้เลย ”  
 
“ เฮ้ ไอ้หนู เข้าใจผิดแล้ว ชั้นไม่ได้ห่วงซักหน่อย แค่…..ไม่อยากจะให้พวกนักเลงโตลำบากในการไล่กระทืบนาย ก็เท่านั้นเอง ” ใบหน้าเล็กเรียวของมาวินเริ่มแดงด้วยความอาย เขาพยายามเลี่ยงไปทางอื่น แต่ด้วยเวลาที่จำกัด จึงทำให้ข้ออ้างดูตลก
          
 
       เด็กน้อยและเหมยลี่อมยิ้มเป็นเชิงรู้ทัน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ครู่หนึ่ง เจ้าหนูก็หยุดยืนที่เบื้องหน้าของเด็กสาวร่างสูง พร้อมฉีกยิ้มกว้างจนอีกฝ่ายนึกฉงน ระหว่างที่กำลังงุนงง ผู้เยาว์ก็เข้าโผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว
 
“ เอ๊ะ ” เหมยลี่อุทานในลำคอ แต่เด็กน้อยยังคงกอดเด็กสาวร่างสูงเอาไว้แน่น ปากก็กล่าวขอบคุณเบาๆ 
 
“ ขอบคุณ พี่สาวมากครับที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ ” 
         
 
        เด็กน้อยกอดอยู่นานพอดี ส่วนมาวินที่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง เริ่มขุ่นเคืองทางอารมณ์ เพราะถึงยังเด็ก แต่ก็เป็นเพศชาย มิหนำซ้ำเจ้าหนูนี่น่าจะอายุประมาณ 12 ปี อันเป็นวัยที่ไม่ห่างจากเหมยลี่
           
 
        เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กน้อยก็คลายตัวจากอ้อมกอด ทิ้งให้เหมยลี่ยืนเอ๋อรับประทาน อึดใจต่อมา เจ้าหนูก็ประจันกับมาวิน ทำให้พบสีหน้าที่ดูหงุดหงิดของอีกฝ่าย
 
“ ว่าไง พี่ชาย ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น ” หนูน้อยหน้าจิ้มลิ้มถามเย้ยๆ 
 
“ เชอะ ชั้นไม่ได้ทำหน้าหงุดหงิดซักหน่อย ” เด็กหนุ่มหัวเขียวกอดอก ท่าทีไม่พอใจ 
 
“ เอ๋….. ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าพี่ชายทำหน้าหงุดหงิด อย่าร้อนตัวไปสิ ” เด็กน้อยยักคิ้วหลิ่วตาให้มาวิน ท่วงท่าดูทะเล้น 
 
“ หน็อยแน่ เจ้าหนู นายกล้าแซวชั้นรึ ” มาวินตวาดแว๊ด พร้อมง้างมือ เพื่อเตรียมเขกกะโหลกเจ้าจอมแก่น แต่ก่อนจะได้ทำตามประสงค์ เจ้าหนูก็โผเข้ามาซบอก ทำให้ลิงหัวเขียวถึงกับอึ้งกิมกี่
 
“ เฮ้ เจ้าหนู แกจะทำอะไร ” มาวินตกตะลึง ใบหน้าเริ่มกลับมาแดงอีกครั้ง
         
 
        เด็กน้อยซบหน้านิ่งๆอยู่แบบนั้น ชั่วครู่ เขาก็เอื้อนเอ่ยช้าๆ น้ำเสียงส่อแววตื้นตันและสำนึก ขอบคุณ 
 
“ ขอบคุณพี่ชายมากนะครับ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครคอยห่วงใยผมเลย ” 
 
“ นี่….นาย ” หลังได้ยินคำพูดที่ชวนให้สะเทือนใจ สีหน้าของมาวินก็สลดลงเล็กน้อย             
      
 
       แต่ก่อนจะเกิดดราม่าไปมากกว่านี้ เด็กน้อยก็ผละออกจากอก พร้อมแลบลิ้นปลิ้นตา ปากก็กล่าวสัพยอกด้วยท่าทางที่ดูร่าเริงจนสองหนุ่มสาวนึกงง....ทำไมถึงเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวปานนี้
 
“ แต่ผมไม่กอดพี่ชายแบบที่กอดพี่สาวหรอกนะ อย่าน้อยใจไปล่ะ ” 
 
“ บ่ะ ใครจะไปน้อยใจกับเรื่องพรรค์นี้เล่า เจ้าเด็กทะเล้น ” มาวินตะคอกเสียงแหลม พร้อมทำท่าง้างเท้า แต่เจ้าตัวเล็กก็ไวพอจะหลบหลังเหมยลี่ บรรยากาศที่ครึกครื้น ทำให้เด็กสาวหัวเราะออกมาเบาๆ
 
“ หึๆ ” 
 
“ เอ๋….. เธอหัวเราะเป็นด้วยเหรอ ” มาวินถึงกับหน้าตื่น แน่นอนว่าเด็กน้อยก็งงไม่แพ้กัน
 
…………………………
            
       เหมยลี่และมาวินตามไปส่งเด็กน้อยที่เรือโดยสารขนาดใหญ่ซึ่งกำลังแล่นออกจากท่า แม้ช่วงเวลานั้นจะเกือบเที่ยงคืนแล้วก็ตาม แต่ยังมีผู้คนสัญจรไปมาเกือบร้อยชีวิต บ่งบอกถึงสภาพของนครใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล
 
“ นายแน่ใจแล้วนะว่าจะเดินทางคนเดียว ” มาวินถามย้ำอีกครั้ง น้ำเสียงเจือความห่วงใย
 
“ ครับ พี่ชายไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ” เด็กน้อยยิ้มรับ
 
“ หน็อย.... ใครเป็นห่วงนายกันฟะ ชั้นก็แค่….” มาวินเริ่มหน้าแดงอีกแล้ว ขณะที่จะกล่าวแก้ตัว เด็กน้อยจอมแก่นก็ชิงพูดออกมาก่อน
 
“ ชั้นแค่กลัวว่าพวกนักเลงโตจะเหนื่อยในการไล่กระทืบนาย ผมรู้เหตุผลของพี่ชายแล้วครับ ฮะๆ ” พอหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มดักคอเสร็จ เขาก็หัวเราะ ท่าทางน่ารัก น่าเอ็นดูจนคล้ายเด็กผู้หญิงเลยทีเดียว 
 
“ ฮึ่ม....รู้ดีตลอด ” มาวินนึกฉุนปนอายที่ถูกเด็กน้อยรู้ทัน จึงย่างสามขุมเข้าไปหา หวังเตะตูดให้สมแค้น แต่เด็กน้อยก็ย้ายร่างเล็กบางเข้าไปในเรือ เพื่อหลบภัย
 
“ ฮึ่ม.....อย่าได้พบเจอกันอีกเลย กวนโมโหชะมัด เจ้าหนูคนนี้ ” มาวินบ่นพึมพำ แต่สายตาเรียวเล็กกลับฉายแววห่วงใย เขาจ้องมองเรือใหญ่ไม่วางตา 
         
 
        เหมยลี่ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงยิ้มมุมปาก สายตาที่มองมาวินเปล่งประกายประหลาดที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ระหว่างนั้นเอง เสียงแตรสัญญาณก็ดังยาว คาดว่าน่าจะมาจากดาดฟ้าเรือ 
 
“ ปู้น……. ” 
 
“ เฮ้อ….. เรือจะออกเดินทางแล้ว หวังว่าเจ้าหนูนั่นคงจะรอดนะ ” มาวินมองไปที่เรือใหญ่ จากนั้นก็หันกลับมามองผู้คนนับสิบที่กำลังโบกไม้โบกมือ เพื่อล่ำลานักเดินทางด้วยใจอาวรณ์
 
“ เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก เจ้าหนูนั่นเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แถมน่าจะทำได้ดีกว่านายซะอีก ” เหมยลี่กล่าวช้าๆ แต่ในคำพูดนั้นฟังดูแหม่งๆจนมาวินเริ่มสงสัย 
 
“ ที่พูดมา หมายความว่า….ยังไง ” 
           
 
         เหมยลี่ยิ้มนิดๆ เธอล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วหยิบถุงผ้าสีกระดำกระด่างขึ้นมาโชว์
 
“ นี่คือ….” มาวินทำหน้างง
 
“ รับไปดูซิ ” เหมยลี่ตอบเรียบๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองเรือใหญ่ที่แล่นออกจากฝั่ง            
      
 
        มาวินรับถุงผ้านั้นไปเปิดดูอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มพบกระดาษแผ่นเล็กอยู่ภายใน มันถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆ อ่านจับใจความได้ว่า…….. 
               
       ขอบคุณพี่สาวมากครับที่ให้ทุนรอนในการเดินทาง เพื่อเห็นแก่น้ำใจ ผมได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้ใช้ประทังชีวิต หวังว่าจะเอาตัวรอดได้นะครับ  
ปล. ฝากบอกพี่มาวินด้วย......ถ้าเป็นไปได้ อยากพบอีกครั้ง เพราะมีสิ่งที่อยากจะกล่าวกับพี่ด้วยตัวเอง 
ด้วยรักและคิดถึง
จากโจรน้อย
 
        เมื่อมาวินอ่านจบ เด็กหนุ่มก็เงยหน้ามองเรือเดินทางขนาดใหญ่ที่กำลังแล่นห่างออกไป สลับกับมองหน้าเหมยลี่อยู่สองสามที จากนั้นก็เอ่ยถามเสียงสั่น 
 
“ แบบนี้หมายความว่า…” 
 
“ ใช่แล้ว เจ้าหนูนั่นเป็นโจร แล้วก็ยกเค้าพวกเราด้วยการฉกเงิน คาดว่าน่าจะลงมือตอนที่โผเข้ากอดชั้น ” เหมยลี่ตอบเรียบ สีหน้าดูนิ่งๆ สายตาคมเข้มมองไปยังเรือโดยสารที่กำลังลับสายตา
 
“ ฮะๆ แล้วตอนนี้ พวกเราเหลือเงินอยู่เท่าไหร่ล่ะ ” มาวินถามเสียงอ่อย หัวใจเริ่มห่อเหี่ยว
 
“ ชั้นเช็คดูแล้ว น่าจะเหลือประมาณ 10 เหรียญเงิน พอใช้ได้ซักสองสามวัน แต่ไม่พอให้เดินทางต่อไป ” เหมยลี่ตอบนิ่งๆ ใบหน้าราบเรียบจนจับอารมณ์ไม่ได้ 
 
“ ฮะๆ เหอๆ หึๆ ฮึ่ม..... ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กขี้ขโมย เจอกันคราวหน้า ชั้นจะตื้บนายให้เละ แล้วนำไปส่งให้แก๊งมาเฟียหมัดงูด้วยตัวเองเลย ” มาวินตั้งต้นจากหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเริ่มหัวเราะแปลกๆ ปิดท้ายด้วยการเอ็ดตะโรเสียงดัง ทำให้ผู้คนแถวนั้นหันมามองเป็นตาเดียว
 
 
 
สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา