The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
166.59K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
40) ทางสองแพร่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.istockphoto.com
ลำแสงสีเขียวอ่อนพุ่งออกจากฝ่ามือของโกส ด้วยปฏิกิริยาที่ว่องไว ทำให้มาวินพลิกหลบได้อย่างหวุดหวิด ถึงกระนั้นแสงประหลาดก็ยังถากแขนของเด็กหนุ่ม ก่อให้เกิดรอยแดงเถือก คล้ายถูกเปลวไฟแผดเผา
เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนวาบตรงบริเวณที่ถูกลำแสง ทำให้ชะงักไปนิดหนึ่ง โกสจึงอาศัยจังหวะนั้น กระโดดถอยหลัง เพื่อหนีออกมาตั้งหลัก
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก.... เล่นชั้นซะอ่วมเลยนะ ไอ้หนู ” โกสหอบเหนื่อย ร่างกายปรากฏรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แต่มาวินไม่ตอบคำใด ดวงตายังไร้ความรู้สึกดุจเดิม ครู่หนึ่งเขาก็ตั้งกระบวนท่าต่อสู้
กายของเนโครมันเซอร์หนุ่มสั่นเทา ดวงตาฉายแววประหลาดใจ เวลาต่อมา เขาก็เอ่ยถามด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“ นี่แก….โดนคาถาไบโอเข้าไป แต่ทำไมถึงไม่เป็นอะไร ”
แม้มาวินจะโดนเพียงเฉียดๆ แต่ก็ทำให้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว คล้ายจะเป็นหวัด แต่เด็กหนุ่มไม่แสดงความอ่อนแอให้ศัตรูเห็นและเตรียมกระโจนเข้าสู่การต่อสู้ ราวกับว่าได้กลายร่างเป็นอสูรสงคราม ผู้นิยมความตาย
“ เฮ้ย ไอ้หนูอย่าเข้ามานะ ไบโอ ” โกสเห็นท่าไม่ดี จึงยิงคาถาออกไป ทว่าลำแสงที่วิ่งแบบตรงๆและขาดความเร็ว ไม่อาจเฉียดกายของเด็กหนุ่ม เขาหลบมันอย่างง่ายดายด้วยการพลิกตัวเพียงนิดเดียว
“ หน็อย......เอาไปอีก ไบโอ ” โกสปล่อยคาถาใส่มาวินอีกเป็นระลอก แต่มันก็ไม่ยากที่จะหลบ ทำให้การระดมยิงแบบสิ้นคิดพลันบังเกิด เขากระหน่ำอีก 10 กว่าที ในที่สุด ลำแสงสีเขียวอ่อนก็ไม่สามารถพุ่งออกจากฝ่ามือของเนโครมันเซอร์หนุ่ม
“ เฮ้ย..... ซวยแล้ว พลังเวทหมด ” โกสยกฝ่ามือขึ้นดู ท่าทางเสียขวัญ
“ จบโชว์ของแกแล้วรึ ” มาวินกล่าวช้าๆ ดวงตาเรียวเล็กหรี่นิดๆ ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูเลือดเย็นและไร้อารมณ์ ผิดกับบุคลิกซุกซนที่ผ่านมา
โกสไม่ตอบคำ เขาได้แต่ยืนกัดฟันกรอดๆด้วยความเจ็บใจ ใบหน้าขาวซีดดูเคร่งเครียดและกดดัน เพราะทุกกระบวนท่าที่มี ไม่อาจทำอะไรเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
“ ดูท่าแกจะจบแค่นี้ซินะ ” มาวินขยับกาย เพื่อเตรียมเผด็จศึกครั้งสุดท้าย
“ บ้าที่สุด เราทำอะไรไม่ได้เลย นี่ถ้ามันไม่หลบคาถาของเรา ก็คงไม่พ่ายแพ้แบบนี้ ” โกสแหงนหน้าขึ้นฟ้า เพื่อกู่ร้อง ระบายความเจ็บปวดที่อัดแน่นในใจ
ทันทีที่มาวินได้ยินคำรำพัน คิ้วก็กระตุกเล็กน้อย เขาตัดสินใจหยุดโจมตีชั่วคราว จากนั้นก็กล่าวกับเนโครมันเซอร์หนุ่มด้วยเสียงที่ห้าวหาญ
“ เมื่อกี้บอกว่า....ถ้ายิงคาถาโดนชั้น นายจะไม่แพ้ ใช่มั้ย ”
ใบหน้าขาวซีดของเนโครมันเซอร์หนุ่มกระตุกนิดๆ ดวงตาแดงก่ำจ้องมายังอริร่างเล็ก ท่าทางหวาดระแวง ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบคำถามอย่างระมัดระวัง
“ ใช่แล้ว ถ้าโดนคาถาของข้าเข้าไปเต็มๆ เพียงทีเดียว เจ้าก็เน่า ”
มาวินมองเนโครมันเซอร์หนุ่มแบบเหยียดๆอยู่แวบหนึ่ง ก่อนเปิดปาก
“ นายใช้น้ำยาเติมพลังเวท แล้วยิงคาถาเข้ามา ชั้นจะไม่หลบเลย ดูซิว่า.....คราวนี้นายจะอ้างอะไรอีก ”
ดวงตาของโกสเบิกโพลง เพราะตั้งแต่ต่อสู้มา ไม่เคยมีใครท้าทายให้ยิงคาถาใส่ตัวเอง ไม่แน่ใจว่าสติของมาวินยังดีอยู่หรือไม่ ถึงกระนั้น เนโครมันเซอร์หนุ่มก็ไม่ปฏิเสธ เขารีบหยิบขวดน้ำยาสีขาวขนาดเล็กออกมา แล้วกระดกมันอย่างรวดเร็ว
“ อ้า.... เยี่ยมจริง พลังเวทของข้ากลับมาแล้ว ” พอโกสกินน้ำยาจนหมดขวด เขาก็แหกปากร้องด้วยความสะใจ ถ้าเพ่งมองให้ดี จะเห็นประกายแสงสีขาวจางๆแผ่ออกมาจากกายผอมบาง
มาวินยิ้มมุมปากนิดๆ เขาดูพอใจที่เห็นเนโครมันเซอร์หนุ่มฟื้นตัว ส่วนโกสก็มีกำลังใจขึ้นมา เพราะได้พลังเวทกลับคืน
เหมยลี่รู้สึกไม่สบายใจ ทุกสิ่งที่มาวินกระทำ ล้วนผิดหลักการสัประยุทธ์ที่ดี มีที่ไหนที่ปล่อยให้ศัตรูซึ่งแพ้แน่ๆได้กลับมามีโอกาสต่อสู้ เธอจึงกล่าวเบาๆ สีหน้าแลกลัดกลุ้ม
“ นายแปลกไป ”
พอมาวินเห็นโกสฟื้นพลัง เด็กหนุ่มก็กล่าวช้าๆ ท่าทางเลือดเย็น
“ พร้อมแล้วก็มาสนุกกันต่อ ชั้นยังเหลือความแค้นครั้งสุดท้ายที่ต้องชำระ ”
โกสไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มพูดถึงอะไร แต่เขาก็รู้สึกย่ามใจ เมื่อได้พลังเวทกลับมา มิหนำซ้ำคู่ต่อสู้ผู้โง่เขลายังเสนอให้ยิงคาถาใส่ ไม่ชนะก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว และคาถาที่เลือกใช้จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกเสียจาก……..
“ เดท ”
สิ้นคำ ลูกบอลแสงขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของโกส แสงนั้นดำสนิท ราวกับเป็นตัวแทนยมทูตที่คอยล่าดวงวิญญาณของเหล่ามนุษย์
“ เหวอ...... ” เสียงอุทานด้วยความหวาดกลัวฟังไม่ได้ศัพท์ ทั้งเหล่าชาวบ้านและอันธพาลต่างพากันถอยหนี เพราะทุกคนรู้ซึ้งถึงพิษสงของคาถาบทนี้
โกสมองมาวินด้วยแววตากระหายเลือด ปากก็หอบถี่ เพราะคาถาบทนี้แทบจะกินพลังเวททั้งหมด แต่เด็กหนุ่มไม่หวาดกลัว เขาย่อตัวลงเล็กน้อย มือซ้ายนำมือขวา แน่นอนว่ากระบวนท่าที่ใช้ก็คือ……
“ กระบวนท่าเสือดาวไล่เหยื่อ ”
“ ฮี่ๆ.... ตกลงแกจะไม่หลบเวทมนตร์บทนี้จริงๆเหรอ ” โกสหัวเราะเบาๆ ดวงตาดูมุ่งร้าย
“ ใช่.....ชั้นจะล้างแค้น โทษฐานทำให้ทุกคนต้องมัวหมองจากคาถาฝันร้ายที่แสนทุเรศ แกต้องตายด้วยกระบวนท่านี้ ” มาวินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาฉาบไปด้วยไฟอาฆาต ทันใดนั้นเอง เสียงห้าวที่สดใสก็ดังมาจากด้านหลัง
“ เจ้าลิงหัวเขียวอย่าพุ่งเข้าใส่คาถาเดทโดยตรง มันคือคาถามรณะ ถ้าใครโดนเข้าไป มีสิทธิตายในทีเดียว ”
โกสมองมา เพื่อดูว่าใครเป็นคนเตือน พอรู้ว่าเป็นเหมยลี่ เขาก็แกล้งหลิ่วตาให้เล็กน้อย แล้วกล่าวหยอกเย้า
“ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดหรอก พวกเราตกลงกันว่าจะดวลให้รู้ผลในทีเดียว มาลองดูกัน ระหว่างกระบวนท่าของแกกับคาถาของข้า ใครจะแน่กว่ากัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า....... ”
เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ตอบคำ เขาค่อยๆย่อตัวลงต่ำ ส่วนโกสก็เกร็งกาย เพื่อเตรียมปล่อยคาถาเด็ด แสงสีดำเริ่มหมุนวนแรงขึ้นจนดูคล้ายพายุขนาดเล็ก ทว่าเหมยลี่ยังไม่คลายความพยายามที่จะทำให้มาวินเปลี่ยนใจ เธอร้องเตือนอีกครั้ง
“ มาวิน ใจเย็นๆก่อน ถ้าโดนคาถาเดทเข้าไปเต็มๆ มีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่จะตายในทันที ถึงรอดมาได้ นายก็อาจบาดเจ็บหนักหรือไม่ก็พิการ มันคุ้มแล้วหรือที่ต้องทำศึกแลกชีวิตแบบนี้ ”
ทันทีที่ได้รับฟัง เด็กหนุ่มก็ชะงักเล็กน้อย แววตาขุ่นมัวเริ่มคลายลง ทำให้เหมยลี่มีความหวัง เธอจึงกล่าวเตือนสติอีกครั้ง
“ มาวิน ถึงนายจะชนะ แต่ก็ต้องฆ่าไอ้หมอนี่ จะยอมให้มือเปื้อนเลือดอย่างนั้นเหรอ และเมื่อนายเดินในเส้นทางนี้ ก็จะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม ”
คราวนี้ ดวงตาที่ไร้แววของเด็กหนุ่มเริ่มมีประกาย สติสัมปชัญญะกำลังกลับคืน ใบหน้าเรียวเล็กคลายความเย็นชา แต่ทุกสิ่งล้วนไม่รอดตาของโกส เขายอมให้อริร่างเล็กมีสติไม่ได้ จึงรีบพูดแทรก เพื่อปลุกไฟแค้นให้ลุกโชน
“ เฮ้ อย่าไปฟัง ขืนทำตาม คงไม่มีทางล้างแค้นเป็นแน่ ทีนี้คนรักของแกก็จะถูกข้าย่ำยีฟรีๆ จะว่าไป ก็น่าเสียดายนะที่ทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...... ”
เมื่อได้ฟังคำเย้ยหยัน ไฟแค้นของมาวินก็ลุกโชนอีกครั้ง เขากู่ร้องออกมาจนสุดเสียง
“ แกตายซะเถอะ กระบวนท่าเสือดาวไล่เหยื่อ ”
มาวินพุ่งเข้าใส่ มันเร็วจนคนธรรมดาแทบมองไม่ทัน แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเข้าถึงตัว โกสก็ยิงคาถาสุดยอดออกมา
“ เดท ”
ลำแสงดำทะมึนพุ่งเข้าใส่มาวินอย่างรวดเร็ว ไม่มีทางหลบคาถานั้นพ้น เพราะเด็กหนุ่มได้วิ่งเข้าไปบวกสุดกำลังจนไม่อาจรั้งฝีเท้าของตัวเอง มันจึงวิ่งปะทะยอดอกเต็มเปา
“ ตูม ”
เสียงกระทบดังสนั่น คล้ายถูกถุงกระสอบหนักๆกระแทกใส่ แม้จะโดนคาถาเข้าไปเต็มๆ แต่เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่สนอะไรแล้ว เขายังวิ่งเข้าหาโกสด้วยความเร็วเท่าเดิม เสี้ยววินาทีต่อมา หมัดที่เต็มไปด้วยไฟแค้นก็อัดเข้าไปที่กระพุ้งแก้มของศัตรู
“ อุ้ก ” โกสร้องได้คำเดียว ก่อนเซถอยหลัง ส่วนมาวินก็สืบเท้าเข้าไปอัดด้วยหมัดขวา จากนั้นก็ตามไปติดๆอีก 4-5 หมัด
“ อุ้ก อั้ก อึก โอ้ก ” โกสถอยหลังในทุกหมัดที่มาวินปล่อย และในหมัดที่สิบ เด็กหนุ่มได้ยิงขวาตรงไปที่ลิ้นปี่ ทำให้ผู้วิเศษยืนตัวงอด้วยความจุกเสียด
“ แกตาย หมัดสุดท้ายสำหรับคุณแม่ ” เด็กหนุ่มตวาดสุดเสียงจนทุกคนในที่นั้นได้ยิน อึดใจต่อมา เขาก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ เพื่อเตรียมทิ้งหมัดคู่ใส่อริ เป้าหมายคือกลางกระหม่อม ช่วงเวลานั้นเอง เหมยลี่ก็ร้องห้ามมาวิน
“ อย่า นายวิน ”
พอเด็กหนุ่มได้ยินเสียงร้องห้าม กายก็กระตุกเล็กน้อยคล้ายโดนไฟช็อต สติสัมปชัญญะพลันกลับคืน เนื่องจากน้ำเสียงและสำเนียงของเหมยลี่เหมือนกับ จัน อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ถึงกระนั้น เขาก็ไม่อาจหยุดยั้งกระบวนท่านี้ เพราะได้ปล่อยพลังออกมาจนหมด
“ ตูม.... ”
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่มีใครคิดว่าโกสจะรอดชีวิต พอควันจางลง สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็คือ………ร่างผอมบางของเนโครมันเซอร์หนุ่มที่หยัดยืน ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆสถิตอยู่ ส่วนเด็กหนุ่มหัวเขียวผู้บ้าคลั่ง บัดนี้อยู่ในท่าคุกเข่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหมัดคู่ที่ทิ้งลงมา ไม่ได้ทิ่มกลางกระหม่อม แต่กลับซัดไปที่พื้น ก่อให้เกิดหลุมเล็กๆขนาดฝ่ามือ
โกสยืนโงนเงน พลางยิ้มให้มาวิน ท่าทางอ่อนแรง ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวยียวนเป็นการทิ้งท้าย
“ เป็นไง เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ ใช่มั้ยล่ะ ”
พอจบประโยค เนโครมันเซอร์หนุ่มก็ล้มลงนอนหงาย มาวินจึงลุกขึ้นยืนอย่างเต็มภาคภูมิ ใบหน้าเริ่มคลายความเย็นชาและกลับมาอ่อนเยาว์ดังเดิม เขาเหลือบมองศัตรูที่นอนสิ้นสภาพอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ เฮ้อ..... เกือบไปแล้ว ถ้าไม่ได้เสียงร้องห้ามของจัน เฮ้ย ยัยโย่ง เราคง…..” เด็กหนุ่มนึกสยองในสิ่งที่เขาเกือบจะทำ
เหมยลี่ถอนหายใจออกมาเช่นกัน อีกเพียงนิดเดียว มาวินก็จะกลายเป็นฆาตกร โชคดีที่เด็กหนุ่มยั้งตัวไว้ได้ทัน เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอ่ยถามเบาๆด้วยเสียงที่อ่อนโยน
" เป็นยังไงบ้าง เจ้าลิงหัวเขียว เมื่อกี้นายโดนคาถาเดทเข้าไปเต็มๆเลยนี่ "
มาวินยิ้มกวนๆให้เด็กสาวร่างสูง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงที่อ่อนล้า
" ฮะๆ ก็พอไหว "
พอมาวินพูดจบ กายบางก็ทรุดลง แต่เหมยลี่เข้ามาประคองได้ทัน สองตาเกิดสบกันโดยบังเอิญ มันเป็นการมองอย่างมีความหมาย สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเด็กสาวที่เมินหนี
" นายนี่มันจริงๆเลย ไหนบอกว่าไหวไง " น้ำคำของเหมยลี่ดูกระชากนิดๆ คล้ายจะเคือง แต่ใบหน้ากลับแดงเล็กน้อย
" ทีแรกนึกว่าไหว แต่ที่ไหนได้ พอจบการต่อสู้ก็หมดแรงอย่างที่เห็น แต่ดีแล้วที่มันจบแบบนี้ ฮะๆ " เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ
เด็กสาวไม่ตอบคำ แต่กลับมองตรงไปข้างหน้าอย่างปราศจากความหมาย ส่วนมาวินได้แต่ยืนหลับตา ใบหน้าเรียวเล็กแย้มยิ้มอย่างเป็นสุข ครู่หนึ่ง เสียงโห่ร้องยินดีของเหล่าชาวบ้านก็ดังกึกก้อง
" เฮ...... ชนะแล้ว พวกเราเป็นอิสระแล้ว "
เหมยลี่มองเหล่าชาวบ้าน หลายคนดีใจจนกระโดดกอดกันเอง บางคนถึงกับทรุดกายลงกับพื้น พร้อมหลั่งน้ำตาแห่งความยินดี บรรยากาศในหมู่บ้านดูครื้นเครงขึ้นมาทันที นับว่าเป็นการปลดแอกที่สมบูรณ์
" ดูซิ พวกชาวบ้านดีใจกันมาก และนี่คือสิ่งที่นายทำนะ เจ้าลิงหัว....." เด็กสาวร่างสูงกล่าวชมอย่างจริงใจ แต่ไม่ทันจบคำ เธอก็หยุดพูด เพราะได้ยินเสียงกรนเบาๆ
" ครอก......ฟี้ "
เหมยลี่หันไปมองคู่สนทนา จึงพบว่าเจ้าลิงหัวเขียวได้สลบไสลไปแล้ว เด็กสาวร่างสูงมองใบหน้ายามหลับใหลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก
" หลับให้สบายเถอะ เจ้าลิงน้อย นายทำได้ดีมาก "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ