The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) เสือดาวไล่เหยื่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

เครดิตภาพจาก  https://pixabay.com
       
       กลุ่มอันธพาลถึงกับอึ้งกิมกี่ต่อการปรากฏตัวของเด็กหนุ่ม เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หัวหน้าทีมร่างใหญ่ก็หายงุนงง
 
“ เฮ้ย ไอ้หนู เอ็งเข้ามาสอดทำไมฟะ ” 
        
 
        เด็กหนุ่มหัวเขียวเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเปล่งประกายแข็งกร้าว ก่อนจะกล่าวช้าๆชัดๆ
 
“ ตอนแรกก็ไม่คิดยุ่ง แต่การกระทำของพวกแก มันชั่วเกินรับได้ จะสู้หรือจะถอย ว่ามาเลย ”  
        
 
        เหล่าอันธพาลต่างพากันเงียบกริบ เหตุเพราะการโจมตีเมื่อครู่ทั้งดุดันและว่องไวราวกับนักสู้มืออาชีพ ไม่นาน ลิ่วล้อคนหนึ่งก็เตร่เข้ามากระซิบที่ข้างหูของหัวหน้าใหญ่
 
“ ลูกพี่ เอาไงดี ท่าทางฝีมือของไอ้หนูคนนี้จะไม่ใช่ย่อย เผลอแพล็บเดียว มันเก็บเราไปตั้งสองคน ” 
          
 
       หัวหน้าทีมหน้าซีด เหงื่อตก แต่ด้วยความเป็นผู้นำ เขาจึงเก็บความกลัวเอาไว้ในใจ แล้วเค้นความกล้าทั้งหมดออกมาปลุกปลอบพรรคพวก
 
“ ไม่ต้องกลัวมัน เมื่อกี้แค่ฟลุก มันฉวยโอกาสเล่นงานตอนที่พวกเราเผลอ ฝีมือจริงๆคงไม่เท่าไหร่ ” 
           
 
        สีหน้าของชาวแก๊งดูไม่ดีขึ้นมาเลย ทุกคนไม่เชื่อในน้ำคำของหัวหน้าทีม อึดใจต่อมา ลิ่วล้อคนเดิมก็เอ่ยถามจ่าฝูงอีกครั้ง 
 
“ แล้วพวกเราจะเอายังไงต่อ ลูกพี่ ” 
         
 
        หัวหน้าทีมร่างใหญ่จ้องไปที่อริน้อยไม่วางตา เขาพิจารณาอยู่อึดใจ ก่อนดำเนินนโยบายแบบสุขุม
 
“ อย่าลุยเข้าไป แค่ตั้งรับเอาไว้ให้ดีก็พอ ” 
 
“ ครับผม ” ลูกน้องรับคำพร้อมกัน ทุกคนรู้สึกครั่นคร้ามในฝีมือของมาวิน 
         
 
         พอมาวินได้ยินแผนการรบของชาวแก๊ง ก็รู้ว่าศัตรูไม่บุกเข้ามา เด็กหนุ่มจึงตัดสินตะโกนข่มขวัญ
 
“ เฮ้ย ถ้าพวกแกไม่บุกเข้ามา ชั้นจะบุกเข้าไปล่ะนะ ” 
       
 
          ลิ่วล้อและหัวหน้าทีมไม่ตอบคำ แต่เตรียมตั้งรับเต็มอัตราศึก  
 
“ ดีล่ะ ” มาวินตั้งกระบวนท่า แต่ก่อนจะบุกจู่โจม เหมยลี่ก็กล่าวเตือนสติ
 
“ ชั้นว่าใช้กระบวนท่าแมวป่าที่นายถนัดดีกว่า อย่าเพิ่งใช้กระบวนท่าเสือดาวที่ฝึกวันนี้เลย เพราะยังไม่ชำนาญพอจนเอาไปใช้สู้จริง ” 
 
“ หน็อย...... ดันมารู้ทันอีกว่าจะโชว์ท่าที่ฝึกในวันนี้ ไม่ต้องกังวลหรอกน่า คอยดูฝีมือของชั้นให้ดีก็แล้วกัน ” เด็กหนุ่มโวยเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปประจันหน้ากับคู่ต่อสู้
 
“ เฮ้อ…… ตามใจ เจ้าลิงหัวดื้อ ” เด็กสาวร่างสูงถอนหายใจ เพราะรู้สึกระอากับความดื้อรั้นของมาวิน 
        
 
        มาวินตั้งท่าเตรียมโจมตี มือขวาตั้งหมัดนำ มือซ้ายยื่นหมัดตาม ขาทั้งสองย่อลงเล็กน้อย อากัปกิริยาคล้ายเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าออกแรงๆอยู่สามสี่ที ก่อนจะร้องตะโกนจนสุดเสียง 
 
“ กระบวนท่าเสือดาวไล่เหยื่อ ” 
        
 
        เด็กหนุ่มทะยานออกจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าถึงกลุ่มศัตรู เขาก็ออกหมัดซ้ายสลับขวาพร้อมสืบเท้าไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 
 
“ เฮ้ย ระวัง มันมาแล้ว ” บรรดาลิ่วล้อพากันหลีกหนีการโจมตีที่ดุดัน เมื่อเด็กหนุ่มฝ่าฝูงคนจนถึงตัวหัวหน้าใหญ่ซึ่งอยู่ท้ายสุด เขาก็กระโดดสุดกำลัง 
 
“ ย่า…… ”
         
 
        เด็กหนุ่มหัวเขียวลอยตัวอยู่กลางอากาศหลายวินาที บ่งบอกถึงกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นและแข็งแรง แต่สุดท้าย ก็ต้องร่วงหล่นตามกฎแรงดึงดูด จังหวะที่ทิ้งดิ่ง เขาได้ทิ่มหมัดคู่ลงมา เป้าหมายคือกลางกระหม่อมของหัวหน้าใหญ่
 
“ โครม ” 
       
 
         เสียงของแข็งกระทบกันอย่างรุนแรงจนฝุ่นลอยฟุ้งตลบอบอวล ทุกคนถึงกับชะงักงัน พอควันจางลง ก็ประจักษ์ภาพ…….เด็กหนุ่มหัวเขียวที่กระโดดไปมา พร้อมแหกปากร้องเสียงดัง 
 
“ โอ๊ย….. ว้าก…..อุ้ย….ต่อยพลาดไปอัดเอาพื้นดินอีกแล้ว ” 
         
 
        สิ่งที่เกิดเกินความคาดหมายของเหล่าลิ่วล้อ แต่ในที่สุด หนึ่งในกลุ่มก็รู้สึกตัวและร้องตะโกนออกมา
 
“ เฮ้ย พวกเรา ไอ้เด็กบ้านี่ มันพลาดแล้ว รุมตื้บมันเลย ” 
 
“ เออ ใช่ เฮ…… ” เมื่อพรรคพวกตั้งตัวติด พวกเขาก็กรูกันเข้าไปรุมยำ
        
 
         เหล่าสมุนพากันประเคนทั้ง เข่า เท้า หมัด ศอก ใส่มาวินที่ยืนเอ๋ออยู่กลางวงเป็นพัลวัน เด็กหนุ่มร่วงลงไปนอนกอง แขนทั้งสองยกคลุมศีรษะ ตัวงอคุดคู้แบบคนสิ้นท่าที่รอเวลาโดนกระทืบ 
         
 
         ระหว่างที่เหล่าลิ่วล้อรุมสกัมมาวินจนสนุกเท้า เด็กสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ 
 
“ เฮ้อ….. ก็บอกแล้วว่ายังเอาไปใช้สู้จริงไม่ได้ ” 
        
 
         เหมยลี่หยิบหินขึ้นมาสิบก้อน เธอย่อตัวลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องกลุ่มคนที่กำลังระดมเท้าใส่มาวินซึ่งนอนคุดคู้ จากนั้นก็ตวัดมือออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อส่งกระสุนหินไปยังเป้าหมาย
 
“ โอ๊ย ” 
        
 
        ลิ่วล้อคนหนึ่งร้องดัง ก่อนเซไปข้างหลัง เหตุเพราะถูกก้อนหินบินเข้ามากระทบที่ขมับ ชาวแก๊งที่เหลือพากันหยุดชะงัก ถึงกระนั้น มหกรรมการขว้างหินของเด็กสาวร่างสูงก็ยังไม่หยุดยั้ง หินก้อนที่สอง สาม สี่ ห้า เริ่มปลิวเข้ามาอัดเหล่าอันธพาลอย่างต่อเนื่อง 
 
“ โอ๊ย อ้าก เอ๋ง ” เหล่าลิ่วล้อต่างพากันร้องครวญคราง ท่าทางดูน่าเวทนา         
       
 
         มาวินเห็นจังหวะดี จึงยกเท้าขึ้นถีบยอดอกของคนที่อยู่ใกล้สุด จากนั้นก็รีบฉากออกมาจากวงล้อม
 
“ เฮ้ย ไอ้เด็กนั่นหนีไปแล้ว ” เหล่าลิ่วล้อตกใจที่เหยื่อสหบาทหนีรอดไปได้ แต่ทุกคนก็ไม่คิดติดตาม เพราะมัวแต่กลัวว่าจะโดนก้อนหินบินเข้ามาเล่นงาน
        
 
        มาวินหยุดยืนอยู่ข้างเหมยลี่ เขาบาดเจ็บพอสมควร ตามตัวมีแต่รอยฟกช้ำ แถมเสื้อแขนกุดที่สวมใส่ก็ปรากฏรอยเท้าหลากหลายไซส์ประทับอยู่ คล้ายว่าจะเป็นดีไซน์ใหม่ก็ไม่ปาน 
 
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…. ใช้ท่านี้ไม่ได้จริงๆด้วย ” มาวินหอบถี่ พลางกล่าวกับเหมยลี่ โดยไม่หันมอง
 
“ ก็บอกแล้ว ไม่ฟัง ห่วงเท่ไม่เข้าเรื่อง ” เหมยลี่ตำหนิแรงๆ โดยไม่แยแสว่ามาวินจะรู้สึกยังไง 
 
“ ฮะๆ ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ เห็นท่าใหม่แรงดีและฝึกไม่ยาก เลยคิดว่าใช้ได้ผลในทันที ” มาวินตอบเพลียๆ ดูเหมือนเขาจะชินวาจาตรงๆของเด็กสาว เลยไม่จดจำใส่ใจ 
 
“ ดีแล้วที่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด จริงๆแล้ว ท่าเสือดาวไล่เหยื่อเหมาะแก่การทะลวงเข้าไปอัดศัตรูกลุ่มใหญ่ เพียงแต่นายเพิ่งฝึก จึงจับจังหวะการพุ่งตัวและการออกหมัดไม่ได้ ” เหมยลี่อธิบายอย่างละเอียด 
 
“ อืม……” มาวินพยักหน้ารับคำ ดูเหมือนความผิดพลาดในครั้งนี้ จะทำให้เด็กหนุ่มละพยศได้เล็กน้อย 
         
 
        เหมยลี่เริ่มตั้งท่าเสือดาวไล่เหยื่อบ้าง ดวงตาจับจ้องไปที่ศัตรูกลุ่มใหญ่อันเป็นเป้าหมาย ปากก็กล่าวกับมาวินด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
 
“ จับจังหวะการโจมตีให้ดีๆ ชั้นจะทำให้นายดูอีกครั้ง ” 
 
“ อืม….. ” เด็กหนุ่มรับคำ พร้อมจ้องกระบวนท่าที่เหมยลี่จะปล่อยออกมาอย่างตั้งใจ
 
“ คอยดูให้ดี นี่คือกระบวนท่า…..เสือดาวไล่เหยื่อ ” 
       
 
       เมื่อเด็กสาวประกาศนามของท่าเสร็จ เธอก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืน เพียงพริบตา ก็เข้าถึงตัวลิ่วล้อคนแรก หมัดซ้ายถูกปล่อยเข้าไปที่ลิ้นปี่ ด้วยความรวดเร็วในการจู่โจม ทำให้ชาวแก๊งผู้เคราะห์ร้ายล้มลงไปนอนแน่นิ่งในทันที 
 
“ อุก ” 
 
“ เฮ้ย มันมาได้ไง…โอ๊ย ” ลิ่วล้อรายที่สองเริ่มโวยดัง แต่ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็ร่วงลงไปกองกับพื้นอีกคน ด้วยถูกหมัดขวาของเด็กสาวอัดเข้าไปที่ทรวงอก 
         
 
         เหมยลี่ยังคงรุกคืบไปข้างหน้าอีกหลายก้าว พร้อมพุ่งหมัดซ้ายสลับขวาใส่คู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงร้องครวญครางดังระงม 
 
“ ปึกๆ โอ๊ย ปั้กๆ อุ้ก อ้าก ปึงๆ ” 
        
 
        เหล่าลิ่วล้อล้วนโดนหมัดซ้ายขวาจนร่วงลงไปนอนนับดาว จากหนึ่งไปสอง จากสองไปสามและสี่ ห้า หกตามลำดับ ในที่สุด ก็เหลือเพียงหัวหน้าทีมร่างใหญ่
 
“หน็อย.... นังหนูคนนี้ ” ชายร่างยักษ์ผู้เป็นหัวหน้าทีมตวาดเสียงดัง ก่อนจะวิ่งเข้ามากระแทกด้วยหัวไหล่ โดยหวังว่าส่วนหนาของร่างกายจะหยุดการจู่โจมที่ดุดัน ทว่าเขากลับกระทบแต่อากาศที่ว่างเปล่า
 
“ เหวอ....... ” หัวหน้าทีมร่างยักษ์ถลาไปข้างหน้า เนื่องจากจั่วลมแบบเต็มๆ เมื่อตั้งหลักได้ เขาก็เหลียวมองไปรอบๆ เพื่อควานหาเด็กสาว 
 
“ เอ๋......มันหายไปไหนฟะ ” หัวหน้าทีมสบถ ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงร้องทักจากเบื้องบน 
 
“ อยู่ตรงนี้ เจ้าโง่ ”  
       
 
         หัวหน้าทีมเงยหน้าขึ้นมอง ภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือร่างสูงเพรียวของเด็กสาวที่กำลังทิ้งดิ่งลงมาพร้อมหมัดคู่ 
 
“ ตูม ” 
       
 
       เสียงปะทะดังสนั่นยิ่งกว่าครั้งที่มาวินโจมตีอยู่หลายเท่า ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่ทรุดกายลงไปนอนคว่ำ ด้วยถูกหมัดคู่อัดเข้าไปที่กลางกระหม่อมแบบเต็มสองมือ 
 
“ ว้าว……. ” มาวิน ถึงกับตาลุกวาว เมื่อประจักษ์กับการออกกระบวนท่าที่รุนแรงและรวดเร็ว ที่สำคัญ….เหมยลี่สามารถอัดศัตรูร่วมสิบคนให้ล้มลงไปนอนวัดพื้นในกระบวนท่าเดียว สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า……..เขายังห่างไกลกับคำว่ายอดฝีมือ
        
 
        เหมยลี่ลุกขึ้นยืนช้าๆ เธอเอามือปัดฝุ่นที่ติดตามร่างกาย ก่อนหันกลับมามองมาวิน สายตานิ่งเฉยจนไม่อาจคาดเดาถึงอารมณ์
        
 
        ไม่ทันที่วัยรุ่นทั้งสองจะได้เจรจาความ กลุ่มชาวบ้านนับสิบก็กรูกันเข้ามาแสดงความดีใจ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มหัวเขียวถึงกับถูกจับโยนขึ้นไปลอยกลางอากาศ ทั่วทั้งหมู่บ้านมีแต่เสียงโห่ร้องยินดี 
 
“ เฮ..... ปราบพวกมันได้แล้ว เฮ…… ” 
 
“ เฮ้ๆ เดี๋ยว ใจเย็นก่อน ชั้นเริ่มเวียนหัวแล้ว ” มาวินรู้สึกมึนงง เพราะต้องลอยขึ้นไปกลางอากาศครั้งแล้วครั้งเล่า มันเป็นการแสดงความยินดีที่ทรมานยิ่งกว่าการฝึกวิชากับเหมยลี่
 
………………………..
         
        บริเวณป่าใกล้หมู่บ้านลูกากู มีถ้ำใหญ่สถิตอยู่ ที่นั่นเป็นแหล่งกบดานของแก๊งยมทูต ภายในประดับประดาไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ได้มาจากการรีดไถ โต๊ะ ตู้ เตียง ถูกจัดวางตามจุดต่างๆอย่างเป็นระเบียบ มีมุมที่ใช้เก็บเสบียงซึ่งสามารถเลี้ยงคนได้นับสิบ ด้านในสุดปรากฏแท่นหินที่ดูคล้ายบัลลังก์ 
      
 
       บุรุษปริศนานั่งอยู่บนบัลลังก์หิน ค่อนข้างวางก้าม ท่าทางคล้ายพระราชาองค์หนึ่งในอาณาจักรเถื่อน เรายังไม่เห็นนายคนนี้ได้ถนัดนัก เพราะเขาอยู่ด้านในสุด แถมยังมีความมืดมิดคอยปกคลุม 
           
 
        ระหว่างนั้นเอง ก็มีชายร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังลานกว้างหน้าบัลลังก์ กระทานายนี้น่าจะเป็นหนึ่งในแก๊งยมทูต เพราะสวมใส่ชุดดำทั้งเสื้อและกางเกงอันเป็นยูนิฟอร์มหลัก ทันทีที่มาถึง เขาก็รีบแจ้งข่าวแก่บุรุษปริศนา
 
“ แย่แล้วครับ ท่านผู้วิเศษ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พวกชาวบ้านก่อกบฏ ” 
           
 
         บุรุษปริศนายังคงนิ่งเงียบ แต่เหล่าชายฉกรรจ์อันเป็นสมาชิกแก๊งถึงกับหน้าตื่น บางคนถามกลับ ด้วยอาการร้อนรน
 
“ เป็นไปได้ไง ชาวบ้านพวกนั้นเป็นแค่อาชีพขั้นที่หนึ่งเท่านั้นเอง ไม่น่าจะมีกำลังมาต่อต้านพวกเรา ” 
 
“ ใช่ครับ เหล่าชาวบ้านไม่สามารถต่อต้านพวกเราได้แน่…..แต่ ” ชายผู้แจ้งข่าวอ้ำอึ้ง 
 
“ แต่อะไรเล่าฟะ ” ชายร่างใหญ่กระชากคอเสื้อของชายผู้แจ้งข่าวเข้ามาใกล้ เพื่อเค้นถามได้ถนัดขึ้น 
 
“ มีเด็กวัยรุ่นสองคนยื่นมือเข้ามาช่วย ท่าทางจะชำนาญกังฟูซึ่งเป็นอาชีพขั้นสอง พวกมันมีฝีมือร้ายกาจมาก สามารถอัดพวกเราจนร่วงล้มในพริบตา ” ชายผู้แจ้งข่าวเล่าออกมา ท่าทางดูตื่นๆ  
 
“ หา….. มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ ใครบังอาจต่อต้านแก๊งยมทูต พวกมันเลวมาก ” ชายร่างใหญ่ระเบิดอารมณ์โกรธ ก่อนเหวี่ยงคนแจ้งข่าวอย่างรุนแรงจนกระเด็นกระดอน
        
 
        ทันใดนั้นเอง เสียงแหบพร่าก็ดังออกมาจากปากของบุรุษปริศนาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หิน 
 
“ ตอนนี้หัวหน้าทีมและเหล่าลูกสมุนที่ส่งไปเก็บส่วย เป็นยังไงบ้าง ” 
        
 
          คนแจ้งข่าวกลัวลนลาน เขารีบคุกเข่า ก่อนตอบแบบล่กๆ 
 
“ ผมไม่แน่ใจ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตายร้ายดีประการใด ” 
        
 
         บุรุษปริศนาที่ถูกขนานนามว่า ท่านผู้วิเศษ นิ่งไปอึดใจ ก่อนเอ่ยถาม 
 
“ แล้วเจ้ารอดมาได้ยังไง ” 
 
“ เอ่อ…อ่า… ” ชายผู้แจ้งข่าวกลัวลนลานหนักกว่าเดิม เขาเริ่มอ้ำอึ้งและติดอ่างอย่างฉับพลัน 
 
“ ว่ายังไง รีบบอกมา ” เสียงแหบพร่าที่ดูน่ากลัวจากบุรุษปริศนาดังขึ้นมาอีกครั้ง 
        
 
        ใบหน้าผอมซูบของชายผู้แจ้งข่าวซีดเผือดลงไปอีก เหงื่อในกายไหลโชกราวกับอาบน้ำ ครู่หนึ่งเขาก็แจงเหตุช้าๆ น้ำเสียงสั่นเทาจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
 
“ ผม….. นะ…..หนีมาครับ คะ…..คู่ต่อสู้ เก่งเกินไป ละ….เลยจำเป็นต้องหนี ” 
        
 
         สิ้นคำกล่าว บุรุษปริศนาก็นิ่งไปอึดใจ ก่อนกล่าวเบาๆแค่พอได้ยิน
 
“ ไบโอ ”  
        
 
        แสงสีเขียวอ่อนพุ่งออกมาจากมือของบุรุษปริศนา มันกระทบถูกสมุนร่างสูงผู้ขี้ขลาด
 
“ อั้ก ” สมุนผู้นั้นเซถอยหลัง สีหน้าดูเจ็บปวดเล็กน้อย คล้ายถูกหมัดเบาๆกระทุ้งเข้าไปที่หน้าท้อง  
         
 
        เวลาผ่านไปไม่กี่วินาที ชายผู้แจ้งข่าวเริ่มตาเหลือก ใบหน้าซีดหนักกว่าเดิมจนดูเหมือนคนตาย กายที่เคยหยัดยืนก็ทรุดลงไปนอนกอง เหงื่อไหลโชกไปทั่วทั้งตัว น้ำลายฟูมปาก จากนั้นก็ชักกระตุก เริ่มต้นจากเบาๆก่อน ต่อมาก็แรงขึ้นเป็นลำดับ 
          
 
         เหล่าสมุนที่เหลือมองชายผู้แจ้งข่าว สายตาบ่งบอกถึงความสมเพชเวทนาและหวาดกลัว อึดใจต่อมา ทุกคนที่อยู่ภายในถ้ำก็ได้ยินประกาศิตของบุรุษปริศนา
 
“ นี่คือบทเรียน จำเอาไว้ อย่าทำตัวเป็นคนขี้ขลาดและทิ้งพรรคพวกแบบเจ้าหมอนี่ เข้าใจมั้ย ” 
 
“ เข้าใจครับ ท่านผู้วิเศษ ” สมุนทุกคนรับคำโดยพร้อมเพรียง 
 
“ ดีมาก ” ท่านผู้วิเศษในเงามืดคำรามดัง
         
 
         บรรยากาศภายในถ้ำนั้นดูเงียบไปถนัดตา แทบได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ครู่หนึ่ง สมุนใจถึงก็เอ่ยถามผู้วิเศษแบบกล้าๆกลัวๆ 
 
“ แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อครับ  ” 
 
“ ก็รวมพล แล้วยกไปขยี้หมู่บ้านนั้นให้ราบเป็นหน้ากลอง ” ผู้วิเศษตอบกลับทันควัน น้ำเสียงเด็ดขาด แถมความหมายก็โหดเหี้ยมจนจิ๋นซีเรียกพี่
 
 
สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา