The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) อย่าหัวเราะให้มากนัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
............................
ที่ลานกว้างหน้าเคหสถานของผู้ใหญ่บ้าน มีการจัดโต๊ะเลี้ยงฉลองกันยกใหญ่ ชาวประชาทุกคนรวมตัวกันที่นั่น ไม่เว้นแม้กระทั่งหมู หมา กา ไก่ พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใสกันถ้วนหน้า เพราะสามารถขับไล่แก๊งยมทูตออกไปได้ และคนที่เป็นประธานของงานนี้ก็คือ…..มาวินและเหมยลี่ ฮีโร่ผู้กำราบเหล่าร้าย
" เฮ….. ชนแก้ว " ชายหนุ่มน้อยใหญ่พากันดวลสุราจนดูวุ่นวาย ส่วนมาวินและเหมยลี่ ถูกจับให้นั่งกลางวง
เด็กหนุ่มหัวเขียวมีทีท่ากระสับกระส่าย ส่วนเหมยลี่กลับนั่งนิ่งและสุขุม
" นี่ ยัยโย่ง ทำไงดีอ่ะ " มาวินแอบถามด้วยเสียงกระซิบ
เหมยลี่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนตอบกลับช้าๆ
" ถ้าเหตุการณ์ล่วงมาถึงขั้นนี้ คงจากไปง่ายๆไม่ได้ ถึงยังไงซะ เจ้าหัวหน้าใหญ่ที่เป็นเนโครมันเซอร์ต้องบุกมาด้วยตัวเองแน่ เราต้องอยู่รับมือ ไม่งั้นหมู่บ้านนี้จะพังพินาศ "
" อืม….. " มาวินพยักหน้ารับ ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกตัวว่าลืมเลือนใครบางคน
" ฮ้า….. เราลืมไปเลย คุณยายคนเมื่อกี้ หายไปไหนแล้ว "
" น่ากลัวว่าจะกลับบ้าน ไปหาหลานของแกแล้วล่ะ นายไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก " เหมยลี่ตอบเบาๆ สีหน้าและน้ำเสียงยังคงเรียบเฉย
" เชอะ ชั้นไม่ได้ห่วงยายแก่นั่นซักหน่อย แค่คิดว่าจะเรียกค่าจ้างที่พามาส่งต่างหาก เจอกันคราวหน้า จะทวงเงินซะให้เข็ด บังอาจมาใช้ชั้นฟรีๆได้ยังไง " มาวินทำเป็นหงุดหงิด พลางบ่นเรื่อยเปื่อย
เหมยลี่แอบมองมาวินด้วยหางตา เธอยิ้มออกมานิดนึง ดูเหมือนช่วงเวลาเดือนกว่าที่อยู่ร่วมกัน จะทำให้หยั่งซึ้งถึงน้ำใจ ระหว่างนั้นเอง หัวหน้าหมู่บ้านร่างผอมสูงก็เดินตรงเข้ามาหา แม้ใบหน้าจะบอบช้ำจากการโดนทำร้าย แต่ก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม
" เป็นไงมั่ง ลุง หน้าเยินเชียว " ทันทีที่เห็น เจ้าลิงหัวเขียวก็แสดงอาการอยู่ไม่สุขด้วยการถามไถ่
" ฮ่าๆ ก็เจ็บพอสมควรนะ แต่บอกตามตรง ลุงดีใจมาก ถ้าในวันนี้ พ่อหนุ่มและแม่หนูไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย พวกเรามีหวังอดตายแน่ " ชายวัยกลางคนตอบกลับ ใบหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย เพราะยังรู้สึกเจ็บปวด
" ฮะๆ โชคดีจริงนะลุง " มาวินหัวเราะแห้งๆ
เหมยลี่นั่งฟังการสนทนาอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม
" ในเมื่อหมู่บ้านโดนข่มขู่ รีดไถซะขนาดนี้ ทำไมพวกลุงไม่ขอความช่วยเหลือจากทหารรักษาเมืองล่ะ "
" คงจะยากนะ แม่หนู ลำพังแค่ดูแลคนเดินทางเข้าออกที่เมืองแห่งการเริ่มต้นก็วุ่นวายจนทหารเหล่านั้นไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว อีกอย่าง กำลังพลในเมืองมีแค่ 30 นาย จะมาปราบกลุ่มโจรได้ยังไง เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงต้องอยู่อย่างจำทน และถ้าพวกมันกลับมาอีก คงโดนเล่นงานจนอ่วม " หัวหน้าหมู่บ้านวัยกลางคนตอบเบาๆ สีหน้าดูกลัดกลุ้ม
มาวินหันไปมองเหมยลี่ เด็กสาวหน้าคมก็พยักหน้าให้เป็นเชิงอนุมัติ เมื่อทางเปิดโล่งถึงเพียงนี้ เด็กหนุ่มหัวเขียวก็ออกตัว
" ลุงไม่ต้องกังวลเรื่องแก๊งยมทูตหรอก "
" อ้าว……ทำไมหรือ หนู " หัวหน้าหมู่บ้านทำหน้าเหลอหลา
" ก็เพราะพวกเราขออาสาปราบโจรกลุ่มนั้นเอง " มาวินทุบอก เขาดูมั่นใจแบบสุดๆ
" เอ๋…… เดี๋ยวนะ พวกหนูเป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดา แล้วจะไปสู้กับพวกมันได้ยังไง อย่าเชียวนา เอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ " หัวหน้าหมู่บ้านร้องห้าม ท่าทางดูเป็นห่วงเป็นใย แต่มาวินกลับรู้สึกขบขัน
" ฮะ ฮะ ฮะ……. "
หัวหน้าหมู่บ้านเริ่มขุ่นเคืองที่มาวินหัวเราะใส่ความปรารถนาดีของตนเอง จึงเอ่ยถามห้วนๆ
" หัวเราะอะไรหรือ เจ้าหนู "
" หึๆ ก็หัวเราะลุงนั่นแหละ ถามจริงเถอะ พวกมันที่นอนกองร่วมสิบคน ไม่ได้มาจากฝีมือของพวกชั้นหรอกรึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า….. " เด็กหนุ่มอธิบายจบ เขาก็หัวเราะต่อ
" เอ่อ…. จะว่าไป มันก็จริง…..แต่.....พวกมันมีเนโครมันเซอร์เป็นหัวหน้านะ " หัวหน้าหมู่บ้านร้องค้าน
ทันใดนั้นเอง เหมยลี่ผู้เงียบขรึมก็เอามือไปแตะหัวไหล่ของหัวหน้าหมู่บ้าน จากนั้นก็ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
" ใจเย็นๆ เรื่องทั้งหมด พวกเรารับผิดชอบเอง ลุงไม่มีอะไรต้องกังวล "
ทันทีที่ชายวัยกลางคนได้สดับน้ำคำ เขาก็พลันสงบลง มีอะไรบางอย่างในน้ำเสียงที่ดูมีอำนาจและเยือกเย็นจนสามารถสยบจิตใจของผู้ฟัง แม้กระทั่งมาวิน ยังหยุดขบขันและนิ่งฟังคำพูดของเด็กสาว แต่ภายในใจ แอบขบคิด
" ยัยโย่งพูดแบบนี้ได้ด้วยหรือ "
การดื่มกินเป็นไปอย่างดุเดือด แม้เวลาจะล่วงเข้าสู่ช่วงพลบค่ำ สงครามสุราก็ยังไม่คลายตัว ดูท่าทางงานเลี้ยงครั้งนี้มีสิทธิ์ตียาวถึงรุ่งเช้าอย่างแน่นอน ต้องเข้าใจ ชาวบ้านเหล่านี้ถูกกดขี่ข่มเหงมานาน แต่จู่ๆก็มีนางเอกและพระเอก(มั้งนะ)ขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือ ใครมั่งจะไม่ดีใจจนแทบคลั่ง ทว่าทุกคนก็ต้องหยุดดื่มกินอย่างฉับพลัน เมื่อได้ยินเสียงตวาดของกลุ่มชายฉกรรจ์ ผู้มาเยือน
" เฮ้ย หยุดฉลองกันได้แล้วโว้ย "
พวกชาวบ้านหันไปมองเจ้าของเสียง จึงพบว่าผู้กล่าววาจาสามหาวก็คือหนึ่งในแก๊งยมทูต เบื้องหลังมีชายฉกรรจ์ประมาณ 30 เศษประจำอยู่ ทุกคนล้วนอยู่ในชุดดำ สองมือติดอาวุธกันเต็มอัตราศึก ไม่ว่าจะเป็นมีด ไม้กระบอง ดาบเดินป่า ขวาน พิจารณาคร่าวๆ ถ้าเกิดการปะทะกัน หมู่บ้านขนาดเล็กแห่งนี้ต้องราบเป็นหน้ากลองแน่ๆ
" เหวอ….. พวกมันมาแล้ว " ชาวบ้านต่างร้องไห้กันระงม บางคนกลัวจนเข่าอ่อนและทรุดกายอยู่ตรงนั้น มีเพียงมาวินและเหมยลี่ที่ก้าวไปหยุดอยู่ข้างหน้า ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มหัวเขียวไปกินดีหมีมาจากหนใด จึงเป็นฝ่ายตวาดใส่กลุ่มอันธพาลอย่างดุดัน
" เฮ้ย พวกแกยังไม่เข็ดอีกรึไง "
ทันใดนั้นเอง ชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากกลุ่ม เขามีใบหน้ายาว จมูกโด่ง ปากหนาแบะ ดวงตากร้าวแกร่ง ผมบนหัวถูกตัดเป็นทรงโมฮ็อค ทำให้ดูคล้ายชนเผ่าอินเดียนแดงอย่างไม่มีผิดเพี้ยน และสิ่งนี้เองที่ทำให้มาวินขำกลิ้งในบัดดล
" ฮะๆ นี่มีแม้กระทั่งพวกชนเผ่าอาปาเช่เลยหรือนี่ ตลกชะมัด "
ทุกคนในที่นั้นมองหน้ากันเอง ในใจแอบคิด…….เด็กหนุ่มหัวเขียวผู้นี้ปกติดีหรือไม่ และกำลังพูดถึงอะไร ถึงกระนั้น เจ้ายักษ์ใหญ่ในชุดดำ ก็ดูจะไม่ใส่ใจ เขาคำรามดัง กระแสเสียงกระจายไปทั่วบริเวณ
" เฮ้ย เอ็งเป็นแค่เด็กตัวเปี๊ยก แต่ดันมาซ่ากับผู้ใหญ่แบบพวกข้า ไม่อยากแก่ตายแล้ว ใช่มั้ย "
เจ้ายักษ์พูดจบ ก็ก้าวเข้ามาหามาวิน เมื่อเข้าระยะจู่โจม เขาก็ฟาดขวานยักษ์ลงมาที่กระบาล เพื่อหวังให้ขาดสองท่อนในทีเดียว
" ตูม "
คมขวานขนาดใหญ่ฟาดลงไปที่พื้นเต็มแรง บ่งบอกให้รู้ว่าชายผู้นี้จั่วลม เขาประหลาดใจถึงที่สุด เพราะมองไม่เห็นเงาร่างของเด็กหนุ่ม
" เฮ้ย มันหายไปไหนฟะ " ชายร่างยักษ์เหลียวซ้ายแลขวาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงร้องทักที่ด้านหลัง
" อยู่ทางนี้ เฟ้ย "
ชายร่างยักษ์รีบหันหลัง แต่ไม่ทันได้ตั้งหลัก เด็กหนุ่มหัวเขียวก็ยกเท้าขวาขึ้นเตะสูง ฝ่าเท้ามินิไซส์ประทับเข้าไปที่ขมับแบบเต็มรัก
" ปั้ก.....อั้ก "
เสียงฝ่าเท้าปะทะดังสนั่น ด้วยความแรงในการเตะ ทำให้ชายร่างยักษ์เซถอยหลังไปหลายก้าว แต่การโจมตีของมาวินยังไม่จบเพียงเท่านี้ เด็กหนุ่มร่างเล็กพุ่งปราดเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็ว เพื่อปลดปล่อยกระบวนท่าที่ตนเองถนัด
" พยุหะกรงเล็บแมวป่า " มาวินประกาศชื่อกระบวนท่า ก่อนรัวกรงเล็บนับสิบใส่ชายร่างยักษ์อย่างรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน
" ปั้ก ปั้ก ปั้ก……. "
พายุฝ่ามือปะทะไปทุกจุดบนเรือนกายที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ถ้าให้ลองนับเล่นๆ น่าจะไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง แม้ทุกดอกจะไม่หนักนัก แต่ก็สร้างความเสียหายได้เป็นอย่างดี สังเกตจากสีหน้าที่บิดเบี้ยวของผู้ถูกกระทำ
มาวินรัวหมัดใส่จนหมดชุด เขาก็ถอยออกมาสองก้าว เพื่อรอชมผลงาน ทว่าชายร่างยักษ์กลับยืนนิ่งไม่ไหวติง
" เอ…….หรือจะไม่ได้ผล " คิ้วของมาวินขมวดนิ่วด้วยความขัดเคือง
ขณะที่มาวินนึกสงสัยในประสิทธิภาพการโจมตีของตนเอง ชายร่างยักษ์ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะล้มลงไปนอนหงายในบัดดล
" โครม "
บังเกิดความเงียบอยู่อึดใจ ก่อนที่ชาวแก๊งจะรู้สึกตัว ทุกคนนึกขยาดฝีมือของเด็กหนุ่ม เพราะชายร่างยักษ์ผู้นี้นับว่าเป็นมือดีของก๊วน ว่ากันตามจริง เขาคือรองหัวหน้าเสียด้วยซ้ำ แต่ยอดฝีมือระดับนี้ กลับถูกเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ไว้ทรงผมประหลาด กระหน่ำอัดจนร่วงลงไปนอนกองในเวลาไม่ถึงนาที
" เหวอ….. ไอ้เด็กนี่มันเก่งแฮะ อัดพี่ยักษ์จนร่วงแบบง่ายๆ เอาไงดีฟะ พวกเรา " หลายคนในกลุ่มเริ่มสับสน บางคนเกี่ยงให้คนอื่นบุกเข้าไปก่อน แต่ก่อนที่ชาวแก๊งจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ เสียงแหบและยานคางก็ดังแทรกขึ้นมา
" ทุกคนอยู่ในความสงบ "
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทุกคนในแก๊งก็สงบลง
มาวินและเหมยลี่ก็ได้ยินเสียงนั้นเช่นกัน วัยรุ่นทั้งสองรู้สึกประหลาดใจ เพราะกระแสนั้นทั้งแหบห้าวและไร้ชีวิตชีวาจนดูไม่เหมือนเสียงของมนุษย์
" เอ๋….. เสียงแปลกแฮะ " เด็กหนุ่มหัวเขียวอุทานดังตามสไตค์คนปากเปราะ ส่วนเหมยลี่ได้แต่ยืนนิ่ง พร้อมวิเคราะห์ศัตรูด้วยอาการเยือกเย็น
ชาวแก๊งยมทูตค่อยๆแยกออกเป็นสองส่วน เพื่อเปิดทางให้ชายประหลาด ครั้งแรกที่มาวินเห็น เขานึกขบขัน เนื่องจากบุรุษที่ปรากฏตัวเป็นชายร่างเล็กที่สูงใกล้เคียงกัน ร่างผอมบางถูกซุกซ่อนอยู่ในผ้าคลุมดำที่ยาวจนถึงข้อเท้า ใบหน้าผอมเสี้ยม ผิวซีดจาง ดวงตาขวางและขุ่นมัว จมูกยาว ปากแหว่ง บนศีรษะไร้เส้นผม ทำให้ดูน่าเกลียด น่ากลัวและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน
" อะ ฮ้า อย่าบอกนะว่าเจ้าตัวเล็กนี้เป็น....หัวหน้ากลุ่ม ฮะๆ " มาวินหัวเราะเบาๆ เขาไม่รู้ว่าจะขบขันหรือประหลาดใจดี หัวหน้าใหญ่ที่ทุกคนนึกกลัว กลับเป็นแค่ชายร่างเล็กหน้าตาประหลาดที่ดูคล้ายจำอวดในคณะละครสัตว์
" อย่าประมาทนะ มันเป็นเน...." เหมยลี่เห็นมาวินเกิดความประมาท จึงร้องเตือน แต่ไม่ทันจะพูดจบ เด็กหนุ่มหัวเขียวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
" รู้แล้วน่า มันคือเนโง่มันเซ่อ "
เด็กสาวร่างสูงหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางมองหน้าเด็กหนุ่มนิ่งๆ ก่อนจะแก้ไขในสิ่งที่มาวินผิดพลาด
" เขาเรียกว่าเนโครมันเซอร์ "
" เอ๊ะ….. อ๋อ ใช่ พูดผิดไปนิดนึง ชั้นออกไปลุยได้หรือยัง " มาวินสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้ว่าตนพูดผิด
เหมยลี่ถึงกับกุมขมับ เธอมองมาที่เด็กหนุ่ม ประกายตาดูอ่อนล้า ครู่หนึ่ง ก็ตอบกลับ
" นี่แสดงว่านายไม่ได้ฟังสิ่งที่ชั้นและคุณยายพูดเลย จึงไม่รู้ว่าเนโครมันเซอร์ทำอะไรได้บ้าง "
" อ่อ…. ก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง มันน่าเบื่ออ่ะ เลยเหม่อซะเป็นส่วนใหญ่ ฮะๆ " มาวินหัวเราะหน้าเป็น ดูก็รู้ว่าไม่สำนึก
" เฮ้อ……เอ้า ออกไปลุยได้ เหนื่อยจะพูดแล้ว " เด็กสาวร่างสูงโบกมือไล่ พลางคิดในใจ "หมอนี่มันเกินเยียวยา ต้องปล่อยให้เจ็บตัวซะมั่ง"
" เยี่ยม ต้องอย่างนี้ซิ ไอ้ตัวเล็กๆบางๆแบบนี้ ชั้นพุ่งไปอัดทีเดียว ก็จอดแล้ว ฮ่าๆ " มาวินแกว่งแขนไปมาพร้อมหัวเราะร่วน เขาลำพองใจเกินไป อาจเป็นเพราะได้เจอคู่ต่อสู้ที่น่าสมเพช
" เอาล่ะนะ " มาวินยิ้มมุมปาก สายตาเรียวเล็กมองคู่ต่อกรประหลาด แต่ก่อนจะก้าวเข้าไปต่อสู้ เหมยลี่ก็ร้องเตือนเด็กหนุ่มอีกครั้ง
" ระวังเวทมนตร์ของมันด้วย "
มาวินหันกลับมามองเหมยลี่ สีหน้าและแววตาของเด็กสาวยังคงเรียบเฉย แต่ลึกๆส่อเค้าความกังวลอยู่นิดๆ
" เอ……ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ เพราะยัยโย่งดูกังวลกับคู่ต่อสู้คนนี้อยู่พอสมควร " เด็กหนุ่มหัวเขียวนิ่งคิด ก่อนหันกลับไปประจันหน้ากับชายผ้าคลุมดำ
เมื่อชายประหลาดในชุดผ้าคลุมดำได้เผชิญหน้ากับมาวิน เขาก็แนะนำตัวด้วยเสียงแหบแห้งที่ชวนขนลุก
" สวัสดี หนุ่มน้อย ข้าชื่อโกส เป็นผู้วิเศษของแก๊งยมทูต พวกเจ้าเป็นใคร "
" ชั้นชื่อมาวิน เป็นเทพบุตรสุดหล่อ ผู้เก่งที่สุดในปฐพี ส่วนยัยโย่งที่ยืนเป็นเสาโทรเลขอยู่ข้างหลังก็คือสมุนเอกของชั้น " มาวินยืดอก พร้อมประกาศนามด้วยท่าทางที่ดูภาคภูมิ โดยไม่ได้สนใจว่าเหมยลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังจะมีสีหน้ายังไง แน่นอนว่าเธอยังดูสงบ แต่สังเกตให้ดี จะพบว่าปลายคิ้วแอบกระตุกเล็กน้อย
" ฮ่าๆ เรื่องเก่งหรือไม่เก่ง เรายังไม่รู้หรอก ถ้าไม่ลองสู้กัน " โกสหัวเราะเบาๆ พลางตอบกลับอย่างใจเย็น
" งั้นก็ดี เริ่มเลยมั้ย " มาวินตั้งท่าสู้ ดูเหมือนเด็กหนุ่มกระหายที่จะแสดงฝีมือ
" เดี๋ยว ใจเย็น เรามาตกลงกันก่อนดีกว่า " โกสยกมือห้าม
" เอ๋ ตกลงอะไร " มาวินทำหน้างง ส่วนเหมยลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ทำท่าตรึกตรอง
โกสยกสองมือขึ้นกอดอก พร้อมยืดตัวเล็กน้อย ท่าทางดูคล้ายผู้ทรงภูมิที่แสนชั่วร้าย เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนอธิบายช้าๆแต่ชัดเจน
" พวกเรามีความต้องการต่างกัน ถ้าแก้ปัญหาด้วยการยกพวกตี ย่อมเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ให้เราส่งตัวแทนออกมาฝ่ายละสองคน เพื่อสู้กันตัวต่อตัว ใครชนะก็อยู่ ใครแพ้เป็นฝ่ายไป เอาตามนี้มั้ย "
" อืม…..ก็น่าสนนะ เอาไงดี ยัยโย่ง " มาวินคิดครู่หนึ่ง ก่อนหันไปถามเหมยลี่
สมองอันฉับไวของเหมยลี่ ทำให้รู้ว่า….อีกฝ่ายน่าจะเล่นไม่ซื่อ ชายผ้าคลุมดำตั้งเงื่อนไขที่ตนเองได้เปรียบ เพราะถ้ายกพวกตีกัน เหล่าลิ่วล้อต้องบาดเจ็บไม่มากก็น้อย เนื่องจากพวกนั้นเป็นแค่อันธพาลชั้นปลายแถว แต่ถ้าเปลี่ยนมาสู้กันตัวต่อตัว ตัวแทนชาวแก๊งย่อมหนีไม่พ้น โกส ซึ่งเป็นเนโครมันเซอร์ ผู้ใช้มนต์ดำที่เหล่านักสู้ระยะประชิดแพ้ทาง ทว่า เด็กสาวไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ ด้วยเธอไม่อยากให้เหล่าชาวบ้านต้องโดนลูกหลง
" ตกลงตามนั้น " เหมยลี่ตอบเรียบๆ
โกสยิ้มเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม เขาเอ่ยถามเหมยลี่เบาๆ
" ใครจะเป็นตัวแทนของพวกเจ้า "
" ก็ชั้นไงเล่า เจ้าเบื๊อก แล้วทางฝั่งแกล่ะจะส่งใครมา " มาวินร้องตอบอย่างห้าวหาญ
โกสหันไปมองมาวินช้าๆ ก่อนจะแสยะยิ้มอีกครั้ง
" ตัวแทนของแก๊งยมทูตก็คือ…..ข้า หึ หึ หึ…….. "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ