The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
136) ด้านมืดของมาวิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://unsplash.com/photos/u6OnpbMuZAs
ทันทีที่มาวินลืมตาขึ้นมา เขาก็สัมผัสกับความมืดมิดและเงียบสงบ ราวกับทุกสิ่งจะนิ่งสนิท เด็กหนุ่มรู้สึกสับสนและหวาดกลัวจนถึงขั้นแหกปากตะโกน
“ เฮ้ นี่คือที่ไหน แล้วชั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ”
สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงเสียงสะท้อนของตัวเอง นั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม ทันใดนั้น เขาก็เกิดความคิดที่ดูเพี้ยนๆ
“ เอ๋….หรือว่าชั้นจะตายไปแล้ว ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เด็กหนุ่มก็ตกใจจนหันมาสำรวจร่างกายของตัวเอง ไม่นาน ก็พบว่ายังมีอวัยวะครบ 32 แต่ที่น่าแปลกก็คือ......เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีน้ำตาลและรองเท้าผ้าใบสีแดง อันเป็นชุดเก่งในยามที่อยู่บนโลก
“ ก็อยู่ครบทุกส่วนนี่หว่า เอ…..แต่ทำไมเราถึงใส่ชุดนี้ เพราะเราน่าจะยังอยู่ที่ The Dark World นี่นา ” มาวินนึกสงสัย ขณะที่คิดหาคำตอบ เสียงเล็กแหลมก็ดังแว่วเข้ามา
“ นายสงสัยอะไรเหรอ ”
เสียงนั้นฟังดูคุ้นหู แต่พอเหลือบมองไปรอบๆ มาวินก็พบแต่ความมืด นั่นทำให้เด็กหนุ่มเกิดอาการขวัญลอยอีกครั้ง เพราะเขามักจะอ่อนแอต่อสิ่งที่ไร้ตัวตน
“ นายเป็นใคร ปรากฏตัวออกมาเดี๋ยวนี้ ” มาวินตะโกนดัง เขานึกภาวนาให้เสียงของตนกลบความกลัวที่ท่วมท้นจิตใจ
ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีแต่ความเงียบงันจนมาวินเริ่มสงสัยว่าตนหูแว่วไปเองหรือไม่ อึดใจต่อมา เสียงแหลมเล็กนั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ ทำไมนายต้องส่งเสียงดังข่มความกลัว ”
“ เอ๊ะ! มันมาอีกแล้ว แต่เดี๋ยวนะ….แกรู้ความคิดของชั้นได้ยังไง ” มาวินสะดุ้งเฮือก เขาตกใจที่ถูกล้วงลึก ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังสับสน เจ้าของเสียงปริศนาก็ปรากฏกายตรงหน้า
ร่างนั้นค่อยๆปรากฏช้าๆ โดยเริ่มจากฝ่าเท้า จากนั้นก็ไล่มาที่ขา ลำตัว หน้าอก แขน ไปบรรจบที่ใบหน้าเป็นจุดสุดท้าย เมื่อบุรุษปริศนาเผยร่างจนเต็มส่วน มาวินก็พบว่าคนผู้นั้นก็คือ…….ตัวเขาเอง
“ เฮ้ย! นั่นมันพระเอกรูปหล่อที่ไหนฟะ ไม่ใช่ซิ…….นี่มันตัวเราเองนี่หว่า แล้วถ้าชั้นอยู่ตรงนั้น แล้วชั้นที่อยู่ตรงนี้คือใครฟะ…งงจนหัวจะระเบิดแล้ว ” มาวินโหวกเหวกโวยวาย พร้อมเอามือกุมกระบาล
มาวินอีกคนเริ่มยิ้มมุมปาก พร้อมหัวเราะเบาๆด้วยเสียงเล็กแหลมอันเป็นเอกลักษณ์
“ หึ หึ หึ ”
มาวินรู้สึกมึนงงจนไปไม่เป็น ด้วยสิ่งที่เกิด มันเกินกว่าจินตนาการ ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าจู่ๆต้องมาพบกับตัวเองอีกคน ใครจะไปทานทนได้ แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มหัวเขียวจะได้กล่าวคำใด มาวินคนใหม่ก็ชิงตอบคำถามก่อน
“ ชั้นก็คือนาย นายก็คือชั้น เราเป็นคนๆเดียวกัน ดังนั้นชั้นจึงล่วงรู้ในสิ่งที่นายคิด ”
คำตอบดังกล่าว ไม่ได้ช่วยให้มาวินหายปอดแหก ตรงกันข้ามกลับกลัวยิ่งกว่าเดิม มีใครบ้างล่ะที่ได้คุยกับตัวเองแบบนี้ เด็กหนุ่มจึงถามเสียงสั่น
“ นายบอกว่านายเป็นชั้นงั้นรึ แล้วออกมาได้ยังไง มิหนำซ้ำ ยังมาคุยกันได้อีก ”
สิ้นคำถาม มาวินตัวใหม่ก็แหงนหน้าหัวเราะร่า
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
เสียงหัวเราะของมาวินตัวใหม่ ทำเอามาวินตัวเก่าถึงกับจิตตก พร้อมถอยหลังหนีไปสองก้าว
“ นายขำบ้าอะไรฟะ เจ้าตัวปลอม ” มาวินตะคอกใส่ พอมาวินตัวใหม่ได้ยิน เขาก็หยุดหัวเราะ แล้วหันกลับมาชี้แจงด้วยสีหน้าที่ดูเหยียดๆ
“ ขำนายน่ะซิ เจ้าโง่ ชั้นไม่ได้มาหานาย แต่นายนั่นแหละมาหาชั้น จำไม่ได้เหรอ ก่อนมาอยู่ที่นี่ นายกำลังทำอะไรอยู่ ”
“ เออ…..จำได้ว่า…..ชั้นกำลังประลองกับเจ้าพี่ชายหน้าขาว รู้สึกว่าหมัดสุดท้ายที่ปล่อยออกไป มันจะพลาดเป้า หลังจากนั้นก็วูบไป แล้วมาโผล่อยู่ตรงนี้ ” มาวินนึกทบทวนเหตุการณ์
มาวินตัวใหม่เริ่มยิ้มมุมปากอีกครั้ง แต่ไม่ว่ามองมุมไหน มันก็ไม่ประสงค์ดี เพราะดูบิดเบี้ยวเหยเกและวิกลจริต ราวกับคนไข้โรคจิต
“ เหอๆ ก่อนจะทำอะไร ช่วยกรุณาเลิกทำหน้าแบบนี้ได้มั้ย มันดูชั่วช้ายังไงก็ไม่รู้ ถึงชั้นจะเกรียน แต่ยังไงมันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายแบบนี้แน่ ” มาวินตัวเก่าร้องเตือน ในใจนึกรังเกียจและหวาดกลัว
แน่นอนว่าทุกสิ่งที่มาวินตัวเก่าคิด อีกคนย่อมรู้ ทว่ามาวินตัวใหม่กลับไม่สนใจ เขายังคงใบหน้าชั่วร้ายดุจเดิม จากนั้นก็ตอบกลับมาเบาๆด้วยน้ำเสียงแหลมเล็ก
“ ความจริงของเรื่องก็คือ.......นายสลบไป เพราะโดนท่าไม้ตายของโอคุยาสุ จากนั้นก็หลุดเข้ามาในโลกแห่งจิตใจ และชั้นก็คือตัวนายในเวอร์ชั่นที่ไร้มนุษยธรรมโดยสิ้นเชิง ”
“ อ้อ......จะบอกว่านายคือ…..จิตด้านมืดของชั้นงั้นเรอะ โห….อย่างกะหนังการ์ตูนหรือนิยายแฟนตาซียุคเก่าที่ชอบเอามาทำเป็นหนังใหญ่เลย บอกได้คำเดียวเลยว่า…..ว้าว ” สิ้นคำกล่าว มาวินตัวเก่าถึงกลับตาโตเป็นไข่ห่าน เขานึกดีใจที่สามารถยกระดับจนได้คุยกับด้านมืดของตัวเอง
ท่าทางของมาวินตัวใหม่เหมือนจะเสียเซลฟ์นิดๆ เพราะไม่อาจเขย่าขวัญมาวินตัวเก่าได้ ถึงกระนั้น ด้านมืดก็ยังอยู่ในอาการสงบ พร้อมตอบเรียบๆว่า......
“ ถ้าบอกว่าชั้นคือด้านมืดที่ชั่วร้าย ก็คงจะจริงอย่างที่เข้าใจ แต่ขอถามซักหน่อย นายคิดว่าความชั่วคืออะไร ”
“ ถามโง่ๆ ความชั่วก็คือการทำไม่ดีต่อคนอื่นไง ” มาวินตัวเก่าตอบแบบไม่ต้องคิด
“ แล้วที่ว่าทำไม่ดีกับคนอื่นคืออะไร ” มาวินตัวใหม่ยังคงถามต่อ
“ เออ…..ก็คงจะเป็นการทำให้…..คนอื่นบาดเจ็บ…ล่ะมั้ง ” พอพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของมาวินตัวเก่าก็สลดลงเล็กน้อย เพราะในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยทำให้เพื่อนคนหนึ่งต้องบาดเจ็บจนละทิ้งความฝันของตนเอง
“ อ้าว ถ้าความชั่วเป็นแบบนั้น งั้นนายก็ต้องชั่วไม่ต่างจากชั้นน่ะซิ ” มาวินด้านมืดตอบ รอยยิ้มของเขายังดูบิดเบี้ยวและชั่วช้า
“ จะบ้าเหรอ ถะ…..ถึงเคยทำให้คนบาดเจ็บ ตะ….แต่นั่นมันเป็นอุบัติเหตุจากการแข่ง ชั้นไม่มีเจตนาที่จะทำแบบนั้นเลย ” มาวินตัวเก่ารีบแก้ตัว ความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมเริ่มหายไป
“ ฮ่าๆ ก็เมื่อกี้เพิ่งบอกอยู่หยกๆว่า......การทำชั่วคือการทำสิ่งที่ไม่ดีต่อคนอื่น ดังนั้นถึงจะไม่ตั้งใจ การกระทำของนายก็ยังเป็นความชั่วอยู่ดี ” มาวินด้านมืดย้อนคำ นั่นทำให้มาวินตัวเก่าถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะเถียงกลับอย่างรุนแรง
“ แต่ที่ทำลงไป มันเป็นอุบัติเหตุ ชั้นตั้งใจที่ไหนเล่า ใครจะอยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ”
“ ใช่ๆ เหตุการณ์นั้นนายอาจไม่ตั้งใจ แต่เหตุการณ์นี้ล่ะ นายจะแก้ตัวว่ายังไง ” มาวินด้านมืดตอบกลับอย่างใจเย็น พร้อมผายมือไปข้างหลัง
ทันใดนั้น ก็ปรากฏจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นบนอากาศที่ว่างเปล่า มันฉายเหตุการณ์ที่มาวินต่อสู้กับศัตรูหลายคน ไม่ว่าจะเป็น กาสเซ่ โกส ตังลู่ และเหล่าลูกสมุนอีกนับร้อย นอกจากนี้ยังมีมอนสเตอร์เล็กใหญ่อีกหลายสิบ
มาวินตัวเก่ากัดฟันกรอดใหญ่ ทุกการต่อสู้ เขาได้สร้างความเจ็บปวดให้เหล่าอริ บางครั้งก็รุนแรงจนเกือบถึงชีวิต เด็กหนุ่มหมดทางโต้เถียง เพราะทุกสิ่งที่ทำลงไป มันมาจากความตั้งใจอย่างแท้จริง
“ แล้วคราวนี้นายจะแก้ตัวว่ายังไง ” มาวินด้านมืดเดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมตบไหล่ของมาวินตัวเก่าเบาๆ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ