The Phoenix of Andromeda
-
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.
19 ตอน
36 วิจารณ์
18.14K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) พลังเยือกแข็ง !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชั่วพริบตานั้น โคแวนก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวของเขานั้นราวกับจะลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว
และอีกพริบตาต่อมา โคแวนก็ได้เห็นว่าเส้นผมของบุรุษผมขาวได้เคลื่อนไหวฟูฟ่องขึ้นมาโดยที่บุรุษผมขาวไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายของตนแต่อย่างใด จะมีก็แต่เพียงสายตาทั้งคู่ของมันเท่านั้นที่ได้เพ่งมองหน้าของโคแวนอย่างอำมหิต!
พริบตานั้น เข็มน้ำแข็งนับร้อยๆ เล่มที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของโคแวนราวกับสายฟ้าแล่บ!
และในขณะนั้น บรรดาผู้ชมเหตุการณ์ทั้งฝ่ายโบโรเธียและฝ่ายแอนโดร่าก็ถึงกับตกตะลึงขึันมาอย่างทันใด และต่างก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเข็มน้ำแข็งนับร้อยนั้นจะพุ่งทะลวงเข้าสู่ร่างของโคแวนอย่างไม่อาจปัดป้องได้!
แต่ทว่า ก่อนที่เข็มน้ำแข็งทั้งหมดจะทะลวงร่างของโคแวน อยู่ๆ มันก็เสื่อมสลายแตกตัวลงตรงเบื้องหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว และเมื่อมันได้ปะทะถึงตัวของเขา มันก็มีสภาพที่ไม่แตกต่างจากก้อนหิมะนิ่มๆ ที่ไม่อาจระคายร่างกายของเขาได้แม้แต่น้อย
เหตการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นในเวลาที่สั้นมากๆ จนหลายๆ คนในที่นั้นแทบจะไม่รู้ว่าได้เกิดการสัประยุทธกันระหว่างโคแวนและบุรุษผมขาวขึ้นแล้ว
"เร็ว... เร็วมาก! " องครักษ์หน้าเหลี่ยมอุทานออกมา "ข้าไม่เห็นว่าทั้งสองจะเคลื่อนไหวร่างกายกันแต่อย่างใดเลย นอกจากได้เห็นว่าเส้นผมของเจ้านั่นได้ลอยฟูขึ้นมาหน่อยเดียว แล้ว แล้วเข็มน้ำแข็งนั้นมันมาจากไหนกันล่ะเนี่ย...? "
"ก็จากเส้นผมของมันนั่นล่ะ" องครักษ์หน้ากลมหันมาตอบ "ตามตำนานที่เล่ากันมา นี่ก็คือหนึ่งในวิชา'เกษาเหมันต์'ของไอรอสหรืออินทรีอสูรหิมะผู้นี้นั่นเอง"
"ฟังดูน่าจะร้ายกาจไม่น้อย" องครักษ์น้ำแข็งกล่าวขึ้นบ้าง "แต่ทว่าไอ้เข็มน้ำแข็งนั่นก็ถึงกับต้องแปรสภาพไปเมื่อเจอกับโคแวนคนนี้"
"หึหึ พลังปราณของโคแวนนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ใครหลายๆ คนได้คาดมากนัก" องครักษหน้ากลมเสริมขึ้น "และเขาคงรับรู้ได้แต่แรกแล้วว่า กำลังจะมีพลังความเย็นสุดขั้วเข้าจู่โจม และพลังที่โคแวนใช้สลายพลังความเย็นนั้นก็ต้องเป็นพลังความร้อนอันสุดขั้วของโคแวนนั่นเอง"
แล้วบุรุษผมขาวที่ยังยืนมองโคแวนอย่างนิ่งสงบก็เผยอยิ้มออกมาที่มุมปาก แต่ทว่าในดวงตาของมันกลับยังมีประกายของความอำมหิตที่คุกรุ่นอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
"พลังปราณและพลังออร่าของท่านไม่ใช่ธรรมดาเลยนะโคแวน ข้ารู้สึกนับถือคนรุ่นใหม่ๆ อย่างท่านจริงๆ " วาจาของบุรุษผมขาวกลับกล่าวยกย่องโคแวน เเต่ทว่าเมื่อโคแวนได้ฟังคำพูดนี้ หางตาของเขาก็อดกระตุกขึ้นมาครั้งหนึ่งไม่ได้
'มันผู้นี้ กลับมองเราเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งๆ ที่ความจริงใบหน้าของมันกลับดูอ่อนเยาว์กว่าเรามากนัก หากจะกล่าวว่ามันเป็นบุตรของเราและเราเป็นบิดาของมันก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่าด้วยซ้ำ หรือว่า... มันผู้นี้จะอาวุโสจริงๆ แต่อาจจะฝึกวิชาบางอย่างให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ราวกับทารก หรือไม่ก็... มันผู้นี้อาจจะเป็นบุคคลในตำนานนั่นจริงๆ ...? '
"ข้าขอเรียนถามนามที่แท้จริงของท่านสักหน่อยจะได้ไหมท่านนักรบอัศวิน? " โคแวนกล่าวถามขึ้น "เพราะหากว่าวันนี้ข้าต้องพลาดท่าเสียทีพ่ายแพ้ให้แก่ท่านจนไม่อาจจะรักษาชีวิตของข้าเองให้คงอยู่ต่อไปได้ อย่างน้อยก็ขอให้ข้าได้จดจำนามที่แท้จริงของท่านไปสู่ปรโลกด้วยก็ยังดี" วาทะของโคแวนในครั้งนี้กลับกระหายใคร่รู้ในนามของบุรุษผมขาวอย่างเปิดเผย
บุรุษผมขาวเดินผ่านหน้าของโคแวนไปยังอีกมุมหนึ่งของตำหนัก มือทั้งสองของมันขณะนี้ก็วางไขว้อยู่ที่ด้านหลัง และใบหน้าของมันก็เงยขึ้นราวกับจะมองให้ทะลุผนังของตำหนักออกไป และนี่มันก็เป็นลักษณะของคนที่น่าจะกำลังรำลึกถึงอดีตของตนในหนหลัง
แล้วอึดใจต่อมามันก็เหลียวหน้ากลับมามองโคแวน
"นามของข้าในอดีต... ยิ่งใหญ่และยิ่งยงในอีกดวงดาวหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่ นามที่ข้าจะบอก ท่านเองก็คงจะรับฟังได้อย่างไม่อยากจะเชื่อถือนัก แต่นั่นหาสำคัญกับข้าไม่ เพราะนามที่แท้จริงของข้าจะอย่างไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ 'ไอรอส' คือนามที่ข้าได้ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่ม"
'ไอรอส'... นามนี้มันได้ยืนยันตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว และมันก็คือ 'ไอรอส อินทรีอสูรหิมะ' ผู้อยู่ในตำนานเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วจริงๆ
เหล่าองครักษ์ที่ยืนห่างออกไป ถึงกับตาโตอึ้งตะลึงกันอีกครั้ง
"ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป มันผู้นี้เป็นไอรอสจริงแท้แน่นอนแล้ว" องครักษ์หน้ากลมพูดขึ้นเบาๆ และอีกสององครักษ์ต่างก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีเช่นกัน
เมื่อโคแวนได้ตระหนักว่า บุรุษผมขาวผู้นี้คือไอรอสอินทรีอสูรหิมะตัวจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้ติดใจสงสัยกับใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นอีกต่อไป ตรงกันข้ามเขากลับยกมือขึ้นคารวะเพื่อเป็นการให้เกียติผู้อาวุโสด้วยซ้ำ
"ท่านผู้อาวุโส นามไอรอสของท่านนั้น ถือได้ว่าเกริกก้องอยู่ในดาราจักรแห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งแม้แต่ข้าเองก็ยังรู้สึกนับถือกับพลังและความสามารถในอดีตของท่านเช่นคนอื่นๆ และข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านมาทำงานให้กับชาวโบโรเธียนั้นได้อย่างไร แต่ในคราครั้งนี้ที่ชาวโบโรเธียได้คิดกำเริบบุกรุกอณาจักรของข้าเพื่อก่อความวุ่นวายและหมายชิงตัวพระโอรสของเราไป ข้าเองนั้นในฐานะของชาวแอนโดร่ามาแต่กำเนิดและยังมีฐานะเป็นถึงทหารขุนพลที่จะต้องคอยปกป้องอณาจักรแอนโดร่าแห่งนี้ก็ย่อมจะปล่อยปละละเว้นเหตุการณ์นี้ไปไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าท่านอาวุโสจะเห็นแก่เกียติยศของชาวแอนโดร่าเราบ้าง บางทีท่านเองก็น่าจะชักนำพวกนักรบอัศวินและนักรบโบโรเธียทั้งหมดให้ถอยห่างออกไปจากอณาจักรเรา ก็จะไม่เป็นการสมควรกว่าที่เราจะต้องสู้รบกันหรอกรึท่านอาวุโสไอรอส...? "
วาทะศิลป์ของโคแวนกลับเป็นสิ่งที่ผิดคาดของใครหลายๆ คนในที่นั้น และแม้แต่โรมิยาสรองขุนพลแอนโดร่า และเมทานอสนักรบอัศวินแห่งโบโรเธียคนที่ห้าก็ถึงกับมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปไม่น้อย
องครักษ์หน้าเหลี่ยมและองครักษ์หน้ายาวเองต่างก็หันไปมองหน้าขององครักษ์หน้ากลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
"ข้าไม่อยากจะเชื่อว่านั่นจะเป็นคำพูดของโคแวน เขาพูดแบบนั้นไปได้อย่างไร หรือว่าเขาจะกลัวเจ้าผมขาวนั่นเข้าจริงๆ? "
องครักษ์หน้ากลมส่ายหน้า "ที่โคแวนพูดไปนั่นเป็นวาทะศิลป์ที่ดี ข้าเองก็ไม่คิดว่าโคแวนจะใช้วาทะศิลป์ในการเลี่ยงการศึกเหมือนกัน ซึ่งถือว่าผิดปกติสำหรับนิสัยของโคแวนที่มักชอบปะทะแตกหักด้วยกำลังซะมากกว่า แต่ถ้าพวกเจ้ายังไม่รู้จักไอรอสดี ก็อย่าเข้าใจผิดว่าโคแวนจะกลัวไอรอส"
"ปัทโธ่ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ รีบพูดมาเถอะ? " องรักษ์หน้ายาวกลับกล่าวเร่งขึ้นมา
"ที่โคแวนพูดออกไปอย่างนั้น ก็หมายความว่า เขาได้เคยศึกษาถึงเรื่องราวในตำนานของไอรอสอินทรีอสูรหิมะมาอยู่บ้างแน่ๆ และสำหรับคนที่ได้เคยศึกษาเรื่องนี้มาไม่มากก็น้อย ก็มักจะรู้ว่า พลังของไอรอสหากปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ก็ไม่ใช่แค่เพียงตำหนักนี้จะถูกทำลายจนสูญสิ้น เพราะแม้แต่พระราชวังชั้นในชั้นนอกของเราก็คงจะแหลกสลายกลายเป็นผงไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะในอดีตอันเก่าก่อน ไอรอสก็ได้เคยทำอย่างนั้นกับพระราชวังแห่งหนึ่งมาแล้ว..."
แล้วสององครักษ์ที่ฟังคำอธิบายขององครักษ์หน้ากลมก็ถึงกับตะลึงจนปากแทบค้าง
"อะไรกัน... พลังของไอรอสรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ...?! " องครักษหน้าเหลี่ยมถามอย่างมึนๆ
"ใช่แล้ว ตำนานได้กล่าวไว้อย่างนั้น ในอณาจักรของเราก็ยังมีบันทึกตำนานเรื่องนี้อยู่เลย" องครักษ์หน้ากลมกล่าว
"ถ้างั้น นี่ก็หมายความว่า โคแวนได้ไตร่ตรองถึงเรื่องนี้ และก็หาทางที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับไอรอสที่ในตำหนักแห่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับสถานที่อย่างใหญ่หลวงงั้นสิ?! " องครักษ์หน้ายาวกล่าวขึ้นอย่างพอจะเข้าใจเหตุผลขึ้นมาแล้ว และองครักษ์หน้ากลมก็พยักหน้ารับ
ส่วนไอรอสและโคแวนที่ได้ถูกกล่าวถึงนั้น บัดนี้ก็ยังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในระยะราวสิบก้าว
และแม้ว่าวาทะของโคแวนนั้นจะฟังรื่นหูไอรอส แต่ไอรอสกลับยิ้มสแยะออกมาพร้อมๆ กับดวงตาที่ไม่ได้คลายความอำมหิตลงไป
"ดูเหมือนท่านจะรู้จักข้าดีกว่าที่ข้าคาดไว้ งั้นท่านก็คงได้เคยศึกษาในเรื่องพลังของข้ามาก่อนอย่างนั้นสิ และท่านก็พยายามจะหลีกเลี่ยง เพื่อปกป้องสถานที่และคนอื่นกระมัง...? " แล้วไอรอสก็แหงนหน้าหัวเราะเบาๆ "หึหึหึ ท่านรู้ไม๊โคแวน ว่าคำพูดหรูๆ ของท่านนั้นใช้กับไอรอสผู้นี่ไม่ได้หรอกนะ..? "
ดูเหมือนว่าไอรอสจะมองทะลุไปเห็นจิตใจของโคแวนได้โดยตลอด และนั่นก็ทำให้โคแวนต้องหรี่ตาลงด้วยความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
และดูแล้วศึกครั้งนี้ จะอย่างไรก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้...?!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
และอีกพริบตาต่อมา โคแวนก็ได้เห็นว่าเส้นผมของบุรุษผมขาวได้เคลื่อนไหวฟูฟ่องขึ้นมาโดยที่บุรุษผมขาวไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายของตนแต่อย่างใด จะมีก็แต่เพียงสายตาทั้งคู่ของมันเท่านั้นที่ได้เพ่งมองหน้าของโคแวนอย่างอำมหิต!
พริบตานั้น เข็มน้ำแข็งนับร้อยๆ เล่มที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของโคแวนราวกับสายฟ้าแล่บ!
และในขณะนั้น บรรดาผู้ชมเหตุการณ์ทั้งฝ่ายโบโรเธียและฝ่ายแอนโดร่าก็ถึงกับตกตะลึงขึันมาอย่างทันใด และต่างก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเข็มน้ำแข็งนับร้อยนั้นจะพุ่งทะลวงเข้าสู่ร่างของโคแวนอย่างไม่อาจปัดป้องได้!
แต่ทว่า ก่อนที่เข็มน้ำแข็งทั้งหมดจะทะลวงร่างของโคแวน อยู่ๆ มันก็เสื่อมสลายแตกตัวลงตรงเบื้องหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว และเมื่อมันได้ปะทะถึงตัวของเขา มันก็มีสภาพที่ไม่แตกต่างจากก้อนหิมะนิ่มๆ ที่ไม่อาจระคายร่างกายของเขาได้แม้แต่น้อย
เหตการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นในเวลาที่สั้นมากๆ จนหลายๆ คนในที่นั้นแทบจะไม่รู้ว่าได้เกิดการสัประยุทธกันระหว่างโคแวนและบุรุษผมขาวขึ้นแล้ว
"เร็ว... เร็วมาก! " องครักษ์หน้าเหลี่ยมอุทานออกมา "ข้าไม่เห็นว่าทั้งสองจะเคลื่อนไหวร่างกายกันแต่อย่างใดเลย นอกจากได้เห็นว่าเส้นผมของเจ้านั่นได้ลอยฟูขึ้นมาหน่อยเดียว แล้ว แล้วเข็มน้ำแข็งนั้นมันมาจากไหนกันล่ะเนี่ย...? "
"ก็จากเส้นผมของมันนั่นล่ะ" องครักษ์หน้ากลมหันมาตอบ "ตามตำนานที่เล่ากันมา นี่ก็คือหนึ่งในวิชา'เกษาเหมันต์'ของไอรอสหรืออินทรีอสูรหิมะผู้นี้นั่นเอง"
"ฟังดูน่าจะร้ายกาจไม่น้อย" องครักษ์น้ำแข็งกล่าวขึ้นบ้าง "แต่ทว่าไอ้เข็มน้ำแข็งนั่นก็ถึงกับต้องแปรสภาพไปเมื่อเจอกับโคแวนคนนี้"
"หึหึ พลังปราณของโคแวนนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ใครหลายๆ คนได้คาดมากนัก" องครักษหน้ากลมเสริมขึ้น "และเขาคงรับรู้ได้แต่แรกแล้วว่า กำลังจะมีพลังความเย็นสุดขั้วเข้าจู่โจม และพลังที่โคแวนใช้สลายพลังความเย็นนั้นก็ต้องเป็นพลังความร้อนอันสุดขั้วของโคแวนนั่นเอง"
แล้วบุรุษผมขาวที่ยังยืนมองโคแวนอย่างนิ่งสงบก็เผยอยิ้มออกมาที่มุมปาก แต่ทว่าในดวงตาของมันกลับยังมีประกายของความอำมหิตที่คุกรุ่นอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
"พลังปราณและพลังออร่าของท่านไม่ใช่ธรรมดาเลยนะโคแวน ข้ารู้สึกนับถือคนรุ่นใหม่ๆ อย่างท่านจริงๆ " วาจาของบุรุษผมขาวกลับกล่าวยกย่องโคแวน เเต่ทว่าเมื่อโคแวนได้ฟังคำพูดนี้ หางตาของเขาก็อดกระตุกขึ้นมาครั้งหนึ่งไม่ได้
'มันผู้นี้ กลับมองเราเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งๆ ที่ความจริงใบหน้าของมันกลับดูอ่อนเยาว์กว่าเรามากนัก หากจะกล่าวว่ามันเป็นบุตรของเราและเราเป็นบิดาของมันก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่าด้วยซ้ำ หรือว่า... มันผู้นี้จะอาวุโสจริงๆ แต่อาจจะฝึกวิชาบางอย่างให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ราวกับทารก หรือไม่ก็... มันผู้นี้อาจจะเป็นบุคคลในตำนานนั่นจริงๆ ...? '
"ข้าขอเรียนถามนามที่แท้จริงของท่านสักหน่อยจะได้ไหมท่านนักรบอัศวิน? " โคแวนกล่าวถามขึ้น "เพราะหากว่าวันนี้ข้าต้องพลาดท่าเสียทีพ่ายแพ้ให้แก่ท่านจนไม่อาจจะรักษาชีวิตของข้าเองให้คงอยู่ต่อไปได้ อย่างน้อยก็ขอให้ข้าได้จดจำนามที่แท้จริงของท่านไปสู่ปรโลกด้วยก็ยังดี" วาทะของโคแวนในครั้งนี้กลับกระหายใคร่รู้ในนามของบุรุษผมขาวอย่างเปิดเผย
บุรุษผมขาวเดินผ่านหน้าของโคแวนไปยังอีกมุมหนึ่งของตำหนัก มือทั้งสองของมันขณะนี้ก็วางไขว้อยู่ที่ด้านหลัง และใบหน้าของมันก็เงยขึ้นราวกับจะมองให้ทะลุผนังของตำหนักออกไป และนี่มันก็เป็นลักษณะของคนที่น่าจะกำลังรำลึกถึงอดีตของตนในหนหลัง
แล้วอึดใจต่อมามันก็เหลียวหน้ากลับมามองโคแวน
"นามของข้าในอดีต... ยิ่งใหญ่และยิ่งยงในอีกดวงดาวหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่ นามที่ข้าจะบอก ท่านเองก็คงจะรับฟังได้อย่างไม่อยากจะเชื่อถือนัก แต่นั่นหาสำคัญกับข้าไม่ เพราะนามที่แท้จริงของข้าจะอย่างไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ 'ไอรอส' คือนามที่ข้าได้ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่ม"
'ไอรอส'... นามนี้มันได้ยืนยันตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว และมันก็คือ 'ไอรอส อินทรีอสูรหิมะ' ผู้อยู่ในตำนานเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วจริงๆ
เหล่าองครักษ์ที่ยืนห่างออกไป ถึงกับตาโตอึ้งตะลึงกันอีกครั้ง
"ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป มันผู้นี้เป็นไอรอสจริงแท้แน่นอนแล้ว" องครักษ์หน้ากลมพูดขึ้นเบาๆ และอีกสององครักษ์ต่างก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีเช่นกัน
เมื่อโคแวนได้ตระหนักว่า บุรุษผมขาวผู้นี้คือไอรอสอินทรีอสูรหิมะตัวจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้ติดใจสงสัยกับใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นอีกต่อไป ตรงกันข้ามเขากลับยกมือขึ้นคารวะเพื่อเป็นการให้เกียติผู้อาวุโสด้วยซ้ำ
"ท่านผู้อาวุโส นามไอรอสของท่านนั้น ถือได้ว่าเกริกก้องอยู่ในดาราจักรแห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งแม้แต่ข้าเองก็ยังรู้สึกนับถือกับพลังและความสามารถในอดีตของท่านเช่นคนอื่นๆ และข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านมาทำงานให้กับชาวโบโรเธียนั้นได้อย่างไร แต่ในคราครั้งนี้ที่ชาวโบโรเธียได้คิดกำเริบบุกรุกอณาจักรของข้าเพื่อก่อความวุ่นวายและหมายชิงตัวพระโอรสของเราไป ข้าเองนั้นในฐานะของชาวแอนโดร่ามาแต่กำเนิดและยังมีฐานะเป็นถึงทหารขุนพลที่จะต้องคอยปกป้องอณาจักรแอนโดร่าแห่งนี้ก็ย่อมจะปล่อยปละละเว้นเหตุการณ์นี้ไปไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าท่านอาวุโสจะเห็นแก่เกียติยศของชาวแอนโดร่าเราบ้าง บางทีท่านเองก็น่าจะชักนำพวกนักรบอัศวินและนักรบโบโรเธียทั้งหมดให้ถอยห่างออกไปจากอณาจักรเรา ก็จะไม่เป็นการสมควรกว่าที่เราจะต้องสู้รบกันหรอกรึท่านอาวุโสไอรอส...? "
วาทะศิลป์ของโคแวนกลับเป็นสิ่งที่ผิดคาดของใครหลายๆ คนในที่นั้น และแม้แต่โรมิยาสรองขุนพลแอนโดร่า และเมทานอสนักรบอัศวินแห่งโบโรเธียคนที่ห้าก็ถึงกับมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปไม่น้อย
องครักษ์หน้าเหลี่ยมและองครักษ์หน้ายาวเองต่างก็หันไปมองหน้าขององครักษ์หน้ากลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
"ข้าไม่อยากจะเชื่อว่านั่นจะเป็นคำพูดของโคแวน เขาพูดแบบนั้นไปได้อย่างไร หรือว่าเขาจะกลัวเจ้าผมขาวนั่นเข้าจริงๆ? "
องครักษ์หน้ากลมส่ายหน้า "ที่โคแวนพูดไปนั่นเป็นวาทะศิลป์ที่ดี ข้าเองก็ไม่คิดว่าโคแวนจะใช้วาทะศิลป์ในการเลี่ยงการศึกเหมือนกัน ซึ่งถือว่าผิดปกติสำหรับนิสัยของโคแวนที่มักชอบปะทะแตกหักด้วยกำลังซะมากกว่า แต่ถ้าพวกเจ้ายังไม่รู้จักไอรอสดี ก็อย่าเข้าใจผิดว่าโคแวนจะกลัวไอรอส"
"ปัทโธ่ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ รีบพูดมาเถอะ? " องรักษ์หน้ายาวกลับกล่าวเร่งขึ้นมา
"ที่โคแวนพูดออกไปอย่างนั้น ก็หมายความว่า เขาได้เคยศึกษาถึงเรื่องราวในตำนานของไอรอสอินทรีอสูรหิมะมาอยู่บ้างแน่ๆ และสำหรับคนที่ได้เคยศึกษาเรื่องนี้มาไม่มากก็น้อย ก็มักจะรู้ว่า พลังของไอรอสหากปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ก็ไม่ใช่แค่เพียงตำหนักนี้จะถูกทำลายจนสูญสิ้น เพราะแม้แต่พระราชวังชั้นในชั้นนอกของเราก็คงจะแหลกสลายกลายเป็นผงไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะในอดีตอันเก่าก่อน ไอรอสก็ได้เคยทำอย่างนั้นกับพระราชวังแห่งหนึ่งมาแล้ว..."
แล้วสององครักษ์ที่ฟังคำอธิบายขององครักษ์หน้ากลมก็ถึงกับตะลึงจนปากแทบค้าง
"อะไรกัน... พลังของไอรอสรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ...?! " องครักษหน้าเหลี่ยมถามอย่างมึนๆ
"ใช่แล้ว ตำนานได้กล่าวไว้อย่างนั้น ในอณาจักรของเราก็ยังมีบันทึกตำนานเรื่องนี้อยู่เลย" องครักษ์หน้ากลมกล่าว
"ถ้างั้น นี่ก็หมายความว่า โคแวนได้ไตร่ตรองถึงเรื่องนี้ และก็หาทางที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับไอรอสที่ในตำหนักแห่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับสถานที่อย่างใหญ่หลวงงั้นสิ?! " องครักษ์หน้ายาวกล่าวขึ้นอย่างพอจะเข้าใจเหตุผลขึ้นมาแล้ว และองครักษ์หน้ากลมก็พยักหน้ารับ
ส่วนไอรอสและโคแวนที่ได้ถูกกล่าวถึงนั้น บัดนี้ก็ยังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในระยะราวสิบก้าว
และแม้ว่าวาทะของโคแวนนั้นจะฟังรื่นหูไอรอส แต่ไอรอสกลับยิ้มสแยะออกมาพร้อมๆ กับดวงตาที่ไม่ได้คลายความอำมหิตลงไป
"ดูเหมือนท่านจะรู้จักข้าดีกว่าที่ข้าคาดไว้ งั้นท่านก็คงได้เคยศึกษาในเรื่องพลังของข้ามาก่อนอย่างนั้นสิ และท่านก็พยายามจะหลีกเลี่ยง เพื่อปกป้องสถานที่และคนอื่นกระมัง...? " แล้วไอรอสก็แหงนหน้าหัวเราะเบาๆ "หึหึหึ ท่านรู้ไม๊โคแวน ว่าคำพูดหรูๆ ของท่านนั้นใช้กับไอรอสผู้นี่ไม่ได้หรอกนะ..? "
ดูเหมือนว่าไอรอสจะมองทะลุไปเห็นจิตใจของโคแวนได้โดยตลอด และนั่นก็ทำให้โคแวนต้องหรี่ตาลงด้วยความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
และดูแล้วศึกครั้งนี้ จะอย่างไรก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้...?!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ