The Phoenix of Andromeda
-
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.
19 ตอน
36 วิจารณ์
18.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ดาบเปลวอัคคีที่สาปสูญ !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแต่ดาบที่หมาป่ายมราชดึงออกมากลับไม่ใช่'ดาบอสูรหมาป่า' และมันก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเฉกเช่นดาบ'ราชสีห์ภูผา'ของราชสีห์โลกันต์ แต่ดาบของมันเล่มนี้กลับมีขนาดแค่ครึ่งเดียวของดาบเล่มนั้น แต่ทว่าเมื่อมันได้ถูกชักออกมาจากฝักแล้ว ประกายของอัคคีอันร้อนแรงก็สาดกระจายออกมาจากตัวดาบทันที
แล้วเมธานอสก็ถึงกับผิดคาดไปถนัดใจ
"นี่มัน ดาบเปลวอัคคี...?!! " องครักษ์หน้ากลมส่งเสียงออกมาอย่างตื่นๆ
"อะไรนะ ดาบเปลวอัคคีรึ? " องครักษ์หน้าเหลี่ยมเลิกคิ้วถาม "แต่ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินว่า ดาบเปลวอัคคีของจริงสาปสูญไปนานแล้วนี่? "
"ไม่ ไม่ผิดแน่" องครักษ์หน้ายาวสอดขึ้นมา " ประกายดาบแบบนี้ รัศมีของดาบอันระอุร้อนแบบนี้ นี่ย่อมเป็นดาบเปลวอัคคีของแท้แน่นอน...! "
"ดาบมารเล่มนี้ ข้าเคยประกับมันมาก่อน..." โรมิยาสเอ่ยขึ้นมา "มันไม่ได้สาปสูญอย่างที่ใครๆ คิด แต่ในตอนที่ข้าได้เคยประกับมัน มันไม่ได้อยู่ในมือของคนที่มีใบหน้าเป็นหมาไนเช่นนี้..."
หมาป่ายมราชฟังถึงตรงนี้ก็อดจะสะอึกขึ้นมาครั้งหนึ่งไม่ได้
"หึหึ...ไม่นึกว่าท่านรองขุนพลโรมิยาสจะได้เคยมีวาสนาได้เชยชมดาบเล่มนี้มาก่อน..." คำพูดของหมาป่ายมราชที่ดูเหมือนจะเยินยอนี้กลับมีน้ำเสียงในการเหยียดหยัน "แต่ท่านจะเชื่อข้าหรือไม่ ว่าบุคคลที่ได้เคยครอบครองดาบมารเล่มนี้มาก่อนข้านั้น ไม่ใช่คนที่คู่ควรหรือไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าของมันได้ตลอดไปหรอก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ขณะนี้หัวของท่านก็คงจะไม่ได้ตั้งอยู่บนบ่าจนมาถึงบัดนี้ได้หรอก...! "
แล้วใบหน้าของโรมิยาสก็ถึงกระตุกขึ้นครั้งหนึ่ง
"สามหาว และโอหังมาก! " องครักษ์หน้าเหลี่ยมแทบจะถลาเข้าไปลงมือกับหมาป่ายมราชเสียให้ได้ "ลำพังแค่เป็นหนึ่งในนักรบอัศวินบ้านนอกของพวกโบโรเธีย แล้วคิดว่าตัวเองจะยิ่งใหญ่หรือกล้าแกร่งที่สุดในดาราจักรนี้หรืออย่างไร...?! "
สิ้นคำนั้น ดาบเปลวอัคคีที่อยู่ในมือของหมาป่ายมราชก็สบัดวูบจนเปลวอัคคีที่ร้อนแรงราวกับไฟลาวาบนตัวดาบก็ถูกสลัดตกลงไปตรงเบื้องหน้าขององครักษ์ทั้งสามทันที
แล้วเสียงเหวอของทั้งสามก็ดังขึ้นอย่างตกใจก่อนที่จะกระโดดถอยหลังไปคนล่ะก้าวเพื่อหลบเปลวอัคคีที่ตกลงมานั้น
"หึหึ... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..." หมาป่ายมราชเงยหน้าหัวเราะอย่างขบขัน "แค่เปลวอัคคีที่สลัดออกไป ก็แทบจะทำให้สามองครักษ์ต้องกลายเป็นหมูโดนน้ำร้อนลวกซะแล้วสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า..."
แล้วเสียงกึงๆ ราวกับมีของหนักๆ กระแทกลงไปที่พื้นศิลาก็ดังขึ้นเพื่อขัดจังหวะการหัวเราะของหมาป่ายมราชทันที
และของสิ่งนี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นแต่เป็นปลายด้ามของตรีสูรอสุนีบาตรที่โคแวนตั้งใจจะกระแทกพื้นเพื่อขัดจังหวะนั่นเอง
"พอทีกับน้ำลายอันท่วมทุ่ง...! " โคแวนพูดขึ้นด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม "ถ้าหากเจ้าสองคนยังคงคิดที่จะมากีดขวางการสัญจรของข้าอย่างไม่ยอมเปลี่ยนใจล่ะก็ ข้าก็จะไม่รับประกันว่าอวัยวะของเจ้าทั้งสองจะยังคงมีครบหรือจะต้องขาดหายไปเหมือนกับนังนั่นหรือเปล่า...! "
แล้วเสียงคำรามอันกู่ก้องของหมาป่ายมราชก็พลันดังขึ้น ก่อนที่มันจะลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบนในพริบตา พร้อมกับเสือกแทงปลายดาบของดาบเปลวอัคคีออกไปตั้งแต่อยู่กลางอากาศ...!
ตามหลัก การจู่โจมอย่างตรงไปตรงมาราวกับไร้ซึ่งแบบแผนเช่นนี้ อาจจะนับว่าเป็นยุทธวิธีที่สิ้นคิดวิธีหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องคิดเลยว่า การเสือกปลายดาบลงมาตั้งแต่อยู่กลางอากาศนั้น ยิ่งเป็นวิธีที่โง่เขลา เพราะผู้ตั้งรับนั้นก็ย่อมจะมีโอกาสพลิกหลบหรือโต้กลับได้อย่างไม่ยากเย็นอย่างแน่นอน
แต่ทว่าก่อนที่จะมีใครหัวเราะกับวิธีจู่โจมอันเขลาเช่นนี้ พลิบตานั้นประกายของเปลวอัคคีก็พุ่งวาบออกมาจากปลายดาบราวกับเป็นมังกรเพลิงที่พุ่งทะยานออกมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า!
เปรี้ยงงงงง...!!
เสียงกัมปนาทที่เกิดขึ้นมานั้น ถึงกับทำให้เกือบทุกผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นแทบจะอ้าปากค้างตามๆ กัน และเสี้ยวความคิดของคนเหล่านั้นก็คงคาดว่า โคแวนเองก็คงต้องไหม้เป็นจุลไปกับเปลวอัคคีเรียบร้อยแล้ว...!
แต่ทว่า ถ้าโคแวนจะต้องมามอดไหม้หรือจบสิ้นไปอย่างรวดเร็วอย่างนั้น ก็ย่อมไม่ใช้โคแวนผู้ผ่านการศึกในครั้งอดีตมาอย่างโชกโชนอย่างแน่นอน
ดังนั้นโคแวนในขณะนี้จึงได้ลอยอยู่กลางอากาศในท่ากลับหัว โดยที่สองมือของเขาก็ได้จับยึดอยู่ที่ปลายด้ามของตรีสูร ขณะที่ปลายคมของแฉกตรีสูรนั้นได้ปักลงไปบนพื้นศิลาของตำหนัก
และนั่นก็เท่ากับว่า เสียงเปรี้ยงที่ดังสนั่นนั้น แท้ที่จริงก็เป็นเสียงของเปลวอัคคีจากปลายดาบพุ่งกระทบกับตรีสูรแทนที่จะเป็นร่างของโคแวน
เมื่อหมาป่ายมราชที่ในสีหน้ายังไม่ทันสลายรอยยิ้มไปด้วยความมั่นใจในเปลวอัคคีที่ได้ส่งลงไปนั้น พริบตานั้นมันก็ได้เห็นโคแวนลอยกลับหัวมือจับด้ามตรีสูรอยู่กลางอากาศอย่างไม่คาดคิด ขณะที่มันก็กำลังอยู่ในสภาวะทิ้งตัวกลับลงสู่พื้น
และพริบตาต่อมานั้น มันก็ได้เห็นโคแวนกำลังทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทางด้านหน้าโดยที่ทั้งสองมือยังจับด้ามตรีสูรไว้ และนั่นจึงเป็นผลให้ปลายคมของตรีสูรถูกเหวี่ยงขึ้นไปทางด้านหลังและตีวงโค้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยพลังอันน่าตระหนกของโคแวน!
และขณะที่สภาวะทิ้งตัวของหมาป่ายมราชเพิ่งจะตกถึงพื้น ปลายแฉกของตรีสูรนั้นก็ม้วนฟาดลงมาที่ร่างของมันราวกับสายฟ้า!
'อะไรกัน...!! ความเร็วของการโต้กลับด้วยวิธีนี้มัน... เหลือเชื่อ..?!! '
เสี้ยวความคิดของหมาป่ายยมราชในขณะนั้น ถึงกับตื่นตระหนกจนเหงื่อกาฬแทบปะทุออกมา และมันก็คิดว่าคงจะไม่มีโอกาสที่จะดีดตัวออกไปให้พ้นจากรัศมีของตรีสูรนั้นได้ทันการแน่ อีกทั้งพลังแห่งความกดดันอันประหลาดที่แฝงมากับตรีสูรนั้น ก็ราวกับจะสะกดร่างของมันให้ตราตรึงอยู่กับที่...?!
ทว่า... พริบตานั้นมันก็รู้สึกถึงแรงเหวี่ยงจากบางสิ่งที่เหวี่ยงร่างของมันให้พ้นจากคมของปลายตรีสูรไปได้อย่างฉิวเฉียด...!
เปรี้ยยยยงงงงงง...!!!
คลืนนนนน...!!!
ตรงจุดที่เป็นเคยเป็นจุดทิ้งตัวลงของหมาป่ายมราชในขณะนี้ ถึงกับยุบลงไปด้วยปลายของตรีสูรที่ยังคงส่งเสียงชี่ๆ พร้อมกับมีประกายออร่าสีฟ้าแปลบปลาบอยู่ตรงนั้น ขณะที่ตัวของมันเองก็เสียหลักลงไปนอนกลิ้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่วาพร้อมๆ กับมีเหงื่อกาฬไหลชุ่มไปทั้งตัว
"ข้า... เคยเตือนพวกเจ้าแล้วใช่ไหม... ว่าอย่าได้นึกฝันว่าจะล้มโคแวนได้อย่างง่ายดาย..."
เสียงพูดอันช้าเนิบและน่าเกรงขามเสียงหนึ่งได้เอ่ยขึ้นมา และเสียงนี้ก็หาใช่เสียงของเมธานอสไม่
ท่ามกลางกลุ่มควันอันพร่าพรายที่เป็นผลจากการที่ตรีสูรของโคแวนได้ฟาดจมลงไปในพื้นศิลาของตำหนัก ก็ปรากฏเงาร่างของคนลึกลับอีกผู้หนึ่งที่ยังไม่สามารถจะมองเห็นหน้าได้อย่างชัดเจน ได้ก้าวย่างไปยังร่างของหมาป่ายมราชที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้นอย่างมึนๆ
แล้วมันก็เอื้อมมือไปเหมือนจะช่วยจับมือของหมาป่ายมราชขึ้นมา แต่ขณะที่หมาป่ายมราชส่งมือไปเพื่อที่จะให้คนลึกลับนั้นช่วยพยุง คนลึกลับนั้นก็พลันสะบัดหลังมือตบไปที่ใบหน้าของมันทันที...?!
และในจังหวะนั้น เมธานอส ราชสีห์โลกันต์ และแม้แต่คาเมเลียส ก็ถึงกับตาเบิกโพลงขึ้นมาอย่างทันทีเช่นกัน...!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
แล้วเมธานอสก็ถึงกับผิดคาดไปถนัดใจ
"นี่มัน ดาบเปลวอัคคี...?!! " องครักษ์หน้ากลมส่งเสียงออกมาอย่างตื่นๆ
"อะไรนะ ดาบเปลวอัคคีรึ? " องครักษ์หน้าเหลี่ยมเลิกคิ้วถาม "แต่ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินว่า ดาบเปลวอัคคีของจริงสาปสูญไปนานแล้วนี่? "
"ไม่ ไม่ผิดแน่" องครักษ์หน้ายาวสอดขึ้นมา " ประกายดาบแบบนี้ รัศมีของดาบอันระอุร้อนแบบนี้ นี่ย่อมเป็นดาบเปลวอัคคีของแท้แน่นอน...! "
"ดาบมารเล่มนี้ ข้าเคยประกับมันมาก่อน..." โรมิยาสเอ่ยขึ้นมา "มันไม่ได้สาปสูญอย่างที่ใครๆ คิด แต่ในตอนที่ข้าได้เคยประกับมัน มันไม่ได้อยู่ในมือของคนที่มีใบหน้าเป็นหมาไนเช่นนี้..."
หมาป่ายมราชฟังถึงตรงนี้ก็อดจะสะอึกขึ้นมาครั้งหนึ่งไม่ได้
"หึหึ...ไม่นึกว่าท่านรองขุนพลโรมิยาสจะได้เคยมีวาสนาได้เชยชมดาบเล่มนี้มาก่อน..." คำพูดของหมาป่ายมราชที่ดูเหมือนจะเยินยอนี้กลับมีน้ำเสียงในการเหยียดหยัน "แต่ท่านจะเชื่อข้าหรือไม่ ว่าบุคคลที่ได้เคยครอบครองดาบมารเล่มนี้มาก่อนข้านั้น ไม่ใช่คนที่คู่ควรหรือไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าของมันได้ตลอดไปหรอก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ขณะนี้หัวของท่านก็คงจะไม่ได้ตั้งอยู่บนบ่าจนมาถึงบัดนี้ได้หรอก...! "
แล้วใบหน้าของโรมิยาสก็ถึงกระตุกขึ้นครั้งหนึ่ง
"สามหาว และโอหังมาก! " องครักษ์หน้าเหลี่ยมแทบจะถลาเข้าไปลงมือกับหมาป่ายมราชเสียให้ได้ "ลำพังแค่เป็นหนึ่งในนักรบอัศวินบ้านนอกของพวกโบโรเธีย แล้วคิดว่าตัวเองจะยิ่งใหญ่หรือกล้าแกร่งที่สุดในดาราจักรนี้หรืออย่างไร...?! "
สิ้นคำนั้น ดาบเปลวอัคคีที่อยู่ในมือของหมาป่ายมราชก็สบัดวูบจนเปลวอัคคีที่ร้อนแรงราวกับไฟลาวาบนตัวดาบก็ถูกสลัดตกลงไปตรงเบื้องหน้าขององครักษ์ทั้งสามทันที
แล้วเสียงเหวอของทั้งสามก็ดังขึ้นอย่างตกใจก่อนที่จะกระโดดถอยหลังไปคนล่ะก้าวเพื่อหลบเปลวอัคคีที่ตกลงมานั้น
"หึหึ... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..." หมาป่ายมราชเงยหน้าหัวเราะอย่างขบขัน "แค่เปลวอัคคีที่สลัดออกไป ก็แทบจะทำให้สามองครักษ์ต้องกลายเป็นหมูโดนน้ำร้อนลวกซะแล้วสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า..."
แล้วเสียงกึงๆ ราวกับมีของหนักๆ กระแทกลงไปที่พื้นศิลาก็ดังขึ้นเพื่อขัดจังหวะการหัวเราะของหมาป่ายมราชทันที
และของสิ่งนี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นแต่เป็นปลายด้ามของตรีสูรอสุนีบาตรที่โคแวนตั้งใจจะกระแทกพื้นเพื่อขัดจังหวะนั่นเอง
"พอทีกับน้ำลายอันท่วมทุ่ง...! " โคแวนพูดขึ้นด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม "ถ้าหากเจ้าสองคนยังคงคิดที่จะมากีดขวางการสัญจรของข้าอย่างไม่ยอมเปลี่ยนใจล่ะก็ ข้าก็จะไม่รับประกันว่าอวัยวะของเจ้าทั้งสองจะยังคงมีครบหรือจะต้องขาดหายไปเหมือนกับนังนั่นหรือเปล่า...! "
แล้วเสียงคำรามอันกู่ก้องของหมาป่ายมราชก็พลันดังขึ้น ก่อนที่มันจะลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบนในพริบตา พร้อมกับเสือกแทงปลายดาบของดาบเปลวอัคคีออกไปตั้งแต่อยู่กลางอากาศ...!
ตามหลัก การจู่โจมอย่างตรงไปตรงมาราวกับไร้ซึ่งแบบแผนเช่นนี้ อาจจะนับว่าเป็นยุทธวิธีที่สิ้นคิดวิธีหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องคิดเลยว่า การเสือกปลายดาบลงมาตั้งแต่อยู่กลางอากาศนั้น ยิ่งเป็นวิธีที่โง่เขลา เพราะผู้ตั้งรับนั้นก็ย่อมจะมีโอกาสพลิกหลบหรือโต้กลับได้อย่างไม่ยากเย็นอย่างแน่นอน
แต่ทว่าก่อนที่จะมีใครหัวเราะกับวิธีจู่โจมอันเขลาเช่นนี้ พลิบตานั้นประกายของเปลวอัคคีก็พุ่งวาบออกมาจากปลายดาบราวกับเป็นมังกรเพลิงที่พุ่งทะยานออกมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า!
เปรี้ยงงงงง...!!
เสียงกัมปนาทที่เกิดขึ้นมานั้น ถึงกับทำให้เกือบทุกผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นแทบจะอ้าปากค้างตามๆ กัน และเสี้ยวความคิดของคนเหล่านั้นก็คงคาดว่า โคแวนเองก็คงต้องไหม้เป็นจุลไปกับเปลวอัคคีเรียบร้อยแล้ว...!
แต่ทว่า ถ้าโคแวนจะต้องมามอดไหม้หรือจบสิ้นไปอย่างรวดเร็วอย่างนั้น ก็ย่อมไม่ใช้โคแวนผู้ผ่านการศึกในครั้งอดีตมาอย่างโชกโชนอย่างแน่นอน
ดังนั้นโคแวนในขณะนี้จึงได้ลอยอยู่กลางอากาศในท่ากลับหัว โดยที่สองมือของเขาก็ได้จับยึดอยู่ที่ปลายด้ามของตรีสูร ขณะที่ปลายคมของแฉกตรีสูรนั้นได้ปักลงไปบนพื้นศิลาของตำหนัก
และนั่นก็เท่ากับว่า เสียงเปรี้ยงที่ดังสนั่นนั้น แท้ที่จริงก็เป็นเสียงของเปลวอัคคีจากปลายดาบพุ่งกระทบกับตรีสูรแทนที่จะเป็นร่างของโคแวน
เมื่อหมาป่ายมราชที่ในสีหน้ายังไม่ทันสลายรอยยิ้มไปด้วยความมั่นใจในเปลวอัคคีที่ได้ส่งลงไปนั้น พริบตานั้นมันก็ได้เห็นโคแวนลอยกลับหัวมือจับด้ามตรีสูรอยู่กลางอากาศอย่างไม่คาดคิด ขณะที่มันก็กำลังอยู่ในสภาวะทิ้งตัวกลับลงสู่พื้น
และพริบตาต่อมานั้น มันก็ได้เห็นโคแวนกำลังทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทางด้านหน้าโดยที่ทั้งสองมือยังจับด้ามตรีสูรไว้ และนั่นจึงเป็นผลให้ปลายคมของตรีสูรถูกเหวี่ยงขึ้นไปทางด้านหลังและตีวงโค้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยพลังอันน่าตระหนกของโคแวน!
และขณะที่สภาวะทิ้งตัวของหมาป่ายมราชเพิ่งจะตกถึงพื้น ปลายแฉกของตรีสูรนั้นก็ม้วนฟาดลงมาที่ร่างของมันราวกับสายฟ้า!
'อะไรกัน...!! ความเร็วของการโต้กลับด้วยวิธีนี้มัน... เหลือเชื่อ..?!! '
เสี้ยวความคิดของหมาป่ายยมราชในขณะนั้น ถึงกับตื่นตระหนกจนเหงื่อกาฬแทบปะทุออกมา และมันก็คิดว่าคงจะไม่มีโอกาสที่จะดีดตัวออกไปให้พ้นจากรัศมีของตรีสูรนั้นได้ทันการแน่ อีกทั้งพลังแห่งความกดดันอันประหลาดที่แฝงมากับตรีสูรนั้น ก็ราวกับจะสะกดร่างของมันให้ตราตรึงอยู่กับที่...?!
ทว่า... พริบตานั้นมันก็รู้สึกถึงแรงเหวี่ยงจากบางสิ่งที่เหวี่ยงร่างของมันให้พ้นจากคมของปลายตรีสูรไปได้อย่างฉิวเฉียด...!
เปรี้ยยยยงงงงงง...!!!
คลืนนนนน...!!!
ตรงจุดที่เป็นเคยเป็นจุดทิ้งตัวลงของหมาป่ายมราชในขณะนี้ ถึงกับยุบลงไปด้วยปลายของตรีสูรที่ยังคงส่งเสียงชี่ๆ พร้อมกับมีประกายออร่าสีฟ้าแปลบปลาบอยู่ตรงนั้น ขณะที่ตัวของมันเองก็เสียหลักลงไปนอนกลิ้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่วาพร้อมๆ กับมีเหงื่อกาฬไหลชุ่มไปทั้งตัว
"ข้า... เคยเตือนพวกเจ้าแล้วใช่ไหม... ว่าอย่าได้นึกฝันว่าจะล้มโคแวนได้อย่างง่ายดาย..."
เสียงพูดอันช้าเนิบและน่าเกรงขามเสียงหนึ่งได้เอ่ยขึ้นมา และเสียงนี้ก็หาใช่เสียงของเมธานอสไม่
ท่ามกลางกลุ่มควันอันพร่าพรายที่เป็นผลจากการที่ตรีสูรของโคแวนได้ฟาดจมลงไปในพื้นศิลาของตำหนัก ก็ปรากฏเงาร่างของคนลึกลับอีกผู้หนึ่งที่ยังไม่สามารถจะมองเห็นหน้าได้อย่างชัดเจน ได้ก้าวย่างไปยังร่างของหมาป่ายมราชที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้นอย่างมึนๆ
แล้วมันก็เอื้อมมือไปเหมือนจะช่วยจับมือของหมาป่ายมราชขึ้นมา แต่ขณะที่หมาป่ายมราชส่งมือไปเพื่อที่จะให้คนลึกลับนั้นช่วยพยุง คนลึกลับนั้นก็พลันสะบัดหลังมือตบไปที่ใบหน้าของมันทันที...?!
และในจังหวะนั้น เมธานอส ราชสีห์โลกันต์ และแม้แต่คาเมเลียส ก็ถึงกับตาเบิกโพลงขึ้นมาอย่างทันทีเช่นกัน...!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ