สืบสู้ผี ภาค 1-2
8.7
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.
73 ตอน
3 วิจารณ์
63.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
50) สองทหารนัยตาทมิฬ !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแล้วท่านจ้าวแห่งมิตทราห์ก็ได้ตระหนักในเวลาไม่ช้าว่า หน้ากากอสูรอูราณห์นั้นไม่ได้มีความหมายใดๆต่อสถานการณ์นี้อีกต่อไป เมื่อสองทหารนั้นเหมือนกับจะกลายพันธ์เป็นอสูรที่เกิดจากการติดเชื้อที่ไร้ซึ่งจุดอ่อนไปเสียแล้ว
"เหล่าทหารหาญแห่งข้าจงฟัง !" ท่านจ้าวที่ยืนอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของการคุ้มครองประกาศก้อง "หน้ากากอสูรอูราณห์ณ.บัดนี้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว จงถอดหน้ากากทิ้ง และเตรียมใช้ธนูกับลูกธนูสีแดง !"
รวดเร็วดั่งพายุ เหล่าทหารแห่งมิตทราห์รีบถอดหน้ากากออกมาและโยนทิ้งลงไปอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นคันธนูกับลูกธนูสีแดงเพลิงก็อยู่ในท่าพร้อมยิงทันที
สองทหารผู้ติดเชื้ออสูรดำยังคงย่างสามขุมเข้ามา ในสายตาของพวกมันกลับมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ท่านจ้าวแห่งมิตทราห์เพียงผู้เดียวเท่านั้น
สีหน้าของท่านจ้าวบัดนี้ก็ดูจะมีความพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย แต่แล้วท่านจ้าวก็ตัดสินใจ
"โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด สองนักรบผู้เป็นพี่น้องแห่งข้า..." ท่านจ้าวกล่าวด้วยความสทกสะท้าน "ปล่อยดอกธนู..!"
สื้นเสียงนั้น ดอกธนูราวสามสิบดอกก็พุ่งออกจากแหล่งตรงไปยังร่างทั้งสองของทหารที่ติดเชื้อในพริบตา และแม้แต่เจ้างูยักษ์สีดำก็ไม่พ้นกับการต้องตกเป็นเป้าธนูในครั้งนี้
เสียงสวบๆๆดังถี่ๆติดกันระหว่างที่ลูกธนูทั้งหมดได้ปักตรึงอยู่ที่เป้าหมายข้างหน้านั้น
แต่ทว่า... ร่างทั้งสองของทหารที่ติดเชื้อกลับดูจะไม่มีปฏิกิริยาของความเจ็บปวดอันใดนอกจากอาการเซผงะไปด้านหลังเล็กน้อย ก่อนที่จะย่างสามขุมกันเข้ามาอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนดอกธนูที่ได้กระทบกับร่างของเจ้างูยักษ์นั้นก็กลับไม่ระคายผิวชั้นนอกของมัน แถมยังกระเด็นกระดอนออกมาราวกับได้เจอแรงดีดสะท้อนอันรุนแรงจากผิวอันเป็นมันเลื่อมของมันเอง !
ผมกับไอริณต่างก็อุทานบางอย่างขึ้นมาพร้อมๆกัน ในขณะที่พี่เมฆก็ดูจะมีสีหน้าตื่นตะลึงด้วยเช่นกัน ส่วนจันร้องอะไรออกมาคำหนึ่งแล้วก็ถอยหลังเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้าไปอีกครั้ง !
"พี่เมฆคะ..." ไอริณเรียกพี่เมฆ "ดอกธนูสีแดงนั่นน่าจะมีอานุภาพหรือพิษสงมากกว่าดอกสีแดงอยู่ไม่น้อยนะคะ เพราะชายที่ชื่อชัยยาก็เคยบอกว่าดอกธนูที่มีสีแดงนั่นเป็นสีของดอกธนูที่ใช้ปลิดชีพผู้ที่ติดเชื้ออสูรดำได้นะคะ แต่นี่มันกลับใช้ไม่ได้ผลไปในตอนนี้แล้วใช่ไม๊คะนี่ ?"
"ก็คงจะเป็นอย่างที่เห็นนั่นล่ะหนูไอริณ ถ้าดอกธนูสีแดงนั่นใช้ได้ผล มันก็คงจะไม่สามารถเดินต่อไปได้อีกหรอก แต่พี่ก็ไม่สามารถบอกได้หรอกนะว่า พิษสงของดอกธนูสีแดงนั่นมันจะสักขนาดไหน"
"พี่เมฆครับ..." ผมพูดขึ้นมาบ้าง "เจ้างูตัวนั้นดูมันน่ากลัวจริงๆเลยนะครับ ดอกธนูทั้งหมดนั่นยังไงก็ปักเข้าร่างของทหารสองคนนั่นทุกดอก แต่ทำไมกลับไม่ระคายผิวของเจ้างูนั่นแม้แต่ดอกเดียวเลยล่ะครับนี่ ?"
พี่เมฆใช้นิ้วถูข้างจมูกราวกับกำลังใช้ความคิด "พี่เดาว่า เจ้างูตัวนี้น่าจะเป็นงูที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยไสยเวทชั้นสูง ไม่น่าจะใช่งูโดยทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะถ้าเป็นงูทั่วๆไป ความเร็วแรงของลูกธนูระดับนั้น ยังไงก็น่าจะระคายผิวมันบ้าง ไม่ใช่เด้งออกซะทั้งหมดอย่างนี้"
"และน้ำสีดำที่มันคายออกมาจากปากของมันนั้น ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีกนะคะ เราคงจะต้องระวังกันให้มาก ถ้าไม่อยากติดเชื้อจนกลายเป็นทาสปิศาจอย่างนั้น" ไอริณพูดเสริมขึ้นด้วยท่าทางที่อดจะสยองไม่ได้
ขณะนี้ท่านจ้าวแห่งมิตทราห์ก็ดูเหมือนจะตระหนักแล้วเช่นกันว่า ดอกธนูสีแดงที่เคยเป็นดอกธนูที่เคยใช้สังหารผู้ที่ติดเชื้ออสรูดำอย่างได้ผลมาตลอด มาบัดนี้ก็ไม่มีความหมายใดๆอีกต่อไปแล้ว
"หน่วยอาวุธหอกเตรียมพร้อม...!" ท่านจ้าวออกคำสั่งเร็วปรื๋อ "เตรียมเข้าปะทะกับเป้าหมายข้างหน้าทันที !"
กลุ่มทหารของท่านจ้าวราวสิบกว่าคนต่างเก็บคันธนูไว้ที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดึงวัตถุสองท่อนออกมาประกอบสวมเข้าด้วยกันกลายเป็นหอกด้ามยาวไปทันที
แล้วสองทหารผู้ติดเชื้ออสูรดำก็ทะยานเข้ามาหาทหารหน่วยหน้าของท่านจ้าวอย่างรวดเร็วราวกับไม่เห็นอาวุธใดๆอยู่ในสายตาเลยสักนิด
"ประจัญบาน...!" ท่านจ้าวออกคำสั่งโดยไม่รอช้า
ทหารกองหน้าของท่านจ้าวราวสิบกว่าคนต่างเข้าไปโจมตีประชิดตัวสองทหารผู้ติดเชื้ออย่างไม่รีรอ ปลายหอกอันคมกริบราวสิบกว่าอันนั้นต่างก็พุ่งเข้าสู่ร่างของทั้งสองที่ยังคงมีสภาพราวกับตัวเม่นเพราะดอกธนูยังคงปักคาร่างอยู่หลายสิบดอก
แต่มันสองคนก็สามารถยกมือขึ้นมารับคมหอกที่พุ่งเข้ามาได้อย่างไม่ติดขัดและออกแรงกระชากหอกเหล่านั้นติดมือไปด้วยแรงพลังอันดุดัน จากนั้นก็ลงมือหักด้ามหอกเป็นสองท่อนแล้วโยนทิ้งกับพื้นไปอย่างไม่ยี่หระ ส่วนหอกอันที่พุ่งเข้าสู่เรือนร่างของมันสองคนก็ไม่สามารถจะสร้างความเจ็บปวดหรือสะทกสะท้านใดๆให้กับพวกมันได้เลยสักนิด ซ้ำหอกเหล่านั้นกลับถูกร่างกายของมันสองคนดูดเอาไว้จนแทบจะกระชากกลับไปไม่ได้ หอกอันไหนที่ถูกดูดติดคาร่างมันและหลุดจากมือของทหารของท่านจ้าว มันสองคนก็ดึงออกมาจากร่างกายของตัวเอง และจับหักทิ้งไปกับพื้นทันที !
บัดนี้ดูเหมือนว่าความหวาดกลัวและความวิตกกังวลก็ได้บังเกิดต่อสีหน้าของเหล่าทหารของท่านจ้าวจนเกือบทุกคน แม้แต่สีหน้าของท่านจ้าวเองก็ดูตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ตรงหน้าจนชะงักนิ่งไปในขณะนี้
แล้วกองทหารของท่านจ้าวก็ต้องนำตัวท่านจ้าวถอยร่นออกไปทางข้างหลังอย่างช้าๆ ในขณะที่ทหารปิศาจทั้งสองก็ก้าวประชิดเข้าไปทุกระยะ
ทันใดนั้น ก็ดูเหมือนว่าผมจะเห็นวัตถุบางอย่างได้พุ่งวาบไปที่หนึ่งในทหารที่ติดเชื้ออสูรดำ
และพริบตานั้น หัวของมันก็ถูกเสียบทะลุไปด้วยลูกธนูปริศนาดอกหนึ่งทันที !
แล้วเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของมันก็ดังลั่นไปทั่วท้องทุ่งแห่งนั้น จากนั้นมันก็ทรุดร่างลงไปดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นขณะที่ดอกธนูปริศนานั้นก็ยังคงปักคาเด่อยู่ที่หัวของมัน
แต่เมื่อผมได้สังเกตุสีของดอกธนูปริศนานี้ก็กลับพบว่ามันเป็นดอกธนูที่มี สีรุ้ง ไปทั้งดอก ?!
"ดอกธนูสีรุ้ง...?!!" ผมอุทานออกมา ขณะที่ไอริณกับพี่เมฆก็ตกตะลึงกับดอกธนูประหลาดดอกนี้เช่นกัน
ดอกธนูที่มีสีรุ้งนี้กลับสามารถสยบหรือหยุดยั้งร่างของทหารปิศาจนั้นได้อย่างได้ผลและทันที...?
ก็แล้วดอกธนูดอกนี้มันได้ถูกยิงมาจากทางไหน และจากใครกันล่ะ... ?!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ