สืบสู้ผี ภาค 1-2

พี่เมฆหันมายิ้มแค่นๆ "จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้มันมีที่มาอันซับซ้อน เอาว่าวันหนึ่งพี่จะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน"
แล้วพี่เมฆก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีก ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆ ราวกับจะใช้ความคิดบางอย่าง และในแววตาของพี่เมฆที่ผมเห็นในตอนนี้นั้น ราวกับว่าเขาจะมีความหลังในอดีตที่ขมขื่นบางอย่าง ปรากฏออกมาให้เห็น
"ริณเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรกับแมวดำตัวนี้เท่าไรนัก" ไอริณพูดกับผม "รู้แต่ว่า เธอเคยเป็นผู้หญิงที่สวยมากมาก่อน ก่อนจะมาเสียชีวิตด้วยความแค้นบางอย่าง และต่อมาก็กลายมาเป็น บริวารของบุรุษตาไฟคนนั้นไป"
แล้วพี่เมฆก็ลุกขึ้นยืน พลางโยนบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดนั้นทิ้งไปทันที
"การผจญภัยของพี่ในวันนี้ คงต้องเบรคเอาไว้ก่อน" เขาพูดอย่างยิ้มๆตามสไตล์ของเขา "ทีแรกพี่กะจะชวนน้องสองคนเข้าไปตะลุยในบ้านแฝดเสียวันนี้เลย เพราะสงสัยรำคาญใจว่า ในบ้านนั้นมันต้องมีอะไรแอบซ่อนเอาไว้แน่ๆ แต่พอมาเจอแมวข่วนขนาดนี้แล้ว พี่คงจะต้องขอไปนอนเลียแผลสักวันหนึ่งก่อน และก็อยากจะฝากน้องกิตติให้ลองสำรวจทุกๆจุดของในบ้านนี้ดูว่า มันมีอะไรบางอย่างที่ได้ถูกซ่อนเร้นเอาไว้จากสายตาบ้างไม๊..."
"ครับพี่เมฆ ผมจะลองกลับไปสำรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนเลย" ผมรับคำพี่เมฆ "เพราะในบ้านนั้น ก็มีบางห้องที่ผมยังไม่เคยเข้าไปดูเลยก็มี เช่นห้องเก็บของที่อยู่ติดกับห้องครัวชั้นล่าง และห้องใต้หลังคาที่ไม่รู้ว่าเขาทำไว้ทำไม ?" ผมบอกพี่เมฆ แต่แล้วในใจของตัวผมเอง ก็นึกประหวั่นอะไรบางอย่างขึ้นมา
"หลังจากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แปลกๆในวันนี้ น้องกิตติคงจะกลัวๆขึ้นมาเหมือนกันใช่ไหม เมื่อต้องกลับเข้าไปในบ้านนั้นอีก ?" ดูเหมือนว่า พี่เมฆจะสังเกตุความประหวั่นของผมออกทันที
"ครับ ผมก็อดกลัวไม่ได้เหมือนกัน" ผมยอมรับกับพี่เมฆ "ผมนึกสงสัยอยู่ว่า ถ้าผมกลับไปนอนคืนนี้ แล้วไปเจอกับเจ้าแมวดำหรือบุรุษตาไฟคนนั้นเข้า แล้วผมจะทำยังไงดี และยิ่งผมจะต้องเข้าไปสำรวจทุกมุมของภายในบริเวณบ้านด้วยแล้ว พวกมันคงจะไม่อยู่เฉยกันล่ะมั้งครับพี่เมฆ ?"
"เจ้าตาไฟนั่น ตอนนี้มันกำลังติดธุระอยู่ที่อื่น..." พี่เมฆบอกออกมา มันคงยังจะจัดการอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ในตอนนี้หรอกน้องกิตติ"
ผมงงกับที่พี่เมฆบอกทันที เลยหันไปมองไอริณ แต่สายตาของเธอก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเหมือนกัน
"อย่าเพิ่งทำงงกัน ฮ่าๆ" พี่เมฆอดหัวเราะไม่ได้ "การที่พี่มาปรากฏตัวในวันนี้ ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่า ไอ้ตาไฟนั่นกำลังไปทำความชั่วอยู่ที่อื่น ในที่ซึ่งไกลพอสมควร การที่นังแมวดำกับไอ้กุ๊ยสามตัวนั่นโจมตีเราก็เป็นเพราะ ได้ถูกมันสั่งไว้แล้วด้วยกระแสจิตอันแรงกล้าของมันต่างหาก"
"แต่ว่า..." ไอริณเอ่ยขึ้น "พี่เมฆรู้ได้อย่างไรกันคะ ว่าบุรุษตาไฟคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนในตอนนี้ ?"
"พี่นั่งเทียนเอา... เอ๊ย ไม่ใช่ คืองี้นะ คืนก่อนนี้ พอพี่นั่งสมาธิก่อนนอนไปได้สักพักหนึ่งแล้ว พี่ก็ได้รับข่าวสารมาจากพันธมิตรคนหนึ่ง"
'พันธมิตร...?!" ผมกับไอริณพูดขึ้นเกือบจะพร้อมกัน
"ใช่แล้ว พันธมิตร" พี่เมฆตอบยิ้มๆ "น้องสองคนรู้ไม๊ ว่าข่ายงานความชั่วของไอ้ตาไฟนั่น ไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียว มันยังไปดำเนินแผนการอันชั่วร้ายของมันในที่อื่นๆอีกด้วย ส่วนพันธมิตรของพี่คนนั้น ก็กำลังเฝ้าติดตามมันอยู่ โดยที่มันเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยล่ะ"
"แล้ว พันธมิตรของพี่คนนั้น คือใครกันคะพี่เมฆ ?" ไอริณถาม
"หนูไอริณอาจจะเคยรู้เรื่องราวของเขา แต่อาจจะไม่เคยเจอเขามาก่อนก็ได้นะ เพราะปกตินิสัยของเขานั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากจะสมาคมกับใครเท่าไรนัก เขาคนนั้นก็คือ... คนที่มีแผลเป็นที่แก้มซ้าย เป็นรูปกากบาทนั่นเอง...!"
"ห๋า... เขาคนนั้นเองเหรอคะ ?!" ไอริณอุทานออกมาอย่างหน้าตาตื่น
พี่เมฆพยักหน้า "ใช่แล้ว เขาคนนั้นเองล่ะ หนูไอริณเคยเจอเขามาก่อนบ้างไหมล่ะ ?"
"ไม่เคยเลยค่ะพี่เมฆ แต่พี่สาว... อาจารย์ของไอริณน่ะค่ะ เคยเล่าให้ริณฟังอยู่บ้างเหมือนกันว่า เขาคนนั้นเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีอำนาจอาคมค่อนข้างสูงเลยทีเดียว"
"ใช่แล้วล่ะ และผู้ชายคนที่มีแผลเป็น เป็นรูปกากบาทคนนี้ล่ะ ที่พอจะเผชิญหน้ากันแบตัวต่อตัว กับไอ้ตาไฟคนนั้นได้ !"
"หนูไอริณ..." พี่เมฆเรียกชื่อเธอ และทำหน้าเข้มขึ้นมา
"คะ ?"
"หนูจะต้องเข้าไปสำรวจบ้านแฝดหลังนั้นกับกิตติในคืนนี้ด้วยนะ..." เขาบอกเธอ
ไอริณกับผม หันมามองหน้ากันทันที
แล้วพี่เมฆก็พูดต่อไปว่า "ตอนนี้พวกเราจำเป็นจะต้องคลี่คลายปริศนาในบ้านแฝดหลังนั้นให้ได้โดยเร็วที่สุด... เพราะอีกไม่กี่วันนี้ มันจะถึงวันอันสำคัญที่อาจจะชี้ชะตาบางอย่าง..."
"เอ๊ะ... วันอะไรเหรอครับพี่เมฆ ?" ผมรีบถามพี่เมฆทันที
แล้วพี่เมฆก็เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าราตรีอันมืดมิด "อีกสามวัน จะถึงวันที่ ดวงดาวจะบังดวงดาว จะเกิดความมืดมิดไปชั่วขณะแม้ในตอนกลางวัน แต่ในชั่วขณะของความมืดนั่นแหล่ะ ที่แผนการอันชั่วร้ายของไอ้ตาไฟนั่นอาจจะสำฤทธิผล..."
"ริณนึกออกแล้ว... " ไอริณดีดนิ้วดังเปาะ "ที่จริงริณรู้อยู่แล้วว่าอีกสามวัน จะถึงวันนั้นค่ะพี่เมฆ"
"เอ่อ... ผมขอถามแบบโง่ๆนะ..." ผมพูดขึ้นมาพลางมองหน้าไอริณและพี่เมฆ "อีกสามวันข้างหน้านี้ มันเป็นวันอะไรงั้นเหรอครับ ?"
ไอริณยิ้มออกมา "วันที่จะเกิด...'สุริยปราคา'ค่ะพี่กิต"
"ห๋า... สุริยคราสงั้นเหรอน้องริณ ?!"
"ใช่แล้ว สุริยปราคา หรือ สุริยคราส" พี่เมฆตอบแทนไอริณ "วันที่ความสว่างและความดีจะอ่อนแรง แต่จะเป็นวันที่ความมืดและความชั่วร้าย จะเข้มแข็งขึ้นจนถึงที่สุดได้ หากมีบางสิ่งเข้าไปเสริม..." พี่เมฆพูดให้ผมฟังอย่างช้าๆ
วันที่ความสว่างและความดีจะอ่อนแรง แต่จะเป็นวันที่ความมืดและความชั่วร้าย จะเข้มแข็งขึ้นจนถึงที่สุดได้ หากมีบางสิ่งเข้าไปเสริม... ผมทวนประโยคนี้ของพี่เมฆไว้ในใจ
ก็แล้ว... ก็แล้วผู้ชายลึกลับคนที่มีดวงตาราวกับเปลวเพลิงคนนั้น เขากำลังวางแผนจะทำเรื่องชั่วร้ายอะไรในวันนั้นกันล่ะ...?!"
Next : บทที่ 25 เตรียมสำรวจบ้านแฝด >>
*หมายเหตุผู้เขียน*
สวัสดีครับ ไม่น่าเชื่อว่าตัวผมเองจะเขียนเรื่องนี้มาจนถึงบทที่ 24 แล้ว ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเป็นเรื่องสั้นๆแค่ 2-3 บทแค่นั้นเอง จำได้ว่า พอเขียนจบบทที่ 3 แล้ว ก็มีนักอ่านเข้ามาอ่านเยอะกว่าที่ผมคาดไว้ ผมจึงตัดสินใจขยายเรื่องนี้ออกไปเป็นเรื่องยาว ทั้งๆที่ไม่มีโครงเรื่องใดๆอยู่ในหัวเลย เรียกว่านั่งเทียนเขียนกันทุกตอนก็ว่าได้ (แต่บ้านแฝดที่มีผีสิงนี้มีอยู่จริง และชื่อเรื่อง 'ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว' ก็เป็นเสียงผีที่ผมเคยได้ยินมาจริงๆด้วยนะครับ 55++)
พอเขียนไปจนจบบทที่ 5 แล้ว ผมก็เห็นว่าเรื่องยังไม่คืบหน้าไปเท่าไร และผมก็เกิดไอเดียแตกแขนงออกไปหลายอย่าง ก็เลยอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็นซีรี่ส์เรื่องยาวขึ้นมา โดยที่ผมก็อยากจะเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่ โดยจะคงคำว่า 'ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว' ให้เป็นชื่อภาคหรือชื่อตอนใหญ่ตอนหนึ่งของเรื่องหลัก
แต่จวบจนบัดนี้ ผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อเรื่องสักที และเหตุการณ์ในภาค 'ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว' ก็ใกล้จะจบหรือคลี่คลายลงในอีกไม่กี่บทข้างหน้านี้แล้ว
และแล้ว วันนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อเรื่องสักที เพื่อที่จะได้เริ่มภาคใหม่ หรือตอนใหญ่ตอนใหม่ในเร็วๆนี้ ซึ่งผมวางแผนจะย้ายสถานที่การผจญภัยของตัวละครไปอีกที่หนึ่ง และก็จำเป็นที่จะต้องตั้งชื่อภาคใหม่หรือตอนใหม่ไปด้วยแน่ๆ
ชื่อเรื่องที่ผมจะเปลี่ยน  ผมกะจะใช้ชื่อเรื่อง 'สืบสู้ผี' และจะมีวงเล็บกันงงไว้ในช่วงแรกๆด้วยว่า 'ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว' ประกอบไว้ด้วยนะครับ เผื่อจะมีนักอ่านหาไม่เจอน่ะครับ
สืบสู้ผี(ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว)
ประมาณนี้ล่ะครับ
และก็เป็นที่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า เรื่องนี้จะเป็นซีรี่ส์ตอนใหญ่ๆที่มีหลายตอนอย่างแน่นอนครับ
ขอขอบคุณนักอ่านที่ได้ติดตามกันมานะครับ^^
ปล: ขอฝากนิยายไว้อีกเรื่องหนึ่งด้วยนะครับ เรื่อง The Phoenix of Andromeda' เรื่องนี้เป็นแนว ไซไฟแอ็คชั่น ที่ผมตั้งใจเขียนมากอีกเรื่องหนึ่ง สามารถหาอ่านได้ในธัญวลัยนี้เลยนะครับ(ลงไว้ในหมวด บู๊ แอ็คชั่น) ขอบคุณมากๆครับ