สืบสู้ผี ภาค 1-2
8.7
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.
73 ตอน
3 วิจารณ์
63.02K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) การช่วยเหลือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแล้วพวกมันทั้งสามก็ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาหาผมกับไอริณอย่างย่ามใจ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะไปพร้อมๆกันด้วย
ไอริณยังคงนิ่งเฉย ไม่ขยับเคลื่อนไหวไดๆ แต่ขาของผมกลับก้าวถอยหลังไปสองก้าวแล้ว
แล้วขณะที่ผมไม่รู้จะทำอย่างไรกับพวกมัันทั้งสามคนดี อยู่ๆก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาจากทางด้านหลังพวกมัน
"ไอ้พวกกุ๊ยสามตัวนี่ ทำไมพวกมึงถึงไม่ไปแอบถุนยากันที่ท้ายซอยว๊ะ มาเกะกะระรานอะไรกันแถวนี้ล่ะว๊ะ...?"
ผมรู้สึกแปลกใจกับน้ำเสียงนั้น มันเป็นเสียงของผู้ชายที่มีสำเนียงออกเขมรๆ เขาพูดมาจากเงามืดสลัวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ไอ้อมนุษย์สามตัวนั่นรีบหันกลับไปทางด้านหลังทันที
"ใครมาเสือกอะไรตอนนี้ว๊ะ ?!" เจ้าหน้าโหดกระชากเสียงอย่างเสียอารมณ์ "แล้วปากแบบนี้ มึงได้โดนเสียบก่อนไอ้หล่อกับอีสวยนี่แน่...!" มันว่าแล้วก็เดาะมีดในมืออย่างข่มขวัญ
"แล้วพวกมึงแน่ใจกันเหรอว๊ะ...?" เสียงนั้นท้าทายออกมาจากเงามืด "ว่ามีดขี้ปะติ๋วนั่นจะเสียบกูได้น่ะ...? เหอๆๆๆ"
"ไอ้สัตว์ มึงล้อกูเหรอว๊ะ ? มึงรีบออกมาให้กูดูหน้าชัดๆหน่อยสิ "ไอ้หน้าโหดยั๊วะขึ้นมาเต็มที่ "พูดอย่างงี้มึงคงจะเจ๋งมากสิ มาๆ ออกมาให้กูเสียบซะดีๆเลยมึง !"
แล้วเจ้าของเสียงที่มีสำเนียงเขมรนั้นก็ค่อยๆเดินออกมาจนพ้นเงามืด
แต่แล้วเมื่อผมเห็นหน้าของเขา ก็อดจะตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาคนนี้ก็คือ ชายลึกลับใส่แว่นตาดำคนที่ผมกับไอริณสงสัยว่าเขากำลังสะกดรอยเรามาตั้งแต่อยู่ที่ร้านข้าวต้มนั่น !
"น้องริณ..." ผมหันไปที่ไอริณ "นี่มันผู้ชายคนที่สะกดรอยตามเรามาตั้งแต่ตอนนั้นไม่ใช่เหรอ ?"
ไอริณยิ้มอยู่ในสีหน้า "ใช่แล้วล่ะพี่กิต และเขาคนนี้ท่าทางจะไม่ใช่ศัตรูของเราหรอกพี่... เมื่อกี้นี้ริณก็สังเกตุเห็นเขาแอบมองเหตุการณ์มาจากตรงโน้นแล้วล่ะ"
"ลูกพี่...!" ไอ้หัวตั้งโพร่งขึ้นมาอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้ "ไอ้คนนี้นี่เอง ที่มันทำลับๆล่อๆอยู่ในซอยของเรามาสองสามวันแล้วน่ะ...?"
"มันจะเป็นใครก็ช่างแม่งมันเหอะว๊ะ !" ไอ้หน้าโหดสะบัดเสียงพูด "แล้วมึงสองคนน่ะ ยังจะมัวเฉยทำห่าอะไร รีบเข้าไปอัดมันให้จมตีน แล้วเดี๋ยวกูจะเข้าไปเสียบเนื้อของมันปิดท้ายให้พวกมึงดูเอง รีบๆเข้าไปจัดการมันเร็วๆเลยสิโว๊ย !!" มันออกคำสั่งเร็วจี๋
แล้วไอ้หัวตั้งกับไอ้หน้าหื่นก็ทะยานเข้าไปหาชายลึกลับคนนั้นทันที !
แต่เขาคนนั้นกลับแค่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างใจเย็น และก่อนที่ไอ้สองคนนั่นจะเข้าไปถึงตัว เขาก็เหวี่ยงอะไรบางอย่างออกมาจากมืออย่างรวดเร็ว จนผมเองก็ยังมองไม่ทัน ?!
แล้วผมก็เห็นไอ้หน้าหื่นกับไอ้หัวตั้งสะดุ้งสุดตัวก่อนที่ล้มคะมำคลุกขี้ฝุ่นไปตรงหน้าชายลึกลับคนนั้น
"โอ๊ยยยย...!! เจ็บๆๆ นี่มันอะไรกันนี่...?!" เจ้าหัวตั้งบิดตัวร้องครวญคราง ไม่ต่างอะไรกับไอ้หน้าหื่นที่ร้องเหมือนหมูถูกเชือดอยู่บนพื้นถนนนั่น !
ผมพยายามเพ่งมองว่าพวกมันสองคนโดนของดีอะไรกัน ? แต่ก็ยังมองไม่ออก เพราะพวกมันต่างก็ร้องแหกปากและบิดตัวพลิกไปพลิกมา ไม่ได้อยู่นิ่งกันเลย
ไอริณเหลือบมามองหน้าอันฉงนของผม แล้วก็ยิ้มๆก่อนจะพูดขึ้นว่า "บ่วงนาคา..."
"หา... อะไรนะ ?!" ผมมองหน้าไอริณอย่างงงวย
"เขาเรียกว่า... บ่วงนาคา" ไอริณบอก "พี่กิตดูดีๆจะมองเห็นวงแหวนสีเงินสองวงรัดตัวพวกมันอยู่คนล่ะวง"
แล้วในที่สุดผมก็ได้สังเกตุเห็นว่ามีวงแหวนสีเงินสองวงรัดตัวพวกมันทั้งสองอยู่จริงๆ และผมก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า มันจะมีของประหลาดแบบนี้อยู่ในโลกของเราด้วย
ส่วนไอ้หน้าโหด เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ตาของมันก็แทบจะถลนออกมา และมีดพกในมือของมันตอนนี้ก็แทบจะหล่นตกจากมือของมัน
แล้วมันก็ขยับขาก้าวถอยหลังไปทีล่ะก้าว อย่างหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ชายลึกลับใส่แว่นดำหันไปเห็นอาการของไอ้หน้าโหด ก็ยกมือกวักเรียกหามัน "อ้าวๆๆ... มึงน่ะทำท่าเหมือนจะรีบไปไหนแล้ว ? มาๆ เข้ามาเสียบกูซะก่อนสิว๊ะ อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหน รีบเข้ามาเสียบกูอย่างที่คุยไว้ซะก่อนสิโว๊ย !"
ไอ้หน้าโหดสะดุ้งกับคำพูดนั้น ลีลาท่าทางของมันตอนนี้ไม่ได้เหลือเค้าของนักเลงขี้ยาประจำซอยอีกเลย
"กู... กูไม่เสียบแล้ว กูเปลี่ยนใจ... กูจะไปล่ะ..." ว่าแล้วมันก็รีบกลับหลังหัน แล้ววิ่งเผ่นออกไปจากตรงนั้นทันที
แต่มันก็วิ่งออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องร้องอ๊ากขึ้นมาสุดเสียง แล้วล้มคะมำหน้าแทบทิ่มกับพื้นตรงนั้น มีดพกในมือของมันตอนนี้ก็กระเด็นไปอีกทางหนึ่งทันที !
สิ่งเดียวที่ไอ้หน้าโหดทำได้อยู่ในตอนนี้ก็คือ บิดตัวกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเจ็บปวดเหลือกำลัง !
ผมเองนั้นไม่สามารถจะมองได้ทันเลยว่า ชายลึกลับใส่แว่นดำนั้นได้เหวี่ยงสิ่งที่เรียกว่า บ่วงนาคา ไปตั้งแต่ตอนไหน มันช่างรวดเร็วเหลือเชื่อเลยจริงๆ !
แล้วชายลึกลับก็เดินเข้ามาหาเรา พลางทำหน้ายิ้มๆ
ผมรีบยกมือไหว้เขาทันที"ขอบคุณมากครับ... พี่ชาย ผมต้องขอขอบคุณมากที่พี่มาช่วยพวกเราไว้ เหตุการณ์ทั้งหมดนี่มันช่างเหลือเชื่อจริงๆเลย ถ้าเราสองคนไม่ได้พี่ชายมาช่วยไว้ ตอนนี้ก็คง..."
ชายลึกลับนั้นรีบยกมือขึ้นห้าม "อย่าขอบคุณอะไรผมมากเลยครับคุณ เพราะยังไงผมก็ต้องจัดการกับไอ้สามตัวนี่อยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่ง ถึงผมจะไม่ออกมาจัดการพวกมันในตอนนี้ น้องสาวคนนี้ก็คงจะจัดการพวกมันได้อยู่เหมือนกันล่ะมั้ง...?" พูดแล้วเขาก็หันไปมองหน้าไอริณและยิ้มละไม
แต่ผมเองนั้นกลับรู้สึกผิดความคาดหมาย รีบหันไปมองไอริณทันควัน แล้วก็เห็นเธอแค่มีสีหน้ายิ้มๆเหมือนเดิม
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ชาย..." ไอริณพูดขึ้น "ริณเองก็ไม่ได้มีของดีเหมือนกับพี่ชายหรอกนะคะ"
"แต่ก็คงมีของดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันล่ะนะ อย่ามาโกหกกันเลย เพราะเราทั้งคู่ก็เป็นศิษย์มีอาจารย์เหมือนกัน" ชายลึกลับสรุปให้ แต่ไอริณก็แค่หัวเราะออกมาเบาๆ
"แล้วพี่ชายจะทำอย่างไรกับทั้งสามคนนี้ล่ะคะ...?" ไอริณเอ่ยถามขึ้นมา "ตอนนี้พวกมันคงจะทรมานกันแย่แล้วล่ะมั้งคะ ?"
ชายลึกลับรีบหันไปมองพวกมันที่ยังคงกลิ้งทุรนทุรายไปกับพื้นถนน "อ๋อใช่... เกือบลืมไป ที่จริงไอ้สามคนนี่ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนักหรอก พวกมันก็แค่โดนวิญญาณร้ายเข้าสิง เดี๋ยวผมจะไล่พวกวิญญาณเหล่านี้ให้ออกไปจากตัวพวกมันก่อนนะ..."
แล้วเขาก็หันไปพนมมือท่องคาถาอะไรบางอย่าง ครู่เดียวไอ้สามคนนั่นก็หยุดร้องทุรนทุราย และต่างก็สลบไสลนิ่งเงียบกันไปทันที
จากนั้นผมก็ค่อยๆเห็นวงแหวนสีเงินสามวงนั้นค่อยๆสลายหายไปจากร่างกายพวกมันอย่างปาฏิหารย์ และพอเขาลดมือลงจากการพนมมือ ผมก็กลับเห็นวงแหวนสีเงินขนาดเล็กราวกับว่ามันได้ย่อส่วนมาจากอันใหญ่ มาอยู่ในมือของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ !
"ตอนนี้วิญญาณร้ายทั้งสามได้ออกไปจากร่างไอ้ขี้ยาสามคนนี่แล้ว" เขาหันมาบอกเราสองคน "อีกไม่นานพวกมันก็จะตื่นขึ้นมา และคงจะไม่รู้ตัวว่ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง... ที่จริง ไอ้สิ่งที่ชั่วร้ายจริงๆน่ะ ไม่ใช่พวกมันหรอกนะ แต่สิ่งที่ชั่วร้ายจริงๆน่ะ ก็คือวิญญาณที่เข้าสิงสู่พวกมัน มันเป็นวิญญาณที่มาจากคำสั่งคำบงการของคนร้ายที่แท้จริงต่างหาก...!"
วิญญาณที่มาจากคำสั่งคำบงการของคนร้ายที่แท้จริง...? ผมทวนคำนี้ในใจ นี่เขาหมายถึงอะไร ? หรือหมายถึงใครกันล่ะเนี่ย...? แล้วตัวของเขาเองล่ะ... ตัวของเขาเองที่แท้จริงเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ...?
ไอริณยังคงนิ่งเฉย ไม่ขยับเคลื่อนไหวไดๆ แต่ขาของผมกลับก้าวถอยหลังไปสองก้าวแล้ว
แล้วขณะที่ผมไม่รู้จะทำอย่างไรกับพวกมัันทั้งสามคนดี อยู่ๆก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาจากทางด้านหลังพวกมัน
"ไอ้พวกกุ๊ยสามตัวนี่ ทำไมพวกมึงถึงไม่ไปแอบถุนยากันที่ท้ายซอยว๊ะ มาเกะกะระรานอะไรกันแถวนี้ล่ะว๊ะ...?"
ผมรู้สึกแปลกใจกับน้ำเสียงนั้น มันเป็นเสียงของผู้ชายที่มีสำเนียงออกเขมรๆ เขาพูดมาจากเงามืดสลัวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ไอ้อมนุษย์สามตัวนั่นรีบหันกลับไปทางด้านหลังทันที
"ใครมาเสือกอะไรตอนนี้ว๊ะ ?!" เจ้าหน้าโหดกระชากเสียงอย่างเสียอารมณ์ "แล้วปากแบบนี้ มึงได้โดนเสียบก่อนไอ้หล่อกับอีสวยนี่แน่...!" มันว่าแล้วก็เดาะมีดในมืออย่างข่มขวัญ
"แล้วพวกมึงแน่ใจกันเหรอว๊ะ...?" เสียงนั้นท้าทายออกมาจากเงามืด "ว่ามีดขี้ปะติ๋วนั่นจะเสียบกูได้น่ะ...? เหอๆๆๆ"
"ไอ้สัตว์ มึงล้อกูเหรอว๊ะ ? มึงรีบออกมาให้กูดูหน้าชัดๆหน่อยสิ "ไอ้หน้าโหดยั๊วะขึ้นมาเต็มที่ "พูดอย่างงี้มึงคงจะเจ๋งมากสิ มาๆ ออกมาให้กูเสียบซะดีๆเลยมึง !"
แล้วเจ้าของเสียงที่มีสำเนียงเขมรนั้นก็ค่อยๆเดินออกมาจนพ้นเงามืด
แต่แล้วเมื่อผมเห็นหน้าของเขา ก็อดจะตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาคนนี้ก็คือ ชายลึกลับใส่แว่นตาดำคนที่ผมกับไอริณสงสัยว่าเขากำลังสะกดรอยเรามาตั้งแต่อยู่ที่ร้านข้าวต้มนั่น !
"น้องริณ..." ผมหันไปที่ไอริณ "นี่มันผู้ชายคนที่สะกดรอยตามเรามาตั้งแต่ตอนนั้นไม่ใช่เหรอ ?"
ไอริณยิ้มอยู่ในสีหน้า "ใช่แล้วล่ะพี่กิต และเขาคนนี้ท่าทางจะไม่ใช่ศัตรูของเราหรอกพี่... เมื่อกี้นี้ริณก็สังเกตุเห็นเขาแอบมองเหตุการณ์มาจากตรงโน้นแล้วล่ะ"
"ลูกพี่...!" ไอ้หัวตั้งโพร่งขึ้นมาอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้ "ไอ้คนนี้นี่เอง ที่มันทำลับๆล่อๆอยู่ในซอยของเรามาสองสามวันแล้วน่ะ...?"
"มันจะเป็นใครก็ช่างแม่งมันเหอะว๊ะ !" ไอ้หน้าโหดสะบัดเสียงพูด "แล้วมึงสองคนน่ะ ยังจะมัวเฉยทำห่าอะไร รีบเข้าไปอัดมันให้จมตีน แล้วเดี๋ยวกูจะเข้าไปเสียบเนื้อของมันปิดท้ายให้พวกมึงดูเอง รีบๆเข้าไปจัดการมันเร็วๆเลยสิโว๊ย !!" มันออกคำสั่งเร็วจี๋
แล้วไอ้หัวตั้งกับไอ้หน้าหื่นก็ทะยานเข้าไปหาชายลึกลับคนนั้นทันที !
แต่เขาคนนั้นกลับแค่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างใจเย็น และก่อนที่ไอ้สองคนนั่นจะเข้าไปถึงตัว เขาก็เหวี่ยงอะไรบางอย่างออกมาจากมืออย่างรวดเร็ว จนผมเองก็ยังมองไม่ทัน ?!
แล้วผมก็เห็นไอ้หน้าหื่นกับไอ้หัวตั้งสะดุ้งสุดตัวก่อนที่ล้มคะมำคลุกขี้ฝุ่นไปตรงหน้าชายลึกลับคนนั้น
"โอ๊ยยยย...!! เจ็บๆๆ นี่มันอะไรกันนี่...?!" เจ้าหัวตั้งบิดตัวร้องครวญคราง ไม่ต่างอะไรกับไอ้หน้าหื่นที่ร้องเหมือนหมูถูกเชือดอยู่บนพื้นถนนนั่น !
ผมพยายามเพ่งมองว่าพวกมันสองคนโดนของดีอะไรกัน ? แต่ก็ยังมองไม่ออก เพราะพวกมันต่างก็ร้องแหกปากและบิดตัวพลิกไปพลิกมา ไม่ได้อยู่นิ่งกันเลย
ไอริณเหลือบมามองหน้าอันฉงนของผม แล้วก็ยิ้มๆก่อนจะพูดขึ้นว่า "บ่วงนาคา..."
"หา... อะไรนะ ?!" ผมมองหน้าไอริณอย่างงงวย
"เขาเรียกว่า... บ่วงนาคา" ไอริณบอก "พี่กิตดูดีๆจะมองเห็นวงแหวนสีเงินสองวงรัดตัวพวกมันอยู่คนล่ะวง"
แล้วในที่สุดผมก็ได้สังเกตุเห็นว่ามีวงแหวนสีเงินสองวงรัดตัวพวกมันทั้งสองอยู่จริงๆ และผมก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า มันจะมีของประหลาดแบบนี้อยู่ในโลกของเราด้วย
ส่วนไอ้หน้าโหด เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ตาของมันก็แทบจะถลนออกมา และมีดพกในมือของมันตอนนี้ก็แทบจะหล่นตกจากมือของมัน
แล้วมันก็ขยับขาก้าวถอยหลังไปทีล่ะก้าว อย่างหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ชายลึกลับใส่แว่นดำหันไปเห็นอาการของไอ้หน้าโหด ก็ยกมือกวักเรียกหามัน "อ้าวๆๆ... มึงน่ะทำท่าเหมือนจะรีบไปไหนแล้ว ? มาๆ เข้ามาเสียบกูซะก่อนสิว๊ะ อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหน รีบเข้ามาเสียบกูอย่างที่คุยไว้ซะก่อนสิโว๊ย !"
ไอ้หน้าโหดสะดุ้งกับคำพูดนั้น ลีลาท่าทางของมันตอนนี้ไม่ได้เหลือเค้าของนักเลงขี้ยาประจำซอยอีกเลย
"กู... กูไม่เสียบแล้ว กูเปลี่ยนใจ... กูจะไปล่ะ..." ว่าแล้วมันก็รีบกลับหลังหัน แล้ววิ่งเผ่นออกไปจากตรงนั้นทันที
แต่มันก็วิ่งออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องร้องอ๊ากขึ้นมาสุดเสียง แล้วล้มคะมำหน้าแทบทิ่มกับพื้นตรงนั้น มีดพกในมือของมันตอนนี้ก็กระเด็นไปอีกทางหนึ่งทันที !
สิ่งเดียวที่ไอ้หน้าโหดทำได้อยู่ในตอนนี้ก็คือ บิดตัวกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเจ็บปวดเหลือกำลัง !
ผมเองนั้นไม่สามารถจะมองได้ทันเลยว่า ชายลึกลับใส่แว่นดำนั้นได้เหวี่ยงสิ่งที่เรียกว่า บ่วงนาคา ไปตั้งแต่ตอนไหน มันช่างรวดเร็วเหลือเชื่อเลยจริงๆ !
แล้วชายลึกลับก็เดินเข้ามาหาเรา พลางทำหน้ายิ้มๆ
ผมรีบยกมือไหว้เขาทันที"ขอบคุณมากครับ... พี่ชาย ผมต้องขอขอบคุณมากที่พี่มาช่วยพวกเราไว้ เหตุการณ์ทั้งหมดนี่มันช่างเหลือเชื่อจริงๆเลย ถ้าเราสองคนไม่ได้พี่ชายมาช่วยไว้ ตอนนี้ก็คง..."
ชายลึกลับนั้นรีบยกมือขึ้นห้าม "อย่าขอบคุณอะไรผมมากเลยครับคุณ เพราะยังไงผมก็ต้องจัดการกับไอ้สามตัวนี่อยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่ง ถึงผมจะไม่ออกมาจัดการพวกมันในตอนนี้ น้องสาวคนนี้ก็คงจะจัดการพวกมันได้อยู่เหมือนกันล่ะมั้ง...?" พูดแล้วเขาก็หันไปมองหน้าไอริณและยิ้มละไม
แต่ผมเองนั้นกลับรู้สึกผิดความคาดหมาย รีบหันไปมองไอริณทันควัน แล้วก็เห็นเธอแค่มีสีหน้ายิ้มๆเหมือนเดิม
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ชาย..." ไอริณพูดขึ้น "ริณเองก็ไม่ได้มีของดีเหมือนกับพี่ชายหรอกนะคะ"
"แต่ก็คงมีของดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันล่ะนะ อย่ามาโกหกกันเลย เพราะเราทั้งคู่ก็เป็นศิษย์มีอาจารย์เหมือนกัน" ชายลึกลับสรุปให้ แต่ไอริณก็แค่หัวเราะออกมาเบาๆ
"แล้วพี่ชายจะทำอย่างไรกับทั้งสามคนนี้ล่ะคะ...?" ไอริณเอ่ยถามขึ้นมา "ตอนนี้พวกมันคงจะทรมานกันแย่แล้วล่ะมั้งคะ ?"
ชายลึกลับรีบหันไปมองพวกมันที่ยังคงกลิ้งทุรนทุรายไปกับพื้นถนน "อ๋อใช่... เกือบลืมไป ที่จริงไอ้สามคนนี่ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนักหรอก พวกมันก็แค่โดนวิญญาณร้ายเข้าสิง เดี๋ยวผมจะไล่พวกวิญญาณเหล่านี้ให้ออกไปจากตัวพวกมันก่อนนะ..."
แล้วเขาก็หันไปพนมมือท่องคาถาอะไรบางอย่าง ครู่เดียวไอ้สามคนนั่นก็หยุดร้องทุรนทุราย และต่างก็สลบไสลนิ่งเงียบกันไปทันที
จากนั้นผมก็ค่อยๆเห็นวงแหวนสีเงินสามวงนั้นค่อยๆสลายหายไปจากร่างกายพวกมันอย่างปาฏิหารย์ และพอเขาลดมือลงจากการพนมมือ ผมก็กลับเห็นวงแหวนสีเงินขนาดเล็กราวกับว่ามันได้ย่อส่วนมาจากอันใหญ่ มาอยู่ในมือของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ !
"ตอนนี้วิญญาณร้ายทั้งสามได้ออกไปจากร่างไอ้ขี้ยาสามคนนี่แล้ว" เขาหันมาบอกเราสองคน "อีกไม่นานพวกมันก็จะตื่นขึ้นมา และคงจะไม่รู้ตัวว่ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง... ที่จริง ไอ้สิ่งที่ชั่วร้ายจริงๆน่ะ ไม่ใช่พวกมันหรอกนะ แต่สิ่งที่ชั่วร้ายจริงๆน่ะ ก็คือวิญญาณที่เข้าสิงสู่พวกมัน มันเป็นวิญญาณที่มาจากคำสั่งคำบงการของคนร้ายที่แท้จริงต่างหาก...!"
วิญญาณที่มาจากคำสั่งคำบงการของคนร้ายที่แท้จริง...? ผมทวนคำนี้ในใจ นี่เขาหมายถึงอะไร ? หรือหมายถึงใครกันล่ะเนี่ย...? แล้วตัวของเขาเองล่ะ... ตัวของเขาเองที่แท้จริงเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ...?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ