สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  63.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) ชายที่ชื่อสิงห์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

​หลังจากที่ไอริณทำเนียนตีซี้คุยกับเด็กบริกรในร้านข้าวต้มจนเด็กสาวคนนั้นเริ่มจะมีทีท่าสนิทสนมไว้วางใจขึ้นแล้ว ไอริณก็พาคำพูดเข้าประเด็นในเรื่องของเจ๊ทับทิมแบบเนียนๆทันที

"เอ่อ... น้องจ๊ะ พี่ขอถามไรหน่อยได้ไม๊จ๊ะ เอ๊ะ... พี่ลืมชื่อน้องซะล่ะ เมื่อกี้น้องบอกพี่ว่าชื่อไรนะ ?"

"หนูชื่อนิดค่ะพี่..." เด็กสาวตอบยิ้มๆ

"โอเคน้องนิด... แหม พี่ริณคนนี้เริ่มจะความจำไม่ค่อยดีซะแล้วทั้งๆที่ก็ยังสาวอยู่ขนาดนี้" วาจาที่ติดตลกๆของไอริณดูเหมือนจะทำให้เด็กสาวที่ขื่อนิดนั้นชอบใจอยู่ไม่น้อย

"คืองี้... พี่อยากรู้จังว่าร้านขายของชำที่อยู่ข้างๆนี่เขาปิดร้านไปไหนเหรอ คือพี่กะจะแวะมาซื้อของที่ร้านนี้สักหน่อย เพราะของในร้านนี้หลายๆอย่างค่อนข้างจะถูกและใช้ดีกว่าหลายๆร้านที่พี่เคยซื้อมาซะอีกนะน้องนิด

"อ๋อ... เรื่องนี้หนูก็ไม่รู้นะคะคุณพี่ แต่หนูน่ะเห็นเจ๊เขาปิดร้านมาได้สักสองวันได้แล้วมั้งคะ"

"เหรอจ๊ะ แต่พี่เคยได้ยินมาว่าร้านนี้เขาไม่ค่อยจะปิดร้านไม่ใช่เหรอถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หรือว่าจะมีใครในร้านล้มป่วยหรือเป็นอะไรไปหรือไงจ๊ะน้องนิด ?"

"ล้มป่วย... ?" เด็กสาวที่ชื่อนิดขมวดคิ้ว "จะว่าไปแล้ว คือ... เมื่อไม่กี่วันมานี้ ก่อนที่เจ๊ทับทิมจะปิดร้านไปในวันรุ่งขึ้น หนูแอบเห็นว่าเจ๊แกมีสีหน้าซูบซีดอิดโรยไปไม่น้อยเลยล่ะคุณพี่ หนูเองก็ยังคิดว่าแปลกจังเลย เพราะก่อนหน้านั้นวันหนึ่ง หนูก็ยังเห็นเจ๊ทับทิมแกหน้าตาสดใส และยังยืนคุยกับลูกค้าหน้าร้านอย่างเฮๆฮาๆอยู่เกือบทั้งวันเลย"

ขณะนั้นผมเองก็กำลังนั่งทำเป็นกินอะไรเล่นๆไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยให้ไอริณแสดงบทสัมภาษณ์เด็กสาวคนนั้นแบบเนียนๆไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็คอยเงี่ยหูฟังเพื่อเก็บเรื่องราวที่สำคัญให้ได้มากที่สุด

"น้องนิดจ๊ะ..." ไอริณจับมือเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างมีไมตรี "พี่ริณเองก็ว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้พี่ริณผ่านมาทางนี้ก็เห็นว่าเจ๊ทับทิมแกมีสีหน้าที่สดใสเฮๆฮาๆอย่างที่น้องนิดว่าเหมือนกัน แปลกจังนะ แล้วทำไมจู่ๆแกถึงป่วยเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ นี่ถึงกับต้องปิดร้านพักผ่อน แสดงว่าอาการคงจะไม่ค่อยดีเท่าไรหรือเปล่า เออ... แล้วน้องนิดน่ะ ปกติได้พูดคุยกับเจ๊แกอยู่บ้างไม๊ล่ะจ๊ะ ?"

"อ๋อ... จริงๆแล้วหนูน่ะแว๊ะไปคุยกับเจ๊แกบ่อยเลยล่ะค่ะคุณพี่ เรียกว่าทุกวันก็ว่าได้นะคะ เพราะเจ๊ทับทิมนี่เป็นคนที่ใจดีมากๆแกชอบเอาของกินหรือขนมโน่นนี่นั่นมาเลี้ยงหนูอยู่บ่อยๆเลยล่ะค่ะ"

แล้วไอริณก็แอบยักคิ้วข้างเดียวให้ผม คงประมาณอยากจะพูดว่า 'เป็นไง... ริณเข้าหาเด็กคนนี้แป๊บเดียว ก็ได้เรื่องคืบหน้าทันทีเลยเห็นไม๊...'

แล้วผมก็ทำหน้าเมิน พลางก้มหน้าก้มตากินอาหารบนโต๊ะแต่หูผึ่งต่อไป

"แล้ววันที่น้องนิดเห็นว่าเจ๊แกดูเหมือนไม่ค่อยสบาย วันนั้นน่ะน้องนิดได้แว๊ะไปคุยอะไรกับแกหรือได้เข้าไปในร้านแกบ้างหรือเปล่าจ๊ะ ?" ไอริณยังคงตล่อมถามไปเรื่อยๆ

เด็กสาวที่ชื่อนิดขมวดคิ้วนิ่วหน้าขึ้นมาหน่อยหนึ่ง "อืม... นึกออกแล้ว วันนั้นหนูเข้าไปในร้านเจ๊กะจะไปซื้อลูกอมที่อยู่ในโหลหน้าร้านสักหน่อยนึง แต่ดูเหมือนเจ๊กับเฮียกำลังเถียงอะไรกันอยู่ในร้านด้านในโดยที่เขาก็ไม่ได้สังเกตุว่าหนูเข้ามาจะซื้อลูกอม พอหนูแอบมองเข้าไป ก็เห็นว่าเจ๊แกกำลังครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ในร้านด้านใน ตอนนั้นเองที่หนูสังเกตุเห็นว่าหน้าตาของเจ๊ทับทิมดูเหมือนจะไม่ค่อยสบายเท่าไร..."

ไอริณยังคงถามเด็กสาวต่อไป "แล้วตกลงน้องนิดน่ะได้คุยอะไรกับเจ๊แกบ้างไม๊ในวันนั้นน่ะ คือ... พี่อยากจะรู้ว่าแกมีอาการเป็นยังไงที่ถึงกับต้องทำให้ปิดร้านในวันต่อมาไปเลย...?"

เด็กสาวครุ่นคิดนิดหนึ่ง "ถ้าหนูจำไม่ผิด หนูว่าหนูเจอหน้าเจ๊แกตอนบ่ายๆอีกครั้งหนึ่งหรือสองครั้ง แต่ดูท่าทางแกออกจะผวาๆแปลกๆอยู่นะคะคุณพี่ ใช่ล่ะ... ตอนบ่ายวันนั้นหนูแว๊ะเข้าไปในร้านด้านในอีกทีเพราะอยากจะคุยกับเจ๊แกสักนิดและอยากจะรู้ว่าแกไม่สบายมากน้อยแค่ไหน พอเข้าไปแล้วหนูก็เห็นเจ๊แกนั่งเหม่อลอยและสายตาก็มองออกไปทางนอกหน้าต่างขวามืออย่างหวาดๆเหมือนกับจะกลัวอะไรสักอย่าง หนูก็เลยเรียกเจ๊แกเบาๆว่า เจ๊ทับทิมจ๋า... แต่พอเรียกแค่นั้นแหล่ะ เจ๊แกก็ตกอกตกใจรีบลุกขึ้นเอามือผลักอากาศออกมาเป็นพัลวันแล้วร้องว่า ไอ้สิงห์... อย่าๆ อย่าเข้ามา ชั้นจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว...! ชั้นจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว...!"

แล้วผมกับไอริณก็ลุกผลุงขึ้นมาพร้อมๆกันทันที และก็แทบจะอุทานพร้อมกันว่า "ไอ้สิงห์....?!!"

นี่สรุปแล้ว... เจ๊ทับทิมแกได้เจอกับวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์หรือนี่...? ชื่อที่ออกมาจากปากของเด็กสาวคนนี้นั้นทำให้ใจของผมอดเต้นระทึกขึ้นมาไม่ได้...!

แล้วเด๋กสาวที่ชื่อนิดนั้นก็ชงักปากไว้แค่นั้น พลางหันมามองผมกับไอริณสลับไปสลับมา ในใจเธอคงจะกำลังคิดว่า แค่พูดชื่อๆนี้ ทำไมเราสองคนต้องตกใจเสียงดังกันขนาดนี้ด้วยล่ะ...?

"คือหนู..." เด็กสาวท่าทางกระดากๆราวกับกำลังคิดว่าตัวเองพูดมากไปหรือเปล่า "คือหนูก็ได้ยินอยู่แค่ประมาณนี้ล่ะค่ะ และก็สงสัยว่าเจ๊แกเป็นอะไรไปแค่นั้นเอง..."

ไอริณรีบแก้เก้ออาการตกใจของเรา "เอ่อ... คืออย่างนี้นะน้องนิด พวกพี่น่ะกำลังคิดว่าเจ๊แกคงจะป่วยจนมีอาการเพ้อออกมา พี่ริณว่าอาการแบบนี้คงจะเป็นเพราะไข้ขึ้นมากแน่ๆเลยล่ะจ้ะ เอ่อ... น้องนิดจ๊ะ แล้วหลังจากนั้นเจ๊แกมีอาการเป็นยังไงต่อไปอีกหรือเปล่าล่ะ ?"

แล้วผมก็สังเกตุว่าเด็กสาวหันไปทางไอริณด้วยแววตาเหมือนจะสงสัยกับคำถามของไอริณที่เริ่มจะมีหลายคำถามจนน่าแปลก แต่เธอก็ตอบว่า

 

หลังจากนั้น เฮียแกก็เข้ามาจากหน้าร้านและหันมาทำหน้าดุใส่หนูหน่อยนึงก่อนที่จะเดินไปที่เจ๊ทับทิมที่กำลังนั่งคุกเข่าอย่างเหนื่อยหอบอยู่ที่หน้าเก้าอี้ไม้ตัวนั้น แล้ว... แล้วก่อนเฮียจะพยุงพาเจ๊เข้าห้องด้านในไปก็ยังหันมาพูดกับหนูว่า อย่าเข้ามารบกวนเจ๊เขาอีก  เจ๊เขากำลังไม่สบายมากนะ จำไว้ด้วย.... จากนั้นหนูก็รีบออกมาเลยล่ะค่ะ... หนูว่าหนูชักจะพูดมากไปแล้วล่ะมั้งคะเนี่ย...?"

" โธ่เอ๊ย... ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแค่นี้เอง..." ว่าแล้วไอริณก็ควักแบ๊งค์สีแดงออกมาให้เด็กสาวหนึ่งใบ "เอ้านี่จ้ะน้องนิด พี่ให้ติ๊บเป็นค่าน้ำลาย เอ๊ย... เป็นค่าน้ำใจที่มายืนคุยเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับพี่ริณคนนี้นะจ๊ะ"

"อุ๊ย... ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่ ?" ท่าทางของเด็กสาวอยากจะปฏิเสธไม่รับเงินนั้น แต่มือก็ยังยื่นมารับไว้ทันทีด้วยท่าทางขวยเขิน

"เอาไปเถ๊อะ เงินแค่นี้จิ๊บๆสำหรับพี่ริณคนนี้ ถ้าพี่คุยกับใครถูกคอ ติ๊บเยอะกว่านี้พี่ก็เคยกล้าให้มาแล้วล่ะจ้ะนิดน้องรัก..."

ผมฟังคำพูดของไอริณตรงนี้แล้วก็พาลให้นึกถึงพวกเสี่ยหน้าใหญ่ทั้งหลายที่คุยกับใครถูกคอก็ชอบควักมันนี่แจกเขาไปด้วยเพื่อสร้างบารมีให้กับตัวเองไปในตัว แต่สำหรับไอริณแล้ว ในภายหลังเธอก็มาทวงแบ๊งค์สีแดงคืนจากผมจนได้ โดยบอกว่ามันเป็นเรื่องของผมที่เธอแค่ช่วยออกหน้าให้แค่นั้นเอง แหม... จริงๆเลยเธอคนนี้...

ในตอนที่เราเช็คบิลกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนเดินออกมาจากร้านข้าวต้ม ไอริณก็สะกิดให้ผมมองผู้ชายใส่แว่นตาดำคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะที่เรานั่ง

"พี่กิตคะ..." ไอริณกระซิบขณะที่เรากำลังเดินออกไป "คนๆนี้จับตามองเราตั้งแต่เราเดินเข้าไปในร้านข้าวต้มตั้งแต่แรกแล้วนะรู้ไม๊...?"

"ห๋า..." ผมชำเลืองไปดูเขาวูบหนึ่งด้วยหางตา "ทำไมพี่ไม่ทันสังเกตุ ?"

"ก็นี่แหล่ะ ที่ไอริณคนนี้อยากจะแนะนำให้พี่กิตคนดีของน้องไปเรียนรู้การเป็นนักสืบเสียใหม่เลยก็จะดีนะคะพี่กิตขา..."

"โอ๊ย... จะไปเรียนทำไม เรื่องที่เราสืบกันนี่มันคงจะมีแต่เรื่องผีๆสางๆเท่านั้นล่ะ"

"อ๋อคร้า... งั้นก็ตามนั้นล่ะคร้า" แล้วไอริณก็ลดเสียงเบาลง "นั่น... เขากำลังเช็คบิลแล้ว มีแววจะสะกดตามรอยเราด้วย เราทิ้งรถไว้ตรงนี้แล้วไปเดินเล่นในซอยกันดีกว่านะคะพี่กิต ?"

"อืม... แล้วแต่น้องริณล่ะจ้ะ ก็พี่ยกให้น้องริณเป็นหัวหน้านักสืบไปแล้วนี่จ๊ะ..."

ไอริณขยิบตาให้ผม แล้วเราก็เดินคู่กันไป แต่หางตาของผมก็ยังเห็นชายลึกลับคนนั้นกำลังเดินตามเรามาแบบห่างๆ...

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา