สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  62.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) เกิดอะไรขึ้นกับเจ๊ร้านขายของชำกันล่ะนี่ ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

​ฮอนด้าซีวิคของไอริณพาเราทั้งสองมาถึงจุดหมายในเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้ว และเนื่องจากวันนี้รถค่อนข้างจะติดก็เลยทำให้เรามาถึงช้ากว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก

 

ร้านขายของชำนี้ตั้งอยู่ในมุมซ้ายสุดของด้านล่างตึกแถวที่ยังมีสภาพดีไม่เก่าทรุดโทรมเหมือนตึกแถวอื่นๆและอยู่ไม่ไกลจากบ้านแฝดที่ผมพักเท่าไรนัก เพราะที่จริงแล้วก็อยู่ในซอยเดียวกันนั่นเอง เรียกว่าพอเดินจากร้านเจ๊ไปสักไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงบ้านแฝดแล้ว และถ้าเดินจากบ้านแฝดไปอีกไม่ถึงสามนาทีก็จะถึงต้นโพธิ์ที่อยู่ริมทางต้นนั้น

 

คิดดูอีกทีตอนแรกผมน่าจะนัดไอริณให้มาหาผมที่นี่เลย แต่ก็เป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมาที่นี่ผมจึงต้องนัดกับเธอที่ร้านกาแฟอเมซอนที่อยู่หน้าปากซอยของที่ทำงานเราก่อน และเดินทางย้อนกลับมาที่ซอยนี้อีกที

 

หลังจากที่ไอริณจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามของร้านขายของชำแล้ว ไอริณก็ได้หันมาถามผมก่อนลงจากรถว่า

 

"พี่กิตมาคุยกับเจ๊ตั้งสองสามครั้งแล้วไม่เคยถามชื่อเจ๊แกบ้างเหรอคะ เห็นเอาแต่เรียกเจ๊ๆตลอด ?"

 

"นั่นสิ... พี่ก็ลืมถามไป เดี๋ยวันนี้ว่าจะถามดูล่ะ เราจะได้คุยกับเจ๊อย่างเป็นกันเองขึ้นอีกหน่อยนะ"

 

"ริณกำลังจะบอกพี่กิตอย่างนั้นพอดีเลย เอ๊ะ... พี่กิตดูซิ... " ไอริณชี้ไปยังร้านขายของชำขณะที่เพิ่งก้าวลงไปจากรถ "ริณว่าเหมือนเขาจะปิดร้านไม่ใช่เหรอ...?"

 

ผมก้าวออกจากรถแล้วมองตามไปที่ร้านขายของชำนั้นก็เห็นว่าร้านปิดจริงๆ จะมีก็แต่ร้านข้างๆทางขวามือที่เป็นร้านข้าวต้มและอาหารตามสั่งที่เน้นขายตั้งแต่ตอนบ่ายๆไปจนถึงตอนดึกๆเปิดอยู่ร้านเดียว

 

"แปลกแฮะ... พี่ผ่านมาทางร้านเจ๊แกกี่ครั้งๆก็ไม่เคยเห็นว่าแกจะปิดร้านสักครั้งนะ ทำไมช่างบังเอิญมาปิดร้านวันนี้พอดีล่ะเนี่ย ?" ผมพูดพลางเดินนำไอริณไปที่ร้านนั้น

 

พอเข้ามาอยู่หน้าร้านแล้วสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นป้ายกระดาศปิดหราอยู่ในระดับสายตาว่า 

 

ปิดร้านชั่วคราว ยังไม่มีกำหนดเปิด 

 

ใครมีธุระด่วนหรือธุระสำคัญ 

 

ติดต่อ 0987333xxx เจ๊ทับทิม

 

ผมหันไปมองไอริณแบบยิ้มๆ "เห็นไม๊น้องริณ ยังไม่ทันได้ถามชื่อ ก็ได้รู้ชื่อเจ๊แกแล้วล่ะตอนนี้..."

 

"แล้วพี่กิตคิดว่าจะโทรไปหาแกตอนนี้เลยรึเปล่าคะ ?" ไอริณถาม

 

ผมนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วก็ตัดสินใจ "พี่ว่าลองโทรดูดีกว่า ไม่อย่างนั้นวันนี้เราก็คงจะไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก บางทีพี่อาจจะขอนัดกับเจ๊แกเพื่อไว้คุยในวันหลังก็ได้ ก็หวังว่าเจ๊แกคงไม่ได้ป่วยเป็นอะไรไปหรอกนะ...?"

 

ว่าแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วจิ้มเบอร์โทรตามที่ลงไว้ในป้ายกระดาษนั้น ครู่เดียวก็มีเสียงของผู้ชายมารับสาย

 

"ใครครับ... แล้วมีธุระอะไร ?" เสียงเข้มๆห้วนๆดังมาตามสาย น้ำเสียงนั้นก็ดูว่าอารมณ์ไม่สู้ดีนัก ผมเดาว่านั่นคงเป็นเสียงของสามีเจ๊ทับทิมนั่นเอง

 

"เอ่อ... ผมชื่อกิตติครับผม ไม่ทราบว่าเจ๊ทับทิมอยู่หรือเปล่าครับ ? เอ่อ... คือว่าผมมีธุระที่จะคุยกับเจ๊แกนิดหน่อยน่ะครับ ช่วยบอกเจ๊แกทีว่าผม... กิตติคนที่พักอยู่แถวๆบ้านแฝดหลังที่โทรมๆโทรมาหาน่ะครับ..."

 

"กิตติ... กิตติไหน...?" ผมรู้จักคุณหรือเปล่า? ผมเป็นสามีของเธอเองนะ..." น้ำเสียงนั้นส่อแววสงสัยเคลือบแคลง

 

"ผมเป็นลูกค้าที่แวะมาซื้อของที่ร้านอยู่เรื่อยๆไงครับเฮีย ขออนุญาติผมคุยกับเจ๊สักแป๊บนึงได้ไม๊ครับ คือพอดีผมมีธุระอยากจะถามเจ๊แกนิดหน่อยน่ะครับ...?"

 

มีเสียงลอดมาตามสายซึ่งก็คงจะเป็นเสียงของเจ๊ทับทิมถามว่าใครโทรมา แล้วสามีของเจ๊แกก็บอกไปตามที่ผมพูด จากนั้นเสียงของเจ๊ทับทิมก็ดังแว่วๆมาตามสายว่า บอกเขาไปด้วยว่าไม่ต้องโทรมาอีกและก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนั้นอีกแล้ว...  จากนั้นผมก็ได้ยินเจ๊แกไอแค่กๆเหมือนกับว่ากำลังไม่สบาย

 

"คุณพอจะได้ยินแล้วใช่ไหม..." สามีเจ๊ทับทิมพูดกรอกโทรศัพท์กลับมา "เมียฉันบอกว่าไม่ต้องโทรมาอีกและก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนั้นอีกแล้ว... แล้วตอนนี้ฉันก็นึกออกแล้วว่าคุณเป็นใคร และขอบอกว่าฉันไม่ได้หึงเมียของฉันหรอกนะ แต่เรื่องนั้นน่ะ มัน... มันเป็นเรื่องบ้าชัดๆฉันไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวรวมทั้งเมียของฉันด้วยที่ฉันได้เคยเตือนเธอมาแล้วว่าอย่าไปพูดเรื่องนี้กับใคร แต่เธอก็ไม่เชื่อฉันเพราะคิดว่าเรื่องมันนานมาแล้ว ต่อไปนี้ถ้าคุณอยากจะรู้อะไรก็ให้ไปถามคนอื่น แต่อย่ามายุ่งกับพวกฉันอีก ขอให้เข้าใจกันนะ และอีกอย่างหนึ่ง.. ขอเตือนไว้ด้วยความหวังดีล่ะกันว่า จงระวังตัวเองไว้ให้ดีด้วยนะ เท่านี้ล่ะ !"

 

ผมอ้าปากค้างโดยที่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไปขณะที่สามีของเจ๊ทับทิมได้กดวางสายไปแล้ว

 

แล้วผมก็หันไปมองหน้าไอริณด้วยความงงงวย "เรื่องที่ไม่คาดฝัน... มันมาอีกเรื่องแล้วล่ะน้องริณ...?"

 

สีหน้าของไอริณที่มองมาก็มีแววฉงนฉงายแต่ก็ยังปรากฏรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากอันมีเสนห์ของเธอนั้น

 

""เบาะแสถูกตัดขาดชิมิ... ริณเดาถูกหรือเปล่า ?" เธอถามยิ้มๆ

 

"เผงเลย... แต่ก็ไม่ถือว่าเบาะแสถูกตัดขาดซะทีเดียว แต่มันเหมือนกับว่าคนที่มีเบาะแสในอดีตอย่างเจ๊ทับทิมนั้นถูกเบรคเอาไว้ด้วยใครหรืออะไรบางอย่าง..."

 

แล้วผมก็เล่าเรื่องที่ได้คุยกับสามีของเจ๊ทับทิมให้ไอริณฟังทั้งหมดว่าเขาและเจ๊ทับทิมได้พูดอะไรบ้าง

 

"ริณคิดว่า... มันจะต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับเจ๊ทับทิมแน่ๆ ส่วนสามีของเจ๊แกก็ดูว่าน่าจะรู้อะไรๆพอๆกับแก แต่คงไม่อยากให้แกพูดถึงแม้จะเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว นี่พวกเขาได้เจอกับอะไรกันแน่นะ...?" ประโยคหลังดูเหมือนไอริณจะถามตัวเองมากกว่า แล้วเธอก็ลูบคางตัวเองอย่างขบคิด

 

"แล้ว... แล้วเราจะทำยังไงสองคนนั่นถึงจะยอมเล่าเรื่องพวกนี้ให้เราฟังล่ะน้องริณ ถ้าพวกเขาไม่ยอมเล่าอะไรให้เราฟังอีกเลย เราก็จะไม่รู้เรื่องในอดีตของผู้ชายขนดกและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกันด้วยน่ะสิ...?" แล้วผมก็อดลูบคางตามไอริณไม่ได้

 

"ริณคิดว่า ต้องสืบให้รู้ก่อนว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ๊ทับทิมเมื่อเร็วๆนี้กันแน่ ก็ก่อนหน้านี้เห็นพี่กิตบอกว่าเจ๊แกก็มีท่าทีว่าจะเล่าเรื่องผู้ชายขนดกให้พี่กิตฟังอยู่ไม่ใช่เหรอ...?"

 

"ใช่แล้ว... วันนั้นเจ๊แกไม่มีอาการอย่างวันนี้สักนิด พี่เกือบจะรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่วันนั้นอยู่แล้วล่ะน้องริณ..." ผมพูดแล้วก็โคลงหัวไปมาอย่างเสียดาย

 

ไอริณมองโน่นมองนี่อยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า

 

"ไปนั่งกินข้าวที่ร้านข้าวต้มข้างๆร้านนี้กันเถอะพี่กิต..." ไอริณชี้มือไปยังโต๊ะว่างๆในร้านข้าวต้มที่ยังไม่ค่อยมีคนมานั่งเท่าไรเพราะยังไม่เย็นมาก "กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะจ๊ะพี่กิต..."

 

"น้องริณหิวอีกแล้วเหรอ...?" ผมถามอย่างแปลกใจ เพราะก่อนจะมาถึงที่นี่ผมก็เห็นเธอกินอะไรไปหลายอย่างแล้วที่ร้านกาแฟอเมซอน

 

"แหม... พี่กิตนี่คงจะเป็นนักสืบอะไรไม่ได้ซะล่ะมั้ง คือริณจะชวนพี่กิตไปนั่งกินอะไรเล่นๆเพื่อชวนเด็กลูกจ้างที่เป็นผู้หญิงในร้านข้าวต้มนั่นคุยเรื่องของเจ๊ทับทิมแกต่างหากล่ะ ร้านอยู่ติดๆกันแค่นี้ เด็กนั่นคงจะพอรู้พอเห็นอะไรบ้างหรอกน่า" เธอว่าแล้วก็ขยิบตาให้ผมก่อนเดินนำผมไปที่ร้านข้าวต้มนั้น

 

ผมเดินตามไอริณเข้าไปพลางเกาหัวแกรกๆ ในใจก็คิดว่า ตั้งแต่ผมมาเจอไอริณอีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าผมยิ่งโง่กว่าเมื่อก่อนซะอีก...

 

หลังจากที่เราสั่งอาหารมากินกันเล็กๆน้อยๆแล้วไอริณก็เริ่มชวนเด็กบริกรในร้านคุย แต่... ถ้าตอนนั้นผมจะสังเกตุอะไรบ้างสักนิด ผมก็อาจจะเห็นว่ามีคนท่าทางแปลกๆใส่แว่นตาดำคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะที่ไม่ไกลจากเรานัก กำลังนั่งจับตามองมาทางเราอย่างมีเลสนัย...?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา